#IVL


IVL โชว์นวัตกรรมความยั่งยืน  ที่งาน COP29 ในอาเซอร์ไบจาน

IVL โชว์นวัตกรรมความยั่งยืน ที่งาน COP29 ในอาเซอร์ไบจาน

           กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 19 พฤศจิกายน 2567 – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้นำเสนอนวัตกรรมล่าสุดด้านการรีไซเคิลและความยั่งยืน ในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ครั้งที่ 29  (COP29) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน ณ กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน            อินโดรามา เวนเจอร์ส เข้าร่วมการประชุม COP29 ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญระดับโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจัดแสดงผ่านบูธของบริษัทฯ และภายใต้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยที่ Thailand Pavilion บริษัทฯ ได้นำเสนอความสำเร็จครั้งสำคัญในการรีไซเคิลขวด PET หลังการบริโภคกว่า 130,000 ล้านขวด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 ถึงเดือนตุลาคม 2567  โดยนวัตกรรมล่าสุดของบริษัทฯ ครอบคลุมตั้งแต่โซลูชั่นบรรจุภัณฑ์ PET ที่ยั่งยืน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่นำกลับมาหมุนเวียนได้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการผลิต “Indispensable Chemistry” หรือเคมีภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้ ซึ่งเข้าถึงชีวิตผู้คนนับพันล้านทุกวัน ทั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ ขวดสปาร์คกลิ้งไวน์ที่ผลิตจาก PET แบบชั้นเดียว (monolayer) เป็นรายแรกของโลก ซึ่งพัฒนาร่วมกับ SIPA และขวด PET ที่ผลิตจากพาราไซลีนเชิงชีวภาพ1 (bio-paraxylene) ซึ่งผ่านการรับรอง ISCC+ สามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้เป็นครั้งแรกของโลก ในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานกับซันโทรี่ (Suntory) เอเนออส คอร์ปอร์เรชั่น (ENEOS Corporation) มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (Mitsubishi Corporation) อิวาตานิ (Iwatani) และเนสเต้ (Neste) สำหรับบางผลิตภัณฑ์ในประเทศญี่ปุ่นของ Suntory Group รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ OXISMOOTH® ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นแบบเอนกประสงค์ที่ผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียนทั้งหมด            นอกจากนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังมีส่วนร่วมในเวทีเสวนาผู้นำทางความคิดของ COP29 โดย แอนโทนี เอ็ม วาตานาเบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ได้พูดคุยเกี่ยวกับ “6 เคล็ดลับสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน” โดยอธิบายว่าเศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกได้ถึงร้อยละ 40 ภายในปี 2593 ได้อย่างไร เขาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในความร่วมมือระดับนานาชาติ รวมถึงสนธิสัญญาเกี่ยวกับพลาสติกระดับโลกที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ และแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่อินโดรามา เวนเจอร์ส ทำงานร่วมกันในห่วงโซ่คุณค่าเพื่อขยายโซลูชั่นแบบหมุนเวียน            เออร์มิส พานาจิโอโตปูลอส หัวหน้าฝ่าย Sustainability Advocacy  สำหรับกลุ่มประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ฮาร์ช่า เรดดี้ หัวหน้าฝ่าย Sustainability Development และ นวีนสุดา กระบวนรัตน์ รองประธานร่วมฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม ได้เป็นตัวแทนบริษัทฯ ในช่วงการเสวนาและกล่าวปาฐกถาต่างๆ ที่มุ่งเน้นวิถีสู่อนาคตที่ลดคาร์บอน และตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ อินโดรามา เวนเจอร์ส ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน            ยาช โลเฮีย ประธานคณะกรรมการด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “COP29 เป็นเวทีอันทรงคุณค่าในการนำเสนอความสำเร็จด้าน ESG ล่าสุดของเรา และตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการจัดการกับความท้าทายด้านสภาพอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืนอื่นๆ โดยความร่วมมือของเรากับรัฐบาลไทย และการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีที่ยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอินโดรามา เวนเจอร์ส ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของเราทั่วโลก”            งาน COP 29 เชื่อมโยงประเทศต่างๆ องค์กรธุรกิจ และผู้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน และมีคาร์บอนต่ำลง ทั้งนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความพยายามเหล่านี้ โดยแบ่งปันโซลูชั่นที่สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการดำเนินการร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ [PR News]

KSS คาด SET สร้างฐาน ชี้ต้าน 1463 จุด ค้าปลีก ท่องเที่ยว แบงก์ เช่าซื้อเด่น

KSS คาด SET สร้างฐาน ชี้ต้าน 1463 จุด ค้าปลีก ท่องเที่ยว แบงก์ เช่าซื้อเด่น

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “แกว่งสร้างฐาน” ต้าน 1458/1463 จุด รับ 1443/1440 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งในกรอบ ดัชนีS&P500 ปิดทรง แม้เงินเฟ้อ CPI ต.ค. 24 ตามตลาดคาด +2.6%y-y, 0.2%m-m และตลาดส่วนใหญ่ยังเชื่อภาพ Fed จะปรับลดดอกเบี้ย ธ.ค. 24 แต่เป็นที่น่าสังเกต US Bond Yield ปรับลงเฉพาะ 2 ปี ส่วน 10 ปีปรับขึ้น บ่งชี้ตลาดยังความกังวลต่อความเสี่ยงผลกระทบนโยบาย ประธานาธิบดี Trump ต่อเงินเฟ้อเงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าเช้านี้แตะ 34.9 บาท มองจิตวิทยาลบต่อ SET แต่ภายในกำไร 3Q24 ยังมีพัฒนาการ หลังรายงานเพิ่มเป็น 415 บริษัท ระดับกำไรต่ำกว่าคาดทรงตัว -19.2% (vs วานนี้ -19%) โดยมีกำไรกลุ่ม Domestic เด่นกลบฝั่ง Global พลังงาน+ชิ้นส่วนที่ต่ำคาด กอปรกับ สัญญาณชี้นำระยะถัดไปที่เป็นบวก อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก ต.ค. 24 สูงสุด ในรอบเกือบ 1ปี , กระทรวงการคลังยืนยันพิจารณามาตรการกระตุ้นบริโภค หากการฟื้นตัวมีสัญญาณสะดุด มอง SET ประคองได้ หุ้นเด่น คือ หุ้น Domestic (ค้าปลีก ท่องเที่ยว ธนาคาร เช่าซื้อ) หุ้น China Plays (เก็งรายงานเศรษฐกิจพรุ่งนี้คาดเริ่มเห็นพัฒนาการบวก) และหุ้นเงินบาทอ่อนค่าหนุน (อาหาร, ชิ้นส่วน) วันนี้แนะ CPALL, IVL, SCB

IVL ปันผล 0.175 บาทต่อหุ้น รับทรัพย์ 11 ธ.ค. 2567

IVL ปันผล 0.175 บาทต่อหุ้น รับทรัพย์ 11 ธ.ค. 2567

          บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เผย ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีการอนุมัติ การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.175 (บาทต่อหุ้น) วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 26 พ.ย. 2567 และวันที่จ่ายปันผล : 11 ธ.ค. 2567

