#IIG


IIG อนุมัติเพิ่มทุน 6.17 ล้านหุ้น ขาย PP 'วิวัณณา-สิปปกร'

IIG อนุมัติเพิ่มทุน 6.17 ล้านหุ้น ขาย PP 'วิวัณณา-สิปปกร'

หุ้นวิชั่น- ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารตามที่ บริษัท ไอ แอนด์ ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ให้ทำการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 10,872,424 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ครั้งเดียวเต็มจำนวนหรือแต่บางส่วนเป็นคราว ๆ นั้น บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ครั้งที่ 4 จำนวน 6,172,424 หุ้น ให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง ได้แก่ 1.นางสาววิวัณณา ไพฑูรย์มงคล จำนวน 572,424 หุ้น ในราคา 4.90 บาทต่อหุ้น เป็นเงินไม่เกิน 2,804,877.60 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม 2567 2.นายสิปปกร ขาวสอาด จำนวน 5,600,000 หุ้น ในราคา 4.90 บาทต่อหุ้น เป็นเงินไม่เกิน 27,440,000 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม 2567 ซึ่งทั้งสองท่านไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 (“ประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกันฯ”) ในราคาหุ้นละ 4.90 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้อนหลัง 15 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คือระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2567 โดยกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม 2567 รายละเอียดปรากฏตามแบบรายงานการออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)   นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติมอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือบุคคลที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมอบหมาย มีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียด อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว และมีอำนาจในการเข้าเจรจา ทำความตกลง และลงนามในเอกสารและสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออก การจัดสรร การเสนอขาย และการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว และการลงนามในเอกสารคำขออนุญาต คำขอผ่อนผันต่าง ๆ และหลักฐานที่จำเป็นและเกี่ยวข้อง กับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการติดต่อ และการยื่นคำขออนุญาตหรือขอผ่อนผัน ยื่นเอกสารและหลักฐานดังกล่าวต่อหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อให้การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวสำเร็จลุล่วง

IIG ปักธงรายได้ปี68 ที่ 1.5 พันลบ. จับตาซื้อกิจการหนุน

IIG ปักธงรายได้ปี68 ที่ 1.5 พันลบ. จับตาซื้อกิจการหนุน

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด IIG ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป Events เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญดังนี้ ► ผลประกอบการ 3Q67 มีกำไรสุทธิ 6 หมื่นบาทไม่มีนัยสำคัญ แต่เป็นการพลิกจากขาดทุน 27 ล้านบาทใน 2Q67 และขาดทุน 55 ล้านบาทใน 3Q66 ผลประกอบการที่ดีขึ้นเกิดจาก GPM ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 11.4% ใน 2Q67 เป็น 20.2% ใน 3Q67 ► IIG ปรับลดเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2567 จาก 1.4 พันล้านบาทเป็น 1.1 พันล้านบาท หลักๆ มาจากดีล M&A ที่คาดหวังไว้ก่อนหน้ามีความล่าช้า แม้มีการปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2567 ลง แต่หากทำได้ 1.1 พันล้านบาทตาม Guidance จะสะท้อนแนวโน้มรายได้ 4Q67 อยู่ในกรอบประมาณ 300 ล้านบาท หรือเป็นระดับสูงสุดของปี 2567 ► อิงรายได้ใน 4Q67 ที่ราว 300 ล้านบาท และการควบคุมต้นทุนโดยรวมทำได้ต่อเนื่อง คาดเบื้องต้น IIG จะมีกำไรสุทธิใน 4Q67 ราว 5-10 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการกลับมามีกำไรต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน ► IIG ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2568 ที่ 1.5 พันล้านบาท ไม่รวมการเติบโตจาก M&A ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เป้าหมายรายได้ 1.5 พันล้านบาทมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจ CRM การ เติบโตต่อเนื่องของธุรกิจ ERP และแรงส่งหลักจาก Lansing ขณะที่แผนธุรกิจอื่นๆ เน้นไปที่การขยายบริการใหม่ๆ เช่น บริการที่เกี่ยวข้องกับ AI, บริการ Platform ESG, บริการ Platform HR Development, Platform บริการประกันภัย ส่วน GPM ตั้งเป้าหมายกลับไปที่ระดับ 25%-30% หรือระดับที่เคยทำได้ก่อนที่จะได้รับผลกระทบจากการรับงานขนาดใหญ่ ► เป้าหมายดังกล่าวท้าทายสำหรับฝ่ายวิเคราะห์ แต่หากทำรายได้ได้ตามเป้าหมาย ประเมินเบื้องต้นกำไรของ IIG น่าจะอยู่ในระดับเกิน 100 ล้านบาทต่อปีในปี 2568 ไม่ยาก ► การเข้าซื้อกิจการบริษัท เอ็มอินเทลลิเจนซ์ จำกัด (M-Intel) ในสัดส่วน 51% เป็นการเข้าซื้อคู่แข่งทางตรงโดย M-Intel เป็นผู้ให้บริการ Reseller Salesforces อันดับที่ 3 ในตลาดไทย รายได้ต่อปีที่ราว 150-200 ล้านบาท โดยดีลทั้งหมดมูลค่าเงินลงทุนเฉพาะส่วน 51% จะไม่เกิน 91.8 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 49% ผู้ขายมี Put Option หรือสิทธิที่จะขายได้ในระยะถัดไป แต่มูลค่าธุรกรรมทั้งหมดจะต้องไม่เกิน 180 ล้านบาท (สำหรับ 100%) ผู้บริหาร Guidance PER ในการเข้าซื้อที่ระดับ 12x แต่ราคาซื้อขายสุดท้ายมีโอกาสต่ากว่าหากผลประกอบการของ M-Intel ทำไม่ได้ตามรายละเอียดสัญญา โดยมีเงื่อนไขที่ PER จะต่ำลงได้ หรือกรอบการซื้อสูงสุดจะไม่เกิน 180 ล้านบาท ► สำหรับการ Financing IIG อยู่ระหว่างการพิจารณาทางเลือกทั้งหมดทั้งการกู้ยืม การใช้ส่วนของทุนที่ขอ General mandate ไว้ก่อนหน้า และการใช้เงินสดในมือ อย่างไรก็ตามการจ่ายเงิน จะเป็นการทยอยจ่าย 3 งวดในช่วง 1-2 ปีจากนี้ โดยเป็นการจ่ายที่ขึ้นกับผลประกอบการของ M-Intel ► การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน การได้ economies of scale และการขยายไปสู่ฐานลูกค้าใหม่ โดยผู้บริหารประเมินว่าฐานลูกค้าที่ M-Intel มีอยู่มายาวนานมีความแข็งแกร่งในแง่ของการใช้งานอย่างต่อเนื่องและราคาซื้อขายไม่แพง ► นอกจากนี้ IIG ประกาศร่วมลงทุนกับนายชินสมิทธิ์กุลมา ตั้งบริษัทฯ ย่อยโดย IIG ถือหุ้น 51% เป็นการเข้ารุกธุรกิจด้าน System Integrators โดยจะเน้นงานด้าน IT Infrastructure Solution และงานด้าน Cyber Security ดีลดังกล่าวหลักๆ เป็นการลงทุนร่วมกันกับทีมงานที่ มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มเห็น Backlogs งาน SI ในช่วง 2Q68 Our Take ► ฝ่ายวิเคราะห์ไม่มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับ IIG ► ในเชิงพื้นฐานเบื้องต้น แนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทำให้โอกาสที่ IIG จะ Turnaround ในปี 2568 เป็นไปได้มากขึ้น ► เชิงตัวเลขอิงข้อมูลในอดีตช่วงปี 2564-2565 ก่อนที่ IIG จะเข้ารับงานที่มีปัญหาซึ่งยอมตัดจบไปแล้วใน 1H67 บริษัทฯ ทำกำไรปกติที่ระดับ 80 และ 85 ล้านบาทตามลำดับ เราคาดว่าเป็นตัวเลขที่เป็นไปได้สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2568-2569 หรือเป็นการประเมินภายใต้สมมติฐานว่า IIG กลับมารักษาธุรกิจหลักได้อย่างที่เคยทำได้ในอดีต ส่วนธุรกิจต่อยอดอื่นๆ ยังต้องใช้เวลาในการสร้างและไม่ได้รวมผลจาก M&A กับ M-Intel ที่จะเกิดขึ้น ► หากสมมติให้ระยะ 1-2 ปีจากนี้ IIG ทยอยกลับไปทำกำไรเหมือนที่เคยทำได้ในช่วงปี 2564-2565 ที่ตัวเลข 70 ล้านบาทต่อปี จะคิดเป็น EPS ที่ราว 0.62 บาทต่อหุ้น หากอิง PER 15x กรอบเก็งกำไรในการ Turnaround สำหรับปี 2568 จะอยู่ที่ 9.26 บาทต่อหุ้น ► เชิงกลยุทธ์ ราคาหุ้นที่ปรับลดลงมาลึกมีโอกาสเกิด Technical Rebound แต่การเก็งกำไรต้องใช้ความระมัดระวังและต้องติดตามผลประกอบการอย่างต่อเนื่องว่าจะกลับมาทำกำไรระดับ 70-80 ล้านบาทต่อปีได้หรือไม่ในปีหน้า ความเสี่ยงสำคัญได้แก่ การ Turnaround ทำได้ช้ากว่าคาด, การแข่งขันจากผู้เล่นต่างชาติ, การเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี และความเสี่ยงคดีความฟ้องร้อง