ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

##GFC


[Gossip] ผู้ถือหุ้น GFC เป๋าตุง!! รอเงินปันผลเข้า 27 พ.ค.นี้

[Gossip] ผู้ถือหุ้น GFC เป๋าตุง!! รอเงินปันผลเข้า 27 พ.ค.นี้

             หุ้นวิชั่น - เรียกว่ายังคงเป็นหุ้นที่ฮอต ฮิต ติดเทรนด์อย่างต่อเนื่อง สำหรับหุ้น บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ “GFC” ผู้ชำนาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก ที่ไม่เคยทำให้นักลงทุนผิดหวัง! เพราะหลังจากมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ไปเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา เหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นก็เตรียมนับถอยหลังเปิดกระเป๋ารอรับทรัพย์เงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เข้ากระเป๋าในวันที่ 27 พ.ค.นี้ กันแบบปังๆ ได้เลย แค่นั้นยังไม่พอ CEO “กรพัส อัจฉริยมานีกูล” ยังแอบกระซิบมาอีกว่าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย PGT-A Plus ที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจความผิดปกติของพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรองหาตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์และเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ รวมถึงการเปิด 2 สาขาใหม่ GFC Ubon และ GFC Rama 9 International ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่      สู่การยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ แบบเต็มสตรีม และจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ในปีนี้ GFC ประกาศตั้งเป้าการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 15% ได้ยินแบบนี้แล้วอดเป็นปลื้มแทน FC ไม่ได้จริงๆ

[ภาพข่าว] GFC Rama 9 International Grand Opening

[ภาพข่าว] GFC Rama 9 International Grand Opening

              หุ้นวิชั่น  - รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ  ประธานกรรมการ ร่วมกับ นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยนายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คณะกรรมการ บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์  ร่วมกันเปิดให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) สาขา GFC Rama 9 International ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญ สู่การยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับ   ผู้มีบุตรยากอย่างครอบคลุม พร้อมเตรียมขยายพอร์ตกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจีน และ มีแผนศึกษาเจาะกลุ่มลูกค้า CLMV ลูกค้าอินเดีย รวมถึงลูกค้าตะวันออกกลาง เพื่อต่อยอดสู่การขยาย     ฐานลูกค้าให้กับ GFC ในอนาคต ตอบโจทย์ “GFC ใส่ใจในความสำเร็จ” เพื่อเติมเต็มคำว่า “ครอบครัว ที่สมบูรณ์แบบ” ณ สาขา GFC Rama 9 International

GFC ปักธง รุก 3 สาขา ให้บริการผู้มีบุตรยากเต็มพิกัด ส่งซิกปี 68 ปั้นรายได้โต 20%

GFC ปักธง รุก 3 สาขา ให้บริการผู้มีบุตรยากเต็มพิกัด ส่งซิกปี 68 ปั้นรายได้โต 20%

           หุ้นวิชั่น - บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ “GFC” เผยดีมานด์การใช้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าสานฝัน เพื่อเติมเต็มคำว่า “ครอบครัว ที่สมบูรณ์แบบ”  ด้าน CEO “กรพัส อัจฉริยมานีกูล” ตั้งเป้าปี68 รายได้ทะยานกว่า 20% ภายใต้แผนยุทธ์ศาสตร์ ปักหมุดให้บริการครบทั้ง 3 สาขา (GFC Ubon - GFC Rama 9 International – GFC Rama 3) แบบเต็มพิกัด จ่อทะยานสร้ารายได้สู่ New S-Curve เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมชูธุรกิจ “ฝากไข่” จะเป็นอีกหนึ่ง Asset ที่เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงสำหรับผู้ต้องการมีลูกในอนาคต            ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มธุรกิจบริการรักษาภาวะมีบุตรยากในปี 2568 ว่า ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากของไทยในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโต 6.2 % จากปี 2567 โดยมีมูลค่ากว่า 6.3 พันล้านบาท ตามความต้องการใช้บริการที่ยังเพิ่มขึ้นจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สอดคล้องไปกับเทรนด์ของโลก โดยในปี 2568 มูลค่าตลาดของผู้รับบริการชาวไทย คาดว่าจะขยายตัว 5.0 % จากค่านิยมมีบุตรช้าลง จากปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ที่มีความซับซ้อน จึงทำให้ต้องพึ่งพาวิธีการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ขณะที่มูลค่าตลาดผู้รับบริการชาวต่างชาติ คาดว่าจะขยายตัว 7.6 % โดยมีแรงหนุนจากราคาและคุณภาพบริการที่ยังโดดเด่น รวมถึงการขยายตลาดใหม่ของธุรกิจ            นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) "GFC"  ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เปิดเผยว่า หากพิจารณาจากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย จะเห็นได้ว่ามูลค่าตลาดให้บริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากทั่วโลกยังมีทิศทางการเติบโตเพิ่มขึ้น  อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประเทศไทยก็เป็นหนึ่งประเทศที่มีดีมานด์การเข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากสูงเช่นเดียวกัน จากปัจจัยดังกล่าวทำให้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ จึงเป็นนวัตกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสสำหรับคนมีบุตรยาก กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจเมกะเทรนด์ของโลกที่น่าจับตา และถือเป็นการส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมอุตสาหกรรม รวมถึง GFC ที่จะมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ GFC ได้วางกลยุทธ์เดินหน้าขับเคลื่อนการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก ภายใต้ศักยภาพความแข็งแกร่งในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยในด้านการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก            โดยในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 20 % จากการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก ครบทั้ง 3 สาขา ได้แก่  GFC Ubon - GFC Rama 9 International และ GFC Rama 3  ซึ่งทั้ง 3 สาขา จะให้บริการผู้เข้ารับการรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากได้ครอบครบทุกมิติ ตั้งแต่การตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การฝากไข่ และการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน PGT-A รวมถึงชูนวัตกรรมการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ PGT-A Plus มาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจความผิดปกติของพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรองหาตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์และเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ซึ่งทุกสาขา จะร่วมขับเคลื่อนการสร้างรายได้สู่ New S-Curve ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ควบคู่กับแผนการขยายฐานกลุ่มลูกค้าต่างชาติ            โดยเฉพาะตลาดกลุ่มลูกค้าจีน รวมถึงยังได้ศึกษาแผนการขยายตลาดเจาะกลุ่มลูกค้า CLMV  ลูกค้าอินเดีย รวมถึงลูกค้าตะวันออกกลาง ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากตลาดลูกค้ากลุ่มนี้นอกจากมีดีมานด์ที่สูงแล้ว ยังมีกำลังทรัพย์ที่สูงในการเข้ามารับการรักษาด้วยเช่นเดียวกัน GFC Ubon สาขาอุบลราชธานี ปัจจุบันเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสาขาดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้ารับการรักษาได้ครอบคลุมในพื้นที่อุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและประสบการณ์ด้านการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI การฉีดเชื้อ IUI รวมถึงบริการฝากไข่ บริการตรวจ AMH และบริการตรวจโครโมโซม ดังนั้นด้วยทีมแพทย์ ทีมนักวิทยาศาสตร์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ จะสามารถทำให้มั่นใจว่า GFC Ubon จะสามารถขยายฐานและเพิ่มโอกาสการเติบโตของลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมถึงสร้างรายได้ให้กับ GFC ได้ GFC Rama 9 International สาขาพระราม 9 เตรียมเปิดให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) ในวันที่ 21 ก.พ. 2568 โดยสาขานี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่จะยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากอย่างครอบคลุม รวมถึงยังสามารถรองรับลูกค้าต่างประเทศได้เต็มรูปแบบ มีห้องวิจัยและห้องปฏิบัติการสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยห้องประชุมสัมมนาวิชาการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอบรมนักเทคนิคการแพทย์ภายในของกลุ่มบริษัท (In-house training) เพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น            GFC มุ่งยกระดับมาตรฐานการรักษาลูกค้าผู้มีบุตรยาก ควบคู่กับการยกระดับทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์มาใช้เพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ สู่การสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง            ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GFC ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงแนวโน้มการ “ฝากไข่” ซึ่งถือเป็นเทรนด์ผู้หญิงยุคใหม่ในปัจจุบันว่า การฝากไข่ ถือว่าเป็น Asset หรือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง เนื่องจากเป็นหลักประกันที่เพิ่มโอกาสในการมีลูกในอนาคต เพราะ Asset ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับครอบครัว ดังนั้น GFC จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญในธุรกิจนี้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจในการให้บริการที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในอนาคต [PR news]

GFCเนรมิตรสาขาพระราม 9 ต่างชาติหนุนฐาน โบรกชี้เป้า 8.30 บ.

GFCเนรมิตรสาขาพระราม 9 ต่างชาติหนุนฐาน โบรกชี้เป้า 8.30 บ.

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ระบุถึง GFC ว่า ยังมองบวกต่อโอกาสเติบโตและ Valuation ที่น่าสนใจ          ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ "Buy" สำหรับ GFC เนื่องจากยังมองบวกต่อโอกาสเติบโตจากการให้บริการของสาขาพระราม 9 ตลอดปี และการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติ โดยคาดว่าในระยะสั้น (4Q24F-1Q25F) ผลประกอบการอาจไม่เด่นนักจากความท้าทายฐานสูงในช่วง 4Q23-1Q24 ซึ่งมีอานิสงส์จากปีมังกร และมองว่าราคาหุ้นตอบรับปัจจัยนี้ไปแล้ว โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 25F เฉลี่ย 12.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่า Forward PE ที่ -2.0SD ถือเป็นโอกาสในการลงทุนระยะยาว ประเด็น เมื่อวานนี้ราคาหุ้น GFC ปรับตัวลงเกือบ -20% ทำนิวโลว์ที่ราคา 4.94 บาท ความเห็นและคำแนะนำ          ฝ่ายวิเคราะห์ได้ตรวจสอบกับบริษัทแล้วไม่พบปัจจัยลบใหม่ที่มีผลต่อปัจจัยพื้นฐานของ GFC อย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้บริหารมองบวกต่อโอกาสเติบโตในปีนี้ และตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตในอัตราเลข 2 หลัก (Double digit growth) จากการให้บริการสาขาใหม่ 2 แห่ง (สาขาอุบลฯ และสาขาพระราม 9) ที่ให้บริการเต็มปี และการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติร่วมกับเอเจนซี่มากกว่า 1 ราย          ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ น่าจะมีสาเหตุจาก 1) ระยะสั้นไม่มีปัจจัยบวกใหม่ 2) คาดจำนวนรอบการเก็บไข่และฝั่งตัวอ่อนใน 4Q24F จะลดลงทั้งในระยะปีต่อปี (y-y) และไตรมาสต่อไตรมาส (q-q) และ 3) ใน 1Q25F จะมีความท้าทายจากฐานสูงใน 1Q24 ที่มีอานิสงส์บวกจากปีมังกร          คงมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐานของ GFC ตามบทวิเคราะห์ล่าสุด (31 ม.ค. 25) คาดว่าใน 4Q24F กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 14 ล้านบาท (-39% y-y, -17% q-q) ลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจาก 1) คาดว่ารายได้จากการให้บริการจะลดลง (-15% y-y, -8% q-q) ตามจำนวนรอบการเก็บไข่/ฝั่งตัวอ่อนที่ลดลง 2) คาดค่าใช้จ่าย SG&A จะเพิ่มขึ้น (+10% y-y, +3% q-q) จากค่าใช้จ่ายในการตลาดและค่าใช้จ่ายพนักงานที่เปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง          ในปี 25F คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 87 ล้านบาท (+7% y-y) ซึ่งเติบโตจากรายได้การให้บริการ (+16% y-y) ที่เติบโตดีขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากการให้บริการสาขาพระราม 9 เต็มปี การปรับขึ้นค่าบริการ และการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติ (ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 1%) คงคำแนะนำ "Buy" สำหรับ GFC (TP 8.30 บาท)          โดยประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF ที่ WACC 8.7% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 3% เนื่องจาก 1) ยังมองบวกต่อโอกาสเติบโตจากการขยายสาขาและตลาดลูกค้าต่างชาติ          2) คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตเฉลี่ย +15% CAGR ในปี 25F-26F และจะจ่ายเงินปันผลที่ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3-4% 3) มีโอกาสเกิด upside หากจำนวนลูกค้าต่างชาติที่ใช้บริการมากกว่าคาด (สมมุติฐานปี 25F สาขาพระราม 9 เริ่มมีรายได้จากลูกค้าต่างชาติใน 2H25F โดยมีจำนวนเคสเฉลี่ย 5 เคสต่อเดือน)          นอกจากนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ ทำให้ราคา PE ปี 25F ลดลงเหลือ 12.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่า Forward PE ที่ -2.0SD ถือเป็นโอกาสในการลงทุนระยะยาว

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

GFC จับตาต่างชาติเข้า สาขาใหม่หนุนผลงาน เคาะเป้า 8.30 บ.

GFC จับตาต่างชาติเข้า สาขาใหม่หนุนผลงาน เคาะเป้า 8.30 บ.

