#True


ADVANC – TRUE ในสนาม ICT ไทย  โบรกมองแข่งกันไม่ดุ ลงทุนต่ำ กำไรเพิ่ม

ADVANC – TRUE ในสนาม ICT ไทย โบรกมองแข่งกันไม่ดุ ลงทุนต่ำ กำไรเพิ่ม

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.เคจีไอ อัปเดตอุตสาหกรรม ICT Sector ระบุ วัฏจักรเชิงบวกหนุนพรีเมียม valuation การประมูลคลื่นความถี่อาจเสี่ยงต่อคำแนะนำของบล.ในการ re-rating กลุ่ม ICT ปี 2568 คาดว่าการประมูลคลื่นความถี่จะเกิดขึ้นใน 1H68 โดยไม่เกิดสงครามราคา           เพราะจุดสำคัญคือการให้บริการเครือข่ายดีต่อเนื่อง ขณะที่ True Corporation (TRUE.BK/TRUE TB) และ Advanced Info Service (ADVANC.BK/ADVANC TB)* ดูเหมือนจะไม่สนใจคลื่น 850MHz แต่จะมุ่งเน้นที่คลื่น 2300MHz และ 1800MHz ตามลำดับ           ในปี 2568 TRUE คาดว่าจะประหยัดค่าเช่าคลื่นความถี่ได้ 4-5 พันล้านบาทต่อปีจากคลื่น 850MHz และ 2300MHz หมดอายุ โดยเหลือเพียงคลื่น 2300MHz ส่วน ADVANC อาจประหยัดได้ ~1-1.5 พันล้านบาทต่อปีจากการแทนที่การเช่าคลื่น 2100MHz จาก NT ด้วยคลื่น 1800MHz Guidance ปี 2568 เป็นบวกต่อ           คาดว่า TRUE และ ADVANC จะให้ guidance ปี 2568 ด้านการเติบโต EBITDA และรายได้การให้บริการเป็นเลขหลักเดียว ด้วยงบลงทุน (CAPEX) ที่ต่ำลง (ไม่รวมค่าประมูลคลื่นฯ) ขณะที่แรงผลักดันรายได้ ด้วยการให้บริการมือถือเติบโตเล็กน้อย (1-3%) พร้อมกับ fixed broadband (FBB) เติบโตปานกลาง (>5%) การรับรู้ synergy ชัดเจนขึ้น และการประหยัดรายจ่ายจากการหมดอายุของคลื่นความถี่ เช่น คลื่น 850MHz และ 2300MHz ของ TRUE ใน 1Q68           โดย ADVANC อาจทำให้นักลงทุนดีใจด้วยเงินปันผลระหว่างกาล 2H67 ที่สูงกว่าคาด ขณะที่ TRUE อาจพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ ผู้แข่งขันในตลาดสองรายและศักยภาพการเติบโตกลุ่ม ICT ของไทย           กลุ่ม ICT ของไทยกำลังอยู่ในช่วงของผู้แข่งขันในตลาดเพียงสองราย ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรผ่านการแข่งขันที่ลดลงและงบลงทุนต่ำลง โดยมี EBITDA margin คาดเพิ่มมาอยู่ที่ 50-60%           ขณะที่วัฏจักรขาขึ้นนี้อยู่ในช่วงของการขยายตัวและการแข่งขันลดลง ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการเติบโตแข็งแกร่งสำหรับ TRUE และ ADVANC ขณะที่ valuation ของกลุ่มอยู่ในระดับสูง แต่ทั้งสองบริษัทมี upside เพิ่มได้อีก และยอมรับได้จากการปรับ EPS ขึ้นต่อเนื่อง           EBITDA margin ดีขึ้นและเกิดแหล่งรายได้ใหม่จากศูนย์ข้อมูล           ทั้งนี้ TRUE มีช่องทางในการเพิ่ม ARPU มากขึ้น จะได้รับประโยชน์จาก synergy จากการควบรวมกิจการล่าสุดและรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือดีขึ้น รวมถึง iPhone16 ด้วย กำไรกลุ่ม ICT ปี 2568F จะเพิ่มขึ้น 17% YoY หลังจากพุ่งขึ้น 231% YoY ในปี 2567F           TRUE จะมีสัดส่วนของการเติบโตของกลุ่ม ICT สูงถึง 63% ในปี 2568F พร้อมกับการพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ           ขณะที่กำไรหลักของกลุ่ม ICT ปี 2567F/2568F ของบล.สูงกว่า consensus ราว 5%/2%           ทั้งนี้ ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568 น่าจะมาจากการเพิ่มขึ้นของ ARPUs ต้นทุนที่เหมาะสม และการ synergy กับ DTAC (สำหรับ TRUE) และ TTTBB (สำหรับ ADVANC)           อย่างไรก็ดี คาดกำไรปีนี้จะสูงสุดใน 4Q67 และเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ Valuation and action           คงให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มนี้ “เท่ากับตลาดฯ” โดยเลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นช่วง 1Q68 เนื่องจากคาดเห็นแรงเก็งกำไรจากเรื่อง gain on bargain purchase ในระหว่างการแปลงร่างของ NewCo, upside จากการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ในปี 2568 และอาจจ่ายเงินปันผลสูงขึ้น           ส่วน TRUE ก็ยังชอบเช่นกันด้วย reward/risk ที่น่าสนใจ มีโอกาสในการเพิ่มอัตรากำไรและ synergy ที่มาเร็วและมากกว่า ADVANC           ทั้งนี้ ความเสี่ยงด้านลบคือคดีความที่ศาลของ TRUE และ ADVANC รวมถึงต้นทุนการควบรวมสูง

