#MOSHI


MOSHI มั่นใจ Q4 SSSG พุ่ง 20% คอลเลกชันคอลแลปหนุน

MOSHI มั่นใจ Q4 SSSG พุ่ง 20% คอลเลกชันคอลแลปหนุน

          ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการออกคอลเลกชัน Collaboration Project ร่วมกับศิลปินและบุคคลที่มีชื่อเสียง ตลอดทั้งปี 2567 ส่งท้ายปี 67 ด้วยคอลเลกชันสุดพิเศษ Jukka and Friend ดันรายได้เติบโตทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20% สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของสินค้าและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จ เดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้กว่า 15,000 SKUs มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา แย้มผลงานไตรมาส 4 ทุบสถิติทำ SSSG (QTD) พุ่งทะยานกว่า 20%           นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบเป็นเลิศและโดดเด่นด้วยความน่ารัก ประณีต คุณภาพดี ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าในทุกๆ วัน ด้วยการนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายครอบคลุมทั้งของใช้ในบ้าน ตุ๊กตา เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย กระเป๋า แฟชั่น อุปกรณ์เสริมความงาม เครื่องสำอาง อุปกรณ์ IT ของเล่น ขนม อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และหมวดอื่นๆ ที่นำเสนอสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมตามความต้องการของผู้บริโภค บริษัทฯ มีความโดดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด มีความคล่องตัวในการปรับตัวตามเทรนด์ พร้อมทั้งมีศักยภาพทางการตลาดที่โดดเด่น ส่งผลให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม           ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยตลอดทั้งปี MOSHI ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15,000 รายการ (SKUs) ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นับเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายทั้งในด้านรูปแบบและการออกแบบ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้พัฒนา Collection Collaboration Project ออกผลิตภัณฑ์ K-POP Merchandise คาแรกเตอร์ NCT Dream คอลเลกชัน Moshi x NCT DREAM DREAM( )SCAPE และ คาแรกเตอร์ TEN ในคอลเลกชัน “Moshi Moshi x TEN & CANELE” ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าและเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายให้ได้รู้สึกใกล้ชิดกับไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบมากยิ่งขึ้น           นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมทำ Collaboration กับ Designer ชาวไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยได้ร่วมกับ ศิลปินครีเอเตอร์แบรนด์ 'Butterclub' (บัตเตอร์คลับ) และ ศิลปินครีเอเตอร์แบรนด์ Fluffy Omelet (ฟลัฟ ฟี่ ออม เล็ต) และได้ทำจัดทำคอลเลกชันสุดพิเศษลาย Hello Kitty ครบรอบ 50 ปี และลายสุดพิเศษของกลุ่มตัวละครซานริโอ้ จัดจำหน่ายเฉพาะในงานนิทรรศการ Hello Kitty Exhibition Celebration of Friendship and Sario Characters the Funtastic Exhibition ณ House of Illumination เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับพันธมิตร โดยการลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ พร้อมกันนี้ ยังได้มีวางจำหน่ายสินค้ากล่องสุ่มลิขสิทธิ์และอาร์ตทอยส์จำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของตลาด Blind Box และ Model Toys ที่เป็นเทรนด์มาแรงมากในปีนี้           ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงส่งท้ายปี 2567 บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ Jukka and Friends ต้าวน้อนจระเข้และแก๊งเพื่อนสุดน่ารัก ซึ่งจะยกขบวนความคิ้วท์มาที่ร้าน Moshi Moshi โดยมีครบทั้ง หมอนรองคอ, ผ้าห่ม, กิ๊บ, พวงกุญแจ, พรม และอีกเพียบ! ราคาเริ่มต้นเพียง 39 บาทเท่านั้น เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลสาขาร้าน Moshi Moshi ที่ร่วมรายการได้ที่ Facebook Fanpage Moshi Moshi: https://www.facebook.com/moshimoshi.jp และ ช่องทางออนไลน์ Shopee: https://shopee.co.th/moshimoshi_officialshop           อย่างไรก็ตาม คอลเลกชันทั้งหมดที่ได้ออกในปีนี้ จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าและสามารถกระตุ้นยอดขาย ผลักดันผลการดำเนินงานในปี 2567 ให้เติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 20% ขณะเดียวกันอัตราการเติบโตดังกล่าว ยังมาจากการที่ MOSHI มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความยืดหยุ่น โดยนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ ประกอบกับมีการขยายสาขาให้ครอบคลุมกว่า 60 จังหวัด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลดีต่อเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่และสาขาเดิม โดยเฉพาะการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 4/67 ที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% (QTD) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาด การปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุน การปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในห่วงโซ่อุปทานและความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอและความสามารถในการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน ยังได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทั้งการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อให้ฟื้นตัวตามไปด้วย [PR News]

MOSHI ค้าปลีกโตเด่น SSSG-สาขาใหม่หนุน เป้า 64 บาท

MOSHI ค้าปลีกโตเด่น SSSG-สาขาใหม่หนุน เป้า 64 บาท

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI **Positive view from Company update**          **SSSG พ.ย.** เร่งตัวขึ้นเป็น +23% y-y และ QTD +26% y-y เทียบกับ 3Q24 ที่ +5.7% y-y ดีขึ้นกว่าช่วงต้นเดือนพ.ย. ที่บวก Mid teen y-y และกรณีไม่รวม collection NCT Dream ซึ่งสำเร็จมากในต.ค. และยังมีขายต่อในพ.ย. SSSG พ.ย. บวก +20% y-y ดีขึ้นจากต.ค. ที่ +12-13% y-y โดยเป็นผลทั้งจาก 1) การปรับ Display ดึงจุดเด่นการมองเห็นสินค้าไปในราว 70 สาขา (น้ำหอม, ก้านหอม, เครื่องเขียน, กลุ่มเครื่องประดับ ฯลฯ) 2) จำนวนวันเสาร์-อาทิตย์ของพ.ย. ปีนี้มี 9 วัน เทียบกับปีที่แล้ว 8 วัน 3) การเพิ่มจำนวนสินค้าและเพิ่มยอดขายต่อตร.ม. ให้สูงขึ้น           **เพิ่มจำนวนสินค้า + เพิ่มสินค้า High value**: SSSG ที่เริ่มเห็นโมเมนตัมบวก ฟื้นจาก -8.5% y-y ใน 2Q24 ที่มีปัญหาสินค้าขาดแคลนชั่วคราว มาบวก 5.7% y-y ใน 3Q24 และดีต่อถึงพ.ย. มองกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการผลักดัน SSG นอกจากแผนเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ๆ ที่มากกว่าปกติราว 20% จาก 1 หมื่นเป็น 1.2 หมื่น SKUs บริษัทยังทำงานเชิงลึก พัฒนากำไรต่อพื้นที่ให้สูงขึ้น ลดสินค้ากลุ่ม Low value กลุ่มกำไรต่ำ และทยอยเพิ่มสินค้ากลุ่ม High value ที่เราเห็นในร้านคือ กลุ่มของเล่น ที่มีสินค้า High value เพิ่มทั้งของเล่นทั่วไปและ Art toy รวมถึงปรับปรุงวัสดุผลิตภัณฑ์/การออกแบบของแต่ละกลุ่มสินค้าให้ดูตอบโจทย์เพิ่ม ทั้งผ่านการเพิ่มพื้นที่ขายและผ่าน Display ใหม่ และโดยรวมยังคุม Position ของร้านค้าที่มีสินค้าราคาย่อมเยา เข้าถึงผู้บริโภคได้            **การแข่งขันยังจำกัดมาก**: หลัง KKV สาขาแรกเปิดตัว 31 ต.ค. ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ บริษัทเผยว่า ยอดขายสาขานี้ยังดีมาก ไม่เห็นผลกระทบ โดยยอดขายช่วงแรกบวก 8% y-y และเพิ่มเป็น 13% ช่วงปลายพ.ย. และล่าสุด KKV พึ่งเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา 28 พ.ย. (เดอะมอลล์ ท่าพระและงามวงศ์วาน และเทอร์มินัล พระราม 3) โดยยอดขาย 3 สาขานี้ของ MOSHI หลัง KKV เปิดยังบวก 20% ทั้งนี้ได้สำรวจ 3 ใน 4 สาขาของ KKV พบว่า สาขาบางกะปิ ลูกค้าหนาแน่นสุด ส่วนสาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ และเทอร์มินัล คนน้อยกว่าบางกะปิมาก และค่อนข้างยืนยันภาพการแข่งขันยังจำกัดมาก โดยรวมลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักแบรนด์เลยเน้นซื้อขนมทั่วไป ซึ่งไม่ใช่สินค้าทับซ้อนหลักกับ MOSHI เชื่อว่าคู่แข่งยังต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ รวมถึงต้องปรับรูปแบบสินค้าและราคาให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค ขณะที่ MOSHI ปรับตัวล่วงหน้าแล้ว ทั้งเพิ่มกลุ่มสินค้า Exclusive/ปรับ Display/การเตรียมทำร้านใหญ่ขึ้น และการเร่งขยายสาขาปีหน้า 40 แห่ง **ความเห็นและคำแนะนำ**            ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมอง “Positive” และคงกำไรปี 2024F ที่ 495 ลบ. (+23% y-y) และ 622 ลบ. (+26% y-y) และเริ่มมี Upside ราว 4% จาก SSSG 4Q24 ที่ดีกว่าคาด มองเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่แนวโน้มยังเด่นทั้งระยะสั้น และโอกาสเติบโตระยะกลางยาว ทั้งองค์ประกอบ SSSG และสาขาใหม่ มอง TP 25F (DCF) 64.00 บาท

MOSHI เศรษฐกิจฟื้น ท่องเที่ยวหนุน เป้า 58.86 บ. แนะ “ซื้อสะสม”

MOSHI เศรษฐกิจฟื้น ท่องเที่ยวหนุน เป้า 58.86 บ. แนะ “ซื้อสะสม”

 หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด แนวโน้มรายได้ MOSHI เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% ในช่วงปี 66-68F ผลประกอบการ 3Q67 มีกำไรสุทธิ 108.14 ล้านบาท +33.2%QoQ, +29.8%YoY เติบโต QoQ แม้ใน 3Q จะเป็นช่วง low season ของธุรกิจ แต่เติบโตโดดเด่นตามการแก้ไขปัญหา Shortage การปรับปรุงสินค้าคงคลัง รวมถึง อานิสงส์จากการแจกเงิน 1 หมื่นช่วงปลายไตรมาส ส่งผลให้ SSSG ขยายตัว 5.7% เทียบกับไตรมาสก่อนที่-8.5% ส่วนการขยายตัว YoY ตามการขยายสาขาใหม่ 37 สาขา มาอยู่ 153 สาชา พร้อมกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีสินค้าใหม่กว่า 5,000 SKUs และความสำเร็จกับการผลิตภัณฑ์ Collaboration พิเศษ ได้แก่Moshi x Butter Club และ Moshi x Ten&Canale ด้าน GPM สิ้นงวดอยู่ที่ 52.8% ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ 53.1% และปีก่อนที่ 53.1% จากการร่วมมือกันข้าง แต่ถ้าไม่นับรายการดังกล่าว จะปรับตัวขึ้นเป็น 53.8% จากการปรับเพิ่มสัดส่วนของสินค้านำเข้าสำหรับ The OK. Station ผู้บริหารตั้งเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ (CAGR) ตลอดระยะ 3 ปี (66-68) เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% โดยอัตราการเติบโตมาจากยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และยอดขายจากสาขาเดิม ผ่านกลยุทธ์สำคัญต่างๆ ได้แก่ การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ การปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความ ต้องการของตลาด และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ Collaboration ที่โดดเด่นเพื่อสร้างสีสันให้กับผู้บริโภค รวมถึง การได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ส่วน GPM ที่ขยับขึ้นตามสัดส่วนสินค้า Moshi Moshi (GPM ราว 60-65%) และ The Ok station (GPM ราว 30%) ที่สูงขึ้น          Bloomberg consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 67-68F เท่ากับ 495.8 ล้านบาท +27.5%YoY และ 606.6 ล้านบาท +21.6% YoY มีราคาเป้าหมายเฉลี่ย 58.86 บาท แนะนำ “ซื้อสะสม” เชิงเทคนิค : ระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 46.50/45.50 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา แนวต้าน 49.25-50.00

MOSHI เป้ารายได้ 2025 โต 15-20% ผุดสาขาทำเงิน เป้า 58บ.

