#ORI


ORI ยื่นไฟลิ่งหุ้นกู้ใหม่ขาย 10-13 ก.พ. 68

ORI ยื่นไฟลิ่งหุ้นกู้ใหม่ขาย 10-13 ก.พ. 68

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ยื่นไฟลิ่งเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 3 รุ่น คาดเปิดขายระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 ก.พ.นี้ ระดับความน่าเชื่อถือ “BBB+/Stable” จากทริสเรทติ้ง กางพอร์ตที่อยู่อาศัย 9 เดือน ยอดขายแกร่ง 26,849 ล้าน ทะลุ 77% ของเป้าหมายทั้งปี พร้อมแบ็คล็อกแกร่ง 47,329 ล้าน กรุงเทพฯ-ปริมณฑล-EEC-ภูเก็ต คาดทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 จาก 3 โครงการร่วมทุนสร้างเสร็จใหม่มูลค่าโครงการกว่า 7,430 ล้าน คว้าอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ “AAA” พร้อมรับการประเมิน CGR ระดับ 5 ดาวต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายมีจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40-4.50% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.85% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.15% ต่อปี โดย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ทริสเรทติ้ง ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุดดังกล่าวในวันที่ 10-11 และ 13 ก.พ. 2568 นี้           ที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.2567) บริษัทมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งกลุ่มบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI และคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL และบริษัทอื่นๆ ในเครือ รวมกันกว่า 26,849 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 77% ของเป้าหมายทั้งปี           ขณะเดียวกัน บริษัทยังมียอดโอนกรรมสิทธิ์จากทั้งกลุ่มโครงการร่วมทุน (Joint Venture หรือ JV) และกลุ่มโครงการที่ไม่ได้ร่วมทุน (Non-JV) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์สะสม 9 เดือน 10,502 ล้านบาท เมื่อประกอบกับรายได้จากธุรกิจที่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยที่บริษัทได้วางรากฐานกระจายพอร์ตไว้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ดัง 11 แห่ง ธุรกิจคลังสินค้าหลากทำเลเปิดดำเนินการแล้วรวมกว่า 270,414 ตร.ม. ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งเครือในช่วงดังกล่าวสะสมอยู่ที่ 1,318 ล้านบาท           “เรายังมียอดขายรอรับรู้รายได้ หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 สูงถึง 47,329 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้กระจายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ตลอดจนหัวเมืองท่องเที่ยวศักยภาพอย่างภูเก็ต ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เรามีทยอยรับรู้รายได้ได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจนถึงราวปี 2571” นายพีระพงศ์ กล่าว           ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทจะมีโครงการร่วมทุนสร้างเสร็จใหม่ทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,430 ล้านบาท ซึ่งมีแบ็คล็อกจาก 3 โครงการดังกล่าวแล้วกว่า 80% ได้แก่ 1.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) คอนโดมิเนียมเจาะตลาด Gen Y-Gen Z แห่งแรกของบริษัทในฝั่งธนบุรี ใกล้ MRT สิรินธร 2.โซ ออริจิ้น พหล 69 สเตชั่น (So Origin Phahol 69 Station) คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เพียง 50 เมตร และใกล้สนามบินดอนเมือง และ 3.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (Knightsbridge Space Sukhumvit-Rama 4) คอนโดมิเนียมใกล้ BTS พระโขนง           นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การกระจายพอร์ตธุรกิจของบริษัทไปสู่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ถือเป็นทิศทางที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน โดยแนวโน้มของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเข้ามามีส่วนช่วยสร้างสมดุล และสร้างรายได้ให้แก่ให้พอร์ต โดยในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2567 โรงแรมในเครือมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยถึง 75% ธุรกิจคลังสินค้ามีอัตราการเช่าเฉลี่ยถึง 90%           จากผลการดำเนินงานที่ต่อเนื่องและมั่นคง ใส่ใจสังคมและชุมชนรอบข้าง ส่งผลให้บริษัทได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ถึง 4 ปีซ้อน พร้อมทั้งได้รับการปรับระดับจาก AA ในปี 2566 สู่ระดับ “AAA” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทด้านความยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และความมุ่งมั่นของบริษัทในการรักษามาตรฐานผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน พัฒนาองค์กรให้เติบโต บริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ขณะเดียวกัน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในรายงาน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies หรือ CGR ประจำปี 2567 ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ต่อเนื่องถึง 5 ปีซ้อนอีกด้วย           ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย           1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท           2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก           3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์           4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI กางพอร์ตธุรกิจใหม่ ขึ้นแท่น New S-Curve

ORI กางพอร์ตธุรกิจใหม่ ขึ้นแท่น New S-Curve

          ออริจิ้น กางพอร์ต 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ โรงแรม-คลังสินค้า-บริการ ขึ้นแท่น New S-Curve ขับเคลื่อนสร้างสมดุลการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมโรงแรมแบรนด์ดัง 11 แห่ง 2,657 ห้อง คลังสินค้าทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง 10 แห่ง และบริการอสังหาฯครบวงจรดูแล 44,650 ครอบครัว แย้มอัตราเข้าพักโรงแรมเดือน ต.ค.-พ.ย. ทะลุ 75% อัตราเช่าคลังสินค้าทะลุ 90% หลังตลาดเข้าช่วงไฮซีซั่นและฟรีวีซีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ด้านธุรกิจบริการอสังหาฯ ครบวงจร กวาดรายได้ 9 เดือนกว่า 1,205 ล้าน วางรากฐาน New S-Curve เติบโตยั่งยืน           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ตลอดช่วงการดำเนินธุรกิจ 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงไม่ได้พัฒนาเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย (Residential) แต่ได้วางรากฐานการกระจายพอร์ตสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) อย่างธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร           สำหรับธุรกิจโรงแรม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) มีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 11 แห่ง 2,657 ห้องพัก คิดเป็นมูลค่า REIT รวมกว่า 16,840 ล้านบาท เติบโตผ่านทั้งการจับมือกับเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก อย่างเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ให้บริการโรงแรมถึง 5 แห่ง อาทิ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ, ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง, อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ สุขุมวิท การซื้อกิจการโรงแรมแบรนด์ ibis ในเครือแอคคอร์ (Accor) ทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว 3 แห่ง ตลอดจนการซื้อโรงแรมในทำเลศักยภาพมารีโนเวทเพื่อดำเนินการใหม่เพิ่มเติม           ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้า ภายใต้บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด มีคลังสินค้าทั้งแบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit Warehouse) และคลังสินค้าแบบสำเร็จรูป (Ready-Built Warehouse) กระจายตัวอยู่ 10 แห่ง ในหลากหลายทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 403,447 ตร.ม.           “สิ่งที่เราพยายามลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเข้ามาช่วยให้พอร์ตธุรกิจเราค่อยๆ สมดุลมากขึ้น ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 4/2567 กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 75% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากเริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้วในปีนี้ และเป็นที่รู้จักของตลาดมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ภาครัฐมีนโยบายฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ฝั่งคลังสินค้าเองก็มีอัตราการเช่าที่แข็งแกร่งทะลุ 90%” นายพีระพงศ์ กล่าว           นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ภายใต้บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI นั้น ปัจจุบัน ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งควบคุมงานก่อสร้าง บริหารนิติบุคคล บริหาร Investment Property บริการออกแบบและตกแต่งภายใน บริการด้านความสะอาด รวม 229 โครงการ คิดเป็นจำนวนครอบครัวภายใต้การดูแลกว่า 44,650 ครอบครัว มีรายได้รวม 9 เดือน 1,205 ล้านบาท และกำไร 224 ล้านบาท           ขณะเดียวกันธุรกิจบริหาร Investment Property ภายใต้บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) ก็มีอัตราเช่าเฉลี่ยสูงถึง 81% สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยแบบปล่อยเช่าทั้งในโซนย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) และย่านเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังมีความต้องการจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง           สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI เผย 9 เดือนกำไร 1,317ล้าน Q4/67 เปิด 3โครงการใหม่ต่อยอด

ORI เผย 9 เดือนกำไร 1,317ล้าน Q4/67 เปิด 3โครงการใหม่ต่อยอด

          ออริจิ้น กวาดยอดโอน 9 เดือนกว่า 10,500 ล้านบาท และกำไรกว่า 1,317 ล้านบาท  ขณะที่บอร์ดออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI แต่งตั้ง “ปิติ จารุกำจร” นั่ง Co-CEO, Chief Design Officer และควบ CEO บริษัทย่อย “ออริจิ้น เวอร์ติเคิล” ไตรมาส 4/2567 เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ 7,430 ล้าน มีแบ็คล็อกแล้วเฉลี่ยกว่า 80%           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 9,638 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,317 ล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท จึงมีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญจ่ายปันผลสำหรับกำไรสะสมและผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 1 มกราคม - 30 กันยายน 2567 ในอัตรา 0.021 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายเป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 51.54 ล้านบาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2567           ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้ง นายปิติ จารุกำจร ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO), ประธานเจ้าหน้าที่สายงานออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Chief Design Officer) บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ORIGIN VERTICAL) เพื่อเข้ามาช่วยดูแลการเติบโตและขับเคลื่อนธุรกิจคอนโดมิเนียมของบริษัทให้เดินหน้าไปได้อย่างแข็งแกร่ง           สำหรับนายปิติ จารุกำจร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และระดับปริญญาโท จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมก่อสร้างและการจัดการ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาสเตต มีประสบการณ์คร่ำหวอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี เชี่ยวชาญทั้งงานด้านวิศวกรรม และงานบริหารโครงการ โดยเฉพาะกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม เข้ามาร่วมงานกับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2564 และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทเดินหน้าไปได้ตามเป้าหมาย           นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงไตรมาส 4/2567 นั้น บริษัทจะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,430 ล้านบาท ได้แก่ 1.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) คอนโดมิเนียมเจาะตลาด Gen Y-Gen Z แห่งแรกของบริษัทในฝั่งธนบุรี ใกล้ MRT สิรินธร 2.โซ ออริจิ้น พหล 69 สเตชั่น (So Origin Phahol 69 Station) คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เพียง 50 เมตร และใกล้สนามบินดอนเมือง และ 3.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (Knightsbridge Space Sukhumvit-Rama 4) คอนโดมิเนียมใกล้ BTS พระโขนง โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ เฉลี่ยกว่า 80% ของมูลค่าโครงการรวม           “เราเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของกำลังซื้อ จากยอดขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งล่าสุด เมื่อช่วงปลาย ต.ค.-ต้น พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกค้ากลับมามีความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก จนส่งผลให้เรามียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1,088 ล้านบาท เราประเมินด้วยว่ามาตรการของภาครัฐบางส่วนที่กำลังจะหมดลงช่วงสิ้นปีนี้ เช่น การลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง น่าจะเป็นตัวเร่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ได้เร็วขึ้น และส่งผลดีต่อภาพรวมทั้งตลาดในไตรมาสสุดท้าย” นายพีระพงศ์ กล่าว ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI เปิดตัว 3 คอนโดหรูในภูเก็ต มูลค่า 5,500 ล้าน เจาะกลุ่มลูกค้าไทย-ต่างชาติ รับไฮซีซั่น

ORI เปิดตัว 3 คอนโดหรูในภูเก็ต มูลค่า 5,500 ล้าน เจาะกลุ่มลูกค้าไทย-ต่างชาติ รับไฮซีซั่น

          ORI ส่ง ออริจิ้น เวอร์ติเคิล บริษัท ในเครือ สยายปีกสู่ภูเก็ต เปิด 3 โครงการคอนโดใหม่มูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท กระจายทำเลเชิงทะเล-กะตะ-ใจกลางเมือง ชูโครงการ “Origin Lagoon” มิกซ์ยูสระดับลักชัวรี พร้อมเปิดขายเฟสแรก 23 พ.ย. นี้ ตั้งเป้ารองรับตลาดท่องเที่ยวและการลงทุนของภูเก็ต           นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เนื่องจากเป็นทั้งเมืองท่องเที่ยว เมืองแห่งธุรกิจ เมืองแห่งเวชศาสตร์ฟื้นฟู เมืองพักผ่อนตากอากาศ รวมถึงเป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ โดยเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากส่วนกลางรายแรกๆ ที่เดินหน้าเข้ามาบุกตลาด และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง บนทำเลฮอตของภูเก็ต 3 ทำเล มูลค่าโครงการรวม 5,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้ รองรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงไฮซีซั่น           สำหรับทั้ง 3 โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) โครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เพียง 2 นาที* ต่อยอดความสำเร็จของโครงการดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (The Origin Centre Phuket) ในทำเลใกล้เคียงกัน ซึ่งเปิดตัวในปี 2566 และสามารถปิดการขายได้ใน 6 สัปดาห์ 2.โซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) คอนโดมิเนียมใกล้หาดกะตะ เพียง 500 เมตร ตอบโจทย์คนรักกีฬาทางน้ำ และ 3.โซ ลากูน เชิงทะเล (So Lagoon Cherngtalay By Origin) คอนโดมิเนียมลักชัวรี 8 ชั้น ใกล้ Boat Avenue ที่จะเป็นพื้นที่เฟสแรกของโครงการเมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูส “ออริจิ้น ลากูน เชิงทะเล ภูเก็ต” (Origin Lagoon Cherngtalay Phuket)           ทั้งนี้ ออริจิ้น ลากูน เชิงทะเล ภูเก็ต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 16 ไร่ เตรียมผนึกกำลังหลากหลายบริษัทในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่บูรณาการทุกองค์ประกอบของการท่องเที่ยวและการพักผ่อนเข้าด้วยกัน เติมเต็มไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์ ผสมผสานระหว่างลักชัวรี วิลลา ภายใต้ชื่อ บัลโค เชิงทะเล ภูเก็ต (Balco Cherngtalay Phuket) Lifestyle Hotelตลอดจนศูนย์เวลเนส (Wellness Complex) และมีคอนโดมิเนียม โซ ลากูน เชิงทะเล เป็นพื้นที่เฟสแรก ซึ่งจะเริ่มเปิดขายในเดือน พ.ย.นี้           “เมื่อช่วงต้นปี เราเปิดตัวโครงการโซ ออริจิ้น บางเทา บีช ภายใต้มิกซ์ยูสออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด ภูเก็ต และได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย มียอดขายสะสมสูงถึงกว่า 80% เรามองว่าการพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสำคัญ และช่วยสร้างสีสันให้กับจังหวัดภูเก็ต เราจึงมั่นใจว่าการเริ่มต้นพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว           สำหรับโซ ลากูน เชิงทะเล (So Lagoon Cherngtalay By Origin) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมLow-rise 3 อาคาร 511 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ บนทำเลเชิงทะเล-บางเทา ติดถนนบ้านดอนเชิงทะเล มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท* มีแบบห้องหลากหลายตั้งแต่สตูดิโอจนถึง 3 ห้องนอน ขนาด 26-105 ตร.ม. รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์หรูหรา และเป็นศูนย์กลางการเดินทางเพื่อไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ของภูเก็ตได้อย่างสะดวก อยู่ไม่ไกลจากหาดบางเทา หาดที่ขึ้นชื่อว่าพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดในภูเก็ต ราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาท ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1498           ขณะที่ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 3 อาคาร 585 ยูนิต และ 2 ร้านค้า ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท โครงการนี้ตั้งอยู่ใจกลางภูเก็ต ห่างจากห้างเซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า เพียง 2 นาที ทำให้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติที่มองหาความสะดวกสบายใจกลางเมือง จุดเด่นของโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางใหญ่กว่า 1 ไร่ พร้อม Clubhouse เเบ่งออกเป็น Fitness, Sauna, Steam พร้อมสระว่ายน้ำยาวกว่า 30 เมตร พร้อมที่จอดรถกว่า 45%. ไฮไลท์สำคัญของโครงการคือรูปเเบบห้องหน้ากว้างกว่า 5 เมตร เริ่มต้นที่ 1 ห้องนอน ขนาด 26-30 ตร.ม,และ 2 ห้องนอนขนาด 48 ตร.ม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท           ด้านโซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 4 อาคาร 686 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ใกล้หาดกะตะ เพียง 500 เมตร  มูลค่าโครงการราว 1,650 ล้านบาท ตัวโครงการตั้งอยู่บน Surfer Destination ของเกาะภูเก็ต ตอบโจทย์คนรักกีฬาทางน้ำด้วยทำเลใกล้หาดกะตะ สามารถเดินไปได้เพียง 5 นาที โครงการตกแต่งเป็น Resort Lifestyle  จัดเต็มกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ รวมกว่า 2,700 ตร.ม. อาทิ Pool Lounge, Party Room, Play Room, Cabana Yard และ ให้คุณได้ดื่มด่ำวิวพระอาทิตย์ขึ้นจาก Rooftop รูปแบบห้องพักภายในโครงการประกอบด้วย ห้องสตูดิโอ แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 26-65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท           ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย  1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198  ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

ออริจิ้น-บริทาเนีย ฉลองปิดยอดขายงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 กว่า 1,088 ล้าน

ออริจิ้น-บริทาเนีย ฉลองปิดยอดขายงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 กว่า 1,088 ล้าน

          ออริจิ้น เวอร์ติเคิล – บริทาเนีย ตอกย้ำผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า และบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม สไตล์อังกฤษฟังก์ชันตอบโจทย์ ประกาศความสำเร็จในงานบิ๊กอีเวนท์มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กวาดยอดขายทะลุ 1,088 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังแคมเปญ “จุ่มเด็ด Secret Deals” สร้างสีสัน พร้อมหนุนยอดโครงการใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน แบรนด์คอนโดหรู “พาร์ค ออริจิ้น” คอนโดคนรุ่นใหม่ “ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์เพลย์” และบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม “บริทาเนีย” นำทีมแบรนด์โครงการขายดี เลย์เอาท์ ฟังก์ชันโดดเด่น ขยายเวลารับโปรพิเศษ โปรเดียวกับงานมหกรรมบ้านและคอนโดต่อเนื่องถึง 10 พ.ย.นี้           นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมออกบูธงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย. ที่ผ่านมา เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ สามารถกวาดยอดขายบ้านและคอนโดมิเนียมรวมกัน คิดเป็นยอดขายรวมกว่า 1,088 ล้านบาท ทุบสถิติยอดขายที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเข้าร่วมงานของเครือ และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 600 ล้านบาท           “การจัดงานในช่วง 4 วันที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยช่วงปลายปี อีกส่วนหนึ่งมาจากโปรโมชั่นเด็ดของเราในงานครั้งนี้ จุ่มเด็ด Secret Deals ที่เราขนทัพโครงการใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน หลากหลายแบรนด์ หลากหลายเซ็กเมนท์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท มีทั้งดีลผ่อนเบาๆ มีสิทธิ์ผ่อน 0% มีส่วนลดพิเศษ และมีสิทธิ์จุ่มรับ Art Toys เมื่อประกอบกับทำเลที่ตั้ง ภาพรวมฟังก์ชัน การออกแบบเลย์เอาท์ พื้นที่ในแต่ละโครงการ ตลอดจนนโยบายภาครัฐและการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงทำให้ลูกค้าตัดสินใจภายในงานได้ง่ายขึ้น” นายกฤษณ์ กล่าว           สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่ได้รับการตอบรับยอดเยี่ยม คือแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) อาทิ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ , พาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน , พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า มีฟังก์ชันห้องที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย คุ้มค่า และแบรนด์คอนโดมิเนียมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) อาทิ คอนโด ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ ลาดพร้าว อินเตอร์เชนจ์, ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น, ออริจิ้น ปลั้ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น, ออริจิ้น ปลั๊ก & เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น ได้รับการตอบรับยอดเยี่ยมจากกลุ่ม Gen Y-Z ด้วยห้องเพดานสูง 4.2 เมตร การเป็นโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly)           ด้านนายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ความสำเร็จส่งท้ายปีของบริทาเนียในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการยกทัพโครงการบ้านสไตล์อังกฤษ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต มาจากทุกทำเลทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ตั้งแต่ โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก, โซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ, โซนกรุงเทพฯ ตอนใต้ โซนกรุงเทพฯ ตะวันตก รวมถึงทำเลเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจังหวัดอื่นๆ พร้อมทั้งมอบส่วนลดภายใต้แคมเปญ จุ่มเด็ด Secret Deals สูงสุดถึง 5 ล้านบาท           ทั้งนี้ 4 แบรนด์หลักของบริษัท ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) ไบรตัน (Brighton) ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทุกแบรนด์ เนื่องจากมีฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่น ใกล้เส้นทางหลัก และทางด่วน ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ คอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม โรงพยาบาล มีแพ็คเกจบริการหลังการขายดูแลบ้านแบบครบวงจรภายใต้ Britania Craft Services ฟรีสูงสุดถึง 3 ปี โดยมีแบรนด์บริทาเนีย ที่ได้รับการตอบรับอย่างโดดเด่นที่สุด เนื่องจากมีโครงการครอบคลุมความต้องการในทำเลต่างๆ มากที่สุด รวมถึงสินค้าส่วนใหญ่เป็นมิกซ์โปรดักท์ ผสมผสานทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ภายในโครงการเดียว จึงมีทางเลือกและระดับราคาที่หลากหลายให้ผู้บริโภคในแต่ละทำเล ตัวอย่างโครงการขายดี อาทิ บริทาเนีย เมกะทาวน์-บางนา, บริทาเนีย บางนา กม.26, บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17           จากกระแสตอบรับที่ดี เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงบริทาเนีย จึงได้ขยายเวลาการจัดโปรโมชั่นพิเศษจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด เพิ่มไปอีก 7 วัน โดยลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 พ.ย.นี้ จะได้รับทั้งโปรโมชั่นจากจุ่มเด็ด Secret Deals รวมถึงโปรโมชั่น Top up อื่นๆ อาทิ ลุ้นรับ iPhone 16 128GB ทุกยูนิต สำหรับผู้ที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และรับสิทธิพิเศษได้ที่สำนักงานขายแต่ละโครงการ           สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 5 แบรนด์และกลุ่มเซ็กเมนท์ ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับ Mid-End ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท 5.กลุ่มแบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า (Branded Residences Villa) บ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ราคา 19-60 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 45 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 57,372 ล้านบาท           บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI กางพอร์ตอสังหาฯยืน1 EEC 37,000 ล้าน ชูกลยุทธ์เชื่อมอีโคซิสเท็มในเครือครบวงจร

