MPJ มั่นใจผลประกอบการโตตามเป้า ปริมาณโลจิสติกส์สูงต่อเนื่อง
หุ้นวิชั่น - ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยที่ผันผวน รอวันฟื้นตัว ผู้บริหาร MPJ ยืนยันยังมั่นใจว่าผลประกอบการปี 67 จะออกมาได้ดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังตุนกำไรช่วง 9 เดือนแรกสูงถึง 69.15 ล้านบาท และแนวโน้มไตรมาส 4 ที่คาดว่าออกมาดีตามคาด นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ เปิดเผยว่า “ในช่วงหลังนี้ สภาวะหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน และ อยู่ในสภาวะถดถอย มีผลให้กระทบต่อราคาหุ้นหลายร้อยบริษัทฯ ในส่วนของ MPJ ผมมั่นใจว่าผลประกอบการน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง เนื่องจากมีปริมาณงานโลจิสติกส์ในไตรมาส 4 ที่น่าพอใจ ทั้งในธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นธุรกิจหลัก และธุรกิจ Freight Forwarding ซึ่งเป็นช่วง High Season ในขณะที่รายได้จากธุรกิจคลังสินค้า สามารถรับรู้รายได้ได้เต็มไตรมาส ในขณะที่ช่วง 9 เดือนปี 2567 MPJ มีรายได้รวม 745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 % จาก 665 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 69.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.70% จาก 58.25 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกปีก่อน โดยบริษัทฯคาดว่าจะประกาศผลประกอบการของปี 2567 ในช่วงปลายเดือนหน้า และน่าจะมีการนำเรื่องการจ่ายปันผลตามนโยบายบริษัทฯคือไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังหักเงินสำรองตามกฎหมายให้คณะกรรมการพิจารณาอีกด้วย” “ล่าสุด MPJ ได้เตรียมลงทุนขยายพื้นที่ให้บริการลานตู้คอนเทนเนอร์ที่ แหลมฉบังเพิ่มอีก 19-1-48 ไร่ (30,992 ตร.ม.) เพื่อรองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความหนาแน่น จากการใช้พื้นที่เดิมเต็มพื้นที่การ ให้บริการ และรองรับการเพิ่มจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ ที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยบริษัทจะใช้ งบประมาณการลงทุนประมาณ 164 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 เดือน โดยจะเริ่มเปิดดำเนินงานส่วนต่อขยายได้ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มรายได้ธุรกิจให้บริการลานตู้คอนเทนเนอร์ ในอัตราร้อยละ 52 เมื่อใช้ประโยชน์เต็มพื้นที่ ขณะเดียวกัน MPJ ยังมีแผนที่จะเปิดลานตู้ฯ เพิ่มในเขตกรุงเทพฯ เพื่อขยายธุรกิจลานตู้ให้ครบวงจร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสม สำหรับการลงทุนของบริษัท” นายจีระศักดิ์กล่าวสรุป MPJ มีทุนจดทะเบียนชำระเต็ม 100 ล้านบาท ให้บริการโลจิสติกส์ ครบวงจร แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ 1) ธุรกิจให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับทางเรือ ด้วยรถบรรทุกหัวลาก 237 คันและหางพ่วง 268 คัน ซึ่งเป็น ฟลีทใหญ่แห่งหนึ่งในเขตโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เน้นเส้นทางระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง และ ICD ลาดกระบัง (สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง) 2) ธุรกิจบริหารจัดการลานตู้คอนเทนเนอร์และซ่อมแซมตู้คอนเทนเนอร์ของผู้ให้บริการสายเรือ มีลานตู้คอน เทนเนอร์ 2 แห่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง ภายใต้บริษัท เอ็ม พี เจ ดีสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด (MPJDC) และบริษัท โอเอ็ม ดีโพ จำกัด (OM) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ OOCL Logistics (Hong Kong) Limited ผู้ให้บริการสายเรือ OOCL และ COSCO เพื่อการบริหารการจัดเก็บและดูแลตู้คอนเทนเนอร์ของกลุ่ม OOCL เป็นหลัก 3) ธุรกิจบริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) จัดหาระวางเรือและเครื่องบิน 4) ธุรกิจคลังสินค้า บริการให้เช่าคลังสินค้า ขนาด 4,900 ตารางเมตร ในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และ ขนาด 12,463 ตารางเมตร ในพื้นที่ จังหวัดระยอง โดยได้ทำการส่งมอบเมื่อไตรมาส 2 ปี 2567 [PR News]