KSS คาด SET วันนี้ Side way up ชี้ต้าน 1.470 จุด แนะ ADVANC, MTC, IVL

KSS คาด SET วันนี้ Side way up ชี้ต้าน 1.470 จุด แนะ ADVANC, MTC, IVL

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “Sideways/Up” ต้าน 1465/1470 จุด รับ 1446/1443 จุด ดัชนี S&P500 +0.1% ทะลุ 6,000 จุดเป็นครั้งแรก กลุ่มนำคือ หุ้น Trump Plays ที่ยังมีโมเมนตัมบวก ส่วนปัจจัยมหภาคคาดตลาดรอติดตามรายงานเศรษฐกิจเงินเฟ้อ CPI ต.ค.          พรุ่งนี้ (13 พ.ย.) ด้าน Asia เริ่มเห็นผลบวกการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนต่อรายงานเศรษฐกิจ อาทิ ยอดขายบ้านเมืองใหญ่ ยอดขายปลีกรถยนต์ ต.ค. +7%y-y ฝ่ายวิเคราะห์มองน่าจะช่วยบรรเทาความผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดที่เน้นเฉพาะหนี้ท้องถิ่นได้บ้าง บ่งชี้จากตลาด หุ้นจีนฟื้นช่วงท้ายวานนี้          ส่วนภายในยังเป็นช่วงโค้งสุดท้ายงบ 3Q24 แม้ปัจจุบันรายงานแล้ว 218 บริษัท จะยังต่ำกว่าคาด -21% แต่เริ่มดีขึ้นจากวานนี้ที่ -22.5% หลังหุ้นอิงภายในทยอยรายงานเพิ่มขึ้น          ขณะที่ Outlook ภาคบริการบวก ผู้ใช้บริการสนามบิน AOT เดินทาง ตปท. (ชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ) 1-9 พ.ย. สูง 105.4% vs นักท่องเที่ยว 10M24 ที่ 88.3% ของ Pre-Covid สะท้อนภาพฤดูกาลและโอกาสเห็น Upside นักท่องเที่ยวปี 2025F ที่ตลาดมองระดับ Pre-Covid          มองหุ้นนำวันนี้ China Plays, หุ้นอิงภาคบริการ และหุ้นดอกเบี้ยขาลงหนุน วันนี้แนะ ADVANC, MTC, IVL