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี ส่องหุ้น GFC โดยแนะนำ Buy สำหรับ GFC เนื่องจากคาดปี 25F กำไรสุทธิเติบโตดีขึ้น จากผลบวกของการเปิดสาขาใหม่เต็มปี และปรับขึ้นราคา รวมทั้งมีโอกาสเติบโต จากตลาดลูกค้าใหม่กลุ่มต่างชาติ ทั้งนี้ระยะสั้นคาดกำไรสุทธิผ่านช่วงแย่ใน 4Q24F และราคาหุ้นตอบรับไปแล้ว โดยราคาหุ้นซื้อ ขาย PE ปี 25F ที่ 17 เท่าเทียบเท่า Forward PE ต่ำกว่า -1.0SD มองเป็นโอกาสลงทุน คาดกำไรสุทธิ4Q24F ที่14 ลบ. (-39%y-y -17%q-q)           คาดว่าใน 4Q24F GFC จะมีกำไรสุทธิ14 ลบ. (-39%y-y -17%q-q) ลดลง เนื่องจาก 1) คาดรายได้ให้บริการ (-15%y-y -8%q-q) ลดลงตามจำนวนรอบการเก็บไข่/ฝั่งตัวอ่อน 2) คาดค่าใช้จ่าย SG&A (+10%y-y +3%q-q) เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายการตลาดและค่าใช้จ่ายพนักงานเปิด 2 สาขาใหม่           หากกำไรสุทธิ 4Q24F เป็นไปตามคาด จะทำให้ปี 24F มีก าไรสุทธิ 76 ลบ. (-1%y-y) ทรงตัวจากปี 23 และต่ำกว่าที่คาดไว้-6% จากใน 4Q24F ลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเคสที่กระตุ้นไข่ได้น้อย ทำให้จำนวนรอบการเก็บไข่/ฝั่งตัวอ่อนน้อยกว่าคาด ปี 2025F มีปัจจัยบวกสาขาใหม่เต็มปีและเริ่มให้บริการลูกค้าต่างชาติ           ช่วงต้นเดือน ม.ค.25 สาขาพระราม 9 เปิดให้บริการเป็นทางการ เริ่มให้บริการ 2 ห้องตรวจ (vs Full Phase ที่ 12 ห้อง) รองรับการให้บริการราว 25-30 เคสต่อเดือน โดยเรารวมสาขาใหม่ในประมาณ การแล้ว คาดปี 25F มีกำไรสุทธิ 87 ลบ. (+7%y-y) จากคาดรายได้ให้บริการ (+16%y-y) เติบโตดีขึ้นจากจำนวนรอบการเก็บไข่/ฝั่งตัวอ่อนเพิ่มขึ้น ประกอบกับคาดมีผลบวกเปิดสาขาใหม่เต็มปีและ ปรับขึ้นค่าบริการ           นอกจากนี้การเปิดสาขาพระราม 9 ทำให้คาดสามารถขยายตลาดลูกค้าใหม่กลุ่มต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนที่ทำการตลาดร่วมกับเอเจนซี่ 3-4ราย (สมมติฐานปี 25F สาขาพระราม 9เริ่มมีรายได้ลูกค้าต่างชาติใน 2H25F มีจำนวนเคสเฉลี่ย 5เคสต่อเดือน ) แนะนำ Buy สำหรับ GFC (TP 8.30 บาท)           ด้วยวิธี DCF WACC 8.7% เนื่องจากคาดกำไรสุทธิมีแนวโน้ม เติบโตเฉลี่ย +15%CAGR 25F-26F และมีโอกาสเกิด upside หากมีจำนวนลูกค้าต่างชาติใช้บริการ มากกว่าคาด นอกจากนี้ราคาหุ้นซื้อขาย PE ปี 25F ที่17เท่า เทียบเท่า Forward PE ต่ำกว่า-1.0SDมองเป็นโอกาสลงทุนสำหรับการลงทุนระยะยาว

GFC ดีเดย์ให้บริการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก “GFC Ubon” เต็มสูบ

GFC ดีเดย์ให้บริการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก “GFC Ubon” เต็มสูบ

           หุ้นวิชั่น - บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC เดินเกมรุก บุกให้บริการทางการแพทย์สำหรับ ผู้มีบุตรยาก จ.อุบลราชธานี ล่าสุด ได้กฤษ์เปิดตัวสาขา “GFC Ubon” คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และสูตินรีเวช อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกาศปักหมุดสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ลูกค้าชาวอุบล และจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เร่งต่อยอดขยายฐานสร้างรายได้เพิ่ม              นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นในการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก ภายใต้ศักยภาพความแข็งแกร่งในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยในด้านการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การ      เจริญพันธ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก ตั้งแต่การรับบริการตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การฝากไข่ และการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน PGT-A รวมถึงชูนวัตกรรมการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ PGT-A Plus มาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจความผิดปกติของพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรองหาตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์และเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์             ล่าสุด GFC ได้ทำการเปิดตัว “จีเอฟซี อุบล” (GFC Ubon) อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้การบริหาร โดยแพทย์หญิงฐิติมา ชัยศรีสวัสดิ์สุข  กรรมการผู้จัดการ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านสูตินรีเวชกรรม และเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ บริษัท จีเอฟซี อุบล จำกัด โดยสาขาดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้ารับการรักษาได้ครอบคลุมในพื้นที่อุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจะเป็นคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากที่ได้มาตรฐานแห่งใหม่ของอีสานใต้ และสามารถให้การรักษากลุ่มประเทศเพื่อนบ้านภายใต้มาตรฐานเดียวกันกับ GFC ที่จะเติมเต็มความฝันของทุกครอบครัว ด้วยการบริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก ที่มีความชำนาญการและประสบการณ์ด้านการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI  การฉีดเชื้อ IUI รวมถึงบริการฝากไข่ ( OOCYTE FREEZING ) บริการตรวจ AMH และบริการตรวจโครโมโซม ด้วยทีมแพทย์,  ทีมนักวิทยาศาสตร์, พยาบาล และบุคลากรทุกคน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการเติมเต็มความฝันของทุกครอบครัว            สำหรับ GFC Ubon เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันอย่างลงตัวของ รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ   แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ประสบการณ์รักษากว่า 25 ปี และยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์, พญ.ฐิติมา ชัยศรีสวัสดิ์สุข  แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์, สูตินรีแพทย์, นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ และยังเป็นผู้เคยได้รับบริการด้านการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังมี นางสาวปิยะดา วิรัตน์พงษ์ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการด้านการเจริญพันธุ์ (Embryologist)  และนายโรจนินทร์ เหลืองพิพัฒน์สร  ซึ่งเป็นนักธุรกิจ, นักลงทุน            ดังนั้นจากความลงตัวของทีมผู้ก่อตั้ง ทำให้ GFC UBON เป็นองค์กรที่มีรากฐานแข็งแกร่ง เพราะเกิดจากการรวมตัวกันของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำธุรกิจด้านการเจริญพันธุ์ ได้แก่  แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจผู้เคยเข้ารับบริการด้านการเจริญพันธุ์ รวมถึงนักลงทุน ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้เกิดการระดมความคิดที่มีมุมมองหลากหลาย และครบถ้วนตั้งแต่การเลือกใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถใช้งานได้จริง การออกแบบกระบวนการรักษาและการให้บริการที่เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง ส่งผลให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการรับการรักษา จนกลายเป็นหนึ่งในองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการด้านการเจริญพันธุ์            “ GFC Ubon ตั้งอยู่ที่ 382 ถ.เทพโยธี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ทางเข้าสนามบินนานาชาติ เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา10.00 – 20.00 น.วันเสาร์ เวลา 08.00 – 17.00 น. ดังนั้นเขื่อว่า คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และสูตินรีเวช ภายใต้ชื่อ GFC Ubon จะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ของชาวอุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากในโซนพื้นที่ดังกล่าวมีอัตราผู้เข้ารับคำปรึกษาผู้มีบุตรยากเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าจากการขยายฐานดังกล่าวจะสร้างโอกาสการเติบโตให้กับ GFC ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” [PR News]