ORI กางพอร์ตอสังหาฯยืน1 EEC 37,000 ล้าน ชูกลยุทธ์เชื่อมอีโคซิสเท็มในเครือครบวงจร

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รวมพลัง ออริจิ้น เวอร์ติเคิล-บริทาเนีย-ออริจิ้น โฮเทล-แอลฟา-พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น กางพอร์ตอสังหาฯครบวงจรเบอร์ 1 ใน EEC พัฒนาคอนโด-บ้าน-โรงแรม-คลังสินค้า ในชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา สะสมถึงปัจจุบันกว่า 37,000 ล้าน กว่า 12,000 ยูนิต 550 ห้องพัก และคลังสินค้าราว 199,000 ตร.ม. ชูกลยุทธ์ภาพใหญ่ “Origin EEC Empowered” เชื่อมโยงอีโคซิสเท็มอสังหาฯและบริการในเครือแบบครบวงจร เสิร์ฟตลาด Corporate-นักลงทุนที่สยายปีกปักหมุดโรงงาน-ฐานการผลิตใน EEC ประเมินความต้องการคลังสินค้าโต ลุยมอบบริการในที่พัก เสริมสวัสดิการ Corporate ดูแลพนักงาน-Expat ย้ายถิ่นฐานทำงาน             นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญระดับท็อปของประเทศ และเป็นพื้นที่ที่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญในการเข้ามาบุกเบิกพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นรายแรกๆ โดยตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทได้มีส่วนสร้างการเจริญเติบโตในพื้นที่ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ด้วยการพัฒนาโครงการทั้งคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร โรงแรม และคลังสินค้า สะสมในพื้นที่รวม 33 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการและมูลค่า REIT รวมกว่า 37,000 ล้านบาท และนับเป็นพอร์ตโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรที่สุดเป็นอันดับ 1 ใน EEC ขณะนี้           จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทและหลากหลายเซ็กเมนท์ใน EEC บริษัทเล็งเห็นความสำคัญถึงการมีส่วนสนับสนุนภาคธุรกิจต่างๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่นี้ บริษัทจึงได้ผนึกกำลังกับทุกบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เดินหน้ากลยุทธ์ “Origin EEC Empowered” ส่งพลังสู่ EEC ด้วยการรวมสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในเครือมาเชื่อมโยงเป็นอีโคซิสเท็ม และส่งมอบโซลูชั่นบริการแก่ลูกค้าภาคธุรกิจ (Corporate) แบบครบจบในที่เดียว (One-stop service)           “เราประเมินว่าคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC ไม่ได้มีแค่ลูกค้าทั่วไป ตลาดใน EEC วันนี้ ยังขยายขอบเขตไปถึงกลุ่มลูกค้า Corporate ที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ และต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับพนักงานชาวไทยที่ย้ายถิ่นฐานจากจังหวัดอื่น รวมถึงพนักงานชาวต่างชาติหรือ Expat ที่ย้ายถิ่นฐานจากต่างประเทศเข้ามาทำงาน เวลา Corporate เข้ามาจะไม่ได้หาแค่ที่อยู่อาศัย แต่ต้องการโซลูชั่นที่ช่วยให้สามารถทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น เราจึงรวบรวมที่อยู่อาศัยที่เราพัฒนาสะสมกว่า 12,000 ยูนิต โรงแรมทั้งในชลบุรี และระยอง 550 ห้องพัก พร้อมพื้นที่รองรับการจัดประชุมสัมมนา พื้นที่เช่าคลังสินค้า ตลอดจนบริการที่เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัย มารวมกันพร้อมเสิร์ฟในที่เดียว ซึ่งน่าจะช่วยให้แผนการขยายการลงทุนของบริษัทต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น”​ นายอภิสิทธิ์ กล่าว           ด้านนายปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ภายใต้การร่วมทุนระหว่างบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD กล่าวว่า โซน EEC เป็นพื้นที่ที่เศรษฐกิจเติบโตสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ย GDP ทั้งประเทศ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนของภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะ 5 ปี (2567-2571) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตั้งเป้าหมายดึงดูดการลงทุนเข้ามาในพื้นที่มูลค่า 5 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้านบาท จึงส่งผลให้ความต้องการโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย [caption id="attachment_10941" align="aligncenter" width="1920"] Screenshot[/caption]           “โรงงานและคลังสินค้า คือจุดเริ่มต้นของอีโคซิสเท็มใน EEC ปัจจุบัน แอลฟา มีโครงการคลังสินค้าในพื้นที่ EEC ทั้งสิ้น 5 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 199,000 ตร.ม. โดยบางส่วนทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้ส่งมอบแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 มีอัตราการเช่าเฉลี่ยประมาณ 80% และคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ส่วนที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีกกว่า 87,000 ตร.ม. จะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 1/2568 อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าใน EEC อย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่า บริษัทมีความพร้อมรองรับทุกการลงทุนจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการดำเนินธุรกิจของลูกค้าทุกๆ ด้าน และเชื่อมต่อกับความครบวงจรของสินค้าและบริการอื่นๆ ในเครือออริจิ้น” นายปธาน กล่าว           ด้านนายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI กล่าวว่า EEC เปรียบเสมือน Destination hub หรือจุดหมายปลายทางของการลงทุนทางธุรกิจ โดยเฉพาะการตั้งโรงงานผลิตของธุรกิจต่างๆ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของทั้งแรงงานชาวไทย และชาวต่างชาติ เพิ่มมากขึ้น โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน EEC ถึง 179,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 17% โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีประชากรในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นอีกราว 1.2-1.5 ล้านคนภายในปี 2580             ทั้งนี้ PRI พร้อมร่วมเชื่อมโยงอีโคซิสเท็มภายใต้กลยุทธ์ “Origin EEC Empowered” ด้วยการนำ The exceptional prime service จากทุกบริษัทในเครือพรีโม มาส่งมอบบริการที่สมบูรณ์แบบให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในทุกมิติ สู่ภาค EEC ครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C ที่มีความต้องการบริการที่แตกต่างกัน           สำหรับเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นผู้นำที่เข้ามาบุกเบิกโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ EEC มีโครงการขนาดใหญ่เป็นโครงการมิกซ์ยูสถึง 2 แห่ง ได้แก่ ออริจิ้น สมาร์ท ดิสทริค ศรีราชา แหลมฉบัง และออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง มีโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่หลากหลายแบรนด์ อาทิ เคนซิงตัน ไนท์บริดจ์ ดิ ออริจิ้น โซ ออริจิ้น บริกซ์ตัน มีโครงการบ้านมิกซ์โปรดักท์ภายใต้แบรนด์บริทาเนีย มีโรงแรมภายใต้เครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ที่เปิดให้บริการใน EEC แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง มีคลังสินค้าภายใต้แบรนด์แอลฟา อาทิ โครงการแอลฟา แหลมฉบัง และแอลฟา พานทอง           ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI - BRI เสนอ “จุ่มเด็ด Secret Deals” ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46

ORI - BRI เสนอ “จุ่มเด็ด Secret Deals” ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46

           ออริจิ้น เวอร์ติเคิล ร่วมกับ บริทาเนีย สานฝันคนอยากมีบ้านและคอนโด ขนทัพบ้านหรู บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่รวม 58 โครงการ ร่วมออกบูธภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 พร้อมจัดเต็มดีลพิเศษผ่านแคมเปญ “จุ่มเด็ด Secret Deals” ชวนจุ่มรับดีลเด็ด พร้อมส่วนลด และดีลพิเศษ เพียงจองภายในงาน เริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท สำหรับสิทธิพิเศษที่มานำเสนอในงาน ได้แก่ 1.ดีลเด็ดไม่ต้องจุ่ม มอบสิทธิพิเศษผ่อนเบาๆ เริ่มต้นเพียงล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี* หรือเลือกรับดอกเบี้ย 0%* นานสูงสุด 2 ปี* 2.จุ่มใหญ่ไฟกระพริบ ลุ้นรับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 5 ล้านบาท* 3. ดีลดี ON TOP จาก NocNoc* และ 4. จุ่มเด็ดตลอดเดือน จองปุ๊บจุ่มปั๊บ รับ Art Toys สุดน่ารักทุกยูนิต พร้อมรับดีลลับจากธนาคารชั้นนำ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด พบกันได้ที่บูธ 241-245 และ 288 – 300 ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.00 – 20.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2567            ในงานพบกับข้อเสนอพิเศษของคอนโดมิเนียมในเครือ ออริจิ้น เวอร์ติเคิล ที่นำมาร่วมงานรวมจำนวน 32 โครงการ ภายใต้แบรนด์ อาทิ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ใกล้รถไฟฟ้าทุกสาย และคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ (Origin Pet Friendly Condo) ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท            ด้านบริทาเนีย ได้นำบ้านจัดสรรพร้อมอยู่ ภายใต้ 4 แบรนด์หลักรวม 27 โครงการ ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) ไบรตัน (Brighton) มาร่วมงาน ราคาเริ่ม 2.99 - 40 ล้านบาท* โดยบริทาเนียมอบข้อเสนอพิเศษเพิ่มอีกขั้น บริทาเนียบินลัดฟ้าพาเที่ยวอังกฤษ สำหรับลูกค้าที่จองและโอนกรรมสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. - 27 ธ.ค 67* ดีลดี ฟรีส่วนกลาง นานสูงสุด 3 ปี* *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด [PR News]

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

[PR News] ออริจิ้น-บริทาเนีย จัดแคมเปญใหญ่ภายใต้ชื่อ “จุ่มเด็ด Secret Deals”

[PR News] ออริจิ้น-บริทาเนีย จัดแคมเปญใหญ่ภายใต้ชื่อ “จุ่มเด็ด Secret Deals”

          ออริจิ้น เวอร์ติเคิล - บริทาเนีย จับเทรนด์กล่องสุ่ม เปิดตัวแคมเปญคอนโด-บ้านไตรมาส 4 “จุ่มเด็ด Secret Deals” ยกทัพโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ 70 โครงการ จับมือหลากพันธมิตร อาทิ NocNoc, WydE Interior ชวนลูกค้าจุ่มดีลเด็ด รับโปรเพิ่มสูงสุด 10 รายการ, ผ่อนต่ำล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี*, ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี* และรับส่วนลดสูงสุด 5 ล้าน* วันนี้ ถึง 30 พ.ย.นี้ พร้อมจัดโปรฯ ใหญ่ไฟกระพริบ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด 31 ต.ค. - 3 พ.ย.นี้           นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ประจำไตรมาส 4/2567 ภายใต้ชื่อ “จุ่มเด็ด Secret Deals” จัดทัพโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่    ทาวน์โฮม พร้อมอยู่จากหลากหลายเซ็กเมนท์ หลากหลายแบรนด์ รวมกว่า 70 โครงการทั่วประเทศ มามอบสิทธิ์จุ่มดีลเด็ด พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษถึง 4 ชั้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ก่อนปีใหม่           สำหรับสิทธิพิเศษ 4 ชั้น ประกอบด้วย 1.ดีลเด็ดไม่ต้องจุ่ม มอบสิทธิพิเศษผ่อนเบาๆ เริ่มต้นเพียงล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี* หรือเลือกรับดอกเบี้ย 0%* นานสูงสุด 2 ปี* 2.จุ่มใหญ่ไฟกระพริบ ลุ้นรับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 5 ล้านบาท* 3. ดีลดี ON TOP จาก NocNoc* และ 4. จุ่มเด็ดตลอดเดือน จองปุ๊บจุ่มปั๊บ รับ Art Toys สุดน่ารักทุกห้อง พร้อมรับดีลลับจากหลากหลายพันธมิตร           “ไตรมาส 4 คือช่วงเวลาก่อนปีใหม่ เราอยากให้ลูกค้าได้ทั้งความสนุกส่งท้ายปี ได้ทั้ง Art Toys สุดฮิตในเวลานี้และตัว Secret สุดว๊าวที่ทุกคนตามหา รวมถึงได้มีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยแห่งใหม่จากเครือของเรา ที่มีฟังก์ชันพร้อมตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชันทั่วประเทศ เราคิดว่าแคมเปญและโปรโมชั่นทั้งหมดนี้ คือของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้าของเรา” นายกฤษณ์​ กล่าว           สำหรับฝั่งคอนโดมิเนียม บริษัทนำทัพโครงการพร้อมอยู่จากหลากทำเลทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง เข้าร่วมจำนวน 31 โครงการ ภายใต้หลากหลายแบรนด์ อาทิ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) มีหลากจุดเด่นให้เลือก ตั้งแต่คอนโดใกล้รถไฟฟ้า สายสีเขียว สายสีม่วง สายสีเหลือง สายสีส้ม คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้แนวคิด Origin Pet Friendly Condo คอนโดเพดานสูง 4.2 เมตร คอนโดใจกลางเมือง จุฬา-สามย่าน พญาไท พร้อมพงษ์ ทองหล่อ คอนโด EEC ใกล้แหล่งงาน ใกล้นิคม คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท คาดว่าจะพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งผู้ซื้ออยู่เอง และผู้ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว           ด้านนายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ไตรมาส 4 ของทุกปี คือช่วงเวลาที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด ส่วนหนึ่งคือเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จึงเป็นโอกาสทองที่จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับของขวัญปีใหม่แบบหลายเด้ง ไปพร้อมกับบ้านหลังใหม่ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ตัวเองรักอย่างมีความสุขในปี 2568                    สำหรับบริทาเนีย ได้นำบ้านจัดสรรพร้อมอยู่ ภายใต้ 4 แบรนด์หลักของบริทาเนีย ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) ไบรตัน (Brighton) รวม 39 โครงการ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั้งในโซน บางนา - บางพลี - บางบ่อ, แพรกษา - เทพารักษ์, พระราม 9 - กรุงเทพกรีฑา, ทวีวัฒนา - ปิ่นเกล้า - บรมราชชนนี, รามอินทรา - วัชรพล - จตุโชติ, สุขสวัสดิ์ - ประชาอุทิศ - พระราม 2, พระราม 5 - ราชพฤกษ์ - นนทบุรี, สายไหม - คูคต, บางปะกง - ฉะเชิงเทรา - อมตะนคร, ต่างจังหวัด มาร่วมแคมเปญ ราคาเริ่ม เริ่ม 2.44 - 40 ล้านบาท*           “บริทาเนียโดดเด่นเรื่องบ้านสไตล์อังกฤษ และสไตล์โมเดิร์น ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เราให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่น ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเดินทาง โครงการของเราทุกแห่งจึงมีมุมพักผ่อนสำหรับทุกคนในบ้าน ตั้งอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ทางด่วน รถไฟฟ้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม โรงพยาบาล และแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ เราเชื่อว่าบ้านของเราและแคมเปญส่งท้ายปีนี้ จะช่วยมอบความสุขให้กับลูกค้า” นายสิริพงศ์ กล่าว           สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 5 แบรนด์และกลุ่มเซ็กเมนท์ ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับ Mid-End ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท 5.กลุ่มแบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า (Branded Residences Villa) บ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ราคา 19-60 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 43 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 54,122 ล้านบาท           บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย           1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท           2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก           3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์           4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

