#TTB


ttb นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายของปี

ttb นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายของปี

          หุ้นวิชั่น - กรุงเทพฯ, 17 ธันวาคม 2567 – ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับลดหย่อนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 นี้ แคมเปญ “เซฟภาษี แบบคุ้มเวอร์ที่ ทีทีบี กับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4  ซื้อผ่าน แอป ทีทีบี ทัช อีกทางเลือกสำหรับลูกค้ากลุ่มคนวัยทำงานที่มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี จ่ายค่าเบี้ยฯ สั้น 4 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี รับเงินคืนทุกปี ปีละ 4% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 และเมื่อครบสัญญาปีที่ 10 รับเงินก้อนโตอีก 404% ของเงินทุนประกันภัย รวมผลประโยชน์ทั้งหมดตลอดสัญญา 440% ของเงินทุนประกันภัย เพื่อลดหย่อนภาษี ได้ทั้งความคุ้มครอง ได้ทั้งลดหย่อนภาษี พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ           ทีทีบี ส่งมอบความคุ้มค่าส่งท้ายปีกับแคมเปญ “เซฟภาษี แบบคุ้มเวอร์ที่ ทีทีบี” กับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 อีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี จ่ายค่าเบี้ยฯ สั้น 4 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี รับเงินคืนทุกปี ปีละ 4% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยไปใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี (เงื่อนไขเป็นไปตามเกณฑ์กรมสรรพากร) พร้อมรับเงินก้อนกรณีเสียชีวิตสูงสุดถึง 404% ของทุนประกันภัย โดยมีโปรโมชันสุดพิเศษมอบตามค่าเบี้ยประกันภัย  พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าพิเศษ เพียงซื้อ 2 ความคุ้มครองคู่ ได้แก่ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 และ ประกันมะเร็ง รับเงินก้อน ทุกระยะ ( ttb all stage cancer ) ผ่าน แอป ทีทีบี ทัช ภายในเดือนเดียวกัน และสมัครหักชำระค่าเบี้ยฯ อัตโนมัติปีถัดไป รับเงินคืน 25% ของค่าเบี้ยประกันมะเร็ง รับเงินก้อน ทุกระยะ ปีแรก           สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 โดยชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบรายปี ปีแรก ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 และมียอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ผ่านแอป ทีทีบี ทัช ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป โดยกรมธรรม์ต้องได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และพ้นระยะเวลาใช้สิทธิ์ยกเลิกกรมธรรม์ (Free-look period) และมีผลบังคับจนถึงวันที่ธนาคารจัดส่งของสมนาคุณ           รายละเอียดเพิ่มเติมทาง https://www.ttbbank.com/link/10-4-pr-pro           นอกจากประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ที่ซื้อผ่าน แอป ทีทีบี ทัชแล้ว ยังมีประกันอื่น ๆ เพื่อลดหย่อนภาษี ได้ทั้งความคุ้มครอง ได้ทั้งลดหย่อนภาษี พร้อมรับโปรโมชันพิเศษ รับเงินคืนสูงสุด 31% เพียงซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์เพื่อออมทรัพย์ หรือประกันชีวิตเพื่อการเกษียณ ที่ร่วมรายการที่ ทีทีบี ทุกสาขา           สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.ttbbank.com/link/tax-pro -  เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด และไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดในกรมธรรม์ -  ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง -  รับประกันชีวิตโดย บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต รับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น [PR News]

บัตรเครดิต ttb จัดดีลพิเศษรับ iPhone 16 แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 36 เดือน

บัตรเครดิต ttb จัดดีลพิเศษรับ iPhone 16 แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 36 เดือน

           ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มสำหรับผู้ถือบัตรแครดิต ttb และบัตรกดเงินสด ttb เมื่อซื้อ iPhone 16 รับสิทธิ์แบ่งชำระ 0% ได้นานสูงสุดถึง 36 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 18,000 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทุกประเภทบัตร ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 – 31 ม.ค. 2568 (ระยะเวลาโปรโมชันของแต่ละร้านแตกต่างกัน)            สำหรับการชำระเต็มจำนวน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท / เดือน เฉพาะที่ AIS Shop ทุกสาขา และสำหรับการแบ่งชำระ 0% pay plan เมื่อซื้อ iPhone 16 ทุกรุ่นที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข ที่ ร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืน 4% ที่ True Shop (DTAC in True Shop), True Store Online, dtac online store, Studio7, BaNANA, KingKong Phone, BKK, True by Double 7 สาขาที่ร่วมรายการ และทางออนไลน์ studio7thailand.com และ www.bnn.in.th รับเครดิตเงินคืน 3% ที่ iStudio, U Store, Ai_, .life by copperwired, iStudio, iBeat, U Store, mobi by SPVI, iStudio, iBeat, U Store by Uficon, Advice สาขาที่ร่วมรายการ และทางออนไลน์ istudio.store, www.istudiobyspvi.com และ www.uficon.com รับเครดิตเงินคืน 2% ที่ Jaymart, TG, IT City | CSC และI.B สาขาที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4,000 บาท / เดือน ที่ Apple Store และ Apple Store Online            นอกจากนี้แลกคะแนนเพื่อรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้คะแนนสะสมทุก 1,000 คะแนน และทำรายการแบ่งชำระ 0% pay plan โดยทำรายการแบ่งชำระตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และแลกคะแนนไม่เกินยอดใช้จ่าย โดยจำกัดการแลกคะแนนสะสมสูงสุด 100,000 คะแนน / บัญชีบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย บัตรเครดิต ttb reserve รับเครดิตเงินคืน 15% บัตรเครดิต ttb อื่น ๆ ประเภทที่มีคะแนนสะสม และบัตรเครดิต ttb Global House รับเครดิตเงินคืน 12%            ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7%-16% ต่อปี และลูกค้าบัตรกดเงินสด กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีทั้งในวันนี้ และอนาคต            ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชันนี้ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/ip16-nov24 [PR News]

ttb reserve มอบประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษเพื่อลูกค้าคนสำคัญ

ttb reserve มอบประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษเพื่อลูกค้าคนสำคัญ

          ttb reserve มอบประสบการณ์สุดพิเศษเฉพาะลูกค้าคนสำคัญที่ถือครองบัตรเครดิต ttb reserve infinite และ ttb reserve signature  ที่นำคะแนนสะสมมาแลกรับสิทธิ์ในการรับประทานอาหารที่ร้าน “ฟุ้ง” (Foong) ร้านอาหารไทยแนว Home Cooking ย่านทองหล่อ อาหารไทยสูตรโบราณกับรสชาติที่อร่อยลงตัว เสิร์ฟแบบเป็นสำรับกับเมนูที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ ในบรรยากาศร้านสบาย ๆ อบอุ่น เอกสิทธิ์สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ttb reserve ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับเติมเต็มความสุขในทุกด้านเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ณ “ร้านฟุ้ง” ซ.ทองหล่อ เมื่อเร็วๆ นี้           สำหรับลูกค้าคนสำคัญของบัตรเครดิต ttb reserve สามารถติดตามประสบการณ์ความอร่อยสุดพิเศษแบบนี้ได้เรื่อย ๆ เพื่อสรรหาร้านอาหาร Fine Dining หรือร้านอาหารจองยาก มาให้ลูกค้าคนสำคัญได้จับจองที่นั่งเพื่อลิ้มลองอาหารรสเลิศอีกมากมาย [PR News]

บัตรเครดิต ttb มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 19%

บัตรเครดิต ttb มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 19%

          ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ร่วมกับ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดแคมเปญพิเศษ “Siam Paragon 19th Anniversary” มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ให้ใช้จ่ายอย่างสุดคุ้มส่งท้ายปี 2567 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 19% เมื่อใช้คะแนนสะสมแลกเท่ายอดใช้จ่าย สำหรับบัตรหลักประเภทมีคะแนนสะสม เท่านั้น  ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2567 – 10 ธ.ค. 2567 ดังนี้ บัตรเครดิต ttb reserve infinite รับเครดิตเงินคืน 19% บัตรเครดิต ttb reserve signature รับเครดิตเงินคืน 15% บัตรเครดิต ttb อื่น ๆ ประเภทที่มีคะแนนสะสม และบัตรเครดิต ttb Global House รับเครดิตเงินคืน 12% จำกัดการแลกคะแนนสะสมเพื่อรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50,000 คะแนน / หมายเลขบัตรหลัก ตลอดรายการส่งเสริมการขาย   รับสิทธิ์: ณ Information Counter ตามเวลาทำการของศูนย์การค้าภายในวันที่ซื้อสินค้า เท่านั้น ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชันนี้ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/siamparagon-dec2 ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7%-16% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีทั้งในวันนี้ และอนาคต

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

ทีทีบีไดรฟ์ จัดโปรดีส่งท้ายปีในงาน Motor Expo 2024 ช่วย

ทีทีบีไดรฟ์ จัดโปรดีส่งท้ายปีในงาน Motor Expo 2024 ช่วย

          หุ้นวิชั่น - ทีทีบีไดรฟ์ โดยทีเอ็มบีธนชาต จัดโปรโมชันพิเศษเอาใจคนอยากซื้อรถยนต์ใหม่ส่งท้ายปี ภายในงาน Motor Expo 2024 เมื่อออกรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และจัดสินเชื่อรถยนต์ใหม่กับ ทีทีบีไดรฟ์ พร้อมเปิดบัญชี ttb all free และสมัครเข้าใช้งาน แอป ttb touch รับส่วนลดช่วยผ่อนชำระค่างวดสินเชื่อรถยนต์ สูงสุด 3,000 บาท (เฉพาะแบรนด์และรุ่นย่อยที่ร่วมรายการจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการเท่านั้น) พิเศษขึ้นอีก เมื่อสมัครสินเชื่อผ่านฟีเจอร์ My Credit บนแอป ttb touch ซึ่งสามารถรู้วงเงินเบื้องต้นก่อนออกรถใหม่ภายใน 2 นาที รับของสมนาคุณ ฟรี Power Bank สีดำ ขนาดความจุ 10,000 mAh  มูลค่า 990 บาท ที่บูททีทีบีไดรฟ์ ภายในงาน Motor Expo 2024  ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. 2567 – 10 ธ.ค. 2567 โดยสินเชื่อต้องได้รับการอนุมัติสัญญาและรับรถยนต์ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/motor-expo-2024 และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ได้ที่ www.ttbbank.com หรือ ttb contact center 1428 และ www.facebook.com/ttbDRIVE ทีทีบีไดร์ฟเป็นมากกว่าสินเชื่อรถยนต์ มุ่งส่งเสริมให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น และสนับสนุนให้กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว โดยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ 5.21% - 10.00% ต่อปี

ttb มอบสิทธิ์สุดคุ้ม เติมเต็มทุกการท่องเที่ยวส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท

ttb มอบสิทธิ์สุดคุ้ม เติมเต็มทุกการท่องเที่ยวส่งท้ายปี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท

           หุ้นวิชั่น - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษให้ผู้ถือบัตรเครดิต ttb so fast, ttb so smart, ttb so chill และบัตรเครดิต ttb Global House เปิดโลกกว้างเติมเต็มทุกการท่องเที่ยวส่งท้ายปี 2567 กับแคมเปญ “Explore Your World” รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท เมื่อสะสมยอดใช้จ่าย ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป สำหรับการท่องเที่ยว 3 หมวด ได้แก่ สายการบิน หรือโรงแรมที่พักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชำระโดยตรงที่ร้านค้าหรือเว็บไซต์ (ไม่รวมการจองผ่าน Online Travel Agent) ร้านค้าปลอดภาษีที่ King Power ทั้งที่สาขาและออนไลน์ (สกุลเงินบาทเท่านั้น) ยอดใช้จ่ายในต่างประเทศ ทุกร้านค้าที่เป็นการชำระผ่านเครื่อง EDC และเป็นสกุลเงินต่างประเทศทุกสกุลเงิน (ไม่รวมเงินบาท) และมียอดใช้จ่ายสะสม / หมวด ตลอดรายการ ขั้นต่ำ 10,000 บาท           ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ TVL เว้นวรรค แล้วตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4899777 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธ.ค. 2567 เท่านั้น            สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ที่มีคะแนนสะสม รับสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้น โดยแลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนนสะสมทุก 1,000 คะแนน และไม่เกินยอดใช้จ่าย เพียงส่ง SMS แลกคะแนนทุกครั้งที่ทำรายการ พิมพ์ TVLP ตามด้วยคะแนนที่ต้องการแลก เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4899777

เรื่องควรรู้! ก่อนออกรถยนต์มือสอง

เรื่องควรรู้! ก่อนออกรถยนต์มือสอง

          หุ้นวิชั่น - อยากมีรถ แต่งบไม่พอถอยป้ายแดง! รถยนต์มือสองก็ตอบโจทย์ได้ เพราะมีข้อดีอยู่หลายเรื่อง ทั้งราคาเข้าถึงได้ง่าย และมีตัวเลือกหลากหลายให้เลือกได้ตามช่วงราคาที่ผู้ซื้อต้องการ เพียงแต่การซื้อรถมือสองต้องศึกษารายละเอียดข้อมูลให้ถี่ถ้วนเพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า วันนี้ fintips by ttb (Backlink: https://www.ttbbank.com/link/fintips-pr) จะมาแนะนำเรื่องการเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่ายให้พร้อมก่อนการออกรถมือสอง          เอกสารที่ใช้ในการออกรถมือสองมีดังนี้ ·      สำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อ ·      สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ ·      เอกสารยืนยันการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ·      สำเนาทะเบียนรถยนต์เดิม ·      หนังสือสัญญาซื้อขาย             ขั้นตอนการซื้อรถมือสอง ·      ตรวจสอบทะเบียนรถก่อนซื้อ : เช็กประวัติรถ ภาระผูกพัน และความถูกต้องของเอกสาร เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ·    ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด : นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ประเมินสภาพรถได้อย่างแม่นยำ และหลีกเลี่ยงการโดนหลอกขายรถมือสองที่อาจมีปัญหาแอบแฝง ·      ตกลงราคาและรูปแบบการชำระเงิน : เจรจาต่อรองราคาและเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมกับเรา ·      ยื่นขอสินเชื่อ (กรณีผ่อนชำระ) : หากต้องการใช้บริการสินเชื่อ ให้เตรียมเอกสารให้พร้อม และยื่นขอกับสถาบันการเงินที่เลือก ·      ทำสัญญาซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ : ตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาอย่างละเอียดก่อนลงนาม ·      ชำระเงินและรับรถ : เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ทำการชำระเงินตามที่ตกลงและรับมอบรถ           ค่าใช้จ่ายออกรถมือสองแบบเงินสด สำหรับคนที่มีเงินพร้อม และต้องการซื้อรถมือสองแบบเงินสด มาดูค่าใช้จ่ายการออกรถมือสองที่ต้องเตรียมกัน ·      ค่าโอนรถยนต์มือสอง (ค่าโอนกรรมสิทธิ์) ค่าโอนรถยนต์มือสองเป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กรมการขนส่งทางบกเพื่อโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ซึ่งคิดตามอายุรถและขนาดเครื่องยนต์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2-4%ของราคาประเมินรถยนต์ ·      ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% โดยหากเราออกรถมือสองจากเต็นท์รถจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม7% ของราคารถ แต่หากซื้อจากบุคคลทั่วไป จะไม่ต้องเสียภาษีส่วนนี้ ·      ค่าภาษีรถยนต์, พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันรถยนต์ ค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์และพ.ร.บ. เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอ เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เช่น -              ภาษีรถยนต์ประจำปี ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์และอายุรถ -              พ.ร.บ. รถยนต์ ประมาณ 600-1,000 บาทต่อปี -              ประกันภัยรถยนต์ ราคาแตกต่างกันตามประเภทและความคุ้มครอง             ค่าใช้จ่ายออกรถมือสองผ่านไฟแนนซ์ หรือขอสินเชื่อ สำหรับคนที่เลือกออกรถมือสองผ่านไฟแนนซ์ จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์มือสองเพิ่มเติมดังนี้ ·    ค่าจองรถ (ในระหว่างที่ตรวจสอบเครดิต) การออกรถมือสองจะมีค่าจองรถ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายแรกที่ต้องชำระเมื่อเราตกลงใจซื้อรถยนต์ เพื่อให้เต็นท์รถหรือผู้ขายรักษารถไว้ให้เราในระหว่างที่ทำการตรวจสอบเครดิต โดยมักเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก ประมาณ 5,000-10,000 บาท ·      เงินดาวน์รถ ดาวน์รถยนต์มือสองโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10-25% ของราคารถ ซึ่งข้อดีการวางเงินดาวน์ออกรถสูง คือ ยิ่งดาวน์มาก ยอดจัดไฟแนนซ์ก็จะน้อยลง ส่งผลให้ค่างวดต่ำลงด้วย ทำให้มีภาระทางการเงินน้อยลงในระยะยาว ·      ค่าดำเนินการของไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์มือสอง จะมีค่าธรรมเนียมที่อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงิน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1-2% ของวงเงินสินเชื่อ ซึ่งค่าดำเนินการนี้จะครอบคลุมถึงค่าตรวจสอบประวัติเครดิต, ค่าประเมินราคารถยนต์, ค่าดำเนินการเอกสารสัญญา และ ค่าบริการจัดทำประกันภัยรถยนต์ (ถ้ามี) บางสถาบันการเงินอาจเรียกเก็บแบบเหมาจ่าย หรือคิดตามอัตราที่กำหนด ดังนั้น ควรสอบถามรายละเอียดค่าธรรมเนียมก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการสินเชื่อ เพื่อเปรียบเทียบและวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม ·      ค่าภาษีรถยนต์, พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันรถยนต์ เจ้าของรถจะต้องเสียภาษีรถยนต์ รวมถึงต่อทั้งพรบ. หรือประกันภัยรถยนต์ เป็นประจำทุกปี ค่าประกันรถยนต์เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์มือสองที่ไม่ควรมองข้าม เพราะประกันรถยนต์จะคุ้มครองเราจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น เช่น อุบัติเหตุ การโจรกรรม หรือความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจต้องแบกรับในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น สำหรับการออกรถมือสอง การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมจะต้องคำนึงถึงอายุของรถ สภาพการใช้งาน และความคุ้มครองที่ต้องการ โดยปกติแล้วประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อรถยนต์ของเราหรือรถของคู่กรณี รวมถึงการคุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ หากรถมือสองของเรามีอายุการใช้งานที่มากขึ้น ประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณมากกว่า ·      ค่าดอกเบี้ยจากสินเชื่อและภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน และปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุรถ ระยะเวลาผ่อน และประวัติเครดิตของผู้กู้ โดยทั่วไป เช่น -                       อัตราดอกเบี้ยสำหรับรถยนต์มือสองมักสูงกว่ารถใหม่เล็กน้อย -                       ระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้นอาจส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น -                       ประวัติเครดิตที่ดีอาจช่วยให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ปัจจุบันรถมือสองส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพดี หากรู้แหล่งหรือวิธีเช็กสภาพรถก็สามารถจะได้รถมือสองที่สภาพเหมือนใหม่ หรือมีการใช้งานเพียงเล็กน้อยมาใช้งานต่อได้ด้วย ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสองก็คือ การศึกษาข้อมูล เลือกแหล่งซื้อรถมือสองที่ได้มาตรฐาน และตรวจสภาพรถก่อนตัดสินใจซื้ออย่างละเอียด หากใครที่กำลังมองหาสินเชื่อเพื่อซื้อรถมือสอง สินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE มีบริการสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ที่มีบริการจัดไฟแนนซ์ให้ถึงที่ รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไวภายใน 30 นาที พร้อมวงเงินที่ครอบคลุมราคารถยนต์ใช้แล้วที่ต้องการสูงสุด 100% จากราคาประเมินของธนาคาร นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 84 เดือน ผ่อนได้สบายตามใจต้องการ

