ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#TTB


แจงแล้ว KTB - TTB แผนควบรวม ยันไม่เป็นความจริง!

แจงแล้ว KTB - TTB แผนควบรวม ยันไม่เป็นความจริง!

                หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่า ตามที่หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและสื่อออนไลน์ในเครือดังกล่าว เสนอข่าวเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ว่าจะมีการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (“กรุงไทย”) กับธนาคารทหารไทยธนชาตจำกัด (มหาชน) (“ทีทีบี”) นั้น บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งของทีทีบี ขอเรียนว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยบริษัทฯ ไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้                 ด้าน นางมานิกา สิทธิชัย เลขานุการบริษัท ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ เช่นกันว่า ตามที่ได้มีรายงานข่าว ณ วันที่ 21 มีนาคม 2568 เกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต ("ธนาคารฯ") และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นั้น ทีเอ็มบีธนชาตขอเรียนชี้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ธนาคารฯ ไม่ได้อยู่ในกระบวนการควบรวมกิจการตามที่ปรากฏในสื่อ รวมทั้งไม่มีแผนการควบรวมกิจการกับธนาคารอื่นอยู่ในแผนงาน 5 ปีแต่อย่างใด                 ทั้งนี้ ธนาคารฯ ยังคงมุ่งเน้นพันธกิจสำคัญคือ การ Make REAL Change หรือการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารกว่า 10 ล้านคน มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ผ่านกลยุทธ์การสร้างการเติบโตแบบ Ecosystem Play และการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและสอดคล้องกับแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) อีกทั้งยังเดินหน้า Transform องค์กรอย่างรอบด้านเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน                 ขณะที่ นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ประธานผู้บริหาร Legal Comliance & Financial Crime และเลขานุการบริษัท แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อเกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) นั้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ("ธนาคารฯ") ขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และในขณะนี้ คณะกรรมการธนาคารฯ ไม่ได้มีดำริ หรือได้มอบหมายฝ้ายบริหารให้ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการควบรวมกิจการตามที่เป็นข่าว ธนาคารฯ ขอยืนยันว่า คณะกรรมการธนาคารฯและฝ่ายบริหาร ยังคงขับเคลื่อนองค์กรภายใด้วิสัยทัศน์                 "กรุงไทยเคียงข้างไทยสู่ความยั้งยืน" โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตของประเทศไทย คนไทย และธุรกิจไทยอย่างครอบคลุมและทั่วถึงผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร และการเชื่อมโยงระบบนิเวศน์ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งพิจารณาโอกาสในการขยายการเดิบโตในหลากหลายรูปแบบ ทั้งในส่วนของธนาคารฯ และบริษัทในกลุ่มธนาคารฯ เพื่อมุ่งสร้างและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและชั่งยืน ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวสอดคล้อง กับยุทธศาสตร์ของธนาคารฯ ภายใต้แนวคิด Corporate Value Creation (เสริมทักษะ สร้างคุณค่า สู่อนาคต) ซึ่งธนาคารได้สื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง

TTB เน้น Balance Sheet ดันกำไร  ลุ้น due diligence ต่อยอด เป้า 2.20 บ.

TTB เน้น Balance Sheet ดันกำไร ลุ้น due diligence ต่อยอด เป้า 2.20 บ.

           หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า TTB มีกำไร 4Q67 +5% YoY ผลหลักจาก Tax benefit + สำรองลดช่วยหนุน ส่งผลกำไรทั้งปี 67 +13% YoY            ยังเน้นการบริหาร Balance Sheet มากกว่าการเน้นการเติบโตของสินเชื่อ พยายามคุมค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน บวกกับ Tax benefit ที่ยังเหลือ ช่วยดันกำไรทั้งปี 68 ให้โตต่อเนื่อง            ทำ due diligence ซื้อ บล.ธนชาต + ทีลิสซิ่ง หากดีลสำเร็จ เป็นบวกในการต่อยอดธุรกิจในระยะยาว            ประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นบวกต่อราคาหุ้น และประกาศจ่ายปันผลงวด 2H67 อีก @0.064-0.067 บ. สูงกว่าคาด คิดเป็น Div. Yield ราว 3.2-3.3%            แนวรับ = 1.93/1.95 แนวต้าน = 2.04/2.10            TTB | ซื้อ | TP=2.20 บ.

TTB ปิดดีลซื้อTNS รุกWealthเป้า2.22บ.

TTB ปิดดีลซื้อTNS รุกWealthเป้า2.22บ.

         หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า TTB แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายในการซื้อขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (TNS) โดยปัจจุบัน TNS มีผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ TCAP จำนวน 2,698,959,721 หุ้น หรือคิดเป็น 89.97% และ TTB ถือหุ้นจำนวน 300,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 10% โดยเบื้องต้นมูลค่าทางบัญชีของ TNS จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่คำนวณโดยอ้างอิงข้อมูลสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม ณ วันที่ 30 ก.ย. 2024 แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามบัญชีเพื่อการจัดการล่าสุด ขณะที่ TTB เล็งเห็นว่าการเข้าถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทหลักทรัพย์ธนชาตจะช่วยส่งเสริมศักยภาพด้าน Wealth Ecosystem และความสามารถในการแข่งขันของธนาคารฯ          ทั้งนี้ TTB ประกาศเงินปันผลงวด 2H24 ที่ 0.067 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 25 เม.ย. 25 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดและเราคาด (ที่มา: TTB)          มีมุมมองเป็นกลางต่อดีลดังกล่าว โดยหาก TTB ซื้อ TNS ซื้อที่มูลค่า 3 พันล้านบาท (อ้างอิงจากส่วนของผู้ถือหุ้นของ TNS ใน 1H24 ที่ 3.5 พันล้านบาท) จะคิดเป็น 0.86x PBV ซึ่งถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับ BAY ที่ซื้อ CNS ที่ราว 1x PBV ขณะที่ TCAP ไม่น่าจะได้กำไรพิเศษจากการขาย (อิงมูลค่าเงินลงทุนที่ 3.22 พันล้านบาท) แต่จะมี downside ต่อกำไรสุทธิที่จะหายไปราว -2.8% (อ้างอิงจากกำไรสุทธิของ TNS ใน 1H24 ที่ 95 ล้านบาท) เพราะไม่สามารถรับรู้กำไรจาก TNS อีกแล้วหลังจากการขาย สำหรับ TTB          คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 2.22 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.88x (-0.25SD below 10-yr average PBV) ส่วน TCAP เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 55.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.75x (-0.50SD below 10-yr average PBV

เรื่องต้องรู้ ก่อน “กู้ร่วม” ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด

เรื่องต้องรู้ ก่อน “กู้ร่วม” ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด

            หุ้นวิชั่น - ttb ระบุว่า เดือนกุมภาพันธ์ หลายคนมักจะคิดถึง ‘วันวาเลนไทน์’  ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความรักและถือเป็นโอกาสแห่งการเริ่มต้นที่ดีสำหรับคู่รักที่กำลังมองหาบ้านสักหลัง เพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่หรือขยับขยายครอบครัว ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่การจะได้เป็นเจ้าของบ้านสักหลังอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับบางคน ดังนั้น เพื่อให้ได้วงเงินที่เพียงพอแก่การเป็นเจ้าของบ้านที่ต้องการ และมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารง่ายขึ้น จึงจำเป็นต้องอาศัยการกู้ร่วม สินเชื่อบ้านทีทีบี จึงขอนำความรู้เกี่ยวกับการ “กู้ร่วม” เพื่อซื้อบ้าน ซื้อคอนโด มาฝาก เพื่อเข้าใจเรื่องการกู้ร่วมมากขึ้น             “กู้ร่วม” คือการขอสินเชื่อร่วมกันเพื่อให้ได้วงเงินมากพอต่อการเป็นเจ้าของบ้านที่ต้องการ และยังมีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อธนาคารได้ง่ายขึ้น เพราะการกู้ร่วมเหมือนการร่วมลงเรือลำเดียวกันที่ทุกคนจะช่วยกันพายเรือนั้นไปจนถึงฝั่ง ธนาคารจะมีความมั่นใจว่าสามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนด ซึ่งการกู้ร่วมปกติแล้วจะกู้ร่วมได้ไม่เกิน 3 คน (ผู้กู้หลัก 1 คน และ กู้ร่วมสูงสุด 2 คน) โดยคนที่กู้ร่วมได้ ได้แก่ คนที่มีนามสกุลเดียวกัน เช่น พี่-น้อง พ่อ-แม่-ลูก  พี่-น้องท้องเดียวกัน แม้จะคนละนามสกุลก็สามารถกู้ร่วมได้ โดยต้องแสดงหลักฐานว่ามีพ่อแม่คนเดียวกัน สามี-ภรรยา และ คู่รัก LGBTQ+ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า “การกู้ร่วม” มีข้อดีมากกว่าที่คิด นั่นคือ ขออนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น คนที่ต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดฯ แต่กังวลว่าจะไม่ผ่านเกณฑ์พิจารณาของธนาคาร หากมีผู้กู้ร่วมที่มีสุขภาพการเงินแข็งแรง ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพิ่มโอกาสได้วงเงินกู้สูงขึ้น หากราคาบ้านที่ต้องการซื้อ มีราคาสูงเกินกว่าวงเงินที่ยื่นกู้คนเดียว การกู้ร่วมก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้วงเงินที่ต้องการกู้นั้นสูงขึ้นได้ ไม่ต้องแบกภาระคนเดียว การกู้ร่วมซื้อบ้านหรือคอนโดทำให้มีคนช่วยกันผ่อนชำระหนี้ และเป็นการกระจายความเสี่ยง เผื่อวันหนึ่งขาดสภาพคล่อง ก็ยังมีผู้กู้ร่วมที่สามารถชำระหนี้ได้             อย่างไรก็ดี ก่อนการกู้ร่วมนั้น ควรตัดสินใจให้ดีและตกลงกันให้เรียบร้อยก่อน เพราะการกู้ร่วมคือการรับผิดชอบหนี้ร่วมกัน ดังนั้นหากมีการผิดนัดชำระหนี้หรือถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ธนาคารมีสิทธิ์ที่จะเรียกชำระหนี้จากใครก็ได้ที่เป็นผู้กู้ร่วม นอกจากนี้ การใส่ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์นั้น จะใส่ชื่อคนเดียว หรือใส่ชื่อผู้กู้ร่วมทุกคน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันก็ได้  สำหรับการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีนั้น  สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้             ทั้งนี้  หากต้องการยกเลิกกู้ร่วม จะถอนชื่อกู้ร่วมได้ก็ต่อเมื่อธนาคารพิจารณาแล้วว่าผู้กู้ร่วมที่เหลืออยู่สามารถผ่อนชำระไหว หรือใกล้หมดสัญญาแล้ว แต่ถ้าธนาคารเห็นว่าคนที่เหลืออยู่ผ่อนไม่ไหว ก็ต้องหาคนอื่นมากู้ร่วมซื้อบ้านหรือคอนโดแทน             เพราะความรักที่แท้จริงต้องมีรากฐานที่มั่นคง บ้านในฝันจึงเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่ยั่งยืน ทีทีบีพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทุกคู่รักให้มีบ้านในฝัน ไม่ว่าจะเป็นการกู้เดี่ยวหรือกู้ร่วม ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อบ้านได้ โดยสินเชื่อบ้านทีทีบี มีบริการสินเชื่อที่ตอบโจทย์ทั้งสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง  สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ และ สินเชื่อบ้านแลกเงิน ด้วยดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนสบาย  พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญดูแล ให้คำปรึกษาถึงที่ สนใจสินเชื่อบ้านทีทีบี สอบถามได้ที่เจ้าหน้าที่ทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ  หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แอป ttb touch และเว็บไซต์ธนาคาร คลิก  https://www.ttbbank.com/link/homeloan-pr             *กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านใหม่-มือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.939% - 6.648% ต่อปี • สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์  อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.862%-5.315% ต่อปี • สินเชื่อบ้านแลกเงิน  อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 6.496% - 8.158% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย  MRR ณ วันที่ 1 พ.ย. 2567=7.705% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ •เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด •ศึกษารายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.ttbbank.com [PR News]

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

KKP-TISCO-TTBรับโชค บสย.จะเพิ่มค้ำสินเชื่อลีสซิ่ง

KKP-TISCO-TTBรับโชค บสย.จะเพิ่มค้ำสินเชื่อลีสซิ่ง

           หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ในปี 25 บสย.ยังมุ่งเน้นให้ความสำคัญและช่วยเหลือให้กลุ่มเปราะบางและเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเตรียมขยายผลิตภัณฑ์และเป้าหมายการให้การค้ำประกันสินเชื่อ โดยขณะนี้กำลังศึกษาค้ำประกันสินเชื่อลีสซิ่งรถยนต์เพื่อประกอบธุรกิจ ซึ่งแนวคิดเกิดจากหลังได้หอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ขอให้หน่วยงานรัฐมีส่วนช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่เจอประสบปัญหารายได้และสภาพคล่องจนไม่อาจกระทบต่อการผ่อนรถยนต์            เบื้องต้นได้หารือกับธนาคารที่มีบริษัทลูกให้บริการลีสซิ่งรถยนต์แล้ว 6-8 ราย หลังจากจัดทำรายละเอียดแล้วจะนำเสนอบอร์ดบสย.เพื่อพิจารณาและอนุมัติ และลงนามความร่วมมือกับธนาคารทันที โดยใช้งบประมาณที่เป็นกำไรจากการดำเนินการของ บสย.ส่วนหนึ่ง คาดว่าหลังบอร์ด บสย.เห็นชอบจะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าได้รับความตอบรับจากทั้งบริษัทให้บริการลีสซิ่ง และค่ายรถยนต์ เป็นการกระตุ้นยอดซื้อรถใหม่ และ ผู้ประกอบการกล้าลงทุนเพิ่ม โดย บสย.จะค้ำประกันสำหรับผู้มีประวัติดีและยังดำเนินธุรกิจ แต่เราค้ำประกันไม่เกิน 20% ของวงเงินหนี้ พร้อมกันนี้กำลังเตรียมมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่เจอปัญหาเข้าถึงสินเชื่อไม่ได้ (ที่มา: มติชนออนไลน์)            มองเป็นบวกจากประเด็นดังกล่าว โดยหาก บสย. เข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อให้กับกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะ SME ที่ตอนนี้เข้าถึงสินเชื่อได้ยาก ซึ่งเบื้องต้น บสย. จะค้ำประกันให้ไม่เกิน 20% ของวงเงินหนี้ ทำให้เราคาดว่าผู้ประกอบการอย่างธนาคารและบริษัทลูกของธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อจะมีโอกาสที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อให้กับ SME เพิ่มขึ้นได้บ้าง ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยธนาคารที่มีสินเชื่อเช่าซื้อเรียงตามสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อจากมาก-น้อยคือ เช่น KKP (45% ของสินเชื่อรวม), TISCO (43% ของสินเชื่อรวม), TTB (29% ของสินเชื่อรวม), BAY (21% ของสินเชื่อรวม), SCB (6% ของสินเชื่อรวม)            ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนลงเป็น “มากกว่าตลาด” โดยเลือก KTB (ซื้อ/เป้า 24.50 บาท) และ BBL (ซื้อ/เป้า 186.00 บาท) เป็น Top pick            ส่วน KKP (ถือ/เป้า 50.00 บาท), TISCO (ถือ/เป้า 96.00 บาท) และ TTB (ซื้อ/เป้า 2.22 บาท) จะได้ sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้นจากประเด็นดังกล่าว

TTB ธุรกิจโตยาว จ่อดีล บล.ธนชาต – ทีลิสซิ่ง สำเร็จ

TTB ธุรกิจโตยาว จ่อดีล บล.ธนชาต – ทีลิสซิ่ง สำเร็จ

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์  ระบุ TTB กำไร 4Q67 +5% YoY หลักๆ จาก Tax benefit + สำรองลดช่วยหนุน ส่งผลกำไรทั้งปี 67 +13% YoY           ยังเน้นการบริหาร Balance Sheet มากกว่าการเน้นการเติบโตของสินเชื่อ พยายามคุมค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน บวกกับ Tax benefit ที่ยังเหลือ ช่วยดันกำไรทั้งปี 68 ให้โตต่อเนื่อง           ทำ Due diligence ซื้อบล.ธนชาต + ทีลิสซิ่ง หากดีลสำเร็จ เป็นบวกในการต่อยอดธุรกิจในระยะยาว           ประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นบวกต่อราคาหุ้น ประกอบกับคาดจ่ายปันผลงวด 2H67 อีก @0.055 บ. คิดเป็น Div. Yield ราว 2.8%           แนวรับ = 1.92/1.94 แนวต้าน = 2.02/2.08

TTBซื้อหุ้นคืน 3 ปีพยุงราคา ROE เพิ่มขึ้น-เป้า2.22บาท

TTBซื้อหุ้นคืน 3 ปีพยุงราคา ROE เพิ่มขึ้น-เป้า2.22บาท

          หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า TTBปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิมที่ “ถือ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 2.22 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.88x (-0.25SD below 10-yr average PBV) จากเดิมที่ 2.00 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.80x (-0.50SD below 10-yr average PBV) จากการปรับกำไรและ PBV ขึ้น           โดยมีมุมมองเป็นบวกจากการซื้อหุ้นคืนถึง 3 ปี จะช่วยหนุนราคาหุ้นได้ในระยะยาวและทำให้ ROE เพิ่มสูงขึ้น โดยวงเงินรวมไม่เกิน 2.1 หมื่นล้านบาท (ไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่าย) ระยะเวลา 3 ปี จะเริ่มปี 25 ที่วงเงินไม่เกิน 7 พันล้านบาท และไม่เกิน 3.5 พันล้านหุ้น คิดเป็น 3.6% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่าย เริ่มวันที่ 3 ก.พ.-1 ส.ค. 25 ซึ่ง imply ราคาที่จะซื้อหุ้นคืนได้ที่ 2.00 บาท เทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ 1.91 บาท (upside +4.7%) หลังจากนั้นปี 26-27 จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆของธนาคาร           ทั้งนี้ทำ sensitivity หากส่วนของผู้ถือหุ้นหายไปทุกๆ 7 พันล้านบาท ROE จะเพิ่มขึ้นได้ +0.2% และราคาเป้าหมายเพิ่มได้ +0.07 บาท ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้า ROE ระยะถัดไปจะอยู่ที่ 10% จากปี 24 ที่ 9%เรามีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E/2026E เพิ่มขึ้น +5%/+3% จากการปรับ Credit cost ลงมาเพื่อให้สอดคล้องกับ Guidance ที่ผู้บริหารให้ไว้ ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2025E อยู่ที่ 2.15 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +2% YoY จากสำรองฯที่ลดลงเป็นหลัก           ขณะที่คาดว่ากำไร 1Q25E จะเพิ่มขึ้น QoQ จาก OPEX ที่ลดลงตามฤดูกาลและมีการใช้ Digital มากขึ้นราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น +8% และ +15% เมื่อเทียบกับ SET ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ SET เพราะตลาดหุ้นที่เป็นขาลง ทำให้นักลงทุนหันมาหาหุ้นที่มี Dividend yield สูงๆ โดย TTB มี Dividend yield สูงราว 7% ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PBV ที่ 0.80x ที่ระดับเพียง -0.50SD และราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกำไรรายไตรมาสที่ยืนเหนือ 5 พันล้านบาทได้อย่างต่อเนื่อง

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

SCB-KTB ยิลด์ปันผลสูง TTB มีแววซื้อหุ้นคืน

SCB-KTB ยิลด์ปันผลสูง TTB มีแววซื้อหุ้นคืน

          หุ้นวิชั่น-ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ธนาคาร 8 แห่งที่ศึกษา ได้แก่ BBL, KBANK, SCB, KTB, TTB, KKP, TISCO และ CREDIT ทำกำไรสุทธิรวม 5.25 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/67 เพิ่มขึ้น 20.9% yoy แต่ลดลง 6.1% qoq และทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 67 เพิ่มเป็น 2.18 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% yoy           ส่วนกำไรก่อนตั้งสำรอง (PPOP) ไตรมาส 4/67 เติบโต 2.7% yoy แต่ลดลง 5.7% qoq ทำให้ PPOP ทั้งปี 67 เติบโต 2.2% yoy โดยกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ของกลุ่มธนาคารสูงกว่าประมาณการของ Bloomberg consensus เนื่องจากอัตราการสำรองหนี้สูญลดลงและอัตราการเติบโตของสินเชื่อสูงขึ้น โดยยอดสินเชื่อรวมของกลุ่มขยายตัว 0.3% yoy และ 1.8% qoq ในไตรมาส 4/67 และมีอัตราส่วน NPL ลดลง 18bp qoq เป็น 3.61% และมีอัตราการสำรองหนี้สูญลดลง 9bp qoq เป็น 141bp           ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า ธนาคารบางแห่งออกมาเปิดเผยเป้าหมายทางการเงินในปี 68 หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/67 โดยตั้งเป้าสินเชื่อขยายตัวเพียง 0-3% เนื่องจากธนาคารมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อธุรกิจสินเชื่อและให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างหนี้ โดยพบว่าธนาคารยังกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อรายย่อย อีกทั้งมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คือ “คุณสู้ เราช่วย” ยังมีอัตราการอนุมัติต่ำ ทั้งนี้ธปท. เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 68 ว่า ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการเพียง 10% ที่ได้รับอนุมัติ ส่วนระยะเวลาการลงทะเบียนจะสิ้นสุดลงวันที่ 28 ก.พ. 68           ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ประมาณการว่าธนาคารทั้ง 8 แห่งที่ศึกษา จะมียอดสินเชื่อรวมเติบโต 1.1-2.7% ในปี 68-70 ขณะที่มีอัตราการสำรองหนี้สูญ 135bp/126bp/125bp และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิโดยรวมอยู่ที่ 3.7%/4.3%/4.5% ในปี 68/69/70 ตามลำดับ ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า ธนาคารไทยอยู่ภายใต้แรงกดดัน เพราะต้องบริหารจัดการเงินทุนจำนวนมาก ในขณะที่สินเชื่อมีอัตราการเติบโตชะลอตัว โดยธนาคารบางแห่ง เช่น ธนาคารทหารไทยธนชาต กำลังพิจารณา เรื่องการซื้อหุ้นคืนตามข้อเสนอของรัฐบาล ขณะที่ธนาคารบางแห่งจะปรับขึ้นอัตราการจ่ายเงินปันผลเพื่อเพิ่ม ผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมทั้งเพิ่ม ROE ทั้งนี้ KTB และ KBANK น่าจะจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นในปี 68 นี้ ยังแนะนำให้คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral) ในกลุ่มธนาคาร เพราะคาดว่า PPOP จะเติบโตลดลงในอัตรา -1.4%/+0.8%/+3.5% ในปี 68/69/70 ขณะที่เลือก SCB และ KTB เป็นหุ้น Top pick เพราะเชื่อว่าธนาคารทั้งสองแห่งจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 5.4-9.2% ต่อปี และมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 2- 12% ในปี 68-70 นอกจากนี้ เชื่อว่าทั้ง SCB และ KTB จะบริหารจัดการเงินทุนได้ดีกว่าธนาคารอื่นที่ทำการศึกษา ซึ่งจะส่งผลให้ ROE เพิ่มสูงขึ้นในปี 68-70 อย่างไรก็ตาม กลุ่มธนาคารจะมี downside risk หาก NPL เพิ่มสูงขึ้นและธปท. ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก ส่วน upside risk จะมาจากการที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น เพราะจะช่วยกระตุ้นการบริโภค, ความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง และรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

TTB คาดปีนี้มีปันผล 7% มองบวกต่อเป้าบริหารคุณภาพสินทรัพย์-ต้นทุน

TTB คาดปีนี้มีปันผล 7% มองบวกต่อเป้าบริหารคุณภาพสินทรัพย์-ต้นทุน

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกต่อ TTB จากการตั้งเป้าปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์และต้นทุนให้ดีขึ้นในปี 2569 พร้อมเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 0-2% และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยไม่เกิน 10% โดยตั้งเป้าอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2.9% และคาดว่า NPL Formation จะลดลงพร้อมต้นทุนทางเครดิตที่อาจต่ำกว่าปี 2567 นอกจากนี้ TTB ยังมีแนวโน้มการบริหารจัดการเงินทุนที่ดีขึ้น ทั้งโอกาสในการซื้อหุ้นคืนและการจ่ายปันผล 60-70% ของกำไร ส่งผลให้คาดการณ์อัตราเงินปันผลที่ 7% ในปี 2568 TTB : ราคาพื้นฐาน 1.98 บาท

TTB คาดกำไรQ1ลดลง นักวิเคราะห์ชี้ยังไง เช็ก!

TTB คาดกำไรQ1ลดลง นักวิเคราะห์ชี้ยังไง เช็ก!

          หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล.ดาโอระบุว่า ยังคงคำแนะนำ “ถือ” TTB และราคาเป้าหมายที่ 2.00 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.80x (-0.75SD below 10-yr average PBV) โดย TTB ประกาศกำไรสุทธิ 4Q24 อยู่ที่ 5.11 พันล้านบาท (+5% YoY, -2% QoQ) เป็นไปตามที่ตลาดและเราคาดโดยมี OPEX ลดลงมากกว่าคาดเพราะมีค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายอาคารและอุปกรณ์ลดลงจากการปรับโมเดลธุรกิจสู่ Digital First           ขณะที่มีการตั้งสำรอง ลดลง -50% YoY และ -2% QoQ ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมเป็นไปตามคาด (-7% YoY, +10% QoQ) โดยลดลงจากค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ แต่เพิ่มขึ้นจาก Bancassurance และกองทุนรวม ด้านสินเชื่อรวมลดลง -6.6% YoY จากสินเชื่อเช่าซื้อ -11% YoY, สินเชื่อ SME -11% YoY และสินเชื่อรายใหญ่ -6% YoY           ขณะที่สินเชื่อผลตอบแทนสูงยังโตได้ดี ส่วน NPL อยู่ที่ 2.59% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 2.73% โดยมีการ write-off NPL ออกไปอีก 6.7 พันล้านบาท จากไตรมาสก่อนที่ 5.5 พันล้านบาท และขาย NPL อีก 600 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนที่ 900 ล้านบาทเรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E อยู่ที่ 2.06 หมื่นล้านบาท กลับมาหดตัว -2% YoY เพราะสินเชื่อที่ยังคงหดตัวลงตามสภาวะตลาดรถยนต์ ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนระบบ IT           ขณะที่คาดว่ากำไร 1Q25E จะลดลงทั้ง YoY/QoQ จากสินเชื่อที่ลดลงราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น +5% และ +11% เมื่อเทียบกับ SET ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ SET เพราะตลาดหุ้นที่เป็นขาลง ทำให้นักลงทุนหันมาหาหุ้นที่มี Dividend yield สูงๆ โดย TTB มี Dividend yield สูงราว 7%  อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PBV ที่ 0.76x แพงกว่ากลุ่มที่ 0.68x ประกอบกับแนวโน้มกำไรปี 2025E จะมีการหดตัวลง จึงแนะนำเพียง “ถือ”

