#JSP


JSP ปี 68 เทรนด์ Lifestyle Medicine หนุนตลาดอาหารเสริมไทยโต 15 %

JSP ปี 68 เทรนด์ Lifestyle Medicine หนุนตลาดอาหารเสริมไทยโต 15 %

           หุ้นวิชั่น - นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) ผู้ให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ผู้นำการรับจ้างผลิต (OEM) ยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคนและสัตว์ และผลิตภัณฑ์ Own Brand เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งรวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามิน และเครื่องดื่ม ในประเทศไทย มีมูลค่าการตลาดมากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยการเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด -19 อย่างไรก็ตามหลังจากที่การระบาดคลี่คลายลงแล้วแต่แนวโน้มการเติบโตของสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะหลังจากเกิดการตื่นตัวด้านการดูและสุขภาพในช่วงที่มีการระบาด ทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนไป เนื่องจากตระหนักถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพว่าสุขภาพของหลายๆคนเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงเกิดเป็นพฤติกรรมที่ขยายไปสู่วงกว้างในสังคม            อย่างไรก็ดีแม้ว่าเทรนด์การใส่ใจสุขภาพและการปรับพฤติกรรมจะสร้างการรับรู้ให้คนทั่วโลกมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในปี 2568 เทรนด์การใส่ใจสุขภาพจะยังคงเติบได้รับความสนใจต่อเนื่อง โดยเฉพาะการได้รับการสนับสนุนจาก 3 ปัจจัยดังนี้ 1. Lifestyle Medicine (วิถีชีวิตบำบัด หรือ เวชศาสตร์วิถีชีวิต) การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันโดยการร่วมมือระหว่างแพทย์และคนไข้ ตั้งแต่การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด การนอนหลับ การเลิกสูบบุหรี่ การเข้าสังคม เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน หรือกระทั่งรักษาโรคซึ่งเป็นการบำบัดที่สาเหตุ ถือเป็นการบำบัดแบบใหม่ที่สามารถป้องกัน ลดความเสี่ยง และลดการใช้ยาลงได้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน โดย Lifestyle Medicine กำลังเป็นเทรนด์ที่ผู้คนให้ความสนใจ และส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวัตถุดิบจากสารสะกัดจากธรรมชาติได้รับความสนใจไปพร้อมๆกัน 2. ราคายาแผนปัจจุบันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10% ตามราคาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น 10 – 20% ส่งผลให้ การหันมาปรับพฤติกรรมการกิน ผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น น้ำมันงาดำ น้ำมันรำข้าว และซูเปอร์ฟู้ดที่ให้พลังงานสูง เช่น ไข่ผำ เป็นต้น ซึ่งการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันจะทำให้ลดการใช้ยาหรือใช้ยาเมื่อจำเป็นเท่านั้น 3. การเข้าถึงบริการทางด้านสาธารณะสุขที่ใช้เวลานานขึ้น ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาดูแลตัวเองแม้ว่าจะมีความกำลังซื้อในการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์แต่ไม่ต้องการเสียเวลาในการรอคอยเพื่อเข้าถึงบริการ จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ            จากปัจจัยสนับสนุนทั้ง 3 ด้านนี้ JSP คาดว่า ปี 2568 ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจะเติบโตประมาณ 10 – 15% นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มคนวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ จากเดิมที่พบว่ายอดขายส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป จึงทำให้ตลาดขยายตัวไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น และคาดว่าภายใน 5 ปีสัดส่วนยอดขายในกลุ่มวัยทำงานจะเติบโตเทียบเท่ากลุ่มวัย 60 ปีขึ้นไป [PR News]

[Vision Exclusive] JSP “งาดำรำข้าว” ทะลุเป้า  ผลงาน Q3 โตโดด 868.4%

[Vision Exclusive] JSP “งาดำรำข้าว” ทะลุเป้า ผลงาน Q3 โตโดด 868.4%

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 32.54 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ที่ 3.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 868.4% ส่งผลให้ 9 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 44.26 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ขาดทุน 8.17 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไร 641.7%            ขณะที่รายได้ไตรมาส 3/2567 ทำได้ 228.67 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 171.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.1% ส่วน 9 เดือนแรกปี 256 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 583.75 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 417.07 ล้านบาท หรือเติบโต 40%           สำหรับการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลจากรายได้ของผลิตภัณฑ์ประเภท Own Brand เพิ่มขึ้น โดยมาพระเอกอย่าง งาดำรำข้าว ตราสุภาพโอสภและการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำยาและวัสดุทางการแพทย์สำหรับฟอกไต ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่การรับจ้างผลิต (OEM) ยังเติบโตได้ดี รวมถึงแผนการติดตั้งตู้ยา ปัจจุบันสามารถติดตั้งได้ตามเป้าครบ 200 ตู้           นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า ผลิตภัณฑ์ประเภท Own Brand อย่าง “งาดำรำข้าว” ตราสุภาพโอสถ มีอัตราการเติบโตของยอดขายที่ดี โดยในปี 2567 บริษัทคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นไปถึง 300 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 250 ล้านบาท           การเติบโตของผลิตภัณฑ์ “งาดำรำข้าว” ตราสุภาพโอสถ มาจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น TV Home Shopping ร้านค้าโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะร้านขายยา รวมถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้ยอดขายและอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน           นอกจากนี้ บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนและกระบวนการผลิตภายในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เห็นการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งการลงทุนในโรงงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มส่งผลชัดเจนต่อการผลิตและยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น           ในการดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำยาฟอกไต ซึ่งบริษัทผลิตและจำหน่ายเพื่อใช้ในศูนย์ฟอกไตภายในประเทศ โดยปัจจุบันสายการผลิตยังดำเนินการได้ตามปกติ และเริ่มเดินเครื่องจักรชุดที่สองแล้ว ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 160,000 แกลลอน จากเดิมที่ 120,000 แกลลอน คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 50% ทั้งนี้ หากสามารถเดินเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพ คาดว่าจะเพิ่มการผลิตได้ถึง 240,000 แกลลอน ส่วนของแผนการนำบริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาด Livex ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องตามแผน โดยบริษัทคาดว่าจะนำเงินระดมทุนจากการจดทะเบียนดังกล่าวมาช่วยเสริมศักยภาพการขายในอนาคต           JSP คาดการณ์ว่าการเติบโตในปี 2568 จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 โดยทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะจากการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ตามกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง นอกจากนี้ JSP ยังเน้นกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น           ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 โครงสร้างรายได้จากการขายและให้บริการ ของ JSP ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตรายี่ห้อของกลุ่มบริษัท (Own Brand) ได้แก่ ตรายี่ห้อของกลุ่มบริษัทสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาแผนปัจจุบัน และสมุนไพร ได้แก่ COXTM JSP สุภาพโอสถ EVITONTM ซึ่งครอบคลุมหลายช่องการจำหน่าย กลุ่มบริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดที่จะขยายรายได้จากผลิตภัณฑ์กลุ่ม Own Brand คิดเป็นสัดส่วน 40.2%           ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตรายี่ห้อของลูกค้า (OEM) กลุ่มบริษัทมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า กลุ่มบริษัทยังคงมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบ OEM 38.4%           ผลิตภัณฑ์น้ำยาฟอกไต (Hemodialysis) ได้แก่ กลุ่มบริษัทมีการผลิตและจำหน่ายน้ำยาฟอกไตเพื่อจำหน่ายในศูนย์ฟอกไตในประเทศ 16.7%           การให้บริการรับจ้างวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจัดฝึกอบรม (Research) กลุ่มบริษัทให้บริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝึกอบรมและสัมมนา และให้คำปรึกษาในการยื่นขอทุนวิจัย 1.1%           ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (Others) ได้แก่ กลุ่มบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าแบบซื้อมาขายไป เช่น ชุดตรวจสารเสพติด เป็นต้น กลุ่มบริษัทให้บริการติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์เพื่องานอุตสาหกรรม 3.6% รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision ข้อมูลทำกราฟฟิก บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP **หัว** JSP“งาดำรำข้าว”ยอดทะลุเป้า **เทิร์นอะราวน์แรง** 9M67 กำไรสุทธิ 44.26 ล้านบาท ช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 8.17 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไร 641.7% **ผลงานโต** Q3/67 กำไรสุทธิ 32.54 ล้านบาท โต 868.4% Q3/67 รายได้ 228.67 ล้านบาท โต 33.1% 9M67 กำไรสุทธิ 583.75 ล้านบาท โต 40% ลักษณะธุรกิจ พัฒนา ผลิตและจําหน่ายยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เวชภัณฑ์ และแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ ลูกค้า และเครื่องหมายการค้าของบริษัท **ใส่รูปผู้บริหาร** นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP **กราฟ สัดส่วนรายได้** โครงสร้างรายได้จากการขายและให้บริการ ของ JSP ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตรายี่ห้อของกลุ่มบริษัท (Own Brand) ได้แก่ ตรายี่ห้อของกลุ่มบริษัทสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาแผนปัจจุบัน และสมุนไพร ได้แก่ COXTM JSP สุภาพโอสถ EVITONTM ซึ่งครอบคลุมหลายช่องการจำหน่าย กลุ่มบริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดที่จะขยายรายได้จากผลิตภัณฑ์กลุ่ม Own Brand คิดเป็นสัดส่วน 40.2% ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตรายี่ห้อของลูกค้า (OEM) กลุ่มบริษัทมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า กลุ่มบริษัทยังคงมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบ OEM 38.4% ผลิตภัณฑ์น้ำยาฟอกไต (Hemodialysis) ได้แก่ กลุ่มบริษัทมีการผลิตและจำหน่ายน้ำยาฟอกไตเพื่อจำหน่ายในศูนย์ฟอกไตในประเทศ 16.7% การให้บริการรับจ้างวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจัดฝึกอบรม (Research) กลุ่มบริษัทให้บริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝึกอบรมและสัมมนา และให้คำปรึกษาในการยื่นขอทุนวิจัย 1.1% ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (Others) ได้แก่ กลุ่มบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าแบบซื้อมาขายไป เช่น ชุดตรวจสารเสพติด เป็นต้น กลุ่มบริษัทให้บริการติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์เพื่องานอุตสาหกรรม 3.6% **รายได้แบ่งตามประเภทสินค้า** **กำไรขั้นต้นและอัตรากำไรขั้นต้น**

[Vision Exclusive] JSP ชูเรือธง

[Vision Exclusive] JSP ชูเรือธง"น้ำมันงาดำรำข้าว" ยอดขายทะลุเป้า 800 ล้าน

           หุ้นวิชั่น - รู้หรือไม่? แบรนด์ "สุภาพโอสถ" หนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยาชื่อดังของไทย อยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและผลิตยามาเกือบ 70 ปี บริษัทนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 และได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับความเชื่อถือในวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยาแผนโบราณในประเทศไทย​            ด้วยประสบการณ์ยาวนานและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง JSP ได้ขยายการผลิตทั้งในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ของตนเอง ซึ่งประกอบด้วย สุภาพโอสถ, COX, JSP และ EVITON โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับความนิยมและการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ            การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วยให้ JSP มีโอกาสขยายธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง​            ส่วนแบรนด์สุภาพโอสถมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะแบรนด์น้ำมันงาดำรำข้าวได้เน้นสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งผสานคุณสมบัติทางโภชนาการจากน้ำมันงาดำและน้ำมันรำข้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยบำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยที่ต้องการดูแลสุขภาพข้อต่อและหัวใจ​ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของแบรนด์ ทางบริษัทได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรก "แม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์" ในปี 2567 เพื่อเจาะกลุ่มตลาดผู้สูงวัย            นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2567 บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการตั้งเป้ารายได้ที่ 750 ล้านบาทเมื่อต้นปี 2567 จากนั้นปรับเพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านบาทในกลางปี และคาดจะทำได้ใกล้เคียงเป้าหมาย            การเติบโตที่สำคัญนี้มาจากผลิตภัณฑ์ น้ำมันงาดำผสมน้ำมันรำข้าว ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการขยายตัวสูงขึ้นกว่า 2 เท่าตัว และเป็นธุรกิจเรือธงของ JSP สินค้านี้เป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่สร้างรายได้และผลักดันการเติบโตของบริษัทในปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ            ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์น้ำมันงาดำผสมน้ำมันรำข้าว เป็นสินค้าเจาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง ประกับประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่เข้าสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ส่งผลให้เทรนด์การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งสินค้าที่ใช้ดี และมีประโยชน์จะถูกบอกต่อออกไปสังคมในวงกว้าง            หลังจาก JSP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อปี 2564 บริษัทได้ทุ่มลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอย่างต่อเนื่องในปี 2565-2566 ส่งผลให้ในช่วงสองปีนั้นบริษัทประสบภาวะขาดทุน แต่การลงทุนนี้เริ่มเห็นผลชัดเจนในปี 2567 และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 358.76 ล้านบาท และพลิกมีกำไรสุทธิ 11.71 ล้านบาท จากการขาดทุนในปี 2566 ที่รายได้ 594.36 ล้านบาท แต่ขาดทุน 1.27 ล้านบาท นับเป็นการฟื้นตัวที่โดดเด่น            การลงทุนที่ผ่านมาทำให้ JSP ก้าวเข้าสู่ช่วงการเก็บเกี่ยวผลลัพธ์ โดยในปี 2567 บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.0316 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ กำลังการผลิตจากสองโรงงานยังมีศักยภาพเหลือเฟือ หากสามารถผลิตได้เต็มที่ จะสร้างรายได้สูงถึง 2,000 ล้านบาท            ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตรายี่ห้อของกลุ่มบริษัท (Own Brand) ได้แก่ ตรายี่ห้อของกลุ่มบริษัทสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาแผนปัจจุบัน และสมุนไพร ได้แก่ COXTM JSP สุภาพโอสถ EVITONTM ซึ่งครอบคลุมหลายช่องการจeหน่าย กลุ่มบริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดที่จะขยายรายได้จากผลิตภัณฑ์กลุ่ม Own Brand ให้เพิ่มขึ้น            ผลิตภัณฑ์น้ำยาฟอกไต (Hemodialysis) ได้แก่ กลุ่มบริษัทมีการผลิตและจำหน่ายน้ำยาฟอกไตเพื่อจำหน่ายในศูนย์ฟอกไตในประเทศการให้บริการรับจ้างวิจัยและพัฒนำผลิตภัณฑ์ และจัดฝึ กอบรม (Research) กลุ่มบริษัทให้บริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝึกอบรมและสัมมนา และให้คำปรึกษาในการยื่นขอทุนวิจัย            ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (Others) ได้แก่ กลุ่มบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าแบบซื้อมาขายไป เช่น ชุดตรวจสารเสพติด เป็นต้น กลุ่มบริษัทให้บริการติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์เพื่องานอุตสาหกรรม รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision