#INTUCH


GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

           ตามที่ และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) และ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้แจ้งมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ซึ่งได้อนุมัติธุรกรรมการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ โดยรวมถึง(ก) ธุรกรรมการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ ADVANC โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC (โดยไม่รวมหุ้นซึ่งผู้ทำคำเสนอซื้อถืออยู่) โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) และ(ข) ธุรกรรมการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ THCOM โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ THCOM (โดยไม่รวมหุ้นซึ่งผู้ทำคำเสนอซื้อถืออยู่) โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) (ให้เรียกธุรกรรมตาม (ก) และ (ข) รวมกันว่า “การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ”)โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่บริษัทฯ ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 และวันที่ 6 กันยายน 2567 นั้น บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเงื่อนไขบังคับก่อนดังกล่าวได้สำเร็จลงหรือได้รับการผ่อนผัน (แล้วแต่กรณี) บริษัทฯ จึงจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทฯ ได้ยื่นเอกสารคำเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 และจะเริ่มทำการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ ของ ADVANC และ THCOM พร้อมกันในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ต่อไป

INTUCH กำไร Q3/67 แตะ 3.45 พันล้าน

INTUCH กำไร Q3/67 แตะ 3.45 พันล้าน

           กลุ่มอินทัชในไตรมาส 3/2567 กำไรสุทธิรวมแตะ 3,459 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยมาจากการเติบโตของเอไอเอสและการรวมผลประกอบการของ TTTBB พร้อมแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ร่วมกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2568 ตั้งเป้าขยายธุรกิจสู่พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และดิจิทัล เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต            บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในไตรมาส 3/2567 กลุ่มอินทัชยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เอไอเอสซึ่งเป็นการลงทุนหลักของอินทัชมีกำไรเพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อน แม้จะเผชิญแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้การใช้จ่ายในประเทศแผ่วลงในช่วงไตรมาส 3                       เอไอเอสมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพการให้บริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการใช้งานด้านดิจิทัล พัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งสนับสนุนให้รายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตจากทั้งจำนวนผู้ใช้บริการและรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (“ARPU”) ในส่วนของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS 3BB Fibre เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากการขยายฐานผู้ใช้บริการที่มุ่งเน้นคุณภาพ และ ARPU ที่สูงขึ้นจากการขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง (Cross-selling)            ในไตรมาส 3/2567 และงวดเก้าเดือนของปี 2567 กลุ่มอินทัชมีกำไรสุทธิรวม 3,459 ล้านบาท และ 10,166 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกำไรจากเอไอเอส โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากการเติบโตของรายได้หลักและการเพิ่มขึ้นของกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ส่วนแบ่งผลกำไรจากเอไอเอสเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB โดยการรวมรายได้ ต้นทุน และค่าใช้จ่ายของ TTTBB จากการเข้าซื้อกิจการ TTTBB รวมถึงการเติบโตของรายได้หลัก สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุน ค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงิน            สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะบริษัท อินทัชมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสุทธิ (ไม่รวมผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent) สำหรับไตรมาสนี้และงวดเก้าเดือนของปีนี้อยู่ที่ 59 ล้านบาท และ 110 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน จากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ โดยหากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสุทธิของอินทัชจะลดลง            ในไตรมาส 3/2567 อินทัชมีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent จำนวนประมาณ 31 ล้านบาท            ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 ของอินทัช เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 มีมติอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมการควบบริษัทเพื่อการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกรรมการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ธุรกรรมการได้มาซึ่งหลักทรัพย์โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจ แบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (รวมเรียกว่า “ธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความหลากหลายในธุรกิจของบริษัทฯ จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีการถือหุ้นในเอไอเอสซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญเพียงบริษัทเดียว ไปสู่กลุ่มธุรกิจพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และดิจิทัล อันจะทำให้มีโอกาสสร้างรายได้และการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว และการผสานความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของทั้งสองบริษัท จะช่วยต่อยอดโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้คาดว่าธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ จะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2568            ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2567 ของ ITV เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ได้มีมติอนุมัติการเลิกบริษัท และ ITV ดำเนินการจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการชำระบัญชี

GULF ฉลุยควบ INTUCH จับตาหนุนธุรกิจโตแกร่ง

GULF ฉลุยควบ INTUCH จับตาหนุนธุรกิจโตแกร่ง

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา GULF ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) เพื่อพิจารณาการควบรวมกิจการกับ INTUCH โดยผลการลงคะแนนเสียงแสดงให้เห็นว่ามีผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.9931 หรือประมาณ 10,497 ล้านเสียงที่สนับสนุนการควบรวม ขณะที่มีเพียง 0.0068% หรือ 715,100 เสียงที่ไม่เห็นด้วย เรามีมุมมองบวกจากค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านไม่เป็นสาระสำคัญและไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท           Our view: การซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านไม่เป็นสาระสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามพรบ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 GULF จะต้องเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในราคาตลาดในวันที่ทำการสุดท้ายก่อนการประชุม ซึ่งในกรณีนี้คือราคาปิดในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 หรือ 56.50 บาท ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านอยู่ที่เพียง 40.4 ล้านบาท หรือ 0.0085% ของสินทรัพย์รวมของ GULF ณ สิ้นมิ.ย. 2567 เท่านั้น เราจึงมีมุมมองบวกต่อ GULF ที่จะทำให้การควบรวมกิจการกับ INTUCH ไปสู่ขั้นตอนต่อไปได้           สำหรับขั้นตอนต่อไป GULF และ INTUCH จะดำเนินการส่งหนังสือแจ้งเจ้าหนี้ของ GULF และ INTUCH ภายใน 14 วัน หลังวัน EGM และให้ส่งคำคัดค้านภายในสองเดือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้งมติ และเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนการทำธุรกรรมการทำ VTO ใน ADVANC และ THCOM สำเร็จครบถ้วน (หรือได้รับการผ่อนผัน) โดยเงื่อนไขที่สำคัญคือการขอ consent จากเจ้าหนี้ของทั้งสองบริษัท รวมถึงการขอ consent จาก third party ของบริษัทในกลุ่ม และการจัดหาเงินทุนสำหรับ VTO จึงจะเริ่มทำ VTO ของ ADVANC และ THCOM ในช่วง 4Q24-1Q25 นอกจากนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ผู้รับซื้อหุ้นของ GULF และ INTUCH จากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน (หรืออาจจะดำเนินการก่อนช่วง VTO) โดยราคารับซื้อหุ้น GULF จะอยู่ที่ 56.50 บาท และ INTUCH อยู่ที่ 91 บาท (ราคารับซื้อเดิมของ GULF คือ 45 บาท และ INTUCH คือ 76 บาท ทั้งนี้จากราคา หุ้นที่เกินกว่าที่กำหนดจะเป็นดุลพินิจของผู้รับซื้อหุ้นว่าจะรับซื้อหรือไม่ หากไม่รับซื้อ ทั้ง GULF และ INTUCH ต้องหาผู้มารับซื้อใหม่)           Consensus ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 57.3 บาท แนะนำซื้อ GULF เทรดอยู่ที่ premium เทียบกับคู่แข่ง โดยจากข้อมูล consensus คือเทรดอยู่ที่ 2024F PBV ที่ 5 เท่า PER ที่ 36 เท่า และมี ROE สูงอยู่ที่ 12% เรามองการประเมินมูลค่าเหมาะสมได้รับการสนับสนุนจากกลยุทธ์ของบริษัทที่จะมีการเติบโตทั้งในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และในธุรกิจโทรคมนาคมผ่าน INTUCH, ADVANC และ THCOM หลังการควบรวมกิจการ

โบรกแนะซื้อ

โบรกแนะซื้อ "INTUCH" มองบวกหากควบรวม ADVANC - GULF

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี ระบุว่า ราคาหุ้น INTUCH พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงแนะนำให้ซื้อ INTUCH ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 98 บาทเป็น 105 บาท (อิงจาก discount NAV ราว 5% ของ ADVANC) เพื่อสะท้อนราคาเป้าหมายที่สูงขึ้น สำหรับ ADVANC การลงทุนใน INTUCH ที่ราคาปัจจุบันสะท้อนถึง EPS ที่เติบโตโดดเด่นในไตรมาส 3 ปี 2567 (พร้อมกับแนวโน้มการปรับประมาณการขึ้น) เช่นเดียวกับเงินปันผลอย่างน้อย 6 บาท หากบริษัทได้รับการอนุมัติในการควบรวมกับ GULF ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ ณ ราคาปัจจุบัน ผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ระดับ 6.4% คาดกำไร 3Q67 อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% yoy แต่ทรงตัว qoq           ปัจจัยหนุนจากผลดำเนินงานของ ADVANC เนื่องจาก INTUCH มีธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจเพียงไม่กี่รายการในพอร์ตโฟลิโอ เราคาดว่า ADVANC จะมีกำไร 3.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งถือว่าแข็งแกร่ง เนื่องจากกำไรโดยปกติจะอ่อนตัวลงตามฤดูกาลในไตรมาส 3 โดยลดลง 5-10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปีนี้ผลกระทบตามฤดูกาลจะน้อยลง เนื่องจาก ARPU ที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการแข่งขันที่ลดลง (ดูรายละเอียดในคาดการณ์ผลประกอบการ ADVANC 30/09/2567) มีแนวโน้มปรับกำไรปี 2567 ขึ้นจาก 13.5 พันล้านบาท จากแนวโน้มกำไรของ ADVANC           กำไร 9 เดือนแรกอยู่ที่ 75% ของการคาดการณ์กำไรทั้งปี มี upside risk ต่อการประมาณการของเรา เนื่องจากเราคาดหวังกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นจาก ADVANC ในไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นช่วง High season เราคงประมาณการเติบโตของกำไร 16% สำหรับปี 2567 และ 6% สำหรับปี 2568 เราคาดว่า INTUCH จะประกาศเงินปันผลอีกสองครั้งในปีนี้ - เงินปันผลพิเศษ 4 บาท ตามการอนุมัติให้ควบรวมกับ GULF ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ (3 ตุลาคม 2567) และ 2 บาทสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2567 แนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 105 บาท จาก 98 บาท           ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 105 บาท (จาก 98 บาท) จากการปรับราคาเป้าหมายของ ADVANC เรามีมุมมองเชิงบวกหากมีการอนุมัติการควบรวมกิจการ โดยจะได้ประโยชน์จากผลดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับเงินปันผลพิเศษ 6 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินปันผลราว 6%

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน