#SAPPE


SAPPE กำไรฟื้นแรง โบรกอัพเป้าใหม่ 96 บ.

SAPPE กำไรฟื้นแรง โบรกอัพเป้าใหม่ 96 บ.

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ SAPPE (ซื้อ/เป้า 96.00 บาท) Outlook ดีกว่าคาด, กำไร 4Q24E ฟื้นตัวแรง YoY แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 96.00 บาท อิง 2024E PER 22.0x (เดิมที่ 92.00 บาท อิง 2024E PER 22.0x) ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ มีประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1) บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2024E เติบโตที่ 15-20% YoY โดยรายได้ 4Q24E จะฟื้นตัวแรงคาดไม่ต่ำกว่า +29% YoY จากยอดขาย Domestic, อินโดนีเซีย, Middle East ทั้งนี้ รายได้ 9M24 อยู่ที่ +11% YoY, 2) ได้รับ Tax Privilege จาก BOI ที่ 275 ล้านบาท (จากไลน์การผลิตใหม่ที่ COD ในปี 2024) และเริ่มใช้ BOI ตั้งแต่ 3Q24 โดยมีระยะเวลา 5 ปี, และ 3) สำหรับปี 2025E บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% YoY จากทุก regions โดย USA & Europe จะเติบโตโดดเด่น ผู้บริหารมองว่าราคา raw & packaging materials ไม่ผันผวนมาก โดยราคา PET Resin & น้ำตาลอยู่ในขาลง คาด GPM ทรงตัว YoY ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิ 4Q24E โตเด่น YoY และชะลอตัวเล็กน้อย QoQ หนุนโดย 1) รายได้รวมขยายตัว YoY และโตเล็กน้อย QoQ, 2) GPM ขยายตัว YoY, ทรงตัว QoQ จาก utilization rate ที่ดีขึ้นเราปรับประมาณการก าไรสุทธิปี 2024E ขึ้น +5%         ทั้งนี้ประเมินกำไรสุทธิปี 2024E ที่ 1,353 ล้านบาท (+26% YoY)และคงประมาณการกำไรปี 2025E ที่ 1,580 ล้านบาท (+22% YoY) ราคาหุ้น outperform SET +6% ฝ่ายวิเคราะห์ยังชอบ SAPPE จาก 3 ปัจจัยหลัก 1) ผู้นำแบรนด์เครื่องดื่มไทยในตลาดระดับ Global 2) ปลดล็อคปัญหากำลังการผลิตที่ไม่เพียงพอจำหน่าย โดยการขยายกำลังการผลิตปีละ 25-30% YoY ทุกปี และ 3) valuation น่าสนใจโดย 2023-25E EPS CAGR +21%

นักลงทุนคอแห้ง! หุ้นเครื่องดื่มไตรมาส 3 เสิร์ฟกำไรแบบจัดเต็ม

นักลงทุนคอแห้ง! หุ้นเครื่องดื่มไตรมาส 3 เสิร์ฟกำไรแบบจัดเต็ม

อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม สำหรับไตรมาส 3/2567 บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือMALEE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  บริษัท และบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 61 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/2566 ที่มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 9 ล้านบาท ผลการดำเนินงานเติบโต 551% YoY เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 6% YoY จากกลยุทธ์ที่เน้นการเติบโตของสินค้าภายใต้แบรนด์ Malee ที่เป็น Focus SKU มีการยกเลิกขายสินค้าบางรายการ มีการปรับเพิ่มราคาสินค้าบางกลุ่มสินค้า และในกลุ่มลูกค้า CMG (Contract Manufacturing) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต ตลอดจนความมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนขายที่ดีขึ้น บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)หรือSSC  รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567    กำไรสุทธิของบริษัท เท่ากับ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63.1% จากผลกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของยอดขายและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมีผลกำไรต่อหุ้นเป็นจำนวน 1.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.59 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับผลกำไรต่อหุ้น 0.93 บาทในงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือCBG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เท่ากับ 741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +40% YoY สะท้อนยอดขายที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนที่ปรับตัวลดลง การควบคุมค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการขายรวมเท่ากับ 5,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +8% YoY โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองจำนวน 3,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +8% YoY จากยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดงในประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการที่บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์หลักคงราคาขายปลีกที่ 10 บาท รวมถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การกระจายสินค้าให้มีเครือข่ายที่กว้างขวางและครอบคลุมมากขึ้นผ่านคู่ค้ารายย่อยระดับอำเภอและระดับตำบล เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ TACC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  บริษัท มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 และสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 จำนวน 66.31 และ 205.68 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 6.42 และ 36.95 ล้านบาท (คิดเป็น 10.73% และ 21.90%) จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.89 และ 168.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.89% และ 14.16% ของรายได้ของไตรมาส 3 ปี 2567 และ 2566 (ลดลง 0.27%) และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.45% และ 13.55% ของรายได้สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 และ 2566 (เพิ่มขึ้น 0.90%)  กลุ่มบริษัทฯ คาดว่ารายได้ทั้งปี 2567 จะเติบโตร้อยละ 10 จากปีก่อน จากกลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าหลัก เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ นำเสนอสินค้าใหม่จับเทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน)หรือCOCOCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 172.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.57 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 12.81% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ลดลง 54.84 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลง 24.14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยภายนอกจากสถานการณ์ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนยังคงมีผลกระทบต่อตลาดเงินและค่าเงินบาทในระยะสั้น ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศมีความผันผวน ส่งผลให้การรับรู้กำไรสุทธิลดลง สำหรับงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 603.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.45 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ ICHI รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  กำไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมา 13/2567 และ โตรมาร 3/2566 เท่ากับ 357.3 ล้านบาท และ 328.0 ล้านบาทหรือ คิดเป็นอัตราทำไรสุทธิของรายได้จากการขาย เท่ากับ 16.7% และ 15.8% ตามลำดับ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 20.3 ล้านบาท หรือเท่ากับ 6.9% สำหรับทำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 เท่ากับ 1.099.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 16.7% กำไร สุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับ 805.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.6%ของรายได้จากการขาย กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 294.6 ล้านบาทหรือเท่ากับ 36.6% บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)หรือSAPPE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 รายงานผลประกอบการ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 300.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.2% ต่อรายได้จากการขาย ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่ 319.1 ล้านบาทบริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,566.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจากการลดลงของรายได้จากการขายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ภายในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีแผนการออกสินค้าใหม่ทั้งหมดมากกว่า 20 รายการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้รายได้จากการขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)หรือSSC  รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567    กำไรสุทธิของบริษัท เท่ากับ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63.1% จากผลกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของยอดขายและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมีผลกำไรต่อหุ้นเป็นจำนวน 1.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.59 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับผลกำไรต่อหุ้น 0.93 บาทในงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุผลที่อธิบายข้างต้น บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)หรือHTC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567   บริษัทฯ มีกำไรสุทธิแสดงไว้ในงบการเงินรวมเป็นจำนวนเท่ากับ 129.2 ล้านบาท ลดลง 3.6% YoY และลดลง 18.7% QoQ จากปริมาณการขายที่ลดลงจากสภาวะอากาศเย็นและน้ำท่วม และต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 6.9% ลดลง 0.3 จุดเปอร์เซ็นต์ YoY และ QoQ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าสภาวะตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้จะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/2567 จากสภาวะการท่องเที่ยวปลายปีที่ปรับตัวดีขึ้น และสภาวะอากาศที่เข้าสู่ฤดูหนาว อีกทั้งจะเริ่มได้รับผลบวกจากการปรับราคาในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเต็มทั้งไตรมาส 4/2567 บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP มีการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) รายงานผลขาดทุนสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ 361 ล้านบาท ลดลง 156.3% จากปีก่อน (YoY) และลดลง 159.8% จากไตรมาสก่อน (QoQ) เนื่องจากมีการบันทึกผลขาดทุนสุทธิจากการจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในประเทศเมียนมาตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุนตามที่ได้ส่งข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 และการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน รวมเป็นจำนวน 1,033 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.5% YoY และลดลง 27.2% Qo

