#WHAUP


[ภาพข่าว] WHAUP ลงนามกับ MAX Thailand ซื้อขายไฟฟ้า Solar Rooftop 998kW

[ภาพข่าว] WHAUP ลงนามกับ MAX Thailand ซื้อขายไฟฟ้า Solar Rooftop 998kW

          หุ้นวิชั่น - เมื่อเร็วๆ นี้ นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (กลางซ้าย) เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ระหว่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ โซล่าร์ จำกัด โดย นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ริมซ้าย) บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายคูนิมิตซึ ทาคาฮาชิ  กรรมการผู้จัดการ (กลางขวา) และ นายอิสระ เงียวชัยภูมิ กรรมการ (ริมขวา) บริษัท เอ็มเอเอ็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนามสัญญาฯ เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ขนาดการผลิตไฟฟ้า 998 กิโลวัตต์  ณ WHA Tower

Data Center หนุน WHA - WHAUP รับประโยชน์ BBIK คลาวด์โตก้าวกระโดด

Data Center หนุน WHA - WHAUP รับประโยชน์ BBIK คลาวด์โตก้าวกระโดด

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ได้จัดงาน KSS Cloud Connect : Data Center Day เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการบรรยายจากวิทยากรที่มีชื่อเสียงสามท่าน ได้แก่ คุณวสุพล ธารกกาญจน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย), คุณณัฐพรรษ ตันบุญเอก CFO ของ WHA และคุณพชร อารยะการกุล CEO ของ BBIK จากข้อมูลที่ได้รับ ได้ข้อสรุปสำคัญดังนี้ เริ่มต้นด้วย Data Center แห่งแรกของไมโครซอฟท์ในประเทศไทยจะทำให้มีความต้องการฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนโมเดล AI ที่ถูกลงและการสนับสนุนจากภาครัฐ           บริษัทจะใช้โมเดลการลงทุนแบบ partnership และเช่า (leased model) พร้อมไปกับการพัฒนาทักษะ IT โดยตั้งเป้าหมายพลังงานสีเขียว 100% ภายในปี 2568 โครงการเหล่านี้เน้นความจำเป็นที่ภาคพลังงานของไทยต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า WHA และ WHAUP จะได้ประโยชน์จากการขายที่ดินและสาธารณูปโภค ขณะที่ BBIK ยังคงเติบโตผ่านความก้าวหน้าของระบบคลาวด์และ AI

[PR News] WHAUP ปิดดีล บีเอ็มดับเบิลยู ติดตั้ง “Solar Rooftop” 1.5 MW

[PR News] WHAUP ปิดดีล บีเอ็มดับเบิลยู ติดตั้ง “Solar Rooftop” 1.5 MW

          กรุงเทพฯ – บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ประกาศปิดดีล บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับชั้นนำของโลก ล่าสุดคว้างานติดตั้ง “Solar Rooftop” ในรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ขนาดพื้นที่หลังคา 12,000 ตร.ม. หรือคิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 MW           นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์  พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “WHAUP” เปิดเผยว่า ล่าสุด WHAUP ร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับชั้นนำของโลก เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยมีขนาดการผลิตไฟฟ้า 1.5 MW บนพื้นที่หลังคา 12,000 ตารางเมตร ภายใต้เม็ดเงินลงทุน 40 ล้านบาท สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการด้านพลังงานหมุนเวียนที่อยู่ภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ตอกย้ำความเชี่ยวชาญของ WHAUP ในธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านพลังงานใหม่ ๆ สอดคล้องกับพันธกิจของ WHA Group หรือ WHA: WE SHAPE THE FUTURE เพื่อสร้างโอกาสสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน           นายสมเกียรติกล่าวเพิ่มเติมว่า WHAUP มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกจาก BMW ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานการคัดเลือกคุณภาพและการติดตั้งที่สูงมาก ที่เราได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่าระบบการติดตั้งของ WHAUP อยู่ในระดับมาตรฐานโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเราต่อไปในอนาคต           ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถตอบโจทย์การเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ WHA GROUP ที่จะช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้เทคโนโลยีของ WHAUP ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้นด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนานจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และยกระดับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่ระดับสากลมากขึ้น           ด้าน มร. เอริค รูเก้ (Erik Ruge) กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop)  มีขนาดการผลิตไฟฟ้า 1.5 MW บนพื้นที่หลังคา 12,000 ตารางเมตร ตอบสนองต่อนโยบายของบริษัทในการพัฒนาการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนให้ต่ำลง           ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการติดตั้ง Solar Rooftop นอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าของบริษัทตลอดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) สู่ชั้นบรรยากาศได้มากกว่า 12,000 ตัน ตามนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจกได้อีกด้วย