#ROJNA


[Vision Exclusive]  ROJNA ขึ้นหุ้นใหญ่ PHG  เสริม Synergy ธุรกิจ รพ.

[Vision Exclusive] ROJNA ขึ้นหุ้นใหญ่ PHG เสริม Synergy ธุรกิจ รพ.

หุ้นวิชั่น# ROJNAนั่งแทนหุ้นใหญ่PHGหลังBig Lot 19.36% จากผู้ถือหุ้นเดิม ช่วงราคาซื้อขาย 17.00-17.25 บาทต่อหุ้น ที่ผ่านมีลงทุนอยู่แล้วตั่งแต่ IPO ในราคาจองซื้อหุ้นละ 21.00 บาท จำนวน15 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  315.00 ล้านบาท มองโอกาสในการ Synergy ธุรกิจทั้งสองฝ่าย เนื่องจากโรจนะมีโรงงานยา และโอกาสขยายโรงพยาบาล ฐานลูกค้าเพิ่ม เผยทีมบริหารไม่เปลี่ยนแปลง  พร้อมจับตาการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่องของ PHG ในปีหน้า ส่วนปีนี้ รายได้คาดเติบโต 10% จากปีก่อน           นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยว่า ล่าสุด ได้มีการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ ในเรื่องของสรุปการซื้อขายหุ้นของบริษัท ผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Bord) ของกลุ่มผู้ถือหุ้น ในวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้นกว่า 58,077,700 หุ้น คิดเป็น 19.36% ของหุ้นที่ชำระแล้วของบริษัท ส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่เปลี่ยน โดย บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1  มีสัดส่วนหลังทำรายการ เป็น 24.50% ถือหุ้นในจำนวน73,500,000 หุ้น จากเดิม 5.14% ถือหุ้นในจำนวน  15,422,300 หุ้น อันดับสองเป็น นางดวงใจ ตระกูลช่าง มีการขายหุ้นออกไป ลดสัดส่วนลงเหลือ 21,877,300 หุ้น  คิดเป็นสัดส่วน 7.29% นอกจากนี้ นายกมลกฤช ตระกูลช่าง รวมไปถึงนางสาวธนัชภัสสร เศรษฐาตินันท์ และนางสาวฤทัยรัตน์ ตระกูลช่างก็มีการขายหุ้นออกไปทั้งหมด  โดย ROJNA มีการเข้ามาลงทุนใน PHG ตั้งแต่ช่วงที่ IPO แล้ว           การปรับโครงสร้างการถือหุ้นระหว่าง ROJNA และ PHG ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน แต่เป็นการสร้างโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ (Synergy) เนื่องจาก ROJNA มีธุรกิจด้านยาที่สามารถต่อยอดร่วมกับ PHG ได้ หรือโอกาสที่จะเห็นการขยายโรงพยาบาลใหม่ ขยายฐานลูกค้าใหม่ ร่วมกับโรจนะต่อไป ซึ่งจะมีการเจรจารายละเอียดเพิ่มเติมในอนาคต โดยเหตุผลที่ ROJNA เลือกลงทุนใน PHG เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะกับผู้ร่วมก่อตั้งอย่างคุณกมลกฤช ตระกูลช่าง นอกจากนี้ โรงพยาบาลในเครือ PHG ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง           ส่วนธุรกิจโรงพยาบาลยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงไตรมาส 4/2567 อาจชะลอตัวเล็กน้อยจากไตรมาส 3/2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม รายได้จากการตรวจสุขภาพ (Check-up) ซึ่งมีจำนวนมากในช่วงปลายปี จะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้รายได้รวมของปีนี้เติบโตได้ประมาณ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,160 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 โรงพยาบาลมีรายได้แล้ว 1,747 ล้านบาท           สำหรับปีหน้า คาดว่าธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของประกันสังคมที่คาดว่าจะได้รับโควตาเพิ่มเป็น 170,000 ราย จากปีนี้ที่ 156,000 ราย อีกทั้ง หากสำนักงานประกันสังคมปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW ≥ 2) กลับมาเป็นอัตราเดิมที่ 12,000 บาทต่อ AdjRW จะส่งผลให้รายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากรายได้ของโรงพยาบาลกว่า 45% มาจากกลุ่มประกันสังคม           ทั้งนี้ บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการทางการแพทย์ในรูปแบบโรงพยาบาลทั่วไป(General Hospital) ภายใต้โรงพยาบาลแพทย์รังสิต (“PRH”) โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 (“PRH2”) และโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต (“MCH”) ซึ่งจดทะเบียนภายใต้บริษัท ปทุมรักษ์เวชการจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้บริการในรูปแบบโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านสูตินรีเวชกรรมและกุมารเวชกรรม(เรียกรวมว่า “กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต”) รวมมีจำนวนเตียงจดทะเบียนทั้งสิ้น 270 เตียง ประกอบด้วยจำนวนเตียงจดทะเบียนของโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 155 เตียง โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 จำนวน 59 เตียงและโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต จำนวน 56 เตียง ตามลำดับโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน โดยให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าภายใต้โครงการสวัสดิการภาครัฐ           อนึ่งฯ หากย้อนไปดู ROJNA มีการลงทุนในธุรกิจสุขภาพต่อเนื่อง อย่างในปี 2565 มีที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยยูนิเวสต์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 30% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว มูลค่ารวม 600 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจหลักคือการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งประกอบด้วยบริษัทดังต่อไปนี้: บริษัท แอดวานซ์ ฟาร์มาซูติคอล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ บริษัท เนเชอรัล โปรดักท์ ซัพพลาย พลัส จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเวชสำอาง บริษัท เภสัชกรรมนครพัฒนา จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยารักษาโรค บริษัท แคปซูลโปรดักส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตแคปซูลเปล่าบรรจุยา บริษัท ไบโอ-อันโนวา จำกัด ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ยา บริษัท เจนไซน์ รีเสิร์ช จำกัด ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รวมถึง การผลิตเภสัชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค           และในปี 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 มีมติอนุมัติให้จองซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจสถานพยาบาล ปัจจุบันมีโรงพยาบาล  3 แห่ง ในราคาจองซื้อหุ้นละ 21.00 บาท จำนวน  15  ล้านหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  315.00 ล้านบาท ซึ่งจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 2566 การลงทุนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนในระยะยาว และเป็นการขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ใหม่ อันเนื่องมาจากปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสังคมไทย อาทิ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การขยายตัวของชุมชนเมือง และกระแสการดูแลสุขภาพที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลก อย่างไรก็ดี คาดว่าราคาซื้อขายหุ้น PHG ของ ROJNA อยู่ที่ประมาณ 17.00-17.25 บาทต่อหุ้น นาย มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงดีลดังกล่าวว่า ปกติแล้ว ROJNAจะมีการกระจายการลงทุนอยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็มีการเข้าลงทุนธุรกิจยาอยู่ด้วย ดังนั้นการลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลยังมองว่าเป็นความต้องเนื่อง และช่วยเสริมการการเติบโตของรายได้ต่อไป