[Vision Exclusive] GFC เทรนด์ฝากไข่มาแรง ดีเดย์เปิดสาขาพระราม9

[Vision Exclusive] GFC เทรนด์ฝากไข่มาแรง ดีเดย์เปิดสาขาพระราม9

          หุ้นวิชั่น - "เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์" ดีเดย์เปิด "GFC Rama 9 International" 6 ม.ค.68  ต้อนรับลูกค้าบริการ ใน นอกประเทศ คาดหลังตรุษจีนต่างชาติตบเท้าเข้าใช้บริการแน่น ด้านบิ๊กบอส "กรพัส อัจฉริยมานีกูล" ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 20% ชี้เทรนด์ฝากไข่มาแรง ด้านโบรกเคาะเป้า GFC ที่ 8.30 บาท           นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า  วันจันทร์ที่ 6 มกราคม นี้ GFC เตรียมเปิดให้บริการสาขาพระราม 9 หรือ GFC Rama 9 International ซึ่งจะเป็นสาขาใหม่ที่สำคัญในกรุงเทพฯ โดยมีกำหนดการจัดงาน Grand Opening ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ สาขานี้จะยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากอย่างครบวงจร และถือเป็นหนึ่งในจุดสำคัญในการผลักดันกรุงเทพฯ สู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในอนาคต สาขานี้จะรองรับผู้ใช้บริการทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยคาดว่าหลังจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ปริมาณผู้ใช้บริการจากต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการ (Demand) ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจาก GFC ได้ไปร่วมงานแฟร์และแต่งตั้งตัวแทน (Agent) เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนรายได้ของ GFC ในปี 2568 โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของรายได้จะอยู่ที่ประมาณ 20% ในปีนี้ ดีมานด์ผู้เข้าใช้บริการในประเทศ หรือคนไทยกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากสิ้นสุดปีมังกร ซึ่งเป็นปีที่ประชากรต้องการมีบุตรสูง อย่างไรก็ตาม กระแสการฝากไข่เพื่อเป็นหลักประกันในการมีบุตรในอนาคต กลายเป็นเทรนด์ของผู้หญิงยุคใหม่และเป็นกลยุทธ์ในการวางแผนมีบุตร ทำให้จำนวนผู้ที่สนใจฝากไข่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ GFC Ubon สาขาอุบลราชธานี เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) ในวันที่ 19 มกราคม 2568 จากปัจจุบันเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสาขาดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้ารับการรักษาได้ครอบคลุมในพื้นที่อุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากในโซนพื้นที่ดังกล่าวมีอัตราผู้เข้ารับคำปรึกษาผู้มีบุตรยากเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าจะสามารถขยายฐานและเพิ่มโอกาสการเติบโตของกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เพิ่มขึ้น ด้าน  บล.กรุงศรี ระบุปรับคำแนะนำเป็น Buy สำหรับ GFC ยังคง TP25F ที่ 8.30 บาท เนื่องจากคาดกำไรสุทธิ 4Q24F ฟื้นตัว q-q จากการใช้บริการเพิ่มขึ้น และผลบวกปรับขึ้นราคาเต็มไตรมาส ส่วนปี 25F คาดกำไรสุทธิ (+7%y-y) เติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยบวกปรับขึ้นราคาและ 2 สาขาใหม่เปิดบริการเต็มปี ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขาย PE ปี 25F เทียบเท่า Forward PE ใกล้เคียง -2.0SD ปรับคำแนะนำเป็น Buy ราคาเป้าหมาย (TP25F) ที่ 8.30 บาท ปรับคำแนะนำเป็น Buy (เดิม Trading Buy) สำหรับ GFC คงราคาเป้าหมายปี 25F ที่ 8.30 บาท วิธี DCF WACC 8.7% คิดเป็น Imply PE ปี 25F ที่ 21 เท่า ขณะที่ราคาหุ้น GFC ซื้อขาย PE ปี 25F เฉลี่ย 17 เท่า เทียบเท่า Forward PE ใกล้เคียง -2.0SD เรามองเป็นโอกาสลงทุนเมื่อพิจารณาแนวโน้มกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย +15%CAGR 25 ปี 2025 จะมี S-curve ใหม่จากการขยายตลาดกลุ่มต่างชาติ ผู้บริหารระบุ เดือน ม.ค.25 สาขาพระราม 9 จะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ หลังได้ใบอนุญาตให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ฯ ในเดือน ธ.ค.24 โดยช่วงแรกจะให้บริการ 2 ห้องตรวจ (vs Full Phase ที่ 12 ห้อง) รองรับการให้บริการราว 25-30 เคสต่อเดือน ช่วยเพิ่มศักยภาพรับลูกค้าจากปัจจุบันมีเพียงสาขาพระราม 3 ซึ่งมีอัตราใช้บริการเฉลี่ย 70-80% นอกจากนี้ GFC อยู่ระหว่างเจรจาเอเจนซีจีนมากกว่า 1 ราย ผู้บริหารมองว่าจะชัดเจนและเริ่มส่งลูกค้าช่วงต้นปี 25F พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ปี 25F เติบโตเกิน 15% กรณีรวมรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เรามองว่าในปี 25F การเปิดสาขาพระราม 9 เต็มปีทำให้ GFC สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 1% คาด 4Q24F กำไรสุทธิฟื้นตัว q-q และปี 25F เติบโตต่อเนื่อง 7%y-y เดือน ต.ค.-พ.ย.24 ทิศทางการใช้บริการดีขึ้นจาก 3Q24 มีปัจจัยบวกการทำโปรโมชั่นต่อเนื่อง ประกอบกับสาขาอุบลราชธานีให้บริการเต็มไตรมาส (vs เริ่มให้บริการ 15 ส.ค.24) และสาขาพระราม 9 เริ่มให้บริการ นอกจากนี้ปลาย 3Q24 มีการปรับขึ้นราคา 10% เราคาด 4Q24F จะมีกำไรสุทธิราว 18 ลบ. (-19%y-y +11%q-q) ฟื้นตัว q-q ตามทิศทางรายได้ (-4%y-y +4%q-q) ส่วนปี 24F คาดมีกำไรสุทธิ 81 ลบ. (+5%y-y) และปี 25F คาดกำไรสุทธิ 87 ลบ. (+7%y-y) เติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยบวกปรับขึ้นค่าบริการและเปิดสาขาพระราม 9 เต็มปี (สมมติฐานปี 25F สาขาพระราม 9 เริ่มมีรายได้ลูกค้าต่างชาติใน 2H25F มีจำนวนเคสเฉลี่ย 5 เคสต่อเดือน) รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