TRUE ส่งแคมเปญ “ยิ้มทั่วไทย” ชวนเปิดกล้องยิ้ม-รับของขวัญ

TRUE ส่งแคมเปญ “ยิ้มทั่วไทย” ชวนเปิดกล้องยิ้ม-รับของขวัญ

          หุ้นวิชั่น - กรุงเทพฯ 13 ธันวาคม 2567 – ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ชวนคนไทยร่วมยิ้มให้ตัวเองกับปีที่ผ่านมา พร้อมยิ้มรับปีใหม่ ให้มีแต่สุขยิ้มได้ตลอดปีกับแคมเปญ “ยิ้มทั่วไทย” ยิ้มรับสุข พร้อมของขวัญพิเศษทั่วไทยที่จะส่งไปกับสัญญาณทรู ดีแทค 5G เร็ว แรง กระจายครอบคลุมทั่วไทย เติมเต็มทุกความสุขตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าครบครันทั้ง “ยิ้มทั่วไทย ยิ้มให้ตัวเอง” ภาพยนตร์โฆษณาสุดซึ้งกินใจ ที่จะชวนให้ทุกคนหันมายิ้มให้กับตัวเองและคนข้างๆกับสิ่งดีๆ ที่ผ่านมา พร้อมทั้งต้อนรับปีใหม่ด้วยความหวัง และรอยยิ้ม https://www.youtube.com/watch?v=kx6D090psBk พร้อมชวนส่ง “ยิ้มทั่วไทย ทรูทั่วไทย” ส่งตรงความเร็ว แรง ของสัญญาณความสุข ที่ทั่วถึง ทุกทิศ ทั่วไทย “ยิ้มทั่วไทย ยิ้มให้ปีใหม่” กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สนุก ฟิน อมยิ้มข้ามปี และพิเศษสุดกับ “ยิ้มทั่วไทย ยิ้มรับของขวัญ” ที่ชวนลูกค้าแลกยิ้มรับความสุขทั่วไทยง่ายๆ ผ่าน AR จากแอปทรูไอดี ดีแทคแอป หรือ  ทรูไอเซอร์วิส เลือก “สิทธิพิเศษ” แล้วคลิกที่แบนเนอร์ “ยิ้มรับสุขทั่วไทย” เพียงแค่เปิดกล้องและยิ้ม ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับสุข 2 ต่อ ต่อที่ 1 รับทันทีบริการ “ทรู ไซเบอร์เซฟ” ป้องกันภัยไซเบอร์จากมิจฉาชีพ ปกป้องพร้อมแจ้งเตือนเมื่อกดลิ้งก์แปลกปลอม ต่อที่ 2 รับสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลมากมาย ทั้งรับฟรี!  ไอศกรีมโคน McDonald, แพ็กเกจเสริมเน็ต 5GB, วอลเปเปอร์เสริมดวงตามวันเกิดจาก HoroWorld ส่วนลดจากคาเฟ่ และร้านอาหารชื่อดัง อาทิ Hello Yogurt, TrueCoffee, Au Bon Pain, PAUL, Dunkin, KatsuyaPepperlunch Chabuton, Greyhound Café และร้านในเครือ ส่วนลดช้อปปิ้ง จาก Lazada Oriental Princess Robinson Beauty ตลอดจนความคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตจาก FWD ด้วยประกันอุบัติเหตุวงเงิน 500,000 บาท โดยลูกค้าสามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่ วันที่ 11 ธันวาคม 2567 ถึง 15 มกราคม 2568 คลิกเพื่อร่วม “ยิ้มรับสุข” ได้ที่ https://www.true.th/true-network/happiness-express           นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “แคมเปญ ‘ยิ้มทั่วไทย’ เกิดขึ้นจากความตั้งใจของทรู ที่ต้องการสร้างรอยยิ้มให้ลูกค้าทุกคนในช่วงเทศกาลปีใหม่ เชื่อว่ารอยยิ้มเป็นพลังบวกที่สามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนได้ ขณะที่ เครือข่ายทรู เร็ว แรง พร้อมเป็นสัญญาณความสุขที่กระจายครอบคลุมทั่วไทย ให้ยิ้มทั่วไทย ทรูทั่วไทย เพื่อส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขได้แบบไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะในช่วงบรรยากาศส่งท้ายปี ที่ทรูตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะเติมเต็มทุกความสุขตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า   ด้วยการมอบของขวัญและความสุขต้อนรับปีใหม่ ผ่านเครือข่ายที่ดีที่สุดจากทรูและดีแทค อยากให้ทุกคนได้ “ยิ้มให้ตัวเอง” กับทุกเรื่องราวในปีที่ผ่านมา และ “ยิ้มรับของขวัญ” ที่เราตั้งใจมอบให้ เพื่อเป็นแรงใจในการ ”ยิ้มให้ปีใหม่” ไปด้วยกัน ด้วยกิจกรรม “ยิ้มรับสุข” ให้ลูกค้าทรู ดีแทคและทรูออนไลน์ทุกคน เพียงมีแอปทรูไอดี ทรูไอเซอร์วิส หรือดีแทคแอป เข้าในแอป และคลิกที่แบนเนอร์ “ยิ้มรับสุข” กดยอมรับเพื่อเล่นเกม ลูกค้าจะเห็นการ์ดอวยพรปีใหม่จากเรา จากนั้นให้ลูกค้าเปิดกล้อง และยิ้มรับความสุข ก็จะได้รับกล่องของขวัญ กดที่กล่องของขวัญเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ ให้ได้ไป อิ่ม ช้อป เพลิน จากร้านค้าชั้นนำ ฟรีทั่วไทย หรือคลิกเพื่อร่วม “ยิ้มรับสุข” ได้ที่ https://www.true.th/true-network/happiness-express”           มาร่วมเป็นครอบครัวทรู ดีแทค เพื่อรับความสุขแบบนี้ตลอดทั้งปีได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอปทรู หรือแอปดีแทค แล้วมาร่วมยิ้มรับสุขไปพร้อมกัน!           ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “ยิ้มทั่วไทย” และคลิกเพื่อร่วม “ยิ้มรับสุข” ได้ที่ https://www.true.th/true-network/happiness-express

เปิดโผ หุ้น AI โอกาสโต! DELTA-GULF-TRUE-INSET น่าจับตา

เปิดโผ หุ้น AI โอกาสโต! DELTA-GULF-TRUE-INSET น่าจับตา

           หุ้นวิชั่น - บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึงในบทวิเคราห์ ถึงประเด็นที่ “เจนเซ่น หวง” (Jensen Huang) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เอ็นวิเดีย” (NVIDIA) ยักษ์ผู้ผลิตชิป AI ที่มีมูลค่าบริษัทกว่า 3.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เตรียมเยือนประเทศไทย ในงาน “AI Vision for Thailand” ภายใต้ธีม “The First Step for Thailand Sovereign AI” วันที่ 4 ธ.ค. 2567 ณ Embassy Room, Park Hyatt Bangkok พร้อมประกาศแผนลงทุน ดันไทยขึ้นฮับ AI ภูมิภาค ในงาน AI Vision for Thailand ทั้งนี้ธุรกิจของบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่อิงกับ NVIDIA ได้แก่ อีเล็คทรอนิคส์ คอมพิวเตอร์ , AI, Cloud และ Data Center เราคัด 3 หุ้นได้ประโยชน์ จากการนี้ ประกอบด้วย DELTA, GULF และ TRUE            ขณะที่ บริษัท หลักทรัพย์ บัว หลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง เมื่อการเยือนของ Jensen Huang ในเดือนธันวาคมนี้ใกล้เข้ามาแล้ว (คาดว่าสัปดาห์หน้า) ถึงเวลาแล้วที่จะมองไปที่เฟส 1 ของการเปลี่ยนแปลง Gen AI ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของความต้องการ GPU เมื่อข้อจำกัดในอุปทานทำให้ GPU ขาดแคลน ผู้ที่เริ่มต้นก่อนอย่าง JTS และ LTS จะสามารถเก็บเกี่ยวผลกำไรได้อย่างมากในระยะนี้            JTS กำลังสร้าง GPU Farm และโมเดล AI Training โดยใช้ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับ KT เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์ NVIDIA GPUs นอกจากการใช้งานของตนเองแล้ว แพลตฟอร์ม Gen AI ของ JTS จะทำหน้าที่เป็นสตูดิโอสำหรับการฝึกฝนและปรับใช้งานสำหรับลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้งาน AI ได้โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง            LTS: SIAM AI เป็นพันธมิตร Nvidia Cloud รายแรก (และรายเดียว) ของประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับ SIAM AI ทำให้ LTS ได้ประโยชน์จากการเป็นพันธมิตร ซึ่งช่วยให้เข้าถึง GPU ได้ก่อนใคร แตกต่างจากโมเดลการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม โมเดลปัจจุบันของ NVIDIA คือ "By Invitation Only" ซึ่งให้ข้อได้เปรียบแก่พันธมิตรในการได้รับ GPU ที่จัดสรรในตลาดที่มีข้อจำกัดนี้            INSET วางเป้าหมายปี 2025 เติบโตจากธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ Cloud และ AI โดยมุ่งเน้นการลงทุนใน Data Center ในประเทศไทย จากความพร้อมด้านประสบการณ์ในการก่อสร้างส่วนงานอาคารหลายโครงการ และการเข้าร่วมประมูลงานจากผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนในไทย โดยคาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลตั้งแต่ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า นอกจากนี้ INSET ยังมีโอกาสลุ้นงานในกลุ่ม ICT ที่เกี่ยวข้องกับโครงข่ายต่างๆ เพิ่มเติม            PROEN การเข้ามาของกลุ่ม DAMAC ผู้ให้บริการ Data Center ระดับโลกจากดูไบที่มีลูกค้าทั่วโลก ได้ประกาศลงทุนร่วมกับ PROEN ภายใต้แบรนด์ EDGNEX ด้วยเป้าหมายเริ่มต้น 20MW ในปี 2025-2026 (พร้อมที่ดินรองรับแล้ว) และขยายเพิ่มเป็นหลัก 100MW ในระยะยาว โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา PROEN ได้โอน OTT DC ขนาด 5MW ซึ่งเป็นโครงการแรกให้กลุ่ม DAMAC และรับรู้รายได้-กำไรในช่วง 4Q24 ซึ่งเพิ่มโอกาสให้ PROEN เห็นการ Turnaround ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป โครงการดังกล่าวจะเปิดให้บริการลูกค้าเฟสแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และเฟส 2-3 จะเปิดครบในกลางปี 2025 โดยจะมีรายได้จากบริการหลังการขายและระบบประมวลผลเพิ่มเติม