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

IVL ประกาศกำไรQ3/67ที่ 1.5 พันล้าน โต670% ดีกว่าโบรกคาด

IVL ประกาศกำไรQ3/67ที่ 1.5 พันล้าน โต670% ดีกว่าโบรกคาด

           IVL ประกาศกำไรไตรมาส 3/2567 ที่ 1,504.91 ล้านบาท เติบโตถึง 670% จากปีก่อนหน้าและ 107% จากไตรมาสก่อนหน้า ขับเคลื่อนด้วยการรักษาปริมาณการผลิต การปรับปรุงส่วนต่างราคามาตรฐานในทุกกลุ่มธุรกิจ และการบริหารจัดการต้นทุนเชิงรุก เผยไตรมาส 4 ธุรกิจชะลอตัวผันผวนตามฤดูกาล มีแผนการปิดซ่อมบ ารุงโรงงานในบราซิลและอเมริกาเหนือ(NAM)            บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL  รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่ 1,504.91 ล้านบาท เติบโต 670% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 107 % จากไตรมาสก่อนหน้า โดย ดีกว่าที่ นักวิเคราะห์คาด อย่าง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดกำไรทำได้ ที่ 1.3 พันล้านบาท            Indorama Ventures มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ ขับเคลื่อนด้วยปริมาณการผลิตและยอดขายที่ยังมั่นคง การลดต้นทุนจากการดำเนินการจัดการเชิงรุก และการปรับตัวดีขึ้นของส่วนต่างราคามาตรฐาน (Benchmark spreads) ในทุกกลุ่มธุรกิจ ไตรมาสนี้เป็นการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า (YoY) เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ตกอยู่ในช่วงเวลาที่มีความท้าทายจากสถานการณ์ที่เกิดภาวะเร่งลดสต็อกสินค้าในอุตสาหกรรมและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เป็นการส่งสัญญาณโมเมนตัมของการฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ แสดงให้เห็นว่าการที่บริษัทฯ มีพอร์ตธุรกิจที่หลากหลายกระจายฐานธุรกิจอยู่ทั่วโลก ช่วยทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนและผ่านวงจรธุรกิจที่ผันผวนได้            จากที่ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาดปลายทางยังคงแข็งแกร่ง ช่วยทำให้บริษัทฯ รักษาปริมาณการผลิตและยอดขายให้คงที่ ปริมาณการขาย PET และ Fibers ยังทรงตัวคงที่เสมอตลอดทั้งปี ขณะที่ Indovinya กำลังอยู่ในฤดูกาลที่มักมียอดขายสูงสุดสำหรับตลาด Crop Solutions บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนงานที่ระบุไว้ในวิสัยทัศน์ IVL 2.0 เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งบริษัทฯ มุ่งเน้นในเรื่องการลดภาระหนี้และการพัฒนาคุณภาพของรายได้ ความมุ่งมั่นของทีมงานผู้บริหารที่เน้นการควบคุมต้นทุนเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทรัพย์สินที่ IVL ได้ดำเนินการในไตรมาสที่แล้ว เริ่มส่งผลให้เกิดการประหยัดต้นทุนคงที่ 19 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีหน้าเมื่อรับผลสะท้อนเต็มปี ทั้งนี้ การดำเนินการตามที่วางแผนไว้สำหรับกลุ่ม CPET และ Indovinya ได้แล้วเสร็จลง ขณะที่กลุ่ม Fibers ยังไม่เริ่มปฏิบัติการ อัตราการดำเนินงานของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 69% ในไตรมาส 3 ปี 2566 เป็น 82% ในไตรมาสนี้ และสำหรับ CPET อัตราการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 69% ในไตรมาส 3 ปี 2566 เป็น 84% ในไตรมาสนี้ โดยโครงการนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทฯ ในการเพิ่มประสิทธิภาพทรัพย์สิน ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และเสริมสร้างความสามารถในการทำกำไร            กลุ่มธุรกิจ Fibers ได้ดำเนินการอย่างมุ่งมั่นตลอดปีที่ผ่านมาในการลดต้นทุนคงที่ในพอร์ตสินทรัพย์ทั้งหมด (ก่อนที่จะรับรู้การประหยัดที่เกิดจากการเพิ่มประสิทธิภาพทรัพย์สิน) นอกจากนี้ ภายในกลุ่มธุรกิจย่อย Hygiene และ Mobility นั้น คณะผู้บริหารได้มีการดำเนินการจริงจัง เพื่อทวงคืนส่วนแบ่งการตลาดที่สูญเสียไปโดยใช้กลยุทธ์การปรับราคาสินค้า และด้วยการเพิ่มปริมาณยอดขายและลดต้นทุน รวมถึงการปรับปรุงต้นทุนด้านสาธารณูปโภค ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จะยังคงเป็นผู้นำในตลาดที่สำคัญ และเมื่อแผนการเพิ่มปริมาณและการปรับโครงสร้างต้นทุนได้เสร็จสมบูรณ์ คณะผู้บริหารจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มอัตรากำไรเป็นลำดับถัดไป            การพัฒนาด้านดิจิทัลของบริษัทฯ ได้มีความก้าวหน้าหลังจากเริ่มมีการใช้ระบบดิจิทัลหลักในรูปแบบของ S/4HANA ERP บริษัทฯ กำลังดำเนินการตามโครงการดิจิทัลต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นไปตามแผน ฐานธุรกิจในอเมริกาเหนือของบริษัทฯ ได้เริ่มใช้ประโยชน์จากโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในกระบวนการ Source-to-Contract เพื่อเพิ่มความเป็นเลิศในกระบวนการจัดซื้อ โครงการ Manufacturing Excellence เริ่มส่งผลให้เห็น โดยเกิดการปรับปรุงในผลผลิตจากแรงงานผ่านแพลตฟอร์ม Connected Worker บริษัทฯ คาดว่าโซลูชันด้านการขายและ Supply chain จะเริ่มใช้งานได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 บริษัทฯ ได้เสริมสร้างความร่วมมือทั้งกับพันธมิตรเก่าและใหม่ เพื่อเร่งสร้างคุณค่าให้เกิดโดยทั่วทั้งองค์กร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังทุ่มเทในการบริหารการเปลี่ยนแปลงจากพัฒนาการนี้ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวได้กับกระบวนการและเทคโนโลยีใหม่ๆ            