MOSHI เป้ารายได้ 2025 โต 15-20% ผุดสาขาทำเงิน เป้า 58บ.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” MOSHI ที่ราคาเป้าหมาย 58.00 บาท คิดเป็น PER ปี 2024E ที่ 36 เท่า บริษัทรายงานกำไร 3Q24 ที่ 108 ล้านบาท (โต +33% YoY และ +33% QoQ) ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบอกต่อการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ โดยมีประเด็นสำคัญคือ 1) บริษัทคงตั้งเป้าจำนวนสาขา MOSHI ภายในสิ้นปี 2024E ที่ 159 สาขา และเป้าขยาย +40 (standalone 9 สาขาและในห้าง 31 สาขา) สาขาในปี 2025E ทำให้ตั้งเป้ารายได้ +15-20% 2) ตั้งเป้า GPM ใน 2025E +60 bps จากสินค้านำเข้าของทั้ง Moshi Moshi และ The Ok station ที่สูงขึ้น เป้าที่ 63-65% และ 30% ตามลำดับ 3) 4Q24E QTD SSSG เป็นบวกที่ระดับ +27-28% หนุนจากสินค้าที่ collaborate กับศิลปิน และคาด GPM ขยายตัวได้จากสัดส่วนสินค้าน าเข้าในช่วงเทศกาลสูงขึ้น คงประมาณการกำไรสุทธิ 2024E/25E อยู่ที่ 486/600 ล้านบาท เติบโต +21%/+23% YoY ฝ่ายวิเคราะห์ยังคาดเห็น GPM และ กำไรขยายตัวได้ต่อ YoY และ QoQ จาก high season ที่เป็นช่วงเทศกาล ประกอบกับรายได้จากสาขาใหม่จะเป็นตัวหนุนต่อผลการดำเนินงานใน 4Q24E ให้ขยายตัวได้โดดเด่น           ราคาหุ้นกลับมา outperform SET ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ +5% จากคาดผลการดำเนินงาน 3Q24 จะฟื้นตัวโดดเด่นและปัญหา supply shortage ที่หมดไป ฝ่ายวิเคราะห์ยังแนะนำซื้อ โดยมองว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวได้ จากรายได้โตและขยายสาขาได้ตามเป้า

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

“MOSHI”  9 เดือน ผลงานนิวไฮ กำไรโต 23.8%

“MOSHI” 9 เดือน ผลงานนิวไฮ กำไรโต 23.8%

           ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดผลงานไตรมาส 3/2567 ทำรายได้รวม 739.74  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.14 ล้านบาท หนุนผลงานงวด 9M/2567 นิวไฮ มีรายได้รวม 2,076.47 ล้านบาท เติบโต 18.7% และกำไรสุทธิ 314.74 ล้านบาท เติบโต 23.8% งัด 2 กลยุทธ์ แก้ปัญหาสินค้าขาดสต็อก ยกทัพสินค้าใหม่หนุน SSSG เติบโต พร้อมมองแนวโน้มโค้งสุดท้ายของปีโดดเด่น หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซันธุรกิจ จัดเต็มสินค้าและกิจกรรมการตลาด และเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 6 สาขา ผลักดันเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 20%            นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 735.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 585.09 ล้านบาท นับว่าเป็นผลการดำเนินงานที่ทำได้สูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆ ของปี แม้ว่าจะเป็นช่วง low season ของธุรกิจ โดยเป็นผลเติบโตจากการเพิ่มสินค้าใหม่ๆกว่า 3,000 รายการ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าลิขสิทธิ์และความนิยมของผลิตภัณฑ์กล่องสุ่ม และการขยายสาขาใหม่อีก 8 สาขา นอกจากนี้ ยังเริ่มรับรู้รายได้จากการร่วมทุน (JV) เพื่อจัด Exhibition ของ Hello Kitty และ Sanrio Characters เข้ามาไตรมาสแรกคิดเป็นรายได้ไม่เกิน 1% ของยอดรายได้รวม ด้านกำไรสุทธิทำได้ 108.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 83.30 ล้านบาท ซึ่งสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีผลกดดันจากการบันทึกขาดทุนจากการร่วมทุน JV ซึ่งเป็นรายการพิเศษในไตรมาส การร่วมทุนครั้งนี้ เป็นโครงการระยะสั้นที่มุ่งเน้นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายระยะเวลาการจัดงานออกไปให้ครอบคลุมช่วงเทศกาลในปลายปี เพื่อช่วยดึงยอดขายในทั้งส่วนของ Ticketing, Merchandising และ Profit Sharing เป็นต้น            ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,076.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,749.75 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 314.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 254.24 ล้านบาท แม้จะเข้าสู่ช่วง Low Season ของธุรกิจ แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่ดี นับเป็นการทำผลงานทั้งรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) โดยสัดส่วนรายได้จากการขายในงวด 9 เดือนแรก ธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ 82.1% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ธุรกิจค้าส่งอยู่ที่ 16.0% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น และรายได้จากช่องทาง Online และช่องทางอื่นๆอยู่ที่ 1.9% เพิ่มขึ้นกว่า 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเติบโตหลักมาจากความสำเร็จในการขายสินค้าลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะคอลเลกชัน K-pop ที่ได้รับความนิยมสูง            สำหรับยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 3/2567 มีอัตราเติบโตที่ดีถึง 5.7% โดยบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านให้สวยงามมากขึ้นและลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีในการช้อปมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มสินค้ากลุ่ม High value เช่น น้ำหอม ก้านหอม และกล่อมสุ่ม Art toy ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหาสินค้าขาดสต็อก ส่งผลให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้น และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีกในอนาคต บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการดังนี้ 1.) เพิ่มความใกล้ชิดในการทำงานร่วมกับผู้ผลิต เพื่อให้สามารถคาดการณ์และจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และ 2.) ศึกษาและแสวงหาช่องทางเพิ่มเติมในการหาผู้ผลิตรายใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความหลากหลายของแหล่งผลิตสินค้า            อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการสะท้อนได้จากการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ที่บริษัทฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งคอลเลกชันที่คอลแลปส์ร่วมกับศิลปินไทย Butterclub และโปรเจกต์คอลแลปส์ “Moshi Moshi x TEN & CANELE”โดยมีเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากฐานลูกค้าเก่าและใหม่ โดย MOSHI ได้พัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบัน พร้อมนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ ผสานกับการออกแบบที่น่ารัก และโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัวในแบบฉบับของ Moshi Moshi            ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการตลาดในไตรมาส 4/67 ที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยเตรียมพร้อมสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 4 คอลเลกชันลิขสิทธิ์ เพื่อเพิ่มความหลากหลายภายในร้านโดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดและการสื่อสารโดยมุ่งเน้นไปที่เทรนด์สมัยใหม่ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแคมเปญส่งท้ายปีเพื่อกระตุ้นยอดขายและขยายฐานลูกค้าต่างชาติ โดยเตรียมจัดกิจกรรมรูปแบบใหม่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น สอดรับกับการเติบโตของบริษัทฯ และเพื่อสนับสนุนให้รายได้ปี 2567 เติบโต 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้            ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีสาขาค้าปลีกและค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 158 สาขา แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 147 สาขา, ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi รูปแบบ Standalone จำนวน 4 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา นอกเหนือจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 6 สาขา ในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น Lotus จ.ยะลา, Big-C จ.ปัตตานี, Robinson จ.ราชบุรี เป็นต้น รวมทั้งสาขา Standalone ในกรุงเทพอีก 1 แห่ง [PR News]

MOSHI ไตรมาส 3/67 มีกำไร 108.14 ล้านบาทโตกว่า 29.8%

MOSHI ไตรมาส 3/67 มีกำไร 108.14 ล้านบาทโตกว่า 29.8%

           MOSHI  รายงานงบไตรมาส 3/2567 ด้วยรายได้ 735.77 ล้านบาท โต 25.8% YoY และกำไรสุทธิ 108.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% จากปีก่อนหน้า พร้อมเดินหน้าขยายสาขาและพัฒนาสินค้าคอลเลคชันพิเศษรองรับแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศ เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่เข้มข้นในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของตลาด วางกลยุทธ์การตลาดและปรับผลิตภัณฑ์ตรงความต้องการ พร้อมมาตรการรักษาส่วนแบ่งการตลาดท่ามกลางการเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นรายใหม่            บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2567 บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 735.77 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงการเติบโตทั้งในด้านของการเปรียบเทียบระหว่างไตรมาสและการเติบโตในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2567 ที่มีจำนวน 636.54 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 99.23 ล้านบาท ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2566 ที่มีมูลค่า 585.09 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 150.68 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 108.14 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2567 ที่มีจำนวน 81.21 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.2 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 26.93 ล้านบาท ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2566 ที่มีมูลค่า 83.30 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 24.84 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 มีสาขารวมทั้งสิ้น 158 สาขา ประกอบด้วยร้าน Moshi 153 สาขา ร้าน Garlic 3 สาขา ร้าน Giant 1 สาขา และร้าน OK Station 1 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยมีการกระจายตัวของสาขาทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย อาทิ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าชั้นนำ คอมมูนิตี้มอลล์ และไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง พัฒนาการที่สำคัญ ไตรมาส 3 ปี 2567 การขยายสาขาเพิ่มเติม บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินการขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 โดยมุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ ได้เปิดสาขาใหม่ภายใต้แบรนด์ Moshi จำนวนทั้งสิ้น 8 สาขา โดยเป็น Standalone 1 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ มีจำนวนสาขาภายใต้แบรนด์ Moshi รวมทั้งสิ้น 153 สาขา โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยสาขาแบบ Standalone จำนวน 4 สาขา ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยคงไว้ซึ่งคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้ ในไตรมาส 3 บริษัทฯ ได้เพิ่มรายการสินค้าใหม่กว่า 3,000 SKU และเปิดตัวคอลเลคชันพิเศษ 2 โครงการ ได้แก่ Moshi x Butter Club การพัฒนาสินค้าที่เป็น Brand Collaboration ร่วมกับศิลปินและนักวาดคนไทย คุณปรรณสรณ์ ถือเป็นหนึ่งในการสนับสนุนความสามารถของนักวาดครีเอเตอร์คนไทย โดยนำตัวการ์ตูนที่ออกแบบมาร่วมพัฒนาเป็นสินค้าของ Moshi ผ่านเครือข่ายร้านค้ากว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศ และ Moshi x Ten & Canele คอลเลคชั่นพิเศษที่นำตัวการ์ตูน Canele ผลงานการออกแบบของคุณเตนล์ ชิตพล มาร่วมสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศ สะท้อนได้จากยอดจำหน่ายที่ทำสถิติสูงถึง 90% ภายในระยะเวลาเพียง 3 วัน การทำสัญญากิจการร่วมค้า บริษัทฯ ทำสัญญากิจการร่วมค้ากับบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) โดยสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 โดยบริษัทฯ มีส่วนได้เสียร้อยละ 50 ในกิจการร่วมค้าดังกล่าว เพื่อร่วมดำเนินกิจการโครงการ “กิจการร่วมค้า โมชิ โมชิ แอนด์ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ โปรเจ็ค ดีเวลลอปเม้นท์” โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดนิทรรศการ Hello Kitty Exhibition Celebration of Friendship and Sanrio Characters the Funtastic Exhibition ณ House of Illumination เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ทั้งนี้ มีแหล่งที่มาของรายได้จาก 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การจำหน่ายบัตรเข้าชม สินค้าลิขสิทธิ์พิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในงาน และรายได้อื่นๆ แม้ว่าผลประกอบการในช่วงแรกจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากธุรกิจหลักของ Moshi ยังคงเติบโตได้ดี อีกทั้งการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพของบริษัทฯ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าธุรกิจค้าปลีกสินค้า Lifestyle จะมีภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 อันเนื่องมาจากเป็นช่วง High Season ที่มีอุปสงค์สูงสุดของปี รวมถึงการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่อย่างแบรนด์ KKV จากประเทศจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของส่วนแบ่งการตลาด ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการเชิงกลยุทธ์อย่างรอบคอบเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการบริหารจัดการในหลายมิติ อาทิ การคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค การกำหนดนโยบายราคาที่เหมาะสม การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ ตลอดจนการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ได้อย่างมั่นคง