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

TTB ชู 4 สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม ซื้อประกัน-กองทุน ในเทศกาลลดหย่อนภาษี ปี 67

TTB ชู 4 สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม ซื้อประกัน-กองทุน ในเทศกาลลดหย่อนภาษี ปี 67

หุ้นวิชั่น - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำความคุ้มค่าของการเป็นลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี ด้วย 4 ข้อเสนอสุดคุ้มในช่วงโค้งสุดท้ายของปีแบบดีเวอร์! กับแผนการลงทุนทั้งในรูปของประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันบำนาญ กองทุน SSF และ RMF เพื่อสิทธิในการลดหย่อนภาษีประจำปี 2567 โดยทีทีบีได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 บนแอป ttb touch และกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี รับสิทธิประโยชน์สุดคุ้ม ได้แก่ รับของสมนาคุณมากมายมูลค่าสูงสุด 48,900 บาท เช่น iPhone 16 Pro Max, Apple Watch Series 10, Samsung SM-R861NZKAASA Galaxy Watch, Cash Back ฯลฯ เพียงซื้อประกันสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ประกันชีวิตที่ช่วยออมเงินและวางแผนชีวิตเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคตให้กับตัวเอง จ่ายเบี้ยเพียง 4 ปี แต่คุ้มครองนานถึง 10 ปี และสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี โดยซื้อผ่านแอป ttb touch และชำระเบี้ยประกันชีวิตรายปี (ปีแรก) เริ่มต้นที่ 20,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 31 ธันวาคม 2567 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/pr104 รับเงินคืนสูงสุด 25% ของค่าเบี้ยประกันมะเร็ง รายปี (ปีแรก) เมื่อซื้อ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 คู่กับประกันมะเร็ง ที่คุ้มครองมะเร็งทุกประเภท ทุกระยะ เจ็บป่วยไม่กระทบเงินออม และยังลดหย่อนภาษีได้ เพียงซื้อผ่านแอป ttb touch ภายในเดือนเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 31 ธันวาคม 2567 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/prcancer รับเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) จำนวน 100 บาท ตลอดปี 2567 เมื่อซื้อหรือสับเปลี่ยนลงทุนทุก ๆ 50,000 บาท เข้ากองทุน RMF / SSF ของบลจ. 5 แห่งที่เข้าร่วมโปรโมชัน หรือโอนกองทุน LTF จากบลจ. อื่นเข้ากองทุน LTFของบลจ. 4 แห่งที่เข้าร่วมโปรโมชัน หรือซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน Thai ESG ของบลจ. EASTSPRING และ UOBAM รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/prssf รับเงินคืนเพิ่ม 1% ของค่าเบี้ยประกัน เมื่อซื้อประกันชีวิตลดหย่อนภาษีของพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) แบบรายปี พร้อมกับกองทุนลดหย่อนภาษี SSF / RMF/ ttb smart port / Thai ESG ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ภายในเดือนเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2567 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/link/prtaxsaving           ทีทีบีเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่าจากการลงทุน ช่วงเวลานี้จึงนับเป็นมหกรรมลดหย่อนภาษีส่งท้ายปีที่ได้ทั้งความคุ้มครองและความคุ้มค่าที่จะช่วยเซฟภาษีให้คุ้มเวอร์! จัดพิเศษสำหรับลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี เท่านั้น โดยคัดสรรประกันที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่มากกว่า หรือกองทุนที่มีผลประกอบการดีและเหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้ ซึ่งทีทีบีมุ่งมั่นเสริมสร้างวินัยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้าน ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง รายละเอียดและสิทธิประโยชน์สำหรับพนักงานที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี ที่สนใจวางแผนลดหย่อนภาษี สอบถามข้อมูลได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ttb contact center 1428

ทีทีบี แก้โลกร้อนเวที COP29 มุ่งส่งเสริมธุรกิจคาร์บอนต่ำ

ทีทีบี แก้โลกร้อนเวที COP29 มุ่งส่งเสริมธุรกิจคาร์บอนต่ำ

          หุ้นวิชั่น –  ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เป็นหนึ่งในภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมในงานประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) โดยมีนายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมเป็นวิทยากรงานเสวนาในกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) การประชุมรัฐภาคีฯ หัวข้อ “Financing the Transition" นำเสนอในเรื่อง "Empowering SMEs and Sustainable Development through Green and Blue Financing" ซึ่งทีทีบีให้ความสำคัญและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าตามเป้าหมาย Net-zero Commitment ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ           นายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายเร่งด่วนที่สุดของโลกในปัจจุบัน ซึ่งทีทีบีตระหนักถึงบทบาทสำคัญและความรับผิดชอบ พร้อมนำความสามารถมาสร้างโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน เพราะบทบาทของธนาคารไม่ใช่การนำพาองค์กรไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยทีทีบีมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนในการดำเนินงานเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero Economy) ผ่านการให้สินเชื่อ ให้คำปรึกษาลูกค้า และสนับสนุนบนเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน ทีทีบีมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามกรอบ B+ESG ทุกกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและยั่งยืน เพราะธุรกิจ (Business) หรือ B ต้องเติบโตอย่างแข็งแรง ทีทีบีจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืนเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยนำกฎเกณฑ์ด้าน ESG มาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อและการลงทุน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มุ่งเน้นส่งเสริมด้าน ESG ให้กับลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล เช่น สินเชื่อสีเขียว สินเชื่อสีฟ้า สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืน ตราสารหนี้สีเขียว ตราสารหนี้สีฟ้า กองทุุนเพื่อการลงทุุนด้าน ESG และยังมีบริการให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาด้าน ESG ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ พร้อมมีเป้าหมายช่วยเหลือลูกค้าให้มีความเข้าใจและสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน ESG เพื่อให้ลูกค้ามีความรับผิดชอบและเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ภายในงาน นายกมลพันธ์ ได้กล่าวถึงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านว่า “ธนาคารได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากกฎกติกาต่าง ๆ ที่จะบังคับใช้ในอนาคต เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM-Carbon Border Adjustment Mechanism) ประกอบกับการวิเคราะห์พอร์ทสินเชื่อของลูกค้าตามความเสี่ยงของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เพื่อวางแผน จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วม และสร้างเกราะป้องกันให้กับลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้น โดยทีทีบีจะจัดหาพันธมิตรด้านโซลูชันทางเทคนิคสำหรับการลดใช้พลังงาน การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เป็นต้น และในปี 2567 ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน Green Transformation เพื่อช่วยสนับสนุนทางการเงินและส่งเสริมการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน           “จากการรวมปัจจัยด้าน ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้คำปรึกษาและการอนุมัติสินเชื่อตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารเห็นถึงความสนใจในสินเชื่อ ESG ที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า โดยตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจของทีทีบีได้สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นและแก้ปัญหาให้ผู้คนอย่างแท้จริง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตอกย้ำความสำเร็จจากรางวัลด้านความยั่งยืนที่ธนาคารได้รับมาต่อเนื่อง สะท้อนชัดถึงการลงมือทำอย่างแท้จริงของธนาคารในการขับเคลื่อนสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” นายกมลพันธ์ กล่าวสรุป

ส่องมูลค่า TTB-TCAP ดีลซื้อ TNS และ T-Leasing ปังไหม? 

ส่องมูลค่า TTB-TCAP ดีลซื้อ TNS และ T-Leasing ปังไหม? 

             หุ้นวิชั่น- บทวิเคราะห์บล.ดาโอระบุว่า TTB เตรียมซื้อ TNS จาก TCAP และจะซื้อ T-Leasing จาก MBK TTB แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายในการซื้อขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (TNS) โดยปัจจุบัน TNS มีผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ TCAP จำนวน 2,698,959,721 หุ้น หรือคิดเป็น 89.97% และ TTB ถือหุ้นจำนวน 300,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 10% เนื่องจากเล็งเห็นว่าการเข้าถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทหลักทรัพย์ธนชาตจะช่วยส่งเสริมศักยภาพด้าน Wealth Ecosystem และความสามารถในการแข่งขันของธนาคารฯ นอกจากนี้ TTB ยังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายในการซื้อขายหุ้นของบริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด (T-Leasing) โดยปัจจุบัน T-Leasing มีผู้ถือหุ้นหลัก คือ T-Leasing จำนวน 239,999,998 หุ้น หรือคิดเป็น 100% โดยเล็งเห็นถึงศักยภาพของ T-Leasing ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และต่อยอดแพลตฟอร์ม Car Ecosystem ให้มีบริการเช่าซื้อที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นโอกาสใน Cross Sell สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไปยังฐานลูกค้ากลุ่มพนักงานเงินเดือนที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Payroll Ecosystem ซึ่งปัจจุบันธนาคารฯ มีฐานลูกค้ากลุ่มนี้กว่า 1 ล้านราย ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่มพนักงานเงินเดือนถือเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพและความเสี่ยงต่ำสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ (ที่มา: TTB, TCAP, MBK)             บล. ดาโอ มีมุมมองเป็นกลางต่อดีลดังกล่าว เพราะยังไม่ทราบราคาซื้อ-ขาย โดยยังคงต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและรอการทำ Due-diligence ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกราว 1 ปี โดยจากการสอบถาม TTB ยังไม่สามารถบอกข้อมูลอะไรได้มาก แต่ทั้ง 2 ดีลจะใช้เงินลงทุนจากภายในและไม่มีผลต่อการจ่ายเงินปันผล โดย 1) ดีลซื้อ TNS เราคาดว่า TTB จะใช้เงินในการเข้าซื้อราว 3.47 พันล้านบาท (อ้างอิงจากส่วนของผู้ถือหุ้นของ TNS ใน 1H24) หากซื้อขายที่ระดับ 1x PBV (เทียบเท่า BAY ซื้อ CNS ที่ 1x PBV) ซึ่งจะส่งผลให้ TCAP มีโอกาสได้กำไรพิเศษจากการขายที่ราว +183 ล้านบาท (อิงมูลค่าเงินลงทุนที่ 3.22 พันล้านบาท โดยหักภาษี 20% และคิดตามสัดส่วนถือหุ้นที่ 90%) หรือคิดเป็น +2.5% ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E แต่จะมี downside ต่อกำไรสุทธิที่จะหายไปราว -2.3% เพราะไม่สามารถรับรู้กำไรจาก TNS อีกแล้วหลังจากการขาย 2) ดีลซื้อ T-Leasing เราคาดว่า TTB จะใช้เงินในการเข้าซื้อราว 2.92 พันล้านบาท (อ้างอิงจากส่วนของผู้ถือหุ้นของ T-Leasing ใน 2023) หากซื้อขายที่ระดับ 1x PBV (อิงผู้ประกอบการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์อย่าง NCAP ที่ 0.6x PBV และ S11 ที่ 0.5x PBV)           TTB จะใช้เงินลงทุนภายในและไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผล หากเป็นไปตามที่เราคาด TTB จะใช้เงินลงทุนใน 2 ดีลนี้ราว 6.39 พันล้านบาท ซึ่งเราคาดว่าจะกระทบจาก Tier-1 ที่ -0.5% เหลือ 16% ซึ่งเป็นการลดลงเพียงเล็กน้อยและทำให้เชื่อว่า TTB จะสามารถจ่ายเงินปันผลในระดับสูงต่อเนื่องได้ ขณะที่ TTB จะมี upside ต่อประมาณกำไรในปี 2025E ที่ราว +1.1% หรือราว 226 ล้านบาท (อิงกำไรสุทธิของ TNS ที่ราว 190 ล้านบาท อิงกำไรสุทธิ 1H24 ที่ 95 ล้านบาท และ T-Leasing มีกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 36 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี ดีลทั้ง 2 ยังอยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งก็มีโอกาสที่จะไม่เกิดขึ้นได้             TTB ยังคงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 2.00 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.80x (-0.75SD below 10-yr average PBV) แต่มองระยะยาวจะได้ประโยชน์จากดีลนี้ในการ Cross-selling ในเครือได้อย่างเต็มที่            TCAP ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 60.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.82x (-0.25SD below 10-yr average PBV) มองระยะสั้นดีลนี้มีโอกาสจะได้กำไรพิเศษเข้ามาช่วยหนุน

abs

Hoonvision

TTB ชวนออมโค้งสุดท้ายกับทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี

TTB ชวนออมโค้งสุดท้ายกับทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี

          กรุงเทพฯ, 5 พฤศจิกายน 2567 - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ชวนลูกค้าต่อยอดความมั่งคั่งช่วงโค้งสุดท้ายของปี กับบัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ล็อกดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป รับของสมนาคุณตามยอดเงินฝากที่ธนาคารกำหนด  โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567           ทีทีบี พร้อมนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคนสำคัญ เพื่อให้ลูกค้าได้ต่อยอดความมั่งคั่งช่วงโค้งสุดท้ายของปี สำหรับลูกค้า ที่เลือกออมกับทีทีบีตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ในผลิตภัณฑ์บัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน ล็อกดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี ลูกค้าจะได้รับเอกสิทธิ์เหนือระดับที่ธนาคารเสนอให้ ได้แก่ 1) ฝากระยะสั้นเพียง 7 เดือน รับดอกเบี้ยสูง 1.85% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 1 พ.ย. 67) 2) รับฟรีของขวัญสุดพิเศษ iPhone 16 pro มูลค่าสูงสุด 43,900 บาท เมื่อมียอดเงินฝากตามที่กำหนด หรือรับของขวัญสุดพิเศษตามยอดเงินฝาก เมื่อฝากเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป           สำหรับลูกค้าที่ร่วมโปรโมชันพิเศษ ผลิตภัณฑ์บัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำพลัส 7 เดือน จะได้รับของขวัญดังนี้ ยอดเงินฝากตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป รับบัตรของขวัญ Starbucks Card มูลค่า 500 บาท ยอดเงินฝากตั้งแต่ 50,000,000 บาทขึ้นไป รับ Apple Watch Series 10 รุ่น GPS + CELLULAR มูลค่า 18,900 บาท ยอดเงินฝากตั้งแต่ 100,000,000 บาทขึ้นไป รับ iPhone 16 Pro 6.3 นิ้ว 256 GB มูลค่า 43,900 บาท (1 สิทธิ์/ ท่าน ตลอดเวลาโปรโมชัน) โดยให้ของขวัญมูลค่าตามยอดรวมเงินฝากที่มีมูลค่าสูงสุดภายในระยะเวลาโปรโมชัน 1 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67) พิเศษยิ่งขึ้น เพียงฝากเงินเพิ่ม หรือมียอดรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินกับธนาคารตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป รับสิทธิ์สมัครบัตรเครดิต ttb reserve เอกสิทธิ์เหนือระดับสำหรับลูกค้า Wealth พร้อมรับฟรีคะแนนสะสมประจำปีสูงสุด 180,000 คะแนน เมื่อมียอดรวมทุกผลิตภัณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนด เงื่อนไข อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและการพิจารณาบัตรเครดิตเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด (ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7% - 16% ต่อปี) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ทีทีบีทุกสาขา หรือที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนของท่าน หรือ ttb reserve line 02-010-1428 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม  คลิก https://www.ttbbank.com/link/pr/ttbreserve/tdboosterplus สนใจเปิดบัญชีผ่านแอป ttb touch https://www.ttbbank.com/link/ttbreserve/openacc/td7m อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร https://www.ttbbank.com/th/rates/deposit-interest-rates อัตราดอกเบี้ยตามประกาศ ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 (เปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของธนาคาร) เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สามารถเรียกดูข้อมูลผลิตภัณฑ์และประกาศอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ทางเว็บไซต์ธนาคาร ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงธนาคารจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร [PR News]