SAPPEมีกำไรที่ 300ล้านบาท ลดลง 5.9% ยังเดินหน้าออกสินค้าปีนี้มากกว่า20รายการ

SAPPEมีกำไรที่ 300ล้านบาท ลดลง 5.9% ยังเดินหน้าออกสินค้าปีนี้มากกว่า20รายการ

        หุ้นวิชั่น - บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานผลประกอบการ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 300.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.2% ต่อรายได้จากการขาย ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่ 319.1 ล้านบาทบริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,566.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจากการลดลงของรายได้จากการขายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก รายได้จากการขายต่างประเทศอยู่ที่ 1,194 ล้านบาท ลดลง 13.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุจากการชะลอตัวของยอดขายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป เนื่องด้วยสภาพอากาศของประเทศคู่ค้าหลักในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและไม่ร้อนเมื่อเทียบกับสภาพอากาศในโซนยุโรปโดยรวม รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ ภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ การแข่งขันที่รุนแรงในบางประเทศโซนเอเชียและตะวันออกกลาง รวมถึงแผนการตลาดที่ยังต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับรายได้จากการขายในประเทศอยู่ที่ 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดในประเทศยังคงเป็นแบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti) รวมถึงผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) ซึ่งทำยอดขายได้ดีในช่องทาง Traditional Trade และ eCommerce ด้วยจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้โดยตรง ส่วนน้ำผสมวิตามินแบรนด์บลู (B’lue) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่องทาง Modern Trade ภายในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีแผนการออกสินค้าใหม่ทั้งหมดมากกว่า 20 รายการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้รายได้จากการขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานผลประกอบการ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 300.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.2% ต่อรายได้จากการขาย ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่ 319.1 ล้านบาท  บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,566.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจากการลดลงของรายได้จากการขายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก  รายได้จากการขายต่างประเทศอยู่ที่ 1,194 ล้านบาท ลดลง 13.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุจากการชะลอตัวของยอดขายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป เนื่องด้วยสภาพอากาศของประเทศคู่ค้าหลักในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและไม่ร้อนเมื่อเทียบกับสภาพอากาศในโซนยุโรปโดยรวม รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ ภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ การแข่งขันที่รุนแรงในบางประเทศโซนเอเชียและตะวันออกกลาง รวมถึงแผนการตลาดที่ยังต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับรายได้จากการขายในประเทศอยู่ที่ 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดในประเทศยังคงเป็นแบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti) รวมถึงผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) ซึ่งทำยอดขายได้ดีในช่องทาง Traditional Trade และ eCommerce ด้วยจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้โดยตรง ส่วนน้ำผสมวิตามินแบรนด์บลู (B’lue) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่องทาง Modern Trade ภายในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีแผนการออกสินค้าใหม่ทั้งหมดมากกว่า 20 รายการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้รายได้จากการขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

[ภาพข่าว] SAPPE คว้า ‘BEST COMPANY PERFORMANCE AWARDS’ 2 ปีซ้อน

[ภาพข่าว] SAPPE คว้า ‘BEST COMPANY PERFORMANCE AWARDS’ 2 ปีซ้อน

          ‘ปิยจิต รักอริยะพงศ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE นำพาองค์กรคว้ารางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในตลาดทุนไทยอีกครั้งกับรางวัล ‘Best Company Performance Awards’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งมอบให้กับบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการเติบโตโดดเด่น มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน และมีเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมคว้ารางวัล Outstanding Company Performance Awards, Outstanding CEO Awards และ Outstanding Investor Relations Awards สะท้อนความสามารถด้านการบริหารงานที่โดดเด่นทุกมิติจนเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน           นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เข้ารับรางวัล  “SET Awards 2024” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและวารสารการเงินการธนาคาร เพื่อเชิดชูบริษัทจดทะเบียนไทย และผู้บริหารสูงสุดของบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นในด้านต่าง ๆโดยได้รับเกียรติจาก นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล สำหรับปี 2024 เซ็ปเป้ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติกลุ่ม Business Excellence ถึง 4 รางวัล ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 10,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ได้แก่ Best Company Performance Awards, Outstanding Company Performance Awards, Outstanding CEO Awards โดยทั้ง 3 รางวัลเป็นการได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และในปีนี้สามารถคว้ารางวัล Outstanding Investor Relations Awards ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ตอกย้ำให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้ยั่งยืนอย่างแข็งแกร่ง ด้วยเครื่องดื่มและอาหารที่เป็นนวัตกรรม เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้บริโภคดียิ่งขึ้น           “การได้รับรางวัลเกียรติยศจากเวที SET Awards ในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวเซ็ปเป้ทุกคน เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จในการสร้างสรรค์สินค้าที่มีคุณภาพและส่งมอบให้กับผู้บริโภคทั่วโลก เรามองไกลเกินกว่าความสำเร็จในเชิงธุรกิจ แต่มุ่งสร้างการเติบโตในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสังคมและโลก และที่สำคัญ เรามุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ไทย สร้างชื่อเสียงและความภูมิใจในฐานะคนไทยที่ได้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนสังคมและโลกไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก”  นางสาวปิยจิต กล่าว

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[ภาพข่าว] SAPPE ส่งกำลังใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

[ภาพข่าว] SAPPE ส่งกำลังใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

          นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร และประธานคณะทำงานด้านความยั่งยืน บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) มอบเครื่องดื่ม เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยโครงการ “รวมใจบริษัทจดทะเบียนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” โดยมีพลตรี อมรินทร์ เทศนธรรม (ที่ 2 จากขวา)  ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหาร ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย รับมอบ นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา เซ็ปเป้ยังมอบผลิตภัณฑ์และของใช้จำเป็นผ่านหน่วยงานต่างๆ อาทิ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย, อาสาสมัครกู้ภัยสโมสรไลอ้อนเชียงราย, โครงการร้อยใจรักษ์เพื่อส่งมอบให้ที่ว่าการอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่, มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ และอาสาสมัครกู้ภัยต่างๆ ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหลายจังหวัด หวังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไทยที่กำลังประสบภัยในตอนนี้