TMAN บุกตลาดเสริมความงาม 6 หมื่นลบ. ชูแบรนด์น้องใหม่ Rejunae นวัตกรรมจากเกาหลี

          “บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล” หรือ TMAN รุกใหญ่ขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดเสริมความงามหลัง IPO เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ ‘Rejunae’ นวัตกรรมฟิลเลอร์และไหมร้อยหน้าจากเกาหลี เปลี่ยนรูปหน้าสวยอย่างธรรมชาติ มีคุณภาพและปลอดภัยสูง มุ่งขยายฐานลูกค้าคลินิกเสริมความงาม ตอบโจทย์เทรนด์ความงามบูม ดันมูลค่าตลาดรวมในไทยแตะ 60,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 80% ต่อปี คาดการณ์รายได้จากกลุ่มคลินิกเสริมความงามโตก้าวกระโดด หนุนรายได้รวมของบริษัทฯ มีอัตราเติบโตสูงกว่ามูลค่าตลาดรวมการจำหน่ายยาในประเทศไทยที่เติบโต 6-7% ต่อปี           นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ประกาศแผนธุรกิจในเชิงรุกหลังจากนำหุ้น TMAN เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดได้เดินหน้าบุกตลาดเสริมความงามในประเทศไทย ร่วมกับ “Mesosolution” พันธมิตรผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามชั้นนำในเกาหลีใต้ ประเทศที่มีนวัตกรรมเสริมความงามเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดย บริษัท ที.แมน ฟาร์มาฯ จะเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่มีศักยภาพเติบโตเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อรับกับโอกาสการเติบโตของตลาดเสริมความงาม ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีอัตราการเติบโตสูง 14% ต่อปี           สำหรับตลาดรวมเสริมความงามในประเทศไทยคาดว่ามีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 80% ต่อปี เนื่องจากคนรุ่นใหม่ใส่ใจดูแลผิวและความงาม ประกอบกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ต่างชาติ ด้วยค่าบริการในไทยที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับค่าบริการเฉลี่ยของโลก ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านหัตถการและศัลยกรรมความงามอันดับต้นๆ ของเอเชียแปซิฟิก  โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากในปี 2565 มีมูลค่าตลาด 5,000-8,000 ล้านบาท เพราะเทคโนโลยีที่ช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามเป็นธรรมชาติ ลดร่องลึกและทำให้หน้าดูเรียบเนียนขึ้น จึงเป็นที่นิยมของกลุ่มคนหนุ่มสาวยุคใหม่           ความร่วมมือกันครั้งนี้ สอดรับกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่จะสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะการขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านคลินิกเสริมความงาม โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ ไหมร้อยหน้าจากเกาหลี และจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ ‘Rejunae’ ซึ่งจะเป็นแบรนด์ใหม่ในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ที่ช่วยขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดความสวยงาม (Aesthetic) ยิ่งขึ้นและตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งด้านตลาดเสริมความงามให้กับบริษัทฯ จากเดิม TMAN เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย LD CREAM หรือผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของยาชาสูตร10% สำหรับการทำศัลยกรรมและเวชปฎิบัติเพื่อความงาม เพียงรายเดียวในประเทศไทย โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ มีพอร์ตโฟลิโอนำเข้าหรือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ แบรนด์ของบุคคลภายนอก 16 แบรนด์ และเป็นเจ้าของแบรนด์ 226 แบรนด์ มีผลิตภัณฑ์กว่า 842 รายการ (SKUs) TMAN จึงเป็นศูนย์รวมการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ภายในคราวเดียว (One-stop) ที่มีศักยภาพตอบสนองความต้องการของทุกคนได้อย่างครอบคลุม           Mesosolution มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดเสริมความงามชั้นนำในประเทศเกาหลีใต้ มีเทคโนโลยีความงามที่ก้าวล้ำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์และร้อยไหมหน้า Rejunae มีนวัตกรรมโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะในการผลิตช่วยให้การปรับรูปหน้าสวยงามเป็นธรรมชาติทำได้ง่ายขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย  มั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยีด้านความงามของเกาหลีใต้ถือว่าเป็นผู้นำการวิจัย และพัฒนา เทคนิค สินค้ารวมถึงผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก รวมถึงได้รับการอนุมัติจาก EDQM ภูมิภาคยุโรป โดยมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยตอบโจทย์ของคลินิกเสริมความงามไทย           “ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในวงการเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยการรุกขยายแบรนด์ Rejunae ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์และร้อยไหมหน้า จะเป็นก้าวที่สำคัญที่เปิดตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ และสนับสนุนคลินิกเสริมความงามทุกแห่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและโซลูชันที่ครบวงจร  มั่นใจว่า แบรนด์ Rejunae จะช่วยให้บริษัทฯ ขยายฐานลูกค้ากลุ่มคลินิกเสริมความงามเพิ่มขึ้น จากไตรมาสที่ 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) มีสัดส่วนรายได้อยู่ 5.7% คาดการณ์รายได้ในช่องทางคลินิกจะเติบโตก้าวกระโดด และผลักดันรายได้รวมของบริษัทฯ เติบโตมากกว่ามูลค่าตลาดรวมการจำหน่ายยาในประเทศที่มีอัตราเติบโต 6-7% ได้ตามเป้าหมาย” นายประพล กล่าว [PR News]