[ภาพข่าว] “MOSHI” คว้า CGR ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ระดับ 5 ดาว

[ภาพข่าว] “MOSHI” คว้า CGR ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ระดับ 5 ดาว

           บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2567 (CGR 2024) อยู่ในระดับ “ดีเลิศ (Excellent)” หรือ 5 ดาว ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2567 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้น 808 บริษัท นับเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่พร้อมตอบสนองต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ในราคาย่อมเยา และมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีความโปร่งใส และการบริการจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

[PR News] MOSHI x NCT DREAM ปล่อยคอลเลกชันใหม่ผ่านคาแรกเตอร์ศิลปิน

[PR News] MOSHI x NCT DREAM ปล่อยคอลเลกชันใหม่ผ่านคาแรกเตอร์ศิลปิน

          ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI พาคอลเลกชันคอลแลปสุดพิเศษ กลับมาอีกครั้ง! ผ่าน MOSHI x NCT DREAM ปล่อยคอลเลกชันใหม่ ดึงคาแรกเตอร์ของศิลปินในเพลงไตเติล Smoothie จากอัลบั้มใหม่ล่าสุด DREAM( )SCAPE มัดใจชาว NCTzen DREAM ทั้งในไทยและต่างประเทศ เดินหน้ากระตุ้นยอดขาย พร้อมจัดเต็มสินค้าไม่ต่ำกว่า 20 รายการ ด้วยปริมาณรวมมากกว่าคอลเลกชันก่อนหน้าถึง 3 เท่า เริ่มจำหน่ายแล้ววันนี้ เป็นต้นไป ที่ร้าน Moshi Moshi ทั้ง 82 สาขาที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์ Moshi Moshi Shopee Official Store และเตรียมวางจำหน่ายสินค้ากลุ่ม 2nd Drop line up โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 19 ต.ค. 2567 และสินค้ารายการอื่นๆสามารถพรีออเดอร์ได้ที่ช่องทางออนไลน์ บริษัทฯ เตรียมรองรับความต้องการของกลุ่มแฟนๆ หนุนรายได้ปีนี้เติบโต 20% ตามเป้า           นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายผ่านกลยุทธ์ Collaboration Project ผ่านคอลเลกชันสุดพิเศษ Moshi Moshi x NCT DREAM ISTJ เมื่อปีที่แล้วซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด ล่าสุด MOSHI กลับมาร่วมมือกับ SM Entertainment และ SM True ต้นสังกัดในประเทศไทยอีกครั้งด้วยคอลเลกชันใหม่ลิขสิทธิ์ลวดลายคาแรคเตอร์ของศิลปิน NCT DREAM ศิลปินเกาหลีจากค่ายดังอย่าง SM Entertainment, Asia’s No.1 Entertainment Group ตามคอนเซ็ปต์อัลบั้มใหม่ล่าสุดอย่าง ‘DREAM( )SCAPE’ (ดรีมสเคป) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มแฟนคลับและลูกค้าร้าน Moshi Moshi อย่างดีเยี่ยมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และเชื่อว่าการ Collab ในครั้งนี้จะสามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานได้เป็นจำนวนมาก พร้อมเดินหน้ากระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปี 2567 ซึ่งจะสนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโต 20% ตามเป้าหมาย           สำหรับคอลเลกชัน Collab MOSHI x NCT DREAM ในครั้งนี้ บริษัทฯ กลับมาพร้อมปริมาณสินค้า X3 (คูณสาม) เพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ตอกย้ำความโด่งดังของ NCT DREAM ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ ณ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ผู้ร่วมงานกว่า 65,000 คน ภายใต้คอนเสิร์ต ‘2024 NCT DREAM WORLD TOUR <THE DREAM SHOW 3 : DREAM( )SCAPE> in BANGKOK’ จำนวน 2 รอบการแสดงในเดือนมิถุนายน 2567 สามารถทุบสถิติและขึ้นแท่นศิลปิน SM กลุ่มแรกที่จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตในประเทศไทยได้มากที่สุด นับเป็นการพิสูจน์ความนิยมที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยคอลเลกชันนี้ ได้ร่วมพัฒนาและออกแบบดีไซน์ของสินค้าให้สอดคล้องไปกับเพลงหลัก (Title Track) อย่าง “Smoothie” (สมูทตี้) จากอัลบั้มใหม่ล่าสุด ‘DREAM( )SCAPE’ (ดรีมสเคป) ซึ่งเป็นเพลงฮิปฮอป แดนซ์ เนื้อเพลงเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจว่าสายตาที่เย็นชาของโลกและความรู้สึกด้านลบต่าง ๆ ที่มีต่อตนเอง ทั้งหมดจะถูกบดขยี้และดื่มเข้าไปเหมือน ‘Smoothie’ โดยภายหลังจากปล่อยเทรลเลอร์ Dirty Smoothie ที่แตกต่างกันของทั้ง 7 สมาชิกได้รับการพูดถึงอย่างร้อนแรง แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของการเติบโตและความเท่ผ่านเพลง และภายหลังการเปิดตัวสามารถทะยานขึ้นอันดับ 1 ทั้งบนชาร์ต MelOn HOT100 และชาร์ต Bugs และทุบสถิติด้วยยอดขายอัลบั้มวันแรกบน Hanteo สูงถึง 1,329,701 ชุด แซงหน้าอัลบั้มที่แล้วอย่าง ISTJ ไปได้แบบสวยงาม           สำหรับ คอลเลกชัน Moshi Moshi x NCT DREAM DREAM( )SCAPE บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 20 รายการ หรือกว่า 100 SKUs อาทิ กลุ่มเครื่องเขียน พวงกุญแจ ผ้าห่ม แก้วน้ำเก็บความเย็น ชุดนอน และอื่นๆ เป็นต้น โดยสร้างสรรค์มาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยจัดเต็มสินค้าด้วยปริมาณรวมมากกว่าคอลเลกชันก่อนหน้าถึง 3 เท่า รองรับความต้องการของกลุ่มแฟนๆ ที่มีจำนวนมาก วางเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟนคลับ NCTzen ชาวไทยและต่างประเทศ เชื่อว่าด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดผ่านกลยุทธ์ Collab Marketing จะสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และการ Collab ครั้งนี้ จะช่วยกระจายการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness) ให้ไปถึงต่างประเทศได้อีกด้วย           โดยภายหลังจากการเปิดตัวและวางจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันแรก (วันที่ 12 ตุลาคม 2567) นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก กลุ่มลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลามเหมือนเช่นเคย และเตรียมวางจำหน่ายสินค้ากลุ่ม 2nd Drop line up โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ติดตามรายละเอียดข้อมูลสาขาร้าน Moshi Moshi ที่จัดจำหน่ายทั้ง 82 สาขาที่ร่วมรายการ ได้ที่ Facebook Fan page Moshi Moshi: https://www.facebook.com/moshimoshi.jp และสินค้ารายการอื่นๆ สามารถพรีออเดอร์ได้ที่ช่องทางออนไลน์ Shopee: https://shopee.co.th/moshimoshi_officialshop (limited items and quantity) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป