LHSC กองรีทโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จากกลุ่ม บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เตรียมจัดโรดโชว์นักลงทุนรายย่อยให้ข้อมูลรายละเอียดการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ผ่่านระบบออนไลน์วันทีี่ 16 ตุลาคมนี้ รับชมทาง Facebook: Wealthy Thai พร้อมเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและประชาชนทั่วไปจองซื้อวันที่ 4-8 พฤศจิกายนนี้ เตรียมลงทุนเพิ่มเติมใน “โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” แลนด์มาร์คของพัทยาเหนือและมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยถึง 99% หนุนประมาณการอัตราจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนอยู่ที่ 9.5%
นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า ในจังหวะที่อัตราดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดและมีแนวโน้มลดลง ทำให้ราคาของกลุ่ม REITs โดยเฉพาะกองที่มีผลการดำเนินงานที่ดี มีรายได้จากการลงทุนในทรัพย์สินที่เติบโต เริ่มมีการทยอยปรับตัวขึ้นของราคา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนในการเลือกลงทุนในกองรีทคุณภาพในจังหวะนี้ โดยทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ หรือ LH Shopping Centers Leasehold Real Estate Investment Trust (LHSC) กองรีทในกลุ่มรีเทล ที่ปัจจุบันลงทุนในโครงการ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก” และกำลังจะเพิ่มทุนเพื่อขยายพอร์ตทรัพย์สินเพิ่มเติม ในโครงการ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” ซึ่งศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ทั้ง อโศก และพัทยา เป็น ศูนย์การค้า Tourist Mall ที่รายได้ของโครงการได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการขยายตัวภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีกในปัจจุบันอย่างชัดเจน โดย LHSC มีประมาณการอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนในปี 2568 ภายหลังการเพิ่มทุน สูงถึง 9.5% โดย LHSC จะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าโครงการ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” ระยะเวลาประมาณ 24 ปี โดยมีมูลค่าลงทุนไม่เกิน 5,700 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง) และมีแหล่งเงินทุนมาจากการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนมูลค่ารวมไม่เกิน 3,190 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ และแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) มีผลใช้บังคับแล้ว
ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ LHSC ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2567 (XR วันที่ 16 ตุลาคม 2567) และประชาชนทั่วไป จองซื้อพร้อมกันวันที่ 4-8 พฤศจิกายน 2567 ที่ราคาเสนอขายสูงสุดซึ่งจะประกาศผ่านเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 โดยสำหรับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมสามารถจองซื้อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และสำหรับประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
นายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช ผู้บริหารสายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยก็กลับมาคึกคัก มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่สูงขึ้น แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นจากนักลงทุนทุกประเภท โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ หรือ Fund Flow ได้พลิกกลับมาเป็นการซื้อสุทธิแล้ว จากที่เป็นการขายสุทธิในช่วง 2 ไตรมาสแรก นอกจากนั้น ตลาดหุ้นไทยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนต่อเนื่องในไตรมาส 4 ทั้งจากเงินลงทุนใหม่จากกองทุนวายุภักษ์ กองทุน Thai ESG และการเข้าสู่ไฮซีซั่นด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย
การลงทุนในกองรีท LHSC จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากทั้งทรัพย์สินปัจจุบันของกอง คือ โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก และทรัพย์สินที่เตรียมจะลงทุนเพิ่มเติม คือ โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา เป็นโครงการที่มีทั้ง
คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะเป็นการกระจายทำเลการลงทุนสู่เมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก เพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่ผลการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ LHSC
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า LHSC ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตได้ดี โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 17.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 35% จากช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และคาดการณ์ทั้งปี 2567 อยู่ที่ 36 ล้านคน ขณะที่ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะโครงการศูนย์การค้าระดับไพร์มในพัทยา ที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 สูงมากกว่า 90% โดยโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ LHSC จะลงทุนเพิ่มเติม มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 99% โดยโครงการตั้งอยู่บริเวณวงเวียนปลาโลมาใจกลางพัทยาเหนือ สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง และใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 1 ชั่งโมงครึ่ง มีที่จอดรถให้แก่ผู้ใช้บริการมากกว่า 2,000 คัน และอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และใกล้กับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา
ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก ซึ่งเป็นทรัพย์สินปัจจุบันของกองทรัสต์ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 บนทำเลใจกลางเมืองอโศก-สุขุมวิท จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท รวมถึงแวดล้อมด้วยโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาว คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน สถานศึกษา ศูนย์ประชุมนานาชาติ โดยโครงการมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 98% และผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 LHSC มีรายได้จากลงทุนรวม 696.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการลงทุน รวม 321.4 ล้านบาท เติบโตกว่า 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกแล้วรวม 0.527 บาทต่อหน่วย และด้วยศักยภาพของศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมจะเข้ามาช่วยเพิ่มขนาดสินทรัพย์ของกองทรัสต์ เสริมสภาพคล่องและสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้แก่นักลงทุนด้วย