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

TTB กำไรปี 67 ตามคาด ปันผลทั้งปีสูงถึง 6.5%

TTB กำไรปี 67 ตามคาด ปันผลทั้งปีสูงถึง 6.5%

          หุ้นวิชั่น - TTB กำไรปี 2567 ที่ 21,031 ลบ. เติบโต 13% ใกล้เคียงนักวิเคราะห์คาด โบรกชอบ TTB และคาดปี 2568 ยังมีโอกาสที่กำไรเติบโตต่อเนื่อง ยังเป็นหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงคาดปันผลทั้งปีสูงถึง 6.5% ต่อปี คาดจะจ่ายปันผลสำหรับงวด 2H67 อีก @ 0.055 บาท แนะนำ ซื้อลงทุน ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท           ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) รายงานสำหรับผลประกอบการ ปี 2567 ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงฟื้นตัวแบบ K-Shaped และการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง กลุ่มธนาคารจึงยังคงเน้นความระมัดระวังในการดำเนินงานและการเติบโตทางธุรกิจ อย่างไรก็ดี ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) สามารถรับมือกับความท้าทายได้เป็นอย่างดีตลอดปี 2567 และมีผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง           ทั้งนี้ สำหรับปี 2567 ทีทีบีรายงานกำไรสุทธิที่ 21,031 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 YoY) หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ร้อยละ 9.0 โดยธนาคารยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน ซึ่งช่วยหนุนการเติบโตของผลประกอบการและสร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง • ด้านรายได้: ธนาคารยังคงยึดหลักการเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพและการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาอัตรากำไรท่ามกลางการเติบโตที่ยังชะลอตัวและแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลและ Ecosystem ต่างๆ เพื่อกระตุ้นรายได้ค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ • ด้านประสิทธิภาพ: ยังคงเน้นย้ำการมีวินัยด้านค่าใช้จ่าย ผ่านการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงการบริหารจัดการสาขา • ด้านคุณภาพสินทรัพย์: เสริมความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในเชิงรุกและปรับลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต • ด้านการบริหารส่วนทุน: บริหารการใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งของระดับเงินกองทุน           ทีทีบียังคงมุ่งมั่นต่อเป้าหมายระยะยาวที่ได้วางไว้ รวมไปถึงเป้าหมายระยะกลางที่ต้องการเพิ่ม ROE สู่ระดับร้อยละ 10 ทั้งนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินและการดำเนินการตามแผนงานอย่างเคร่งครัด ธนาคารจึงมีความยืดหยุ่นและพร้อมที่จะปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตและส่งผ่านผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน ผลการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2567           ดำเนินการปรับพอร์ตสินเชื่อไปยังสินเชื่อรายย่อยกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงได้ตามเป้าหมาย: ธนาคารยังคงเน้นย้ำการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน ดังนั้นจึงยังคงเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวังเพื่อรักษาคุณภาพของพอร์ต ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุน โดยหมุนเวียนสภาพคล่องจากสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปเติบโตในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ ท่ามกลางการเติบโตสินเชื่อที่ยังชะลอตัว สินเชื่อรายย่อยกลุ่มเป้าหมายยังคงขยายตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถแลกเงิน (Cash Your Car) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 YTD สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Cash Your Home) เติบโตร้อยละ 12 YTD สินเชื่อส่วนบุคคล เติบโตร้อยละ 10 YTD และสินเชื่อบัตรเครดิตเติบโตร้อยละ 7 YTD ช่วยหนุนอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อ           ปรับโครงสร้างและระยะเวลาของเงินฝากในเชิงรุก: เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทีทีบีได้ดำเนินการปรับโครงสร้างเงินฝากล่วงหน้าเพื่อบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อรักษาส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย ทั้งนี้ จากก่อนหน้าที่ธนาคารใช้เงินฝากประจำระยะยาวเป็นเงินฝากเชิงกลยุทธ์ในการเพิ่มฐานเงินฝากในช่วงของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธนาคารได้เริ่มปรับมานำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำระยะสั้นลงเพื่อให้สอดคล้องกับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ควบคู่ไปกับการขยายฐานเงินฝากต้นทุนต่ำ เช่น ttb all free และเงินฝากกลุ่ม CASA           กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น หนุนโดยการควบคุมต้นทุนทางการเงินที่ดี การบริหารต้นทุนในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดต้นทุนด้านความเสี่ยงซึ่งเป็นผลจากคุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ควบคุม แม้ด้านรายได้จะยังเผชิญกับแรงกดดัน ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) ในปี 2567 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 3.26 จากร้อยละ 3.24 ในปี 2566 เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ การปรับสัดส่วนสินเชื่อไปยังสินเชื่อกลุ่มเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนดีขึ้น และแผนการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ           บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TTB กำไร 4Q67 และกำไรทั้งปี 67 ถือว่าออกมาใกล้เคียงคาดอย่างมาก ซึ่ง TTB ยังสามารถทำได้ตามกลยุทธ์ที่ได้ตั้งไว้ ยังชอบ TTB และคาดปี 2568 ยังมีโอกาสที่กำไรยังเติบโตต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงคาดปันผลทั้งปีสูงถึง 6.5% ต่อปี โดยคาดจะจ่ายปันผลสำหรับงวด 2H67 อีก @ 0.055 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนราว 3% บวกราคายังมี upside แนะนำ ซื้อลงทุน BUY, TP: 2.20 บาท

TTB ปี67กำไรโต 13% แตะ 2.1หมื่นล้าน NIM ขยับเป็น 3.26%

TTB ปี67กำไรโต 13% แตะ 2.1หมื่นล้าน NIM ขยับเป็น 3.26%

          หุ้นวิชั่น - TTB ยืนหยัดท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง กำไรสุทธิปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 YoY แตะ 21,031 ล้านบาท พร้อมส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) ขยับขึ้นเป็นร้อยละ 3.26 บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพสินทรัพย์และเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างมั่นคง           ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) รายงานสำหรับผลประกอบการ ปี 2567 ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงฟื้นตัวแบบ K-Shaped และการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง กลุ่มธนาคารจึงยังคงเน้นความระมัดระวังในการดำเนินงานและการเติบโตทางธุรกิจ อย่างไรก็ดี ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) สามารถรับมือกับความท้าทายได้เป็นอย่างดีตลอดปี 2567 และมีผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง           ทั้งนี้ สำหรับปี 2567 ทีทีบีรายงานกำไรสุทธิที่ 21,031 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 YoY) หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ร้อยละ 9.0 โดยธนาคารยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน ซึ่งช่วยหนุนการเติบโตของผลประกอบการและสร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง • ด้านรายได้: ธนาคารยังคงยึดหลักการเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพและการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาอัตรากำไรท่ามกลางการเติบโตที่ยังชะลอตัวและแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลและ Ecosystem ต่างๆ เพื่อกระตุ้นรายได้ค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ • ด้านประสิทธิภาพ: ยังคงเน้นย้ำการมีวินัยด้านค่าใช้จ่าย ผ่านการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงการบริหารจัดการสาขา • ด้านคุณภาพสินทรัพย์: เสริมความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในเชิงรุกและปรับลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต • ด้านการบริหารส่วนทุน: บริหารการใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งของระดับเงินกองทุน           ทีทีบียังคงมุ่งมั่นต่อเป้าหมายระยะยาวที่ได้วางไว้ รวมไปถึงเป้าหมายระยะกลางที่ต้องการเพิ่ม ROE สู่ระดับร้อยละ 10 ทั้งนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินและการดำเนินการตามแผนงานอย่างเคร่งครัด ธนาคารจึงมีความยืดหยุ่นและพร้อมที่จะปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตและส่งผ่านผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน ผลการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2567           ดำเนินการปรับพอร์ตสินเชื่อไปยังสินเชื่อรายย่อยกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงได้ตามเป้าหมาย: ธนาคารยังคงเน้นย้ำการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน ดังนั้นจึงยังคงเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวังเพื่อรักษาคุณภาพของพอร์ต ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุน โดยหมุนเวียนสภาพคล่องจากสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปเติบโตในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ ท่ามกลางการเติบโตสินเชื่อที่ยังชะลอตัว สินเชื่อรายย่อยกลุ่มเป้าหมายยังคงขยายตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถแลกเงิน (Cash Your Car) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 YTD สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Cash Your Home) เติบโตร้อยละ 12 YTD สินเชื่อส่วนบุคคล เติบโตร้อยละ 10 YTD และสินเชื่อบัตรเครดิตเติบโตร้อยละ 7 YTD ช่วยหนุนอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อ           ปรับโครงสร้างและระยะเวลาของเงินฝากในเชิงรุก: เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทีทีบีได้ดำเนินการปรับโครงสร้างเงินฝากล่วงหน้าเพื่อบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อรักษาส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย ทั้งนี้ จากก่อนหน้าที่ธนาคารใช้เงินฝากประจำระยะยาวเป็นเงินฝากเชิงกลยุทธ์ในการเพิ่มฐานเงินฝากในช่วงของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธนาคารได้เริ่มปรับมานำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำระยะสั้นลงเพื่อให้สอดคล้องกับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ควบคู่ไปกับการขยายฐานเงินฝากต้นทุนต่ำ เช่น ttb all free และเงินฝากกลุ่ม CASA           กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น หนุนโดยการควบคุมต้นทุนทางการเงินที่ดี การบริหารต้นทุนในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดต้นทุนด้านความเสี่ยงซึ่งเป็นผลจากคุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ควบคุม แม้ด้านรายได้จะยังเผชิญกับแรงกดดัน ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) ในปี 2567 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 3.26 จากร้อยละ 3.24 ในปี 2566 เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ การปรับสัดส่วนสินเชื่อไปยังสินเชื่อกลุ่มเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนดีขึ้น และแผนการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ           ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ยังคงลดลงร้อยละ 4.9 YoY ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ (C/I) ปรับตัวลงอยู่ที่ร้อยละ 43 ในปี 2567 จากร้อยละ 44 ในปี 2566 สะท้อนผลจากการปรับโมเดลธุรกิจสู่ Digital First การมีวินัยด้านค่าใช้จ่าย และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน           คุณภาพสินทรัพย์ อยู่ในเกณฑ์ควบคุม สะท้อนได้จากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL ratio) ที่ร้อยละ 2.59 และค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯ ที่ลดลงร้อยละ 10.6 YoY มาอยู่ที่ 19,852 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ 154 bps ทั้งนี้ ด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่รอบคอบ ธนาคารยังคงเดินหน้าเพิ่มความสามารถในการรองรับความเสี่ยงผ่านการตั้ง Management Overlay มาตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 151           หลังหักค่าใช้จ่ายสำรองฯ และผลประโยชน์ทางภาษี ทีทีบีมีกำไรสุทธิ 21,031 ล้านบาท ในรอบ 12 เดือน ปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 YoY หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ร้อยละ 9.0 ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 8.2 ในปี 2566           ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 ธนาคารมีผลประโยชน์ทางภาษีคงเหลือเป็นจำนวน 10.6 พันล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้ได้ถึงปี 2571 ทั้งนี้ การใช้ผลประโยชน์ทางภาษีจะทยอยรับรู้ตามการประมาณการรายได้ในอนาคต ไม่ได้ใช้วิธีรับรู้เท่ากันทุกปี (Straight-line basis)

TTB จ่อดีล บล.ธนชาต-ทีลิสซิ่ง สำเร็จหนุนโตยาว  มีปันผลราว 6.5% แนะซื้อ เป้า 2.13 บ.

TTB จ่อดีล บล.ธนชาต-ทีลิสซิ่ง สำเร็จหนุนโตยาว มีปันผลราว 6.5% แนะซื้อ เป้า 2.13 บ.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุ TTB  มีกำไร 3Q67 โต +10.5% YoY ผลหลักจาก Tax Benefit หนุน ส่งผลให้ 9M67 กำไร +17.1% YoY           ลุ้นกำไร 4Q67F +6% YoY ผลจาก Tax Benefit ยังหนุน           เน้นการบริหาร Balance Sheet มากกว่าการเน้นการเติบโตของสินเชื่อ พยายามคุมค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน คาดกำไรทั้งปี 67 ยังเติบโตสูง +15% YoY และคาดจ่ายปันผลปี 67 สูงราว 6.5%           ทำ Due Diligence ซื้อ บล.ธนชาต และทีลิสซิ่ง หากดีลสำเร็จ จะเป็นบวกในการต่อยอดธุรกิจในระยะยาว           แนวรับ = 1.79/1.8 แนวต้าน = 1.88/1.92           TTB | ซื้อ | TP=2.13 บ.