True รุกดิจิทัล ปลอดภัย ชู “ทรู ไซเบอร์เซฟ ปกป้องภัยไซเบอร์”

True รุกดิจิทัล ปลอดภัย ชู “ทรู ไซเบอร์เซฟ ปกป้องภัยไซเบอร์”

          หุ้นวิชั่น -  ทรู คอร์ปอเรชั่น ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยโดยเฉพาะการปกป้องคนไทยจากภัยไซเบอร์ที่ปัจจุบันทวีความซับซ้อนและส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน  โดยได้ลงทุนพัฒนาระบบและนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงยกระดับภารกิจรักษาความปลอดภัยไซเบอร์   เปิดตัวบริการใหม่ “ทรู ไซเบอร์เซฟ True CyberSafe”  ระบบป้องกันภัยไซเบอร์จากมิจฉาชีพ ทั้งจาก ลิ้งค์แปลกปลอม  SMS หลอกลวง และการกรองสายเรียกเข้า   โดยนำร่องให้บริการระบบปิดกั้นและแจ้งเตือนการเข้าถึงลิ้งก์แปลกปลอม (Web / URL Protection) ทั้งที่เป็น Blacklist จากภาครัฐ และลิ้งก์ที่มีความเสี่ยง รวมเบื้องต้นกว่า 100,000 ลิ้งก์   สำหรับลูกค้ามือถือทรู ดีแทค และเน็ตบ้านทรูออนไลน์ทุกคน ฟรี! ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนหรือโหลดแอปเพิ่มเติม  สร้างความมั่นใจให้คนไทยสามารถใช้งานโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย พร้อมเตรียมต่อยอดแจ้งเตือน SMS AI Filter และแจ้งเตือนสายเรียกเข้า Call AI Filter ที่จะลดความเสี่ยงทุกมิติจากภัยไซเบอร์ อีกทั้ง ผนึกกำลัง แอสเซนด์ มันนี่ (ทรูมันนี่) เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้ามือถือทรู ดีแทค เมื่อใช้จ่ายผ่านแอปทรูมันนี่ ด้วยระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น 'TrueMoney 3 x Protection' ตรวจ-จับ-หยุด ธุรกรรมแปลกปลอมที่มั่นใจได้มากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าจับมือภาคีทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DE  คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ สกมช. หรือ NCSA สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  รวมถึง ภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันปกป้องคนไทยจากภัยไซเบอร์อย่างรอบด้าน    “มุ่งสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย”           นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า  “ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในภารกิจสร้างสังคมดิจิทัลที่ ครอบคลุม ปลอดภัย และยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแบบครบวงจร ทั้งการเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี 3G  4G และ 5G เป็นรายแรก การวางโครงข่ายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศแม้ในพื้นที่ห่างไกล และการสร้างระบบนิเวศน์ดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขี้นในทุกมิติ เพื่อร่วมทรานส์ฟอร์มประเทศไทยสู่ Digital Economy อย่างเต็มรูปแบบ  ขณะเดียวกัน ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลือนสู่สังคมดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ    ซึ่งรวมถึง Responsible AI (RAI)  ที่มีการใช้ AI ตามแผนการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบ  และภารกิจดูแลปกป้องประชาชนจากภัยไซเบอร์ ที่กลายเป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน  โดยล่าสุด ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ลงทุนพัฒนาระบบป้องกันภัยทางไซเบอร์ ที่นำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงมาใช้เพื่อดูแลปกป้องลูกค้าทรู ดีแทค ของเราทุกคน ซึ่งเป็นที่มาของการเปิดบริการ “ทรู ไซเบอร์เซฟ ปกป้องภัยไซเบอร์” ในวันนี้ อันเป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงถึงความตั้งใจของทรู คอร์ปอเรชั่นในการรับผิดชอบสังคมดิจิทัล และพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  หรือ กสทช.  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และพันธมิตรเอกชน   เช่น บริษัท แอสเซนต์ มันนี่ จำกัด  รวมถึงอีกหลายองค์กรทั้งในและต่างประเทศ  เพื่อสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งและครอบคลุมทุกมิติ  ”   “ยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อลูกค้าทรู ดีแทคทุกคน”                นางสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจต่างประเทศและบริการดิจิทัล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น  ตระหนักถึงปัญหาภัยไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา คนไทยสูญเสียจากการถูกหลอกออนไลน์สูงเป็นอันดับ 4 ของโลก และประเทศไทยมีปัญหา การโทรหลอกลวง สูงเป็นอันดับสองในเอเชีย และ SMS หลอกลวงมากที่สุดในเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่มีลิงก์ ที่มาจากเบราว์เซอร์ที่มีความเสี่ยงแนบมาด้วย   ดังนั้น เราจึงได้พัฒนาบริการใหม่ “ทรู ไซเบอร์เซฟ ปกป้องภัยไซเบอร์”  ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยไซเบอร์ที่ทันสมัย โดยทรูได้ลงทุนพัฒนาและนำ AI ขั้นสูงมาใช้เพื่อยกระดับการปกป้องและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการโลกออนไลน์ โดยระยะแรกจะให้บริการระบบคัดกรองลิ้งค์แปลกปลอมที่รวบรวมจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกกว่า 100,000 ลิ้งค์ โดยลูกค้าจะได้รับการบล็อก หรือ แจ้งเตือนทันทีหลังจากกดลิ้งก์จาก SMS หรือบราวเซอร์ เพื่อให้ลูกค้าพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจเลือกเข้าหรือไม่เข้าสู่ลิ้งก์ดังกล่าว    โดย เปิดให้ลูกค้ามือถือทรู ดีแทค หรือทรูออนไลน์ ที่เชื่อมต่อเน็ตบ้าน หรือ WiFi ของทรูทุกคน ใช้บริการได้ ฟรี!  ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถใช้ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนหรือโหลดแอปเพิ่มเติม” “ทุ่มทุนพัฒนา AI ขั้นสูง กับ True CyberSafe “               ทรู ไซเบอร์เซฟ เป็นระบบป้องกันภัยไซเบอร์ ที่ทรูได้พัฒนานำ AI ขั้นสูงมาใช้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์   แบบแผน และพฤติกรรม การใช้ลิงก์/URL , การส่งSMS และ การโทร เพื่อหาความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ ผ่านแมชชีนเลิร์นนิ่ง  รวมทั้งช่วยตรวจจับ คัดกรอง ลิ้งก์/URL แปลกปลอม ที่รวบรวมฐานข้อมูล จากความร่วมมือกับภาครัฐ พันธมิตรเอกชน การร้องเรียนจากลูกค้า การวิเคราะห์จาก AI และจากการลงทุนของกลุ่มทรู ซึ่งได้มาจากทั่วโลกกว่า 100,000 ลิ้งก์ในระยะแรก และจะมีการพัฒนาฐานข้อมูลให้ครอบคลุมกลลวงมิจฉาชีพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ ระบบทรู ไซเบอร์เซฟ  ยังเป็นไปตามข้อบังคับ PDPA โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง เพื่อปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า  ซึ่งกระบวนการทำงานของ AI ทั้งหมดนี้ ทำให้ทรูสามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติ และแจ้งเตือนภัยออนไลน์ จากมิจฉาชีพ ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และสามารถป้องกันภัยไซเบอร์จากมิจฉาชีพได้ใน 4 รูปแบบ คือ 1. ลิ้งค์แปลกปลอม ปกป้องลูกค้ามือถือทรู ดีแทค : บล็อก หรือ แจ้งเตือน  เมื่อมีการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย หากลูกค้ากดเข้าไป จาก SMS หรือ บราวเซอร์ 2. ลิ้งค์แปลกปลอม ปกป้องลูกค้าเน็ตบ้านทรูออนไลน์ : บล็อก หรือ แจ้งเตือน  เมื่อมีการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย  บนเว็บบราวเซอร์ 3. SMS AI Filter : โดยจะแจ้งเตือนSMS ที่อาจเป็นมิจฉาชีพ ใช้ AI ในการประมวลพฤติกรรมของมิจฉาชีพ 4. Call AI Filter การกรองสายเรียกเข้า : แจ้งเตือนสายเรียกเข้าที่อาจเป็นมิจฉาชีพ โดยความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรเอกชน ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเต็มระบบทุกรูปแบบราวเดือนมีนาคม 2568 “ผนึกทรูมันนี่ ชูระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น”    นอกเหนือจาก การพัฒนาระบบความปลอดภัยไซเบอร์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว   ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ร่วมกับ แอสเซนต์ มันนี่ มอบการปกป้องการหลอกลวงทางการเงิน ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้าทรู ดีแทค เมื่อใช้จ่ายผ่านแอป True Money  ด้วยระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น 'TrueMoney 3 x Protection' ตรวจ-จับ-หยุด ธุรกรรมแปลกปลอมที่มั่นใจได้มากกว่า “ครอบคลุมครบทุกมิติ 360 องศา” ยิ่งไปกว่านั้น ทรู คอร์ปอเรชั่น  ยังได้ร่วมป้องกันภัยไซเบอร์ครอบคลุมการดำเนินการทุกมิติทั้ง 360 องศา   ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับ  ภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น การปิดเสาสัญญาณบริเวณชายแดนเพื่อป้องกันมิจฉาชีพลักลอบใช้สัญญาณเครือข่ายในการหลอกลวงประชาชน  ดำเนินการตามมาตรการลงทะเบียนซิมอย่างเข้มงวด  พร้อมใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวิเคราะห์ประมวลผลตรวจสอบความผิดปกติของการลงทะเบียนซิมและการใช้งานผิดปกติ  รวมทั้งให้ข้อมูลและชี้เบาะแสเพื่อช่วยหน่วยงานภาครัฐในการปราบปรามมิจฉาชีพ อีกทั้งยังเปิดศูนย์ฮอตไลน์ 9777 ให้โทรแจ้งเบอร์โทรและ SMS ต้องสงสัย  พร้อมแจ้งผลภายใน 48 ชม. เพื่อนำไปสู่การจับกุมมิจฉาชีพ    ยิ่งไปกว่านั้น ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังมุ่งเน้นเสริมสร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้เท่าทันกลลวงของมิจฉาชีพทางออนไลน์ โดยจัดกิจกรรมเวิร์กชอป เสริมทักษะให้คนไทยรู้ทันโลกออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ทรูปลูกปัญญา อีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม “ทรู ไซเบอร์เซฟ”  ได้ https://www.true.th/services/true-cyber-safe

