#ESG


RS มุ่ง Sustainable Life Enriching  ใช้ Entertainmerce โตยั่งยืน

RS มุ่ง Sustainable Life Enriching ใช้ Entertainmerce โตยั่งยืน

          บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป "RS" ในฐานะองค์กรเอกชนชั้นนำที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขผ่านงานบันเทิง สินค้าและบริการเพื่อสุขภาพอย่างครบวงจรให้แก่ผู้บริโภคและสัตว์เลี้ยง ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ซึ่งนอกจากสร้างการเติบโตทางธุรกิจ ยังให้ความสำคัญกับการทำงานด้านความยั่งยืนโดยใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบายขององค์การสหประชาชาติ ภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social and Governance) ซึ่งกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจของธุรกิจในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและยั่งยืนภายใต้แนวคิด Sustainable Life Enriching  ซึ่งมาจากความเชี่ยวชาญทางธุรกิจและประสบการณ์ของพนักงานและผู้บริหาร โดยเน้นการดำเนินการอย่างยั่งยืน ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ เสริมสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Enhance Health and Wellbeing) ที่อาร์เอส กรุ๊ป เราเชื่อว่าทุกชีวิตมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้องค์กรเติบโต จึงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนและสัตว์เลี้ยงให้มีความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดี (Consumer Health and safety) ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพกายและใจ ด้วยมาตรฐานและนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับระดับโลก โดย สุขภาพคน มีการสร้างสรรค์และส่งมอบผลิตภัณฑ์นวัตกรรม (Innovation Development) ด้านสุขภาพที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมด้วยบริการที่ไม่เพียงแต่ดูแลเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังช่วยสร้างความรื่นรมย์ต่อจิตใจอีกด้วย ด้าน สุขภาพสัตว์ ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงในฐานะสมาชิกสำคัญของครอบครัว ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีชีวิตที่มีความสุข แข็งแรง และได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในทุกช่วงวัย สนับสนุนการลงทุนด้านสังคม (Contribute to Social Investment) อาร์เอส กรุ๊ป พร้อมที่จะแบ่งปันความบันเทิง ทรัพยากร และความเชี่ยวชาญจากบุคลากรที่หลากหลาย ด้วยการส่งมอบโอกาสและสนับสนุนความเท่าเทียมในสังคม มุ่งสร้างความสุขที่ยั่งยืน ผ่านการต่อยอดความรู้และเพิ่มทักษะในการทำงาน เพื่อนำไปปรับใช้ในโลกยุคปัจจุบัน ผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ โครงการ RS Have A Seat เป็นโครงการที่แบ่งปันพื้นที่พิเศษในกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ของ อาร์เอส กรุ๊ป ให้กับกลุ่มเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัย หรือผู้พิการ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบ ช่วยเติมเต็มความสุข รอยยิ้ม และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต (Social Inclusion) สำหรับปีนี้ ได้มอบสิทธิพิเศษให้กับ สมาชิกกลุ่มจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา ร่วมสนุกในคอนเสิร์ต “RS Meeting Concert 2024 Dance Marathon 2 ยกกำลัง...เต้น จำนวน 30 คน, ผู้พิการและผู้ช่วยพิการ จากโครงการกาลพลิก จำนวน 50 คน ร่วมชมวาไรตี้ซีรีส์คอนเสิร์ต “ยัยตัวร้ายกับนายหัวโจก” และล่าสุด ทีมพนักงานกวาด จากสำนักเขตจตุจักร จำนวน 40 คน เข้าร่วมชมคอนเสิร์ต อำพลฟูดส์ presents DAN - BEAM DREAM 2 BE CONCERT 21st CENTURY DADDY’S CLUB โครงการ RS Young Blood อาร์เอส กรุ๊ป แบ่งปันความเชี่ยวชาญขององค์กร เปิดโอกาสให้เยาวชนเข้ามาศึกษาดูงาน และเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เพื่อเสริมสร้างทักษะและแรงบันดาลใจในการก้าวสู่เส้นทางอาชีพในอนาคต (People Development) ไม่ว่าจะเป็นการลงนาม MOU จับมือ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ เปิดหลักสูตร “Entertainmerce”, การเปิดบ้านต้อนรับคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่สำนักงานวิทยทรัพยากรและสถานีวิทยุจุฬา Chula Radio, เปิดสตูดิโอ COOLfahrenheit และช่อง 8 ให้นิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ สัมผัสประสบการณ์จริง เป็นต้น RS Nearby ช่วยชุมชนบอกต่อของดี โครงการส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนย่านจตุจักรในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยย่านจตุจักร (Local Economic Development) จากการเป็นสื่อกลางในการโปรโมตของดีในชุมชนผ่านสื่อต่างๆ ของอาร์เอส กรุ๊ป ทั้งทางสื่อโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ และการนำเสนอคอนเทนต์ผ่านรายการปากท้องต้องรู้ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 รวมถึงการประชาสัมพันธ์ในช่วงต่างๆ ของสถานีเพลง COOLfahrenheit ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับร้านค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพในชุมชนให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย เขตจตุจักร กิจกรรม People Development ที่มุ่งมั่นพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรในองค์กร ด้วยการเพิ่มทักษะและความรู้ใหม่ๆ ผ่าน RS Learning Center พร้อมกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถเติบโตและก้าวหน้าไปพร้อมกับองค์กร มีทั้งกิจกรรมเวิร์คช็อป “RS Healthy Mind for Healthy Engagement สร้างภูมิคุ้มกันจิตใจ, กิจกรรมเติมเต็มความรู้ด้านความยั่งยืน RS Group Sustainability Training สร้างการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม (Protect our Planet) อาร์เอส กรุ๊ป เชื่อว่าการสร้างโลกที่ยั่งยืนจะนำไปสู่อนาคตที่สดใส และส่งผลดีต่อธุรกิจและสังคม เราจึงมุ่งสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่โลกใบนี้ (Environmental Preservation) โดยผลักดันให้องค์กรลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง และลดสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 จึงตั้งเป้าดำเนินธุรกิจตามแนวปฏิบัติ RS Net Zero และตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การลดการใช้พลังงานและการจัดการคัดแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการพัฒนากระบวนการธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและลดผลกระทบต่อโลกในระยะยาว Low Carbon Event สร้างสรรค์ มิวสิคเฟสติวัลคาร์บอนต่ำ ที่มุ่งเน้นการจัดระเบียบการแยกขยะภายในงาน สนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแยกขยะเพื่อส่งเข้าสู่ระบบจัดการอย่างถูกวิธี และลดขยะในงานไม่ให้เกิดปัญหากับชุมชนหรือสิ่งแวดล้อม ปราศจากการฝั่งกลบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี พ.ศ.2567 มีการจัดเทศกาลดนตรี COOL Summer Fest 2024 ณ ชายหาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จัดการขยะรวม 1,187 กิโลกรัม และเทศกาลดนตรี COOL Windy Fest 2024 จัดการขยะรวม 894 กิโลกรัม RS Green Army การมีส่วนร่วมในการลดการใช้พลังงานและลดขยะในองค์กร โดยพนักงานทุกคนยังเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ และเชิญชวนให้ทุกคนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน อาทิ ความร่วมมือลดใช้พลังงานในองค์กร, กิจกรรม #ฮาวทูทิ้ง สะสมฝาขวดน้ำเพื่อส่งเข้าสู่ระบบรีไซเคิล โดยปีนี้สามารถรวบรวมฝาขวดน้ำได้มากถึง 70 กิโลกรัม Green Packaging เป็นการสร้างมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจคอมเมิร์ซที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญในการผลิตสินค้าที่ปราศจากสารตกค้างที่อันตราย และคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแบรนด์ vitanature+ ได้ปรับบรรจุภัณฑ์มาเป็น PCR (Post-Consumer Recycled Plastic), Hato Pet Wellness เลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบ รีฟิลทุกสาขาเพื่อลดขยะ Contribution คืนชีพขวดพลาสติก PET1 จากขยะสร้างสรรค์ใหม่ให้กลายเป็นกระเป๋าจากเส้นใย รีไซเคิล โดยนำรายได้ทั้งหมดไปสมทบทุนสนับสนุนการดูแลสัตว์ทะเลหายากและระบบนิเวศ ร่วมมือกับคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมกว่า 300,000 บาท โดยทำต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว           ทั้งนี้ อาร์เอส กรุ๊ป พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ด้วยความมุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญของแต่ละธุรกิจในเครือ ทั้งการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก (Inspire) กับทุกธุรกิจ สร้างการป้องกันและผลกระทบเชิงลบ (Prevent) ด้วยสินค้าและบริการ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างองค์กรกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Connect) และการสร้างโอกาสและการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม (Access) มุ่งสู่การเป็น Sustainable Life Enriching ที่พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนรวมถึงสัตว์เลี้ยงผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติอย่างยั่งยืน           ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ อาร์เอส กรุ๊ป ได้ทาง www.rs.co.th และ https://www.facebook.com/RSGROUPOFFICIAL

