ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#SMD100


SMD100 พลิกเกมธุรกิจครั้งใหญ่! ปรับทัพสู่การแพทย์เฉพาะทาง

SMD100 พลิกเกมธุรกิจครั้งใหญ่! ปรับทัพสู่การแพทย์เฉพาะทาง

               หุ้นวิชั่น - SMD 100 ปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ จากผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ สู่ผู้ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางแบบครบวงจร ประกาศตั้ง 5 หน่วยธุรกิจใหม่ ครอบคลุมทุกห่วงโซ่คุณค่าทางการแพทย์ พร้อมต่อยอดนวัตกรรม เทคโนโลยี และโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อระบบสุขภาพไทย                ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMD 100 เปิดเผยว่า บริษัทได้วางเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ใหม่อย่างชัดเจน โดยบริษัทกำลังก้าวข้ามจากการเป็น “บริษัทจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์” ไปสู่การเป็น ผู้ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง (Specialized Healthcare Service Provider) ซึ่งครอบคลุมทุกห่วงโซ่คุณค่าทางการแพทย์ ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ                บริษัทตระหนักดีว่า ผู้ป่วย โรงพยาบาล พันธมิตร และสังคมไม่ได้มองหาเพียงสินค้าคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ต่างคาดหวังถึง โซลูชันที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิต (Health Value Creation) ได้อย่างแท้จริง นั่นคือหัวใจของความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดังกล่าว SMD rise จึงได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ โดยจัดตั้งบริษัทในเครือที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัว ชัดเจน และรองรับการเติบโตในแต่ละกลุ่มธุรกิจอย่างยั่งยืน โครงสร้างธุรกิจใหม่นี้แบ่งออกเป็น 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่ 1. SMD Genesis Co., Ltd. Innovating Patient Care with Cutting-Edge Solutions มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Critical Care โดยให้บริการจัดจำหน่ายและให้เช่าเครื่องมือแพทย์ พร้อมพัฒนาโมเดลการให้บริการผ่านระบบ Revenue Sharing Model ร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตร เพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ 2. SMD Sappaya Co., Ltd. Innovating Health. Inspiring Lives. พัฒนาแนวคิดด้านการแพทย์องค์รวมและสุขภาพเชิงรุก ผ่านโมเดลบริการและผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 10S ได้แก่: Sleep, Sex, Stress, Syndrome (Metabolic), Syndrome (Office), Slim, Skin, Soul & Spirit, Smart Exercise (Body, Brain, Heart), และ Super Sappaya ดำเนินธุรกิจผ่านโมเดล Medical Services, Revenue Sharing, Cloud Healthcare Service, และ DaaS – Device as a Service 3. SMDi Co., Ltd. Innovation for Change บริหารกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการในพอร์ต Advanced Imaging & Radiation Therapy เช่น CT, MRI, Nuclear Medicine, AI Imaging Platform, LINAC และ Proton Therapy Center เป็นหน่วยธุรกิจหลักในการพัฒนา Cancer Treatment Centers ทั้งในรูปแบบการจำหน่ายและ Revenue Sharing Model 4. SMD Connex Co., Ltd. Connecting Care. Connecting Everywhere. ดูแลผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Cardiovascular Product Portfolio และระบบ Clinical Information System (CIS) โดยเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์ทางการแพทย์สู่ระบบดิจิทัล ดำเนินธุรกิจผ่านโมเดลการขาย การเช่า และการสมัครสมาชิก (Subscription) 5. SMD Robotic Surgery Business Unit Surgical Precision. Robotic Innovations. หน่วยธุรกิจเฉพาะทางด้านหุ่นยนต์ผ่าตัด (Robotic Surgery System) โดยเน้นการให้บริการในรูปแบบ Rental Model สำหรับโรงพยาบาลและศูนย์ผ่าตัดเฉพาะทาง                โครงสร้างใหม่นี้ไม่เพียงตอบสนองต่อการขยายตัวของธุรกิจในแต่ละสายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ SMD rise สามารถพัฒนาระบบบริการที่เชื่อมโยงนวัตกรรม เทคโนโลยี และบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมสนับสนุนการพัฒนาองค์กรในมิติต่าง ๆ เช่น การกำกับดูแลกิจการ (Governance), การประเมินความเสี่ยงแบบองค์รวม (Integrated Risk Management), และการออกแบบกลยุทธ์เชิงลึกในแต่ละ Business Unit                บริษัทเชื่อมั่นว่า องค์กรการแพทย์แห่งอนาคต ไม่ได้แข่งกันที่ขนาด แต่แข่งกันที่ความสามารถในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสุขภาพของสังคม (Positive Health Impact) บริษัทไม่ใช่เพียงผู้ขายเครื่องมืออีกต่อไป แต่บริษัทคือ พันธมิตรที่วางระบบการรักษา และผู้สร้างความยั่งยืนในระบบสุขภาพ

SMD100 คว้างานโครงการศูนย์บำบัดมะเร็ง คาดกวาดรายได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท

SMD100 คว้างานโครงการศูนย์บำบัดมะเร็ง คาดกวาดรายได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท

          หุ้นวิชั่น - ดร. วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD100 แจ้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 บริษัท เอสเอ็มดีไอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (ถือหุ้น 100%) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในโครงการศูนย์บำบัดโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยี Proton Therapy โดยโครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญในการขยายขีดความสามารถด้านการแพทย์ของประเทศไทย พร้อมยกระดับการรักษาให้ได้มาตรฐานระดับสากล รายละเอียดโครงการ โครงการนี้มีการลงทุนเกือบ 2,000 ล้านบาท รองรับการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้มากถึงปีละเกือบ 1,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ตลอดอายุสัญญา 20 ปี มากกว่า 12,000 ล้านบาท โครงการนี้เป็นตัวอย่างของการลงทุนที่มีผลตอบแทนเชิงเศรษฐกิจควบคู่กับผลกระทบเชิงสังคม หรือ Financial Returns with Social Impact โดยแสดงให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างการสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ข้อดีของเทคโนโลยี Proton Therapy           เป็นวิธีการรักษามะเร็งที่ล้ำสมัย มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการฉายรังสีแบบเดิม (LINAC) โดยมีจุดเด่นดังนี้: ความแม่นยำสูงสุด (Superior Precision): สามารถส่งพลังงานรังสีเข้าถึงเนื้อเยื่อมะเร็งโดยตรง ลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อปกติ ผลข้างเคียงต่ำ (Minimal Side Effects): ลดความเสี่ยงต่ออวัยวะใกล้เคียง ส่งผลให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น เหมาะสำหรับมะเร็งที่ซับซ้อน (Optimal for Complex Tumors): เช่น มะเร็งสมอง มะเร็งในเด็ก และมะเร็งที่อยู่ใกล้หัวใจหรือไขสันหลัง เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย (Improved Quality of Life): ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ นโยบาย Medical Hub ของรัฐบาล           โครงการศูนย์ Proton Therapy นี้ยังสอดคล้องกับนโยบาย Medical Hub ของรัฐบาลไทย ที่มุ่งพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาคอาเซียน โดยการนำนวัตกรรมการรักษาระดับโลกเข้ามาใช้ เพิ่มขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข และดึงดูดผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความคิดเห็นจากผู้บริหาร           ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า: “โครงการศูนย์บำบัดโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยี Proton Therapy เป็นหนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราที่จะขับเคลื่อนวงการแพทย์ไทยไปสู่ระดับสากล เรามั่นใจว่าศูนย์นี้จะเป็นทั้งจุดเปลี่ยนในวงการรักษาโรคมะเร็งของประเทศ และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยให้เป็น Medical Hub ในภูมิภาค ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดมาให้บริการ”           “การลงทุนในโครงการนี้ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของการสร้างผลตอบแทนทางการเงิน (Financial Returns) ที่ควบคู่ไปกับผลกระทบเชิงสังคม (Social Impact) ซึ่งตอบสนองทั้งความต้องการของผู้ถือหุ้นและความรับผิดชอบต่อสังคม” โครงการที่เกี่ยวข้องในเครือ           ก่อนหน้านี้ บริษัท เอสเอ็มดีเอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังได้ดำเนินงานในโครงการศูนย์ตรวจการนอนหลับขนาด 11 เตียงในศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ (THAMC) ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมรับรองมาตรฐานระดับสากลจาก American Accreditation Commission International (AACI) พร้อมให้บริการประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้           บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือชื่อใหม่ บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการให้บริการทางการแพทย์ พร้อมลงทุนในโครงการที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อผลักดันวงการแพทย์ไทยให้ก้าวหน้าสู่เวทีระดับโลกในรูปแบบ “Building Hospital Empire, No Hospital Required.” ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในประกอบธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในปัจจุบันและอนาคต           อนึ่ง โครงการนี้คาดว่าจะดำเนินก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้บริการภายใน 2 ปี ซึ่งโดยปกติแล้วศูนย์ฉายแสงรักษามะเร็งด้วยระบบโปรตอนจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4-5 ปี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทคัดสรรมามีขนาดกะทัดรัดที่สุดในปัจจุบัน

SMD100 ชนะประกวดราคาราว 48 ลบ.  หนุนรายได้ - เสถียรภาพการเงิน

SMD100 ชนะประกวดราคาราว 48 ลบ. หนุนรายได้ - เสถียรภาพการเงิน

          หุ้นวิชั่น - นายวิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ SMD100 แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทและบริษัทในเครือชนะการประกวดราคาจำนวน 2 โครงการ ดังนี้ บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ขอรายงานการเข้าลงนามสัญญาจัดหาอุปกรณ์การแพทย์กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (โรงพยาบาลศรีนครินทร์) โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 31,485,000 บาท (สามสิบเอ็ดล้านสี่แสนแปดหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ภายใต้สัญญานี้ บริษัทจะจัดหาเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) จำนวน 900 ชุด ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่มีบทบาทในการสนับสนุนการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ ด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบตามมาตรฐานระดับสากล และสอดคล้องกับความต้องการของโรงพยาบาลชั้นนำ การลงนามในครั้งนี้ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2571 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มอบให้กับบริษัททั้งในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการ บริษัทเชื่อมั่นว่าสัญญาดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลในประเทศไทยพร้อมเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทในฐานะผู้นำด้านอุปกรณ์การแพทย์ในระดับประเทศ บริษัท เอสเอ็มดีเอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) ได้รับการประกาศเป็นผู้ชนะการประกวดราคาจากโรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตรวจการนอนหลับจำนวน 4 ห้องตรวจ รวมมูลค่า 16,800,000 บาท (สิบหกล้านแปดแสนบาทถ้วน) โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญ บริษัทฯ จะดำเนินงานตามมาตรฐานที่กำหนดพร้อมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ และขอขอบคุณโรงพยาบาลบางพลีที่ไว้วางใจในคุณภาพการให้บริการ และมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการ           ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าทั้ง 2 โครงการนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพทางการเงินและรายได้ในระยะยาว ตลอดจนสนับสนุนเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น

SMD100 ผนึกศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ ลุย Sleep Test Center

SMD100 ผนึกศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ ลุย Sleep Test Center

          หุ้นวิชั่น - SMD100 ผนึกศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ ลุย Sleep Test Center ดีเดย์เปิดให้บริการ 20 ม.ค.68 นี้ คาดสร้างรายได้ 375 ล้านบาท ยกระดับบริการเทียบเท่ามาตรฐานสากล ตั้งเป้าคว้า AACI พร้อมนำเทคโนโลยีสุดล้ำ ขยายฐานลูกค้า สอดรับดีมานด์ล้น           ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD100 ขอแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ ศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจร (Sleep Test Center) ณ ศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ (Thammasat Healthcare Center - THAMC) ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างบริษัท และศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ เพื่อยกระดับศักยภาพการให้บริการตรวจการนอนหลับในประเทศไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานระดับสากล           สัญญาระหว่างบริษัท และศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ได้ลงนามเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 โดยมีผลให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 และบริษัทคาดว่าศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจรจะสามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 เป็นต้นไป รายละเอียดโครงการ           การเปิดให้บริการ ศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจร คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 โดยศูนย์จะติดตั้ง เครื่องตรวจการนอนหลับ PSG Type I จำนวน 11 เครื่อง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน           โดยบริษัทเป้าหมายการรับรองมาตรฐานระดับโลก บริษัทตั้งเป้าหมายให้ศูนย์ตรวจการนอนหลับได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก AACI (Accreditation Association for Ambulatory Health Care International) ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการให้บริการและตอกย้ำมาตรฐานระดับสากล           ขยายศักยภาพเตียงตรวจการนอนหลับ เดิมทีโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติมีเตียงสำหรับตรวจการนอนหลับจำนวน 5 เตียง โครงการนี้เพิ่มเตียงอีก 11 เตียงในศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ รวมเป็น 16 เตียง ช่วยลดคิวรอจาก 6 เดือนลงอย่างมีนัยสำคัญ           รายได้ที่คาดการณ์จากโครงการ เป็นรายได้จากค่าบริการตรวจการนอนหลับและการจำหน่ายเครื่องช่วยหายใจ CPAP คาดว่าจะสร้างรายได้รวมประมาณ 375 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญา 5 ปี โดยบริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายฐานลูกค้าและความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจและสังคม           เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ การเปิดศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจรครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจและรักษาภาวะการนอนหลับที่มีคุณภาพสูง ลดปัญหาการรอคิว และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย           เสริมสร้างผลประกอบการของบริษัท โครงการนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ต่อเนื่องและมั่นคงตลอดระยะเวลา 5 ปี พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดอุปกรณ์ช่วยหายใจ CPAP และเสริมความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการแพทย์           และตอกย้ำมาตรฐานระดับโลกและมีเป้าหมายการรับรองมาตรฐานระดับโลก AACI จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจร และยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านสุขภาพของประเทศไทย

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

SMD100 โชว์Sleep Test Unit เจาะผู้รักสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการนอน

SMD100 โชว์Sleep Test Unit เจาะผู้รักสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการนอน

หุ้นวิชั่น - SMD100 โชว์ "SMDX KIN-ORIGIN Sleep Test Unit" หน่วยให้บริการตรวจการนอนหลับในรูปแบบเทิร์นคีย์ (Turnkey) ขึ้นแท่นบริการตรวจการนอนหลับแบบเอกเทศแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก แถมคว้ามาตรฐาน AACI เจาะกลุ่มผู้รักสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการนอน ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นาย วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD100 เปิดเผยว่า หน่วยตรวจการนอนหลับเอสเอ็มดีเอ็กซ์ คิน-ออรอจิ้น (SMDX KIN-ORIGIN Sleep Test Unit) หน่วยตรวจตรวจการนอนหลับที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง โรงพยาบาลคิน-ออริจิน (Kin-Origin Hospital) และ บริษัท เอสเอ็มดีเอ็กซ์ จำกัด (SMDX Co., Ltd.) ในเครือ บริษัท เซนต์เมด จำกัด(มหาชน) หรือ SMD100 ซึ่ง บริษัท เอสเอ็มดีเอ็กซ์ จำกัด(SMDX Co.,Ltd.) กำลังจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท เอสเอ็มดี สัปปายะ จำกัด (SMD Sappaya Co., Ltd.) เป็นหน่วยให้บริการตรวจการนอนหลับในรูปแบบเทิร์นคีย์( Turnkey ) ซึ่งหน่วยตรวจการนอนหลับเอสเอ็มดีเอ็กซ์ คิน ออริจิ้น(SMDX Kin-Origin Sleep Test Unit) กำลังจะเป็นหน่วยตรวจการนอนหลับแบบเอกเทศแห่งแรกในเอเซียแปซิฟิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน AACI สโลแกน วิสัยทัศน์และพันธกิจ สโลแกน : “Transform Sleep, Transform Life” วิสัยทัศน์ : “ศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านสุขภาพการนอนในอาเซียน ด้วยนวัตกรรมและบริการมาตรฐานสากล” (The sleep wellness leader of ASEAN with next-gen innovation and cutting-edge services) พันธกิจ : “สร้างมาตรฐานใหม่ด้านสุขภาพการนอนในอาเซียน ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย บริการคุณภาพสูง และความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เพื่อชีวิตที่สมดุลและอนาคตที่ยั่งยืน” (Shaping the future of sleep wellness in ASEAN with innovative solutions, exceptional service, and dynamic collaborations, inspiring balanced lives and endless opportunities.) กลุ่มเป้าหมายของบริการ 1. ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) หรือภาวะนอนไม่หลับเรื้อรัง 2. กลุ่มผู้รักสุขภาพที่ต้องการตรวจคุณภาพการนอน (Sleep Quality) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนอน 3. ผู้ใช้งานเครื่อง CPAP ที่ต้องการปรับค่าความดันให้เหมาะสม หรือซื้อเครื่อง CPAP ใหม่หรืออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม แผนพัฒนาการให้บริการด้านเวชศาสตร์การนอนหลับ 1 เพิ่มทีมแพทย์เฉพาะทาง • ขยายทีมแพทย์จากหลากหลายสาขา: • ด้านระบบทางเดินหายใจ: รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) • ด้านประสาทวิทยา: การรักษาโรคลมหลับ (Narcolepsy) • ด้านโสต ศอ นาสิก: การรักษาภาวะหยุดหายใจจากโครงสร้างทางเดินหายใจ • ด้านจิตเวชศาสตร์: การรักษาภาวะนอนไม่หลับเรื้อรัง (Chronic Insomnia) 2 เพิ่มความพร้อมในการให้บริการ • ขยายจำนวนเตียงตรวจการนอนหลับ (Sleep Study): • รองรับผู้ป่วยได้มากกว่า 32 เตียงในอนาคต • ติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Polysomnography และอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพการนอน • เพิ่มบริการ Sleep Quality Test: • ให้บริการตรวจคุณภาพการนอนหลับสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกนอนค้างในโรงพยาบาล • ใช้อุปกรณ์ Home Sleep Test ตรวจวินิจฉัยในสภาพแวดล้อมที่ผู้ป่วยคุ้นเคย พร้อมคำปรึกษาและแผนการรักษา 3 พัฒนารูปแบบบริการครบวงจร • เพิ่มบริการ Telemedicine: • ใช้ระบบติดตามผลการรักษาผ่านออนไลน์ เช่น การปรับตั้งค่าเครื่อง CPAP • ลดการเดินทางและเพิ่มความสะดวกให้ผู้ป่วย • เสริมบริการ Wellness: • ออกแบบแผนการดูแลสุขภาพการนอนเฉพาะบุคคล • แนะนำพฤติกรรมการนอนและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี ผลลัพธ์ที่คาดหวัง 1. เพิ่มคุณภาพการดูแลผู้ป่วย ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย 2. ขยายศักยภาพการรองรับผู้ป่วย พร้อมบริการที่ครอบคลุมทุกมิติ 3. ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความสะดวก และสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้ผู้ป่วย

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456