สิ่งที่สนับสนุนให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่น คือทีมผู้บริหาร ในปีนี้บริษัทฯ ได้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านโครงสร้างองค์กรเพื่อขับเคลื่อนแผนงานตามวิสัยทัศน์ IVL 2.0 และการเติบโตในอนาคต โดยมีการสร้างทีมผู้บริหารที่มุ่งเน้นและทุ่มเทในแต่ละกลุ่มธุรกิจ โดยให้ผู้นำมีอำนาจในการตัดสินใจและรับผิดชอบ ทั้งนี้ สำหรับการปรับโครงสร้างสำหรับกลุ่ม CPET, Fibers และ Indovinya ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะที่กลุ่ม Packaging (Indovida) และ Recycling กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้จะผลักดันให้เกิดปฏิบัติการส่งผลต่อเนื่องไปในแต่ละธุรกิจ และทำให้ทีมผู้บริหารระดับสูงมีขนาดเล็กลง ซึ่งจะมุ่งเน้นหน้าที่ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เป็นหลัก ในระยะถัดไป สภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน โดยมีความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงดำเนินอยู่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม การมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการบริหารต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพฐานการผลิตที่มีอยู่ และการใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดผ่านการที่บริษัทฯ มีเครือข่ายทั่วโลกจะช่วยให้ผ่านพ้นความท้าทายเหล่านี้ไปได้ และทำให้สามารถพร้อมจะรับประโยชน์จากการฟื้นตัวเมื่อสภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสอดคล้องกับแผน IVL 2.0 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพของกำไร สร้างกระแสเงินสดอิสระ และผลักดันการสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ โดยที่บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการรักษาสภาพคล่องเป็นหลัก ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 สภาพคล่องของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ หลังจากการชำระคืนหนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2567 แล้ว และด้วยการเตรียมพร้อมในการบริหารจัดการหนี้ล่วงหน้า บริษัทฯ สามารถลดสัดส่วนของหนี้สินระยะสั้นลง ทำให้เพิ่มความยืดหยุ่นและขีดความสามารถในการจัดการด้านสภาพคล่องของบริษัทฯ การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานแยกตามกลุ่มธุรกิจ: Home & Personal Care (ผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านและของใช้ส่วนบุคคล): ความต้องการในเคมีภัณฑ์สำหรับตลาดปลายทางยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยได้รับผลดีจากที่บริษัทฯ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการฟื้นตัวของยอดขายในตลาดอาร์เจนตินาและ Mercosur นอกจากนี้ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นยังมาจากการที่ลูกค้าเร่งสะสมสต็อกสินค้าในช่วงมีพายุเฮอริเคนในตลาดอเมริกาเหนือ (NAM) Crop Solutions (ผลิตภัณฑ์โซลูชันทางการเกษตร): มีการเติบโตที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน (YoY) และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) เนื่องจากความต้องการเคมีภัณฑ์ของตลาดปลายทางกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้น (มาจากช่วงฤดูกาลเพาะปลูกในอเมริกาใต้ หรือ SAM โดยแยกเป็นเกิดจากการฟื้นตัวของตลาด 50% และจากส่วนแบ่งการตลาด 50%) และจากการปรับปรุงในพอร์ตสินค้าที่ขาย รวมถึงปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมในอินเดีย ส่งผลให้มีความต้องการในระดับสูงในตลาดดังกล่าว Energy & Resources (ผลิตภัณฑ์กลุ่มพลังงานและทรัพยากร): การที่ระดับราคาน้ำมันดิบทรงตัว และความต้องการในเคมีภัณฑ์ของตลาดปลายทางกลุ่มนี้คงที่ ช่วยรักษาให้ปริมาณการขายมีเสถียรภาพ โดยกลุ่มน้ำมันหล่อลื่นในตลาดอเมริกาเหนือ (NAM), ยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) รวมถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ยังคงดำเนินงานได้ดี Coatings & Construction (ผลิตภัณฑ์กลุ่มเคลือบผิวและก่อสร้าง): ในตลาดอเมริกาเหนือ (NAM) ปริมาณการขาย PG เริ่มดีขึ้นมาจากการเริ่มต้นของฤดูกาลกำจัดน้ำแข็ง (De-icing season) ในไตรมาสที่ 3 ส่วนในอเมริกาใต้ (SAM) มีการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมาจากการขยายส่วนแบ่งการตลาดและการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไร            สำหรับแนวโน้มต่อไปในไตรมาสที่ 4 นั้น มักจะเป็นช่วงที่ธุรกิจชะลอตัวลงเนื่องจากความผันผวนตามฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการผลิตภัณฑ์โซลูชันทางการเกษตร (Crop Solutions) จะลดลง และการที่ลูกค้ามีแนวโน้มจะลดสต็อกสินค้าลงเนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว จากนโยบายภาษีนำเข้าในประเทศบราซิลซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2567 นั้น บริษัทฯ คาดว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนการปิดซ่อมบำรุงโรงงานในบราซิลและอเมริกาเหนือ (NAM) ตามช่วงเวลาที่กำหนด

