#PCC


PCC แจ้งเซ็นสัญญาการไฟฟ้านครหลวง 19.77 ล้านบาท

PCC แจ้งเซ็นสัญญาการไฟฟ้านครหลวง 19.77 ล้านบาท

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ PCC ขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัท พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น ร้อยละ 99.96 ได้ลงนามในสัญญา ซื้อ TOU Meter with RS232 port, 50(150) A, 230/400 V 3 Phase 4 Wire จํานวน 3,300 เครื่อง ด้วยวิธีคัดเลือก กับ การไฟฟ้านครหลวง เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 มูลค่าสัญญารวม 19,773,600.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ) ทั้งนี้ มีกําหนดการส่งมอบเป็น 2 งวด ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา โดยมีเงื่อนไขการชําระเงิน ตามงวดงานที่ส่งมอบ

PCC  รายได้ 9 เดือน 4.3 พันลบ. โต 28.49%  ยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้า-งานระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ หนุน

PCC รายได้ 9 เดือน 4.3 พันลบ. โต 28.49% ยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้า-งานระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ หนุน

          บมจ.พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น หรือ PCC ฟอร์มแกร่ง รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ กวาดรายได้ 4,307.95 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.49 เทียบช่วงปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิ 282.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.67 เทียบช่วงปีก่อน หลังยอดขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายเพิ่ม งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงและงานระบบควบคุมสำหรับระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหนุน ด้าน “กิตติ  สัมฤทธิ์” ซีอีโอ มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน คาดการณ์แนวโน้ม Q4/67 เติบโตดี  เดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการอย่างต่อเนื่อง           นายกิตติ  สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PCC) ผู้ให้บริการโซลูชั่นนวัตกรรมด้านดิจิทัลกริดอัจฉริยะ (Smart Grid Digitalization) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2567 ของกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 4,307.95 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 955.11 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.49 เทียบช่วงปีก่อนมีรายได้เท่ากับ 3,352.84 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนโครงสร้างรายได้ แบ่งเป็น รายได้จากการขาย ร้อยละ 48.6 และรายได้จากการให้บริการและโครงการก่อสร้าง ร้อยละ  51.2 ของรายได้รวม           ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯมีรายได้จากการขายสำหรับงวด 9 เดือนปี 2567 เท่ากับ 2,093.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.83 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1  เทียบช่วงปีก่อนมีรายได้เท่ากับ 1,955.87 ล้านบาท เนื่องจากการขายสินค้าให้กลุ่มลูกค้าภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้รับเหมาหลักของงานสถานีไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ปัจจัยหลักมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้ 1.รายได้ขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง ได้แก่ หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย 2.รายได้ขายกลุ่มสินค้าสวิตช์ตัดตอนชนิดต่างๆ ได้แก่ โหลดเบรคสวิตซ์ 3.รายได้ขายระบบควบคุมและป้องกันสำหรับสถานีไฟฟ้า และ 4.รายได้ขายอุปกรณ์ไฟฟ้า ได้แก่ มิเตอร์ และ อุปกรณ์รีเลย์ป้องกัน           ขณะที่มีรายได้จากการให้บริการและโครงการก่อสร้างมีรายได้เท่ากับ 2,206.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  832.92 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.6  เทียบช่วงปีก่อนมีรายได้เท่ากับ 1,373.81 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโต ดังนี้ 1.งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง จากงานโครงการสถานีไฟฟ้าแรงสูง 500/230 kV แม่เมาะและลำพูน 2.งานระบบควบคุมสำหรับระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ 3.งานบริการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ระบบควบคุมอุปกรณ์ในระบบจำหน่าย จากงานโครงการติดตั้งขยายของงาน FDI (Feeder Device Interface) 4 ภาค ซึ่งเป็นสัญญาต่อเนื่องของงานโครงการ SCADA ที่จบโครงการไปแล้ว และ 4. งานบริการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง จากการงานติดตั้งอุปกรณ์ โหลดเบรคสวิตช์           โดยงวด 9 เดือนปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 282.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.5 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.67 เทียบจากช่วงปีก่อนที่ 259.61 ล้านบาท สาเหตุหลักที่กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากการควบคุมต้นทุน และ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ           นายกิตติ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตที่ดีในไตรมาส 4/2567 โดยบริษัทมีการพัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ทกริดและโซลูชั่นส์พลังงานอัจฉริยะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ซึ่งสมาร์ทกริดเป็นระบบการจัดการพลังงานไฟฟ้าที่ช่วยให้การจ่ายพลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญในด้านพลังงานที่หลายประเทศกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนและลดการปล่อยคาร์บอน  พร้อมกันนี้ บริษัทยังเข้าร่วมประมูลโครงการอย่างต่อเนื่อง           นอกจากนี้ บริษัทฯได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ทำจากไผ่ (Bamboo-based Innovative Products) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการส่งเสริม การพัฒนาที่ยั่งยืน และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยไม้ไผ่สามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางธุรกิจในการสร้างนวัตกรรมที่ใช้วัสดุธรรมชาติและสามารถย่อยสลายได้ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวทางหลักของบริษัทในการพัฒนาโซลูชั่นที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคต และสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน [PR News]

[ภาพข่าว] PCC รับมอบโล่ “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” ผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้า

[ภาพข่าว] PCC รับมอบโล่ “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” ผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้า

          นายภัทราวุธ ศักดา (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท พรีไซซ อีเลคตริค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PCC  เข้ารับมอบโล่โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ปี 2567 สำหรับผลิตภัณฑ์ หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ (ที่ 3 จากซ้าย) ปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้มอบ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มุ่งสู่พลังงานสะอาด และความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามเป้าหมายของประเทศ ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่กฟผ. จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่  4 ตุลาคม 2567

live-sticky
LIVE