[ภาพข่าว] GFC เปิดบ้านต้อนรับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ส่งท้ายปี

[ภาพข่าว] GFC เปิดบ้านต้อนรับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ส่งท้ายปี

หุ้นวิชั่น - นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ รองประธานกรรมการ  นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายอมร ไตรรัตน์อัศว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน  บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ให้การต้อนรับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมกิจการ GFC Rama 9 International ส่งท้ายปี 2567 พร้อมอัปเดตทิศทางธุรกิจรวมถึงความพร้อมในการเปิดให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก ทั้ง 2 สาขาใหม่ โดยช่วงต้นปี 2568 เตรียมเปิด Grand Opening สาขา GFC Ubon ในวันที่ 19 ม.ค.68 ขณะที่ GFC Rama 9 International เตรียม Grand Opening ในวันที่ 21 ก.พ.68 ส่งผลให้ 2568 GFC มีสาขาสำหรับรองรับลูกค้าได้ครบ 3 สาขา ซึ่งตอกย้ำถึงแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

GFC คาด S-curve ใหม่ ตลาดกลุ่มต่างชาติหนุน

GFC คาด S-curve ใหม่ ตลาดกลุ่มต่างชาติหนุน

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.กรุงศรี ระบุปรับคำแนะนำเป็น Buy สำหรับ GFC ยังคง TP25F ที่ 8.30 บาท เนื่องจากคาดกำไรสุทธิ 4Q24F ฟื้นตัว q-q จากการใช้บริการเพิ่มขึ้น และผลบวกปรับขึ้นราคาเต็มไตรมาส ส่วนปี 25F คาดกำไรสุทธิ (+7%y-y) เติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยบวกปรับขึ้นราคาและ 2 สาขาใหม่เปิดบริการเต็มปี ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขาย PE ปี 25F เทียบเท่า Forward PE ใกล้เคียง -2.0SD ปรับคำแนะนำเป็น Buy ราคาเป้าหมาย (TP25F) ที่ 8.30 บาท           ปรับคำแนะนำเป็น Buy (เดิม Trading Buy) สำหรับ GFC คงราคาเป้าหมายปี 25F ที่ 8.30 บาท วิธี DCF WACC 8.7% คิดเป็น Imply PE ปี 25F ที่ 21 เท่า ขณะที่ราคาหุ้น GFC ซื้อขาย PE ปี 25F เฉลี่ย 17 เท่า เทียบเท่า Forward PE ใกล้เคียง -2.0SD เรามองเป็นโอกาสลงทุนเมื่อพิจารณาแนวโน้มกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย +15%CAGR 25 ปี 2025 จะมี S-curve ใหม่จากการขยายตลาดกลุ่มต่างชาติ           ผู้บริหารระบุ เดือน ม.ค.25 สาขาพระราม 9 จะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ หลังได้ใบอนุญาตให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ฯ ในเดือน ธ.ค.24 โดยช่วงแรกจะให้บริการ 2 ห้องตรวจ (vs Full Phase ที่ 12 ห้อง) รองรับการให้บริการราว 25-30 เคสต่อเดือน ช่วยเพิ่มศักยภาพรับลูกค้าจากปัจจุบันมีเพียงสาขาพระราม 3 ซึ่งมีอัตราใช้บริการเฉลี่ย 70-80% นอกจากนี้ GFC อยู่ระหว่างเจรจาเอเจนซีจีนมากกว่า 1 ราย ผู้บริหารมองว่าจะชัดเจนและเริ่มส่งลูกค้าช่วงต้นปี 25F พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ปี 25F เติบโตเกิน 15% กรณีรวมรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เรามองว่าในปี 25F การเปิดสาขาพระราม 9 เต็มปีทำให้ GFC สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เพียง 1% คาด 4Q24F กำไรสุทธิฟื้นตัว q-q และปี 25F เติบโตต่อเนื่อง 7%y-y           เดือน ต.ค.-พ.ย.24 ทิศทางการใช้บริการดีขึ้นจาก 3Q24 มีปัจจัยบวกการทำโปรโมชั่นต่อเนื่อง ประกอบกับสาขาอุบลราชธานีให้บริการเต็มไตรมาส (vs เริ่มให้บริการ 15 ส.ค.24) และสาขาพระราม 9 เริ่มให้บริการ นอกจากนี้ปลาย 3Q24 มีการปรับขึ้นราคา 10% เราคาด 4Q24F จะมีกำไรสุทธิราว 18 ลบ. (-19%y-y +11%q-q) ฟื้นตัว q-q ตามทิศทางรายได้ (-4%y-y +4%q-q) ส่วนปี 24F คาดมีกำไรสุทธิ 81 ลบ. (+5%y-y) และปี 25F คาดกำไรสุทธิ 87 ลบ. (+7%y-y) เติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยบวกปรับขึ้นค่าบริการและเปิดสาขาพระราม 9 เต็มปี (สมมติฐานปี 25F สาขาพระราม 9 เริ่มมีรายได้ลูกค้าต่างชาติใน 2H25F มีจำนวนเคสเฉลี่ย 5 เคสต่อเดือน)

ภาวะมีบุตรยากขาขึ้น ล็อกมง GFC-SAFE

ภาวะมีบุตรยากขาขึ้น ล็อกมง GFC-SAFE

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) แนะนำ Bullish กลุ่ม Fertility service ชี้ SAFE เด่น เคาะเป้า 16.30 บาท ด้าน GFC "ซื้อ" พิกัด 8.30 บาท           แนวโน้มตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากโลกและไทยเป็นขาขึ้น National Statistics Offices UN ระบุ ในปี 2022 ตลาดบริการภาวะมีบุตรยากทั่วโลก (Global Fertility Services) รวมถึงการขายผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่เกี่ยวกับการช่วยเจริญพันธุ์ มีมูลค่าราว 47,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 90,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2027 และ 117,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2032 หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 13.8% ต่อปี สำหรับตลาดบริการ Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) ในปี 2022 มีมูลค่าราว 17,725 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 35,582 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2027 และ 69,277.2 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2032 ตามลำดับ หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 14.3% ต่อปี           ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ คือ อายุเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นของการมีบุตรคนแรกของผู้หญิงในหลายประเทศ และการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยาก (Fertility Tourism) โดยข้อมูลจาก Medicaltourism.com คาดการณ์ว่าตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากทั่วโลกจะมีมูลค่าประมาณ 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2026 หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% CAGR ในช่วงปี 2019-2026 โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงที่สุดราว 68,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2026 หรือเติบโตเฉลี่ย 17% ต่อปี (ปี 2019-2026) รวมทั้งคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีมูลค่าราว 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ           สำหรับประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของ Fertility Tourism ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, อินเดีย, ออสเตรเลีย, และญี่ปุ่น           สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก National Statistics Offices ระบุว่าในปี 2019 ตลาดให้บริการผู้มีบุตรยากมีมูลค่าราว 211 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปี 2027F ตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากของไทยจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 518 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% CAGR ในช่วงปี 2023-2027 ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อธุรกิจให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากในประเทศไทยยังมีแนวโน้มเติบโตขาขึ้น สอดคล้องกับตลาดโลก ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นโอกาสทั้ง GFC และ SAFE ในการขยายตลาดกลุ่มต่างชาติใหม่ๆ           ฝ่ายวิเคราะห์ให้น้ำหนักลงทุน Bullish สำหรับกลุ่มผู้ให้บริการภาวะผู้มีบุตรยาก (Fertility service) เนื่องจากการให้บริการภาวะผู้มีบุตรยากเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ทางการแพทย์ที่ภาครัฐผลักดัน เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็น “Medical Hub” รวมทั้งเป็นทางเลือกของคนอยากมีลูก และตอบโจทย์วาระแห่งชาติส่งเสริมการมีบุตร นอกจากนี้ คาดว่าใน 4Q24F กำไรสุทธิรวมกลุ่มฯ จะมีการฟื้นตัว q-q และปี 2025F คาดกำไรสุทธิรวม (+17% y-y) เข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ มีปัจจัยสนับสนุน           แนวโน้มตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากของโลกและไทยยังเติบโตเป็นขาขึ้น เนื่องจากอายุเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นในการมีบุตรคนแรกของผู้หญิงหลายประเทศ ทำให้ภาวะผู้มีบุตรยากเป็นปัญหาที่พบในหลายประเทศ โดย National Statistics Offices UN คาดการณ์ตลาดบริการภาวะมีบุตรยากทั่วโลก (Global Fertility Services) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี (2022-32) ส่วนตลาดไทยคาดมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 15% CAGR 2023-27 จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาดกลุ่มใหม่ให้กับ GFC และ SAFE           ประเทศไทยมีจำนวนประชากรเกิดใหม่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 10 ปี (2012-2022) จาก 818,901 คน หรือคิดเป็นอัตราการเกิดร้อยละ 12.7 ต่อพันคน ในปี 2012 เป็น 502,107 คน หรือคิดเป็นอัตราการเกิดร้อยละ 7.6 ต่อพันคน ในปี 2022 ซึ่งเป็นจำนวนการเกิดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ทำให้รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการมีบุตรเป็นวาระแห่งชาติ และการให้บริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากมีลูก           กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะมีผลใช้บังคับ 22 ม.ค. 2025 ประกอบกับมีการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริการภาวะผู้มีบุตรยาก รวมทั้งเสนอปรับแก้ไขกฎหมายเพื่ออนุญาตให้คู่สมรสที่มีทะเบียนสมรสสามารถอุ้มบุญได้ โดยรวมถึงคู่สมรสเพศเดียวกัน และสำหรับกรณีชาวต่างชาติ           มองเป็นปัจจัยช่วยเพิ่มความต้องการมีบุตรเปิดกว้างขึ้นหุ้นเด่นเลือก SAFE (Buy TP25F 16.30 บาท) ปรับคำแนะนำเป็น Buy (เดิม Trading Buy) เนื่องจากคาด 4Q24F กำไรสุทธิ (-33% y-y +18% q-q) กลับมาเติบโต q-q และปี 25F คาดกำไรสุทธิ (+17% y-y) เติบโตเด่นกว่า GFC (vs กำไรสุทธิ +7% y-y) จากศักยภาพให้บริการพร้อมทั้งบุคลากรการแพทย์และเทคโนโลยีใหม่ ประกอบกับไม่มีผลกระทบต้นทุนและค่าใช้จ่ายของสาขาใหม่เหมือน GFC           เทคโนโลยีใหม่ PGT-A Seq ให้บริการเต็มปี 2025 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตัวอ่อนและอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ รวมทั้งเป็นโอกาสให้บริการลูกค้าภายนอกทั้งคลินิก IVF และ รพ. ต่างๆ           เอเจนซี่ต่างชาติรายใหม่เข้ามาเพิ่มเติมทั้งจีน, อินเดีย, บังคลาเทศ และเวียดนาม ทำให้มีโอกาสขยายตลาดต่างชาติเพิ่มเติมจากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ต่างชาติราว 45%           ส่วน GFC (Buy TP25F 8.30 บาท) ฝ่ายวิเคราะห์ปรับคำแนะนำเป็น Buy (เดิม Trading Buy) เนื่องจากคาด 4Q24F กำไรสุทธิ (-19% y-y +11% q-q) กลับมาเติบโตได้ q-q จากการใช้บริการเพิ่มขึ้น ประกอบกับสาขาใหม่อุบลราชธานีให้บริการเต็มไตรมาส และสาขาพระราม 9 เริ่มให้บริการมีปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นค่าบริการเฉลี่ยราว 10% มีผลตั้งแต่ 4Q24F และสาขาพระราม 9 ให้บริการเต็มปี 25F มองเป็น S-curve ใหม่ในการเติบโตจากการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติ ซึ่งปัจจุบัน GFC มีสัดส่วนรายได้ต่างชาติเพียง 1% อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์ชอบ GFC น้อยกว่า SAFE เนื่องจากคาดปี 25F GFC จะยังมีปัจจัยกดดันด้วยต้นทุนของ 2 สาขาใหม่ รวมทั้งอยู่ระหว่างหาเอเจนซีรายใหม่ร่วมทำตลาดต่างชาติ ทำให้คาดการสร้างรายได้จะเติบโตช้ากว่าต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น           ช่วง 1Q24 ราคาหุ้น SAFE (+16%) ปรับตัวขึ้นดีกว่า GFC (-3%) และกลุ่มการแพทย์ (-0.5%) มีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงาน 1Q24 ทะลุ all time high จากอานิสงส์ความต้องการมีลูกในปีมังกร ทำให้มีการใช้บริการเร่งขึ้นทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ทั้งนี้นับจากต้นปี 24 ราคาหุ้น SAFE (-33% ytd) และ GFC (-37% ytd) ปรับตัวลงแย่กว่ากลุ่มการแพทย์ (-13% ytd) สะท้อนผลการดำเนินงานปีนี้ผ่านช่วงดีสุดใน 1Q24 ทำให้ราคาปัจจุบัน SAFE และ GFC ซื้อขาย PE ปี 25F เฉลี่ย 18 เท่า หรือเทียบเท่า Forward PE -2.0 SD มองเป็นโซนน่าลงทุน เมื่อเทียบกับแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิกลุ่มฯ เฉลี่ย 17% CAGR ปี 25F-26F ประกอบกับการให้บริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ทางการแพทย์ที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐและกฎหมายสนับสนุนต่างๆ มองว่าราคาหุ้น SAFE และ GFC ควรถูก Re-rated PE ขึ้นจากระดับ -2.0 SD เพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไรสุทธิปี 25F กลับมาเติบโต           ในปี 2024F คาดว่ากลุ่มผู้ให้บริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากที่ศึกษาจะมีกำไรสุทธิรวม 260 ลบ. (-7% y-y) ลดลงตามทิศทางผลการดำเนินงานของ SAFE คาดมีกำไรสุทธิ 179 ลบ. (-11% y-y) ลดลง เนื่องจากคาดว่า SAFE จะมีรายได้ให้บริการ (-0.5% y-y) ชะลอตัวตามจำนวนรอบการเก็บไข่และให้บริการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน ทำให้มีผลของ Economies of scale ลดลงตามการใช้บริการ รวมทั้งการทำตลาดเชิงรุกร่วมกับเอเจนซี่ต่างชาติในประเทศจีน, บังคลาเทศ และอินเดีย ทำให้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย SG&A (+12% y-y) เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้ที่ชะลอตัว ส่วน GFC คาดมีกำไรสุทธิ 81 ลบ. (+5% y-y) เติบโต เนื่องจากคาดว่าจะมีรายได้ให้บริการ (+7% y-y) เติบโตจากจำนวนรอบการเก็บไข่ที่เพิ่มขึ้น และมีการปรับขึ้นค่าบริการช่วง 4Q24F ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเปิด 2 สาขาใหม่ คาดเริ่มเห็นผลกระทบบางส่วนใน 4Q24F (ปลายเดือน ส.ค. 24 เปิดสาขาอุบลราชธานี และปลาย 4Q24F เปิดสาขาพระราม 9)           ทิศทางและเป้าหมายปี 2025F ผู้บริหาร GFC และ SAFE มีมุมมองบวกต่อการเติบโตของรายได้ที่ดีขึ้นจากการตลาดเชิงรุกและขยายลูกค้าใหม่ โดย GFC ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% ยังไม่รวมการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติของสาขาพระราม 9 ส่วน SAFE ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตราว 15% ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของตลาด IVF ในประเทศไทย           โดยในปี 2025F คาดว่ากลุ่มผู้ให้บริการภาวะมีบุตรยากที่ศึกษาจะมีกำไรสุทธิรวม 297 ลบ. (+14% y-y) เข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ เนื่องจากคาดว่า GFC และ SAFE จะมีรายได้เติบโตดีขึ้นตามการใช้บริการและมีจำนวนรอบการเก็บไข่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า GFC จะมีรายได้ให้บริการเติบโต +16% y-y รวมลูกค้าต่างชาติของสาขาพระราม 9 คาดเริ่มให้บริการใน 2Q25F เป็นต้นไป ส่วน SAFE คาดรายได้ให้บริการเติบโต +12% y-y ตามที่คาดว่าจะมีจำนวนรอบการเก็บไข่และให้บริการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนเพิ่มขึ้น           ทั้งนี้คาดว่า GFC จะมีปัจจัยกดดันจากการรับรู้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายของ 2 สาขาใหม่เต็มปี ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 87 ลบ. (+7% y-y) เติบโตในอัตราน้อยกว่ารายได้ และเติบโตน้อยกว่า SAFE ที่เราคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 210 ลบ. (+17% y-y) เนื่องจากคาดว่า SAFE จะมีผลบวกจาก Economies of scale ของการให้บริการเพิ่มขึ้นทั้งการให้บริการ IVF และให้บริการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน รวมทั้งไม่มีปัจจัยกดดันต้นทุนจากการเปิดสาขาใหม่เหมือน GFC

