#SEI


SEI กำไรทุบสถิติโตเกินคาด โบรกส่องราคาพื้นฐานที่7บ.

SEI กำไรทุบสถิติโตเกินคาด โบรกส่องราคาพื้นฐานที่7บ.

            หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของ บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI รายงานกeไรสุทธิใน 3Q67 ที่ 19 ล้านบาท +24% QoQ,+ 195%YoY ทุบสถิติสูงสุด ดีกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ 38% จากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีกว่าคาด โดยมี EBITDA Margin ที่ 21.8% สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ที่ 16.3% รายได้เติบโต 4% QoQ และ 27%YoY เป็น 129 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของสินค้ากลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ รวมถึงรายได้จากบริการเช่าเครื่องมือแพทย์ที่มีสัญญาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากงบประมาณภาครัฐที่ได้รับอนุมัติตั้งแต่ช่วง 2Q67 ที่ผ่านมา รวมถึงการเติบโตของรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษา และซ่อมเครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้นและมีราคาเฉลี่ยในการให้บริการต่อครั้งที่สูงขึ้น             ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น ทั้ง QoQ และYoY นอกจากผลของรายได้ที่เพิ่มยังมาจากกลยุทธ์ในบริหารจัดการต้นทุน โดยลดต้นทุนการผลิตผ่านการปรับปรุงระบบจัดซื้อและการควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของโลจิสติกส์และจากการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้น โดยอุปกรณ์ทางการแพทย์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องมือทางการแพทย์ส่งผลให้EBITDA Margin ปรับเพิ่มจาก 3Q66 และ 2Q67 ที่ 12.3% และ 18.4% เป็น 21.8%             แนวโน้มใน 4Q67 คาดเติบโตต่อเนื่อง YoY จากการเติบโตของรายได้ของวัสดุสิ้นเปลืองและการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้น คาดกำไรปี 2567 ที่ 45 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น 105% YoY โดยกำไรงวด 9 เดือนที่ 39 ล้านบาท คิดเป็น 87% ของประมาณการกำไรทั้งปี             คาดกำไร 2ปี ข้างหน้า (ปี2568 -2569) เติบโตเฉลี่ย 25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การเติบโตจาก Organic Growth รับผลบวกจากอุตสาหกรรมนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่เติบโตเฉลี่ย 8% 2)เติบโตจากการขยาย Product Line ใหม่เพิ่มขึ้น สินค้ากลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่เข้ามาสม่ำเสมอกว่างบประมาณภาครัฐ ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงด้านรายได้มากขึ้น และการเพิ่มสัดส่วนรายได้ Leasing ซึ่งทำให้รายได้เข้ามาสม่ำเสมอมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีขึ้น จากผลของรายได้ที่เพิ่ม ขยายไปสู่สินค้าสิ้นเปลืองที่จะมีการสั่งซื้อใหม่ขึ้น ประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ค่อนข้าง Conservative ไม่รวม Upside จากโอกาสในการ ขยายธุรกิจใหม่ในอนาคต (ได้แก่โครงการร่วมลงทุนกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์รวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง คาดมีความคืบหน้าภายใน1H68) ซึ่งมองว่ามีUpside Risk ในการปรับเพิ่มประมาณการ             ฝ่ายวิเคราะห์คงคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่าธุรกิจของ SEI มีความน่าสนใจ ด้วยผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงปี 2567-2569 และด้วยผลประกอบการ 3Q67 ที่เติบโตเด่นกว่าคาด ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ามี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรในปี 2567 เดิมของฝ่ายวิเคราะห์ราว 10-12% และยังมีโครงการธุรกิจใหม่ที่ร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่เรายังไม่ได้นับรวมในประมาณการ ซึ่งจะทบทวนประมาณการหลังกับประชุมกับบริษัทเร็วๆนี้ เบื้องต้นประเมินมูลค่าพื้นฐานปี2568 ที่ 7.00 บาท อิงวิธี PER โดยใช้ค่ากลาง (Median) ของหุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ที่ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 20x

SEI อวดกำไร Q3 โตสนั่น 194.85%

SEI อวดกำไร Q3 โตสนั่น 194.85%

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI รายงานผลประกอบการ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 327.73 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 306.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.68 ล้านบาท หรือเติบโต 7.08% ส่วนไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้ที่ 128.78 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 101.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.42 ล้านบาท หรือเติบโต 27.05%            ส่วนกำไรในงวด 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 39.30 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 21.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.74 ล้านบาท หรือเติบโต 82.27% ส่วนไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 19.35 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 6.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.78 ล้านบาท หรือเติบโต 194.85%

