#SIRI


บล.หยวนต้า ส่องหุ้น SIRI คาด Q4 เด่นสุด ลุ้นทั้งปีทำนิวไฮ

บล.หยวนต้า ส่องหุ้น SIRI คาด Q4 เด่นสุด ลุ้นทั้งปีทำนิวไฮ

                   หุ้นวิชั่น - บล.หยวนต้า ส่องหุ้น SIRI ฝ่ายวิจัยประเมินยอด Presales 4Q67 ลดลง YoY อย่างไรก็ดี คาดเติบโต QoQ ทำจุดสูงสุดในปี ตามการเปิดโครงการใหม่ อีกทั้ง คาดยอด Presales ทั้งปี 2567 จะเติบโต YoY ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีแรงหนุนสำคัญจากสินค้าแนวราบระดับบนขึ้นไป  ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติ 4Q67 เร่งตัวขึ้น QoQ และ YoY จากการโอนที่เร่งตัวขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดกระตุ้นการโอนก่อนจบปี รวมถึงการรับรู้ขาดทุน ของธุรกิจโรงแรมที่จะหายไปจากการขายส่วนลงทุนในธุรกิจโรงแรม The Standard ออกไปตั้งแต่ 2 ต.ค. 67 นอกจากนี้ ใน 4Q67 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษของรายได้ ส่วนแรก (Upfront) มูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (5.0 พันลบ.) ที่มีการขายส่วน ลงทุนใน The Standard ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิ 4Q67 เติบโต QoQ และ YoY ฝ่ายวิจัยมองแนวโน้มการเปิดโครงการใหม่ปี 2568 ของบริษัทฯ จะเน้นสินค้าระดับบนขึ้นไป (Luxury, Ultra Luxury) มากขึ้นจากเดิม อีกทั้ง มีโอกาสที่บริษัทฯ จะเพิ่มสัดส่วน โครงการใหม่ในหัวเมืองท่องเที่ยวเน้น อุปสงค์จากชาวต่างชาติมากขึ้น โดยคาดจำนวนการเปิดโครงการใหม่ลดลง YoY ขณะที่มูลค่าโครงการเปิดใหม่เพิ่มขึ้น YoY ทั้งนี้ SIRI มีฐานลูกค้า Luxury – Ultra Luxury แข็งแกร่งจากทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ส่งผลให้สามารถรักษาส่วนแบ่งในตลาดได้แม้การแข่งขันรุนแรง นอกจากนี้SIRI มีสัดส่วนสินค้าระดับบนเป็นหลัก ทำให้ได้รับผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดน้อยกว่ากลุ่มฯ ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี2568 ที่ 2.14 บาท

SIRI ตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ ลุยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

SIRI ตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ ลุยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริจำกัด (มหาชน) (SIRI) ขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 55 โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่จำนวน 2 บริษัท ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ บริษัท ที่ 1 ชื่อบริษัทร่วมทุน บริษัท สิริ-เอ็มเอฟ วัน จำกัด ประเภทธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สถานะการจัดตั้งบริษัท จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ทุนเริ่มต้น 50,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท (ชำระเต็มมูลค่า) แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนมาจาดเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับคือเงินปันผล บริษัทที่ 2 ชื่อบริษทร่วมทุน บริษัท สิริ-เอ็มเอฟ ทู จำกัด ประเภทธธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สถานะการจัดตั้งบริษัท จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ทุนเริ่มต้น 50,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท (ชำระเต็มมูลค่า) แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนมาจาดเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับคือเงินปันผล

SIRI โบรกฯจับตาโครงการใหม่ โค้งท้าย 15.4 พันล้าน หนุนโต เคาะเป้าที่ 2.34 บ.

SIRI โบรกฯจับตาโครงการใหม่ โค้งท้าย 15.4 พันล้าน หนุนโต เคาะเป้าที่ 2.34 บ.

         หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี ส่องหุ้น SIRI มีมุมมอง slightly positive ต่อข้อมูลใน meeting จาก i) 4Q24F outlook ทั้ง presale, transfer สูง ทำให้แนวโน้ม 4Q24F Norm. profit โตได้ y-y, q-q และน่าจะเป็น Norm. profit ที่สูงสุดรายไตรมาสในปีนี้ ii) 4Q24F คาดบันทึก extra gain จากดีลโรงแรม Standard เข้ามา ซึ่งจะเป็น upside ต่อ กำไรสุทธิ 2024F ได้อีก iii) แผนธุรกิจปี2025F คาดใกล้เคียงปีนีในด้านเปิดโครงการใหม่ สะท้อนแผนธุรกิจที่ถือว่า aggressive กว่ากลุ่มฯ 1.iv) IBD/E ยังบริหารจัดการได้และมีโอกาสลดลงมาที่ 1.55x-60x (จาก 1.70x ใน Sep-24) โดยสภาพคล่องเพียงพอต่อการชำระคืน bond ที่จะครบกำหนดใน 4Q24F           ฝ่ายวิจัยคง TP25F ที่ 2.34 บาท คง Buy และเป็น top pick โดยน้ำหนัก 4Q24-2025F เด่น จากโครงการ flagship หลายโครงการรอเปิดตัว, business direction ที่aggressive เป็นโอกาส upside ของกำไรสุทธิจุดเด่นของ SIRI มาจากฐานลูกค้า low-rise ตลาดบนที่กำลังซื้อดีกว่ากลุ่มอื่น และมี% GPM สูง           จับตาแผนเปิดโครงการใหม่ 4Q24F = 15.4 พันลบ. เป็นมูลค่า low-rise :condo ที่ 75% : 25% โดย project hightlight เป็นบ้านเดี่ยว segment บน เช่น Narinsiri กรุงเทพกรีฑา มูลค่า 1.9 พันลบ. (36units), Narinsiri พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา มูลค่า 3.0 พันลบ. (56units)และ Setthasiri Bangna km.10 มูลค่า 2.3 พันลบ. (71units)          นอกจากนี้ SIRI ตั้งเป้า 4Q24F presale สูงราว 12.0 พันลบ. (flat y-y, โต q-q) ตั้งเป้า transfer สูงราว 11.0-12.0 พันลบ. (flat y-y, โต q-q) โดย QTD presale = 4.9 พันลบ., QTD transfer = 3.2 พันลบ. ทั้งนี้ แนวโน้ม Norm. profit4Q24F น่าจะอยู่ในช่วง 1.4-1.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น y-y, q-q และ น่าจะเป็นไตรมาสที่ก าไรสุทธิสูงสุดรายไตรมาสของปีนี้ ทั้งนี้ net profit อาจมี upside จาก extra gain ของการขายสัดส่วนเงินลงทุนในโรงแรม The Standard

9 เดือนปี 67 SIRI กวาดรายได้ 28,877 ลบ. โต 4.7% เพิ่มขึ้นของรายได้ขายอสังหาฯ หนุน

9 เดือนปี 67 SIRI กวาดรายได้ 28,877 ลบ. โต 4.7% เพิ่มขึ้นของรายได้ขายอสังหาฯ หนุน

          หุ้นวิชั่น - บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI แจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับงวดสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 โดยมีรายละเอียดดังนี้ แสนสิริมีรายได้รวมในไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 9,415 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีการบันทึกกำไรจากการขายที่ดิน จำนวน 70 ล้านบาท สำหรับกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ) ไตรมาส 3 ปี 2567 มีจำนวน 1,307 ล้านบาท ลดลง 16.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายและต้นทุนบางส่วนถูกชดเชยด้วยการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดลง สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2567 แสนสิริมีรายได้รวม 28,877 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.7% หรือ 1,299 ล้านบาทเมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ สำหรับกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ) งวด 9 เดือนของปี 2567 จำนวน 4,009 ล้านบาท ลดลง 15.8% หรือ 751 ล้านบาทจากปีก่อน เป็นผลมาจากการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินและทรัพย์สินที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน           รายได้จากการขายโครงการในไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 8,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.4% หรือ 36 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการบ้านเดี่ยวและมิกซ์ โปรดักส์           ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายโครงการแนวราบ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์ โปรดักส์ รวมจำนวน 5,527 ล้านบาท คิดเป็น 67% ของรายได้จากการขายโครงการทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการขายโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 3,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% หรือ 105 ล้านบาทจากปีก่อน รายได้หลักมาจากโครงการบูก้าน กรุงเทพกรีฑา โครงการเศรษฐสิริ ดอนเมือง โครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา โครงการเศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ และโครงการเศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ โดยรายได้จากทั้ง 5 โครงการดังกล่าวคิดเป็น 18% ของรายได้จากการขายโครงการทั้งหมด           รายได้จากการขายโครงการทาวน์โฮม ลดลง 11.2% หรือ 109 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 861 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากโครงการเดมี่ สาธุ 49           สำหรับรายได้จากการขายโครงการมิกซ์ โปรดักส์ เติบโต 25.6% หรือ 190 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 929 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากโครงการอณาสิริ พายัพ โครงการอณาสิริ สรงประภา โครงการอณาสิริ ป่าคลอก และโครงการอณาสิริ รังสิต-คลอง 3           รายได้จากการขายโครงการคอนโดมิเนียม ลดลง 5.2% หรือ 150 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 2,759 ล้านบาท รายได้หลักมาจากโครงการเดอะ เบส ไฮท์-เชียงใหม่ โครงการเอ็กซ์ที พญาไท โครงการเวย์ โพธิสาร โครงการดี คอนโด รีฟ ภูเก็ต และโครงการเอดจ์ พัทยากลาง โดยรายได้รวมจาก 5 โครงการดังกล่าว คิดเป็น 21% ของรายได้จากโครงการเพื่อขายทั้งหมด           นอกจากนี้ แสนสิริยังมีรายได้จากโครงการเพื่อเช่าในไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 29 ล้านบาท ลดลง 34.4% หรือ 15 ล้านบาทจากปีก่อน ส่งผลให้รายได้จากโครงการเพื่อเช่างวด 9 เดือนอยู่ที่ 108 ล้านบาท ลดลง 20.3% หรือ 28 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์           รายได้ค่าบริการธุรกิจในไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 634 ล้านบาท ลดลง 5.2% หรือ 35 ล้านบาทจากปีก่อน ส่งผลให้ค่าบริการธุรกิจงวด 9 เดือน ปี 2567 ลดลง 11.4% หรือ 216 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 1,682 ล้านบาท สำหรับรายได้จากกิจการโรงแรมที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของไตรมาสนี้ลดลง 55.7% หรือ 125 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 99 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการปิดปรับปรุงโรงแรม SIXTY SoHo ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนมกราคม-กันยายน 2567 และโรงแรมเดอะ เภรี หัวหิน ในเดือนเมษายน-สิงหาคม 2567 ส่งผลให้รายได้จากกิจการโรงแรมงวด 9 เดือน ปี 2567 ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 52.2% หรือ 317 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 291 ล้านบาท           ในขณะที่รายได้จากการขายวัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 43.7% หรือ 5 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 18 ล้านบาท เช่นเดียวกับงวด 9 เดือนของปี 2567 ที่เพิ่มขึ้น 72.4% หรือ 26 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 62 ล้านบาท กำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ)           สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 แสนสิริและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ) จำนวน 1,307 ล้านบาท ลดลง 16.1% หรือ 250 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิไตรมาสนี้อยู่ที่ 13.9% ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 16.6% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร และต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายและต้นทุนบางส่วน ถูกชดเชยด้วยส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ 150.7% หรือ 242 ล้านบาท จากปีก่อน เป็น 402 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดลง           ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทฯ ได้มีการบันทึกขาดทุนสำหรับงวดจากการดำเนินงานที่ยกเลิก จำนวน 71 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการจำหน่ายส่วนได้เสียในความเป็นเจ้าของทั้งหมดที่ถืออยู่ในกลุ่มบริษัท Standard International Management, LLC. ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ดังนั้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ จึงได้จัดประเภทที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมดังกล่าว ได้แก่ ส่วนงานบริหารโรงแรมที่เกิดจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ เป็นการดำเนินงานที่ยกเลิก สำหรับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 18.2% ของกำไรก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล           สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2567 แสนสิริและบริษัทย่อยบันทึกกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ) จำนวน 4,009 ล้านบาท ลดลง 15.8% หรือ 751 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปี 2566 มีอัตรากำไรสุทธิ 13.9% เทียบกับ 17.3% ในปีก่อน ปัจจัยหลักเนื่องจากในงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทฯ มีการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินและทรัพย์สินรวม 1,134 ล้านบาท ในขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2567 มีการบันทึกกำไรดังกล่าวจำนวน 438 ล้านบาท

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

บล.กรุงศรี คาด SIRI โค้งท้ายพีค อัพเป้าปี 68 เป็น 2.34 บ.