TTB ทำยังไงกันดี? ปีหน้ากำไรมีแววหดตัว

TTB ทำยังไงกันดี? ปีหน้ากำไรมีแววหดตัว

           หุ้นวิชั่น-บล.ดาโอ ปรับคำแนะนำ TTB ลงเป็น “ถือ” และปรับราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 2.00 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.80x (-0.75SD below 10-yr average PBV) จากเดิมที่ 2.20 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.85x (-0.50SD below 10-yr average PBV) จากการปรับกำไรและ PBV ลง โดยมีมุมมองเป็นลบจากการประชุมนักวิเคราะห์เพราะแนวโน้มสินเชื่อที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ยาก โดย 9M24 หดตัวถึง -5.6% YTD ซึ่งท้าทายกับเป้าหมายที่ทรงตัว YoY ประกอบกับสำรองฯเพิ่มขึ้น (9M24 ที่ 160bps) มากกว่าเป้าหมาย (125-135bps) และยังไม่เห็นสัญญาณของการกลับมาที่ระดับปกติตามเป้าหมายได้            แต่ผู้บริหารมีความตั้งใจจะจ่าย Dividend Payout เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรสุทธิ 3Q24 อยู่ที่ 5.23 พันล้านบาท (+11% YoY, -2% QoQ) เป็นไปตามที่ตลาดและเราคาด โดยมีผลประโยชน์ทางภาษีเข้ามาช่วย +64 ล้านบาท จาก 3Q23 ที่จ่ายภาษีที่ -1.1 พันล้านบาท ส่วน NPL อยู่ที่ 2.73% เพิ่มขึ้นจาก 2Q24 ที่ 2.64% เพราะสินเชื่อลดลง -5.6% YTD            ขณะที่มูลค่า NPL ทรงตัว QoQ โดยมีการ write-off NPL ที่ 5.5 พันล้านบาท และขาย NPL อีก 900 ล้านบาท เรามีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E-2025E ลง -1-5% จากการปรับสินเชื่อและ NIM ลดลง แต่ปรับ Credit cost เพิ่มขึ้น ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2024E/2025E อยู่ที่ 2.08/2.12 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +13%/+2% YoY ทำให้ได้กำไรสุทธิปี 2024E อยู่ที่ 2.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +13% YoY ส่วนกำไรสุทธิปี 2025E อยู่ที่ 2.06 หมื่นล้านบาท กลับมาหดตัวที่ -1% YoY ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -9% เมื่อเทียบกับ SET ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ SET เพราะไม่เห็นการเติบโตของกำไรในปี 2025E            ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PBV ที่ 0.78x แพงกว่ากลุ่มที่ 0.68x แต่ยังมี Dividend yield ราว 7% เราจึงปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ”

TTB รายงานกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 โต 17% แม้เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจ

TTB รายงานกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 โต 17% แม้เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจ

          ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2567 ด้วยกำไรสุทธิ 15,919 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% YoY แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง และการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพช่วยหนุนผลการดำเนินงาน           ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)หรือ TTB รายงานผลประกอบการ 9 เดือนปี 2567 ความไม่แน่นอนและปัญหาในเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจยังคงปกคลุมปัจจัยการเติบโตของธุรกิจ ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) มีโครงสร้างธุรกิจที่เปลี่ยนไปยังลูกค้ารายย่อยมากขึ้นหลังการรวมกิจการ ดังนั้นการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยนี้จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร ทีทีบียังคงดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่รอบคอบผ่านกลยุทธ์การเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวัง การปรับโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินให้มีความเหมาะสม รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ           ส่งผลให้ผลประกอบการรอบ 9 เดือน ปี 2567 ยังคงปรับตัวดีขึ้น ด้วยกำไรสุทธิ 15,919 ล้านบาท (+ร้อยละ 17 YoY) หนุนโดย NIM ที่ยังขยายตัวได้ ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่าย รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่บริหารจัดการได้ดี นอกเหนือจากกลยุทธ์การปรับโครงสร้างของสินเชื่อและเงินฝากให้มีความเหมาะสมแล้ว ทีทีบียังมีการปรับพอร์ตการลงทุนรวมถึงพอร์ตตราสารหนี้และเงินกู้ยืมของธนาคารให้สอดคล้องกับสภาวะดอกเบี้ยที่กำลังเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยหนุนการเติบโตของ NIM สำหรับด้านรายได้ค่าธรรมเนียม ธนาคารเห็นการฟื้นตัวที่ดีของค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อใหม่ อย่างค่าธรรมเนียมกองทุนรวมและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต แม้ว่าสินเชื่อโดยรวมลดลง การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนสูงยังคงเพิ่มขึ้นได้ดีตามแผนกลยุทธ์การปรับโครงสร้างสินเชื่อ ขณะที่การหดตัวของเงินรับฝากเป็นไปตามแผนการบริหารสภาพคล่องและต้นทุนทางการเงินเพื่อรักษาสมดุลกับการเติบโตของสินเชื่อ ในด้านคุณภาพสินทรัพย์นั้นยังสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 149 ทั้งนี้ในระยะยาว           ทีทีบี จะยังคงเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัลพร้อมทั้งปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจไปสู่ digital-first เพื่อเตรียมความพร้อมของธนาคารที่จะดำเนินเกมรุก เพิ่มช่องทางรายได้ใหม่เมื่อสภาพเศรษฐกิจดีขึ้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของธนาคารเพื่อเพิ่มผลตอบแทนในอนาคตให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน           เน้นย้ำการเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพและหมุนเวียนสภาพคล่องสู่สินเชื่อรายย่อยกลุ่มเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนสูง: ทีทีบียังคงดำเนินแผนการขยายฐานสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และเน้นหมุนเวียนสภาพคล่องไปเติบโตสินเชื่อรายย่อยคุณภาพในกลุ่มเป้าหมายเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้นบนความเสี่ยงที่เหมาะสม อย่างไรก็ดีคุณภาพสินทรัพย์ยังคงควบคุมอย่างเข้มงวดผ่านการเติบโตสินเชื่อกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญและกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,253 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 6 YTD ขณะที่การปรับสัดส่วนของสินเชื่อไปยังสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงดำเนินไปได้ดีตามแผน อย่างสินเชื่อรถแลกเงิน (Cash Your Car) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 YTD สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Cash Your Home) เติบโตร้อยละ 10 YTD และสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตร้อยละ 9 YTD ในด้านสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อเอสเอ็มอีลดลง ซึ่งเป็นผลจากการชำระคืนและตามแผนการหมุนสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปปล่อยบนสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมถึงแผนการปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง           ภาคการเงินและธุรกิจธนาคารพาณิชย์: คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ในการประชุมครั้งที่ 4/2567 ในรอบเดือนสิงหาคม 2567 โดย กนง. มองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวตามที่ประเมินไว้ จากการท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศ ขณะที่การส่งออกโดยรวมฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่มองว่า อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพและการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน อย่างไรก็ดี ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อภาวะการเงินและเศรษฐกิจโดยรวม           ด้านการเติบโตของสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 หดตัวร้อยละ 0.2 (YoY) ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ที่หดตัวร้อยละ 0.5 (YoY) ขณะที่ด้านเงินฝาก ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 ขยายตัวร้อยละ 2.5 (YoY) ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.9 (YoY) สำหรับค่าเงินบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 34.71 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปรับแข็งค่าจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 36.71 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแข็งค่าขึ้นร้อยละ 5.2 เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) และอ่อนค่าลงที่ร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2566           ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินบาทในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ จากการที่นักลงทุนปรับเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานเป็นสำคัญ ประกอบกับการแข็งค่าของค่าเงินเยนจากการที่นักลงทุนปิดสถานะการ short ค่าเงินเยน (Unwind Yen Carry Trade) เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และส่งสัญญาณเชิง hawkish ของธนาคารกลางญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ เงินบาทยังคงได้รับปัจจัยแข็งค่าเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นเร็วทำสถิติสูงสุดใหม่           แนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2567: ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า จากอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้นหลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหลัก รวมถึงผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี เช่นเดียวกับการลงทุนรวมที่มีแนวโน้มขยายตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและผลของฐานต่ำในปีก่อน ทั้งนี้ ttb analytics ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวร้อยละ 2.6 โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูงจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ           ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 4 จะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย แต่คาดว่าตลอดทั้งปีนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงต่ำกว่ากรอบล่างเป้าหมายเล็กน้อย ด้านภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทั้งปี 2567 จะปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 35 ล้านคน สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยคาดว่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวเป็นลำดับ โดยประเมินมูลค่าส่งออกสินค้าของไทยทั้งปี 2567 จะกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 1.7 (YoY) สำหรับด้านตลาดเงินไทย ประเมินว่า กนง. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 2.25 ณ สิ้นปีนี้ จากแรงส่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัย ด้านค่าเงินบาทในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 32.00 – 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส           บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TTB ว่า TTB รายงานกำไรสุทธิ 3Q24 เท่ากับ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY แต่ลดลง 2% QoQ สินเชื่อ ณ สิ้น 3Q24 ลดลง 8% YoY และ 3% QoQ จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น NIM 3Q24 อยู่ที่ 3.28% ลดลง 8bps YoY (funding cost สูงขึ้น) แต่เพิ่มขึ้น 4bps QoQ (loan yield สูงขึ้น) • Cost/income ratio 3Q24 อยู่ที่ 42.4% ลดลงจาก 43.2% ใน 3Q23 แต่เพิ่มขึ้นจาก 41.5% ใน 2Q24 • Credit cost 3Q24 อยู่ที่ 1.49% เพิ่มขึ้นจาก 1.28% ใน 3Q23 แต่ลดลงจาก 1.62% ใน 2Q24 ขณะที่ NPLs/loans ratio ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.64% ณ สิ้น 2Q24 มาที่ 2.73% ณ สิ้น 3Q24 สำหรับ loan-loss coverage ratio อ่อนตัวลงจาก 151.6% ณ สิ้น 2Q24 มาที่ 149.3% ณ สิ้น 3Q24 โดยรวมแล้วเราประเมินว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ TTB อ่อนแอลงบ้างในไตรมาสนี้ • TTB มีการบันทึกรายได้ทางภาษีเข้ามา 64 ล้านบาทใน 3Q24 ลดลง 86% QoQ โดยธนาคารยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีคงเหลืออีก 1.17 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้จนถึงปี 2028           Outlook: เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q24 จะทรงตัว YoY (NIM ลดลง แต่จะถูกชดเชยด้วย Credit cost ที่ลดลง) แต่ลดลง QoQ (NIM ลดลงและค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น)           View from Fundamental: คาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะเติบโต 11% YoY สูงสุดในกลุ่มธนาคาร และคาดว่า dividend yield จะอยู่ที่ราว 7% ต่อปี จึงยังแนะนำ ซื้อ