#MTC


MTC สินเชื่อโตเด่น NPL ลดสวนทางกลุ่ม

MTC สินเชื่อโตเด่น NPL ลดสวนทางกลุ่ม

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานว่า บล.ฟิลลิป ระบุว่า MTC ใช้กลยุทธ์ในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในการขยายสินเชื่อ และทำให้กลายเป็น Non-bank ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ และสินเชื่อของ MTC โดดเด่นกว่ากลุ่มมาโดยตลอด และในปี 67 ก็ยังโดดเด่นกว่า ในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์กลับดีสวนทางกับกลุ่ม นอกจากนี้ยังมองว่า MTC จะได้ประโยชน์จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลง รวมไปถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของรัฐบาล ยังคงประมาณการกำไร และยังคงราคาพื้นฐาน 53 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ” ขยายสินเชื่อผ่านการขยายสาขา จนเป็น Non-bank ที่มีสาขามากที่สุด           กลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อของ MTC คือการไปเปิดสาขาในชุมชน โดย ณ สิ้น 3Q67 MTC มีสาขาอยู่ทั้งหมดถึง 8,031 สาขาทั่วประเทศ และทำให้ MTC เป็นผู้ประกอบการ Non-bank ที่มีสาขามากที่สุดในไทย และยังมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีกปีละ 500-600 สาขา และถึงแม้จะมีการเปิดสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่สินเชื่อเฉลี่ยต่อสาขาก็ไม่ได้ปรับลดลง และกลับเพิ่มสูงขึ้นได้จากปี 57 ที่มีสินเชื่อเฉลี่ยต่อสาขา 16.9 ล้านบาท เพิ่มมาเป็น 19.5 ล้านบาท ณ 3Q67 สินเชื่อโตเด่นกว่ากลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง           ที่ผ่านมา MTC มีการปล่อยสินเชื่อที่โดดเด่นกว่ากลุ่มมาโดยตลอด โดยตั้งแต่ปีที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 53 จนถึงสิ้นปี 66 MTC มีสินเชื่อเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 46% ต่อปี จะมีเพียงปี 65 ที่ SAWAD มีการโอนสินเชื่อมาจากธ.ออมสิน และปี 66 ที่ "เงินสดทันใจ" ซื้อหุ้นคืนมาจากธนาคารอื่น ทำให้ MTC ชะลอการปล่อยสินเชื่อลงเพื่อลดความเสี่ยง ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อของ MTC น้อยกว่า SAWAD แต่ในปี 67 MTC กลับมาปล่อยสินเชื่อได้โดดเด่นกว่ากลุ่มอีกครั้ง โดย 3Q67 MTC สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่ม 10.99% YTD ในขณะที่ SAWAD สินเชื่อหดตัว 2.47% YTD และ TIDLOR ปล่อยได้เพิ่ม 4.85% YTD และมองว่าด้วยมาตรการกระตุ้นต่าง ๆ ของรัฐบาลจะทำให้กลุ่มรากหญ้ามีสภาพคล่องมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งความต้องการสินเชื่อ และคุณภาพสินทรัพย์ของ MTC ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง           กนง. เริ่มมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงตั้งแต่การประชุมในครั้งก่อน และถึงแม้ว่าการประชุมรอบล่าสุดในวันที่ 18 ธ.ค. 67 จะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ แต่ก็คาดว่าในปี 68 จะมีการปรับลดลงได้อีก ทำให้คาดว่า MTC จะได้ประโยชน์ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง โดยต้นทุนดอกเบี้ยนั้นคิดเป็น 22% ของต้นทุนทั้งหมดของ MTC ที่ผ่านมาในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ MTC ลดต่ำลง และหากอัตราดอกเบี้ยกลับมาเป็นขาลง คาดว่าจะช่วยทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ MTC รวมไปถึงผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ อาจไม่ใช่บริษัทที่ NPL ต่ำสุด แต่คุณภาพสินทรัพย์ดีสวนทางกลุ่ม           ถึงแม้ว่า MTC จะไม่ใช่บริษัทที่มี NPL ต่ำที่สุด โดย ณ 3Q67 จะมี NPL อยู่ 2.82% ในขณะที่ TIDLOR มี NPL เพียง 1.88% และ SAWAD มี NPL 3.39% แต่คุณภาพสินทรัพย์ของ MTC กลับดีสวนทางกับกลุ่ม ในขณะที่คู่แข่งมี NPL เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ MTC กลับสามารถลด NPL ลงมาได้แล้ว 5 ไตรมาสติดต่อกัน โดยสามารถลดจาก 3.36% ใน 2Q66 เหลือ 2.82% ใน 3Q67 และมองว่าด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของรัฐ จะทำให้ลูกหนี้ของ MTC มีความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มขึ้น และทำให้ NPL ลดลงได้ต่อ คงประมาณการ คงราคาพื้นฐาน แนะนำ “ทยอยซื้อ”           ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 67 ของ MTC ไว้ที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.8% Y-Y และคาดว่าปี 68 การที่สินเชื่อจะโตต่อเนื่อง ต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง รวมไปถึงการตั้งสำรองที่อาจจะลดลงจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น จะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 25% Y-Y เป็น 7.3 พันล้านบาท ยังคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 53 บาท แนะนำ “ทยอยซื้อ”

MTC คว้า ESG Ratings สูงสุด AAA

MTC คว้า ESG Ratings สูงสุด AAA

          บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ติดโผรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน”  SET ESG Ratings ในกลุ่มธุรกิจการเงิน (Financial) 6 ปีซ้อน ที่จัดประเมินโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสามารถคว้าอันดับสูงสุด AAA ประจำปี 2024  สะท้อนถึงการเป็นผู้นำในการยกระดับบริการที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มผ่านการดำเนินกิจการอย่างมีความรับผิดชอบในทุกมิติที่ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม เป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพพร้อมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืนใน “มาตรฐานระดับโลก (World Class Thai Microfinance)” ตลอดจนการดำเนินงานที่ใส่ใจต่อผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายใต้หลักธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมการเงินภายในประเทศ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investment) [PR News]

MTC ดันพอร์ตสินเชื่อ Q3/67 เติบโต 14.83% แตะ 159,323 ลบ.

MTC ดันพอร์ตสินเชื่อ Q3/67 เติบโต 14.83% แตะ 159,323 ลบ.

          บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมและเท่าเทียม โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 159,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.83% และกำไรสุทธิ 1,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.02% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมรักษาคุณภาพลูกหนี้ ทำให้สัดส่วน NPL อยู่ที่ 2.82% ฟากผู้บริหาร “ปริทัศน์ เพชรอำไพ” มั่นใจปี 67 พอร์ตสินเชื่อเติบโตตามเป้า พร้อมเดินหน้า มอบบริการทางการเงินในมาตรฐานระดับโลก เพื่อสังคมที่ยั่งยืน นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายสหประชาชาติ ผ่านสาขาที่มีอยู่กว่า 8,031 แห่ง พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ยืนหยัดเป็นผู้ให้สินเชื่อที่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ระดับ 159,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.83% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 7,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.83% และมีกำไรสุทธิ 1,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.03% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 20,633 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.81%จากงวดเดียวกันปีก่อน และกำไรสุทธิ 4,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.66% จากงวดเดียวกันปีก่อน ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.82% ซึ่งสามารถบริหารจัดการให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3.20% เป็นผลมาจากมาตรการในการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และการจัดเก็บที่ทำได้ตามเป้าหมาย “ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้และกำไรในไตรมาส 3/2567 ยังคงมาจากแรงขับเคลื่อนของสินเชื่อที่มีหลักประกัน และการขยายสาขาเพิ่ม ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อขยายตัวได้มากขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 494 สาขา จากสิ้นปีก่อน รวมทั้งสิ้นเป็น 8,031 สาขา ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 โดยบริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ให้ครบ 600 สาขาในปีนี้ เพื่อรองรับดีมานด์ลูกค้า และที่สำคัญ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาการบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในทุกมิติ” นายปริทัศน์ กล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 15-20% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.20% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรมภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายของสหประชาชาติ โดยเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม สร้างสังคมไทยให้เป็นสุข พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ เพื่อรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance) ผ่านความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลก ได้แก่ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) รัฐบาลเยอรมนี (KfW DEG) บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation : IFC) ซึ่งเป็นสถาบันในกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) ผ่านการลงทุนในหุ้นกู้เพื่อสังคมของบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยที่มีสุภาพสตรีเป็นเจ้าของ และ บริษัทฯ ยังเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (NBFI) รายแรกของประเทศไทย ที่ได้มีการออกหุ้นกู้เพื่อสังคมมูลค่า 335 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เสนอขายแก่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศทั้งจำนวนอีกด้วย ท้ายนี้ บริษัทฯ ยินดีที่จะระดมความร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอีกหลายแห่งในอนาคต เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต รักษาเสถียรภาพทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นที่พึ่งทางการเงินและเติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน [PR News]

KSS คาด SET วันนี้ Side way up ชี้ต้าน 1.470 จุด แนะ ADVANC, MTC, IVL

KSS คาด SET วันนี้ Side way up ชี้ต้าน 1.470 จุด แนะ ADVANC, MTC, IVL

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “Sideways/Up” ต้าน 1465/1470 จุด รับ 1446/1443 จุด ดัชนี S&P500 +0.1% ทะลุ 6,000 จุดเป็นครั้งแรก กลุ่มนำคือ หุ้น Trump Plays ที่ยังมีโมเมนตัมบวก ส่วนปัจจัยมหภาคคาดตลาดรอติดตามรายงานเศรษฐกิจเงินเฟ้อ CPI ต.ค.          พรุ่งนี้ (13 พ.ย.) ด้าน Asia เริ่มเห็นผลบวกการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนต่อรายงานเศรษฐกิจ อาทิ ยอดขายบ้านเมืองใหญ่ ยอดขายปลีกรถยนต์ ต.ค. +7%y-y ฝ่ายวิเคราะห์มองน่าจะช่วยบรรเทาความผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดที่เน้นเฉพาะหนี้ท้องถิ่นได้บ้าง บ่งชี้จากตลาด หุ้นจีนฟื้นช่วงท้ายวานนี้          ส่วนภายในยังเป็นช่วงโค้งสุดท้ายงบ 3Q24 แม้ปัจจุบันรายงานแล้ว 218 บริษัท จะยังต่ำกว่าคาด -21% แต่เริ่มดีขึ้นจากวานนี้ที่ -22.5% หลังหุ้นอิงภายในทยอยรายงานเพิ่มขึ้น          ขณะที่ Outlook ภาคบริการบวก ผู้ใช้บริการสนามบิน AOT เดินทาง ตปท. (ชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ) 1-9 พ.ย. สูง 105.4% vs นักท่องเที่ยว 10M24 ที่ 88.3% ของ Pre-Covid สะท้อนภาพฤดูกาลและโอกาสเห็น Upside นักท่องเที่ยวปี 2025F ที่ตลาดมองระดับ Pre-Covid          มองหุ้นนำวันนี้ China Plays, หุ้นอิงภาคบริการ และหุ้นดอกเบี้ยขาลงหนุน วันนี้แนะ ADVANC, MTC, IVL

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

MTC คว้ารางวัล CG 5 ดาว 7 ปีซ้อน

MTC คว้ารางวัล CG 5 ดาว 7 ปีซ้อน

           บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 ในระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยรางวัลนี้ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า บริษัทฯ มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีเยี่ยมต่อเนื่อง มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส คำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้

MTC สุดปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ขายเกลี้ยง

MTC สุดปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ขายเกลี้ยง

          บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) สุดปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ขายเกลี้ยง มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน ฟากผู้บริหาร “ปริทัศน์ เพชรอำไพ” เดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม สร้างสังคมไทยให้เป็นสุข ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 15-20% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.20% และปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง ปักธงสู่ World Class Thai Microfinance คุณภาพมาตรฐานระดับสากล           นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2567 ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 3 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี, หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 2 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 7 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้  อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ อยู่ในระดับ Investment Grade ที่ A-(tha) แนวโน้มอันดับเครดิต “มีเสถียรภาพ” ซึ่งจัดโดยฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 โดยผลการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม สามารถปิดการขายได้เต็มจำนวน ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท           สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนหนี้จากการออกหุ้นกู้ และ/หรือ ใช้เป็นเงินเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ ที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมและพร้อมสร้างสังคมไทยให้เป็นสุข           ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2567 เติบโต 15-20% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.20% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรมภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้           “บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายของสหประชาชาติ ผ่านสาขากว่า 7,980 แห่ง โดยเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม สร้างสังคมไทยให้เป็นสุข และตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 15-20% พร้อมกับคุม NPL ให้ไม่เกิน 3.20% และปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ เพื่อรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด” นายปริทัศน์ กล่าว           บริษัทฯ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance) รวมถึงความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลก อาทิ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) รัฐบาลเยอรมนี (KfW DEG) บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation : IFC) ซึ่งเป็นสถาบันในกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) และยินดีที่จะระดมความร่วมมือกับแหล่งเงินทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอีกหลายแห่งในอนาคต เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต รักษาเสถียรภาพทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นที่พึ่งทางการเงินและเติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน [PR News]

MTC สินเชื่อโตแรง กูรูแนะ

MTC สินเชื่อโตแรง กูรูแนะ "ซื้อ" เป้า 59 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาดแนวโน้ม 3Q24F ของ MTC กำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 1,514 ล้านบาท +17.8% YoY, +4.8% QoQ โดยสินเชื่อยังเติบโตได้ส่งผลบวกต่อรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ แต่คาด Credit Cost ที่ 3.21% เพิ่มขึ้นราว 6 bps จาก 2Q24 กำไร 9M24E คิดเป็นสัดส่วนราว 78% ของประมาณการทั้งปีที่ 5,544 ล้านบาท (+13% YoY) แนะนำ “ซื้อ” ในเชิงพื้นฐานที่ราคาเป้าหมาย 59 บาท อิง PBV ที่ 3.1x

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

[ภาพข่าว] MTC ไฟเขียวปรับเพิ่มวัตถุประสงค์การดำเนินธุรกิจ

[ภาพข่าว] MTC ไฟเขียวปรับเพิ่มวัตถุประสงค์การดำเนินธุรกิจ

          พลเรือเอกอภิชาติ เพ็งศรีทอง (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC พร้อมคณะกรรมการ ถ่ายภาพร่วมกันหลังการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 โดยผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ เพื่อให้ครอบคลุม และรองรับการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต  และงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุมสุขสามัคคี บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล เมื่อเร็วๆ นี้

[ภาพข่าว] MTC คว้า 3 รางวัลใหญ่ Best CEO, Best CFO และ Best IR

[ภาพข่าว] MTC คว้า 3 รางวัลใหญ่ Best CEO, Best CFO และ Best IR

          คุณปริทัศน์ เพชรอำไพ (กลาง) รองกรรมการผู้จัดการ, คุณสุรัตน์ ฉายาวรเดช (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการและ CFO  และคุณกฤษดา คุรุจิตโกศล (ซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการคลังและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ถ่ายภาพร่วมกัน เนื่องในโอกาสที่ MTC คว้า 3 รางวัลใหญ่ จากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ในงาน IAA Awards for Listed Companies 2024 ประกอบด้วย Best CEO, Best CFO และ Best IR กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์           โดยทั้ง 3 รางวัลนี้ ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ยิ่งใหญ่ และน่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริษัท MTC ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสการทางการเงินแก่ทุกคนในสังคม ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สะท้อนการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance) ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้อง Grand Hall, The Athenee Hotel Bangkok เมื่อเร็วๆ นี้

ลุ้นดอกเบี้ยไทยลดลงตามเฟด สู่2%

ลุ้นดอกเบี้ยไทยลดลงตามเฟด สู่2%

          นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ โดยเสียงส่วนใหญ่ 11 ต่อ 1 เห็นชอบให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 เบซิสพอยต์ (0.50%) ทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับลดจากช่วง 5.25% ถึง 5.50% ลงมาอยู่ที่ 4.75% ถึง 5.00% โดยมีโอกาสที่จะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกมาที่ราว 4.25% - 4.50% และอาจปรับลดลงอีก 1% ในปี 2568           ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอาจลดลงเกิน 0.25% หรืออาจปรับลงไปอยู่ที่ระดับ 2% จากปัจจุบันที่ 2.50% ต่อปี โดยคาดว่ากนง. อาจต้องได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากกระทรวงการคลังและภาครัฐ เพื่อดำเนินนโยบายการเงินและการคลังควบคู่ไปกับการบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนในสถานการณ์นี้มี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่: กลุ่มไฟแนนซ์: เช่น MTC และ SAWAD ที่จะได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์: ที่จะได้รับประโยชน์จากการซื้อโครงการที่ต้องมีการผ่อนชำระ กลุ่มหุ้นที่มีหนี้สูง: เช่น โรงไฟฟ้า ที่จะทำให้ภาระการจ่ายดอกเบี้ยลดลง

abs

Hoonvision