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

GFC จ่อบุ๊ครายได้ GFC Ubon เต็มแม็กซ์

GFC จ่อบุ๊ครายได้ GFC Ubon เต็มแม็กซ์

          หุ้นวิชั่น –  หลังจากที่ บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ “GFC” ปิดงบ 9 เดือนของปี 2567 โดยกวาดกำไรสุทธิ 62.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.22% และมีรายได้จากการให้บริการ เพิ่มขึ้น 11.47% (YoY) แบบสวยๆ ไปแล้ว ล่าสุด CEO “กรพัส อัจฉริยมานีกูล”เร่งวางเกมรุกทางการตลาดในช่วงโค้งสุดท้าย ลุยเปิดให้บริการสาขา      จีเอฟซี อุบล ทั้งให้คำปรึกษาภาวะผู้มีบุตรยาก การรับฝากครรภ์ และการรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก เพื่อปักหมุดให้บริการการรักษาและให้คำปรึกษาแก่ผู้มีบุตรยากในโซนอีสาน แบบเต็มแม็กซ์ ซึ่งก็เท่ากับว่าตั้งแต่ไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป GFC เปิดกระเป๋ารับทรัพย์เต็มๆ จากสาขานี้เข้ามาได้เลย ฟอร์มดีขนาดนี้ แถมภาพรวมอุตสาหกรรมการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากทั่วโลกขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า แนวโน้ม GFC ในปี 2568 จะพุ่งแรงขนาดไหน เพราะหาก GFC Rama 9 International เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการปีหน้า ส่งผลให้เปิดพอร์ตรับลูกค้าต่างชาติได้แบบเต็มๆ ได้ยินแบบนี้แล้วไม่แปลกใจที่ GFC ถูกยกให้เป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ อันดับต้นๆ ที่ลูกค้าแห่เข้ามารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง…... แอบส่งซิกข่าวให้เหล่า FC รู้ขนาดนี้แล้ว ถ้าตกขบวนอย่ามางอแง ให้เห็นนะ

[ภาพข่าว] GFC คว้า CGR 5 ดาว ตอกย้ำองค์กรกำกับดูแลกิจการระดับ “ดีเลิศ”

[ภาพข่าว] GFC คว้า CGR 5 ดาว ตอกย้ำองค์กรกำกับดูแลกิจการระดับ “ดีเลิศ”

          นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการประกาศผลการประเมินโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Company: CGR) ประจำปี 2567 โดย GFC ได้รับคะแนนประเมินในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)           ความสำเร็จครั้งนี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินกิจการ ภายใต้การยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ GFC สอดรับกับแผนความมุ่งเน้นในการให้บริการผู้เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากในประเทศเป็นหลัก ควบคู่กับการขยายฐานกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เพื่อผลักดันองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องในอนาคต

GFC ท็อปฟอร์ม โชว์กำไร 9 เดือนแรกโต 14.22%

GFC ท็อปฟอร์ม โชว์กำไร 9 เดือนแรกโต 14.22%

          กรุงเทพฯ – บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ “GFC” โชว์งบไตรมาส 9 เดือนแรกกำไร 62.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.22% (YoY) กวาดรายได้จากการให้บริการ 283.59  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.47% ขณะที่ไตรมาส3/67 รายได้จากการให้บริการแตะ 92.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.92%           นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) “GFC” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 283.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.17 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.47 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) 9 เดือนของปี 2566 ที่มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 254.42 ล้านบาท สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ผลดำเนินการเติบโต เนื่องจากจำนวนผู้มีบุตรยากที่เข้ามาทำการรักษาในช่วง 3 เดือนแรกของปีมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นอานิสงส์จากความต้องการมีบุตรในปีมังกร ขณะที่จำนวนรอบของการเก็บไข่สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2567 เพิ่มขึ้นจำนวน 28 รอบ หรือคิดเป็น 4.15% (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 62.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.22 (YoY) ส่วนอัตรากำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนแรก เท่ากับร้อยละ 22.12 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.53 (YoY)           ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2567 มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 92.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.92 (YoY) ทั้งนี้เป็นผลมาจากจำนวนผู้เข้ารับบริการรักษาภาวะ              ผู้มีบุตรยากทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับบริษัทฯรับรู้รายได้จากบริษัท จีเอฟซี อุบล จำกัด (GFC Ubon) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่เปิดดำเนินการให้การรักษาผู้มีบุตรยากในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 10.54 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.83 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ที่มีรายได้จากการให้บริการ 82.11 ล้านบาท เนื่องมาจากจำนวนรอบของการเก็บไข่ เพิ่มขึ้น 29 รอบ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.29 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการทำการตลาดในช่องทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่อยู่ที่ 16.52 ล้านบาท           “ในไตรมาส 3 ตลาดรักษาผู้มีบุตรยากยังคงมีการเติบโต พร้อมทั้งยังมีการขยายพื้นที่การให้บริการ โดยเริ่มเปิดให้บริการสาขา จีเอฟซี อุบล ในส่วนการให้คำปรึกษาเบื้องต้น และการทำแผนการตลาดที่เข้มแข็ง รวมถึงการดูแลและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้รับบริการ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรักษาความพึงพอใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงผลการดำเนินงาน ในไตรมาส 3/2567 ที่มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 12.82% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า”           สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะยังคงรักษาระดับรายได้จากการให้บริการได้อย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับจากการขยายพื้นที่การให้บริการมากขึ้นจากการเปิดให้บริการสาขา จีเอฟซี อุบล ทั้งให้คำปรึกษาภาวะผู้มีบุตรยาก การรับฝากครรภ์ และการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI และได้ให้บริการการรักษาแบบเต็มรูปแบบ ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2567 ประกอบกับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ และดึงดูดลูกค้ารายใหม่เข้าสู่ระบบ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ภาพรวมของผลการดำเนินในช่วงโค้งสุดท้ายมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง           อย่างไรก็ตาม ภาพรวมอุตสาหกรรมการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด และปัจจัยทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น อายุเฉลี่ยของการมีบุตรที่สูงขึ้น, ความสนใจในเรื่องสุขภาพการเจริญพันธุ์และการขยายตัวของการรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วย เจริญพันธุ์(Assisted Reproductive Technology: ART) เช่น การใช้AI ในการคัดเลือกตัวอ่อนที่ดีที่สุด (embryo selection) รวมถึงการพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุน ให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต รวมถึงการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในส่วนของเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะการรักษาภาวะมีบุตรยาก ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวแปรที่ส่งผลให้ความต้องการบริการทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น [PR News]

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

GFC ชูความพร้อมคลินิก และเทรนด์ผู้หญิงยุคใหม่นิยม “ฝากไข่”

GFC ชูความพร้อมคลินิก และเทรนด์ผู้หญิงยุคใหม่นิยม “ฝากไข่”

           นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการให้บริการผู้เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากในประเทศเป็นหลักควบคู่กับการขยายฐานกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เพื่อสอดรับการแผนการขับเคลื่อนธุรกิจของ GFC เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต            โดยล่าสุด บริษัทฯ ให้การต้อนรับนักวิเคราะห์และนักลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งพาเยี่ยมชมสาขา GFC พระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งคาดว่าเตรียมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ สำหรับโครงการสาขาดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่จะยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากอย่างครอบคลุม สอดรับกับการเตรียมก้าวสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในอนาคต เนื่องจากมีห้องวิจัยและห้องปฏิบัติการสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ห้องประชุมสัมมนาวิชาการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอบรมนักเทคนิคการแพทย์ภายในของกลุ่มบริษัท (In-house training) เพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ชูนวัตกรรม การนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ PGT-A Plus มาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจ ความผิดปกติของพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนการฝังตัวเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรองหาตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์และสามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จ (Success Rate) ในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น            ขณะที่สาขาอุบลราชธานี ล่าสุดได้มีการเปิดให้บริการแล้วบางส่วน และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ครบทุกการรักษาภายในเร็วๆ นี้ โดยสาขาดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้ารับการรักษาได้ครอบคลุม ในพื้นอุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากในโซนพื้นที่ดังกล่าวมีอัตราผู้เข้ารับคำปรึกษาผู้มีบุตรยากเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเชื่อว่าจะสามารถขยายฐานและเพิ่มโอกาสการเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่สูงขึ้นในอนาคต            อย่างไรก็ตาม ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธ์ุที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก ตั้งแต่การรับบริการตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี IUI, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การฝากไข่ (Egg Freezing) และการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน NGS สามารถตอบโจทย์ผู้เข้ารับการรักษา ผู้มีบุตรยากทั้งคนไทยและต่างชาติได้อย่างครอบคลุม            ขณะเดียวกัน นายกรพัส ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เทรนด์ผู้หญิงยุคปัจจุบัน เริ่มให้ความสำคัญในการ ฝากไข่เพิ่มมากขึ้น ส่งให้บริษัทฯ เร่งวางกลยุทธ์เจาะตลาดบริการฝากไข่อย่างต่อเนื่อง เพราะการฝากไข่ ถือเป็นหนึ่งในเทคนิคการแพทย์ในการเจริญพันธุ์ สำหรับการวางแผนภายใต้การสร้างหลักประกันเพื่อเพิ่มโอกาสการมีลูกในอนาคต ดังนั้นบริษัทฯ เชื่อว่า ธุรกิจฝากไข่ จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GFC ได้เพิ่มขึ้นในอนาคต [PR News]

[ภาพข่าว] GFC WE CARE มอบถุงยังชีพ

[ภาพข่าว] GFC WE CARE มอบถุงยังชีพ

          นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยทีมงาน บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC (Genesis Fertility Center) ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก พร้อมยืนเคียงข้างสังคมให้ความช่วยเหลือเสมอทุกด้าน ล่าสุด GFC WE CARE ร่วมกันจัดชุดถุงยังชีพยา และเวชภัณฑ์เด็ก จำนวน 500 ชุด ให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม มอบให้กับทางองค์กรทำดี (บุ๋ม ปนันดา) โดยทางองค์กรได้ส่งตัวแทนมารับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม เพื่อแบ่งเบาความทุกข์ยากให้กับผู้ประสบภัยในลำดับต่อไป สำหรับโครงการ CSR เพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ “GFC WE CARE” ทาง GFC ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอด ทั้งมอบเงินสนับสนุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ หรือบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อสนับสนุนมูลนิธิต่างๆ เพราะนี่คือหนึ่งในปณิธานที่บริษัท ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการทำกิจกรรม และช่วยเหลือกลับคืนสู่สังคมไทย

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011