ส่องผลประเมิน SET ESG Ratings ประจำปี 2567

ส่องผลประเมิน SET ESG Ratings ประจำปี 2567

           หุ้นวิชั่น - ด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมที่นับวันจะรุนแรงขึ้น เรื่อง “ความยั่งยืน” กลายเป็นกติกาที่กำหนดให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบหรือทำธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG หรือสิ่งแวดล้อม (Environment: E) สังคม (Social: S) และบรรษัทภิบาล (Governance: G) ในแวดวงการเงินการลงทุน ก็ใช้ ‘ข้อมูลการดำเนินงาน ESG’ เป็นตัวตัดสินว่าบริษัทไหนทำเรื่อง ESG ได้ดีบ้าง ซึ่งทั่วโลกมีผู้ประเมินและจัดอันดับเรตติ้งด้า น ESG มากมาย สำหรับประเทศไทย มีหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ที่คัดบริษัทตัวท็อปด้าน ESG จนมีนักลงทุนนำไปใช้เป็นเครื่องมือประกอบในการตัดสินใจลงทุน SET ESG Ratings คืออะไร หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings คือ หุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคัดกรองมาแล้วว่าดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล โดยจะประกาศผลในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี บริษัทที่จะได้อยู่ในทำเนียบหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ต้องผ่านเกณฑ์คัดกรองถึง 3 ด่าน ด่านแรก คือ เกณฑ์คัดกรองเบื้องต้น เช่น ไม่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ไม่ถูกขึ้น SP จากการส่งงบล่าช้าไม่ถูกขึ้นเครื่องหมาย CB, CS, CC, CF เป็นต้น ด่านที่ 2 คือ เกณฑ์คะแนนจากแบบประเมิน โดยบริษัทต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 50% ในแต่ละมิติ E S G ด่านที่ 3 คือ เกณฑ์คุณสมบัติของบริษัท ซึ่งจะพิจารณาตลอดกระบวนการ หากไม่เป็นไปตามคุณสมบัติจะถูกคัดออกจาก SET ESG Ratings ระหว่างปีได้ เช่น ไม่เป็นบริษัทที่ส่งงบการเงินล่าช้า ไม่ถูกทางการตัดสินความผิดในประเด็นด้าน ESG และต้องมีกำไรสุทธิอย่างน้อย 3 ใน 5 ปี เป็นต้น บริษัทที่สามารถผ่านด่านทั้งหมดนี้จึงจะได้เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ซึ่งแบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่ AAA (90-100 คะแนน) AA (80-89 คะแนน) A (65-79 คะแนน) และ BBB (50-64 คะแนน) หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ถือเป็นตัวช่วยสร้างความน่าสนใจให้บริษัทในสายตาของนักลงทุน ทำให้บริษัทเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับนักลงทุนใช้เปรียบเทียบการดำเนินงาน ESG ของแต่ละบริษัท เพื่อประกอบการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุน สะท้อนได้จากเม็ดเงินลงทุนด้าน ESG ในไทยกว่า 1.6 แสนล้านบาทที่นำ SET ESG Ratings ไปใช้เป็นเกณฑ์หนึ่งในการลงทุน เช่น กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท และกองทุน ThaiESG กว่า 51 กองทุน มูลค่ารวมราว 14,545 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567) หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 ทำสถิตินิวไฮถึง 228 บริษัท!  หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 มีด้วยกันทั้งสิ้น 228 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 37 บริษัท! นับว่าน่าตื่นเต้นเป็นนิวไฮ ให้นักลงทุนได้จับจังหวะลงทุนใหม่ ๆ ด้วยตัวเลือกใหม่ สอดคล้องกับจำนวนบริษัทที่สมัครใจเข้าร่วมการประเมินเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแตะ 320 บริษัทเป็นครั้งแรกในปีนี้ หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ทั้งหมดนี้แบ่งเป็นระดับ AAA 56 บริษัท ระดับ AA 80 บริษัท ระดับ A 71 บริษัท และระดับ BBB 21 บริษัท ซึ่งน่าสนใจมากว่า ระดับที่มีจำนวนบริษัทเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือกลุ่ม AAA จากเดิมมีเพียง 33 บริษัทกลายเป็น 56บริษัทในปีนี้ นอกจากนี้ หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ยังกระจายอยู่ในทั้ง 8 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยมีกลุ่มธุรกิจบริการมากที่สุดถึง 43 บริษัท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ที่กลุ่มละ 34 บริษัท มีบริษัทที่สมัครเข้าร่วมประเมินเป็นปีแรกและได้ติดอยู่ในทำเนียบ SET ESG Ratings เลย 55 บริษัท สะท้อนว่าบริษัทจดทะเบียนไทยกำลังเร่งปรับตัวและยกระดับ ESG อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ทั่วโลกที่เริ่มกลายเป็นกฎเกณฑ์ และนักลงทุนกำลังมองหาเพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ยั่งยืนอย่างไร ส่องจุดแข็งหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings พบว่า ทุกบริษัทกำลังเร่งปรับตัวใน 3 เรื่องสำคัญ ดังนี้ วิเคราะห์ประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ (Materiality) แบบชัด ๆ ทุกบริษัทเน้นเปิดเผยกระบวนการวิเคราะห์และระบุประเด็นที่เป็นสาระสำคัญด้านความยั่งยืน โดยเทียบประเด็นกับเป้าหมาย Sustainable Development Goals (SDGs) พร้อมระบุว่าแต่ละประเด็นมีผลกระทบอะไรต่อธุรกิจ และธุรกิจวางกลยุทธ์หรือแผนธุรกิจมาจัดการกับประเด็นเหล่านั้นอย่างไร โดยมักตั้งเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน ลูกค้ายังสำคัญเสมอ ทุกบริษัทเน้นเรื่องการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยกำหนดเป้าหมายในการรักษาและพัฒนาความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นำผลการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าไปพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงกระบวนการทำงานของบริษัท มุ่งสร้างการเติบโตในระยะยาว เน้นหัวใจสีเขียว บริษัทส่วนใหญ่เน้นเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมักกำหนดและเปิดเผยเป้าหมายในการลดการใช้ทรัพยากร เช่น การใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำ และการลดการปล่อยของเสีย โดยดำเนินโครงการที่ให้พนักงานมีส่วนร่วม รวมถึงจัดตั้งหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบงานด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ดี บริษัทจดทะเบียนยังควรพัฒนาเพิ่มเติมเรื่องการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อลดความเสี่ยงจากการจัดหาวัตถุดิบหรือบริการที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ การสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชน มองหาตัวช่วยในการลงทุน มองหาหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบในการตัดสินใจลงทุน โดยอาจนำไปใช้เป็นตัวสกรีนหุ้นเบื้องต้นควบคู่กับปัจจัยพื้นฐานของหุ้นที่สนใจ หรือปรับน้ำหนักการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อบริหารความเสี่ยงหรือสร้างโอกาสในการหาผลตอบแทนในระยะยาว ดูผลประเมิน SET ESG Ratings ปี 2567 ได้ที่ https://setsustainability.com//libraries/1258/item/set-esg-ratings

