#TFEX


TFEX แสดงความยินดีกับผู้อบรมหลักสูตรพิเศษ “TFEX Next Gen : Road to Professional Trader”

TFEX แสดงความยินดีกับผู้อบรมหลักสูตรพิเศษ “TFEX Next Gen : Road to Professional Trader”

หุ้นวิชั่น - บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (TFEX) แสดงความยินดีกับผู้เข้าร่วมการอบรมหลักสูตรพิเศษในโครงการ “TFEX Next Gen : Road to Professional Trader” โดยมี รินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ TFEX มอบวุฒิบัตรให้แก่ 30 คนที่เข้าร่วมการอบรม ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 16-27 พ.ย. 2567 เป็น 10 วันเเห่งการเรียนรู้ ที่สอนกลยุทธ์และ Workshop การเทรดแบบเข้มข้น ด้วยหลักสูตรเดียวกับต่างประเทศ โดยวิทยากรที่เป็น Experienced Trader ตัวจริง พร้อมโอกาสที่จะได้ก้าวสู่การเป็น Prop Trader กับบริษัทพันธมิตรชั้นนำ สำหรับในปีนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 2,400 คน ผู้สนใจสามารถติดตามกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของ TFEX ได้ที่ www.TFEX.co.th

สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกันยายน 2567

สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกันยายน 2567

          หุ้นวิชั่น - คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5% เป็น 4.75% – 5.0% ถือเป็นการลดครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี เพื่อเป็นการทำให้ความเสี่ยงต่อเป้าหมายการจ้างงานและเงินเฟ้ออยู่ในจุดสมดุล โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวกแสดงให้เห็นว่าผู้ลงทุนยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะยังไม่เข้าสู่ภาวะ recession นอกจากนี้ หากพิจารณาข้อมูลในอดีตพบว่าหาก FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นในประเทศ Emerging Market เริ่มเห็นสัญญาณเงินลงทุนต่างชาติเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้น ASEAN ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่มีการปรับเพิ่มขึ้นมากในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ตามลำดับ           นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของภายในประเทศยังมีปัจจัยบวก อาทิ การเมืองไทยที่มีความชัดเจนมากขึ้นหลังมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่รายงานออกมาเข้มแข็งกว่าที่นักวิเคราะห์คาด รวมถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนผ่านการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนของผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ ทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อหุ้นไทยในเดือนกันยายนสูงสุดในรอบ 22 เดือน ส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจาก Sensitivity Analysis พบว่าหุ้นของบริษัทในกลุ่มส่งออกและท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบเชิงลบต่อคาดการณ์กำไรในอนาคต ซึ่งตรงกันข้ามกับหุ้นของบริษัทในกลุ่ม domestic play และกลุ่มที่มีสัดส่วนนำเข้าเพื่อผลิตสูงที่อาจได้อานิสงส์จากต้นทุนที่ลดลง ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้นด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นในเดือนที่ผ่านมา ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนกันยายน 2567 ณ สิ้นกันยายน 2567 SET Index ปิดที่ 1,83 จุด เพิ่มขึ้น 6.6% จากสิ้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 ทำให้เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น และกลุ่มที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai ปรับมาอยู่ที่ 62,503 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า และปรับเพิ่มขึ้น 35.8% จากเดือนที่แล้ว ทำให้ 9 เดือนแรกของปี 2567 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 46,481 ล้านบาท มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) และใน mai 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) และ บมจ. พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ (PMC) Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ระดับ 8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.0 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.6 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ระดับ 28% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.04% ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนกันยายน 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 707,472 สัญญา เพิ่มขึ้น 9% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 474,728 สัญญา ลดลง 13.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures ที่มา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย