#SPRC


โรงกลั่นฟื้นตัวไตรมาส4 โบรกชู SPRC กำไรแกร่ง

โรงกลั่นฟื้นตัวไตรมาส4 โบรกชู SPRC กำไรแกร่ง

หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล.ดาโอระบุว่า ยังคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” สำหรับกลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงกลั่นมีความน่าสนใจมากที่สุด จากผลประกอบการ 4Q24E ที่จะฟื้นตัวดี โดยเลือก SPRC (ซื้อ/เป้า 8.50 บาท) เป็น Top pick โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1) ราคาน้ำมันมีแรงกดดันจากภาวะล้นตลาด โดยล่าสุด IEA ระบุว่าปี 2025E จะมีอุปทานน้ำมันส่วนเกิน 0.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) (ประมาณเกือบ 1% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก) และจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.4 mbd หาก OPEC+ ปรับเพิ่มกำลังผลิตในเดือนเม.ย. 2025E โดยเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 2025E จะลดลงเป็น USD73/bbl จากระดับ USD79-80/bbl ในปี 2024E, 2) ราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติจะสูงขึ้นไม่ได้มากจากปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติคงคลังที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในสหภาพยุโรป (EU), 3) ค่าการตลาด (marketing margin) ของกลุ่มค้าปลีกน้ำมันไทยมีแนวโน้มทรงตัวแต่ยังคงมีความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ (regulatory risk), 4) ค่าการกลั่นตลาด (market GRM)/ค่าการกลั่นพื้นฐาน (operating GRM) มีแนวโน้มสูงขึ้นใน 4Q24E ตามส่วนต่างราคา crack spread โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์กึ่งหนักกึ่งเบา (middle distillate) ที่ดีขึ้น ดัชนีกลุ่มพลังงานปรับตัวลงและ underperform SET –8% ในช่วง 6 เดือน ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัว  ทั้งนี้ เลือก SPRC (ซื้อ/เป้า 8.50 บาท) เป็น Top pick ของกลุ่มพลังงานโดยเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอใน 3Q24 ไปมากแล้ว เราเชื่อว่าบริษัทจะกลับมารายงานกำไรสุทธิได้ใน 4Q24E ตามแนวโน้ม market GRM/operating GRM ที่ฟื้นตัวและผลขาดทุนจากสต๊อก (stock loss) ที่เป็นไปได้ที่ลดลง

OPEC+ ขยายเวลาลดการผลิต หุ้นโรงกลั่นน่าลงทุนไหม?

OPEC+ ขยายเวลาลดการผลิต หุ้นโรงกลั่นน่าลงทุนไหม?

           หุ้นวิชั่น - บล. ดาโอ ระบุว่า ประเทศสมาชิก OPEC+ บางประเทศตกลงขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจนถึงปี 2026E ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีของผู้ผลิตน่ามันรายใหญ่ทั้งในและนอกกลุ่มโอเปค (OPEC and non-OPEC Ministerial Meeting: ONOMM) ครั้งที่ 38 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2024 มีข้อตกลงที่จะขยายการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ (voluntary production cuts) ของ 8 ประเทศสมาชิก (รวมถึง ซาอุดิอาระเบีย, รัสเซีย, อิรัก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), คูเวต, คาซัคสถาน, อัลจีเรียและโอมาน) ออกไปจนถึงปี 2026E โดยแบ่งออกเป็น 1) voluntary production cuts จำนวน 1.65 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) (ซึ่งประกาศมาตั้งแต่ เม.ย.2023) จะมีผลจนถึง ธ.ค.2026 และ 2) voluntary production cuts จำนวน 2.2 mbd (ซึ่งประกาศในเดือน พ.ย.2023) จะขยายเวลาจนถึงเดือน มี.ค.2025 ก่อนที่จะทยอยปรับลดขนาดรายเดือนจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.2026 เพื่อสนับสนุนความมีเสถียรภาพของตลาด โดยการปรับเพิ่มรายเดือนสามารถที่จะหยุดหรือกลับรายการได้ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด ทั้งนี้ การประชุม ONOMM ครั้งที่ 39 จะจัดขึ้นในวันที่ 28 พ.ค.2025 (ที่มา: Reuters, Bloomberg)            มีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ โดยเรามองว่าการขยายเวลาการทยอยถอน voluntary production cuts ออกไปจะทำให้ผลกระทบจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นต่อตลาดน้ำมันโลกจำกัดมากขึ้น            อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดน้ำมันโลกยังมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะอุปทานล้นตลาด (oversupply) ในปี 2025E จากภาพรวมอุปสงค์การใช้น้ำมันที่ฟื้นตัวช้ากว่าอุปทานใหม่ที่เข้ามา (โดยเฉพาะจากกลุ่ม non-OPEC+) และเรายังเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลง YoY ในปี 2025E โดยปัจจุบัน            สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยของเราอยู่ที่ USD80.0/bbl ในปี 2024E และ USD73.0/bbl ในปี 2025E ทั้งนี้เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะซื้อขายในกรอบ USD70/bbl-USD75/bbl สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้            ยังคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” สำหรับกลุ่มพลังงาน และชอบหุ้นโรงกลั่นที่น่าจะเห็นการฟื้นตัว QoQ ของผลประกอบการใน 4Q24E            โดยชอบหุ้น SPRC (ซื้อ/เป้า 8.50 บาท), TOP (ซื้อ/เป้า 55.00 บาท) และ BCP (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท)            ทั้งนี้ เชื่อว่าผลประกอบการของกลุ่มโรงกลั่นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วใน 3Q24 และจะกลับมารายงานกำไรสุทธิได้ใน 4Q24E หนุนโดย 1) การฟื้นตัวของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) และ 2) ผลขาดทุนสต๊อกน้ำมัน (stock loss) ที่เป็นไปได้ที่ลดลงตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่มีความผันผวนน้อยลง QoQ ใน 4Q24E

