#SPALI


SPALI กำไรดีกว่าคาด ยอดโอน-GPM แกร่ง

SPALI กำไรดีกว่าคาด ยอดโอน-GPM แกร่ง

           หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” SPALI และราคาเป้าหมาย 24.00 บาท อิง 2025E PER ที่ 7.5 เท่า (-0.25SD below 5-yr average PER) SPALI รายงาน 3Q24 มีกำไรสุทธิ 2.0 พันล้านบาท (+67% YoY, +24% QoQ) ดีกว่า consensus และที่ทำไว้ที่ 1.85 พันล้านบาท            โดยเป็นผลจาก 1) รายได้ดีกว่าคาดอยู่ที่ 9.8 พันล้านบาท (+37% YoY, +24% QoQ) จากยอดโอนคอนโดที่เพิ่มขึ้น โดยมีคอนโดใหม่เริ่มโอนใน 3Q24 ที่ 1 โครงการ และโอนโครงการใหม่ต่อเนื่องจาก 2Q24 อีก 3 โครงการ, 2) GPM ดีกว่าคาดเป็น 39.6% (3Q23 = 36.6%, 2Q24 = 36.1%) เนื่องจากคอนโดที่โอนส่วนใหญ่มี GPM ที่สูง ดังนั้น ส่งผลให้ 9M24 มีกำไรสุทธิ 4.2 พันล้านบาท +6% YoY            ประมาณการกำไรปี 2024E/25E ที่ 5.9 พันล้านบาท -1% YoY และ 6.3 พันล้านบาท +6% YoY โดยกำไร 9M24 จะคิดเป็น 71% จากทั้งปี สำหรับกำไร 4Q24E ยังมีทิศทางทีดี จาก backlog ที่ยังสูง ตามคอนโดใหม่ที่ยังโอนได้ต่อเนื่อง และยังมี upside จากร่วมทุนกับ Stockland ในออสเตรเลีย ที่จะเริ่มรับรู้กำไรได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.24            ราคาหุ้น outperform SET +3% ในช่วง 3 เดือน จากกำไร 2Q-3Q24 ที่ดีขึ้น และได้ปัจจัยบวกจากการที่ ธปท.ปรับลดดอกเบี้ย แต่กลับมา underperform SET -5% ในช่วง 1 เดือน ทั้งนี้ เรายังแนะนำ ซื้อ จากกำไร 4Q24E และปี 2025E ที่มีทิศทางดีขึ้นตามยอดโอน และยังมี upside จากส่วนแบ่งกำไรที่ออสเตรเลีย ด้าน valuation ปัจจุบันยังน่าสนใจเทรดที่ 2025E PER ที่ 5.8 เท่า คิดเป็น -2.0SD

[ภาพข่าว] SISB ผนึก SPALI ปักหมุดโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์แห่งที่ 7 สู่ทำเลปทุมธานี

[ภาพข่าว] SISB ผนึก SPALI ปักหมุดโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์แห่งที่ 7 สู่ทำเลปทุมธานี

           บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดย ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร ได้ลงนามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินขนาดพื้นที่ 20-0-2.9 ไร่ บนถนนเลียบคลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี ให้แก่ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) โดย นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางสาววิลาวัณย์ แก้วกนกวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายรับสมัครนักเรียน เพื่อเตรียมรองรับการดำเนินกิจการโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ลำดับที่ 7 ในประเทศไทย โดยที่ดินดังกล่าวอยู่ใกล้โครงการ    ศุภาลัย พรีม่า วิลล่า รังสิต-คลอง 3 ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนในพื้นที่            ที่ดินแปลงดังกล่าวบมจ.เอสไอเอสบี (SISB) จะพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์แห่งที่ 7  ที่มุ่งนำการศึกษาคุณภาพระดับนานาชาติเข้าถึงคนไทยมากขึ้น โดยมีจุดเด่นคือหลักสูตรการศึกษาที่มีชื่อเสียงจากประเทศสิงคโปร์ โดยเฉพาะหลักสูตรประถมศึกษาที่เน้นความเป็นเลิศทางวิชาการในด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ต่อเนื่องไปถึงระดับมัธยมศึกษาซึ่งเป็นหลักสูตรจากสหราชอาณาจักร IGCSE และ A/AS Level ซึ่งความร่วมมือนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ บมจ.ศุภาลัย ที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมการศึกษาและการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ

SPALI กำไร Q3-Q4 ฟื้นชัด ขานรับดอกเบี้ยขาลง

SPALI กำไร Q3-Q4 ฟื้นชัด ขานรับดอกเบี้ยขาลง

          หุ้นวิชั่น-บล.ดาโอ ปรับคำแนะนำ SPALI  ขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” และปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2025E ที่ 24.00 บาท อิง PER ที่ 7.5 เท่า (-0.25SD below 5-yr average PER) จากเดิมที่ 18.00 บาท อิง 2024E PER ที่ 7.0 เท่า (-1.0SD below 5-yr average PER)           มองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ (17 ต.ค.) ได้แก่ 1) presales 3Q24E ดีขึ้นเป็น 6.7 พันล้านบาท +8% YoY, +4% QoQ และแนวโน้ม 4Q24E จะยังดีขึ้น YoY, QoQ เป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากการเปิดคอนโดใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับดี รวมถึงแนวราบจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากการที่ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ย, 2) เราประเมินยอดโอน 3Q24E จะดีขึ้นเป็น 9.6 พันล้านบาท +35% YoY, +22% QoQ จากยอดโอนคอนโดใหม่เพิ่มขึ้น และแนวโน้ม 4Q24E จะยังดีต่อเนื่องจากการเร่งโอนก่อนสิ้นสุดมาตรการลดค่าโอนและจดจำนอง และ 3) โครงการร่วมทุนกับ Stockland ที่ออสเตรเลียคืบหน้า โดยได้ผ่านการตรวจสอบ antitrust จากทางการของออสเตรเลียแล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าทำธุรกรรมได้ภายใน ต.ค.24           ปรับประมาณการกำไรปี 2024E/25E ขึ้น +17%/+20% เป็น 5.9 พันล้านบาท -2% YoY และ 6.3 พันล้านบาท +8% YoY ตามแนวโน้มยอดโอนที่ดีขึ้นจากเดิม สำหรับ 3Q24E เราประเมินกำไรที่ 1.85 พันล้านบาท (+55% YoY, +16% QoQ) จากยอดโอนที่ดีขึ้น และ GPM ที่เพิ่มขึ้นจากคอนโดใหม่ ขณะที่กำไร 4Q24E จะยังดีต่อเนื่องจากการเร่งโอนก่อนสิ้นสุดมาตรการลดค่าโอนและจดจำนอง, กำลังซื้อเริ่มดีขึ้นจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมทุนกับ Stockland ที่ออสเตรเลีย           ราคาหุ้น underperform SET -10% ในช่วง 6 เดือน จากกำไร 1H24 ที่ลดลง และกังวลธุรกิจอสังหาฯ ที่ชะลอตัว แต่กลับมา outperform SET +2%/+5% ในช่วง 1 และ 3 เดือน จากความคาดหวังที่ ธปท.จะปรับลดดอกเบี้ย ทั้งนี้           ปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ จากแนวโน้มกำไร 3Q-4Q24E ที่จะกลับมาฟื้นตัวดีกว่าเดิม, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลบวกต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัย ด้าน valuation ปัจจุบันยังน่าสนใจเทรดที่ 2025E PER ที่ 6.4 เท่า คิดเป็น -1.5SD

SPALI การจัดการล้ำสมัย

SPALI การจัดการล้ำสมัย

การจัดการล้ำสมัยแบบศุภาลัย           ในสถาบัน MBA ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือทวีปอะไร ต่างสอนเกี่ยวกับ “ความเสี่ยง” และ “ผลตอบแทน” ในทิศทางเดียวกันว่า: ถ้าหวัง “ความเสี่ยงต่ำ = จะได้ผลตอบแทนต่ำ” ถ้ายอมรับ “ความเสี่ยงสูง = จะได้ผลตอบแทนสูง” แต่การสอนใน “บมจ.ศุภาลัย” นั้นแตกต่างออกไป ในทางตรงกันข้าม: เราสอนว่า: เราต้องการ “ความเสี่ยงต่ำ = แต่หวังผลตอบแทนสูง” สิ่งนี้เป็นไปได้จริงหรือ แล้วจะทำได้อย่างไรเล่า? โดยปกติแล้ว ความเสี่ยงมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” และ “ความเสี่ยงทางการเงิน” แนวทางของศุภาลัยในการลด “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” คือ: หลีกเลี่ยงโครงการและทำเลที่มีความเสี่ยงสูง พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีที่สุด โดยนำมาตรฐาน ISO 9001:2015, ระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) และการสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมมาใช้ เป็นต้น “คุณภาพ” ที่ดีจะสร้าง “แบรนด์” ให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงแต่กลับเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ขยายธุรกิจทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง เพื่อเพิ่มการเติบโตและบรรลุ “Economy of Scale” ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนลดลงและได้กำไรมากขึ้น ดำเนินธุรกิจ นอกจากบนพื้นฐานที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ต้องถูกจริยธรรมและจรรยาบรรณที่ดีด้วย วิธีการลด “ความเสี่ยงทางการเงิน” ของศุภาลัย คือ: รักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt/Equity) และอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย / ส่วนของทุน (Gearing Ratio) ให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความน่าเชื่อถือ ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับสูง = “A” ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งช่วยให้ขยายการเติบโตได้อย่างกว้างขวางทั้งในตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ รูปแบบการเติบโตของศุภาลัย:           “Dual Track” พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูง กรุงเทพฯ และเมืองต่างจังหวัด ปัจจุบัน “ศุภาลัย” กำลังพัฒนาโครงการ 250 โครงการใน 29 จังหวัดทั่วประเทศไทย           นอกจากนี้ ศุภาลัยยังได้ขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียนและออสเตรเลีย การลงทุนในออสเตรเลียได้เติบโตขึ้นจาก 1 โครงการเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เป็น 24 โครงการใน 4 รัฐ 6 เมืองในปัจจุบัน           กลยุทธ์ “Dual Track” และ “Triple Track” มีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม “ศักยภาพการเติบโต” และ “กระจายความเสี่ยง” ซึ่งทั้ง 2 กลยุทธ์นี้ตอบโจทย์ทั้ง 2 เป้าหมายได้เป็นอย่างดี แล้วในส่วนของ “ผลตอบแทนสูง” ล่ะ เป็นอย่างไร?           วิธีที่ดีที่สุดในการวัด “ผลตอบแทนสูง” คือการเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียน 10 อันดับแรกในอุตสาหกรรมเดียวกัน ผลลัพธ์การเปรียบเทียบแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนของ “SUPALAI” ที่ดีกว่าอย่างชัดเจน และยังมีความเสี่ยงทางการเงินน้อยกว่าด้วย ดังนี้:           นิตยสารการเงินธนาคารได้ยืนยันถึงผลงานที่ยอดเยี่ยมของศุภาลัย โดยจัดให้ศุภาลัยอยู่ในอันดับ 1 ด้านความเป็นเลิศ และมอบรางวัล “บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2566 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง” (Best Public Company – Property and Construction Industry 2023) จากการจัดอันดับ Best Public Companies of The Year 2023           “ความลับ” เบื้องหลังความสำเร็จในระยะยาวของ “ศุภาลัย” มาจาก “ปรัชญา” ของรูปแบบการจัดการของศุภาลัย ดังนี้:           ตารางเปรียบเทียบระหว่างการจัดการล้าสมัย (Old Fashion Management), การจัดการตามสมัยใหม่ (Modern Management), และการจัดการล้ำสมัยแบบศุภาลัย (Supalai’s Post Modern Management) ซึ่งสามารถแปลเป็นภาษาไทยได้ดังนี้:

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

บล.กรงุศรี ให้ Trading Buy

บล.กรงุศรี ให้ Trading Buy "SPALI" เป้า 20 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน) (KSS) มีมุมมองต่อ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI โดยมอง neutral ต่อ 3Q24 presale ที่ 6.7 พันลบ. (+8% y-y, +4% q-q) เพราะโตเล็กน้อย y-y, q-q ถึงแม้ไตรมาสนี้เปิดโครงการ low-rise ใหม่มาก ซึ่งสะท้อน demand ที่ชะลอลง รวมถึงแรงกดดันจาก reject rate สูง           สำหรับ 9M24 presale เท่ากับ 20.1 พันลบ. (-15% y-y) คิดเป็น 56% จากเป้าปี 2024F ที่ 36.0 พันลบ. (+25% y-y) โดยเรามองโอกาส downside ราว 25% หรือที่ราว 27.0 พันลบ. สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q24F คาดยังดี โดยคาดราว 1.6-1.7 พันลบ. เพราะมี condo โครงการใหม่โอนมาก แต่อยู่ในความคาดหวังของ consensus อยู่แล้ว แต่กังกลต่อ outlook ปี 2025F ยังเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะ backlog condo รอโอนต่ำ ทำให้ต้องพึ่งพิงการระบาย stock condo และการขาย low-rise ที่มากมาชดเชย ซึ่งอาจทำได้ไม่ง่าย ทำให้โอกาสที่ประมาณการกำไรสุทธิ 2025F จะถูกปรับลดลงมีสูง คงคำแนะนำ Trading Buy ที่ TP25F = 20.0 บาท