บล.กรุงศรี คาด SIRI โค้งท้ายพีค อัพเป้าปี 68 เป็น 2.34 บ.

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) มุมมอง neutral SIRI ต่อแนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q24F ที่ 1.27 พันลบ. (-18% y-y, -8% q-q)            คาดกำไรสุทธิ 3Q24F ที่ 1.27 พันลบ. ทั้งนี้ถ้าไม่รวม extra gain คาด Norm. profit ที่ 1.21 พันลบ. (-22% y-y, -8% q-q) โดยการลดลงมาจาก % GPM ที่คาดลดลง -220 bps y-y, -180 bps q-q หรือราว 29.2% จากโครงการที่ % GPM สูงกว่าปกติ (Narasiri กรุงเทพกรีฑา) ใกล้ปิด โครงการ สำหรับรายได้ลดลงเล็กน้อย y-y, q-q จาก backlog เหลือรอโอนลดลง            คาดกำไรสุทธิ 4Q24F โต y-y, q-q และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี ตามแผนเปิดโครงการใหม่กลุ่ม low-rise ใน 4Q24F ที่มากและบางส่วนโอนได้ทันในไตรมาส รวมถึงจะมี condo ใหม่โอน ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิ2024F ขึ้น 9% จากเดิม มาที่ 5.1 พันลบ. (flaty-y) ตามการปรับแนวโน้มการโอนที่มากกว่าคาดเดิม รวมถึงลดการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนในธุรกิจโรงแรม ภายหลังที่มีการขาย The Standard Hotel ในช่วงต้น 4Q24Fออกไป            คง Buy โดยให้น้ำหนักใน 4Q24F เป็นต้นไปน่าสนใจ เพราะจะมีโครงการ flagship ทำเลบางนา เปิดขาย ในขณะที่ business direction ปี2H24-2025F ที่ยัง aggressive กว่าบริษัทอื่นในกลุ่มฯ เป็นโอกาสของ upside ต่อกำไรสุทธิปี 2024-25F ได้โดยจุดเด่นของ SIRI ยังมาจากฐานลูกค้า SIRI ในกลุ่ม low-rise ตลาดบน ที่มีกำลังซื้อดีกว่ากลุ่มอื่น และเป็นกลุ่มที่มี% GPM สูง

บล.กรงุศรี แนะซื้อ

บล.กรงุศรี แนะซื้อ "SIRI" เป้า 2.20 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน) (KSS) มีมุมมองต่อ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ slightly positive ต่อ 3Q24 presale ที่ 10.3 พันลบ. (+36% y-y, -3% q-q) โตสูง y-y โดยการโตส่วนหนึ่งมาจากการเปิด condo ใหม่ และมี take-up rate ค่อนข้างดี           รวมถึงการขาย low-rise ใน segment บน ยังทำได้ดี ทั้งนี้ 9M24 presale อยู่ที่ 30.5 พันลบ. (+19% y-y) คิดเป็น 69% ของเป้า 2024F presale ที่ 45.0 พันลบ. (+20% y-y) ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ แนวโน้ม 3Q24F Norm. profit คาดที่ราว 1.2 พันลบ. ลดลง y-y, q-q แต่ไม่เหนือความคาดหมาย แต่คาดกำไรสุทธิ 4Q24F โตสูงและคาดเป็นไตรมาสสูงสุดของปี สำหรับ Norm. profit ปี 2024F ที่ 4.7 พันลบ. คาดมี upside 5-10% ตามการโอนที่ดีกว่าคาด และทำให้ Norm. profit ปี 2024F มีแนวโน้มใกล้เคียงปีก่อนที่ทำ new high ที่ 5.1 พันลบ. เราคง BUY ที่ TP25F ที่ 2.20 บาท คงเป็นหนึ่งใน top pick ของกลุ่มฯ โดยมอง story ใน 4Q24F-2025F เด่น จาก business direction ใน 2H24F-2025F ที่ aggressive กว่าคู่แข่ง ทำให้มีโอกาสเพิ่ม market share ได้ต่อเนื่อง แนะนำ "ซื้อ" TP 25F ที่ 2.20 บาท

SIRI ขายหุ้น

SIRI ขายหุ้น "ภูริภัสร์" ให้กองทุนฯ 15.3 ล้านบ.

          หุ้นวิชั่น - บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) หรือ SIRI ขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทได้เข้าทําธุรกรรมขายหุ้นสามัญ ในสัดส่วนร้อยละ 30.60 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท ภูริภัสร์ จํากัด ให้แก่กองทุนส่วนบุคคลซึ่งบริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็กซ์สปริง จํากัด เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 เป็นจํานวน 153,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.60 ของทุนที่เรียกชําระแล้วของบริษัทภูริภัสร์ จํากัด อันเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในราคาซื้อขายทั้งสิ้น 15,300,000 บาท ทั้งนี้ การทํารายการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ให้บริษัท ภูริภัสร์ จํากัด เป็นบริษัทร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 69.40 : 30.60 ระหว่าง บริษัทและ กองทุนส่วนบุคคลฯเพื่อพัฒนาโครงการที่พักอาศัยเพื่อขาย โดย บริษัท ภูริภัสร์ จํากัด เป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยมีทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จํานวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท (ชําระเต็มมูลค่า) โครงสร้างการถือหุ้น ก่อนการเข้าทําธุรกรรม บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) ถือ ร้อยละ 100.00 โครงสร้างการถือหุ้นภายหลังธุรกรรมแล้วเสร็จ บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) ร้อยละ 69.40 และกองทุนส่วนบุคคลฯ ร้อยละ 30.60 รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

ดัชนีหุ้นไทยปีหน้า 1,630 จุด KBANK-CPN-SIRI น่าสน

ดัชนีหุ้นไทยปีหน้า 1,630 จุด KBANK-CPN-SIRI น่าสน

          หุ้นวิชั่น -CGSI ปรับเพิ่มเป้า SET Index ปีนี้เป็น 1,480 จุด พร้อมคาดปีหน้าอยู่ที่ 1,630 จุด           ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ปรับเพิ่มเป้าหมาย SET Index ปีนี้เป็น 1,480 จุด จากเดิม 1,420 จุด มองหุ้นไทยจะมีแรงหนุนจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไทยและสหรัฐฯ เร็วกว่าคาด และเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้นอีก ขณะที่คาด SET Index ปี 68 จะอยู่ที่ 1,630 จุด           ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50bp เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ Bloomberg consensus คาดว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 25-50bp และ 25-50bp ในการประชุมสองครั้งถัดไป คาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันมองว่าการที่เศรษฐกิจไทยอ่อนตัวและเงินบาทแข็งค่า น่าจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bp เป็น 2.25% ในการประชุมวันที่ 16 ต.ค.67 นี้           เชื่อว่าการที่เงินลงทุนจากต่างประเทศมีแนวโน้มไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยมากขึ้น จะเป็นผลดีกับหุ้น big cap เช่น หุ้นในกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุปโภคบริโภค จึงเพิ่มหุ้น KBANK และ CPN เข้ามาอยู่ในรายชื่อหุ้น Top pick นอกจากนี้มองว่า sentiment ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์น่าจะดีขึ้น จึงได้เพิ่มหุ้น SIRI เข้ามาในรายชื่อหุ้น Top pick ด้วยเช่นกัน           อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินบาทไทยน่าจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในกลุ่มส่งออก, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม           ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/67 อาจชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 ของรัฐบาล วงเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท น่าจะต้องเลื่อนไปเป็นปีหน้า อย่างไรก็ตามแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไทยและสหรัฐฯเร็วกว่าคาด และการที่เงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้นอีก ในปี 67-68 จึงปรับเพิ่มเป้าดัชนี SET สิ้นปี 67 นี้เป็น 1,480 จุด เท่ากับ P/E 16 เท่าในปี 68 หรือ -0.75SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี จากเดิม 1,420 จุด เท่ากับ P/E 15 เท่าในปี 68 , - 1SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี           ขณะที่สิ้นปี 68 นั้น มองเป้าหมายดัชนี SET อยู่ที่ 1,630 จุด เท่ากับ P/E 16 เท่าในปี 69 หรืออยู่ที่ -0.75SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปีเช่นกัน สำหรับรายชื่อหุ้น Top pick ประกอบด้วย AMATA, BBL, BCH, CBG, CPALL, CPN, CRC, KBANK, KLINIQ, PTTEP และ SIRI