#SCBX


บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ แต่งตั้ง เอกาญ ปัญญาคำเลิศ ดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่

บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ แต่งตั้ง เอกาญ ปัญญาคำเลิศ ดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่

          บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX Securities Co., Ltd.) ประกาศแต่งตั้ง นางสาว เอกาญ ปัญญาคำเลิศ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อรับภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจเรือธงด้านการเงินการลงทุนแห่งอนาคตของกลุ่ม SCBX เพื่อก้าวสู่ผู้นำด้านการลงทุนครบวงจรที่ทัดเทียมระดับโลก ควบคู่กับการผลักดันให้ประเทศไทยมีชุมชนนักลงทุนที่ขยายใหญ่ขึ้น เติบโตในตลาดทุนได้อย่างมั่นคงยั่งยืน ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสในการลงทุนทั่วโลกได้อย่างเท่าเทียม โดยก่อนหน้านี้นางสาวเอกาญ ปัญญาคำเลิศ ดำรงตำแหน่ง Chief Product and Operating Officer บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด และร่วมทำงานกับกลุ่ม SCBX มากว่า 20 ปี           นางสาวเอกาญ ปัญญาคำเลิศ ร่วมงานกับกลุ่ม SCBX ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 มีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในหลากหลายบทบาทสำคัญ ครอบคลุมทั้งตลาดเงินและตลาดทุน อาทิ พัฒนาและให้คำปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์การบริหารความเสี่ยงกับลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ (Derivatives Product Development and Corporate Solution) การบริหารความมั่งคั่ง (Private Banking) และพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับการลงทุน (Investment Products) พร้อมนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมการเงินการลงทุนมากว่า 20 ปี มาใช้ในการบริหารเพื่อเพิ่มคุณค่าและขยายโอกาสในการลงทุนอย่างไร้พรมแดนให้กับนักลงทุนไทย พร้อมนำ InnovestX สู่ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการลงทุนครบวงจรในระดับสากล           ปัจจุบัน InnovestX ให้บริการด้านธุรกิจหลักทรัพย์อย่างครบวงจร สำหรับนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบัน ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม อาทิ แอปพลิเคชันและเว็บเทรด InnovestX รวมถึงผ่านผู้แนะนำการลงทุน ที่ให้บริการการลงทุนที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ ครบทั้งเครื่องมือ และข้อมูลการลงทุน ควบคู่กับการพัฒนาสินทรัพย์การลงทุน และเครื่องมือการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถคว้าโอกาสการลงทุนได้ทั่วโลก           ด้านการศึกษา นางสาวเอกาญ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์สาขาการวิจัยการดำเนินงาน จาก Columbia University ประเทศสหรัฐอเมริกา

SCB ดีลขาย Robinhood นักวิเคราะห์มองอย่างไร?

SCB ดีลขาย Robinhood นักวิเคราะห์มองอย่างไร?

          ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า SCBX มีมติอนุมัติให้บริษัทขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (PPV) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางตรงในสัดส่วน 100% โดยบริษัทได้ขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ใน PPV เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 24 มีมูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วย มูลค่าเบื้องต้นชำระทันที 400 ล้านบาท และส่วนเพิ่มตามผลประกอบการสูงสุดไม่เกิน 1,600 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้ลงทุน ซึ่งประกอบด้วย 1) กลุ่มยิบอินซอย 50% (บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ที่ 30% ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีระดับสูง และ บริษัท มีศิริ จำกัด ที่ 20% ประกอบธุรกจอสังหาฯในเครือ ยิบอินซอย) 2) บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (BTC) ที่ 30% ให้บริการด้านข้อมูลหรือคำปรึกษาด้านธุรกิจและการเงิน การลงทุน รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาอิสระให้แก่องค์กรชั้นนำของภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ 3) บริษัท เอสซีที เรนทอล คาร์ จำกัด ที่ 10% ประกอบธุรกิจให้เช่ารถยนต์ในเครือกลุ่มอีซูซุสงวนไทย 4) บริษัท ล็อกซ์บิท จำกัด (มหาชน) ที่ 10% ประกอบธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารครบวงจร           บล.ดาโอ มองเป็นบวกเล็กน้อย โดยเราประเมินว่า SCB จะมีการบันทึก impairment loss ที่ลดลงใน 3Q24E จากเดิมที่ -1,000 ล้านบาท เหลือที่ -600 ล้านบาท เพราะได้เงินจากการปิดดีลขาย Robinhood ทันทีที่ +400 ล้านบาท (คิดเป็น upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E ที่ +1%) ขณะที่ส่วนต่างอีก +1,600 ล้านบาท (มูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท) ถือว่าเป็นสัญญา Management Agreement จะรับรู้เป็นกำไรให้กับ SCB ได้ก็ต่อเมื่อ Robinhood มีกำไร ขณะที่เราไม่ทราบว่ากำไร 1,600 ล้านบาท บริษัทที่ซื้อไปจะต้องจ่ายให้ SCB ภายในกี่ปี และไม่ทราบว่าสัดส่วนการแบ่งกำไรให้กับ SCB เป็นเท่าไร อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ 4Q24E เป็นต้นไป ทาง SCB ไม่ต้องแบกผลขาดทุนจาก Robinhood อีกต่อไป (ปี 2023 มีผลขาดทุนสุทธิราว -2.2 พันล้านบาท) ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกในระยะยาว คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E, คาด 3Q24E เพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E ที่ 3.96 หมื่นล้านบาท ลดลง -9% YoY จากการตั้งสำรองฯและ OPEX ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดกำไรสุทธิ 3Q24E จะเพิ่มขึ้น YoY จากสำรองฯที่ลดลง แต่จะทรงตัว QoQ เพราะมีขาย Robinhood ได้เงินทันทีที่ 400 ล้านบาท ขณะที่ NPL ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นจากสินเชื่อรายย่อย แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 110.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.70x (-1.25SD below 10-yr average PBV) ด้าน Valuation ซื้อขายที่ PBV ที่ 0.80x (-1.00SD below 10-yr average PBV) แพงกว่า KBANK ที่ 0.65x PBV (-1.25SD below 10-yr average PBV) และกลุ่มที่ 0.70x PBV (-1.00SD below 10-yr average PBV) แต่ยังมี Dividend yield สูงที่ราว 9% จึงแนะนำ “ถือ”

SCBX ปิดดีลขาย Robinhood มูลค่า 2,000 ล้าน ให้กลุ่มยิบอินซอย

SCBX ปิดดีลขาย Robinhood มูลค่า 2,000 ล้าน ให้กลุ่มยิบอินซอย

         หุ้นวิชั่น - บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “SCBX”) ขอเรียนให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 19/2567 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์สจำกัด (“PPV”) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางตรงในสัดส่วนร้อยละ 100 บัดนี้บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น กับกลุ่มผู้ลงทุนซึ่งนำโดยบริษัท ยิบอินซอย จำกัด (“กลุ่มผู้ลงทุน”) เพื่อขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ใน PPV (“การเข้าทำรายการ”) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 โดยมีสาระสำคัญของการข้าทำรายการ ดังนี้ ผู้ขาย: บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ซื้อ: กลุ่มผู้ลงทุน ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มยิบอินซอย ในอัตราส่วนร้อยละ 50 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ PPV (บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ในอัตราส่วนร้อยละ 30 และบริษัท มีศิริ จำกัด ในอัตราส่วนร้อยละ 20) บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในอัตราส่วนร้อยละ 30 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ PPV บริษัท เอสซีที เรนทอล คาร์ จำกัด ในอัตราส่วนร้อยละ 10 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ PPV บริษัท ล็อกซบิท จำกัด (มหาชน) ในอัตราส่วนร้อยละ 10 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ PPV หุ้นที่ซื้อขาย: ร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด หรือคิดเป็นจำนวน 90,160,000 หุ้น           มูลค่าการซื้อขายรวม: มูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วย มูลค่าเบื้องต้นชำระทันที 400 ล้านบาท และส่วนเพิ่มตามผลประกอบการสูงสุดไม่เกิน 1,600 ล้านบาท           การเข้าทำรายการหรือธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้อยู่ภายใต้เจตนารมณ์ที่ต้องการส่งต่อแอปพลิเคชัน Robinhood แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีของคนไทยเพื่อคนไทยไปยังกลุ่มผู้ลงทุนรายต่อไป โดยผู้ลงทุนซึ่งนำโดยกลุ่มยิบอินซอยมีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของโซลูชันเทคโนโลยีแบบครบวงจร และที่สำคัญคือกลุ่มผู้ลงทุนมีเจตนารมณ์ที่จะนำพา Robinhood ให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค ร้านค้า และไรเดอร์ส่งอาหาร