ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#Thai ESG


โผ6หุ้น Thai ESGX ราคาต่ำESGสูง เช็กเลย!

โผ6หุ้น Thai ESGX ราคาต่ำESGสูง เช็กเลย!

             หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า มติคณะรัฐมนตรีส่งเสริมการลงทุนที่ยั่งยืนผ่าน Thai ESGX คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2025 ได้มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวง ตามมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน (ESG) และเพิ่มเสถียรภาพตลาดทุนไทย ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ ได้แก่ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินลงทุนใหม่ในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long-Term Equity Fund: LTF) ไป Thai ESGX ในช่วงเวลาที่กำหนด 2 เดือน ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด โดยให้ ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์รองรับกองทุนรวมดังกล่าวต่อไปมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม จากกอง Thai ESG ปกติ ที่ได้รับลดหย่อน 300,000 บาท              โดยในปีนี้ หากลงทุนเพิ่มในกอง Thai ESGX (วงลดหย่อน 1) จะได้ลดหย่อนภาษีสูงสุดอีก 300,000 บาท นอกจากนี้ ยังสามารถลดหย่อนภาษีสูงสุดอีก 300,000 บาท (วงลดหย่อน 2) หากว่า ผู้ถือหน่วยกองทุน LTF ได้สับเปลี่ยนหน่วยในกองทุน LTF ที่ถือครอง ณ วันนี้ ทั้งหมด เข้ามายังกองทุน Thai ESGX โดยในส่วนของวงลดหย่อน 2 ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกปีละ 50,000 บาท เป็นระยะเวลาอีก 4 ปี ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไข คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือน เม.ย.25 เพื่อเริ่มการเสนอขายกองทุน Thai ESGX ได้ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.25 โดยใช้ระยะเวลาการเสนอขาย 2 เดือน พ.ค.-มิ.ย.25              มีมุมมองเป็นบวกต่อข่าวนี้ โดยคาดว่าจะมีเงินลงทุนใหม่เข้ามาลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี เป็นหุ้นขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีสภาพคล่องสูง และที่สำคัญต้องมีคะแนน ESG สูง และราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก โดยเราได้เลือกหุ้นที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประเด็น Thai ESGX และมีโอกาส outperform คือ BEM, CPALL, GPSC, PLANB, PTTGC, SJWD

AIMC มองปี68 จังหวะลงทุน Thai ESG  แนะกระจายพอร์ตลดผันผวน

AIMC มองปี68 จังหวะลงทุน Thai ESG แนะกระจายพอร์ตลดผันผวน

          หุ้นวิชั่น - จากภาพรวม กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ที่ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหาร (AUM) ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ สมาชิกบริษัทจัดการลงทุน 16 แห่ง พร้อมนำเสนอ 42 กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) และเตรียมออกกองทุน Thai ESG กองใหม่ๆ เพื่อให้เป็นทางเลือกการลงทุน           นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า เป้าหมายเม็ดเงินใหม่ของกองทุน Thai ESG ไม่ต่ำกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่าเป็นจังหวะการลงทุน เพราะตลาดหุ้นไทยตอนนี้ไม่ถูกและไม่แพง เมื่อดู P/BV ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยมี P/BV เพียง 1 เท่า อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาเห็นชัดว่าตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้น โดยปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเติบโตจากกลุ่มสุขภาพ ธนาคาร ไอที สินค้าอุปโภคบริโภค อย่างมีนัยสำคัญและน่าจะเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะเติบโตต่อเนื่องอีกในปีนี้ เติบโตแบบออแกนิก (Organic Growth) เติบโตตามสภาวะปกติแบบค่อยเป็นค่อยไป           “หุ้นไทยไม่ได้ถูกหรือแพงเกินไป และเมื่อดู P/BV ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยเรามี P/BV เพียง 1 เท่า อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาเห็นชัดว่าตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้กระจายพอร์ตลงทุนที่หลากหลายเพื่อลดความผันผวน เชื่อว่าเกณฑ์ใหม่ที่ภาครัฐให้คือระยะเวลาการถือครองที่ลดลงเหลือเพียง 5 ปี วงเงินลดหย่อนที่เพิ่มเป็น 300,000 บาท ไม่รวมกับวงเงินลดหย่อนภาษีจากกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF, ประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ เป็นต้น ลงทุนได้ทั้ง หุ้น และตราสารหนี้ เกณฑ์ดังกล่าวยังย้อนหลังไปถึงกองทุน ThaiESG ที่ออกมาก่อนหน้านี้ด้วย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแรงจูงใจให้กับนักลงทุนที่วางแผนลดหย่อนภาษี พร้อมส่งเสริมการออมในระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนเจนใหม่ที่สนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น ได้เริ่มต้นการออมกับหุ้น-ตราสารหนี้ ที่มี ESG” นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าว           ทั้งนี้ จากการที่กองทุน Thai ESG ที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระยะเวลาการถือครองที่ลดลงเหลือเพียง 5 ปี และวงเงินลดหย่อนที่เพิ่มเป็น 300,000 บาท พบว่าคนรุ่นใหม่สนใจเข้ามาลงทุนกองทุน Thai ESG เพราะต้องการบริหารภาษีตัวเอง และให้ความสำคัญเรื่อง ESG มากขึ้น อีกทั้งระยะเวลาลงทุนไม่นานจนเกินไป และเห็นช่วงอายุของผู้ลงทุนกว้างมากขึ้นช่วงอายุ 30-60 ปี ทั้งนี้ ผู้ลงทุนส่วนใหญ่จะลงทุนหุ้นมากกว่า 80% ที่เหลือเป็นการลงทุนตราสารหนี้           นอกจากนี้ ยังเป็นการขับเคลื่อนบริษัทจดทะเบียน ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง ESG เพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในดัชนี SET ESG โดยในปีที่ผ่านมามีหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ เพิ่มขึ้นเป็น 228 ราย ประกอบกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. ในอุตสาหกรรม พร้อมสนับสนุนการลงทุนอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบ ESG ผ่านกองทุน Thai ESG ที่สามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย จึงมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตต่อไปได้ และจะเป็นการเติบโตแบบออแกนิก (Organic Growth) ซึ่งหมายความว่าเป็นการเติบโตตามปัจจัยพื้นฐานตามเศรษฐกิจไทยที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง          สำหรับประเด็นที่อาจกระทบต่อการลงทุนธีม ESG หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั้น แม้จะรู้กันว่า ทรัมป์ ไม่ได้สนใจ หรือสนับสนุน ESG แต่มองว่า ESG ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ แต่อาจจะเติบโตช้าลงบ้าง เพราะหลายประเทศได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวไปไกลมาก โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรปที่ก้าวไปไกลเกินจะถอยกลับ ขณะที่เอเชียให้ความสำคัญ แม้จีนเองยังให้การตอบรับหรือหากมองไปในสหรัฐอเมริกาเองมีกองทุน ESG หลายกอง ดังนั้นเรื่องดังกล่าวจึงยังคงเดินหน้าต่อไป

ชี้ 4 ปัจจัยบวก กองทุน ThaiESG  ลงทุนได้ผลตอบแทนดี

ชี้ 4 ปัจจัยบวก กองทุน ThaiESG ลงทุนได้ผลตอบแทนดี

           หุ้นวิชั่น - ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ESG หรือ Environment, Social and Governance กำลังเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ระดับโลกด้านการลงทุน พิสูจน์จากผลตอบแทนของดัชนีความยั่งยืนที่โอกาสสร้างผลตอบแทนเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น จึงได้เห็นนักลงทุนส่วนใหญ่นำปัจจัยด้าน ESG มาประกอบการตัดสินใจ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีระยะยาว รวมถึงเป็นการลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน ส่งผลให้การลงทุนใน กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา            ดร.กรอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า เป็นปีแห่งการลงทุนในกองทุน ThaiESG เพราะการลงทุนวันนี้นำไปสู่โอกาสระยะยาวใน 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 4 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งเกิดการลงทุนหลังเงินเฟ้อเข้าสู่ภาวะปกติ มีการลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ปี ทำให้ภาคส่งออกดีขึ้น การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากถึง 36 ล้านคน อาทิ จีน อินเดีย รัสเซีย ตะวันออกกลาง ไม่พึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยกรุงเทพฯ ครองอันดับ 1 เมืองนักท่องเที่ยวเยือนมากที่สุดในปี 2567 การลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ซึ่งข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่า มีการลงทุนด้านอีวี (EV) ดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center) เซมิ คอนดักเตอร์ (Semi Conductor) ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2567 มากกว่า 700,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2566 ซึ่ง การลงทุนจากต่างประเทศในลักษณะนี้ไม่ค่อยพบบ่อยและไม่ได้มาเพียงปีเดียว การผงาดขึ้นของตลาดเอเชียและอาเชียน ซึ่งเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้อีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นคุณประโยชน์กับอาเซียน โดยอาเซียนจะเป็นเป้าหมายการลงทุนที่ดีที่สุด            “โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้ามาส่งผลดีและโอกาสกับไทย แม้จะได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษี แต่มองว่าผู้ผลิตสหรัฐอเมริกาไม่สามารถขยายกำลังการผลิตทดแทนความต้องการได้ อีกทั้งสินค้าจีนราคาแพงขึ้น 60% จากการเก็บภาษีเพิ่มเป็น 60% แต่ของไทยแพงขึ้นเพียง 10% ทำให้ราคาถูกกว่า และคาดจะไม่เกิดสงครามการเมืองระหว่างประเทศ ดังนั้น ไทยจะดีทั้งท่องเที่ยว ส่งออก ส่วนปีถัดไป และระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการลงทุนต่างชาติ” ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าว            ทั้งนี้ ปัจจุบันแนวโน้มเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติสภาพคล่องมีอยู่มากในตลาดโลก หากสุดท้ายต้องหาที่ลงทุน เศรษฐกิจไทยฟื้น การท่องเที่ยวเริ่มกลับมา การเติบโตของภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา รวมทั้งเทรนด์ด้าน ESG บริษัทในไทยที่ดำเนินการด้าน ESG มากสุดในอาเซียน จะช่วยให้มีการลงทุนเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

ก.ล.ต. สนับสนุนกองทุน Thai ESG เพิ่มทางเลือกลงทุน พร้อมลดหย่อนภาษีได้

ก.ล.ต. สนับสนุนกองทุน Thai ESG เพิ่มทางเลือกลงทุน พร้อมลดหย่อนภาษีได้

          หุ้นวิชั่น - นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “ตามที่คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 มีมติเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศ สำหรับผู้มีเงินได้ที่ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund: Thai ESG) สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2567 – 2569 ได้ เพิ่มจาก 100,000 บาทเป็นไม่เกิน 300,000 บาทต่อปีต่อคน ล่าสุดกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกฎกระทรวง โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567           ทั้งนี้ กองทุน ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนซึ่งนอกจากจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้ด้วย ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงประกาศเพื่อขยายขอบเขตการลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน รวม 5 ฉบับ โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ซึ่งมีผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สามารถจัดตั้งหรือแก้ไขโครงการจัดการเพื่อลงทุนตามขอบเขตการลงทุนใหม่ที่กว้างขึ้นได้”

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

อย่าลืม! กองทุน Thai ESG ลดภาษี 3แสนบาทต่อคนต่อปี

อย่าลืม! กองทุน Thai ESG ลดภาษี 3แสนบาทต่อคนต่อปี

          หุ้นวิชั่น - ใกล้สิ้นปีแล้ว เชื่อว่าผู้ลงทุน ประชาชนทั่วไป จะเริ่มมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากการซื้อประกันในประเภทต่าง ๆ ที่นำมาช่วยประหยัดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กองทุนรวมก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่หลาย ๆ คนนิยมลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วยเช่นกัน ปัจจุบันไทยมีกองทุนรวมที่เป็นเครื่องมือช่วยประหยัดภาษีมีอยู่ 3 ประเภท คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ที่กำลังจะหมดอายุในสิ้นปี 2567 และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งแต่ละกองทุนต่างมีความน่าสนใจและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่แตกต่างกัน           แต่ที่น่าสนใจในมุมของสิทธิประโยชน์ทางภาษีและผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดตั้งกองทุนรวมดังกล่าวคงหนีไม่พ้น Thai ESG ที่กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และ ตลท. ได้ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับเงื่อนไขใหม่ของกองทุนรวมดังกล่าวเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยที่กระทรวงการคลังได้พิจารณาเพิ่มวงเงินลงทุนสำหรับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 1  แสนบาทต่อคนต่อปี เป็น 3 แสนบาทต่อคนต่อปี สำหรับปีภาษี 2567-2569 และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี จากเดิม 8 ปี โดยกระทรวงการคลัง จะประเมินผลมาตรการนี้อีกครั้งเมื่อสิ้นสุดปี 2569           นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้ปรับปรุงเกณฑ์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของ Thai ESG โดย Thai ESG ขยายขอบเขตการลงทุนให้กว้างขึ้น ส่งผลให้ Thai ESG สามารถจัดสรรเงินลงทุนไปยังกิจการไทยที่มีศักยภาพและมีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในระดับดีเลิศได้เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยในส่วนของการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีธรรมาภิบาล (Governance) ในระดับดีเลิศ จะต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ดังนี้ด้วย มีธรรมาภิบาลที่ดีเลิศ โดยได้รับ CGR ซึ่งจัดทำโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 90 คะแนนขึ้นไป มีการเปิดเผยเป้าหมายและแผนการเพิ่มมูลค่าบริษัท (Corporate value up plan) เช่น บริษัทที่มีแผนยกระดับด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีการเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับผู้ลงทุน เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม SET Opportunity day กับผู้ลงทุน/นักวิเคราะห์การเปิดเผยความคืบหน้าของแผน Value up เป็นต้น           ต้องบอกว่า การที่หลักเกณฑ์ใหม่ของ Thai ESG กำหนดให้ บจ. เปิดเผยแผนและเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าบริษัท (Corporate value up plan) โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี นับจากวันที่ได้เปิดเผยแผน เช่น แผนดำเนินการที่ชัดเจนเพื่อเข้ารับการประเมินจากผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล หรือการมีเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน เป็นต้น นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนที่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งเสริมให้ บจ. ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับธรรมาภิบาล และมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายของ UN SDGs และเป็นไปตามเป้าประสงค์ของภาครัฐด้วย           หลักเกณฑ์ใหม่ยังเสริมบทบาทหน้าที่ของ บลจ. ที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ความรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน (fiduciary duty) ตั้งแต่การปรับปรุงให้ บลจ. มีหน้าที่กำหนดนโยบายและกลยุทธ์การลงทุนเพื่อคัดเลือกทรัพย์สินที่มีคุณภาพเพื่อการลงทุนของ Thai ESG และมีกระบวนการในการบริหารจัดการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible investment) รวมถึงการคัดเลือกผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล (ผู้ประเมินฯ) ที่จะเป็นผู้คัดเลือกหุ้นที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (environment) และความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อการลงทุนของกองทุน Thai ESG โดยที่ผู้ประเมินฯ ก็จะต้องมีความน่าเชื่อถือด้วย กล่าวคือ เป็นตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของ World Federation of Exchanges (WFE) หรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นอิสระ           มาถึงตรงนี้ พอจะเห็นภาพรวมผลประโยชน์ของ Thai ESG ตามเงื่อนไขใหม่กันแล้ว โดย ก.ล.ต. มุ่งหวังว่า Thai ESG จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับธรรมาภิบาลและเพิ่มความน่าสนใจของกิจการในตลาดหลักทรัพย์ไทยควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออมเป็นการลงทุนระยะยาวในตลาดทุน เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวสำหรับผู้ลงทุน นอกเหนือจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยสู่ความยั่งยืนต่อไป ที่มา ฝ่ายสื่อสารองค์กร และ ฝ่ายนโยบายธุรกิจจัดการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011