abs

ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร

ttb มอบดอกเบี้ยสูง สำหรับลูกค้าเปิดบัญชี FCD e-Saving สกุล USD- GBP

ttb มอบดอกเบี้ยสูง สำหรับลูกค้าเปิดบัญชี FCD e-Saving สกุล USD- GBP

          หุ้นวิชั่น - กรุงเทพฯ, 10 มกราคม 2568 – ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งตอบโจทย์การทำธุรกรรมผ่านสกุลเงินต่างประเทศ มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่เปิดบัญชี FCD e-Saving ใหม่ สกุลเงิน USD และ/หรือ สกุลเงิน GBP ผ่านแอป ttb touch รับผลตอบแทนสุดคุ้มและเพิ่มพูนความมั่งคั่ง ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงพิเศษ สำหรับบัญชีเงินฝากสกุลเงิน USD รับดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี และสกุลเงิน GBP รับดอกเบี้ย 2.60% ต่อปี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 – 31 มีนาคม 2568           ทีทีบี พร้อมนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคนสำคัญ มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่เปิดบัญชี FCD e-Saving ใหม่ สกุลเงิน USD (ดอลสาร์สหรัฐ) และ/หรือ สกุลเงิน GBP (ปอนด์อังกฤษ) ผ่านแอป ttb touch รับอัตราดอกเบี้ยสูงพิเศษ โดย สกุลเงิน USD (ดอลสาร์สหรัฐ) รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงถึง 20% ต่อปี* สกุลเงิน GBP (ปอนด์อังกฤษ) รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงถึง 60% ต่อปี**           เพียงเปิดบัญชีใหม่ผ่านแอป ttb touch ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 31 มีนาคม 2568 รับดอกเบี้ยพิเศษถึงวันที่ 30 เมษายน 2568           บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit Account - FCD) เป็นบัญชีที่ตอบโจทย์ด้านการทำธุรกรรมสกุลเงินต่างประเทศสำหรับลูกค้าที่ต้องการฝากเงินเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกในการออมของกลุ่มลูกค้าที่มีบุตรหลานศึกษาอยู่ต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่มีธุรกิจนำเข้า-ส่งออกที่ต้องมีรายรับรายจ่ายหรือทำธุรกรรมที่ต้องการใช้จ่ายเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศให้สามารถวางแผนจัดการค่าใช้จ่ายธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินต่างประเทศแบบคุ้มค่าเพิ่มพูนความมั่งคั่งไปพร้อม ๆ กัน เพียงลูกค้ามีบัญชีเงินฝากสกุลเงินบาทของทีทีบี (บัญชีออมทรัพย์เบสิก, บัญชีออลล์ฟรี, บัญชีโนฟิกซ์, บัญชีมีเซฟ) เพื่อใช้โอนเงินเข้าบัญชี FCD e-Saving สกุลเงิน USD / สกุลเงิน GBP ที่เปิดใหม่ผ่านแอป ttb touch  โดยเปิดบัญชีครั้งแรก จำนวนเงินขั้นต่ำ 20,000 บาท หรือเทียบเท่า โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร พร้อมด้วยบริการ FX Advisory แนะนำบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกและยังช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย           นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกการออมเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงกับ บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ประเภทฝากประจํา 3 เดือน และ 6 เดือน สกุลเงิน USD รับอัตราดอกเบี้ย 50% ต่อปี บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ประเภทฝากประจํา 6 เดือน สกุลเงิน GBP รับอัตราดอกเบี้ย 60% ต่อปี           เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 USD หรือเทียบเท่า โดยสามารถเปิดบัญชีได้ที่ ทีทีบี สำนักงานใหญ่ (อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงตามประกาศธนาคารวันที่ 25 พ.ย. 2567 เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/ttb-reserve/promotion/detail/fcdesaving-specialrate-q12025 https://www.ttbbank.com/link/pr/ttbreserve/fcd สนใจเปิดบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ประเภทออมทรัพย์ แบบ e-Saving (FCD e-Saving) ผ่าน แอป ttb touch ง่าย ๆ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6:00 น. – 22:30 น. คลิก https://www.ttbbank.com/link/ttbreserve/openacc/fcdesaving สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ทีทีบีทุกสาขา หรือที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนของท่าน หรือ ttb reserve line 02-010-1428 สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเงินตราต่างประเทศได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/rates/foreign-currency-deposits *อัตราดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ประเภทออมทรัพย์ แบบ e-Saving สกุลเงิน USD สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 25 พ.ย. 67 อัตราดอกเบี้ยปกติ 2.10% ต่อปี (เปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของธนาคาร) และรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มอีก 2.10 % ต่อปี ณ วันทำการที่ 5 นับจากวันเปิดบัญชีสำเร็จ รวมเป็น 4.20% ต่อปี โดยวันที่เปิดบัญชีสำเร็จจนถึงวันทำการที่ 4 รับเฉพาะอัตราดอกเบี้ยปกติตามประกาศของธนาคาร **อัตราดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ประเภทออมทรัพย์ แบบ e-Saving สกุลเงิน GBP สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 25 พ.ย. 67 อัตราดอกเบี้ยปกติ 1.10% ต่อปี (เปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของธนาคาร) และรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มอีก 1.50% ต่อปี ณ วันทำการที่ 5 นับจากวันเปิดบัญชีสำเร็จ รวมเป็น 2.60% ต่อปี โดยวันที่เปิดบัญชีสำเร็จจนถึงวันทำการที่ 4 รับเฉพาะอัตราดอกเบี้ยปกติตามประกาศของธนาคาร รับดอกเบี้ยพิเศษ ถึงวันที่ 30 เม.ย. 68 สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่เปิดบัญชี FCD e-Saving ใหม่ สกุลเงิน USD และ/หรือ FCD e-Saving สกุลเงิน GBP ผ่าน แอป ttb touch เท่านั้น เปิดบัญชีขั้นต่ำ 20,000 บาท หรือเทียบเท่า เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สามารถเรียกดูข้อมูลผลิตภัณฑ์และประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินตราต่างประเทศปัจจุบันได้ทางเว็บไซต์ธนาคาร [PR News]

TTB คาดกำไร Q4 ที่ 5.1 พันลบ. แนะ “ซื้อเพื่อรับปันผล” เป้า 2.10 บาท

TTB คาดกำไร Q4 ที่ 5.1 พันลบ. แนะ “ซื้อเพื่อรับปันผล” เป้า 2.10 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.เอเอสแอล ประเมิน TTB จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q24F ที่ 5.1 พันล้านบาท (-2.9%QoQ, +4.4%YoY) ประเมินกำไรดีขึ้น YoY จากการตั้งสำรองที่ลดลง 51% ส่วน QoQ ชะลอตัวจาก NII ที่หดตัวลงตามกลยุทธ์ไม่เร่งการปล่อยสินเชื่อ ที่ทรงตัว QoQ แต่ -5.7%YTD เพื่อควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ให้ NPLs ratio ทรงตัวที่ 2.7% ด้านรายได้ Non-NII ดีขึ้นจากค่าธรรมเนียมในการขายประกันและกองทุน แต่ทั้งนี้ในงวดมีการบันทึกค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ประเมินกำไรสุทธิ 24-25F เท่ากับ 1.94 หมื่นล้านบาท +5.1%YoY และ 1.99 หมื่นล้านบาท +2.5%YoY การเติบโตชะลอตัวลงจากการไม่เร่งปล่อยสินเชื่อ แต่ทั้งนี้อาจมี upside จากการตั้งสำรองที่ลดลงหลังตั้งสำรองส่วนเกินไปพอสมควรแล้ว และการรับรู้ tax benefit ที่อาจมากกว่าตลาดคาด           แนะนำ “ซื้อเพื่อรับปันผล” ปรับราคาเป้าหมายไปใช้สิ้นปี 25F เท่ากับ 2.10 บาท PBV 0.84 เท่า โดดเด่นด้วยแนวโน้มผลประกอบการ 2H24F จะดีกว่าครึ่งแรกของปีจากคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น จากผลของความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และการตั้ง Management Overlay ไปแล้วใน 2Q24 ช่วยลดแรงกดดันการตั้งสำรองในช่วงที่เหลือของปี และคาดหวังแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนการจ่ายปันผลงวด 2H24 คาดที่ 0.04 บาท คิดเป็น Div.yield ราว 2.4%

ttb ร่วมกับ ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดดีล กิน-ช้อป สนุกสุดคุ้ม

ttb ร่วมกับ ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดดีล กิน-ช้อป สนุกสุดคุ้ม

หุ้นวิชั่น - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดแคมเปญ “Megabangna Exclusive 2025” กิน – ช้อป สนุกสุดคุ้มได้มากกว่ากับผู้ถือบัตรเครดิต ttb และบัตรเครดิต ttb Global House ประเภทบุคคลธรรมดา รับสิทธิพิเศษมากมาย ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2568 – วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 รับส่วนลดสูงสุด 50% หรือสิทธิพิเศษจากหมวดร้านอาหาร และหมวดร้านค้าที่ร่วมรายการ รับ MEGA VOUCHER มูลค่า 200 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมครบ 5,000 บาทขึ้นไปต่อวัน ณ ร้านอาหารและร้านค้าที่ร่วมรายการ จำนวน 1 สิทธิ์ / หมายเลขบัตร / วัน รับเพิ่ม! กระเป๋า Limited Edition ออกแบบโดยศิลปิน The Fairydust Spell มูลค่า 999 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมครบ 10,000 บาทขึ้นไปต่อวัน ณ ร้านอาหารและร้านค้าที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2568 – วันที่ 31 มกราคม 2568 จำนวน 1 ใบ / หมายเลขบัตร / วัน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชัน ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/-megabangna-jan25 ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิตใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7% -16% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้ และอนาคต [PR-NEWS]

abs

Hoonvision

TTB คาดปี 68 กำไรโตต่อ สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วย โบรกแนะ “ซื้อ ”

TTB คาดปี 68 กำไรโตต่อ สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วย โบรกแนะ “ซื้อ ”

หุ้นวิชั่น - บล.ฟิลลิป ส่องหุ้น TTB คาดจะมีกำไร 4Q67 5.2 พันลบ. เพิ่มขึ้น 6.4% y-y จากการตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายลดลง แต่คาดลดลง 1% q-q จากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และ รายได้ดอกเบี้ยลดลง เดือน พ.ย. สินเชื่อหดตัว และคาดว่าจะหดตัวต่อในเดือน ธ.ค. และอาจทำให้ระดับ NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นอีกจากสินเชื่อที่หดตัว ถึงแม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้น คาดปี 68 กำไรเติบโตต่อจากระดับการตั้งสำรองที่น่าจะลดลงได้อีก และสิทธิประโยชน์ทางภาษี คงราคาพื้นฐาน 2.18 บาท แนะนำ “ซื้อ” คาดปี 68 กำไรโตต่อ มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วย คงราคาพื้นฐาน แนะนำ “ซื้อ ” คาดปี 68 TTB จะมีกำไรเติบโตอีก 15.3% y-y โดยคาดว่าจะมีกำไร 24 พันลบ. จากคุณภาพสินทรัพย์ที่คาดว่าจะดีขึ้น และทำให้ระดับการตั้งสำรองลดลงได้อีก นอกจากนี้ TTB ยังมีข้อได้เปรียบธนาคารอื่น จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีทำให้ระดับภาษีต่ำกว่า และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้น ทางฝ่ายยังคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 2.18 บาท แนะนำ “ซื้อ”

ttb ร่วมกับ ร.พ.ศิริราช มอบโปรฯ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 7,000 บาท

ttb ร่วมกับ ร.พ.ศิริราช มอบโปรฯ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 7,000 บาท

          ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษคุ้ม 2 ต่อให้กับผู้ถือบัตรเครดิต ttb และบัตรเครดิต ttb Global House ประเภทบุคคลธรรมดา ที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรและมีการชำระเต็มจำนวน ณ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 7,000 บาท พร้อมแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2568           พิเศษคุ้มที่ 1 : รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 7,000 บาท / บัญชีบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ SIC เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งไปที่ 4899777 ยอดใช้จ่าย 20,000 – 49,999 บาท / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 200 บาท ยอดใช้จ่าย 50,000 – 99,999 บาท / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 550 บาท ยอดใช้จ่าย 100,000 – 249,999 บาท / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 1,200 บาท ยอดใช้จ่าย 250,000 บาท ขึ้นไป / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 3,500 บาท           พิเศษคุ้มที่ 2 : แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% เมื่อใช้คะแนนสะสมทุก 1,000 คะแนน และมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 1,000 บาท / เซลล์สลิป โดยสามารถแลกคะแนนสะสมสูงสุด 500,000 คะแนน / บัญชีบัตรหลัก / ตลอดรายการส่งเสริมการขาย เพียงส่ง SMS ทุกครั้งที่ร่วมรายการ พิมพ์ SIBP เว้นวรรค ตามด้วยคะแนนที่ต้องการแลก (ทุก 1,000 คะแนน แต่ไม่เกินยอดใช้จ่าย) เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งไปที่ 4899777 บัตร ttb reserve infinite และ บัตร ttb reserve signature รับเครดิตเงินคืน 12% บัตรเครดิต ttb ประเภทที่มีคะแนนสะสม รับเครดิตเงินคืน 10%           ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชัน ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/siph-jan25           ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิตใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระเงินคืนเต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7%-16% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้ และอนาคต [PR News]

ทีทีบี ชวนส่องฤกษ์ดีปีมะเส็ง เตรียมย้ายเข้าบ้านใหม่ เสริมโชคลาภตลอดปี 2568

ทีทีบี ชวนส่องฤกษ์ดีปีมะเส็ง เตรียมย้ายเข้าบ้านใหม่ เสริมโชคลาภตลอดปี 2568

         หุ้นวิชั่น - สำหรับผู้ที่วางแผนจะซื้อบ้าน หรือตั้งใจจะย้ายเข้าบ้านใหม่ ในปีมะเส็ง 2568 นี้ และต้องการดูฤกษ์งามยามดี เพื่อช่วยเสริมสิริมงคลให้กับผู้อยู่อาศัยในบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข สินเชื่อบ้านทีทีบี ขอนำฤกษ์ดีต้อนรับปีมะเส็ง 2568 มาฝาก เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเจ้าของบ้านให้สามารถเลือกวางแผนย้ายเข้าบ้านใหม่ในแต่ละเดือนได้ ดังนี้ มกราคม  วันที่ 2, 8, 12, 15, 18 และ 24 กุมภาพันธ์  วันที่ 6, 7, 11 และ 23 มีนาคม    วันที่ 13, 16, 20, 23 และ 31 เมษายน   วันที่ 8, 9, 10, 11 และ 16 พฤษภาคม  วันที่ 9, 16 และ 21 มิถุนายน   วันที่ 6, 9, 20 และ 23 กรกฎาคม   วันที่ 11, 16, 25 และ 28 สิงหาคม   วันที่ 8, 9, 22 และ 27 กันยายน     วันที่ 3, 5 และ 20 ตุลาคม   วันที่ 3, 11, 17, 20, 25 และ 31 พฤศจิกายน วันที่ 5, 16, 21 และ 26 ธันวาคม   วันที่ 3, 4, 14 และ 22          นอกจาก “ฤกษ์ดี” ดังกล่าวแล้ว เจ้าของบ้านสามารถใช้ “ฤกษ์สะดวก” ที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตประจำวัน เป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเวลาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 ซึ่งเป็นเลขมงคล หรือเพียงนำสิ่งมงคลเข้าบ้าน เช่น พระพุทธรูป ผสมผสานกับการทำพิธีทำบุญ ไหว้ศาลพระภูมิ หรือเจ้าที่เจ้าทาง รวมถึงการปฏิบัติตนในทางที่ดี ก็ถือเป็นการเสริมสิริมงคลและสร้างกำลังใจให้กับการก้าวเข้าสู่บ้านหลังใหม่ได้เช่นกัน อาทิ ห้ามพูดจาหยาบคาย หรือทะเลาะวิวาท ไม่นำสิ่งของแตกหัก ของเก่าที่ชำรุด หมดอายุ ใช้การไม่ได้เข้าบ้าน และไม่นำต้นไม้ที่มีหนามมาปลูกในบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้หากใครอยากเสริมพลังงานด้วยวัตถุมงคลตามความเชื่อสามารถช่วยเสริมพลังงานบวกให้แก่บ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ของที่มีขนาดใหญ่ เพียงศึกษาความหมายให้ดีก็สามารถนำวัตถุมงคลชิ้นเล็กมาประดับตกแต่งบ้านได้ เช่น โหลปลาทองขนาดเล็ก ที่เสริมพลังมงคลด้านความมั่งคั่ง ร่ำรวย หรือปี่เซียะที่ช่วยเรียกทรัพย์และโชคลาภ          สำหรับผู้ที่มีแผนซื้อบ้านใหม่ในปี 2568 สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการเลือกทำเล หรือโครงการบ้านที่ดี มีมาตรฐานแล้ว ต้องไม่ลืมพิจารณาเรื่องความพร้อมทางการเงิน และความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองด้วย เนื่องจากสินเชื่อบ้านเป็นการกู้ระยะยาว หากเลือกซื้อบ้านที่เกินกำลังความสามารถ จะส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อและผ่อนชำระในอนาคตได้          ปัจจุบัน ทีทีบีมีสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง ที่ตอบโจทย์ให้กับทุกความต้องการของผู้ที่มองหาสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง เพื่อวางแผนเลือกซื้อบ้านและขอสินเชื่อได้ในราคาที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเอง ง่าย ๆ เพียงทำรายการผ่านแอป ttb touch เลือก “สมัครสินเชื่อผ่าน My Credit”  และเลือกสินเชื่อสำหรับ “ซื้อบ้าน” จากนั้นกรอกข้อมูล และทำตามขั้นตอน ภายใน 2 นาที ก็จะทราบวงเงินอนุมัติเบื้องต้นได้แล้ว และหากสนใจสมัครสินเชื่อบ้านกับทีทีบี ก็สามารถสมัครในขั้นตอนต่อไปได้เลย หลังจากสมัครแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับอีกครั้งเพื่ออำนวยความสะดวกในขั้นตอนที่เหลือได้อย่างสบายใจ          ทีทีบีพร้อมเดินหน้ามอบบริการและประสบการณ์ที่ดีเพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย สานฝันการมีบ้านเป็นของตัวเอง พร้อมหนุนให้กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น สนใจสินเชื่อบ้าน ทีทีบี  สอบถามได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ สาขาทีทีบี ทั่วประเทศ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ธนาคาร คลิก https://www.ttbbank.com/link/new-home-pr          ***หมายเหตุ: กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว :  สินเชื่อบ้านใหม่-มือสองอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุ4.939% - 6.648% ต่อปี   โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ปัจจุบัน =7.705% ต่อปี ณ วันที่ 1 พ.ย. 2567 • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด [PR News]

บัตรเครดิต ttb ร่วมกับ ปั๊มบางจาก เติมน้ำมันสุดคุ้ม รับเครดิตเงินคืนตลอดปี 2568

บัตรเครดิต ttb ร่วมกับ ปั๊มบางจาก เติมน้ำมันสุดคุ้ม รับเครดิตเงินคืนตลอดปี 2568

          ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ร่วมกับ ปั๊มน้ำมันบางจาก จัดแคมเปญ “เติมสบาย รับชิล ๆ” ให้กับผู้ถือบัตรเครดิต ttb และบัตรเครดิต ttb Global House ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม ประเภทบุคคลธรรมดา รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5% เมื่อเติมน้ำมันครบ 600 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป ที่ปั๊มน้ำมันบางจากทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2568 บัตรเครดิต ttb reserve infinite และบัตรเครดิต ttb reserve signature จำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุด 30 บาท / ครั้ง สูงสุด 4 ครั้ง หรือ 120 บาท / เดือน และสูงสุด 1,440 บาท / บัญชีบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย บัตรเครดิต ttb และบัตรเครดิต ttb Global House จำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุด 18 บาท / ครั้ง สูงสุด 4 ครั้ง หรือ 72 บาท / เดือน หรือสูงสุด 864 บาท / บัญชีบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย สามารถลงทะเบียนภายในเดือนที่ทำรายการเพื่อรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ BKC เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4899777 ลงทะเบียนเพียงครั้งเดียวรับสิทธิ์ตลอดรายการ สำหรับบัตรเครดิต ttb reserve สามารถรับสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชัน ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/bangchak-jan25 ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิตใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7-16% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้ และอนาคต [PR News]

โบรกเคาะกำไร TTB ที่ 2.13 หมื่นลบ. credit cost ลดฮวบ

โบรกเคาะกำไร TTB ที่ 2.13 หมื่นลบ. credit cost ลดฮวบ

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด 4Q24F กำไร TTB เพิ่มขึ้น y-y ลดลง q-q ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมอง neutral ต่อกำไรสุทธิ 4Q24F คาดที่ 5.10 พันลบ. กำไรเพิ่มขึ้น +5%y-y เพราะค่าใช้จ่ายส ารอง (ECL) ลดลง จาก 4Q23 มีการตั้งสา รองพิเศษเผื่อความไม่แน่นอนในอนาคตก้อนใหญ่ ขณะที่กำ ไรลดลง -3% q-q จากการลดลงของสินเชื่อรวม -0.6% q-q คิดเป็น -6.2% YTD การลดลงของเงินลงทุน (FVTPL) และการเพิ่มขึ้น ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ตามปัจจัยฤดูกาล ด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio คาดที่ 2.80% เพิ่มจาก 2.73% ใน 3Q24 จากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ภาพรวมฝ่ายวิเคราะห์ยังชอบ TTB เพราะ i) มีผลประโยชน์ทางภาษีเหลือจำนวน 1.17 หมื่นลบ. ณ 3Q24 (สามารถใช้ได้ถึงปี 2028) และการตั้งสำรองน้อยลง คาดช่วยหนุนกำไรสุทธิในช่วง 2025-26F ii) ปันผลสูง dividend yield คาด 7% ต่อปี คาดกำไรสุทธิ 4Q24F ที่ 5.10 พันลบ. เพิ่มขึ้น +5%y-y ลดลง -3% q-q ฝ่ายวิเคราะห์คาด 17-21/01/2025 TTB รายงานกำไรสุทธิ4Q24F ที่ 5.10 พันลบ. กำไรเพิ่มขึ้น +5% y-y เพราะค่าใช้จ่ายส ารอง (ECL) ลดลง -50% y-y จาก 4Q23 มีการตั้งสำรองพิเศษเผื่อความไม่แน่นอนในอนาคตก้อนใหญ่ประมาณ 5 พันลบ. ขณะที่กำไรลดลง -3% q-q จาก i) รายได้ดอกเบี้ย (NII) ลดลง -1% q-q จากสินเชื่อหดตัว -6.2% y-y และ -0.6% q-q คิดเป็น -6.2% YTD จากสินเชื่อรายใหญ่ SME และรายย่อย ii) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ลดลง -9% q-q จากเงินลงทุน (FVTPL) ลดลงiii) ค่าใช้จ่ายในการด าเนินงาน (OPEX) เพิ่มขึ้น +3% q-q จากปัจจัยฤดูกาล ด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio คาดอยู่ที่ 2.80% เพิ่มจาก 2.73% ใน 3Q24 จากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิ 2025F เพิ่มขึ้น +2% y-y คาดกำไรสุทธิ 2025F อยู่ที่ 2.13 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น +2% y-y ผลักดันหลักจากการลดลงของ ค่าใช้จ่ายสำรอง (credit cost) จากคาดตั้งสำรองพิเศษเผื่อความไม่แน่นอนในอนาคต         ฝ่ายวิเคราะห์ คงคำแนะนำ BUY และคง TP25F ที่ 2.2 บ. เพราะ i) มีผลประโยชน์ทางภาษีที่เหลือจำนวน 1.17 หมื่นลบ. ณ 3Q24 และการตั้งสำรองน้อยลง คาดช่วยหนุนกำไรสุทธิในช่วง 2025-26F ii) มีปันผลสูง dividend yield คาดที่ 7% ต่อปี

ttb นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายของปี

ttb นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายของปี

          หุ้นวิชั่น - กรุงเทพฯ, 17 ธันวาคม 2567 – ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับลดหย่อนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 นี้ แคมเปญ “เซฟภาษี แบบคุ้มเวอร์ที่ ทีทีบี กับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4  ซื้อผ่าน แอป ทีทีบี ทัช อีกทางเลือกสำหรับลูกค้ากลุ่มคนวัยทำงานที่มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี จ่ายค่าเบี้ยฯ สั้น 4 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี รับเงินคืนทุกปี ปีละ 4% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 และเมื่อครบสัญญาปีที่ 10 รับเงินก้อนโตอีก 404% ของเงินทุนประกันภัย รวมผลประโยชน์ทั้งหมดตลอดสัญญา 440% ของเงินทุนประกันภัย เพื่อลดหย่อนภาษี ได้ทั้งความคุ้มครอง ได้ทั้งลดหย่อนภาษี พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ           ทีทีบี ส่งมอบความคุ้มค่าส่งท้ายปีกับแคมเปญ “เซฟภาษี แบบคุ้มเวอร์ที่ ทีทีบี” กับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 อีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี จ่ายค่าเบี้ยฯ สั้น 4 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี รับเงินคืนทุกปี ปีละ 4% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยไปใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี (เงื่อนไขเป็นไปตามเกณฑ์กรมสรรพากร) พร้อมรับเงินก้อนกรณีเสียชีวิตสูงสุดถึง 404% ของทุนประกันภัย โดยมีโปรโมชันสุดพิเศษมอบตามค่าเบี้ยประกันภัย  พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าพิเศษ เพียงซื้อ 2 ความคุ้มครองคู่ ได้แก่ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 และ ประกันมะเร็ง รับเงินก้อน ทุกระยะ ( ttb all stage cancer ) ผ่าน แอป ทีทีบี ทัช ภายในเดือนเดียวกัน และสมัครหักชำระค่าเบี้ยฯ อัตโนมัติปีถัดไป รับเงินคืน 25% ของค่าเบี้ยประกันมะเร็ง รับเงินก้อน ทุกระยะ ปีแรก           สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 โดยชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบรายปี ปีแรก ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 และมียอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ผ่านแอป ทีทีบี ทัช ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป โดยกรมธรรม์ต้องได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และพ้นระยะเวลาใช้สิทธิ์ยกเลิกกรมธรรม์ (Free-look period) และมีผลบังคับจนถึงวันที่ธนาคารจัดส่งของสมนาคุณ           รายละเอียดเพิ่มเติมทาง https://www.ttbbank.com/link/10-4-pr-pro           นอกจากประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ที่ซื้อผ่าน แอป ทีทีบี ทัชแล้ว ยังมีประกันอื่น ๆ เพื่อลดหย่อนภาษี ได้ทั้งความคุ้มครอง ได้ทั้งลดหย่อนภาษี พร้อมรับโปรโมชันพิเศษ รับเงินคืนสูงสุด 31% เพียงซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์เพื่อออมทรัพย์ หรือประกันชีวิตเพื่อการเกษียณ ที่ร่วมรายการที่ ทีทีบี ทุกสาขา           สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.ttbbank.com/link/tax-pro -  เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด และไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดในกรมธรรม์ -  ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง -  รับประกันชีวิตโดย บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต รับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น [PR News]

บัตรเครดิต ttb จัดดีลพิเศษรับ iPhone 16 แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 36 เดือน

บัตรเครดิต ttb จัดดีลพิเศษรับ iPhone 16 แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 36 เดือน

           ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มสำหรับผู้ถือบัตรแครดิต ttb และบัตรกดเงินสด ttb เมื่อซื้อ iPhone 16 รับสิทธิ์แบ่งชำระ 0% ได้นานสูงสุดถึง 36 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 18,000 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทุกประเภทบัตร ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 – 31 ม.ค. 2568 (ระยะเวลาโปรโมชันของแต่ละร้านแตกต่างกัน)            สำหรับการชำระเต็มจำนวน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท / เดือน เฉพาะที่ AIS Shop ทุกสาขา และสำหรับการแบ่งชำระ 0% pay plan เมื่อซื้อ iPhone 16 ทุกรุ่นที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข ที่ ร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืน 4% ที่ True Shop (DTAC in True Shop), True Store Online, dtac online store, Studio7, BaNANA, KingKong Phone, BKK, True by Double 7 สาขาที่ร่วมรายการ และทางออนไลน์ studio7thailand.com และ www.bnn.in.th รับเครดิตเงินคืน 3% ที่ iStudio, U Store, Ai_, .life by copperwired, iStudio, iBeat, U Store, mobi by SPVI, iStudio, iBeat, U Store by Uficon, Advice สาขาที่ร่วมรายการ และทางออนไลน์ istudio.store, www.istudiobyspvi.com และ www.uficon.com รับเครดิตเงินคืน 2% ที่ Jaymart, TG, IT City | CSC และI.B สาขาที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4,000 บาท / เดือน ที่ Apple Store และ Apple Store Online            นอกจากนี้แลกคะแนนเพื่อรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้คะแนนสะสมทุก 1,000 คะแนน และทำรายการแบ่งชำระ 0% pay plan โดยทำรายการแบ่งชำระตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และแลกคะแนนไม่เกินยอดใช้จ่าย โดยจำกัดการแลกคะแนนสะสมสูงสุด 100,000 คะแนน / บัญชีบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย บัตรเครดิต ttb reserve รับเครดิตเงินคืน 15% บัตรเครดิต ttb อื่น ๆ ประเภทที่มีคะแนนสะสม และบัตรเครดิต ttb Global House รับเครดิตเงินคืน 12%            ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7%-16% ต่อปี และลูกค้าบัตรกดเงินสด กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีทั้งในวันนี้ และอนาคต            ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชันนี้ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/ip16-nov24 [PR News]

ttb reserve มอบประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษเพื่อลูกค้าคนสำคัญ

ttb reserve มอบประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษเพื่อลูกค้าคนสำคัญ

          ttb reserve มอบประสบการณ์สุดพิเศษเฉพาะลูกค้าคนสำคัญที่ถือครองบัตรเครดิต ttb reserve infinite และ ttb reserve signature  ที่นำคะแนนสะสมมาแลกรับสิทธิ์ในการรับประทานอาหารที่ร้าน “ฟุ้ง” (Foong) ร้านอาหารไทยแนว Home Cooking ย่านทองหล่อ อาหารไทยสูตรโบราณกับรสชาติที่อร่อยลงตัว เสิร์ฟแบบเป็นสำรับกับเมนูที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ ในบรรยากาศร้านสบาย ๆ อบอุ่น เอกสิทธิ์สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ttb reserve ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับเติมเต็มความสุขในทุกด้านเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ณ “ร้านฟุ้ง” ซ.ทองหล่อ เมื่อเร็วๆ นี้           สำหรับลูกค้าคนสำคัญของบัตรเครดิต ttb reserve สามารถติดตามประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษแบบนี้ได้เรื่อย ๆ เพื่อสรรหาร้านอาหาร Fine Dining หรือร้านอาหารจองยาก มาให้ลูกค้าคนสำคัญได้จับจองที่นั่งเพื่อลิ้มลองอาหารรสเลิศอีกมากมาย [PR News]

บัตรเครดิต ttb มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 19%

บัตรเครดิต ttb มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 19%

          ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ร่วมกับ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดแคมเปญพิเศษ “Siam Paragon 19th Anniversary” มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ให้ใช้จ่ายอย่างสุดคุ้มส่งท้ายปี 2567 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 19% เมื่อใช้คะแนนสะสมแลกเท่ายอดใช้จ่าย สำหรับบัตรหลักประเภทมีคะแนนสะสม เท่านั้น  ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2567 – 10 ธ.ค. 2567 ดังนี้ บัตรเครดิต ttb reserve infinite รับเครดิตเงินคืน 19% บัตรเครดิต ttb reserve signature รับเครดิตเงินคืน 15% บัตรเครดิต ttb อื่น ๆ ประเภทที่มีคะแนนสะสม และบัตรเครดิต ttb Global House รับเครดิตเงินคืน 12% จำกัดการแลกคะแนนสะสมเพื่อรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50,000 คะแนน / หมายเลขบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย   รับสิทธิ์: ณ Information Counter ตามเวลาทำการของศูนย์การค้าภายในวันที่ซื้อสินค้า เท่านั้น ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชันนี้ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/siamparagon-dec2 ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7%-16% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีทั้งในวันนี้ และอนาคต

ทีทีบีไดรฟ์ จัดโปรดีส่งท้ายปีในงาน Motor Expo 2024 ช่วย

ทีทีบีไดรฟ์ จัดโปรดีส่งท้ายปีในงาน Motor Expo 2024 ช่วย

          หุ้นวิชั่น - ทีทีบีไดรฟ์ โดยทีเอ็มบีธนชาต จัดโปรโมชันพิเศษเอาใจคนอยากซื้อรถยนต์ใหม่ส่งท้ายปี ภายในงาน Motor Expo 2024 เมื่อออกรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และจัดสินเชื่อรถยนต์ใหม่กับ ทีทีบีไดรฟ์ พร้อมเปิดบัญชี ttb all free และสมัครเข้าใช้งาน แอป ttb touch รับส่วนลดช่วยผ่อนชำระค่างวดสินเชื่อรถยนต์ สูงสุด 3,000 บาท (เฉพาะแบรนด์และรุ่นย่อยที่ร่วมรายการจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการเท่านั้น) พิเศษขึ้นอีก เมื่อสมัครสินเชื่อผ่านฟีเจอร์ My Credit บนแอป ttb touch ซึ่งสามารถรู้วงเงินเบื้องต้นก่อนออกรถใหม่ภายใน 2 นาที รับของสมนาคุณ ฟรี Power Bank สีดำ ขนาดความจุ 10,000 mAh  มูลค่า 990 บาท ที่บูททีทีบีไดรฟ์ ภายในงาน Motor Expo 2024  ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. 2567 – 10 ธ.ค. 2567 โดยสินเชื่อต้องได้รับการอนุมัติสัญญาและรับรถยนต์ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/motor-expo-2024 และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ได้ที่ www.ttbbank.com หรือ ttb contact center 1428 และ www.facebook.com/ttbDRIVE ทีทีบีไดร์ฟเป็นมากกว่าสินเชื่อรถยนต์ มุ่งส่งเสริมให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น และสนับสนุนให้กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว โดยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ 5.21% - 10.00% ต่อปี

ttb มอบสิทธิ์สุดคุ้ม เติมเต็มทุกการท่องเที่ยวส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท

ttb มอบสิทธิ์สุดคุ้ม เติมเต็มทุกการท่องเที่ยวส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท

           หุ้นวิชั่น - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษให้ผู้ถือบัตรเครดิต ttb so fast, ttb so smart, ttb so chill และบัตรเครดิต ttb Global House เปิดโลกกว้างเติมเต็มทุกการท่องเที่ยวส่งท้ายปี 2567 กับแคมเปญ “Explore Your World” รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท เมื่อสะสมยอดใช้จ่าย ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป สำหรับการท่องเที่ยว 3 หมวด ได้แก่ สายการบิน หรือโรงแรมที่พักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชำระโดยตรงที่ร้านค้าหรือเว็บไซต์ (ไม่รวมการจองผ่าน Online Travel Agent) ร้านค้าปลอดภาษีที่ King Power ทั้งที่สาขาและออนไลน์ (สกุลเงินบาทเท่านั้น) ยอดใช้จ่ายในต่างประเทศ ทุกร้านค้าที่เป็นการชำระผ่านเครื่อง EDC และเป็นสกุลเงินต่างประเทศทุกสกุลเงิน (ไม่รวมเงินบาท) และมียอดใช้จ่ายสะสม / หมวด ตลอดรายการ ขั้นต่ำ 10,000 บาท           ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ TVL เว้นวรรค แล้วตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4899777 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธ.ค. 2567 เท่านั้น            สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ที่มีคะแนนสะสม รับสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้น โดยแลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนนสะสมทุก 1,000 คะแนน และไม่เกินยอดใช้จ่าย เพียงส่ง SMS แลกคะแนนทุกครั้งที่ทำรายการ พิมพ์ TVLP ตามด้วยคะแนนที่ต้องการแลก เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4899777

เรื่องควรรู้! ก่อนออกรถยนต์มือสอง

เรื่องควรรู้! ก่อนออกรถยนต์มือสอง

          หุ้นวิชั่น - อยากมีรถ แต่งบไม่พอถอยป้ายแดง! รถยนต์มือสองก็ตอบโจทย์ได้ เพราะมีข้อดีอยู่หลายเรื่อง ทั้งราคาเข้าถึงได้ง่าย และมีตัวเลือกหลากหลายให้เลือกได้ตามช่วงราคาที่ผู้ซื้อต้องการ เพียงแต่การซื้อรถมือสองต้องศึกษารายละเอียดข้อมูลให้ถี่ถ้วนเพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า วันนี้ fintips by ttb (Backlink: https://www.ttbbank.com/link/fintips-pr) จะมาแนะนำเรื่องการเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่ายให้พร้อมก่อนการออกรถมือสอง          เอกสารที่ใช้ในการออกรถมือสองมีดังนี้ ·      สำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อ ·      สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ ·      เอกสารยืนยันการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ·      สำเนาทะเบียนรถยนต์เดิม ·      หนังสือสัญญาซื้อขาย             ขั้นตอนการซื้อรถมือสอง ·      ตรวจสอบทะเบียนรถก่อนซื้อ : เช็กประวัติรถ ภาระผูกพัน และความถูกต้องของเอกสาร เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ·    ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด : นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ประเมินสภาพรถได้อย่างแม่นยำ และหลีกเลี่ยงการโดนหลอกขายรถมือสองที่อาจมีปัญหาแอบแฝง ·      ตกลงราคาและรูปแบบการชำระเงิน : เจรจาต่อรองราคาและเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมกับเรา ·      ยื่นขอสินเชื่อ (กรณีผ่อนชำระ) : หากต้องการใช้บริการสินเชื่อ ให้เตรียมเอกสารให้พร้อม และยื่นขอกับสถาบันการเงินที่เลือก ·      ทำสัญญาซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ : ตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาอย่างละเอียดก่อนลงนาม ·      ชำระเงินและรับรถ : เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ทำการชำระเงินตามที่ตกลงและรับมอบรถ           ค่าใช้จ่ายออกรถมือสองแบบเงินสด สำหรับคนที่มีเงินพร้อม และต้องการซื้อรถมือสองแบบเงินสด มาดูค่าใช้จ่ายการออกรถมือสองที่ต้องเตรียมกัน ·      ค่าโอนรถยนต์มือสอง (ค่าโอนกรรมสิทธิ์) ค่าโอนรถยนต์มือสองเป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กรมการขนส่งทางบกเพื่อโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ซึ่งคิดตามอายุรถและขนาดเครื่องยนต์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2-4%ของราคาประเมินรถยนต์ ·      ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% โดยหากเราออกรถมือสองจากเต็นท์รถจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม7% ของราคารถ แต่หากซื้อจากบุคคลทั่วไป จะไม่ต้องเสียภาษีส่วนนี้ ·      ค่าภาษีรถยนต์, พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันรถยนต์ ค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์และพ.ร.บ. เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอ เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เช่น -              ภาษีรถยนต์ประจำปี ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์และอายุรถ -              พ.ร.บ. รถยนต์ ประมาณ 600-1,000 บาทต่อปี -              ประกันภัยรถยนต์ ราคาแตกต่างกันตามประเภทและความคุ้มครอง             ค่าใช้จ่ายออกรถมือสองผ่านไฟแนนซ์ หรือขอสินเชื่อ สำหรับคนที่เลือกออกรถมือสองผ่านไฟแนนซ์ จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์มือสองเพิ่มเติมดังนี้ ·    ค่าจองรถ (ในระหว่างที่ตรวจสอบเครดิต) การออกรถมือสองจะมีค่าจองรถ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายแรกที่ต้องชำระเมื่อเราตกลงใจซื้อรถยนต์ เพื่อให้เต็นท์รถหรือผู้ขายรักษารถไว้ให้เราในระหว่างที่ทำการตรวจสอบเครดิต โดยมักเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก ประมาณ 5,000-10,000 บาท ·      เงินดาวน์รถ ดาวน์รถยนต์มือสองโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10-25% ของราคารถ ซึ่งข้อดีการวางเงินดาวน์ออกรถสูง คือ ยิ่งดาวน์มาก ยอดจัดไฟแนนซ์ก็จะน้อยลง ส่งผลให้ค่างวดต่ำลงด้วย ทำให้มีภาระทางการเงินน้อยลงในระยะยาว ·      ค่าดำเนินการของไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์มือสอง จะมีค่าธรรมเนียมที่อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงิน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1-2% ของวงเงินสินเชื่อ ซึ่งค่าดำเนินการนี้จะครอบคลุมถึงค่าตรวจสอบประวัติเครดิต, ค่าประเมินราคารถยนต์, ค่าดำเนินการเอกสารสัญญา และ ค่าบริการจัดทำประกันภัยรถยนต์ (ถ้ามี) บางสถาบันการเงินอาจเรียกเก็บแบบเหมาจ่าย หรือคิดตามอัตราที่กำหนด ดังนั้น ควรสอบถามรายละเอียดค่าธรรมเนียมก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการสินเชื่อ เพื่อเปรียบเทียบและวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม ·      ค่าภาษีรถยนต์, พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันรถยนต์ เจ้าของรถจะต้องเสียภาษีรถยนต์ รวมถึงต่อทั้งพรบ. หรือประกันภัยรถยนต์ เป็นประจำทุกปี ค่าประกันรถยนต์เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์มือสองที่ไม่ควรมองข้าม เพราะประกันรถยนต์จะคุ้มครองเราจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น เช่น อุบัติเหตุ การโจรกรรม หรือความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจต้องแบกรับในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น สำหรับการออกรถมือสอง การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมจะต้องคำนึงถึงอายุของรถ สภาพการใช้งาน และความคุ้มครองที่ต้องการ โดยปกติแล้วประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อรถยนต์ของเราหรือรถของคู่กรณี รวมถึงการคุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ หากรถมือสองของเรามีอายุการใช้งานที่มากขึ้น ประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณมากกว่า ·      ค่าดอกเบี้ยจากสินเชื่อและภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน และปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุรถ ระยะเวลาผ่อน และประวัติเครดิตของผู้กู้ โดยทั่วไป เช่น -                       อัตราดอกเบี้ยสำหรับรถยนต์มือสองมักสูงกว่ารถใหม่เล็กน้อย -                       ระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้นอาจส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น -                       ประวัติเครดิตที่ดีอาจช่วยให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ปัจจุบันรถมือสองส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพดี หากรู้แหล่งหรือวิธีเช็กสภาพรถก็สามารถจะได้รถมือสองที่สภาพเหมือนใหม่ หรือมีการใช้งานเพียงเล็กน้อยมาใช้งานต่อได้ด้วย ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสองก็คือ การศึกษาข้อมูล เลือกแหล่งซื้อรถมือสองที่ได้มาตรฐาน และตรวจสภาพรถก่อนตัดสินใจซื้ออย่างละเอียด หากใครที่กำลังมองหาสินเชื่อเพื่อซื้อรถมือสอง สินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE มีบริการสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ที่มีบริการจัดไฟแนนซ์ให้ถึงที่ รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไวภายใน 30 นาที พร้อมวงเงินที่ครอบคลุมราคารถยนต์ใช้แล้วที่ต้องการสูงสุด 100% จากราคาประเมินของธนาคาร นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 84 เดือน ผ่อนได้สบายตามใจต้องการ

TTB ชู 4 สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม ซื้อประกัน-กองทุน ในเทศกาลลดหย่อนภาษี ปี 67

TTB ชู 4 สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม ซื้อประกัน-กองทุน ในเทศกาลลดหย่อนภาษี ปี 67

หุ้นวิชั่น - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำความคุ้มค่าของการเป็นลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี ด้วย 4 ข้อเสนอสุดคุ้มในช่วงโค้งสุดท้ายของปีแบบดีเวอร์! กับแผนการลงทุนทั้งในรูปของประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันบำนาญ กองทุน SSF และ RMF เพื่อสิทธิในการลดหย่อนภาษีประจำปี 2567 โดยทีทีบีได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 บนแอป ttb touch และกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี รับสิทธิประโยชน์สุดคุ้ม ได้แก่ รับของสมนาคุณมากมายมูลค่าสูงสุด 48,900 บาท เช่น iPhone 16 Pro Max, Apple Watch Series 10, Samsung SM-R861NZKAASA Galaxy Watch, Cash Back ฯลฯ เพียงซื้อประกันสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ประกันชีวิตที่ช่วยออมเงินและวางแผนชีวิตเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคตให้กับตัวเอง จ่ายเบี้ยเพียง 4 ปี แต่คุ้มครองนานถึง 10 ปี และสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี โดยซื้อผ่านแอป ttb touch และชำระเบี้ยประกันชีวิตรายปี (ปีแรก) เริ่มต้นที่ 20,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 31 ธันวาคม 2567 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/pr104 รับเงินคืนสูงสุด 25% ของค่าเบี้ยประกันมะเร็ง รายปี (ปีแรก) เมื่อซื้อ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 คู่กับประกันมะเร็ง ที่คุ้มครองมะเร็งทุกประเภท ทุกระยะ เจ็บป่วยไม่กระทบเงินออม และยังลดหย่อนภาษีได้ เพียงซื้อผ่านแอป ttb touch ภายในเดือนเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 31 ธันวาคม 2567 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/prcancer รับเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) จำนวน 100 บาท ตลอดปี 2567 เมื่อซื้อหรือสับเปลี่ยนลงทุนทุก ๆ 50,000 บาท เข้ากองทุน RMF / SSF ของบลจ. 5 แห่งที่เข้าร่วมโปรโมชัน หรือโอนกองทุน LTF จากบลจ. อื่นเข้ากองทุน LTFของบลจ. 4 แห่งที่เข้าร่วมโปรโมชัน หรือซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน Thai ESG ของบลจ. EASTSPRING และ UOBAM รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/prssf รับเงินคืนเพิ่ม 1% ของค่าเบี้ยประกัน เมื่อซื้อประกันชีวิตลดหย่อนภาษีของพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) แบบรายปี พร้อมกับกองทุนลดหย่อนภาษี SSF / RMF/ ttb smart port / Thai ESG ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ภายในเดือนเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2567 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/prtaxsaving           ทีทีบีเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่าจากการลงทุน ช่วงเวลานี้จึงนับเป็นมหกรรมลดหย่อนภาษีส่งท้ายปีที่ได้ทั้งความคุ้มครองและความคุ้มค่าที่จะช่วยเซฟภาษีให้คุ้มเวอร์! จัดพิเศษสำหรับลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี เท่านั้น โดยคัดสรรประกันที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่มากกว่า หรือกองทุนที่มีผลประกอบการดีและเหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้ ซึ่งทีทีบีมุ่งมั่นเสริมสร้างวินัยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้าน ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง รายละเอียดและสิทธิประโยชน์สำหรับพนักงานที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี ที่สนใจวางแผนลดหย่อนภาษี สอบถามข้อมูลได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ttb contact center 1428

ทีทีบี แก้โลกร้อนเวที COP29 มุ่งส่งเสริมธุรกิจคาร์บอนต่ำ

ทีทีบี แก้โลกร้อนเวที COP29 มุ่งส่งเสริมธุรกิจคาร์บอนต่ำ

          หุ้นวิชั่น –  ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เป็นหนึ่งในภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมในงานประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) โดยมีนายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมเป็นวิทยากรงานเสวนาในกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) การประชุมรัฐภาคีฯ หัวข้อ “Financing the Transition" นำเสนอในเรื่อง "Empowering SMEs and Sustainable Development through Green and Blue Financing" ซึ่งทีทีบีให้ความสำคัญและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าตามเป้าหมาย Net-zero Commitment ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ           นายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายเร่งด่วนที่สุดของโลกในปัจจุบัน ซึ่งทีทีบีตระหนักถึงบทบาทสำคัญและความรับผิดชอบ พร้อมนำความสามารถมาสร้างโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน เพราะบทบาทของธนาคารไม่ใช่การนำพาองค์กรไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยทีทีบีมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนในการดำเนินงานเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero Economy) ผ่านการให้สินเชื่อ ให้คำปรึกษาลูกค้า และสนับสนุนบนเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน ทีทีบีมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามกรอบ B+ESG ทุกกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและยั่งยืน เพราะธุรกิจ (Business) หรือ B ต้องเติบโตอย่างแข็งแรง ทีทีบีจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืนเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยนำกฎเกณฑ์ด้าน ESG มาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อและการลงทุน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มุ่งเน้นส่งเสริมด้าน ESG ให้กับลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล เช่น สินเชื่อสีเขียว สินเชื่อสีฟ้า สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืน ตราสารหนี้สีเขียว ตราสารหนี้สีฟ้า กองทุุนเพื่อการลงทุุนด้าน ESG และยังมีบริการให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาด้าน ESG ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ พร้อมมีเป้าหมายช่วยเหลือลูกค้าให้มีความเข้าใจและสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน ESG เพื่อให้ลูกค้ามีความรับผิดชอบและเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ภายในงาน นายกมลพันธ์ ได้กล่าวถึงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านว่า “ธนาคารได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากกฎกติกาต่าง ๆ ที่จะบังคับใช้ในอนาคต เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM-Carbon Border Adjustment Mechanism) ประกอบกับการวิเคราะห์พอร์ทสินเชื่อของลูกค้าตามความเสี่ยงของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เพื่อวางแผน จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วม และสร้างเกราะป้องกันให้กับลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้น โดยทีทีบีจะจัดหาพันธมิตรด้านโซลูชันทางเทคนิคสำหรับการลดใช้พลังงาน การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เป็นต้น และในปี 2567 ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน Green Transformation เพื่อช่วยสนับสนุนทางการเงินและส่งเสริมการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน           “จากการรวมปัจจัยด้าน ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้คำปรึกษาและการอนุมัติสินเชื่อตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารเห็นถึงความสนใจในสินเชื่อ ESG ที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า โดยตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจของทีทีบีได้สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นและแก้ปัญหาให้ผู้คนอย่างแท้จริง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตอกย้ำความสำเร็จจากรางวัลด้านความยั่งยืนที่ธนาคารได้รับมาต่อเนื่อง สะท้อนชัดถึงการลงมือทำอย่างแท้จริงของธนาคารในการขับเคลื่อนสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” นายกมลพันธ์ กล่าวสรุป

ส่องมูลค่า TTB-TCAP ดีลซื้อ TNS และ T-Leasing ปังไหม? 

ส่องมูลค่า TTB-TCAP ดีลซื้อ TNS และ T-Leasing ปังไหม? 

             หุ้นวิชั่น- บทวิเคราะห์บล.ดาโอระบุว่า TTB เตรียมซื้อ TNS จาก TCAP และจะซื้อ T-Leasing จาก MBK TTB แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายในการซื้อขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (TNS) โดยปัจจุบัน TNS มีผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ TCAP จำนวน 2,698,959,721 หุ้น หรือคิดเป็น 89.97% และ TTB ถือหุ้นจำนวน 300,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 10% เนื่องจากเล็งเห็นว่าการเข้าถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทหลักทรัพย์ธนชาตจะช่วยส่งเสริมศักยภาพด้าน Wealth Ecosystem และความสามารถในการแข่งขันของธนาคารฯ นอกจากนี้ TTB ยังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายในการซื้อขายหุ้นของบริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด (T-Leasing) โดยปัจจุบัน T-Leasing มีผู้ถือหุ้นหลัก คือ T-Leasing จำนวน 239,999,998 หุ้น หรือคิดเป็น 100% โดยเล็งเห็นถึงศักยภาพของ T-Leasing ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และต่อยอดแพลตฟอร์ม Car Ecosystem ให้มีบริการเช่าซื้อที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นโอกาสใน Cross Sell สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไปยังฐานลูกค้ากลุ่มพนักงานเงินเดือนที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Payroll Ecosystem ซึ่งปัจจุบันธนาคารฯ มีฐานลูกค้ากลุ่มนี้กว่า 1 ล้านราย ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่มพนักงานเงินเดือนถือเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพและความเสี่ยงต่ำสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ (ที่มา: TTB, TCAP, MBK)             บล. ดาโอ มีมุมมองเป็นกลางต่อดีลดังกล่าว เพราะยังไม่ทราบราคาซื้อ-ขาย โดยยังคงต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและรอการทำ Due-diligence ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกราว 1 ปี โดยจากการสอบถาม TTB ยังไม่สามารถบอกข้อมูลอะไรได้มาก แต่ทั้ง 2 ดีลจะใช้เงินลงทุนจากภายในและไม่มีผลต่อการจ่ายเงินปันผล โดย 1) ดีลซื้อ TNS เราคาดว่า TTB จะใช้เงินในการเข้าซื้อราว 3.47 พันล้านบาท (อ้างอิงจากส่วนของผู้ถือหุ้นของ TNS ใน 1H24) หากซื้อขายที่ระดับ 1x PBV (เทียบเท่า BAY ซื้อ CNS ที่ 1x PBV) ซึ่งจะส่งผลให้ TCAP มีโอกาสได้กำไรพิเศษจากการขายที่ราว +183 ล้านบาท (อิงมูลค่าเงินลงทุนที่ 3.22 พันล้านบาท โดยหักภาษี 20% และคิดตามสัดส่วนถือหุ้นที่ 90%) หรือคิดเป็น +2.5% ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E แต่จะมี downside ต่อกำไรสุทธิที่จะหายไปราว -2.3% เพราะไม่สามารถรับรู้กำไรจาก TNS อีกแล้วหลังจากการขาย 2) ดีลซื้อ T-Leasing เราคาดว่า TTB จะใช้เงินในการเข้าซื้อราว 2.92 พันล้านบาท (อ้างอิงจากส่วนของผู้ถือหุ้นของ T-Leasing ใน 2023) หากซื้อขายที่ระดับ 1x PBV (อิงผู้ประกอบการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์อย่าง NCAP ที่ 0.6x PBV และ S11 ที่ 0.5x PBV)           TTB จะใช้เงินลงทุนภายในและไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผล หากเป็นไปตามที่เราคาด TTB จะใช้เงินลงทุนใน 2 ดีลนี้ราว 6.39 พันล้านบาท ซึ่งเราคาดว่าจะกระทบจาก Tier-1 ที่ -0.5% เหลือ 16% ซึ่งเป็นการลดลงเพียงเล็กน้อยและทำให้เชื่อว่า TTB จะสามารถจ่ายเงินปันผลในระดับสูงต่อเนื่องได้ ขณะที่ TTB จะมี upside ต่อประมาณกำไรในปี 2025E ที่ราว +1.1% หรือราว 226 ล้านบาท (อิงกำไรสุทธิของ TNS ที่ราว 190 ล้านบาท อิงกำไรสุทธิ 1H24 ที่ 95 ล้านบาท และ T-Leasing มีกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 36 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี ดีลทั้ง 2 ยังอยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งก็มีโอกาสที่จะไม่เกิดขึ้นได้             TTB ยังคงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 2.00 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.80x (-0.75SD below 10-yr average PBV) แต่มองระยะยาวจะได้ประโยชน์จากดีลนี้ในการ Cross-selling ในเครือได้อย่างเต็มที่            TCAP ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 60.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.82x (-0.25SD below 10-yr average PBV) มองระยะสั้นดีลนี้มีโอกาสจะได้กำไรพิเศษเข้ามาช่วยหนุน

TTB ชวนออมโค้งสุดท้ายกับทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี

TTB ชวนออมโค้งสุดท้ายกับทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี

          กรุงเทพฯ, 5 พฤศจิกายน 2567 - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ชวนลูกค้าต่อยอดความมั่งคั่งช่วงโค้งสุดท้ายของปี กับบัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ล็อกดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป รับของสมนาคุณตามยอดเงินฝากที่ธนาคารกำหนด  โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567           ทีทีบี พร้อมนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคนสำคัญ เพื่อให้ลูกค้าได้ต่อยอดความมั่งคั่งช่วงโค้งสุดท้ายของปี สำหรับลูกค้า ที่เลือกออมกับทีทีบีตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ในผลิตภัณฑ์บัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ล็อกดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี ลูกค้าจะได้รับเอกสิทธิ์เหนือระดับที่ธนาคารเสนอให้ ได้แก่ 1) ฝากระยะสั้นเพียง 7 เดือน รับดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 1 พ.ย. 67) 2) รับฟรีของขวัญสุดพิเศษ iPhone 16 pro มูลค่าสูงสุด 43,900 บาท เมื่อมียอดเงินฝากตามที่กำหนด หรือรับของขวัญสุดพิเศษตามยอดเงินฝาก เมื่อฝากเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป           สำหรับลูกค้าที่ร่วมโปรโมชันพิเศษ ผลิตภัณฑ์บัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน จะได้รับของขวัญดังนี้ ยอดเงินฝากตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป รับบัตรของขวัญ Starbucks Card มูลค่า 500 บาท ยอดเงินฝากตั้งแต่ 50,000,000 บาทขึ้นไป รับ Apple Watch Series 10 รุ่น GPS + CELLULAR มูลค่า 18,900 บาท ยอดเงินฝากตั้งแต่ 100,000,000 บาทขึ้นไป รับ iPhone 16 Pro 6.3 นิ้ว 256 GB มูลค่า 43,900 บาท (1 สิทธิ์/ ท่าน ตลอดเวลาโปรโมชัน) โดยให้ของขวัญมูลค่าตามยอดรวมเงินฝากที่มีมูลค่าสูงสุดภายในระยะเวลาโปรโมชัน 1 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67) พิเศษยิ่งขึ้น เพียงฝากเงินเพิ่ม หรือมียอดรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินกับธนาคารตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป รับสิทธิ์สมัครบัตรเครดิต ttb reserve เอกสิทธิ์เหนือระดับสำหรับลูกค้า Wealth พร้อมรับฟรีคะแนนสะสมประจำปีสูงสุด 180,000 คะแนน เมื่อมียอดรวมทุกผลิตภัณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนด เงื่อนไข อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและการพิจารณาบัตรเครดิตเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด (ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7% - 16% ต่อปี) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ทีทีบีทุกสาขา หรือที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนของท่าน หรือ ttb reserve line 02-010-1428 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม  คลิก https://www.ttbbank.com/link/pr/ttbreserve/tdboosterplus สนใจเปิดบัญชีผ่านแอป ttb touch https://www.ttbbank.com/link/ttbreserve/openacc/td7m อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร https://www.ttbbank.com/th/rates/deposit-interest-rates อัตราดอกเบี้ยตามประกาศ ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 (เปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของธนาคาร) เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สามารถเรียกดูข้อมูลผลิตภัณฑ์และประกาศอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ทางเว็บไซต์ธนาคาร ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงธนาคารจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร [PR News]

TTB ทำยังไงกันดี? ปีหน้ากำไรมีแววหดตัว

TTB ทำยังไงกันดี? ปีหน้ากำไรมีแววหดตัว

           หุ้นวิชั่น-บล.ดาโอ ปรับคำแนะนำ TTB ลงเป็น “ถือ” และปรับราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 2.00 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.80x (-0.75SD below 10-yr average PBV) จากเดิมที่ 2.20 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.85x (-0.50SD below 10-yr average PBV) จากการปรับกำไรและ PBV ลง โดยมีมุมมองเป็นลบจากการประชุมนักวิเคราะห์เพราะแนวโน้มสินเชื่อที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ยาก โดย 9M24 หดตัวถึง -5.6% YTD ซึ่งท้าทายกับเป้าหมายที่ทรงตัว YoY ประกอบกับสำรองฯเพิ่มขึ้น (9M24 ที่ 160bps) มากกว่าเป้าหมาย (125-135bps) และยังไม่เห็นสัญญาณของการกลับมาที่ระดับปกติตามเป้าหมายได้            แต่ผู้บริหารมีความตั้งใจจะจ่าย Dividend Payout เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรสุทธิ 3Q24 อยู่ที่ 5.23 พันล้านบาท (+11% YoY, -2% QoQ) เป็นไปตามที่ตลาดและเราคาด โดยมีผลประโยชน์ทางภาษีเข้ามาช่วย +64 ล้านบาท จาก 3Q23 ที่จ่ายภาษีที่ -1.1 พันล้านบาท ส่วน NPL อยู่ที่ 2.73% เพิ่มขึ้นจาก 2Q24 ที่ 2.64% เพราะสินเชื่อลดลง -5.6% YTD            ขณะที่มูลค่า NPL ทรงตัว QoQ โดยมีการ write-off NPL ที่ 5.5 พันล้านบาท และขาย NPL อีก 900 ล้านบาท เรามีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E-2025E ลง -1-5% จากการปรับสินเชื่อและ NIM ลดลง แต่ปรับ Credit cost เพิ่มขึ้น ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2024E/2025E อยู่ที่ 2.08/2.12 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +13%/+2% YoY ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2024E อยู่ที่ 2.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +13% YoY ส่วนกำไรสุทธิปี 2025E อยู่ที่ 2.06 หมื่นล้านบาท กลับมาหดตัวที่ -1% YoY ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -9% เมื่อเทียบกับ SET ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ SET เพราะไม่เห็นการเติบโตของกำไรในปี 2025E            ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PBV ที่ 0.78x แพงกว่ากลุ่มที่ 0.68x แต่ยังมี Dividend yield ราว 7% เราจึงปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ”

TTB รายงานกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 โต 17% แม้เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจ

TTB รายงานกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 โต 17% แม้เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจ

          ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2567 ด้วยกำไรสุทธิ 15,919 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% YoY แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง และการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพช่วยหนุนผลการดำเนินงาน           ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)หรือ TTB รายงานผลประกอบการ 9 เดือนปี 2567 ความไม่แน่นอนและปัญหาในเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจยังคงปกคลุมปัจจัยการเติบโตของธุรกิจ ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) มีโครงสร้างธุรกิจที่เปลี่ยนไปยังลูกค้ารายย่อยมากขึ้นหลังการรวมกิจการ ดังนั้นการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยนี้จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร ทีทีบียังคงดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่รอบคอบผ่านกลยุทธ์การเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวัง การปรับโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินให้มีความเหมาะสม รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ           ส่งผลให้ผลประกอบการรอบ 9 เดือน ปี 2567 ยังคงปรับตัวดีขึ้น ด้วยกำไรสุทธิ 15,919 ล้านบาท (+ร้อยละ 17 YoY) หนุนโดย NIM ที่ยังขยายตัวได้ ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่าย รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่บริหารจัดการได้ดี นอกเหนือจากกลยุทธ์การปรับโครงสร้างของสินเชื่อและเงินฝากให้มีความเหมาะสมแล้ว ทีทีบียังมีการปรับพอร์ตการลงทุนรวมถึงพอร์ตตราสารหนี้และเงินกู้ยืมของธนาคารให้สอดคล้องกับสภาวะดอกเบี้ยที่กำลังเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยหนุนการเติบโตของ NIM สำหรับด้านรายได้ค่าธรรมเนียม ธนาคารเห็นการฟื้นตัวที่ดีของค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อใหม่ อย่างค่าธรรมเนียมกองทุนรวมและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต แม้ว่าสินเชื่อโดยรวมลดลง การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนสูงยังคงเพิ่มขึ้นได้ดีตามแผนกลยุทธ์การปรับโครงสร้างสินเชื่อ ขณะที่การหดตัวของเงินรับฝากเป็นไปตามแผนการบริหารสภาพคล่องและต้นทุนทางการเงินเพื่อรักษาสมดุลกับการเติบโตของสินเชื่อ ในด้านคุณภาพสินทรัพย์นั้นยังสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 149 ทั้งนี้ในระยะยาว           ทีทีบี จะยังคงเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัลพร้อมทั้งปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจไปสู่ digital-first เพื่อเตรียมความพร้อมของธนาคารที่จะดำเนินเกมรุก เพิ่มช่องทางรายได้ใหม่เมื่อสภาพเศรษฐกิจดีขึ้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของธนาคารเพื่อเพิ่มผลตอบแทนในอนาคตให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน           เน้นย้ำการเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพและหมุนเวียนสภาพคล่องสู่สินเชื่อรายย่อยกลุ่มเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนสูง: ทีทีบียังคงดำเนินแผนการขยายฐานสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และเน้นหมุนเวียนสภาพคล่องไปเติบโตสินเชื่อรายย่อยคุณภาพในกลุ่มเป้าหมายเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้นบนความเสี่ยงที่เหมาะสม อย่างไรก็ดีคุณภาพสินทรัพย์ยังคงควบคุมอย่างเข้มงวดผ่านการเติบโตสินเชื่อกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญและกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,253 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 6 YTD ขณะที่การปรับสัดส่วนของสินเชื่อไปยังสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงดำเนินไปได้ดีตามแผน อย่างสินเชื่อรถแลกเงิน (Cash Your Car) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 YTD สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Cash Your Home) เติบโตร้อยละ 10 YTD และสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตร้อยละ 9 YTD ในด้านสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อเอสเอ็มอีลดลง ซึ่งเป็นผลจากการชำระคืนและตามแผนการหมุนสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปปล่อยบนสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมถึงแผนการปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง           ภาคการเงินและธุรกิจธนาคารพาณิชย์: คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ในการประชุมครั้งที่ 4/2567 ในรอบเดือนสิงหาคม 2567 โดย กนง. มองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวตามที่ประเมินไว้ จากการท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศ ขณะที่การส่งออกโดยรวมฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่มองว่า อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพและการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน อย่างไรก็ดี ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อภาวะการเงินและเศรษฐกิจโดยรวม           ด้านการเติบโตของสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 หดตัวร้อยละ 0.2 (YoY) ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ที่หดตัวร้อยละ 0.5 (YoY) ขณะที่ด้านเงินฝาก ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 ขยายตัวร้อยละ 2.5 (YoY) ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.9 (YoY) สำหรับค่าเงินบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 34.71 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปรับแข็งค่าจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 36.71 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแข็งค่าขึ้นร้อยละ 5.2 เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) และอ่อนค่าลงที่ร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2566           ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินบาทในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ จากการที่นักลงทุนปรับเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานเป็นสำคัญ ประกอบกับการแข็งค่าของค่าเงินเยนจากการที่นักลงทุนปิดสถานะการ short ค่าเงินเยน (Unwind Yen Carry Trade) เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และส่งสัญญาณเชิง hawkish ของธนาคารกลางญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ เงินบาทยังคงได้รับปัจจัยแข็งค่าเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นเร็วทำสถิติสูงสุดใหม่           แนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2567: ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า จากอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้นหลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหลัก รวมถึงผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี เช่นเดียวกับการลงทุนรวมที่มีแนวโน้มขยายตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและผลของฐานต่ำในปีก่อน ทั้งนี้ ttb analytics ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวร้อยละ 2.6 โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูงจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ           ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 4 จะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย แต่คาดว่าตลอดทั้งปีนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงต่ำกว่ากรอบล่างเป้าหมายเล็กน้อย ด้านภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทั้งปี 2567 จะปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 35 ล้านคน สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยคาดว่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวเป็นลำดับ โดยประเมินมูลค่าส่งออกสินค้าของไทยทั้งปี 2567 จะกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 1.7 (YoY) สำหรับด้านตลาดเงินไทย ประเมินว่า กนง. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 2.25 ณ สิ้นปีนี้ จากแรงส่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัย ด้านค่าเงินบาทในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 32.00 – 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส           บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TTB ว่า TTB รายงานกำไรสุทธิ 3Q24 เท่ากับ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY แต่ลดลง 2% QoQ สินเชื่อ ณ สิ้น 3Q24 ลดลง 8% YoY และ 3% QoQ จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น NIM 3Q24 อยู่ที่ 3.28% ลดลง 8bps YoY (funding cost สูงขึ้น) แต่เพิ่มขึ้น 4bps QoQ (loan yield สูงขึ้น) • Cost/income ratio 3Q24 อยู่ที่ 42.4% ลดลงจาก 43.2% ใน 3Q23 แต่เพิ่มขึ้นจาก 41.5% ใน 2Q24 • Credit cost 3Q24 อยู่ที่ 1.49% เพิ่มขึ้นจาก 1.28% ใน 3Q23 แต่ลดลงจาก 1.62% ใน 2Q24 ขณะที่ NPLs/loans ratio ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.64% ณ สิ้น 2Q24 มาที่ 2.73% ณ สิ้น 3Q24 สำหรับ loan-loss coverage ratio อ่อนตัวลงจาก 151.6% ณ สิ้น 2Q24 มาที่ 149.3% ณ สิ้น 3Q24 โดยรวมแล้วเราประเมินว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ TTB อ่อนแอลงบ้างในไตรมาสนี้ • TTB มีการบันทึกรายได้ทางภาษีเข้ามา 64 ล้านบาทใน 3Q24 ลดลง 86% QoQ โดยธนาคารยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีคงเหลืออีก 1.17 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้จนถึงปี 2028           Outlook: เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q24 จะทรงตัว YoY (NIM ลดลง แต่จะถูกชดเชยด้วย Credit cost ที่ลดลง) แต่ลดลง QoQ (NIM ลดลงและค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น)           View from Fundamental: คาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะเติบโต 11% YoY สูงสุดในกลุ่มธนาคาร และคาดว่า dividend yield จะอยู่ที่ราว 7% ต่อปี จึงยังแนะนำ ซื้อ

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456