“เคจีไอ” ส่อง IVL คาด Q3 ฟื้นตัว จับตาต่อ Q4

“เคจีไอ” ส่อง IVL คาด Q3 ฟื้นตัว จับตาต่อ Q4

          หุ้นวิชั่น – หุ้นวิชั่นรายงาน บล.เคจีไอ โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิของ IVL หรือ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) มองใน Q3/76 จะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (+580% YoY, ฟื้นตัวขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 2.30 หมื่นล้านบาทใน Q2/67) เนื่องจาก i) ไม่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าก้อนใหญ่ถึง 666 ล้านดอลลาร์ฯ (หลังหักภาษี) เหมือนกับใน Q2/67 และ ii) spread ของ PTA, PET และ fiber ดีขึ้นใน Q3/67 โดย spread ของ PTA ในซีกโลกตะวันตกและตะวันออกฟื้นตัวขึ้น 19% QoQ เป็น US$214/ton และ 5% QoQ เป็น US$79/ton ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน spread ของ PET ในซีกโลกตะวันตกเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น US$265/ton และ spread ของ PET ในเอเชียเพิ่มขึ้น 19% QoQ เป็น US$77/ton นอกจากนี้ spread ของ fiber ยังเพิ่มขึ้นถึง 59% QoQ เป็น US$157/ton           ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า core EBITDA margin ของ IVL จะเพิ่มขึ้น 15% QoQ เป็น US$113/ton อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริษัทจะบันทึกผลขาดทุนจากสต็อก 1.6 พันล้านบาท แย่ลงจากที่บันทึกกำไรจากสต็อก 421 ล้านบาทใน Q2/67 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง 8% QoQ อยู่ที่ US$78/bbl ในขณะที่คาดว่าปริมาณยอดขายของ IVL จะแทบไม่เปลี่ยนแปลง QoQ อยู่ที่ 3.60 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณยอดขาย PTA ที่ลดลงหักล้างกันไปกับปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ PET และ fiber ทั้งนี้ถึงแม้ว่า spread ของ PTA และ PET จะฟื้นตัวขึ้นใน Q3/67 แต่ spread ของทั้งสองผลิตภัณฑ์ยังไม่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะยังถูกกดดันจากอุปทานใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมากในช่วงปี 2566-2568 ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้นอีก 10% โดยเฉพาะจาก asset optimization           ฝ่ายวิจัยยังคงคาดว่า IVL จะขาดทุนสุทธิ 1.96 หมื่นล้านบาทในปี 2567 แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ขึ้นอีก 10% เป็น 8.0 พันล้านบาทเนื่องจาก asset optimization หลังจากที่ IVL บันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่า 666 ล้านดอลลาร์ฯ (หลังหักภาษี) ไปแล้วใน Q2/67 ในขณะที่บริษัทได้ทำการปิดโรงงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแทน           นอกจากนี้ ผู้บริหารยังส่งสัญญาณว่าต้นทุนคงที่ของ IVL จะลดลงประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ฯ ในปีหน้า จากการปิดโรงงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มสมมติฐาน core EBITDA margin ของบริษัทในปี 2567 ขึ้นอีก 5% เป็น US$96/ton และในปี 2568 ขึ้นอีก 10% เป็น US$116/ton อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยปรับลดสมมติฐาน spread ของ PET ในเอเชียปีหน้าลง 12% เหลือ US$75/ton เนื่องจากจะมีอุปทาน PET ก้อนใหญ่เพิ่มเข้ามาในตลาดถึง 4.9 MTA ในปี 2567 และอีก 2.9 MTA ในปี 2568           ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของ IVL ปีนี้ขึ้นอีก 6% เป็น 1.74 หมื่นล้านบาท และปีหน้าขึ้นอีก 4% เป็น 1.64 หมื่นล้านบาทในปี 2567F-2568F ตามลำดับ เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยใน 1H67 เพิ่มขึ้น 21% YoY เป็น 8.9 พันล้านบาท ฝ่ายวิจัยขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 25.50 บาท จากเดิมที่ 21.50 บาท อิงจาก EV/EBITDA เท่าเดิมที่ 7.0x เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ ii) ผลประกอบการที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2568 ทั้งนี้ถึงแม้จะคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นใน Q3/67 แต่คาดว่ากำไรใน Q4/67 จะลดลง QoQ เพราะอุปสงค์ PET ต่ำตามฤดูกาลในหน้าหนาว ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ ถือ IVL

