หุ้นวิชั่น - “ภัฏ ตรัสโฆษิต” บิ๊กบอส LTS คาดธุรกิจติดเครื่องวิ่งต่อ ใส่เกียร์รุกตลาดสมาร์ทโฮม ดีดลูกค้ายอดใหม่ 30 ล้านบาท จับตา Gen AI เปลี่ยนหนุนโครงสร้างพื้นฐานโตเร็ว แถมดีมานด์ GPU ติดสปีด ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 30-40%
นายภัฏ ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LTS เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากการบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ และการขยายทีมขายเพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทจะรุกตลาดสมาร์ทโฮมอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มียอดขายสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฮมที่ยังคงอยู่ในระดับล้านต้นๆ ซึ่งคาดว่าในปี 2568 จะมีรายได้จากสินค้ากลุ่มนี้ประมาณ 20-30 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมองเห็นโอกาสจากโครงการคอนโดมิเนียมที่บางโครงการจะเสร็จสิ้นในปี 2568 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันยอดขายสมาร์ทโฮมเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพรีเซนต์และนำเสนอราคาสินค้าสมาร์ทโฮมเพิ่มเติมแก่ลูกค้าในตลาด
"สำหรับสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฮมในปีนี้บางส่วนได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ซึ่งอาจทำให้การขายไม่ทันตามเป้าหมายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีหน้าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายภัฏ กล่าว
บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่มสินค้าไอที โดยเฉพาะในส่วนของดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 1-2 โครงการ และคาดว่าจะมีโครงการเพิ่มเติมในปี 2568 นอกจากนี้ บริษัทได้เซ็นสัญญาบริการจัดหาทรัพยากรคอมพิวเตอร์และบริการจัดเก็บข้อมูลกับมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นระยะเวลา 3 ปี มูลค่างานกว่า 230 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) จากกลุ่มธุรกิจ IT Solution ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
LTS คาดว่าในปี 2568 สัดส่วนรายได้จะมาจากกลุ่มการขายอุปกรณ์ส่องสว่างประมาณ 50-60% ส่วนอีก 40-50% จะมาจากกลุ่มไอที โดยกลุ่มไอทีมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็นเท่าตัว ในขณะที่การขายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ส่องสว่างยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และไม่ลดลง ซึ่งคาดว่าในปี 2568 บริษัทจะมีการเติบโตของรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 30-40%
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) รายงาน เมื่อการเยือนของ Jensen Huang ในเดือนธันวาคมนี้ใกล้เข้ามาแล้ว (คาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า) ถึงเวลาแล้วที่จะมองไปที่เฟส 1 ของการเปลี่ยนแปลง Gen AI ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของความต้องการ GPU เมื่อข้อจำกัดในอุปทานทำให้ GPU ขาดแคลน ผลประโยชน์จากโอกาสนี้คาดว่า JTS และ LTS จะสามารถเก็บเกี่ยวผลกำไรได้อย่างมากในระยะนี้
JTS กำลังสร้าง GPU farm และโมเดล AI training โดยใช้ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับ KT เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์ NVIDIA GPUs นอกจากการใช้งานของตนเองแล้ว แพลตฟอร์ม Gen AI ของ JTS จะทำหน้าที่เป็นสตูดิโอสำหรับการฝึกฝนและปรับใช้สำหรับลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้งาน AI ได้โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง
LTS: SIAM AI เป็นพันธมิตร Nvidia Cloud รายแรก (และรายเดียว) ของประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับ SIAM AI LTS ได้ประโยชน์จากการเป็นพันธมิตร ซึ่งทำให้เข้าถึง GPU ได้ก่อน แตกต่างจากโมเดลการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม โมเดลปัจจุบันของ NVIDIA คือ "By Invitation Only" ซึ่งทำให้พันธมิตรได้เปรียบในการได้รับ GPU ที่จัดสรรให้ในตลาดที่มีข้อจำกัดนี้
LTS คือใคร? เดิมทีเป็นผู้นำในด้าน lighting solutions LTS ได้ขยายขอบเขตออกไปโดยการพัฒนาฝ่าย IT เพื่อใช้ประโยชน์จาก IoT, ระบบอัตโนมัติในบ้านอัจฉริยะ, และโครงสร้างพื้นฐานเมืองอัจฉริยะ (เช่น เสาอัจฉริยะ) ตั้งแต่ไตรมาส 2/67 ธุรกิจใหมเริ่มสร้างรายได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ไฟส่องสว่าง สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2567 LTS รายงานกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110% YoY ทะลุสถิติสูงสุดในไตรมาส 3/67 โดยหลักหนุนจากการเติบโตในธุรกิจเดิมของบริษัท
AI แค่กระแสหรือสามารถสร้างกำไรจริงได้? LTS กำลังสร้างรายได้ที่วัดได้ผ่าน 2 รูปแบบในด้าน AI - 1) SI: ล่าสุดเริ่มรับรายได้ในฐานะ SI โดยจัดหาอุปกรณ์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ของ SIAM AI (มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท) ในไตรมาส 3/67 2) บริการ GPU ของ NVIDIA: ซึ่งมีมูลค่าสูง โดยความร่วมมือของ LTS ได้รับสัญญามูลค่า 230 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี กับมหาวิทยาลัย CMKL สำหรับการเช่า GPU ของ NVIDIA และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มต้นด้วยชุด GPU จำนวน 8 ตัว โครงการนี้มีศักยภาพในการขยายตัวไม่เพียงแต่กับ CMKL แต่ยังสามารถขยายไปยังลูกค้าอื่นที่ต้องการ GPU จำนวนมากสำหรับโครงการ AI ของพวกเขา
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision