#NDR


[ภาพข่าว] ผถห. NDR โหวตฉลุย แจกวอแรนต์ฟรี 2:1

[ภาพข่าว] ผถห. NDR โหวตฉลุย แจกวอแรนต์ฟรี 2:1

           นายชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา  (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber  ถ่ายภายร่วมกับคณะกรรมการบริษัทฯ เนื่องในโอกาสประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2567 โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 3  (NDR-W3) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Rights Offering) จำนวนไม่เกิน 228,445,815 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ อายุ 1 ปี นับจากวันที่ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ มีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และมีราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 1.00 บาท/หุ้น            พร้อมทั้งอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 228,445,815 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน จำนวน 456,891,630 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 685,337,445 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

NDR ชี้แจงการซื้อขายหุ้น Big Lot

NDR ชี้แจงการซื้อขายหุ้น Big Lot

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ขอแจ้งการซื้อขายหุ้นของบริษัทบนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (Big Lot) ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ BANK OF SINGAPORE LIMITED เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 จำนวน 78,695,100 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 17.22 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ โดยเป็นการดำเนินการเปลี่ยนหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบนกระดานหลัก (Main Board) เป็นเอ็นวีดีอาร์ (NVDR) ซึ่งไม่ส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลง           ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงหุ้นดังกล่าวข้างต้นยังไม่มีผลกระทบต่อนโยบายการบริหารงานและโครงสร้างการจัดการของบริษัทฯ และการทำรายการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งหลักทรัพย์ดังกล่าวของผู้ลงทุน เป็นการทำรายการโดยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มิได้เข้าเกณฑ์มาตรา 258 พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อีกทั้งเฉพาะการทำรายการซื้อขายหุ้นครั้งนี้มิได้เข้าเกณฑ์ในการทำ Tender Offer แต่อย่างใด

[Vision Exclusive] NDR ลุยพลังงานสะอาด! รับกระแสรักษ์โลก

[Vision Exclusive] NDR ลุยพลังงานสะอาด! รับกระแสรักษ์โลก

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2567 พลิกมีกำไร 3.44 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 30.1 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไร 33.55 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไร 111.45% ส่วนรายได้รวมทำได้ 224.37 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 210.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.63 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 6.47%           โดยผลการเติบโตมาจากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าราคาสูงที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จในการขยายตลาดไปยังประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ โดยเริ่มส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในภูมิภาคใหม่เหล่านี้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัทในตลาดต่างประเทศ           ขณะที่กำไรขั้นต้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 19.14% ของรายได้เนื่องจากบริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าต้นทุนยางพาราจะยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม           สำหรับลักษณะธุรกิจของ NDR คือ ผลิตและจำหน่ายยางนอก และยางในรถจักรยานยนต์ โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากการผลิตและจำหน่ายยางนอกรถจักรยานยนต์ ประมาณ 60% และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการผลิตและจำหน่ายยางในรถจักรยานยนต์ การจำหน่ายแบตเตอรีรถยนต์และจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตจากยาง และรายได้จากการขายอื่นๆ ขณะที่สัดส่วนการขายในประเทศ และนอกประเทศ มีสัดส่วนรายได้ใกล้เคียงกัน 50:50           นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง และการดำเนินแผนงานที่วางไว้เพื่อส่งเสริมยอดขายและการเติบโตของมาร์จิ้น           นอกจากนี้ บริษัทเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีการใช้งานรถจักรยานยนต์น้อยกว่าในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ แต่การทำตลาดในสองประเทศนี้มีโอกาสสร้างกำไรสูง ดังนั้น แม้ปริมาณคำสั่งซื้อจะไม่มาก แต่การขยายตลาดนี้จะส่งผลให้กำไรของ NDR เติบโตอย่างชัดเจน           สำหรับปี 2567 NDR คาดว่าจะมียอดขายที่ 900 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด กำลังอยู่ในระหว่างการติดตั้งเครื่องทดสอบ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2567 และเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1 หรือ 2 ของปี 2568           ที่ประชุมคณะกรรมการ NDR มีมติอนุมัติให้บริษัท แอพโซลูท กรีน พาวเวอร์เอนเนอร์ยี่ จำกัด เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท เอ็น.ดี.กรีนแพลเน็ท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NDR ในสัดส่วน 30.43% เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ นับเป็นก้าวสำคัญของกลุ่ม NDR สู่ธุรกิจพลังงานสะอาด           สำหรับแผนการลงทุนในธุรกิจพลังงานของ NDR จะเน้นการผลิตถ่านชีวภาพเพื่อลดการใช้ถ่านหินที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตอบรับกับเทรนด์พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยคาดว่าธุรกิจพลังงานนี้จะเริ่มเห็นความชัดเจนในการดำเนินงานช่วงปลายปี 2568 และจะเป็นปัจจัยเสริมสำคัญในการเติบโตของ NDR อย่างมีนัยสำคัญ           การขยายธุรกิจสู่พลังงานสะอาดสอดคล้องกับการปรับธุรกิจดั้งเดิมของ NDR จากการผลิตและจำหน่ายยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ไปสู่การเป็นธุรกิจโฮลดิ้งที่มีรายได้จากหลายธุรกิจ           นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2567 มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 (NDR-W3) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3”) จำนวนไม่เกิน 228,445,815 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท) ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3 โดยใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3 จะมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ มีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และมีราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 1.00 บาทต่อหุ้น (ยกเว้นกรณีการปรับราคาใช้สิทธิ) โดยกำหนดให้วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3 (Record Date)           พร้อมมีมติเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีกจำนวน 228,445,815 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 456,891,630 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 685,337,445 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 685,337,445 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 228,445,815 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ตามใบสำคัญแสดงสิทธิ NDR-W3           นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัทเอ็กซ์โทรนิค จำกัด เป็นทุนจดทะเบียน 152,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,520,000 หุ้น จากทุนจดทะเบียน 66.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 660,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทฯดังกล่าวประกอบธุรกิจ เพื่อเป็น Testing Center ให้กับอุปกรณ์ระบบ 5G ซึ่ง NDR ถือหุ้นร้อยละ 99.99 รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

NDR ลุยโรงงาน Testing Center อุปกรณ์ 5G

NDR ลุยโรงงาน Testing Center อุปกรณ์ 5G

          บมจ. เอ็น.ดี. รับเบอร์ หรือ NDR ลุยติดตั้งเครื่องทดสอบ Testing Center อุปกรณ์ 5G มั่นใจเสริมพอร์ตรายได้แกร่ง สร้างความยั่งยืนในอนาคต ด้านเอ็มดี “ชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา” มองตลาดการทดสอบอุปกรณ์สำหรับ 5G และ Data Center มีศักยภาพในการเติบโต พร้อมวางเป้าผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ ปักธงรายได้ 900 ลบ.           นายชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber  เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทยอยติดตั้งเครื่องทดสอบ ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในปี 2567 นี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาประมาณไตรมาส 1 หรือ 2 ของปี 2568 เป็นต้นไป           บริษัทย่อยแห่งใหม่นี้ จะตรวจสอบและทดสอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับระบบเครือข่าย 5G และอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตไร้สาย เพื่อเจาะตลาด 5G ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในData Center ต่าง ๆ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และกระจายฐานรายได้ของธุรกิจ สร้างการเติบโตที่สำคัญอย่างแข็งแกร่งในอนาคต           "เรามองว่าศักยภาพของตลาดอุปกรณ์ทดสอบ 5G กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการขยายตัวของเครือข่าย 5G และ Data Center ทั่วโลก ซึ่งเราจะเป็นส่วนหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาโซลูชั่นส์ทดสอบเพื่อให้อุปกรณ์ที่ต้องไปใช้ในเครือข่าย 5G และ Data Center ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด และนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายชัยสิทธิ์ กล่าว           นายชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า  สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ โดยวางเป้ารายได้อยู่ที่ 900 ล้านบาท โดยยังคงโฟกัสกลุ่มธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ ซึ่งตลาดยางรถจักรยานยนต์ในประเทศและต่างประเทศ ยังสามารถเติบโตได้อย่างดี ซึ่งบริษัทฯส่งออกยางรถจักรยานยนต์ไปยังหลายประเทศ โดยตลาดหลักอยู่ในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน และประเทศกลุ่ม CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต นอกจากนี้ บริษัทฯได้มีแผนการขยายพอร์ตสินค้า High Margin มากขึ้น  และให้ความสำคัญเรื่องการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการปรับโครงสร้างการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงให้มีสัดส่วนมากขึ้น [PR News]

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[PR News] NDR เพิ่มทุน PP สำเร็จตามแผนให้กับ EG บริษัทยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย

[PR News] NDR เพิ่มทุน PP สำเร็จตามแผนให้กับ EG บริษัทยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย

           บมจ. เอ็น.ดี. รับเบอร์ หรือ NDR เผย เพิ่มทุนขาย PP จำนวน 110 ล้านหุ้นให้กับ EG Industries Berhad  หรือ EG บริษัทยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย เรียบร้อย เดินหน้าลุยตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Testing Center อุปกรณ์ระบบ 5G ชี้ตลาดฯมีศักยภาพเติบโตสูง ตามเทรนด์เทคโนโลยี พร้อมดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อย “เอ็กซ์โทรนิค” เสร็จแล้ว ส่งซิกสัญญาณสดใส เริ่มมีออเดอร์ไหลเข้า คาดบ.ย่อย เริ่มสร้างรายได้ในปี 68 ด้านเอ็มดี “ชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา” มั่นใจช่วยเสริมทัพธุรกิจ-พาร์ทเนอร์แกร่ง กระจายพอร์ตรายได้ สร้างความยั่งยืน            นายชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber  เปิดเผยว่า การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 110 ล้านหุ้นให้กับบริษัท EG Industries Berhad  หรือ EG ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย EG เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศมาเลเซีย ประกอบธุรกิจโดยมีรายได้มาจากการเข้าลงทุนธุรกิจและบริการเกี่ยวกับอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์            แผนธุรกิจหลังจากมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามานั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยทำหน้าที่เป็น Testing Center สำหรับอุปกรณ์ระบบ 5G  ปัจจุบันบริษัทฯย่อยเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว โดยการจัดตั้งบริษัทย่อยนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในอนาคต            กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโลกอยู่ในช่วงยุคแห่งเทคโนโลยี ซึ่งนับว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และจากการที่บริษัทมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง คือ EG Industries Berhad (EG) เป็น ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ ติดอันดับ Top 3 ในประเทศมาเลเซียและมีรายได้จากกลุ่ม 5G ทั้งในประเทศและการส่งออก จะช่วยสนับสนุนและผลักดันการเติบโตของบริษัทฯได้อย่างยั่งยืน            "บริษัทย่อยแห่งใหม่นี้ จะตรวจสอบและทดสอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับระบบเครือข่าย 5G และอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตไร้สาย เพื่อเจาะตลาด 5G ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และกระจายธุรกิจไปสู่พื้นที่การเติบโตที่สำคัญในอนาคต" นายชัยสิทธิ์  กล่าว            เขา กล่าวทิ้งท้ายว่า  กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ โดยบริษัทมีแผนการขยายพอร์ตสินค้า High Margin มากขึ้น  และให้ความสำคัญเรื่องการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการปรับโครงสร้างการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงให้มีสัดส่วนมากขึ้น โดยคาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้น่าจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ โดยวางเป้ารายได้อยู่ที่ 900 ล้านบาท

[ภาพข่าว] NDR ร่วมบริจาคเงิน ช่วยเหลือน้ำท่วม

[ภาพข่าว] NDR ร่วมบริจาคเงิน ช่วยเหลือน้ำท่วม

          บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ NDR โดยนายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ ร่วมสนับสนุนมอบเงินบริจาค จำนวน 100,000 บาท  เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย  แก่มูลนิธิองค์กรทำดี โดยนางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี ทั้งนี้นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา ยังร่วมมอบเงินเพื่อสมทบในนามส่วนตัวจำนวน 100,000 บาท เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ที่่ผ่านมา