ROJNA Q3 กำไรสูงกว่าคาด ไตรมาส4 ไปต่อ ธุรกิจโรงไฟฟ้า-ยอดโอนที่ดิน หนุน

ROJNA Q3 กำไรสูงกว่าคาด ไตรมาส4 ไปต่อ ธุรกิจโรงไฟฟ้า-ยอดโอนที่ดิน หนุน

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.กรุงศรี ระบุ ROJNA กำไรธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 62% yoy แต่ลดลง 7% qoq เป็น 684 ล้านบาทใน 3Q24 แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 745% yoy และ 260% qoq เป็น 2.3 พันล้านบาท สนับสนุนจากกำไรส่วนใหญ่จากการตีมูลค่าตลาดการลงทุนใน GULF เราคาดว่ากำไรจะสูงขึ้น qoq ใน 4Q24F สนับสนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ดีขึ้น และคาดว่ายอดโอนที่ดินจะสูงขึ้น บริษัทจะได้รับรู้กำไรจากการขายที่ดินของบริษัทร่วมทุน TRA และบ่งบอกถึงมูลค่าโดยนัยของเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" กำไร 684 ล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 62% yoy แต่ลดลง 7% qoq           กำไรสูงกว่าประมาณการของเรา เนื่องจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจนิคมฯ สูงกว่าคาด หากรวมกำไรจากการบันทึกราคาตลาดหุ้น 1.5 พันล้านบาทจาก GULF และ Frazer Logistics & Commercial Trust, กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 66 ล้านบาท และค่าสินไหมจากการประกันภัย 20 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 745% yoy และ 260% qoq กำไรธุรกิจหลักใน 9M24 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% yoy คิดเป็น 79% ของประมาณการ FY24F ของเรา กำไรขั้นต้นจากธุรกิจนิคมฯ เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 116% yoy และโต 37% qoq เป็น 1 พันล้านบาทใน 3Q24 กำไรเติบโตสนับสนุนจาก  ยอดโอนที่ดินสูงขึ้น (300+ ไร่ใน 3Q24 เทียบกับ 275 ไร่ใน 3Q23 และ 371 ไร่ใน 2Q24) ยอดโอนมาจากอยุธยา ชลบุรี และระยอง อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 50.2% เทียบกับ 41.2% ใน 3Q23 และ 36.5% ใน 2Q24 กำไรขั้นต้นจากธุรกิจโรงไฟฟ้าลดลง 48% yoy และ 41% qoq เป็น 210 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 6.8% จาก 12.8% ใน 3Q23 เนื่องจากการปรับลดอัตรา Ft และจาก 12.3% ใน 2Q24 เนื่องจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตรา Ft ไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีการปิดซ่อมบำรุงประจำปีใน 3Q24 คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท เราคาดว่ากำไรธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น qoq ใน 4Q24F สนับสนุนจากกำไรโรงไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้น (ต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง) และยอดโอนที่ดินตามฤดูกาลที่สูงขึ้นใน 4Q24F โดยมี Backlog 1,590 ไร่ ณ ราคาล่าสุด TTR น่าสนใจที่ 39% JV TRA (สัดส่วนการถือหุ้น 25%) จะขายที่ดิน 100+ ไร่ (จากทั้งหมด 4,600 ไร่) ริมถนนบางนา-ตราด กม.32 เราคาดว่าราคาตลาดจะสูงกว่าต้นทุน ดังนั้น TRA และ ROJNA จะบันทึกกำไรจากการขายที่ดิน นอกจากนี้ยังจะบ่งบอกถึงมูลค่าโดยนัยของเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นของ ROJNA

ROJNA คาด Q3 กำไรดีด 628% รับอานิสงส์ GULF เต็มๆ   

ROJNA คาด Q3 กำไรดีด 628% รับอานิสงส์ GULF เต็มๆ   

           หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี คาด ROJNA กำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาทใน 3Q24F เพิ่มขึ้น 628% yoy และ 210% qoq หากไม่รวมกำไรพิเศษ 1.6 พันล้านบาท กำไรธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 332 ล้านบาท ลดลง 22% yoy และ 55% qoq จากกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าชะลอตัวลง กำไรธุรกิจหลักใน 9M24F เป็น 1.3 พันล้านบาท ลดลง 10% yoy และคิดเป็น 62% ของประมาณการ FY24F  บริษัทจะประกาศผลการดำเนินงานวันที่ 14 พ.ย.            คาดกำไรจะสูงขึ้น qoq ใน 4Q24 และการซื้อที่ดินจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายในอนาคต พร้อมมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย บริษัทจะรับรู้กำไรจากการขายที่ดินของบริษัทร่วมทุน TRA ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ยอดขายที่ดินชะลอตัวใน 3Q24            ROJNA มียอดขายที่ดิน 107 ไร่ใน 3Q24 ส่วนใหญ่เป็นโครงการในจังหวัดชลบุรี ส่งผลให้ยอดขายที่ดินใน 9M24 อยู่ที่ 817 ไร่ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่ 1,000+ ไร่ แต่อาจน้อยกว่าคาดการณ์ที่ 1,870 ไร่ คาดกำไรสุทธิ 3Q24F จะเติบโตโดดเด่น 628% yoy และ 210% qoq เป็น 1.9 พันล้านบาท หนุนจากกำไรจากการบันทึกราคาตลาดหุ้น GULF และ Frazer Logistics & Commercial Trust 1.5 พันล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 127 ล้านบาท กำไรธุรกิจหลักจะลดลง 22% yoy และ 55% qoq เป็น 332 ล้านบาทจากกำไรโรงไฟฟ้าลดลง กำไรธุรกิจหลัก 9M24F จะเป็น 1.3 พันล้านบาท (-10% yoy) ซึ่งคิดเป็น 62% ของกำไร FY24F            กำไรขั้นต้นของนิคมจะเพิ่มขึ้น 5% yoy แต่ลดลง 33% qoq เป็น 500 ล้านบาทใน 3Q24F เติบโต yoy จากยอดโอนที่สูงขึ้น (+9% yoy เป็น 300 ไร่ใน 3Q24) ซึ่งชดเชยกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเป็น 37% เทียบกับ 41.2% ใน 2Q เนื่องจาก product mix การลดลง qoq เนื่องจากยอดโอนลดลง (-19% qoq เป็น 300 ไร่) แม้อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 0.5%            กำไรขั้นต้นของธุรกิจไฟฟ้าจะลดลง 33% yoy และ 24% qoq เป็น 268 ล้านบาทใน 3Q24F กำไรขั้นต้นลดลง yoy เนื่องจากอัตรา Ft เฉลี่ยลดลง (0.4405 บาทใน 3Q23 เทียบกับ 0.3972 บาทใน 3Q24) เทียบกับต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเล็กน้อย (342 บาท/MMbtu ใน 3Q23 เป็น 340 บาท/MMbtu ใน 3Q24) กำไรขั้นต้นลดลง qoq เนื่องจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติสูงขึ้นเทียบกับ 305 บาท/MMbtu ใน 2Q24 ในขณะที่อัตรา Ft ทรงตัว ราคาเป้าหมาย 9.2 บาท             คาดว่ากำไรธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น qoq ใน 4Q24F จากกำไรธุรกิจไฟฟ้าที่ดีขึ้น (ต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง) และยอดโอนที่ดินที่คาดว่าจะสูงขึ้นใน 4Q24F บริษัทซื้อที่ดิน 1,350 ไร่สำหรับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ 2 เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น ซึ่งมีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมาย บริษัทร่วมทุน TRA (ROJNA ถือหุ้น 25%) วางแผนขายที่ดิน 300-500 ไร่ (จาก 4,600 ไร่) ริมถนนบางนา-ตราด กม.32 คาดว่าราคาตลาดจะสูงกว่าต้นทุน ดังนั้น TRA และ ROJNA จะบันทึกกำไรจากการขายที่ดิน

live-sticky
LIVE