#Tisco


TISCO จับมือ Google Cloud ยกระดับบริการทางการเงินยุคดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี AI

TISCO จับมือ Google Cloud ยกระดับบริการทางการเงินยุคดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี AI

          หุ้นวิชั่น - 3 ธ.ค. 67 – TISCO ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Google Cloud เพื่อยกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการใช้ AI ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงาน ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้พร้อมสำหรับอนาคต มุ่งหวังการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดีและหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้า           นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มทิสโก้ ประกาศความร่วมมือกับ Google Cloud เพื่อส่งเสริมการใช้ AI ในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ควบคู่กับการพัฒนาทักษะของพนักงานให้มีความรู้และความสามารถเหมาะสมกับเทคโนโลยี นับเป็นการวางรากฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัลให้เกิดความยั่งยืน”           ในความร่วมมือครั้งนี้ องค์กรบริการระดับมืออาชีพ (Professional Services Organization or PSO) ของ Google Cloud เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม Vertex AI และ BigQuery จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุนการทำงานที่หลากหลาย ทั้งการวางโครงสร้างพื้นฐาน การปรับเปลี่ยนกระบวนการให้เหมาะสม การกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติที่สอดคล้อง การพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน การสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถกำหนดกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์สำคัญ (Objective & Key Results:OKR) นั่นคือ การเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และเสริมศักยภาพในการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการก้าวสู่อนาคตของการให้บริการทางการเงินในยุคดิจิทัล           โดยแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล BigQuery จาก Google Cloud ช่วยให้องค์กรสามารถรวบรวมข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ จากทุกระบบของบริษัท และวิเคราะห์ข้อมูลรวมด้วยรูปแบบการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปปรับใช้จริงเพื่อยกระดับกระบวนการตัดสินใจขององค์กร นอกจากนี้ Vertex AI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มพัฒนา AI สำหรับธุรกิจของ Google Cloud ยังรวมเอาความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ด้าน AI ที่ Google สั่งสมมาหลายทศวรรษมาใช้ให้เกิดประโยชน์           ผ่านการผสานการทำงานอย่างไร้รอยต่อระหว่างแพลตฟอร์มเหล่านี้ ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ เช่น TISCO สามารถพัฒนาและใช้งานโซลูชัน Generative AI ที่ให้คำตอบที่แม่นยำและน่าเชื่อถือ สอบคล้องกับหลักการ AI ที่มีความรับผิดชอบ และเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยและข้อตกลงด้านการปฏิบัติตามกกฎระเบียบอย่างเข้มงวด           “กลุ่มทิสโก้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Google Cloud ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับบริการทางการเงินของเรา และยืนยันได้ถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มทิสโก้ ในการก้าวสู่การเงินยุคดิจิทัล เพราะในยุคที่เทคโนโลยีทางการเงินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจำเป็นต้องหาแนวความคิดใหม่ ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านกลยุทธ์ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การสร้าง Growth Mindset ให้เกิดขึ้นกับพนักงานทุกคน ให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Google Cloud จะช่วยยกระดับทักษะของพนักงานและพัฒนาแผนงานด้านนวัตกรรมที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับทีมงานของเราในการเข้าถึงและใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลรวมถึงการพัฒนา Generative AI ชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ มอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันใหม่ๆ” นายศักดิ์ชัย กล่าว           นายอรรณพ ศิริติกุล Country Director, Google Cloud ประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้เงินสดได้มากยิ่งขึ้น โดยมีการคาดการณ์มูลค่าธุรกรรมรวมของการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัล (Gross Transaction Value of Digital Payments) ว่าจะอยู่ระหว่าง 250,000 ล้านถึง 310,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปีพ.ศ. 2573 ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็กำลังมองหาแอปพลิเคชันที่มีฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI เช่น ผู้ช่วยส่งข้อความอัจฉริยะที่ช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและการแนะนำที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล”           "ด้วยการวางกลยุทธ์ AI ที่ชัดเจนและให้ความสำคัญกับการใช้งาน AI อย่างเหมาะสม TISCO Group จะสามารถนำหน้าเทรนด์สำคัญเหล่านี้ และสร้างประสบการณ์ด้านการธนาคารที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมจากการลงทุนในเทคโนโลยีของตน เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับ TISCO Group เพื่อพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีทางการเงินแห่งอนาคตที่จะยกระดับการบริการลูกค้าในภาคการธนาคารและสร้างประโยชน์ให้แก่คนไทยและสังคมโดยรวม” นายอรรณพ กล่าวเสริม [PR News]

วิเคราะห์หุ้น TISCO ซ่อนมูลค่าปันผลแค่ไหน?

วิเคราะห์หุ้น TISCO ซ่อนมูลค่าปันผลแค่ไหน?

          หุ้นวิชั่น - หุ้นวิชั่นรายงาน บล.ดาโอ ยังคงคำแนะนำ “ถือ” TISCO และราคาเป้าหมายที่ 96.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 1.75x (+0.50SD above 10-yr average PBV) โดยมองเป็นกลางทั้งจากกำไร 3Q24 ที่ออกมาตามคาด           และการประชุมนักวิเคราะห์ที่เป้าหมายโดยรวมยังใกล้เคียงคาด โดยกำไรสุทธิ 3Q24 อยู่ที่ 1.71 พันล้านบาท (-9% YoY, -2% QoQ) จากสำรองฯที่เพิ่มขึ้นตามสินเชื่อจำนำทะเบียน           ด้านสินเชื่อรวมลดลง -1.7% YTD จากสินเชื่อเช่าซื้อที่ลดลงตามยอดขายรถยนต์ ส่วน NPL ดีกว่าคาดมาอยู่ที่ 2.44% (เราคาด 2.49%) ทรงตัวได้จากไตรมาสก่อนเพราะมี write-off NPL ราว 680 ล้านบาท ขณะที่ผู้บริหารคาดกำไรปี 2025E จะฟื้นตัวได้ในระดับต่ำ เพราะ credit cost จะขึ้นไปอยู่ที่ 100bps จากปี 2024E ที่ 70bps แต่คาดหวังการเติบโตจากรายได้ในธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อกลับมาฟื้นตัวได้ตามยอดขายรถยนต์ รวมถึง NIM มีโอกาสเพิ่มขึ้นหลังจากที่ กนง. มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง กำไรสุทธิ 9M24 คิดเป็น 77% จากประมาณการทั้งปี ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E อยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท ลดลง -7% YoY จาก NIM ที่ลดลงและสำรองฯที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 4Q24E มีโอกาสที่จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากสำรองฯที่จะเพิ่มขึ้นตามสินเชื่อผลตอบแทนสูงที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นลดลง -8% ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET เพราะมี XD งวด 1H24 ที่ 2.00 บาท           ขณะที่ TISCO ยังยืนยันที่จะจ่ายปันผลในระดับสูงอย่างต่อเนื่องแม้ว่าแนวโน้มกำไรจะลดลง ทั้งนี้เราคาดว่า TISCO จะยังคงเป็นหุ้นที่มี Dividend yield สูงถึงระดับ 8% (จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง โดยจะ XD ช่วงเดือน ก.ย. และ เม.ย.)

โบรกเผย TISCO ผลประกอบการ 9M67 ต่ำกว่าคาด 2.5% แต่ยังคงเป็นหุ้นปันผลสูง 8%

โบรกเผย TISCO ผลประกอบการ 9M67 ต่ำกว่าคาด 2.5% แต่ยังคงเป็นหุ้นปันผลสูง 8%

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TISCO หลังรายงาน ผลประกอบการ 9M67 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยราว 2.5% ซึ่งเป็นแรงกดดันจากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับการตั้งสำรอง ECL ที่เพิ่มขึ้นตามคุณภาพสินทรัพย์ที่ถดถอยลงตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ถือว่า TISCO ยังมีผลประกอบการที่ดีโดยลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อนเพียง 5.9% บนภาวะที่มีแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และยังถือเป็นหุ้นที่มีปันผลสูงสม่ำเสมอ คาดมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึงปีละ 8% แต่เชื่อว่าอาจมีแรงเทขายออกมาหลังผลประกอบการต่ำคาด แนะนำ ทยอยซื้อ รับปันผลสูง โดยมีราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 107 บาท

TISCO รายงานงบไตรมมาส3/67 ที่ 1,713 ล้านบาท ลดลง 8.6% กำไรต่อหุ้นลดลงเหลือ 2.14 บาท

TISCO รายงานงบไตรมมาส3/67 ที่ 1,713 ล้านบาท ลดลง 8.6% กำไรต่อหุ้นลดลงเหลือ 2.14 บาท

           บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงาน กำไรสุทธิสำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ของบริษัทอยู่ที่ 1,713.43 ล้านบาท ลดลง 161.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.6 จากไตรมาส 3 ปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 จากการฟื้นตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลัก พร้อมกับการรับรู้ผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน            ธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนปรับตัวดีขึ้น ทั้งค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 จากการขยายตัวของส่วนแบ่งทางการตลาดของ บล.ทิสโก้ และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ตามการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร นอกจากนี้ บริษัทมีการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อนหน้า ด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงร้อยละ 3.0 เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นตามการปรับเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยเงินฝาก ส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เป็นไปตามแผนการเพิ่มสำรองกลับสู่ระดับปกติ รวมทั้งสะท้อนความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง            เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2567 กำไรสุทธิลดลง 39.58 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.3 สาเหตุจากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ และผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักฟื้นตัว โดยเฉพาะจากธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุน ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของตลาดทุนไทย โดยค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.8 และค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 นอกจากนี้ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 1.1 จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิคงที่จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.5 ส่วนสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า            กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (Basic earnings per share) สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 2.14 บาทต่อหุ้น ลดลงจาก 2.34 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 3 ปี 2566 และจาก 2.19 บาทต่อหุ้นในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ร้อยละ 16.6 ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2567 เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยหนุนมาจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศจำนวน 26 ล้านคนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 การบริโภคภาคเอกชนทรงตัวท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพที่ยังสูง และผลกระทบจากน้ำท่วมในประเทศไทย ยอดขายรถยนต์ในประเทศงวด 8 เดือนแรกของปี 2567 ลดลงร้อยละ 23.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อท่ามกลางหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง            ด้านการเบิกจ่ายและการลงทุนภาครัฐปรับตัวดีขึ้น โดยได้เริ่มโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 หรือเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 1 แก่กลุ่มเปราะบาง วงเงินรวม 140,000 ล้านบาท ในเดือนกันยายน 2567 ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไตรมาส 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 สืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น            ในไตรมาสนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.50 มาอยู่ที่ร้อยละ 4.75-5.00 เพื่อสะท้อนอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Repo-1 วัน) ที่ร้อยละ 2.50 อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 3 เดือนเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง คงที่จากไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ร้อยละ 1.14 ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) อยู่ที่ร้อยละ 7.12 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ร้อยละ 7.56 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ร้อยละ 7.31            สำหรับภาวะตลาดทุนในไตรมาส 3 ปี 2567 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับการเปิดตัวของกองทุนวายุภักษ์ ทำให้มีเงินทุนไหลกลับเข้าตลาดทุนไทย ทั้งจากนักลงทุนสถาบันไทยและนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยายตัว โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,467.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 43,074.07 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2567 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดที่ 1,448.83 จุด เพิ่มขึ้น 147.87 จุด หรือร้อยละ 11.4 จากสิ้นไตรมาสก่อนหน้า

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[ภาพข่าว] TISCO ร่วมกับ 18 บริษัทพันธมิตรประกันภัย จัดงานวิ่ง “Go Run มันส์กว่าเดิม #2”

[ภาพข่าว] TISCO ร่วมกับ 18 บริษัทพันธมิตรประกันภัย จัดงานวิ่ง “Go Run มันส์กว่าเดิม #2”

          9 ต.ค. 2567 - นางกุสุมา ประถมศรีเมฆ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายหน้าประกันภัยที่ให้บริการ Open Architecture ซื้อขายผลิตภัณฑ์ประกันจากหลากหลายค่ายในจุดเดียว ร่วมกับ  18 บริษัทพันธมิตรด้านประกันชีวิตและประกันวินาศภัย จัดกิจกรรม “Go Run มันส์กว่าเดิม #2” เดิน - วิ่งสานพลังสร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่ผู้บริหารและพนักงานเพื่อต้านโรค NCDs ป้องกันก่อนรักษาเพราะสุขภาพที่ดีคือความมั่งคั่งที่ยั่งยืน พร้อมกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทางธุรกิจที่ร่วมกันคิดและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและเพิ่มความอุ่นใจให้กับลูกค้า และเติบโตทางธุรกิจไปด้วยกันอย่างแข็งแรง ณ สวนจตุจักร           จากข้อมูลของกรมควบคุมโรคพบว่ากว่า 75% ของคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases : NCDs) โดยที่พบบ่อยในปัจจุบันประกอบด้วย โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วนลงพุง โรคมะเร็ง และโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งล้วนมีสาเหตุมาจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก อาทิ ความเสื่อมถอยของร่างกาย พันธุกรรม สภาพการทำงาน สารเคมี มลภาวะ พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น ซึ่งการป้องกันง่าย ๆ เริ่มได้ที่ตัวเอง ด้วยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาการและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

[ภาพข่าว] กลุ่มทิสโก้ รับรางวัล Outstanding CFO ยอดเยี่ยม

[ภาพข่าว] กลุ่มทิสโก้ รับรางวัล Outstanding CFO ยอดเยี่ยม

          3 ต.ค. 67 - นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รับรางวัล Outstanding CFO ยอดเยี่ยม โดยมอบให้กับผู้บริหารฝ่ายการเงินที่มีผลงานโดดเด่น ในกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคาร จากการโหวตของนักวิเคราะห์และสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ในงาน IAA Awards for Listed Companies 2024 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analyst Association – IAA) สะท้อนถึงความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการงานได้อย่างโดดเด่น และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกได้อย่างตรงประเด็นชัดเจน ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นจนได้รับการโหวตจากนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน           ทั้งนี้ นายชาตรี ได้รับรางวัลจากเวที IAA Awards for Listed Companies จำนวน 4 ครั้ง ประกอบด้วย รางวัล Outstanding CFO ในปี 2024 และรางวัล Best CFO ในปี 2021 ปี 2020 และปี 2015/2016