บล.กรุงศรี คาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวในกรอบ แนวต้าน 1476 จุด แนะ ADVANC, BBIK, IVL

บล.กรุงศรี คาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวในกรอบ แนวต้าน 1476 จุด แนะ ADVANC, BBIK, IVL

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) KSS Daily Strategy คาด SET วันนี้ “แกว่งในกรอบ” ต้าน 1470/1476 จุด รับ 1455/1446 จุด วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐRebound นำโดย Tech และความเชื่อมั่นต่อดอกเบี้ยสหรัฐขาลง โดย MUFG และตลาดคาดประชุม Fed 6-7 พ.ย. จะลดดอกเบี้ย 25 bps สู่4.75% หลังจากตัวเลขตลาดแรงงาน Nonfarm payrolls +1.2 หมื่นราย ต่ำคาดมาก แม้เป็นผลชั่วคราวจากผลกระทบพายุเฮอริเคน ผสานฝั่งภาคผลิต PMI < 50 จุด            สัปดาห์นี้ ปัจจัยหลักที่ต้องตามคือการเลือกตั้งสหรัฐคาดความผันผวนจะลดลง และลุ้นมาตรการกระตุ้นจกาประชุม NPC ของจีน            ภายในปัจจัยเศรษฐกิจไทยชี้ไปทางบวกต่อตลาดหุ้น อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ 3 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นสู่ 58.4 สูงสุดในรอบ 6 เดือน ผสาน BOI อนุมัติส่งเสริมการลงทุน Data Center 2 โครงการใหญ่มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท และวันพรุ่งนี้รัฐบาลคาดจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฝั่งอสังหา(+บริโภค ท่องเที่ยว ลงทุน)            โดยรวมประเมิน GDP Growth ไทยปี 2024 คาด 2.4%y-y มี Upside มองบวกต่อ SET ประเมินหุ้นนำหุ้นธีม Infra Tech, หุ้น Domestic, หุ้นงบ 3Q24 ดี หุ้นChina play  วันนี้แนะ ADVANC, BBIK, IVL

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

IVL คาด Q3 พลิกกำไร 1.4 พันล. สัญญาณธุรกิจเริ่มฟื้นตัว

IVL คาด Q3 พลิกกำไร 1.4 พันล. สัญญาณธุรกิจเริ่มฟื้นตัว

          หุ้นวิชั่น - บล.ดาโอ ปรับคำแนะนำ IVL ลงเป็น “ถือ” จากเดิม “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2025E ที่ 26.00 บาท (เดิม 21.00 บาท) อิง EV/EBITDA ที่ 6.7x (เทียบเท่า -1.50SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) ประเมินว่า IVL จะกลับมารายงานกำไรสุทธิที่ 1.4 พันล้านบาท เทียบกับกำไร 195 ล้านบาทใน 3Q23 และขาดทุน -2.30 หมื่นล้านบาทใน 2Q24 โดยดีขึ้น YoY จากปริมาณผลิตที่สูงขึ้นและความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น           ในขณะที่ฟื้นตัว QoQ จากการหายไปของการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ (loss on impairment of assets) และสำรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง (จำนวน 2.50 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้ เชื่อว่าปริมาณขายที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้จะช่วยลดผลกระทบเชิงลบจากการรับรู้ผลขาดทุนจากสต๊อก (stock loss) ที่เป็นไปได้ คงประมาณการขาดทุนสุทธิปี 2024E ที่ -1.87 หมื่นล้านบาท หลักๆ จากผลกระทบของ loss on impairment of assets ก้อนใหญ่           ในขณะที่ บล.ดาโอ มองว่าบริษัทจะกลับมารายงานกำไรสุทธิในปี 2025E ที่ 7.4 พันล้านบาท โดยมีแรงหนุนจากปริมาณผลิตที่ดีขึ้นและ Adjusted EBITDA/ton ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นอานิสงส์จากแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ (asset optimization)           ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณผลิตรวมของบริษัทจะอยู่ในช่วง 14.1-14.2 ล้านตัน (mt) ในปี 2024E-2025E ในขณะที่คาดว่า Adjusted EBITDA/ton จะอยู่ในช่วงที่ USD102/ton-USD106/ton ได้เปลี่ยนปีฐานเป็นปี 2025E และได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 26.00 บาท (เดิม 21.00 บาท) อิง EV/EBITDA ที่ 6.7x (เทียบเท่า -1.50SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง)           ทั้งนี้ ได้ปรับลดคำแนะนำลงมาเป็น “ถือ” หลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นมาแล้ว 49% ตั้งแต่เราปรับเพิ่มคำแนะนำในครั้งที่แล้ว เชื่อว่าราคาในปัจจุบันได้สะท้อน valuation ที่เต็มมูลค่าแล้วที่ 2025E EV/EBITDA ที่ 6.53x (ประมาณ 1.55x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) หากกำไรปกติ 3Q24E ของ บล.ดาโอ ถูกต้อง กำไรปกติ 9M24E จะคิดเป็น 70% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา สำหรับภาพรวมธุรกิจใน 4Q24E เชื่อว่าบริษัทน่าจะเห็นกำไรสุทธิที่สูงขึ้น QoQ ตามขนาดของ stock loss ที่เป็นไปได้ที่ลดลง

บล.กรุงศรี มอง SET 1481 จุด PTT, CPALL, IVL เด่น

บล.กรุงศรี มอง SET 1481 จุด PTT, CPALL, IVL เด่น

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “Sideways/Up” ต้าน 1475/1481 จุด รับ 1460/1455 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งแคบ S&P500-0.21% หลังรายงานเงินเฟ้อ CPI สูงกว่าคาดเล็กน้อบ +2.4%y-y, 0.2%m-m แต่ลดลงจากเดือนก่อน ขณะที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกเร่ง +14.7%w-w แย่กว่าคาด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากพายุเฮอริเคน ทำให้ภาพวงจรดอกเบี้ยขาลง และ US Soft Landing ยังเป็นบวกสินทรัพย์เสี่ยงโลก ฝั่งเอเชีย จีนรอติดตามมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมกระทรวงการคลังแถลง 12 ต.ค. และสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ปลายเดือน           ฝ่ายวิเคราะห์มองจะช่วยเปิด Upside เศรษฐกิจประเทศในภูมิภาค ภายใน 16 ต.ค. ติดตามประชุม กนง. Real Yield ที่เป็นบวก 14 เดือน เชิงกลยุทธ์เรามีโอกาสเห็นท่าทีDovish ขึ้น แม้น่าจะยังคงดอกเบี้ย ผสาน เม็ดเงินนักลงทุนสถาบันซื้อต่อเนื่อง 8 วัน ต่างชาติสลับซื้อพันธบัตร 2 วัน และ ต่างชาติ Long TFEX 6 วันติด มองหนุน SET หุ้นกลุ่มน้ำมัน (น้ำมัน +3.5% ความกังวลตะวันออกกลางที่กลับมา+พายุเข้าสหรัฐ+รัฐเตรียมเจรจาพื้นที่ ทับซ้อนทะเล) กลุ่มดอกเบี้ยขาลงหนุน (ค้าปลีก เช่าซื้อ หนี้สูง High Yield โรงไฟฟ้า) หุ้น China Plays วันนี้แนะ PTT, CPALL, IVL เด่น