![[Vision Exclusive] เปิดใจ CEO “นพกฤษฏิ์” SCM หลังโดน Forced Sell ทำไงต่อ](https://www.hoonvision.com/wp-content/uploads/2025/01/s_0-2-300x165.webp "[Vision Exclusive] เปิดใจ CEO “นพกฤษฏิ์” SCM หลังโดน Forced Sell ทำไงต่อ")
[Vision Exclusive] เปิดใจ CEO “นพกฤษฏิ์” SCM หลังโดน Forced Sell ทำไงต่อ
หุ้นวิชั่น - เปิดใจ CEO SCM "นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร" หลังโดน Forced Sell ทำให้ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 เดินหน้าบริหารต่อ ย้ำไม่มี Forced Sell อีกแล้ว พร้อมพบ วนนท์ วรรณป้าน เข้าถือหุ้น มั่นใจธุรกิจเดินต่อ ปรับกลยุทธ์ ลดสินค้า เหลือ 25 รายการที่ขายดี เร่งขยายตลาดต่างประเทศ นำ AI เสริมศักยภาพธุรกิจ พร้อมพัฒนาทีมงาน-สร้างความมั่นใจในแบรนด์ทั่วทั้งเครือข่าย นาย นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น SCM ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากปัญหาทางธุรกรรมการเงินส่วนบุคคลของ นายสิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ และ นาย นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โดยถูกบังคับขายหุ้น (Forced Sell) เนื่องจากนำหุ้นไปวางค้ำประกันและไม่สามารถชำระคืนได้ทันเวลา โดย Forced Sell ครั้งล่าสุดดำเนินการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ Zcom นาย นพกฤษฏิ์ ยืนยันว่าการ Forced Sell ได้สิ้นสุดแล้ว และจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต พร้อมระบุว่าประเด็นดังกล่าวเป็นผลกระทบต่อราคาหุ้น แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง กระแสเงินสดและสถานะการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง การดำเนินธุรกิจยังคงเป็นไปตามปกติ พร้อมเตรียมรายงานผลประกอบการปี 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์ประมาณวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ บริษัทได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงประเมินความเสี่ยงอย่างเข้มงวด พัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า และปรับปรุงนโยบายการกำกับดูแลให้สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล ในปี 2568 ซึ่ง SCM จะให้ความสำคัญกับการบริหารกระแสเงินสด ลดต้นทุนการบริหาร และเร่งการบริหารสินทรัพย์หมุนเวียน นอกจากนี้ยังปรับกลยุทธ์โดยลดจำนวนสินค้าจากกว่า 80 รายการ เหลือเพียง 25 รายการที่ได้รับความนิยม พร้อมพัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์ด้านสุขภาพและความงามปัจจุบัน บริษัทมีทีมงานขายกว่า 150 คน และฐานสมาชิกมากกว่า 120,000 คน โดยจะมุ่งเน้นการให้ความรู้ทางออนไลน์ ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ ด้านการขยายตลาดต่างประเทศ SCM มีการดำเนินธุรกิจใน 7 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ พร้อมเตรียมขยายสู่ อินโดนีเซีย เพิ่มเติม โดยคาดว่ารายได้จากต่างประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 15%จากเดิม 10% นอกจากนี้ SCM ยังนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในธุรกิจ เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายขายตรง (MLM) นาย นพกฤษฏิ์ ยืนยันว่าการสมัครสมาชิกเป็นความสมัครใจ มีการลงทุนขั้นต่ำเพียง 3,000-4,000 บาท โดยสมาชิกจะได้รับสินค้าในปริมาณที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ไม่ได้ซื้อสินค้าจำนวนมากเกินความจำเป็น นับเป็นการใช้สินค้าที่หมดไปภายใน 1 เดือนด้วย และผู้บริโภคทั่วไปสามารถสั่งซื้อสินค้าได้โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก ทั้งนี้ นาย นพกฤษฏิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันได้ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของบริษัท และพร้อมจะนำพาบริษัท ก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความมั่นคง รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว