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

TRUE ชี้แจงพรีเมียร์ลีก ยันไม่กระทบธุรกิจ

TRUE ชี้แจงพรีเมียร์ลีก ยันไม่กระทบธุรกิจ

          กรุงเทพฯ 12 พฤศจิกายน 2567 – ทรูวิชั่นส์ รายงานว่า ได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) ฤดูกาลหน้า 2025-2028 โดยได้ยื่นข้อเสนอไปในราคาที่เหมาะสม แต่มีรายอื่นที่เสนอราคาสูงกว่าและได้รับสิทธิ์ไป อย่างไรก็ตาม ทรูวิชั่นส์ ยืนยันว่าสมาชิกยังสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ผ่านทุกช่องทางของทรูได้อย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูกาลในเดือนพฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ผลจากการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น           นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า ทรูวิชั่นส์ มีความตั้งใจมาโดยตลอดที่จะให้ได้มาซึ่งคอนเทนท์ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกันได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2025-2028 ซึ่งแม้ได้ยื่นข้อเสนอแข่งขันไปในราคาที่เหมาะสม แต่เนื่องจากมีผู้ร่วมประมูลรายอื่นเสนอราคาสูงกว่าจึงได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสำหรับฤดูกาลหน้าไป อย่างไรก็ตาม สมาชิกทรูวิชั่นส์ยังคงสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ได้อย่างเต็มอิ่มจนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า (2568) รวมทั้งยังสามารถรับชมคอนเทนท์กีฬาฟุตบอลระดับโลกอื่น ๆ บนทรูวิชั่นส์ เช่น ลาลีกา,บุนเดสลีกา, ซาอุดิลีก, ซาอุดี คิงส์คัพ, เอลีก (ออสเตรเลียน ลีก), ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่ายูโรปา ลีก, ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก, เอฟเอคัพอังกฤษ รวมถึงฟุตบอลไทยลีก1 ไทยลีก2, ช้างเอฟเอคัพ และ รีโวคัพ           ผลจากการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น หรือความพึงพอใจของลูกค้าสมาชิก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนในคอนเทนท์ที่หลากหลายทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการความบันเทิงของสมาชิกทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังเดินหน้าพัฒนาบริการการรับชมผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเสริมประสบการณ์การรับชมคอนเทนท์ เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้าในทุก ๆ วันอย่างต่อเนื่องต่อไป [PR News]

TRUE ได้ไปต่อ โบรกฯมอง ราคาหุ้นน่าสน-รอลุ้นข่าวดีปีหน้า

TRUE ได้ไปต่อ โบรกฯมอง ราคาหุ้นน่าสน-รอลุ้นข่าวดีปีหน้า

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน จากบทวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ได้วิเคราะห์ TRUE หลังประกาศงบ Q3/67 ขาดทุนลดลง y-y และ q-q จากรายได้จากการให้บริการเติบโต y-y, q-q โดยหลักมาจากรายได้ธุรกิจมือถือ ทางฝ่ายฯ คาดปี 2567 ขาดทุนน้อยลง จากการรับรู้รายได้ธุรกิจมือถือและธุรกิจออนไลน์เพิ่มขึ้น ตามการเข้ามาของนักท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้รอลุ้นข่าวดีรับต้นปี 68 จากการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะมาถึง ฝ่ายวิจัยเคาะราคาพื้นฐานปี68 ที่16.28 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยทางฝ่ายวิจัยประเมินราคาหุ้น โดยใช้ EV/EBITDA อยู่ที่ 9.97 เท่า เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มั่นคงและเป็นบริษัทฯที่ใหญ่ ทางฝ่ายฯ มีการปรับเพิ่มรายได้หลักในปี 2567 เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้หลัก Q3/67 ที่เติบโต y-yและ q-q คาดขาดทุนสุทธิปี 67 ที่ 9 ลบ. เติบโต 39.2% y-y ราคาพื้นฐานปี 68อยู่ที่ 16.28 บาท/หุ้น ราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาพื้นฐาน คงคำแนะนำ “ซื้อ”

TRUE เตือนอย่าเชื่อเพจปลอม ใช้โลโก้ชวนเทรดหุ้น

TRUE เตือนอย่าเชื่อเพจปลอม ใช้โลโก้ชวนเทรดหุ้น

          กรุงเทพฯ, 4 พฤศจิกายน 2567 – ตามที่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “TRUE”) ได้ตรวจพบว่า มีการแอบอ้างนำชื่อ โลโก้ของบริษัทฯไปใช้เพื่อเชิญชวนเข้าร่วมคอร์สเรียนเทรดออนไลน์ และรับคำปรึกษาด้านการลงทุนจากโค้ชมืออาชีพ           บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯและบริษัทในเครือ ไม่มีการดำเนินธุรกิจคอร์สเรียนเทรดหุ้นออนไลน์ หรือลงทุนซื้อ-ขายหุ้นดังที่มีการกล่าวอ้าง รวมถึง บริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพจหรือกลุ่มที่ใช้ชื่อ "บริษัทแอสเซนด์ ประเทศไทย" หรือ “Ascendth” ที่มีการอ้างชื่อและนำโลโก้ทรูไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาต           *จึงขอเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะหากมีการเชิญชวนซื้อหุ้นทรูในราคาพิเศษ ต่ำกว่าราคาในตลาดหลักทรัพย์ โปรดอย่าหลงเชื่อ โดย หุ้นทรู จะซื้อขายผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น           ทั้งนี้ ขอเรียนย้ำว่า การดำเนินการใดๆ ที่เกิดจากเพจหรือกลุ่มดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกกรณีกับบริษัทฯและบริษัทในเครือ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบิดเบือนข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายแก่องค์กรต่อไป

