#PTG


เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ แมกซ์ โซลูชัน มอบความสุขต้อนรับเทศกาลปีใหม่แก่สมาชิก Max Card

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ แมกซ์ โซลูชัน มอบความสุขต้อนรับเทศกาลปีใหม่แก่สมาชิก Max Card

          เมืองไทยประกันชีวิต และ แมกซ์ โซลูชัน บริษัทในเครือพีทีจี ผนึกกำลังส่งมอบความสุขและรอยยิ้มในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ 2568 แก่สมาชิก Max Card ทั่วประเทศ ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” อุ่นใจด้วยความคุ้มครองครอบคลุมทั้งด้านชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ เพียงสมาชิก Max Card  ใช้คะแนน 100 คะแนน แลกรับสิทธิ์ง่าย ๆ ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Max Me           นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิต ได้ร่วมกับ แมกซ์ โซลูชัน ส่งมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าคนสำคัญ ต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568  ให้เต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้ม และความสนุกสนาน  พร้อมยังเป็นการสนับสนุนให้ทุกคนในสังคมสามารถเข้าถึงประกันชีวิตเพื่อการมีหลักประกันที่มั่นคง  สอดรับกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุให้กับตนเองและครอบครัว และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบการประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้สะดวก เข้าถึงได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น           ด้าน นายพร้อมศักดิ์  จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด  บริษัทในเครือพีทีจี กล่าวว่า  บริษัทยังคงยึดมั่นในพันธกิจที่อยากเห็นคนไทย “อยู่ดีมีสุข” จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับปีนี้ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน ได้ร่วมมือกับ เมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยาวนาน ร่วมส่งมอบความสบายใจและลดความกังวลให้กับสมาชิก Max Card กว่า 23 ล้านราย           โดยสมาชิก Max Card สามารถใช้คะแนนสะสมเพียง 100 คะแนน แลกรับสิทธิ์ "กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)" ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me พร้อมความคุ้มครองนานถึง 30 วันนับจากวันเริ่มต้นความคุ้มครอง ทั้งนี้ จำกัดจำนวนสิทธิ์ 1,000 สิทธิ์ เพื่อให้สมาชิกทุกท่านได้เดินทางอย่างมั่นใจ คลายกังวล และมีความสุขตลอดการเดินทางในช่วงเทศกาลนี้ ทั้งนี้ความคุ้มครอง “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” ที่ลูกค้าจะได้รับ ประกอบด้วย ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุสาธารณะ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ้างพยาบาลพิเศษ อุปกรณ์ค้ำยันต่าง ๆ (ยกเว้นไม้ค้ำยัน) รถเข็นผู้ป่วย อวัยวะเทียมภายนอกร่างกายค่ารักษาพยาบาลโดยแพทย์ทางเลือก (Alternative medicine) การฝังเข็ม จำนวนเงินเอาประกันภัยตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5,000 บาท           โดย “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)” มีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน    นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาเอาประกันภัย ซึ่งผู้ที่จะได้รับสิทธิ์จะต้องถือสัญชาติไทยเท่านั้น และมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย  โดยสมาชิก Max Card ที่สนใจสามารถแลกคะแนนได้ ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 (จำนวนสิทธิ์ 1,000 สิทธิ์) หมายเหตุ :                                 ผู้เอาประกันภัยจะต้องมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย และถือสัญชาติไทยเท่านั้น สมาชิก Max Card ใช้ 100 คะแนน รับสิทธิ์ลงทะเบียนกรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์) ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me (ไม่จำกัดสิทธิ์ / สมาชิก ซึ่งผู้รับความคุ้มครองต้องไม่ใช่บุคคลเดียวกัน) เริ่มต้นคุ้มครองตั้งแต่วันถัดไปของวันที่ลูกค้าลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ เวลา 01 น. จนถึงวันที่สิ้นสุดความคุ้มครอง 30 วัน เวลา 24.00 น. และไม่มีการต่ออายุอัตโนมัติ เงื่อนไขและความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์ การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การให้ความคุ้มครองโครงการนี้กับสมาชิก Max Card เท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดส่งกรมธรรม์ครั้งนี้ โดยการยืนยันความคุ้มครองผ่านทาง SMS เท่านั้น ลูกค้าสามารถแลกคะแนนได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 หรือ มีผู้รับสิทธิ์ครบ 1,000 สิทธิ์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร PT Call Center 1614 ทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.หรือเมืองไทยประกันชีวิต โทร. 1766 ตลอด 24 ชั่วโมง คำเตือน : ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

กูรูหุ้นเชียร์ “ซื้อ” PTG เคาะเป้าสูงสุด 12.7 บ./หุ้น คาดกำไร Q4/67 สดใส

กูรูหุ้นเชียร์ “ซื้อ” PTG เคาะเป้าสูงสุด 12.7 บ./หุ้น คาดกำไร Q4/67 สดใส

       หุ้นวิชั่น - เซียนหุ้น 3 แห่งพร้อมใจแนะซื้อหุ้น PTG เคาะกรอบราคาเป้าหมาย 11-12.70 บาท โดยบล.ยูโอ เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินยอดขายน้ำมันQ4/67 เติบโต 8-10 % เทียบกับ QoQ ให้ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 12.7 บาท ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรปี 68  เติบโตดี เทียบกับ YoY รับแรงหนุนจากปริมาณยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและธุรกิจ Non-Oil ,ท่องเที่ยวขยายตัว,กลยุทธ์ PT Max Card หนุน ให้ราคาเหมาะสม 11 บาท ขณะที่บล. ทรีนีตี้ คาดกำไรปี 67 อยู่ที่ 1,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบ YoY จากค่าการตลาดที่ระดับปกติ 1.7 บาทต่อลิตร ส่วนผลงาน Q4/67 โตโดดเด่น ให้ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 11 บาท บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์  โดยประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิ Q4/2567 ของหุ้น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี  จำกัด (มหาชน) (PTG)  จะฟื้นตัวจาก High season ของการท่องเที่ยว รวมไปถึงผ่านช่วงฤดูฝนตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.เป็นต้นไป ถือเป็นปัจจัยหนุนยอดขายน้ำมันให้กลับมาฟื้นตัว ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าจะได้เห็นยอดขาย Q4/2567 เติบโต 8-10% เมื่อเทียบ QoQ นอกจากนี้ Traffic ในการเข้าสถานีบริการที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้จากธุรกิจ Non-Oil เติบโตเมื่อเทียบ QoQ ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าสมมติฐานค่าการตลาดที่ 1.7 บาทต่อลิตร ยังมีความเป็นไปได้และอยู่ในกรอบเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ 1.7-1.8 บาทต่อลิตรในปี 2567 ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงแนะนำ    “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 12.7 บาท อ้างอิง P/E เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ระดับ -1.0 S.D.ที่ 17.8 เท่า ระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของผลประกอบการ Q4/2567 ทำให้ PTG กลับมามีความน่าสนใจในการลงทุน อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวหลังจากที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มกว่า 23% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา         ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด   ระบุว่า ตามที่ผู้บริหารบริษัทฯ Guidance Q4/2567 ปริมาณขายน้ำมันเติบโตเมื่อเทียบ QoQ จากอุปสงค์ฟื้นตัวตามฤดูกาล และน้ำท่วมคลี่คลาย คงเป้าหมายทั้งปีเติบโต 10-15% เมื่อเทียบ YoY ขณะที่ QTD ใน Q4/2567 คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจน้ำมันต่อลิตรสูงขึ้นเมื่อเทียบ QoQ จาก 1.65 บาทต่อลิตรใน Q3/2567 และคาดการณ์ทั้งปีเฉลี่ย 1.7-1.8 บาทต่อลิตร   ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่า แม้ SG&A จะปรับตัวขึ้นจากค่าใช้จ่ายช่วงปลายปีและการเร่งขยายสาขาธุรกิจ Non-Oil  แต่คาดกำไรปกติจะเติบโตเมื่อเทียบ QoQ  โดยได้รับปัจจัยบวกจาก 1.) ยอดขายน้ำมันเร่งตัวตามปัจจัยฤดูกาลทั้งกิจกรรมเดินทางท่องเที่ยวช่วงปลายปีและผ่านพ้นฤดูมรสุม 2.) กลยุทธ์บัตรสมาชิก PT Max Card 3.)อานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และ 4.) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจน้ำมันปาล์มมีโอกาสเร่งตัวจากการพุ่งขึ้นของราคา CPO แตะระดับสูงสุดรอบกว่า 2 ปี         ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปี 2568 ของ PTG จะเติบโตได้ดีเมื่อเทียบ YoY ตามปริมาณสาขาธุรกิจ Oil และ Non-Oil,ภาคท่องเที่ยวขยายตัว,กลยุทธ์ PT Max Card,แรงกดดันค่าการตลาดต่ำลงจากทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกชะลอตัว และเงินบาทแข็งค่า   โดยในช่วง 6 เดือนข้างหน้าคาดผลประกอบการ Q4/2567-Q1/2568 ดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ที่ราคาหุ้น -14% ถือว่าสะท้อนความอ่อนแอของ Q3/2567 ไปแล้ว  ซึ่งราคาปัจจุบันถือว่ามี Upside gain เปิดกว้าง ทางพื้นฐานปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 11.00 บาท นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าแผน Spin-off บริษัทลูก 1.ATLAS ธุรกิจ LPG ในปี 2568 (ปัจจุบันยื่น Filing) และ 2.Punthai ธุรกิจร้านกาแฟ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม Spin-off ในอนาคต         บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คงประมาณการกำไรของ PTG ในปี 2567 ที่ 1,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY จากค่าการตลาดที่ระดับปกติ 1.7 บาทต่อลิตร แม้ Q3/2567 จะเป็นช่วง Low Season หน้าฝน ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง นอกจากนี้ระยะสั้นอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องกฎหมายบริหารโครงสร้างราคา ซึ่งอาจจะส่งผลต่อ Margin ต่อลิตรของบริษัทฯ ได้  แต่จะกลับมาโดดเด่นในช่วง Q4/2567  โดย Non-Oil ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณจำหน่ายน้ำมันต่อสถานีบริการที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันบริษัทฯ เน้นปริมาณ Traffic ที่จะเข้ามาใช้บริการมากกว่าการขยายจำนวนสถานีบริการ ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงคงราคาเป้าหมายปี 2568 ไว้ที่ 11 บาท  อิง Avg PER ที่ 14.5 เท่า และคงคำแนะนำ  Trading Buy แนวโน้มระยะสั้นอาจจะถูกกดดันจากผลการดำเนินงานที่อ่อนตัว แต่เป็นจังหวะซื้อช่วง Q4 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการบริโภคน้ำมันมากจากช่วงวันหยุดยาว [PR News]

PTG คาด Q4 ไฮซีซั่นท่องเที่ยวหนุน แนะ “ซื้อ” - เป้า 10.20 บาท

PTG คาด Q4 ไฮซีซั่นท่องเที่ยวหนุน แนะ “ซื้อ” - เป้า 10.20 บาท

           หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป คาด 4Q67 ผลประกอบการ PTG มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยปัจจัยหลักจากการเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น รวมไปถึงช่วยหนุนยอดขายธุรกิจกาแฟ Punthai เช่นกัน นอกจากนี้ปี 68 คาดว่าจะมี Upside จากการนำธุรกิจก๊าซ LPG ของบริษัท หรือ ATLAS เข้าตลาด ช่วยปลดล็อกมูลค่าในอนาคต และคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาด 4Q67 ปัจจัยฤดูกาลหนุน: ทางฝ่ายคาดแนวโน้มไตรมาส 4 ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน ทั้งนี้คาดปัจจัยหลักจะมาจากการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ทำให้ทางฝ่ายคาดว่าจะช่วยหนุนให้ปริมาณขายปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ เนื่องจากการกลับมาเพาะปลูกของเกษตรกร คาดว่าจะช่วยหนุนปริมาณขายน้ำมันเช่นกัน โดยเฉพาะยอดขายน้ำมันดีเซล โดยหากอ้างอิงจากปีที่แล้วคาดยอดขายน้ำมันจะปรับตัวขึ้นได้ 10% q-q ด้านธุรกิจ LPG คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้นเช่นกันตามภาวะเศรษฐกิจ ด้านธุรกิจกาแฟ Punthai ทางฝ่ายมองว่ายังเติบโตได้ต่อเนื่องจากปัจจัยหนุนช่วงฤดูท่องเที่ยวที่กล่าวไปข้างต้น รวมไปถึงการขยายสาขาจะเป็นตัวช่วยหนุนการเติบโตของรายได้อีกหนึ่งปัจจัย ซึ่ง ณ 3Q67 มีจำนวนสาขาแล้ว 1,126 สาขา และปี 67 นี้บริษัทตั้งเป้าขยายสาขากาแฟ Punthai เป็น 1,282 สาขา จาก 882 สาขาในปี 66 นอกจากนี้ ทางฝ่ายยังมองว่าธุรกิจก๊าซ LPG ภายใต้แบรนด์ ATLAS จะมี Upside ในปี 68 จากการนำธุรกิจนี้เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดย ATLAS เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับก๊าซสำหรับครัวเรือน อุตสาหกรรม และการขนส่ง คาดว่าจะเข้าตลาดในช่วงไตรมาส 1Q68 ซึ่งจะช่วยปลดล็อกมูลค่าธุรกิจและเพิ่มศักยภาพในการขยายกิจการของ ATLAS ในอนาคต คงคำแนะนำ “ซื้อ”: โดยรวมทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐาน 10.20 บาท จากแนวโน้มการฟื้นตัวของผลประกอบการในช่วง 4Q67 ตามปัจจัยการท่องเที่ยวช่วงปลายปีที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนยอดขายทั้งส่วนธุรกิจน้ำมัน รวมไปถึงธุรกิจ Non-oil โดยเฉพาะกาแฟ Punthai ที่คาดจะได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวเช่นกัน

[ภาพข่าว] พีที จับมือกรมแรงงานจังหวัด กระทรวงแรงงาน ช่วยน้ำท่วมภาคใต้

[ภาพข่าว] พีที จับมือกรมแรงงานจังหวัด กระทรวงแรงงาน ช่วยน้ำท่วมภาคใต้

           บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ร่วมกับกรมแรงงานจังหวัด กระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เป็นตัวแทนส่งมอบน้ำดื่ม ขนาด 1,500 CC จำนวน 99,900 ขวด เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 5 จังหวัด ระหว่างวันที่ 5 - 9 ธันวาคม 2567 ได้แก่  สำนักงานแรงงาน จังหวัดนครศรีธรรมราช 3,400 แพ็ค (20,400 ขวด)  สำนักงานแรงงานจังหวัดสงขลา 3,350 แพ็ค (20,100 ขวด) สำนักงานแรงงานจังหวัดนราธิวาส 3,300 แพ็ค (19,800 ขวด)  สำนักงานแรงงานจังหวัดปัตตานี จำนวน 3,300 แพ็ค (19,800 ขวด) สำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา จำนวน 3,300 แพ็ค (19,800 ขวด)            ทั้งนี้ทางแรงงานจังหวัดจะนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกทัยต่อไป ซึ่ง PTG ในนามสถานีบริการน้ำพีที และ กรมแรงงาน กระทรวงแรงงาน ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องผู้ประสบอุทกภัยทุกท่าน ขอให้เหตุการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[Gossip] PTG เด่นสุด! กูรูแนะ

[Gossip] PTG เด่นสุด! กูรูแนะ "ซื้อ"เคาะเป้า 10.5 บ.

         หุ้นวิชั่น - เซียนหุ้นจาก บล.กรุงศรี ยกให้ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG)  เด่นสุดในกลุ่มทั้งการเติบโตของปริมาณขาย Oil และ Non-Oli ที่โต Double Digits แถมยังชิงมาร์เก็ตแชร์ได้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากรอบการฟื้นตัวของค่าการตลาดดีเซล สวนทางกับกลุ่มที่ทรงตัว หนุนกำไรปี 2024-2025 เพิ่มขึ้น 22%  CAGR เด่นกว่าคู่แข่ง (เพิ่มขึ้น 3%) ...งานนี้หากทำได้ตามเป้าในปี 2025 จะเป็น Upside  ต่อประมาณการกำไรสุทธิ 2025 ของฝ่ายวิจัยที่ 6-14%  จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2025 อยู่ที่ 10.5 บาท โดดเด่นในกลุ่ม มีพื้นฐานดีขนาดนี้  ต้องมีติดพอร์ตไว้ด่วนๆเลยคร้าา!

PTG ชี้ Maxbit โตก้าวกระโดด สร้างแบรนด์แข็งแกร่ง-เจาะรายย่อย

PTG ชี้ Maxbit โตก้าวกระโดด สร้างแบรนด์แข็งแกร่ง-เจาะรายย่อย

           หุ้นวิชั่น - บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (Maxbit Digital Asset Co., Ltd.) ฉายภาพผลการดำเนิน งานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2567 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสินทรัพย์ ดิจิทัลอย่าง เต็มศักยภาพในปี 2568 ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการขยายฐานตลาดลูกค้ารายย่อย (Retail) ให้มาก ขึ้น รวมถึงตั้งมั่นเป็นแพลตฟอร์มที่มีตัวเลือกในการลงทุนหรือคู่เหรียญที่มากที่สุดในตลาด เพื่อเตรียมพร้อมรับการเติบโตในช่วงตลาดขาขึ้น (Bull Run) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2568  “นายปกเขตร รัชกิจประการ” ซีอีโอ มั่นใจปี 2568 ธุรกิจจะเติบโตตามกระแสตลาดที่เป็นขาขึ้น ได้อย่างมั่นคงและโดดเด่น             นายปกเขตร รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด ประกาศถึงปีแห่งความสำเร็จและการเติบโตที่น่าประทับใจในปี 2567 นี้ซึ่งได้ยกระดับสถานะให้เป็นหนึ่งใน แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย ด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อเดือน (CMGR) ที่ 36.11% ตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 และคาดว่ามูลค่าการซื้อขายใน เดือนพฤศจิกายน 2567 จะสูงกว่า 5,000 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แมกซ์บิทประสบความสำเร็จในปีนี้ ได้แก่: การได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 27001 และ ISO 27701 ซึ่งเน้นย้ำถึงความปลอดภัยและการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าบนแพลตฟอร์ม การนำแนวคิด Co-Creation ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะดวกสบายในการใช้งานหรือบริการที่รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม การวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มลูกค้าระดับสูง (High Net Worth) และนักลงทุนในตลาด Private Equity ซึ่งยังไม่ได้รับบริการที่เพียงพอในตลาดคริปโตของไทย นายปกเขตร  กล่าวต่อว่า การเติบโตในปีนี้ไม่ได้มาจากตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่เป็น ผลลัพธ์ของ การที่เราให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าร่วมกันกับลูกค้า และการนำเสนอบริการ ที่ตอบ โจทย์ความ ต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง “ในปีนี้เรายังได้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกและการ พัฒนาที่มุ่งเน้นความต้องการของตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะ” สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 2568 แมกซ์บิทจะมุ่งเน้นไปที่การขยายฐาน ลูกค้ารายย่อย (Retail) เพื่อทำให้แพลตฟอร์มของเราครอบคลุมและเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญใน การยกระดับสถานะของบริษัทให้เป็นผู้นำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ดังนี้: โฟกัสกลุ่มลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก: บริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มและบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายย่อย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์ แต่ยังขาดความเชื่อมั่นหรือเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น การเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านการจัดกิจกรรมการศึกษา การสัมมนา และการให้ข้อมูลที่มีคุณภาพ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือและบริการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง: มุ่งเน้นการตลาดที่ให้ความรู้และเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชื่อเสียงและบริการของบริษัท เป็นแพลตฟอร์มที่มีคู่เหรียญมากที่สุดในประเทศไทย: เพิ่มจำนวนคู่เหรียญบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักลงทุนรายย่อย และเสริมศักยภาพในการเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งนี้ ในปี 2568 เรามุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมและเข้าถึงลูกค้ารายย่อยได้มากที่สุด การให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้ารายย่อยถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และเรามั่นใจ ว่านี่คือก้าวสำคัญที่จะทำให้แมกซ์บิท กลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับนักลงทุนทุกกลุ่ม

PTG ส่งสัญญาณโค้งสุดท้ายเกษตร-ท่องเที่ยว-เศรษฐกิจฟื้น ปริมาณจำหน่ายน้ำมันโตเข้าเป้า 10-15%

PTG ส่งสัญญาณโค้งสุดท้ายเกษตร-ท่องเที่ยว-เศรษฐกิจฟื้น ปริมาณจำหน่ายน้ำมันโตเข้าเป้า 10-15%

           หุ้นวิชั่น –  บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ประเมินโค้งสุดท้ายปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางและอุปสงค์การใช้น้ำมันมีทิศทางสดใส คงเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันปี 67 เติบโต 10-15% รับแรงหนุนจากระบบสมาชิก Max Card ฤดูกาลเก็บเกี่ยวทางการเกษตร  ภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วนธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจ LPG)  คงยืนเป้ายอดขายทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 40-50%  พร้อมโชว์รายได้งวด 9 เดือนปี 2567 เท่ากับ  167,132 ล้านบาท กำไรสุทธิ 806 ล้านบาท ส่วนปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางทุบสถิติสูงสุดใหม่นิวไฮ อยู่ที่ 5,013 ล้านลิตร รวมถึงครองส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันผ่านช่องทางสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคุณรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและความยั่งยืน   นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโสประจำสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่  และนายธีรพันธ์  ดิษยบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสสาขาบัญชีและการเงิน  บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) ร่วมนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2567 ในงาน Opportunity Day บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยนายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผยถึง แนวโน้มการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง และอุปสงค์การใช้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปี 2567 เชื่อว่ายังมีทิศทางการเติบโตที่ดี เนื่องจากไตรมาส 4 เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวทางการเกษตร รวมถึงการเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการใช้บริการของสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผนวกกับการพัฒนาบริการ PT Service Master เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า การปรับปรุงสถานีให้ทันสมัยและครบครันมากยิ่งขึ้นพร้อมขยายสาขาในทำเลศักยภาพ  โดยปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่ 10-15% เทียบปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันครบ 2,251 สาขา สำหรับธุรกิจ Non-Oil (ไม่รวมธุรกิจ LPG)  บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตของยอดขายทั้งปี ไม่ต่ำกว่า 40-50%  เมื่อเทียบปีก่อน   ซึ่งในส่วนของธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาเป็น 1,282 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมี 1,126 สาขา เป็นผลมาจากการใช้บริการของอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้ารายเดิมและกลุ่มลูกค้าสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus  รวมถึงมีแคมเปญทางการตลาดที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) นอกจากนี้ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil ยังวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ เป็นจำนวน 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints  โดยการขยายสาขาจำนวนหลักๆ มาจากสถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT  และธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs  รวมถึงสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart  ซึ่งเป็นการสร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการทั้งในด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและการดูแลบำรุงรักษารถยนต์อย่างครบวงจร และสอดคล้องกับเป้าหมายในการยกระดับความอยู่ดี มีสุขของคนไทยทุกพื้นที่ให้สามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจ มีความสุข และปลอดภัยในทุกเส้นทาง ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 (สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2567) มีกำไรสุทธิ 806 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 90.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 424 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานอยู่ที่  0.48 บาทต่อหุ้น ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 167,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 149,286 ล้านบาท   ขณะที่งวดไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาทเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 24 ล้านบาท การเติบโตของรายได้ดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้เติบโตที่ 11.0%  เป็น 154,640 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังคงสร้างสถิติยอดขายสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็น  5,013 ล้านลิตร  หรือเพิ่มขึ้นถึง 13.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน รวมถึงปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้บริษัทฯ ครองส่วนแบ่งตลาดผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 21.3% เมื่อเทียบกับ 18.7% ในปีก่อนหน้า ส่วนธุรกิจ Non-Oil งวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จำนวน 12,492  ล้านบาท เติบโต 25.8%  โดยการเติบโตของยอดขายเป็นผลมาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยและธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ   ซึ่งธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่มีรายได้จากการขายและการบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 75.1% เป็นจำนวน 1,540 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการใช้บริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus  ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ยังคงอยู่ในระดับ 20-30% ในงวด 9 เดือนบริษัทฯ มีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,878 สาขา (ไม่รวมสาขาธุรกิจ LPG) เพิ่มขึ้น  525  สาขา หรือเติบโต 38.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อเน้นย้ำความพยายามในการรักษาสมดุลระหว่างการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ขับเคลื่อนไปด้วยกัน หวังเชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกช่วงของชีวิต

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

PTG ต้อนรับนักวิเคราะห์-โชว์ศักยภาพธุรกิจแข็งแกร่ง

PTG ต้อนรับนักวิเคราะห์-โชว์ศักยภาพธุรกิจแข็งแกร่ง

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ (ที่ 8 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคุณรังสรรค์ พวงปราง (ที่ 10 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและความยั่งยืน  บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) พร้อมทีมงานบริษัทฯ ให้การต้อนรับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำในโอกาสให้เกียรติเข้ารับฟังข้อมูลผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 รวมถึงแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตของเครือบริษัทฯ เผยกำไรสุทธิงวด 9 เดือนที่ผ่านมาโตเกือบเท่าตัว หรือเพิ่มขึ้นถึง 90% อยู่ที่ 806 ล้านบาท ส่วนยอดขายเท่ากับ 1.67 แสนล้าบาท ขณะที่ปริมาณขายน้ำมันทุบสถิติใหม่ 5,013  ล้านลิตร พร้อมคงเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันปี 2567 โต 10-15% ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นที่ตึก CW Tower เมื่อเร็วๆ นี้

[Gossip] PTG ดีเดย์ XD ปันผล 26 พ.ย.นี้

[Gossip] PTG ดีเดย์ XD ปันผล 26 พ.ย.นี้

          หลังจาก บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โชว์กำไรงวด 9 เดือนปี 67 เพิ่มขึ้นถึง 90% เรียกได้ว่าโตเกือบเท่าตัว บอร์ดไม่รอช้าเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดเอาใจผู้ถือหุ้นทันทีในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น หากไม่อยากตกขบวนรับเงินปันผลอย่ารีรอ! เพราะวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD และรับเงินในวันที่ 12 ธันวาคม 2567   … โอกาสดีๆ มาถึงแล้ว รีบคว้าไว้เลยคร้า!

PTG เปิดตัว “พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ แมกซ์ สปีด”

PTG เปิดตัว “พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ แมกซ์ สปีด”

          บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ พีที (PT) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ แมกซ์ สปีด (PT Maxnitron Racer Max Speed) น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้ 100% เกรดพรีเมียมสูตรพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันพื้นฐานกลุ่ม Ester (Base Oil Group V) ร่วมด้วยเทคโนโลยี SYN4MAX จาก พีที แมกซ์นิตรอน ใช้ได้กับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะที่มีขนาดความจุเครื่องยนต์ตั้งแต่ 450 ซีซี ขึ้นไป           นายชัยทัศน์ วันชัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฎิบัติการบริษัท พีทีจี   เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG  เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้พัฒนา “พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ ซีรี่ย์” เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ต้องการน้ำมันหล่อลื่นประสิทธิภาพสูง สำหรับผลิตภัณฑ์  พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ แมกซ์ สปีด เป็นน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้ 100% คุณภาพสูง เกรดพรีเมียมซึ่งเป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันพื้นฐานกลุ่ม Ester (Base Oil Group V) ร่วมกับเทคโนโลยี SYN4MAX จาก พีที แมกซ์นิตรอน ช่วยเพิ่มอัตราเร่งให้กับเครื่องยนต์ รักษากำลังเครื่องยนต์ให้คงที่ ส่งผลต่อการจับคลัทช์ที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้นในทุกย่านความเร็ว และสามารถตอบสนองได้ดีในทุกสภาวะการขับขี่           สำหรับคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ แมกซ์ สปีด ประกอบด้วย ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้นานขึ้น ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ (SYN4MAX) ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ และได้รับการพิสูจน์แล้ว ทำให้มีการป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนสำคัญ ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ และชุดเกียร์ ภายใต้สภาวะการขับขี่ ที่ใช้ความเร็ว และรอบเครื่องยนต์สูง เครื่องยนต์ทำงานได้สูงสุดเต็มกำลัง และ สมรรถนะ พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ แมกซ์ สปีด มีสารเพิ่มคุณภาพชะล้างที่มีประสิทธิภาพโดดเด่น ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้กำลังสูงสุด และช่วยควบคุมการเกิดคราบเขม่าสะสมที่บริเวณลูกสูบ และแหวนลูกสูบ ให้เครื่องยนต์สะอาดตลอดการใช้งาน อีกทั้งยังเพิ่มแรงเสียดทานในระบบคลัทช์ที่เหมาะสม ช่วยให้การจับของคลัทช์ดีขึ้น เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล ทุกย่านความเร็ว ทนทานต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอุณหภูมิสูง และยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายที่ยาวนานด้วยคุณลักษณะด้านการต้านทานการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่ยอดเยี่ยม ทำให้แน่ใจว่าจะมีเสถียรภาพต่อความร้อนและการเกิดออกซิเดชั่น และมีอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่ยาวนาน           ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ พีที แมกซ์นิตรอน เรซเซอร์ แมกซ์ สปีด (PT Maxnitron Racer Max Speed)    วางจำหน่ายในราคา 750 บาท พร้อมของแถมพรีเมียมอีกมากมาย เฉพาะช่องทางแอปพลิเคชั่น Lazada ที่ร้าน LazMall PTG Group ได้ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 จัดส่งทั่วประเทศ สามารถดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ Facebook : PT Station หรือ http: PTenergy.co.th/PT Maxnitron [PR News]

abs

Hoonvision

[ภาพข่าว] เติมความแรงที่ปั๊มพีที! กับของพรีเมียมที่ระลึกสุดพิเศษ

[ภาพข่าว] เติมความแรงที่ปั๊มพีที! กับของพรีเมียมที่ระลึกสุดพิเศษ "พวงกุญแจ MotoGP"

          นายสุทธิพงษ์ วรรณวานิช (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้บริหาร บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที ในกลุ่ม บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เรียนเชิญลูกค้าทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์ความแรง ผ่านการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ที่ได้รับความนิยมจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก  ด้วยการมอบของพรีเมียมสุดพิเศษ "พวงกุญแจ MotoGP" ให้ได้เก็บสะสมกันเป็นที่ระลึก สำหรับสมาชิกบัตร PT Max Card ทุกประเภท เพียงเติมน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกชนิด ครบ 1,200 บาท หรือ เมื่อเติมน้ำมันดีเซล ครบ 2,000 บาท รับทันทีพวงกุญแจ MotoGP 2024 จำนวน 1 ชิ้น (มูลค่า 159 บาท) ที่สถานีบริการน้ำมันพีทีที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ถึง 31 ตุลาคม 2567 หรือจนกว่าของจะหมด

[PR News] AIA ผนึก Max Me มอบสิทธิประโยชน์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ

[PR News] AIA ผนึก Max Me มอบสิทธิประโยชน์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ

          กรุงเทพฯ 11 ตุลาคม 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพอันดับหนึ่งของประเทศ ผนึกกำลัง บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด ในเครือพีทีจี มอบประสบการณ์เหนือระดับด้านประกันชีวิตแก่ สมาชิกบัตร Max Card ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกกว่า 23 ล้านคน สามารถเข้าถึงความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ และ แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส ในการส่งเสริมให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน           นายเอกรัตน์  ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอมุ่งมั่นนำเสนอโอกาสที่จะช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงประกันชีวิต และประกันสุขภาพ รวมถึงบริการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมครบวงจร เพื่อมีส่วนสนับสนุนให้คนไทยได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน สืบเนื่องจากปัจจุบันที่อัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ของไทยสูงขึ้นราว 8-10% ต่อปี* โดยเฉพาะในกลุ่มโรคร้ายแรง หรือโรคที่ต้องใช้เวลาในการรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง หรือโรคทางสมอง ซึ่งจะยิ่งมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น การมีประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นการวางแผนป้องกันความเสี่ยง และช่วยให้คนไทยหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินหากต้องเข้ารับการรักษาเมื่อเจ็บป่วยอย่างไม่คาดฝัน นอกจากนี้ การมีประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรงที่เหมาะสม ยังช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีและรวดเร็วมากขึ้น การจับมือกับ แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส ในครั้งนี้ จึงตอบโจทย์เป้าหมายของเอไอเอ อีกทั้งยังช่วยสร้างระบบนิเวศของภาคธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อมอบโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการด้านการประกันชีวิตและสุขภาพได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับพันธกิจของเอไอเอ ที่ต้องการสนับสนุนผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ สำหรับสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกบัตร Max Card จะได้รับจากเอไอเอ ประกอบด้วย ฟรีประกันชีวิตความคุ้มครอง 50,000 บาท นาน 1 ปี สำหรับสมาชิกบัตร Max Card Plus เมื่อสมัครผ่าน แอปพลิเคชัน Max Me รับโค้ดส่วนลดเบี้ยประกันเอไอเอสูงสุด 20% ได้ทันที เมื่อแลก Max Point 300 แต้ม ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me โดยโค้ดส่วนลดสามารถนำไปใช้ซื้อประกันผ่านช่องทางตัวแทนเอไอเอทั่วประเทศ เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรงของเอไอเอ ซึ่งหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถกรอกข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อให้เจ้าหน้าที่เอไอเอติดต่อกลับ           “ในอนาคตเอไอเอยังได้เตรียมขยายความร่วมมือไปยังตลาดและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้คนไทยทั่วประเทศได้เข้าถึงประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรง ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการช่วยวางแผนทางการเงิน เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่มั่นคงในระยะยาว” นายเอกรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย           นายพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญกับ เอไอเอ ประเทศไทย โดยการผนึกกำลังนี้เป็นการรวมจุดแข็งของสององค์กรชั้นนำ เพื่อยกระดับการบริการสมาชิก Max Card กว่า 23 ล้านคน ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำมัน ซื้อกาแฟ ชอปปิง สะสมแต้ม สมัครสินเชื่อ ไปจนถึงการสมัครประกันชีวิต และสุขภาพ ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างมูลค่าทางธุรกิจ แต่ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ กลุ่มพีทีจี เอ็นเนอยี ที่อยากให้คนไทย 'อยู่ดี มีสุข'           นอกจาก สมาชิกบัตร Max Card จะได้รับความสะดวกในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิตที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ และสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายจากเอไอเอ  ทางเรายังได้มอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับสมาชิกที่สมัครประกันเอไอเอ ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me โดยเมื่อชำระเบี้ยประกันภัยปีแรก  ขั้นต่ำ 10,000 บาท ทุก ๆ 50 บาท สมากชิก Max Card จะได้รับ Max Point 1 แต้ม และ สมาชิก Max Card Plus จะได้รับ Max Point 2 แต้ม สูงสุด 1,000 แต้ม**           เราเชื่อมั่นว่าการเป็นพันธมิตรกับ เอไอเอ ประทศไทย จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจของ กลุ่มพีทีจี เอ็นเนอยี และทำให้เราเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านการมีประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน”           หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาชิกบัตร Max Card และ แอปพลิเคชัน Max Me สามารถติดต่อ PT Call Center โทร 1614 หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครอง กรุณาติดต่อตัวแทนประกันชีวิต หรือ AIA Call Center 1581

[PR News] PTG เปิดจุดรับบริจาค ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ

[PR News] PTG เปิดจุดรับบริจาค ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ

บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และบริษัท โอลิมปัส ออยล์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซหุงต้มพีที และสถานีบริการน้ำมัน และก๊าซ LPG ได้สนับสนุนบัตรเติมน้ำมันให้กับมูลนิธิกระจกเงามูลค่า 50,000 บาท เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสิ่งของที่ได้รับบริจาคไปให้พี่น้องผู้ประสบภัย และยังร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ขอเชิญชวนทุกท่านส่งต่อน้ำใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ซึ่งอยู่ในภาวะฟื้นฟู ซ่อมแซมที่พักอาศัยให้กลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ พีที จึงได้เปิดจุดรับบริจาคภายในปั๊มพีที ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเน้นขอรับบริจาคเครื่องใช้ ไฟฟ้าใหม่ และมือสอง รวมถึงอุปกรณ์และเคมีภัณฑ์ทำความสะอาด เพื่อรวบรวมให้ทางมูลนิธิกระจกเงานำ ไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยต่อไป ผู้ที่สนใจสามารถนำสิ่งของไปบริจาคได้ที่ปั๊มพีที ทั้ง 5 สาขา ดังนี้ สาขาประตูน้ำพระอินทร์ สาขาประเวศ ปากซอยอ่อนนุช 65 สาขาเทพารักษ์ กม.12 สาขาคลองสาม คลองหลวง สาขาปัฐวิกรณ์ หรือตรวจสอบพื้นที่รับบริจาคใกล้บ้านท่านได้ทาง Facebook Page : PT LPG

[ภาพข่าว] PTG คว้า 2 รางวัลระดับสากลจากเวที HR Asia Awards

[ภาพข่าว] PTG คว้า 2 รางวัลระดับสากลจากเวที HR Asia Awards

          บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จํากัด (มหาชน) (PTG) ผู้นำด้านบริการในธุรกิจพลังงานแบบครบวงจร คว้า 2 รางวัลระดับสากล “HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2024” และรางวัล "Diversity, Equity, Inclusion Awards" จากเวที HR Asia Awards ท่ามกลางองค์กรระดับโลกทั่วเอเชียที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในครั้งนี้  ถือเป็นรางวัลต่อเนื่องปีที่ 4  โดยมี ดร.วัลภา สันติธรรมารักษ์ Chief Strategy and Transformation Officer เป็นตัวแทนรับมอบ    และการที่ได้รับ 2 รางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและดูแลบุคลากรอย่างต่อเนื่อง สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่หลากหลาย มีความเท่าเทียม และให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน ถือเป็นความภาคภูมิใจในความสำเร็จนี้  โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรให้เป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไป

[PR News] PTG เป็น Title Sponsor รายใหม่ โมโตจีพี ปี5

[PR News] PTG เป็น Title Sponsor รายใหม่ โมโตจีพี ปี5

          พร้อมกระหึ่ม! รัฐ-เอกชนผนึกแถลงนับถอยหลังสู่กรังด์ปรีซ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก “โมโตจีพี” ปีที่5 บนแผ่นดินไทย พร้อมเปิดตัวถ้วยรางวัล ThaiGP2024           รัฐบาลไทยผนึกภาคเอกชน แถลงความพร้อมโค้งสุดท้ายสู่สุดยอดศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก “PT Grand Prix of Thailand 2024”  ที่แฟนความเร็วทั่วโลกรอคอย ชูความพร้อมเดินเครื่องเต็มระบบ บูรณาการความร่วมมือทุกมิติ พร้อมเปิดตัวโทรฟี่ ThaiGP สง่างามด้วยธีม “บัลลังก์เจ้าแห่งความเร็ว” สไตล์ไทยโมเดิร์นผสานความงดงามปราสาทหินพนมรุ้ง โดยมีการนำชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์มาเป็นส่วนหนึ่งของถ้วยรางวัล กลางถ้วยมีสัญลักษณ์การพนมไหว้ “สวัสดี” สื่อถึงการต้อนรับอันอบอุ่นและการให้ความเคารพในแบบไทย เผยภายในงานจะได้พบกับจุดไฮไลท์ใหม่ Thai Thai Pavilion นำเสนอเสน่ห์แบบไทยสุดอลังการ 25-27 ต.ค.นี้ที่ จ.บุรีรัมย์ การันตีชื่อชั้นความมันส์ พร้อมสร้างความประทับใจและความสุขครบเครื่องระดับโลกสู่แฟนกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกแล้ว           กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวนับถอยหลังการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “PT Grand Prix of Thailand 2024” ศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก  ระหว่าง 25- 27 ตุลาคม 2567 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์           ที่สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพ : ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้สนับสนุนภาครัฐและเอกชน นำโดย, จังหวัดบุรีรัมย์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมการขนส่งทางบก, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด (ดูคาติ ไทยแลนด์) รวมทั้ง อินฟลูเอนเซอร์ แพร ทวินันท์ เพิ่มพูน และ  ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ทัพสื่อมวลชน-ผู้สนับสนุนร่วมงานมากมาย           พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว “ถ้วยรางวัลการแข่งขันหรือโทรฟี่” ThaiGP ประจำปี 2024 ด้วยธีม “บัลลังก์เจ้าแห่งความเร็ว” ลักษณะไทยโมเดิร์น ผสานความงดงาม “ปราสาทหินพนมรุ้ง” ส่วนกลางถ้วยมีสัญลักษณ์การพนมไหว้ “สวัสดี” สื่อถึงการต้อนรับอันอบอุ่นและการให้ความเคารพในแบบไทย “ตัวเลข ๑ ของไทย” อยู่ตรงกลางและด้านล่างจะเป็นลวดลายไทย ส่วนวัสดุของตัวถ้วยมีการดัดแปลงนำ “ชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์” มาเป็นส่วนหนึ่งของถ้วยรางวัล เช่น ตัวน็อต และ เฟรมอลูมิเนียม 5 แผ่น สื่อถึงการจัดการแข่งขันโมโตจีพีที่ประเทศไทยเป็นปีที่ 5 ด้วยสีทองและดำที่เป็นสีแห่งเกียรติยศ ความแข็งแกร่ง ความสง่าและทรงคุณค่า การออกแบบสอดผสานความงดงามแบบไทยสู่สายตาชาวโลก           ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โมโตจีพี ถือเป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลกรายการใหญ่ที่สุดที่มีการจัดในประเทศไทย มีผู้ติดตามชมมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก โอกาสสำคัญที่จะได้แสดงศักยภาพมาตรฐานการจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติฝีมือคนไทยและพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาไทยในทุกมิติ รวมทั้งช่วยผลักดันการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง           “นับถอยหลังอีกเพียงไม่ถึง 1 เดือน จะเข้าสู่สุดสัปดาห์แห่งประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตไทย จากความร่วมแรง    ร่วมใจของหน่วยงานทั้งส่วนกลาง-ภูมิภาค ภาคเอกชน-ประชาชนที่ร่วมกันวางแผนงานเป็นอย่างดีนั้น จะทำให้การจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะบรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลตั้งไว้ รวมทั้งทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างราบรื่นและประทับอยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดไป เป็นสนามแข่งขันที่ถูกยกย่องว่าที่ดีสุด มีความสุขที่สุดในโลก ครบเครื่อง คุ้มค่าที่สุด ตามเป้าหมายสำคัญของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะใช้ “มหกรรมกีฬา” ในการเป็นแรงส่งสู่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องทั้งระบบ สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม”           นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTGกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 5 ของการแข่งขันโมโตจีพีบนผืนแผ่นดินไทย แต่เป็นปีแรกของ PTG ในฐานะ Title Sponsor  รายใหม่ของการแข่งขัน ยาวนานต่อเนื่องถึง 3 ปี สิ่งหนึ่งที่ทาง PTG มองว่าสำคัญไม่แพ้กันคือการได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาประเทศไทยตามสโลแกน “บริษัทพลังงานของคนไทย เพื่อเติมความสุขให้คนไทยอยู่ดีมีสุข” นั่นคือการได้ประชาสัมพันธ์ประเทศสู่สายตาคนทั่วโลก แสดงศักยภาพคนไทยและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของคนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง           “ขอเชิญชวนทุกท่านให้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ระดับโลก ในสีสันที่แตกต่างออกไปในครั้งนี้ ภายใต้กิจกรรมมากมายที่เตรียมไว้ต้อนรับที่ PTG Pavilion โดยได้ยกทัพแบรนด์ในเครือของ PTG ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น PT Station, PT Maxnitron, Autobacs, กาแฟพันธุ์ไทย, Coffee World, Max Card Plus ฯลฯ ขนสิทธิพิเศษ ของรางวัล และกิจกรรมสนุกๆ ให้ร่วมลุ้น แลก แจก ชม ช็อป อย่างเต็มอิ่มจุใจ รวมทั้งกิจกรรมสุด Exclusive ที่แฟนๆ จะได้กระทบไหล่นักแข่งคนดังทุกรุ่นแบบใกล้ชิด ซึ่งจะมีที่ PTG Pavilion ที่เดียวเท่านั้น คือ กิจกรรม Hero Walk และ Meet and Greet ซึ่งจะมีนักแข่งจากทุกคลาสไม่ว่าจะเป็น MotoGP Moto2 Moto3 แฟนๆ จะสามารถ ถ่ายภาพและขอลายเซ็นได้อย่างใกล้ชิด โดย PTG มุ่งมั่นและตั้งใจ ที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่แฟนมอเตอร์สปอร์ตจากทั่วโลกได้มาสัมผัสกับประสบการณ์อันยิ่งใหญ่นี้ด้วยกัน”           นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง กล่าวว่า หนึ่งในไฮไลต์ของการจัดโมโตจีพีวิถีไทยที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุด นอกจากจะได้ชมเรซที่สนุกสุดมันส์ แฟนความเร็วจากทั่วโลกยังได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมบันเทิงในรูปแบบของมอเตอร์สปอร์ตเฟสติวัล ซึ่งน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง เตรียมจัดเต็มความสนุกตลอดทั้ง 3 วัน บริเวณลานกิจกรรมเพื่อให้ผู้ชมได้สนุกเต็มอิ่ม ครบรส ได้แก่ ประสบการณ์สุด Exclusive ใน Chang House ที่จะได้รับชมการแข่งขันโมโตจีพีในเต็นท์ติดแอร์ขนาดใหญ่ วงดนตรี และดีเจ พร้อมมีผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติตราช้างบริการตลอดทั้งวัน           รวมทั้งคอนเสิร์ต Chang Music Connection ตลอด 3 วัน เริ่มต้นวันแรก วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พบกับ “ยังโอม” เจ้าพ่อฮิปฮอปขวัญใจวัยรุ่น และปิดท้ายค่ำคืนกับศิลปินลูกทุ่งขวัญใจชาวอิสาน อย่าง “ก้อง ห้วยไร่”, วันเสาร์ที่   26 ตุลาคม สนุกกันต่อกับการแข่งขัน “ศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทย” โดยมีการประกบคู่ชกสุดมันส์ด้วยกันถึง 7 คู่ โดยมีไฮไลท์คู่เอกอยู่ที่ ยอดกตัญญู จิตรเมืองนนท์ ปะทะ เพชรสมาน ส.สมานการ์เมนท์ เอาใจแฟนมวยทั้งไทย           และต่างชาติอย่างเต็มที่ และปิดท้ายค่ำคืนพบกับ “จ๊ะ นงผณี” ลูกทุ่งตัวแม่สุดเซ็กซี่  ส่วนวันสุดท้าย อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม ปิดฉากโมโต จีพี 2024 ไปกับคอนเสิร์ตสุดมันส์จากศิลปินสุดกวนที่ยกมาทั้งแก็งอย่าง “แจ๊ส สปุ๊กนิค       ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก” และมียังมีจุดบริการ Chang Shuttle Station  บริการ “ชัตเติ้นแต๋น” นับร้อยคัน มาใช้ใน การรับ - ส่งผู้ชมสู่เซอร์กิต ซึ่งมีที่เดียวในโลก คอยรับส่งแฟนๆ กันแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย           ด้านนายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า สนามช้างฯพร้อมเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะตลอดทั้งปีมีอีเวนต์ต่างๆ มากมาย ที่ต้องรองรับมาตรฐานระดับโลกทั้ง FIM และ FIA ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นผิวสนาม เจ้าหน้าที่บุคลากร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่พรั่งพร้อม ซึ่งปีนี้จะมีจุดเล็กๆ ที่เพิ่มมิติการแข่งขันในสนุก เร้าใจมากยิ่งขึ้นก็คือเรื่อง Misano Curve ที่ปีที่แล้วได้ทำเพิ่ม 1 จุด และปีนี้เพิ่มเป็น 3 จุด ที่โค้ง 1 โค้ง 5 และโค้ง 8 ซึ่งจะส่งผลให้การแข่งขันขับเคี่ยวกันสนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม           ส่วนลานกิจกรรมปีนี้ยังได้พบกับครั้งแรกของ Thai Thai Pavilion ที่มีคอนเซ็ปต์ต่อยอดจากโมโตจีพีวิถีไทย ที่จะนำเสนอเสน่ห์ วัฒนธรรมของไทย ทั้งงานศิลปะ หัตถกรรม ของกิน ของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน นอกจากนี้ด้านการอำนวยความสะดวกของผู้ชม จังหวัดบุรีรัมย์เป็นแกนหลักในประสานไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบขนส่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อาสาสมัคร และที่พัก เพื่อให้ทุกๆ อย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดรองรับแฟนความเร็วผู้มาเยือนให้มีช่วงเวลาที่สุดแสนจะประทับใจ รับรองว่ามาชมการแข่งขันที่สนาม สนุกกว่ารับชมที่จอโทรทัศน์ที่บ้านแน่นอน           ปีนี้เรียกได้ว่าจะเป็นปีที่มีความสุขที่สุดของแฟน MotoGP ประเทศไทย เพราะนอกจากจะได้เชียร์นักบิดระดับโลกที่ชื่นชอบ ยังได้เชียร์ “ก้อง สมเกียรติ จันทรา” นักบิดที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย แข่งขันทิ้งท้ายในรุ่น Moto2 ก่อนที่ในฤดูกาลที่จะถึงในปี 2025 นี้ จะได้ขยับไปแข่งขันในรุ่นใหญ่ที่สุดของโลก MotoGP ได้สำเร็จ เป็นคนไทย  คนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการกีฬารถจักรยานยนต์ของไทย           นอกจากนี้ยังมี PT Grand Prix of Thailand 2024 Expo ที่เนรมิตลานกิจกรรมด้านหน้าสนามช้างอินเตอร์-  เนชั่นแนลเซอร์กิต เป็นงานเอ็กซ์โปสำหรับคนมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่ 09.00-20.00 น. ตลอด 3 วันเต็ม โดยมีทั้ง     พาวิลเลียนขนาดยักษ์และร้านค้ารายย่อยมากมาย ได้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), น้ำแร่ธรรมชาติ  ตราช้าง, ฮอนด้า, ยามาฮ่า, โตโยต้า, ดูคาติ, กรมการขนส่งทางบก โดย กปถ. ฯลฯ ที่พร้อมสร้างสีสัน ความสนุกให้แก่แฟนๆ ได้ช็อปสินค้าแบรนด์ดังมากมาย รวมทั้งครั้งแรกกับการเนรมิต Thai Thai Pavilion ได้ส้มผัสความสวยงามของวัฒนธรรมไทย ชม ชิมเลือกซื้อของดีของขึ้นชื่อ ร้านอาหารชื่อดังจากบุรีรัมย์และทั่วประเทศมาไว้ในงาน ครบจบที่เดียว โดยลานกิจกรรมนี้ผู้ถือบัตรชมการแข่งขันทุกประเภทเข้าชมฟรี หรือซื้อบัตรแอดมิชชั่น (ADMISSION) ราคา 100 บาทต่อวัน หรือเหมา 3 วัน 200 บาท           บัตรเข้าชมการแข่งขันยังสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนบัตรแอดมิชชั่น (ADMISSION)  ซื้อบัตรได้ที่บูธ All Ticket หน้างาน วันที่ 25-27 ต.ค. เท่านั้น! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram