ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#TERA


TERA ปูพรมเจาะงานรัฐ โชว์แบ็กล็อก 315 ล้าน

TERA ปูพรมเจาะงานรัฐ โชว์แบ็กล็อก 315 ล้าน

          หุ้นวิชั่น – TERA ปักธงเป้ารายได้ ปี 68 แตะ 626 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 505.50 ล้านบาท โชว์งานในมือ (Backlog) 315.65 ล้านบาท ปูพรมเจาะงานรัฐ เล็งประมูลโปรเจ็กต์ใหม่ 120 ล้านบาท เสริมแกร่ง           นายสุรสิทธิ์ คิวประสบศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 แตะ 626 ล้านบาท จากรายได้รวมปีที่ผ่านมา 505.50 ล้านบาท คาดรายได้หลักมาจากบริการ Recurring ที่ทางบริษัทได้พัฒนาตอบสนองลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอกชน และบริษัทวางแผนจะขยายการให้บริการลูกค้าภาครัฐมากขึ้น           สำหรับรายได้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 626 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็น บริการด้านการขาย 45% และส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจบริการอื่นๆ และคาดธุรกิจบริการมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นตามการให้บริการ ในส่วนงานในมือ หรือ Backlog ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 315.65 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้ที่รับรู้ไปแล้ว ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 9 มี.ค. 68) และบริษัทอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลงานใหม่ของภาครัฐอีก 120 ล้านบาท           "ปีนี้ได้มีกลุ่มธุรกิจใหม่ 2 ธุรกิจ ที่คาดว่าจะช่วยให้รายได้ในปีนี้เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจาก PROJECT BASE และบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่ต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านไอที และการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านเอไอในประเทศไทย โดยเฉพาะตอนนี้ได้มีโครงการ Data Center จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทในภาพรวม" นายสุรสิทธิ์ กล่าว ทั้งนี้ บริการแอพพลิเคชั่น SKYFROG นั้น มีการเติบโตสูงจากกลุ่มลูกค้าโลจิสติกส์ ซึ่งตอนนี้ได้ทยอยรับรู้รายได้แล้ว ส่วนบริการ T.Cloud Gen3 ที่มีการลงทุนตั้งเป้าไว้ 60 ล้านบาทนั้น บริษัทได้ลงทุนจริง 40 ล้านบาท โดยพัฒนาด้านซอฟต์แวร์, ฮาร์ดแวร์ และเช่า Data Center โดยไม่ได้ใช้เงินเต็มจำนวน แต่ลงทุนแบบระมัดระวัง

TERA ใจดีปันผล 0.08 บาท/หุ้น เล็งขึ้น XD 29 เม.ย. 68

TERA ใจดีปันผล 0.08 บาท/หุ้น เล็งขึ้น XD 29 เม.ย. 68

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน TERA แจ้งว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 มีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด ให้กับผู้ถือหุ้น งวดผลดำเนินงาน 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567           ทั้งนี้ ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30 เม.ย. 2568 และ วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 29 เม.ย. 2568 โดยจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พ.ค. 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท ต่อหุ้น

TERA รายงานกำไรปี67 ที่ 29.58ล้านบาท คุมต้นทุนอยู่หมัด

TERA รายงานกำไรปี67 ที่ 29.58ล้านบาท คุมต้นทุนอยู่หมัด

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน TERA รายได้ปี 67 ที่ 505.50 ล้านบาท ลดลง 16.32% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 0.62 ล้านบาท โต 2.15% หรือมีกำไร 29.58 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ 5.85% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 4.79%           นายสุรสิทธิ์ คิวประสบศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด Q4/2567 บริษัทฯ มีรายได้และกำไรสุทธิรวม 138.39 และ 10.80 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัทฯ มีรายได้รวม Q4/2567 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) 3.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.66% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น YoY 9.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 624.22% ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น QoQ 7.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.10% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น QoQ 2.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.75% โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ 7.80% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิ 1.11% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิ 5.12%           รายได้ YoY ใน Q4/2567 สูงขึ้นกว่า Q4/2566 เล็กน้อย โดยมีรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการใกล้เคียงกันกับปีก่อน แต่บริษัทฯ มีรายได้จากกลุ่มดอกเบี้ยรับจากเงินฝากประจำและดอกเบี้ยรับจากการให้เช่าซื้ออุปกรณ์ด้านไอทีให้กับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น           สำหรับ QoQ บริษัทฯ มีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6.10% และ 26.75% ตามลำดับ มีสาเหตุมาจากบริษัทฯ สามารถส่งมอบงานที่มีมูลค่างานสูงให้กับลูกค้าได้จึงทำให้รับรู้รายได้จากการขาย Project Base ได้เพิ่มขึ้นใน Q4/2567           ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด YE/2567 (งวดหนึ่งปี) สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีรายได้และกำไรสุทธิรวม 505.50 และ 29.58 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัทฯ มีรายได้รวม YE/2567 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) 98.59 ล้านบาท หรือลดลง 16.32% แต่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น YoY 0.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.15% โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ 5.85% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิ 4.79% รายได้ที่ลดลง YoY ในงวด YE/2567 ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากรายได้จากการขาย Project Base ที่งวด YE/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 105.62 ล้านบาท หรือลดลง 35.10% เนื่องจากในงวด YE/2566 บริษัทฯ ได้รับงานจากลูกค้าซึ่งเป็นการขายอุปกรณ์พร้อมติดตั้งที่มีมูลค่างานสูง ซึ่งเป็นงานโครงการประมาณ 150 ล้านบาท จากโครงการของลูกค้า รายหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2566 โดยลูกค้าดังกล่าวได้ยุติการลงทุนโครงการดังกล่าวไป จึงไม่มีการลงทุนเพิ่มอีกในปี 2567           แต่อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบโดยการตัดรายได้จากโครงการลูกค้ารายดังกล่าวในปี 2566 ออกไป ในปี 2567 บริษัทฯ ก็ยังจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) ประมาณ 51.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 11.32% แม้ในงวด YE/2567 บริษัทฯ จะมีรายได้ที่ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทฯ สามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับบริษัทฯ สามารถควบคุมบริหารค่าใช้จ่ายได้ดี จึงทำให้ค่าใช้จ่ายขายและบริหารลดลง 5.23 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.02% ทั้งที่มีค่าใช้จ่ายพิเศษแบบครั้งเดียว (One Time Expense) ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนการ IPO ในช่วง Q1/2567 ถึง Q2/2567 และยังมีค่าใช้จ่ายพิเศษภายหลังการ IPO (ในส่วนของค่าบริการที่ปรึกษาทางการเงินตามสัญญา 1 ปี หลังการ IPO ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนเมษายน 2568) รวมค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับการ IPO ประมาณ 4.48 ล้านบาท           ด้วยความสามารถในการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ประกอบกับการควบคุมบริหารค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม จึงส่งผลให้ในงวด YE/2567 บริษัทฯ ยังคงสามารถทำกำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) ประมาณ 2.15% และสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้นเป็น 5.85% (จาก 4.79% ในปีก่อน) แม้รายได้จะลดลงจากปีก่อนก็ตาม

TERA เปิดตัว T.Cloud Gen3 ที่สุดแห่งบริการคลาวด์โดยคนไทย

TERA เปิดตัว T.Cloud Gen3 ที่สุดแห่งบริการคลาวด์โดยคนไทย

หุ้นวิชั่น –  นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 4 จากซ้าย) พร้อมด้วย นายบุญชัย ตั้งวัฒนาพรชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 3 จากซ้าย) บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) (TERA) นายพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ (ที่ 5 จากขวา) บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด นายวิทยา จูงหัตถการสาธิต (ที่ 2 จากซ้าย) Channel Director, Fortinet Security Network Thailand คณะผู้บริหารและตัวแทนพันธมิตรทางธุรกิจ ถ่ายภาพร่วมกันภายหลังแถลงข่าว “เปิดตัวการให้บริการ T.Cloud Gen3” ที่สุดแห่งบริการคลาวด์ โดยคนไทยด้วยเงินลงทุน 40 ล้านบาท ตามแผนระดมทุน IPO โดยโครงการนี้คาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ประมาณ 35% ขึ้นไป และคืนทุนภายใน 3 ปี ตั้งเป้าจะเริ่มรับรู้รายได้ต้นปี 2568 เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการบริการ โดยเฉพาะรายได้แบบประจำสม่ำเสมอ (Recurring Revenue) เป็นไปตามกลยุทธ์ Recurring First และ Service First ของ TERA โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

TERA ลุย T.Cloud Gen3 ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 35 ล.

TERA ลุย T.Cloud Gen3 ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 35 ล.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจในปี 2568 คาดว่าจะเป็นปีแห่งการเติบโต หลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยบริษัทมั่นใจว่าภาพรวมธุรกิจจะเติบโตดีกว่าปี 2567 เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีค่าใช้จ่าย One-time ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและการลงทุนในโครงการ T.Cloud Gen3 ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในปี 2568           นอกจากนี้ TERA กำลังศึกษาแผนการลงทุนในธุรกิจ SME ในกลุ่มไอที เพื่อเสริมศักยภาพให้กับบริษัท โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาบริษัท 2 แห่ง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบทางบัญชีและการทำ Due Diligence คาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการลงทุนในปี 2568-2569           งบลงทุนในการขยายธุรกิจในปี 2568 จะเป็นไปตามแผนที่ระบุในแบบแสดงข้อมูลหรือไฟลิ่ง โดยบริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวม 70 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจตามที่วางไว้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต           ภาพรวมธุรกิจในปี 2567 ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี แม้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้รายได้จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีที่แล้วบริษัทมีงานโปรเจ็กต์พิเศษ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือหรือ Backlog อยู่ที่ 360 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอที และการให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร รวมถึงงานบริการ (Service) โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 50:50 และคาดว่าในอนาคตสัดส่วนรายได้จากบริการจะเติบโตขึ้นไปแตะ 70% จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น           ล่าสุด นายบุญชัย ตั้งวัฒนาพรชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ “TERA” เปิดเผยว่า TERA มีการลงทุน 40 ล้านบาทในโครงการ T.Cloud Gen3 ในปี 2567 ซึ่งเป็นไปตามแผนการระดมทุน IPO โดยบริษัทสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าที่เคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ mai โครงการนี้คาดการณ์ ROI ที่ 25% และ IRR ประมาณ 35% ขึ้นไป พร้อมตั้งเป้าคืนทุนภายใน 3 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ T.Cloud Gen3 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 คาดว่าปีแรกจะมีรายได้จากโครงการประมาณ 35 ล้านบาท           โครงการ T.Cloud Gen3 ถือเป็น Flagship Solutions ของ TERA โดยบริษัทได้ลงทุนใน Data Centers ขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานระดับโลก พร้อมเลือกใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก IT Vendors ชั้นนำ รวมถึงการสร้าง Network Operation Center (NOC) ให้บริการ 24 ชั่วโมง 7 วัน เพื่อยกระดับการบริการคลาวด์และ IT Infrastructure           ปัจจุบัน TERA มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นกว่า 100 สัญญา ในรูปแบบ Subscription Model และมี Customer Retention Rate สูงถึง 94% นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดบริการคลาวด์และ Data Center ยังสอดคล้องกับนโยบาย Cloud First ของภาครัฐไทย ที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต           ปี 2566 TERA มีรายได้จากการให้บริการ T.Cloud ประมาณ 62.40 ล้านบาท คิดเป็น 10.33% จากรายได้รวม คิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีประมาณ 29%           สำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุดไตรมาส 3/2567 TERA มีรายได้จากการให้บริการ T.Cloud ประมาณ 55.64 ล้านบาท คิดเป็น 15.16% จากรายได้รวม คิดเป็นอัตราการเติบโต YoY ประมาณ 19% ซึ่งการลงทุนโครงการ T.Cloud Gen3 นี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มรายได้จากการให้บริการแบบประจำสม่ำเสมอ และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นในการให้บริการ T.Cloud ได้สูงขึ้นอีกจาก T.Cloud Gen2 เดิม           บริษัท ตั้งเป้ารายได้ของโครงการในปีแรก 35 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 20% ต่อปี โดยมีแผนการ Conversion จากสัญญาลูกค้าเดิมที่ให้บริการ T.Cloud Gen2 ให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการลงทุนได้อย่างสูงสุด ประกอบกับการเติบโตจากลูกค้าใหม่ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ที่มีอัตราเติบโตของการใช้บริการคลาวด์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (คาดการณ์การเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี CAGR ของตลาด Cloud ในประเทศไทย ระหว่างปี 2567-2572 ประมาณ 19.64% ต่อปี Source: Statistica.com)           ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ Cloud (ทั้ง T.Cloud และ Public Cloud) รวม 90.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) 21.40% รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011