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

TRUE กำไร Q3 ที่ 3.1 พันล. หลังปรับรายการพิเศษ-EBITDA โตต่อ

TRUE กำไร Q3 ที่ 3.1 พันล. หลังปรับรายการพิเศษ-EBITDA โตต่อ

           หุ้นวิชั่น - 25 ตุลาคม 2567 - บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เผยมีกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax) ที่ 3.1 พันล้านบาท EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากการมุ่งเน้นผลการดำเนินงานและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น พร้อมการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy)            นาย มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ในไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่นมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและภูมิภาค รวมถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด การลงทุนด้านโครงข่ายของเราเสริมสร้างความเชื่อมั่นทั้งในด้านความพร้อมอย่างเต็มประสิทธิภาพ การดำเนินงานที่ยืดหยุ่นคล่องตัว และการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เรายังให้ความสำคัญในการเร่งช่วยเหลือลูกค้าและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สำหรับ EBITDA เติบโตเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของเราในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย โดยมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการผสานปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อยกระดับทั้งการดำเนินงานภายในและการบริการลูกค้า เรายังคงมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด"            นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในไตรมาส 3 ปี 2567 เรายังคงมุ่งเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 10,000 สถานีจากทั้งหมด 17,000 สถานี นอกจากนี้ เรากำลังนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในเชิงลึก เพื่อสร้างสรรค์บริการรูปแบบใหม่ ยกระดับการดำเนินธุรกิจ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังภูมิใจที่เป็นรายแรกในประเทศไทยที่นำแผนการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible AI (RAI) Maturity Roadmap ของ GSMA มาใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ AI ของเราเป็นไปอย่างมีจริยธรรมและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล"            ในไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพของการได้มาในส่วนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงสุทธิ 1.2 ล้านเลขหมาย หรือ 2.3% จากไตรมาสก่อน โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 49.3 ล้านเลขหมาย ผู้ใช้บริการระบบรายเดือนลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนมาอยู่ที่จำนวน 15.2 ล้านราย ในขณะที่ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินมีจำนวน 34.1 ล้านราย ผู้ใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 3.7 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 ผู้ใช้บริการ 5G มีจำนวน 12.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน            นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า "ทรู คอร์ปอเรชั่นประสบความสำเร็จด้วยการเติบโตของ EBITDA เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้ไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรภายหลังการปรับปรุงดีขึ้นอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC เติบโต 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และออนไลน์ รายได้รวมอยู่ที่ 5.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการในทุกกลุ่มธุรกิจ"            จากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการผสานการบริหารผลงานร่วมกับวัฒนธรรมองค์กร ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ (ARPU) เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจเมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3.7% (YoY) จาก ARPU เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5.6% (YoY) รายได้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 7.5% (YoY) โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ ARPU อย่างต่อเนื่องที่ 9.8% (YoY)  ส่วนรายได้จากบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (PayTV) เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมี ARPU เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีที่แล้ว            สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ D&A) ลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนเครือข่ายลดลง 13.3% (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมทั้งจากการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและการจัดซื้อจัดจ้าง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง 17.7% (YoY) โดยการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมในโครงการปรับปรุงด้านธุรกิจและการพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย ซึ่งจากการเร่งดำเนินการเพื่อรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมในด้านสำคัญต่าง ๆ และการมุ่งเน้นเชิงลึกในการเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงโครงสร้าง ทรู คอร์ปอเรชั่น สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง            ทรู คอร์ปอเรชั่นบันทึกการเพิ่มขึ้นของ EBITDA จำนวน 5,530 ล้านบาท นับตั้งแต่การควบรวมกิจการ ซึ่งนับเป็นการเติบโตของ EBITDA เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 EBITDA ปรับตัวดีขึ้น 646 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน (QoQ) เพิ่มขึ้น 2.7% (QoQ) อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่การควบรวมกิจการที่ 60.2% ในไตรมาส 3 ปี 2567            สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่นบันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (one-time costs) จากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย จำนวน 3,917 ล้านบาท ส่งผลให้มีขาดทุนสุทธิหลังหักภาษี 810 ล้านบาท ซึ่งเมื่อปรับปรุงรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว กำไรสุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 3,107 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 709 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 9,919 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย            แนวโน้มสำหรับทรู คอร์ปอเรชั่นในปี 2567 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) เติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน EBITDA จะเติบโต 12-14% (YoY) ในขณะที่แนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) รวมถึงการลงทุนเพื่อการควบรวมกิจการยังคงอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2567 จะยังคงมีกำไรหากไม่รวมการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เครือข่ายที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญในไตรมาส 3 ปี 2567 รายได้จากบริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC จำนวน 41,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% (YoY) และคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน EBITDA อยู่ที่ 24,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% (YoY) และ 2.7% (QoQ) อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 60.2% กำไรสุทธิภายหลังการปรับปรุง (Normalized) จำนวน 3,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 709 ล้านบาท (QoQ)

บล.กรุงศรี ชี้กลุ่ม ICT ขาขึ้น โอกาสซื้อ

บล.กรุงศรี ชี้กลุ่ม ICT ขาขึ้น โอกาสซื้อ "ADVANC"

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ยังคงมุมมองเชิงบวกกับกลุ่มจากกำไรและกระแสเงินสดที่ยังเป็นขาขึ้นผลักดันจากรายได้ต่อเลขหมายที่ยังเป็นขาขึ้นอยู่ คาดว่ากำไรของ ADVANC และ TRUE จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq ในช่วงไตรมาส 3/67 แม้ว่าจะเป็นช่วง low season ซึ่งถ้าผลประกอบการออกมาตามคาด           คาดว่า ทั้งฝ่ายวิเคราะห์และตลาดจะมีการปรับประมาณการกำไรของหุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ขึ้น การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นโดยเฉพาะหุ้น ADVANC ถือว่าเป็นโอกาสซื้อ และ TRUE ยังเป็นหุ้น Top Pick

KSS แนะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ชอบ ADVANC, CPALL, TRUE

KSS แนะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ชอบ ADVANC, CPALL, TRUE

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET Index บ่ายนี้จะแกว่งในกรอบ 1,477 -1,490 จุด โดยยังไม่มีปัจจัยหนุนหรือกดดันอะไรใหม่ ปัจจัยสำคัญตลาดจะให้โฟกัสคือ วันพฤหัสบดีนี้ รายละเอียดมาตรการและวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน และการรายงานงบฝั่ง Real sector ที่จะเริ่มทยอยประกาศ อาทิ DELTA, TRUE กลยุทธ์แนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีโดยเฉพาะกลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 3/67 จะออกมาแข็งแกร่ง ( ADVANC, CPALL, TRUE, IVL MOSHI) โดยมี Top Pick บ่ายนี้ คือ ADVANC, CPALL, TRUE

abs

Hoonvision

TRUE เสริมสัญญาณ 5G/4G  19 จุดชมขบวนพยุหยาตราฯ

TRUE เสริมสัญญาณ 5G/4G 19 จุดชมขบวนพยุหยาตราฯ

           ทรู คอร์ปอเรชั่น ขยายสัญญาณ 5G, 4G, WiFi รองรับประชาชนร่วมรับชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จัดโซลูชันครบวงจรรองรับจุดชมริมเจ้าพระยา ทีมลงพื้นที่ตรวจสอบสัญญาณมั่นใจวันซ้อมเสมือนจริง            18 ตุลาคม 2567 – ทรู คอร์ปอเรชั่น จัดโซลูชันเพิ่มสัญญาณเครือข่าย 5G, 4G, WiFi พร้อมรองรับการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ที่ประชาชนจะร่วมรับชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตามเส้นทางริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สะพานพระราม 8 จนถึงวัดอรุณราชวราราม โดยขยายเครือข่ายการสื่อสารเป็นที่เรียบร้อย พร้อมนำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบสัญญาณให้มั่นใจ พร้อมรองรับการใช้งานทั้งในวันซ้อมใหญ่เสมือนจริงซึ่งจะจัดขึ้นอีก 1 ครั้ง ในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 และในวันพระราชพิธีจริง คือ วันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้            เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประชาชนจะได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567            นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทรู คอร์ปอเรชั่นขยายเพิ่มสัญญาณเครือข่าย 5G, 4G, WiFi เพื่อรองรับการสื่อสารของประชาชนที่ร่วมรับชมความงดงามพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร            ทีมงานได้เตรียมความพร้อมการสื่อสารอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับประชาชนคนไทยที่จะร่วมเฝ้ารับเสด็จและชมความงดงามขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ด้วยปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเชื่อมต่อและการแบ่งปันความประทับใจ โดยเฉพาะภาพและวิดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือ เราจึงได้วางแผนและออกแบบเครือข่ายเป็นพิเศษ เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น และตอบสนองการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”            โซลูชันเสริมความแข็งแกร่ง และขยายเครือข่ายทรู คอร์ปอเรชั่นรองรับการใช้งานเส้นทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนี้ เพิ่มรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (COW หรือ Cell-On-Wheel) ประจำจุดสถานที่สำคัญ ติดตั้งเสาสัญญาณเฉพาะกิจ (Temporary site) ขยายสู่พื้นที่จัดกิจกรรมและรองรับการเข้าชม ติดตั้ง WiFi รองรับบริการตามจุดสำคัญเส้นทางสัญจรของประชาชน พารามิเตอร์สัญญาณ (Event Parameter) ปรับแต่งค่าสัญญาณตามพฤติกรรมการใช้งาน BNIC ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อม AI พร้อมดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง            น.ส. เกศิณี จันทร์วิจิตร วิศวกรชำนาญการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “พวกเราเตรียมความพร้อมมากกว่า 5 เดือน โดยทีมได้นำดาต้าการใช้งาน และประสบการณ์ที่ได้ร่วมอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารดิจิทัลแก่ประชาชนเมื่อครั้งที่ได้เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนรองรับการใช้งานในครั้งนี้ให้ดีที่สุด และเราได้ลงพื้นที่นำทีมร่วมตรวจสอบการใช้งานในวันซ้อมใหญ่เสมือนจริงเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา สู่การวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อออกแบบการใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”            ส่วนหนึ่งของจุดสำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ขยายความแรงสัญญาณ 5G, 4G, WiFi ท่าเรือ – ท่าวาสุกรี ท่ามหาราช ท่าราชวรดิษฐ์ ท่าเรือราชินี (ปากคลองตลาด) วัด – วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวราราม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร สถานที่ราชการ – ธนาคารแห่งประเทศไทย หอประชุมกองทัพเรือ อู่ทหารเรือธนบุรี สน.บวรมงคล โรงพยาบาลศิริราช สะพานข้ามเจ้าพระยา - สะพานพระราม8 และสะพานพระปิ่นเกล้า สวนและลานกิจกรรม – สวนสันติชัยปราการ สวนนาคราภิรมย์ ลานปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถานที่เอกชน – ร้านอาหารกินลมชมสะพาน และอื่นๆ            “ทีมงานของเราภาคภูมิใจที่เห็นประชาชนมาร่วมงานได้ใช้งานมือถือเพื่อการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง นับเป็นประสบการณ์ที่ภาคภูมิใจสูงสุดของเราที่ได้ทำงานนี้ สำหรับครั้งนี้ จุดรองรับการใช้งานต่างจากทั่วไปซึ่งจัดขึ้นในเมือง แต่ครั้งนี้เป็นพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา เราได้วิเคราะห์ข้อมูลสภาพแวดล้อมทั้งจุดสำหรับใช้เป็นพื้นที่เพื่อติดตั้งรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (COW) และติดตั้งเสาสัญญาณเฉพาะกิจ (Temporary site) ซึ่งสถานที่ริมน้ำส่วนใหญ่จะมีทั้งพื้นที่จำกัดมากกว่า เราต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่ต่างๆ ทั้งหน่วยงานราชการ หรือเอกชนเพื่อนำโซลูชันและคลื่นสัญญาณที่เหมาะสมติดตั้งในพื้นที่ใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งคำนวณถึงเส้นทางสัญจรของประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมรับชมในจุดต่างๆ อีกด้วย” น.ส. เกศิณี กล่าวในที่สุด            ทรู คอร์ปอเรชั่น มุ่งมั่นให้ความสำคัญในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า โดยยกระดับการบริการสู่มาตรฐานระดับโลก (No.1 World-Class Customer Experience) และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลให้ทันสมัย มีคุณภาพสูง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน 5G, 4G และ WiFi ด้วยการปรับปรุงเทคโนโลยีเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาตรฐานสูงสุดและตอบสนองพฤติกรรมใช้งานดิจิทัลของลูกค้า [PR News]

[PR News]

[PR News] "ทรู" ควง "เทนนิส" คิดอย่างแชมป์ ทำอย่างแชมป์

          ทรู ต้อนรับสาวไทยหัวใจแชมป์  “เทนนิส วงศ์พัฒนกิจ” เข้าสู่ครอบครัว ชูแนวคิด “คิดอย่างแชมป์ ทำอย่างแชมป์” สะท้อนสปิริตแชมป์ของทรูไปด้วยกัน พร้อมส่ง 3 แพ็กเกจ เอาใจคนรักกีฬาและความบันเทิง ย้ำภาพผู้นำคอนเทนต์กีฬาและบันเทิงระดับโลก           กรุงเทพฯ, 10 ตุลาคม 2567 –  ทรู คอร์ปอเรชั่น  ต้อนรับ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ปารีส 2024 เข้าสู่ครอบครัวทรู ชื่นชมในความมุ่งมั่นและสปิริตนักสู้ของเทนนิสแชมป์ตัวจริง ที่สะท้อนถึงคุณค่าของแบรนด์ทรูอย่างชัดเจน …..พร้อมกันนี้ ทรูได้เปิดตัวแคมเปญยิ่งใหญ่ “Champ Spirit, True Spirit คิดอย่างแชมป์ ทำอย่างแชมป์” ที่สะท้อนความมุ่งมั่นของแชมป์ที่แท้จริง ที่ไม่เคยยอมแพ้ พร้อมเป็นกำลังใจให้คนไทยเดินหน้าตามความฝันด้วยจิตวิญญาณของนักสู้เช่นเดียวกับเทนนิส  และเปิดตัว 3 แพ็กเกจกีฬาพิเศษ เพื่อเอาใจแฟนชาวไทยหัวใจนักสู้แบบคุ้มค่าสุด ทั้งแพ็กเกจมือถือรายเดือน 5G Super Sports EPL+ จาก True dtac 5G เริ่มต้นที่ 1,199 บาท และแพ็กเกจเน็ตบ้าน TrueOnline Super Sports EPL+ เพียง 1,199 บาท แพ็กเกจเน็ตบ้านไฟเบอร์ พร้อมดูพรีเมียร์ลีก หลากหลายกีฬาฮิต หนัง ซีรีส์ และอนิเมะดัง และ TrueVisions NOW MAX – แพ็กเกจพรีเมียม รวมกีฬาและคอนเทนต์บันเทิงครบครัน ราคา 2,155 บาท           นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ “เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” ฮีโร่แห่งชาติและเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เข้าสู่ครอบครัวทรู เทนนิสแสดงให้เห็นถึงสปิริตของแชมป์ที่แท้จริง สู้ในทุกสถานการณ์แม้ว่าเกมจะยากลำบากหรือเจอสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่เทนนิสไม่เคยถอย ด้วยความเชื่อมั่นในตนเองที่ต้องทำได้ด้วยสปิริตนักสู้ จนทำให้เทนนิสคว้าแชมป์มาให้คนไทยได้ชื่นชม  ซึ่งความมุ่งมั่นของเทนนิสสะท้อนถึงความเป็นทรูที่ คิดอย่างแขมป์ ทำอย่างแชมป์ เช่นเดียวกัน คือต้องไม่ยอมแพ้ ต้องทำให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาทรูต้องฝ่าฟันสถานการณ์ที่ท้าทายมาหลายครั้ง แต่ด้วยความเป็นนักสู้ของคนทรู และเชื่อว่าเราทำได้ และต้องทำให้ดีกว่าในทุกด้าน ทำให้เราสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำโทรคมนาคม เทคคอมปานี   และเป้าหมายสำคัญในวันนี้ที่เราต้องก้าวต่อไปคือการสร้าง Digital Transformation เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ากว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘Your Everyday Living Tech’ เทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นในทุกๆ วัน"           นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เทนนิส และทรู คอร์ปอเรชั่นนับเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบของสองแชมป์ผู้นำด้านกีฬา  โดยเทนนิสถือเป็น 'Queen of Sport' ผู้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความเป็นเลิศ แชมป์เหรียญทองโอลิมปิกกีฬา      เทควันโด 2 สมัย ที่กลายเป็นตำนานที่คนไทยและคนทั่วโลกต่างให้การยอมรับในความสามารถ  ขณะที่ทรูเป็น ‘King of Content’ ที่สุดของกีฬา ละคร ซีรีส์ และแอนิเมชัน เป็นผู้นำคอนเทนต์กีฬาระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีการนำเสนอคอนเทนต์กีฬาระดับโลกอย่างต่อเนื่องส่งตรงให้คนไทยได้รับชมถึงบ้าน และร่วมสนับสนุนทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกมาโดยตลอด อีกทั้งทรูเองยึดมั่นในสิ่งที่เราทำ เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพเครือข่ายที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า การันตีด้วยรางวัล nPerf 8 ปีซ้อน จากความเร็ว ดาวน์โหลด อัปโหลด การเปิดเว็บและรับชมวีดีโอยูทูป ดังนั้นการจับคู่กันของทรูและเทนนิสจึงเป็นการผสานความเป็นเลิศทั้งในด้านกีฬาและความบันเทิง ให้กับแฟนๆ ชาวไทยอย่างแท้จริง โดยในครั้งนี้ เราได้ออกแบบ 3 แพ็กเกจสินค้าจากทรูเพื่อเอาใจแฟนกีฬาชาวไทยโดยเฉพาะให้ได้สัมผัสกับคอนเทนต์กีฬาระดับโลกในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของเธอ แต่ยังเป็นความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์กีฬาระดับโลกให้กับแฟนกีฬาทั่วประเทศ"           เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความร่วมมือครั้งนี้ ทรูได้เปิดตัวแคมเปญ TVC ภายใต้ชื่อ "Champ Spirit, True Spirit" ที่แสดงถึงการเดินทางของเทนนิสและความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ พร้อมสนับสนุนคนไทยให้คิดอย่างแชมป์ ทำอย่างแชมป์ เดินหน้าตามความฝันด้วยจิตวิญญาณของนักสู้เช่นเดียวกับเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ โดยหนังโฆษณารับชมได้แล้ววันนี้ พร้อมเปิดตัว 3 แพ็กเกจกีฬาพิเศษเพื่อแฟนกีฬาชาวไทยโดยเฉพาะ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ เร็วระดับแชมป์ มันสุด! แพ็กเกจมือถือรายเดือน เน็ตและโทรพร้อมพรีเมียร์ลีก กีฬาฮิต ซีรีส์ อนิเมะดัง ความบันเทิงระดับโลก 5G Super Sports EPL+ – เริ่มต้นที่ 1,199 บาท เน็ตบ้านไฟเบอร์แรงระดับแชมป์ มันสุด! ติดเน็ตบ้านทรู พร้อมชมพรีเมียร์ลีก กีฬาฮิต ซีรีส์ อนิเมะดัง ความบันเทิงระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีกครบทุกแมตช์ UEFA, F1, เทนนิส และอีกมากมายจาก TrueVisions NOW แพ็กเกจ TrueOnline Super Sports EPL+ – แพ็กเกจสุดคุ้มเพียง 1,199 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.true.th/true-online ครบระดับแชมป์ ทั้งกีฬาสด หนัง รายการดังจากทั่วทุกมุมโลก มากกว่า 68 ช่อง ดูได้พร้อมกันสูงสุด 4 จอ TrueVisions NOW Max – แพ็กเกจพรีเมียม ราคา 2,155 บาท ที่รวมกีฬาและคอนเทนต์บันเทิง ครบครัน รายละเอียดเพิ่มเติมทั้ง 3 แพ็กเกจที่ www.true.th/true-network/true-spirit

[PR News] “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ดอกเบี้ย 2.95–4.10%ต่อปี เครดิต “A+”

[PR News] “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ดอกเบี้ย 2.95–4.10%ต่อปี เครดิต “A+”

          กรุงเทพฯ : 8 ตุลาคม 2567 - บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) บริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย และอันดับ 1 ของโลกด้านความยั่งยืน ด้วยคะแนน DJSI 2023 สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 5 ชุด อายุหุ้นกู้ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [2.95 - 4.10]% ต่อปี ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ “A+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากทริสเรทติ้ง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่นในธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล คาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 21-22 และ 25 พฤศจิกายน 2567 ผ่าน 7 สถาบันการเงินชั้นนำได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ซีไอเอ็มบี ยูโอบี บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้           นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ของทรู คอร์ปอเรชั่นแสดงถึงความสำเร็จต่อเนื่องจากการควบรวมทรูและดีแทค ด้วยกำไรสุทธิ (หลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ) 2.4 พันล้านบาท และ EBITDA ที่เติบโตเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน สะท้อนการเติบโตของรายได้จากธุรกิจหลักและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ  เรายังมุ่งสู่การเป็นผู้นำโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่ยั่งยืน เน้นการใช้ AI และระบบอัตโนมัติเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กร  นอกจากนี้ การลงทุนในเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุม 92% ของประชากร จะช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทและสร้างคุณค่าแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน”           บริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “A+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะผู้นำทางการตลาด (market position) ในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เสริมทัพด้วยโครงข่ายทั่วประเทศ ชุดคลื่นความถี่ที่ครอบคลุม และชื่อแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคย  อีกทั้งปัจจัยบวกจากประโยชน์ที่คาดว่า จะเกิดขึ้นจากการควบรวม รวมถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทฯที่คาดว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นในอนาคตอีกด้วย           ทางด้านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสะสมหุ้นกู้ที่มีคุณภาพก่อนที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเริ่มปรับตัวลดลง โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยปรับลดลง 0.50% และส่งสัญญาณที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ สำหรับประเทศไทย แม้ว่าการประชุมเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% แต่ก็มีโอกาสที่ กนง. จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯประกาศลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยการประชุมครั้งต่อไปคือวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ช่วงเวลานี้จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนในการสะสมหุ้นกู้ เพื่อล็อคผลตอบแทนไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะนักลงทุนที่นิยมลงทุนในหุ้นกู้ที่มีคุณภาพสูง และด้วยอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” ของทรู น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน”           หุ้นกู้ครั้งนี้จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยมีอายุหุ้นกู้ระหว่าง 2 ปี ถึง 10 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทั้งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 21-22 และ 25 พฤศจิกายน 2567 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ซึ่งบริษัทฯ หวังว่าหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนหุ้นกู้ทุกชุดที่ผ่านมาของบริษัทฯ โดยหุ้นกู้ทั้ง 5 ชุดที่เสนอขาย มีรายละเอียดดังนี้ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [2.95 - 3.10]% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.25 - 3.40]% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.65 – 3.80]% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.80 – 3.95]% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.95 – 4.10]% ต่อปี ซึ่งเฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดได้ตั้งแต่หุ้นกู้ครบปีที่ 5 เป็นต้นไป           ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือ สอบถามรายละเอียดที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02 888 8888 กด 869 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 777 6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 626 7777 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน แอป CIMB Thai Digital Banking ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 285 1555 บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02 680 4004 บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02 165 5555 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปฯ Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)           สำหรับผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet สามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ ได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6

“โกลเบล็ก” คัดหุ้นธีมลงทุน Data Center

“โกลเบล็ก” คัดหุ้นธีมลงทุน Data Center

          กรุงเทพฯ - บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทย Sideway Up จากแรงหนุนเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ 1 เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค. และเริ่มซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 ต.ค. และล่าสุด Google ประกาศแผนลงทุน Data Center ในไทย หนุนดัชนีในเดือนตุลาคมเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,480 จุด และกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน Data Center ได้แก่ WHA, ADVANC, GULF, TRUE และ INSET           นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนตุลาคม 2567 มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ 1 เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค. และเริ่มซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 ต.ค.ประกอบกับมีแรงหนุนจาก Google ประกาศแผนลงทุน Data Center ในประเทศไทย 3.6 หมื่นล้านบาทภายในปี 2572 จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,400-1,480 จุด           นอกจากนี้ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. 2567 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดในวันชาติจีน (Golden Week) จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยประมาณ 1.32-1.83 แสนคน เพิ่มขึ้น 57-144% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 คาดว่าจะสร้างรายได้ทาง การท่องเที่ยวประมาณ 3,710-5,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 58-121%           ขณะที่ทางธนาคารกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ทั้งลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.30% สู่ระดับ 2.00% ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% สู่ระดับ 6.6% ซื้อคืนพันธบัตร (reverse repo) ระยะ 7 วัน มูลค่า 1.82 แสนล้านหยวน (ราว 2.596 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่อัตราดอกเบี้ย 1.5% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน  รวมทั้งสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมด (existing home loan) ก่อนวันที่ 31 ต.ค. เพื่อฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์           ด้านปัจจัยในประเทศที่ยังคงต้องจับตาต่อ ได้แก่ วันนี้ (2 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.), วันที่ 7 ต.ค. กองทุนวายุภักษ์ เริ่มซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์, สัปดาห์ที่ 2 กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า  สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย, สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, วันที่ 16 ต.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2567, สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, กระทรวงพาณิชย์แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย, สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค  ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, วันที่ 30 ต.ค.รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ และวันที่ 31 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย           ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตาวันที่ 1-7 ต.ค. ตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันชาติจีน,วันนี้ (2 ต.ค.) อียู รายงานอัตราว่างงานเดือนส.ค., สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 3 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีภาคบริการเดือนก.ย., วันที่ 4 ต.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย., วันที่ 23 ต.ค. สำนักข่าว CNN จัดโต้วาทีครั้งที่ 2 สำหรับผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ, วันที่ 5 พ.ย. วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและ วันที่ 6-7 พ.ย. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ           ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน Data Center  ได้แก่ WHA, ADVANC, GULF, TRUE และ INSET           ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในเดือนตุลาคมว่า ราคาทองคำมีโอกาสพักตัว โดยให้ระวังแรงขายทำกำไรหลังประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมามีสัญญาณชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง  ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง และปัจจัยทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนทองคำ มองกรอบทองคำเดือนนี้ 2,530 – 2,700 $/Oz คาดว่ามีโอกาสทดสอบแนวรับ

INSET พร้อมเติบโตตามอุตสาหกรรม Data Center

INSET พร้อมเติบโตตามอุตสาหกรรม Data Center

          หุ้นวิชั่น - INSET พร้อมเติบโตตามการขยายตัวของอุตสาหกรรม Data Center โดยในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เราคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลและ AI ที่มีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บริษัทรับงานก่อสร้าง Data Center มากขึ้น คาดว่าจะเริ่มเห็นการประมูลโครงการตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป แต่การรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นในปี 2569           นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET เปิดเผยกับ หุ้นวิชั่น ว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุด Google ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท ในประเทศไทยระหว่างปี 2568-2572 เพื่อสร้าง Data Center และ Cloud Region แห่งใหม่ ซึ่งเป็นการลงทุนสำคัญที่ช่วยผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้           การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีในประเทศ แต่ยังเปิดโอกาสให้ประเทศไทยรองรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลขั้นสูง เช่น 5G, ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud), Internet of Things (IoT) และ Smart City           นอกจากนี้ การสร้าง Data Center และ Cloud Region ของ Google ยังช่วยดึงดูดผู้ประกอบการด้านบริการข้อมูลระดับโลกเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากประเทศมีความโดดเด่นในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน อัตราค่าไฟฟ้าที่แข่งขันได้ และการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนของผู้ประกอบการยุคใหม่           สำหรับ INSET ซึ่งให้บริการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) บริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Data Center ที่รองรับ Big Data, เทคโนโลยี 5G, Cloud Computing และระบบ AI การขยายตัวของผู้ให้บริการดิจิทัลและคลาวด์ในระดับโลกทำให้เกิดความต้องการ Data Center ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีเสถียรภาพ ซึ่ง INSET สามารถตอบโจทย์นี้ได้           ด้วยความพร้อมของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล INSET อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้าง Data Center ทั้งจาก Google และผู้ให้บริการเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ บริษัทคาดว่าจะเข้าร่วมการประมูลงานตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการเหล่านี้ในปี 2569           อนึ่ง INSET เป็นผู้ให้บริการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจซ่อมบำรุงและให้บริการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์           กระแสเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Cloud, AI และในอนาคตในส่วนระบบ Automation แม้ไทยอาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศต้นน้ำที่ได้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาโดยตรง แต่กระแสหลักนี้จะสร้างโอกาสให้ไทยในช่วง 4-5 ปีนับจากนี้ ด้วยศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านเทคโนโลยี กล่าวคือ Data Center ในไทยมีจุดเด่นจากพื้นที่ตั้งเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ 4G, 5G ที่ครอบคลุม ความเสี่ยงต่อภัยพิบัติต่ำ และกระแสไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและมั่นคง ทำให้ไทยเป็นจุดสนใจจากการขยาย Data Center จากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเดิมที่เริ่มมีข้อจำกัด           จากการรวบรวมตัวเลขโดย KSS ในส่วนเม็ดเงินลงทุน Data Center ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศหลักๆ เราประเมินว่าปัจจุบันมีเม็ดเงินมหาศาลรอลงทุน Data Center ในไทยช่วง 4-5 ปีจากนี้ ไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนสูงราว 1.1% ของมูลค่า GDP ประเทศไทยในปัจจุบัน โดยหากทยอยลงทุนในช่วง 4-5 ปี จะส่งผลบวกต่อ GDP ราว 0.2-0.25% ต่อปี ซึ่งยังไม่รวมประโยชน์ด้านดิจิทัลอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายต่อประเทศ ถือเป็นหนึ่งใน S-Curve ใหม่ของไทย และเป็น Upside ของเศรษฐกิจระยะกลาง-ยาว ซึ่งเชื่อว่าตลาดยังแทบไม่รวมในประมาณการ GDP มุมมองเชิงกลยุทธ์           ประเมินว่า Upside จากแรงขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ มีจุดเด่นสำคัญ คือ ปริมาณข้อมูลที่ใช้สนับสนุนจะเติบโตแบบทวีคูณ (Exponential) ซึ่งน่าจะสร้างโอกาสทางธุรกิจสูงกว่าที่ตลาดคาดคิดไว้ และเป็น Thematic Theme ระยะกลาง-ยาว 1-5 ปี KSS มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นที่อยู่ในระบบนิเวศของ Data Center โดยฝั่ง Data Center เราแนะนำผู้ได้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวโดยตรง อาทิ GULF, INTUCH, ADVANC, TRUE, INSET, DELTA, STPI (Non-Coverage)           กลุ่ม Digital Tech ที่ Data Center จะนำมาสู่ Upside งานประเภท Cloud Adoption และ AI รวมถึง Automation Adoption ระยะยาวที่จะหนุนอุตสาหกรรมเข้าสู่รอบใหญ่ของการขยายตัวอีกครั้ง อาทิ BE8, BBIK           ส่วนกระแส Cycle เทคโนโลยี AI ที่ผลักดันอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ พัฒนาให้มี AI พื้นฐานติดเครื่องมากขึ้น จะสร้างโอกาสฟื้นตัวจากรอบการเปลี่ยนอุปกรณ์ตามกระแส AI ซึ่งเราคาดไม่ต่างจากยุค 3G, 4G ที่เคยหนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์ อาทิ HANA, ADVICE (Non-Coverage), SYNEX (Non-Coverage) Best Picks: GULF, TRUE, DELTA, INSET, BE8, HANA, ADVICE ที่มา : บล.กรุงศรี