SEI หุ้นเมกะเทรนด์การแพทย์ กูรูอัพเป้าใหม่ 7บ. - แนะ

SEI หุ้นเมกะเทรนด์การแพทย์ กูรูอัพเป้าใหม่ 7บ. - แนะ"ซื้อ"

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองแนวโน้มกำไร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI โดดเด่น คาดกำไรไตรมาส 3/67 เติบโต 114% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 14 ล้านบาท แต่ลดลง -10% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของรายได้ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์  วัสดุสิ้นเปลือง  รายได้จากบริการเช่าเครื่องมือแพทย์ที่มีสัญญาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการเติบโตของรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษา ส่งผลให้รายได้รวมปรับเพิ่ม 24% เป็น 126 ล้านบาท           ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น นอกจากผลของรายได้ที่เพิ่มยังมาจากกลยุทธ์ในบริหารจัดการต้นทุนโดยลดต้นทุนการผลิตผ่านการปรับปรุงระบบจัดซื้อและการควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของโลจิสติกส์และจากการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้นโดยอุปกรณ์ทางการแพทย์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องมือทางการแพทย์ส่งผลให้ EBITDA Margin ปรับเพิ่มจากไตรมาส 2/67 ที่ 12.3% เป็น 16.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้าชะลอตัว แม้รายได้เพิ่มขึ้น แต่ผลจาก Product mix สัดส่วนรายได้จากอุปกรณ์ทางการแพทย์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงลดลง           ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีกว่าที่คาดแนวโน้มในไตรมาส 4/67 คาดเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ของวัสดุสิ้นเปลือง และการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้นด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตดีกว่าคาด ฝ่ายวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 21% เป็น 45 ล้านบาท (+105% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน)           โดยปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิมที่ 31.1% เป็น 32.7% และปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลง 3% และในปี 2568 ปรับประมาณการกำไรขึ้น 8% เป็น 60 ล้านบาท (34% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน)           คาดกำไร 2 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ย25% ยังมี Upside Risk จากโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ คาดกำไร 2 ปีข้างหน้า (ปี 2568-2569) เติบโตเฉลี่ย 25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตจาก Organic Growth รับผลบวกจากอุตสาหกรรมนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่เติบโตเฉลี่ย 8%           และการเติบโตจากการขยาย Product Line ใหม่เพิ่มขึ้น  สินค้ากลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่เข้ามาสม่ำเสมอกว่างบประมาณภาครัฐซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงด้านรายได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้ Leasing ซึ่งทำให้รายได้เข้ามาสม่ำเสมอมากขึ้น           ประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีขึ้น จากผลของรายได้ที่เพิ่มขยายไปสู่สินค้าสิ้นเปลืองที่จะมีการสั่งซื้อใหม่ขึ้น ประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ค่อนข้าง Conservative ไม่รวม Upside จากโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ในอนาคต(ได้แก่โครงการร่วมลงทุนกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์รวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทางคาดมีความคืบหน้าภายใน 1H68)ซึ่งมองว่ามี Upside Risk ในการปรับเพิ่มประมาณการแนะนำ “ซื้อ” ปรับมูลค่าเหมาะสมเป็น 7.00 บาท           ฝ่ายว่ามองว่าธุรกิจของ SEI มีความน่าสนใจด้วยผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2567-2569เรามีการปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานจากเดิมที่ 5.50 บาท เป็น 7.00 บาท สะท้อนการปรับประมาณการก าไรและปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2568 อิงวิธี PER โดยใช้ค่ากลาง (Median) ของหุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ที่ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 20x

[Vision Exclusive] Checklist หุ้นเครื่องมือแพทย์ แรงรับกระแสสุขภาพยุคใหม่

[Vision Exclusive] Checklist หุ้นเครื่องมือแพทย์ แรงรับกระแสสุขภาพยุคใหม่

          หุ้นวิชั่น - รู้หรือไม่! บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI เป็นบริษัทล่าสุดที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่น่าสนใจคือบริษัทนี้เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น           นอกจากนี้ SEI ยังอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีความมั่นคงและโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ SEI เข้าถึงแหล่งทุนใหม่ เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และสนับสนุนการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ อย่างมีนัยสำคัญ           บริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2566) อุตสาหกรรมธุรกิจเครื่องมือแพทย์เติบโตเฉลี่ย CAGR 5% ณ สิ้นปี 2566 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดนำเข้าเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเกี่ยวกับธุรกิจของ SEI เติบโตเฉลี่ย CAGR 8% อยู่ที่ 90,859 ล้านบาท ทาง Yuanta Research ประเมินการเติบโตของตลาดนำเข้าเครื่องมือแพทย์ในช่วงปี 2567-2568 จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 8% โดยมีปัจจัยหนุนดังนี้:การจัดสรรงบประมาณของประเทศเพื่อใช้งานในกระทรวงสาธารณสุขในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้น 13,462 ล้านบาท หรือเพิ่ม 8.8%           การเติบโตของโรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น เช่น ศูนย์ Rehabilitation Center ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง และศูนย์ IVF กระแสความนิยมด้านสุขภาพมากขึ้น และการขยายธุรกิจของโรงพยาบาลทั้งเอกชนและรัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้เครื่องมือการแพทย์มากขึ้น           ทีมข่าวหุ้นวิชั่นจะพามา "Checklist หุ้น mai" ที่น่าจับตามองสำหรับกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคปัจจุบัน           ธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์เป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับการสนับสนุนจากความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ความต้องการเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำสมัยและอุปกรณ์เพื่อการดูแลสุขภาพพุ่งสูงขึ้น           ทีมข่าวหุ้นวิชั่นจะพาไปเช็กว่าหุ้นตัวไหนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai มีศักยภาพในการเติบโตสูง และตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจสุขภาพและการแพทย์           TM ประกอบธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ที่จำหน่าย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง 2) กลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ โดยสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกันกับบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางแพทย์ และกลุ่มสินค้าสำหรับการผ่าตัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2559 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 350.68 ล้านบาท ขาดทุน 12.87 ล้านบาท           SMD ประกอบธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยนำเข้าจากผู้ผลิตต่างประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่ สถานพยาบาลในประเทศและบุคคลทั่วไป โดยสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกันกับบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มเครื่องมือแพทย์ทั่วไปที่ใช้ในห้องผ่าตัด และกลุ่มเครื่องส่องตรวจโสต ศอ นาสิก เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2564 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 322.83 ล้านบาท ขาดทุน 5.18 ล้านบาท           WINMED ประกอบธุรกิจ เป็นผู้นำเข้า และจำหน่ายเครื่อง และชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 291.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.58 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีสองบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบธุรกิจด้านสินค้าอุปโภคบริโภค           BIZ ประกอบธุรกิจ เป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา (Radiotherapy) และให้บริการซ่อมบำรุงรักษาชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา(Maintenance Service) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2559 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 538.77 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 61.75 ล้านบาท           NAM ประกอบธุรกิจ ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร โดยสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกันกับบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มสินค้าทำความสะอาดทางการแพทย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2566  ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 437.56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 53.32 ล้านบาท รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[ภาพข่าว] SEI เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

[ภาพข่าว] SEI เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

          ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ พร้อมด้วย กานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล ร่วมพิธีเปิดการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ของ บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์  ในวันที่ 24 กันยายน 2567 มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SEI”

SEI เริ่มซื้อขาย 24 ก.ย. นี้ ในตลาด mai

SEI เริ่มซื้อขาย 24 ก.ย. นี้ ในตลาด mai

          หุ้นวิชั่น - บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 24 ก.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SEI”           นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SEI” ในวันที่ 24 กันยายน 2567           SEI ดำเนินธุรกิจโดยเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องมือทางการแพทย์เป็นหลัก โดยบริษัทจัดหาสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์จากผู้ผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่ 18 ราย จาก 11 ประเทศ โดยจำแนกสินค้าเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด กลุ่มสินค้าด้านความงาม กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด และกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แก่ โรงพยาบาลรัฐบาล สถาบันการศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก เป็นต้น งวดครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีรายได้จากการขาย การให้บริการและอื่นๆ ในสัดส่วน 90 : 10 ตามลำดับ โดยเป็นรายได้จากการขายและบริการจากกลุ่มลูกค้าภาครัฐบาลร้อยละ 79 ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด และกลุ่มสินค้าหลักได้แก่ กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ ร้อยละ 52 กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด ร้อยละ 42 และกลุ่มสินค้าอื่นๆ ร้อยละ 6           SEI มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 85 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 120 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 37.50 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 7.50 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน 5.00 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 16-18 กันยายน 2567 ในราคาหุ้นละ 3.10 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 155 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 19.64 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.16 บาท โดยมีบริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย           นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ในอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ด้านสุขภาพของประชากร ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการสั่งซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใช้ในการขยายธุรกิจประเภทวัสดุสิ้นเปลือง ตลอดจนโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ ซึ่งอาจรวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง           SEI มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ นายธีระ ปุญญเจริญสิน ถือหุ้นร้อยละ 35.29 และนายกานต์ ปุญญเจริญสิน ถือหุ้นร้อยละ 31.76 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย           ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sei.co.th และ www.set.or.th