[PR News] ORI มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ 12,580 ล้าน

[PR News] ORI มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ 12,580 ล้าน

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ในเครือทั่วประเทศ รวมกว่า 12,580 ล้านบาท ชู 5 จุดเด่นมัดใจผู้ซื้อ วิวสวย-ห้องและส่วนกลางโอ่อ่า-มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชัน-เลี้ยงสัตว์ได้-เดินทางสะดวก ปักหมุดหลากทำเล แจ้งวัฒนะ-เตาปูน-เศรษฐบุตร-ราชพฤกษ์-เวสต์เกต-ภูเก็ต-ชลบุรี-โคราช ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้าน เอาใจทั้งผู้ซื้ออยู่เอง-ซื้อปล่อยเช่า กวาดยอดขาย 9 เดือนแรก 26,817 ล้านบาท คิดเป็น 67% ของเป้าหมาย คาดเปิดโครงการใหม่ไตรมาส 4/2567 เพิ่มอีก 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 15,000 ล้าน           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ปี 2567 ถือเป็นปีที่ท้าทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกทำเลในการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรในปีนี้อย่างเข้มข้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบทั้งภายในห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนการวางคอนเซ็ปต์แนวคิดแต่ละโครงการอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน สามารถเข้าถึงโครงการคุณภาพที่มีความโดดเด่นในทุกองค์ประกอบ           สำหรับปัจจัยที่บริษัทใช้เป็นจุดแข็งที่โครงการเปิดตัวใหม่ในปีนี้ต้องมี ได้แก่ 1.วิวสวย เช่น หากเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เน้นเลือกทำเลโครงการที่มองเห็นวิวโค้งน้ำ ตลอดจนวิวเมืองได้อย่างรอบทิศจากพื้นที่ส่วนกลาง สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนในที่อยู่อาศัย 2.ห้องและพื้นที่ส่วนกลางโอ่อ่า ให้ความสำคัญกับความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายของการพักอาศัยทั้งภายในพื้นที่ส่วนกลาง และภายในห้องพัก เช่น การมีห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร 3.มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชัน เพื่อให้ทุกคนในครอบครัว สามารถมีความสุขที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 4.เลี้ยงสัตว์ได้ ใส่ใจพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-friendly) รองรับการเติบโตของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet Lover) และ 5.เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน ตลอดจนสถานที่สำคัญในการใช้ชีวิต เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า           “สภาพเศรษฐกิจปีนี้ อาจมีสถานการณ์ทั้งภายในประเทศและภายนอกต้องจับตาอย่างใกล้ชิดหลายอย่าง ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่ม แม้จะมีกำลังซื้อ แต่ก็ตัดสินใจซื้อช้าลงกว่าปกติ อย่างไรก็ดี บ้านยังคงเป็นปัจจัย 4 สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษในปีนี้ จึงเป็นการเลือกเปิดตัวเฉพาะโครงการที่มีองค์ประกอบความโดดเด่นครบถ้วน กระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกว่า เรากำลังมีของดีมานำเสนอ และเป็นของดีที่พลาดไม่ได้” นายพีระพงศ์ กล่าว           ทั้งนี้ บริษัทได้คัดเลือกโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่เป็นไฮไลต์เปิดตัวใหม่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มา 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 12,580 ล้านบาท ได้แก่ 1.โซ​ ออริจิ้น บางเทา บีช คอนโดมิเนียมลักชัวรี 8 ชั้น 3 อาคาร ภายใต้มิกซ์ยูส ออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด ภูเก็ต | บางเทา บีช ติดหาดบางเทา หาดที่วิวพระอาทิตย์สวยที่สุด 2.ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านเตาปูน มองเห็นวิวแบบพาโนรามิก ทั้งวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา วิวเมือง วิวสวนจตุจักร 3.ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านแจ้งวัฒนะ มาพร้อมห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร สูงที่สุดในแจ้งวัฒนะ 4.ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร คอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู มาพร้อม Smart Kitchen และ Smart Energy เช่น EV Charger, Solar Roof 5.ดิ ออริจิ้น ศรีราชา โครงการภายใต้มิกซ์ยูส ออริจิ้น สมาร์ท วิลเลจ ศรีราชา ใกล้ห้าง โรงเรียนดัง ในศรีราชา ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท 6. แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า เขาใหญ่ ในพื้นที่อาณาจักรมิกซ์ยูส “ออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด | เขาใหญ่”7.บริทาเนีย เวสต์เกต โครงการมิกซ์โปรดักท์บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ติดถนนสายหลักย่านบางใหญ่ ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต มาพร้อมคลับเฮาส์และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และ 8.บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 โครงการมิกซ์โปรดักท์บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่สไตล์อังกฤษ มาพร้อม Main Gate และคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ตัวบ้านพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง           นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจาก 8 โครงการดังกล่าว ในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้ บริษัทเตรียมพิจารณาเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในเครือรวม 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นของแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ปัจจัยภายนอก ตลอดจนความต้องการของแต่ละทำเล โดยอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการเพิ่มหรือลดตามความเหมาะสม           ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เตรียมแคมเปญสำหรับการกระตุ้นยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์สำหรับฝั่งโครงการพร้อมอยู่เพิ่มเติม คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้เร็วๆ นี้ ล่าสุด บริษัทมียอดขายสะสมในช่วง 9 เดือนแล้ว 26,817 ล้านบาท หรือประมาณ 67% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี           ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198  ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

[PR News] ORIGIN GIVE จับมือ PRIMO CARE และพันธมิตร ร่วมสนับสนุนเทศกาลถือศีลกินผัก

[PR News] ORIGIN GIVE จับมือ PRIMO CARE และพันธมิตร ร่วมสนับสนุนเทศกาลถือศีลกินผัก

          ORIGIN GIVE จับมือ PRIMO CARE ร่วมกับพันธมิตรและบริษัท โบ๊ทพัฒนา ร่วมสืบสานเทศกาลถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต 2567 สานเจตนารมย์การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืนจากความมุ่งมั่นของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และ พรีโม เซอร์วิส โซลูชัน           ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โดย Origin Give ร่วมด้วย บริษัท พรีโม​ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI โดย Primo Care, Origin Agent Club และบริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ร่วมมอบของบริจาค ข้าวสาร น้ำดื่ม น้ำยาล้างห้องน้ำ สุขภัณฑ์ น้ำยาล้างจาน สบู่เหลวล้างมือ ซึ่งผลิตโดย อูโน่ เซอร์วิส และเงินบริจาค ช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 3 -11 ตุลาคม 2567 ของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย และศาลเจ้าเชิงทะเล           นายกฤษณ์ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL กล่าวว่า การร่วมสนับสนุนเทศกาลกินเจถือศีลกินผัก มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ตอกย้ำแนวคิด “การทำธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและชุมชน เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน” ของกลุ่มบริษัทออริจิ้นฯ ที่ปัจจุบันได้ขยายอาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไปยัง “ภูเก็ต” ซึ่งเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ที่มีการเติบโตสูงด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวและพักอาศัยของชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้ ORIGIN VERTICAL ประสบความสำเร็จด้านการขายในตลาดคอนโดมิเนียม โดยมีโครงการในจังหวัดภูเก็ตเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และวิลล่า 1 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ ดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (The Origin Centre Phuket) โครงการ ดิ ออริจิ้น กะทู้-ป่าตอง (The Origin Kathu-Patong) โครงการ โซ ออริจิ้น บางเทา บีช (SO Origin Bangtao Beach) โครงการ โซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) โครงการ ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) โครงการ บัลโค บางเทา บีช (Balco Bangtao Beach)           นอกจากนี้ทาง ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังได้เสริมความแข็งแกร่งด้วยบริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร โดยกลุ่มธุรกิจ PRI เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจใน จ. ภูเก็ตที่มีการเติบโตสูงในภาคอสังหาฯ ด้วยการส่งธุรกิจซื้อขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจให้บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ที่พักอาศัย รวมทั้งธุรกิจบริการงานรักษาความสะอาดแบบครบวงจร และเป็นผู้พัฒนาน้ำยาทำความสะอาด สบู่เหลว คุณภาพสูง เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน รวมถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่บุคลากร มุ่งมั่นเพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน           นายธนพนธ์ โรจน์ทินกร ผู้บริหารสายงานธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯให้บริการเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ และทำการตลาดโครงการแบบครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งให้บริการก่อนและหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน โดยปีนี้มีแผนขยายธุรกิจ Passion Realtor ตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร สู่ตลาดภูเก็ตเป็นครั้งแรก เพราะมองเห็นโอกาสในตลาดอสังหาฯภูเก็ตที่มีการเติบโตสูงมาก โดยในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมามีโครงการเปิดใหม่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 36 โครงการ จำนวนกว่า 8,000 ยูนิต มูลค่าโครงการวมกว่า 49,000 ล้านบาท”           “ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก มีฐานลูกค้าหลากหลาย ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯเติบโตมาก จากความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ และกลุ่มนักลงทุนระยะยาว ทำให้มั่นใจว่าตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังไปได้อีกไกล” นายธนพนธ์กล่าว           ด้านนางสาวมลนภา ปั้นบุญ ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริหารอาคารและชุมชนระดับพรีเมี่ยมและธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ในส่วนธุรกิจ Property Management บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดี มีคุณภาพ และคุ้มค่าที่สุด โดยมีเป้าหมายขยายการบริการไปสู่การบริหารอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทแบบครบวงจร และการขยายสู่ตลาดภูมิภาคในจังหวัดใหญ่หัวเมืองหลักรวมถึงตลาดภูเก็ต เพื่อยกระดับการบริหารจัดการทรัพย์สินด้วยมืออาชีพ มีประสบการณ์บริหารงานนิติบุคคลมานานกว่า 9 ปี

abs

Hoonvision

[PR News] ORI เจาะตลาดภูเก็ต พร้อมคืนหุ้นกู้ 3,875 ล้าน

[PR News] ORI เจาะตลาดภูเก็ต พร้อมคืนหุ้นกู้ 3,875 ล้าน

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ครึ่งปีหลังยังแกร่ง กวาดยอดขายใหม่จากต่างชาติในภูเก็ต 1,000 ล้านตั้งแต่ยังไม่เปิดขายทางการ เตรียมลุยเปิดโครงการใหม่ตอกย้ำความสำเร็จทำเลภูเก็ตต่อเนื่อง และชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนดช่วงครึ่งปีหลัง 2567 จำนวน 5 รุ่นเต็มจำนวน 3,875 ล้านบาทตามกำหนด 100% ตอกย้ำประวัติชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยครบตามกำหนด 8 ปีต่อเนื่อง           นายพีระพงศ์​ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการกระจายโอกาสไปสู่การตลาดใหม่ๆ อาทิ ภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัททยอยเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากที่ได้รับการตอบรับดี ดีมานด์แกร่ง ล่าสุดบริษัทสามารถกวาดยอดขายจาก 2 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ได้แก่ 1.โซ​ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) และ 2.ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) ในตึกที่เป็นโควตาของผู้ซื้อชาวต่างชาติ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท           “ตลาดที่ยังมีดีมานด์แข็งแกร่งในขณะนี้ คือตลาดที่มีลูกค้าหลากหลายกลุ่มในพื้นที่เดียว ทั้งตลาดซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ตลาดซื้อเพื่อลงทุน และตลาดต่างชาติ รวมไปถึงตลาดที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ตลาดคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ การเลือกโฟกัสในตลาดที่ยังมีดีมานด์ จะมีส่วนสำคัญให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย” นายพีระพงศ์ กล่าว           นายพีระพงศ์​ จรูญเอก เผยอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นี้ ถึงแม้ภาพรวมสถานการณ์ตลาดหุ้นกู้ยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารสภาพคล่อง โดยครึ่งปีหลัง บริษัทสามารถชำระคืนหุ้นกู้พร้อมดอกเบี้ยได้ครบตามกำหนดทุกรุ่น ซึ่งมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ 5 รุ่น คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 3,875 ล้านบาท ได้แก่ 1. หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2564 ชุดที่ 2 (ORI247A) อายุ 3 ปี ครบกำหนดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 วงเงิน  1,431.7 ล้านบาท 2. หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 1 (ORI247B) อายุ 2.22  ปี  ครบกำหนดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 วงเงิน 535 ล้านบาท 3.หุ้นกู้ครั้งที่ 3/2566 ชุดที่ 1 (ORI248A) อายุ 1 ปี ครบกำหนดวันที่ 30 สิงหาคม 2567 วงเงิน 500 ล้านบาท 4.หุ้นกู้ครั้งที่ 3/2565 ชุดที่ 2 (ORI249A) อายุ 2 ปี ครบกำหนดวันที่ 1 กันยายน 2567 วงเงิน 807.8 ล้านบาท และ 5.หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 3 (ORI249B) อายุ 1 ปี 6 เดือน ครบกำหนด     วันที่ 22 กันยายน 2567 วงเงิน 600 ล้านบาท           “ที่ผ่านมา เราออกหุ้นกู้เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนตามแผนการดำเนินงานและเป้าหมายธุรกิจที่วางไว้ เราจึงได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั้งกลุ่มสถาบันการเงิน และกลุ่มนักลงทุนรายย่อย เราขอขอบคุณนักลงทุนทุกรายที่ให้ความไว้วางใจ และจะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายพีระพงศ์​ กล่าว           ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2559 บริษัทดำเนินการระดมทุนผ่านหุ้นกู้มาแล้วมากกว่า 30 ชุด โดยมีประวัติการชำระคืนที่        ดีมาโดยตลอด จากที่บริษัทมีการวางแผนการออกและเสนอขายหุ้นกู้โดยคำนึงถึงจำนวนและระยะเวลาครบกำหนดเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ลักษณะการทยอยชำระจะสอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงการและการรับรู้รายได้ของโครงการในอนาคตเนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ตามแผนงาน และวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้           นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสในพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากภูเก็ต เช่น แถบนิคมอมตะ-ชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งงานที่มีความต้องการทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่เองทำงานบริเวณนิคม และกลุ่มผู้ซื้อปล่อยเช่าลงทุนระยะยาว           ขณะที่ด้านการโอนกรรมสิทธิ์นั้น บริษัทยังมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็คล็อก) ณ ไตรมาส 2 /2567 มูลค่ารวมประมาณ 47,135 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทยังมีโครงการคอนโดมิเนียมที่จะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ใหม่เป็นครั้งแรกเพิ่มเติมอีก 3 โครงการ ได้แก่ 1.โซ ออริจิ้น พหล 69 (So Origin Phahol 69) 2.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) และ 3. ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4 (KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4) โดยมีแบ็คล็อกใน 3 โครงการ คิดเป็น มูลค่ากว่า 6,350 ล้านบาท หรือกว่า 85% ของมูลค่าโครงการ บริษัทจึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย           1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น        (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท           2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก           3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์           4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

[PR News] ออริจิ้น ลุยโครงการ Origin Give

[PR News] ออริจิ้น ลุยโครงการ Origin Give

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ นำทัพบริษัทในเครือ-ลูกบ้าน-พนักงาน ย้ำโครงการ Origin Give ส่งต่อความห่วงใยเด็กและโรงเรียน ที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือ           ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ตอกย้ำโครงการ ORIGIN GIVE เคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤติ ร่วมกับบริษัทในเครือ ออริจิ้น เวอร์ติเคิล, บริทาเนีย และ พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น รวมพลังส่งต่อความห่วงใย ช่วยเหลือน้องๆ และโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทางภาคเหนือ ผ่านโครงการ เป๋น ห่วง ตั๋ว เน่อ ชวนลูกบ้านโครงการคอนโดมิเนียม ออริจิ้น และบ้านบริทาเนีย รวมกว่า 50 โครงการ และพนักงานในเครือ รวมพลังแบ่งปันน้ำใจให้แก่น้องๆ และโรงเรียน ด้วยการบริจาค อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา คอมพิวเตอร์ รองเท้า ชุดนักเรียน และสิ่งของจำเป็น โดยมี นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด นายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) นายประสิทธิ์ จรัสวิชากร กรรมการบริหาร, ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริหารอาคารและชุมชน และ นางสาวมลนภา ปั้นบุญ กรรมการบริหาร, ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริหารอาคารและชุมชนระดับพรีเมี่ยมและธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จํากัด  นำทีมพนักงานส่งมอบของให้แก่ มูลนิธิกระจกเงา เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่โรงเรียนที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนักจากปัญหาน้ำท่วม และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อเนื่อง           นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ทางภาคเหนือในครั้งนี้  ทำให้ชุมชน บ้านเรือน และโรงเรียน โดยเฉพาะอาคารเรียน ห้องสมุด หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ของโรงเรียนได้รับความเสียหาย ส่งผลถึงนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เด็กต้องหยุดเรียน และมีหลายหน่วยงานลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือเร่งด่วน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เห็นเป้าหมายการช่วยเหลือที่จำเป็นโดยเร็วที่สุดของ มูลนิธิกระจกเงา ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา จึงได้ตั้งโครงการ เป๋น ห่วง ตั๋ว เน่อ เพื่อระดมพลังความช่วยเหลือจัดหาอุปกรณ์จำเป็นสำหรับเด็กและโรงเรียน เช่น ชุดนักเรียน สมุด และดินสอ เพื่อให้สามารถกลับมาเรียนได้อย่างราบรื่น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกบ้านอย่างล้นหลาม           “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรอยยิ้ม บรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ เราเชื่อว่าการศึกษาและโอกาสทางการเรียนรู้เป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โครงการ ORIGIN GIVE เราให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาและความเป็นอยู่ของเด็กเยาวชน อันเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต รวมถึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาปรับปรุงโรงเรียน ซึ่งเป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของเด็กและเยาวชนให้สวยงามและปลอดภัย เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง ทำให้นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียน และเติบโตไปเป็นกำลังหลักสำคัญของประเทศชาติต่อไป” นายกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติม           ตลอดระยะเวลา 15 ปี ของการดำเนินกิจการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่ผู้อยู่อาศัย ควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร พนักงาน ครอบครัวออริจิ้น และชุมชน ผ่านโครงการเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ ORIGIN GIVE โดยมีเป้าหมายในการช่วยเหลือสนับสนุนชุมชน ผ่าน 3 แกนสำคัญ ได้แก่ Education สนับสนุนโอกาสทางการศึกษา และสร้าง สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กนักเรียน Equality สนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดี และส่งเสริมความเท่าเทียมที่แตกต่างและสวยงาม Environment สนับสนุน ส่งเสริม สร้างสรรค์ การปกป้อง และรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่สวยงามอย่างยั่งยืนของเราทุกคน เพื่อเป็นแนวทางในการเดินหน้าสร้างสังคมที่ดีชุมชนเป็นสุขอย่างต่อเนื่อง