จับตาโรงกลั่น SPRC ลุ้นQ4พลิกกำไร-เป้า 8.50 บ.

จับตาโรงกลั่น SPRC ลุ้นQ4พลิกกำไร-เป้า 8.50 บ.

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะ SPRC (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 8.50 บาท) คาดกลับมามีกำไรสุทธิใน 4Q24E; 2025E crack spread ฟื้นตัว คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปีที่ 8.50 บาท (เดิม 9.00 บาท) อิง 2025E PBV เดิมที่ 0.88x (ประมาณ -1.8SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี) เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจโรงกลั่นจะฟื้นตัว QoQ ใน 4Q24E ในขณะที่แนวโน้มต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและน้ำมันดิบ (crack spread) น่าจะฟื้นตัว YoY ได้ในปี 2025E โดยมีแรงหนุนหลักๆ จากภาพรวมอุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปกึ่งหนักกึ่งเบา (middle distillate) ที่สูงขึ้นจากอุปสงค์การท่องเที่ยวที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจในเอเชียที่เติบโต   ทั้งนี้ คาดว่า SPRC จะกลับมารายงานกำไรสุทธิได้ใน 4Q24E หลักๆ จากค่าการกลั่นตลาด (market GRM) ที่สูงขึ้นจากแรงหนุนของการดำเนินงานของทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) เต็มไตรมาส, crack spread ที่สูงขึ้นตามแรงหนุนของอุปสงค์ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว และผลขาดทุนจากสต๊อก (stock loss including NRV) ที่เป็นไปได้ที่ลดลง ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E/2025E ลง 15%/2% เป็น 2.5/2.7 พันล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1.2 พันล้านบาทในปี 2023 โดยปรับกำไรปี 2024E ลงหลักๆ เพื่อสะท้อนผลขาดทุนจาก stock loss ใน 3Q24 ที่สูงกว่าคาด ในขณะที่ปรับกำไรปี 2025E ลงเนื่องจากผลกระทบเชิงลบจากต้นทุนในการดำเนินงาน (OPEX) และสมมติฐาน stock loss ที่สูงขึ้น มีขนาดใหญ่กว่าผลกระทบเชิงบวกจาก market GRM ที่สูงขึ้นจากการดำเนินงานเต็มปีของ SPM ราคาหุ้นปรับตัวลง 20% และ underperform SET 25% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนแนวโน้ม crack spread ที่อ่อนตัวและผลประกอบการที่น่าผิดหวังใน 3Q24 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน SPRC ซื้อขายที่ valuation ที่น่าสนใจที่ 2025E PBV 0.70x (ประมาณ -2.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี) เชื่อว่าผลประกอบการน่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วใน 3Q24 และคาดว่าบริษัทจะกลับมารายงานกำไรสุทธิได้ใน 4Q24 หนุนโดยอุปสงค์ที่สูงขึ้นในฤดูหนาวของประเทศตะวันตกและ stock loss ที่ต่ำลง

SPRC มีสัญญาเชิงบวกQ4 คาด GRM จะเพิ่มขึ้น

SPRC มีสัญญาเชิงบวกQ4 คาด GRM จะเพิ่มขึ้น

          หุ้นวิชั่น - ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า SPRC กล่าวในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 67 ว่า ค่าการกลั่นตลาด (GRM) ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น mom ในเดือนพ.ย.67 หลัง crack spread ของผลิตภัณฑ์ middle distillate เพิ่มขึ้น ฝ่ายวิเคราะห์ฯจึงเชื่อว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่หน่วย CDU (crude distillation unit) ของ SPRC จะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 95% ในไตรมาส 4/67 จาก 89.9% ในไตรมาส 3/67           SPRC เผยว่า crack spread ของ ผลิตภัณฑ์ middle distillate ยังคงเป็นปัจจัยที่กำหนดอัตราการใช้กำลังการผลิตของ CDU ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯเชื่อว่า crack spread ที่ดีขึ้นของ HSFO (น้ำมันเตาที่มีกำมะถันสูง) ซึ่งติดลบ 1.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลตั้งแต่ต้นไตรมาส 4/67 จนถึงขณะนี้ เทียบจากที่ติดลบ 5.27 เหรียญสหรัฐ/ บาร์เรลในไตรมาส 3/67 ไม่น่าจะทำให้ CDU ใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นหากน้ำมันดิบชนิดหนักยังมีราคาแพง           ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า Crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 16.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล MTD ในเดือนพ.ย.67 เทียบจาก 12.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในเดือนต.ค.67 จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในอินเดียและอาเซียน ซึ่งช่วยชดเชยความต้องการที่ลดลงในจีน หลังคนจีนหันมาใช้งานรถบรรทุกที่ใช้เชื้อเพลิง LNG มากขึ้นทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลลดลง           นอกจากนี้ crack spread ของน้ำมันอากาศยานยังเพิ่มขึ้นเป็น 16.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล MTD ในเดือนพ.ย.67 จาก 13.0 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในเดือนต.ค.67 เนื่องจากเที่ยวบินเชิงพาณิชย์มีจำนวนเพิ่มขึ้น ขณะที่ S&P Platts คาดว่าอุปสงค์ของน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซลในตลาดโลกน่าจะเติบโต 3.2% yoy ในปี 68 แต่ฝ่ายวิเคราะห์ฯมองว่าอุปสงค์ของน้ำมันดีเซลอาจมี downside risk หากภาคการผลิตของจีนยังอ่อนตัว ซึ่งอาจส่งผลให้มีการส่งออกไปตลาดเอเชียเพิ่มขึ้น           สำหรับ Crack spread น้ำมันเบนซินในเอเชียนั้น ยังค่อนข้างทรงตัวที่ 11.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล MTD ในเดือนพ.ย. 67 จาก 10.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในเดือนต.ค.67 เพราะปริมาณสต็อกในศูนย์กลางการซื้อขายของสิงคโปร์ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาดูแนวโน้ม crack spread ของน้ำมันเบนซินในปีหน้า เพราะหน่วย FCC (fluid catalytic cracking unit) ของโรงกลั่น Dangote Refinery และ Olmeca Refinery Complex ในเม็กซิโกอาจเปิดดำเนินงานในปีหน้า           ขณะที่ SPRC กล่าวว่าบริษัทอาจมีการผลิตน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้วยการแลกเปลี่ยนผลผลิตพลอยได้กับพันธมิตรทางธุรกิจ หากน้ำมันดีเซลมี crack spread สูงกว่าน้ำมันเบนซินในปีหน้า GRM น่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/67           ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังแนะนำ “ซื้อ” SPRC ที่ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท เท่ากับ EV/EBITDA 6.0 เท่าในปี 68เนื่องจาก GRM มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยประมาณการว่า GRM ของ SPRC น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในเดือนต.ค. และ 5.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล MTD ในเดือนพ.ย.67 จาก crack spread ที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตา นอกจากนี้ คาดว่าต้นทุนต่อหน่วยจะกลับมาอยู่ในระดับปกติที่ 2.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 4/67 เนื่องจากบันทึกต้นทุน catalyst ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ในไตรมาส 3/67 แล้ว           อย่างไรก็ตาม SPRC ให้แนวทางว่าต้นทุนต่อหน่วยจะอยู่ที่ 2.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปี 68 และอาจเพิ่มขึ้นช่วงปลายปีหน้าจากค่าใช้จ่ายในการ เตรียมการปิดซ่อมบำรุงใหญ่หน่วย CDU ในไตรมาส 1/69 ขณะที่ปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นระยะสั้นคือ crack spread ของน้ำมันเบนซินที่แข็งแกร่งกว่าคาด ส่วน downside risk จะมาจากการหยุดการผลิตของหน่วย RFCC นอกแผน

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

live-sticky
LIVE