#STA


STA กำไรปี68โตต่อ แนะ

STA กำไรปี68โตต่อ แนะ "ซื้อ" เคาะพื้นฐาน 22.25 บ.

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี –STA มองกําไรปี 2568 โตต่อเนื่อง EUDR หรือ เกณฑ์ EU Deforestation-free Products Regulation การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของวัตถุดิบของหลายสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงยางซึ่งเดิมจะเริ่มบังคับใช้ปลายปี 2567 และในต้นเดือน ต.ค. 2567 มีการประกาศเลื่อนการใช้เกณฑ์ EUDR ออกไป 1 ปี เป็นปลายปี 2568 ทางฝ่ายมองการ เลื่อน EUDR เป็น Sentiment เชิงลบต่อ Supply ในระยะสั้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยางล้อแบรนด์ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย ชะลอการสั่งซื้อ อย่างไรก็ตามผู้บริหาร STA แจ้งการ เลื่อน EUDR ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยส าคัญ นอกจากนี้ทางฝ่ ายคาดปริมาณขายยาง EUDR เร่งตัวขึ้นในช่วง 2H68 เพื่อเตรียมส่งมอบวัตถุดิบในปี 2569 ส าหรับ Demand (ยาง EUDR และ Non- EUDR) ในปี 2568 คาดขยายตัวจาก 1) การเร่งซื้อวัตถุดิบเพื่อไปสต๊อกก่อนการบังคับใช้ของกฎEUDR จากลูกค้าผู้ผลิตยางล้อ2) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 3) การขยายตัวของอุตสาหกรรมขั้นปลาย เช่นอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าในจีนและยุโรป , ถุงมือยาง , อุปกรณ์การแพทย์ และ 4)แนวโน้มราคานheมันต้นปี 2568 คาดทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตยางสังเคราะห์สูง ผู้ผลิตหันมาใช้ยางธรรมชาติมากขึ้น สeหรับสถานการณ์ราคายางพาราในตลาด SICOM ที่ผ่านมา พบว่าราคายางแท่ง (STR20) ปรับตัวสูงขึ้น ทางฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกต่อ อุตสาหกรรมยางพาราในปี 2568 เหตุจากราคายางพาราในตลาด SICOM มีแนวโน้มสูงขึ้น ได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น ทางฝ่ ายคาดในปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ1,356 ล้านบาท โต 29.1% y-y มีแรงหนุนจาก 1) แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคายางพาราคาในตลาด SICOM จากการเร่งตัวของความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ยางแท่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์2) การขยายตัวของ Demand ผลิตภัณฑ์น้ำยางข้นในอุตสาหกรรมถุงมือยาง ตามทิศทางความต้องการใช้ถุงมือยางและผลิตภัณฑ์ยางทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากก ลังการผลิตส่วนเกินตามการเร่งขยายกำลังการผลิตในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโรค COVID-19 เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา 3) คาดแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนในช่วง 1H68 คาด Demand เพิ่ม แม้เลื่อน EUDR เกณฑ์ EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) คือ การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของวัตถุดิบของหลายสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงยางที่จะต้องมาจากพื้นที่ปลอดจากตัดไม้ทำลายป่าและ ไม่รุกล้าพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งเดิมจะเริ่มบังคับใช้ปลายปี 2567 และในต้นเดือน ต.ค. 2567 มีการประกาศเลื่อนการใช้เกณฑ์ EUDR ออกไป 1 ปี เป็ นปลายปี 2568 ทางฝ่ายมองการเลื่อน EUDR เป็นSentiment เชิงลบต่อ Supply ในระยะสั้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยางล้อแบรนด์ญี่ปุ่ น จีน และอินเดีย ชะลอการสั่งซื้อยาง EUDR อย่างไรก็ตามผู้บริหาร STA แจ้งการเลื่อน EUDR ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก STA ยังคงมีคำสั่งซื้อยาง EUDR จากผู้ผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ นอกจากนี้ทางฝ่ายคาดปริมาณขายยาง EUDR เร่งตัวขึ้นในช่วง 2H68 เพื่อเตรียมส่งมอบวัตถุดิบในปี 2569 คาดกำลังการผลิตยาง EUDR ในครึ่งหลังของปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 84,400 ตันต่อไตรมาส หรือ 20% ของกำลังการผลิต ส าหรับ Demand (ยาง EUDR และ Non-EUDR) ในปี 2568 คาดขยายตัวจาก 1) การเร่งซื้อวัตถุดิบเพื่อไปสต๊อกก่อนการบังคับใช้ของกฎ EUDR จากลูกค้าผู้ผลิตยางล้อ 2) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 3) การขยายตัวของอุตสาหกรรมขั้นปลาย เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าในจีนและยุโรป , ถุงมือยาง , อุปกรณ์การแพทย์ และ 4) แนวโน้มราคาน้ำมันต้นปี 2568 คาดทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตยางสังเคราะห์สูง ผู้ผลิตหันมาใช้ยางธรรมชาติมากขึ้น มองกำไรปี 2568 โตต่อเนื่อง จากสถานการณ์ราคายางพาราในตลาด SICOM ที่ผ่านมา พบว่าราคายางแท่ง (STR20) ปรับตัวสูงขึ้น โดย 11 เดือนแรกของปี 2567 ค่าเฉลี่ยราว 165-170 Cent/kg ทางฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมยางพาราในปี 2568 เหตุจากราคายางพาราในตลาด SICOM มีแนวโน้มสูงขึ้น ทางฝ่ายประมาณการราคายางพาราในตลาด SICOM ปี 2568 มีค่าเฉลี่ยราว 175-180 Cent/kg โดยปรับตัวสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยของปี 2567 ได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องใช้ยางส าหรับผลิตยางล้อ (Tires) ซึ่งเติบโตตามการฟื้ นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังสถานการณ์ COVID-19 และการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ราคาพื้นฐานปี 68 ที่ 22.25 บาท/หุ้น อิงวิธี DCF ทางฝ่ายประเมินราคาหุ้น โดยใช้ DCFอยู่ที่ 22.25 บาท เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มั่นคงและเป็นบริษัทฯที่ใหญ่ ทางฝ่ายคาดปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1,050 ล้านบาท เติบโต 341.7% y-y และคาดในปี 2568บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,356 ล้านบาท โต 29.1% y-y หนุนจากความต้องการยางพาราที่เพิ่มสูงขึ้น ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์และตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV)ทางฝ่ายคาดราคาพื้นฐานปี 68 อยู่ที่ 22.25 บาท/หุ้น ราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาพื้นฐาน คงคำแนะนำ “ซื้อ”

STA คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AAA ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

STA คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AAA ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

           หุ้นวิชั่น - “บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” (“STA” หรือ “บริษัทฯ”) ได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ที่ระดับ “AAA” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดปีที่ 2 ติดต่อกัน ตอกย้ำมาตรฐานและการมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจยางพาราครบวงจรสอดคล้องตามหลัก ESG พร้อมเดินหน้ายกระดับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง            นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) ที่ระดับ “AAA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และนับเป็นปีที่ 10 ที่ได้รับประเมินเป็นหุ้นยั่งยืน            การได้รับประเมินหุ้นยั่งยืนที่ระดับ AAA ครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานและขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้ครบทุกมิติ ทั้งนี้ ในรอบปี 2567 บริษัทฯ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้นโยบายด้านความยั่งยืนขององค์กรซึ่งสอดคล้องกับหลัก ESG อาทิ มิติสิ่งแวดล้อม (Environmental) บริษัทฯ มีการบริหารจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและพลังงานโดยมุ่งเน้นการใช้ระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ใช้ประโยชน์จากของเสียและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Technologies)  เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) ของบริษัทฯ มิติสังคม(Social) บริษัทฯ เคารพ ปกป้อง และปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและการไม่เลือกปฏิบัติ ตลอดจนยึดถือเจตนารมณ์ของอนุสัญญา 8 ฉบับ ขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (International Labor Organization: ILO)  มีการดูแลและพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างมีส่วนร่วมสร้างคุณค่าผ่านโครงการต่างๆ ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านเด็กและเยาวชน ด้านการพัฒนาอาชีพและความเป็นอยู่ ด้านสุขภาพอนามัย ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติและผู้ด้อยโอกาส ด้านศิลปะวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น และด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่ดี และมิติการกำกับดูแลกิจการและเศรษฐกิจ (Governance) บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส ส่งเสริมการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ไปจนถึงการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน บริษัทฯ สนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรชาวสวนยาง ให้มีความรู้ในการทำยางพาราที่มีคุณภาพ มาตรฐานที่ดี อีกทั้ง บริษัทฯ ยังสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับ (Traceability) ของผลิตภัณฑ์ได้ตั้งแต่แหล่งที่มาจนถึงปลายทาง เป็นต้น            “ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวศรีตรังที่ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืนที่ระดับสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นรักษามาตรฐานและพัฒนาแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อนำพาบริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำองค์กรแห่งยางสีเขียวแบบครบวงจรอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายวีรสิทธิ์ กล่าว [PR News]

STA โตแรง Q3 กำไรสุทธิ 517.3 ลบ. ยอด EUDR สูงขึ้นหนุน Q4 พุ่งต่อ

STA โตแรง Q3 กำไรสุทธิ 517.3 ลบ. ยอด EUDR สูงขึ้นหนุน Q4 พุ่งต่อ

          “บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” (“STA” หรือ “บริษัทฯ”) โชว์ผลงานโดดเด่นในไตรมาส 3/2567 ทำกำไรสุทธิ 517.3 ล้านบาท พุ่งแรง 226.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายและบริการ 31,618.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับปริมาณขายยางธรรมชาติรวมทะลุ 3.8 แสนตัน เพิ่มขึ้นถึง 53.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และราคาขายยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาส ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้จากการขายและบริการ 81,116.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 816.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7% และพลิกกลับมาทำกำไรจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มองไตรมาสสุดท้ายโตต่อเนื่อง คาดการณ์ปริมาณการขายเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงประเมินราคาขายยางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก หลังขยับขึ้นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา           นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากปริมาณการขายยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาขายยางเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 31,618.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 517.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 226.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากปริมาณการขายยางธรรมชาติรวมทุกประเภทที่เพิ่มขึ้นเป็น 380,565 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 53.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 15.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4 ไตรมาสติดต่อกัน ประกอบกับราคายางเฉลี่ยอยู่ที่ 186.2 เซนต์ต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาส รวมถึงปริมาณซัพพลายยางเข้าสู่ตลาดอยู่ในระดับที่ดีจากการเปิดฤดูกาลกรีดยางได้ตามปกติ นอกจากนี้ กำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 10.4% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 8.8% ในปีก่อน เนื่องจากการผสมผสานยอดขายยาง EUDR เข้ากับยางธรรมชาติทั่วไปที่หนุนกำไรเติบโตโดดเด่น อย่างไรก็ดี ธุรกิจถุงมือยางชะลอตัวลงในไตรมาส 3/2567 จากผลกระทบของค่าเงินบาทแข็งอย่างรวดเร็ว แต่มีสัญญาณที่ดีจากปริมาณการขายที่เติบโตถึง 26.3% จากปีก่อน           ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 เติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 81,116.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 816.0 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทรวม 1.0 ล้านตัน นายวีรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคาดการณ์ปริมาณการขายยางธรรมชาติและราคาขายยางเฉลี่ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยภายหลังจากที่รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคายางแท่ง ณ ตลาด SICOM พุ่งสูงสุดแตะ 218.7 เซนต์ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 7 ปี           นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังคาดว่าจะส่งผลดีต่อดีมานด์ในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ ส่วนสถานการณ์ความต้องการยาง EUDR บริษัทฯ ยังคงมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าในไตรมาส 4/2567 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากสหภาพยุโรปว่าจะเลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย EUDR หรือไม่ จากกำหนดเดิมที่จะเริ่มบังคับใช้ในสิ้นปี 2567 ซึ่งมีผลให้การส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากยางธรรมชาติไปยังทวีปยุโรปต้องผ่านการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) แหล่งที่มาของผลผลิต เพื่อแสดงว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าและไม่ได้อยู่ในพื้นที่บุกรุกป่า           ในด้านทิศทางอุตสาหกรรมยางในอนาคต คาดว่าแนวโน้มของอุปทานยางพาราจะอยู่ในระดับทรงตัวหรือลดลง ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ควรจับตามอง คือความต้องการใช้ยางในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งบริโภคยางธรรมชาติถึงร้อยละ 90 ของการบริโภคทั้งหมด จึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางราคายางธรรมชาติในอนาคต [PR News]

[ภาพข่าว] STA ผนึก ม.อ. MOU ยกระดับการศึกษาไทย

[ภาพข่าว] STA ผนึก ม.อ. MOU ยกระดับการศึกษาไทย

          บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ร่วมยกระดับการศึกษาของไทยเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้แก่ประเทศ รองรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ Thailand 4.0 ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นำโดย นางสาวนุชนาถ ไชยรัตน์ (ที่สามจากซ้าย) ผู้จัดการสายงานทรัพยากรมนุษย์ พร้อมด้วยนางจิราพร หน่อสกุล (ที่สองจากซ้าย) Corporate – HRBP Manager บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ลงนามในบันทึกความเข้าใจทางวิชาการ (MOU) “โครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหลักสูตรกับสถานประกอบการ” ร่วมกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ (ที่สามจากขวา) อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) พร้อมทีมงานผู้บริหาร ร่วมเป็นเกียรติและสักขีพยาน ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อร่วมผลิตและออกแบบหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนแบบสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education : CWIE)  โดยผสมผสานการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยเข้ากับประสบการณ์ที่จะได้รับจากการฝึกงานกับบริษัทฯ เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพนักศึกษาจบใหม่ที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองหลักสำคัญในอนาคตของประเทศให้มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานภาคใต้และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) โดย STA พร้อมให้การสนับสนุนนักศึกษาจากคณะวิทยาการจัดการ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ. ให้ได้เรียนรู้การปฎิบัติงานกับสถานการณ์จริง รู้จักประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และออกแบบการวัดประเมินผลการเรียนรู้ร่วมกันกับบริษัทฯ เพื่อร่วมกันผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพซึ่งจะเพิ่มศักยภาพและสร้างมาตรฐานของบัณฑิตจบใหม่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเริ่มทำงานได้ทันทีและเพิ่มโอกาสได้รับงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางด้าน ESG ของ STA ที่พร้อมดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ (ESG) ที่กลุ่มบริษัทศรีตรังให้ความตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลประกอบกับเจตนารมณ์แห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

บล.กรุงศรี เล็ง STA กำไร Q3 ดีสุดรอบ 7 ไตรมาส

บล.กรุงศรี เล็ง STA กำไร Q3 ดีสุดรอบ 7 ไตรมาส

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี มอง STA "Slightly positive" ต่อแนวโน้ม 3Q24F คาดที่ 850 ลบ. (พลิกจากขาดทุน y-y, +35% q-q) ดีที่สุดในรอบ 7 ไตรมาส ปัจจัยหนุนจาก i) ราคายาง SICOM 3Q24 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น +33% y-y, +5% q-q ii) คาดรายได้จากธุรกิจถุงมือยางเติบโตจากความต้องการเพิ่มขึ้น iii) คาด GPM ที่ 12.5% เพิ่มขึ้น y-y, q-q (vs. 8.8%/12.2% ใน 3Q23/2Q24) จากสัดส่วนการขายยาง EUDR ที่มี GPM สูงกว่ายาง Non-EUDR เพิ่มขึ้น สำหรับโมเมนตัม 4Q24F คาดกำไรสุทธิลดลง q-q เพราะคาดว่าลูกค้าจะชะลอการเร่งสั่งซื้อยาง จากแนวโน้มการเลื่อนการบังคับใช้ยาง EUDR ออกไป 12 เดือน จึงยังคงคำแนะนำ Trading Buy TP25F 22.20 บ.