ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#ITD


ประกันภัย โล่แจง ไร้ผลกระทบฐานะการเงิน แม้จ่ายค่าสินไหมทดแทน เหตุสตง.ถล่ม

ประกันภัย โล่แจง ไร้ผลกระทบฐานะการเงิน แม้จ่ายค่าสินไหมทดแทน เหตุสตง.ถล่ม

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างตัวอากคาร 30 ชั้นถล่มลงมา และนักลงทุนต่างจับตามาที่ ผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการดังกล่าว นั่นก็คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ITD) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี รวมถึงบริษัทประกันภัย ที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด           ทั้งนี้ ITD ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เช้าวันนี้ว่า กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ได้ทำประกันภัยเต็มมูลค่างานตามสัญญา จำนวน 2,136 ล้านบาท และ ครอบคลุมอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติรวมถึงการคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก อีกจำนวน 100 ล้านบาท บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโครงการอื่นๆ ของบริษัทฯ           สำหรับ ITD ได้มีการทำประกันภัย ไว้กับ 4 บริษัทประกันภัย ประกอบด้วย ทิพยประกันภัย คิดเป็นสัดส่วน 40%, กรุงเทพประกันภัย 25%, อินทรประกันภัย 25% และวิริยะประกันภัย 10% บ.ประกันภัย แจงไร้ผลกระทบ แม้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน           บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TIPH) ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งส์ ที่ถือหุ้นในบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (ทิพยประกันภัย) ในสัดส่วน 99.05% และทิพยประกันภัยเป็นบริษัท แกนของกลุ่มบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยในเหตุการณ์ครั้งนี้มีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ ถล่มลงมาทั้งหลัง           โครงการก่อสร้างนี้ได้มีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทผู้รับประกันภัยร่วมจำนวน 4 บริษัท ทิพยประกันภัย ในสัดส่วน40% บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 25% บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 25% และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 10% ซึ่งการร่วมรับประกันภัยในโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว มีทุนประกันภัย แบ่งเป็น 3 หมวด ประกอบด้วย 1) มูลค่างานก่อสร้างตามสัญญา 2,136 ล้านบาท 2) ทรัพย์สินเดิมของผู้ว่าจ้าง 5 ล้านบาท และ 3) ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก 30 ล้านบาทต่อครั้ง และ 100 ล้านบาท ระยะเวลาเอาประกันภัย โดยมีเงื่อนไขความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง 20% ของความเสียหายสำหรับแต่ละเหตุการณ์           การร่วมรับประกันภัยในสัดส่วน 40% ของทิพยประกันภัยตามที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น ทิพยประกันภัยได้มีการจัดทำประกันภัยต่อในสัดส่วน 95% ของทุนเอาประกันภัย กับบริษัทประกันภัยต่อ ชั้นนำของโลกที่มีระดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Credit Rating) ไม่ต่ำกว่า A นอกจากนี้ ทิพยประกันภัยยังได้จัดทำสัญญาประกันภัยต่อเพื่อความเสียหายส่วนเกินสำหรับความเสียหายจากภัยพิบัติหรือมหันตภัย Excess of Loss (XOL) ไว้อีกด้วย ดังนั้น บริษัทฯ ยืนยันว่า แม้จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ ทิพยประกันภัยยังคงมีความมันคงทางการเงิน และไม่มีผลกระพบต่อฐานะทางการเงินของทิพยประกันภัย อย่างมีนัยสำคัญ           อนึ่งในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีอาคาร สตง. นั้น จะต้องพิจารณาถึงมูลค่าของ อาคาร ณ เวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการพิจารณาว่าอาคารดังกล่าว ได้มีการดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว เป็นร้อยละเท่าไรของมูลค่าโครงการทั้งหมด เช่น หากการก่อสร้างแล้วเสร็จ 50% ความเสียหายที่จะได้รับ ความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยก็จะเป็นเพียง 50% ของทุนเอาประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้ มูลค่าของ โครงการนี้ ณ วันเวลาที่เกิดเหตุจะถูกประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญต่อไป           บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BKIH) ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งส์ที่ถือหุ้นในบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 97.72 ขอชี้แจงว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้พังถล่มลงมา ซึ่งบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับประกันภัยโครงการก่อสร้างดังกล่าวในสัดส่วนเพียง 25%           นอกจากนี้ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยังได้จัดทำสัญญาประกันภัยต่อเพื่อความเสียหายส่วนเกิน สำหรับความเสียหายจากภัยพิบัติหรือมหันภัย Excess of Loss (XOL) ไว้อีกด้วย ดังนั้น บริษัทฯ ขอยืนยันว่าแม้จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่ได้รับผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด           บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) (INSURE) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งเป็นอาคารสูง 30 ชั้น อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ณ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พังถล่มลงมา มีรายงานผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหายจำนวนมาก บริษัทรับประกันภัยการก่อสร้างอาคารดังกล่าวร่วมกับบริษัทประกันภัยอื่น ๆ โดยบริษัทมีสัดส่วนการรับประกันภัยอยู่ที่ 25% ของมูลค่าความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย           บริษัทขอเรียนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงินหรือการดำเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทมีการดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอและแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงโดยจัดทำประกันภัยต่อกับผู้รับประกันภัยต่อที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ตามนโยบายการประกันภัยต่อของบริษัท พร้อมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เพื่อบรรเทาความเสียหายและสนับสนุนให้ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการอย่างมืออาชีพแก่ผู้เอาประกันภัยทุกท่าน ด้วยการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ยึดถือหลักธรรมาภิบาล พร้อมรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทอย่างยั่งยืน

ITD ดิ่งฟลอร์ 26.92% เซ่นตึกสตง. ถล่ม บ.เร่งแจงไม่กระทบโครงการก่อสร้างอื่น

ITD ดิ่งฟลอร์ 26.92% เซ่นตึกสตง. ถล่ม บ.เร่งแจงไม่กระทบโครงการก่อสร้างอื่น

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) ราคาหุ้นเช้านี้ร่วงดิ่งฟลอร์ 26.92% มาอยู่ที่ 0.19 บาท ลดลง 0.07 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 7,919.96 ล้านบาท ตอบรับตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างถล่ม เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่ง ITD เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ภายใต้กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (ITD-CREC) โดยอาคารดังกล่าว ประกอบด้วยสำนักงานสูง 29 ชั้น หอประชุมสูง 3 ชั้น และที่จอดรถ 7 ชั้น มูลค่า 2,136 ล้านบาท เริ่มการก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2564 กำหนดสิ้นสุดโครงการเดิมกำหนดไว้วันที่ 31 ธ.ค. 66           บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้าง ตัวอาคาร 30 ชั้นถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ บริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ดังกล่าว           บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกล ต่างๆ ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับทุก ภาคส่วน จะดำเนินการแก้ไขในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเร่งให้ความร่วมมือใน การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในการชดเชย เยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป           อย่างไรก็ตาม กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีได้ทำประกันภัยเต็มมูลค่างานตามสัญญา จำนวน 2,136 ล้านบาท และ ครอบคลุมอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติรวมถึงการคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกอีกจำนวน 100 ล้านบาท           ทั้งนี้ ITD มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้าง โครงการอื่นๆ ของบริษัทฯ หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะเรียนชี้แจงให้ทราบเป็นระยะต่อไป สำหรับงบการเงินของ ITD ย้อนหลัง 5 ปี (2563-2567) พบว่า - ปี 2563 มีผลขาดทุนสุทธิ - 1,104.45 ล้านบาท - ปี 2564 มีผลขาดทุนสุทธิ - 155.62 ล้านบาท - ปี 2565 มีผลขาดทุนสุทธิ - 4,758.85 ล้านบาท - ปี 2566 มีผลขาดทุนสุทธิ - 1,072.37 ล้านบาท - ปี 2567 มีผลขาดทุนสุทธิ - 5,775.85 ล้านบาท

ครม.ไฟเขียวมอเตอร์เวย์ M5 มูลค่า7.99 หมื่นล. CK-STEC-UNIQ-ITD ลุ้นงานใหญ่

ครม.ไฟเขียวมอเตอร์เวย์ M5 มูลค่า7.99 หมื่นล. CK-STEC-UNIQ-ITD ลุ้นงานใหญ่

          หุ้นวิชั่น - Contractor - ครม.อนุมัติลงทุนโครงการมอเตอร์เวย์ M5 สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. เป็นการร่วมลงทุนรัฐและเอกชนแบบ PPP Gross Cost โดยภาครัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เอกชนลงทุนก่อสร้าง ระยะเวลาโครงการ 34 ปี เป็นออกแบบและก่อสร้าง 4 ปี และบำรุงรักษา (O&M) 30 ปี คาดการณ์ค่าใช้จ่าย 7.99 หมื่นลบ. โดยเริ่มดำเนินการปี 2025 และเปิดบริการ 2029 เราคาดเป็นการประมูลแยกเป็นสัญญาของงานโยธา และงาน O&M โดยเริ่มจากส่วนของงานโยธาราว 3.1 หมื่นลบ. และมีโอกาสเปิดประมูลผู้รับเหมาใน 1H25 โดยผู้เข้าประมูลหลักคาดเป็น Main Contractor อย่าง CK, STEC, UNIQ, ITD ขณะที่ SEAFCO, PYLON จะได้อานิสงส์ในโอกาส Sub-contract งานเสาเข็ม ที่มา : #Finansia #FSSIA

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011