สเตคอน กรุ๊ป คว้า SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 67

สเตคอน กรุ๊ป คว้า SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 67

          บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในระดับ AA ประจำปี 2567 ในกลุ่มก่อสร้าง โดยเป็น 1 ใน 228 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประเมินและจัดอันดับจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนการทำงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องของ STECON ในด้าน ESG ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล           นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ STECON ได้รับคัดเลือกเข้าสู่หุ้นยั่งยืน “SET ESG Rating” โดยได้รับการจัดอันดับในระดับ “Rating AA” นับเป็นความสำเร็จและภาคภูมิใจของบริษัทฯ ซึ่งตระหนักถึงความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยบริษัทกำหนดนโยบายและเป้าหมายหลักด้านการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามหลัก ESG (Environmental, Social and Governance) ให้ความสำคัญกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจแบบเติบโตไปพร้อมกันทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability Development ที่ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านบรรษัทภิบาลเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศไทย สร้างคุณค่าแก่สังคมไทยในทุกภาคส่วน           ทั้งนี้การประเมินหุ้นยั่งยืนหรือ SET ESG Ratings นี้ ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุน ใช้ควบคู่กับข้อมูลอื่น ๆ ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) จะยิ่งส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ           STECON มีความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตทางธุรกิจ นำหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ มีเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม และจากนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป [PR News]

UAC คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ปี 2567 ระดับ “A”

UAC คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ปี 2567 ระดับ “A”

          นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ “UAC” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 228 บริษัทจดทะเบียน ที่ได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ “ระดับ A” โดยรางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและยกระดับการดำเนินกิจการเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย ดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิดของการคำนึงถึง Environmental, Social and Governance หรือ ESG ผ่านกระบวนการทางธุรกิจในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง  เพื่อให้เป็นองค์กรแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) สอดรับวิสัยทัศน์ความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ประกอบการด้านพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี และสาธารณูปโภค ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์นโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมธุรกิจพลังงาน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน (For Sustainable Future) และการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) [PR News]

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

SSP คว้า ESG Ratings 2024 ระดับ “AA”

SSP คว้า ESG Ratings 2024 ระดับ “AA”

           บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ภายใต้การบริหารของ CEO คนเก่ง “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" ไม่ทำให้ผิดหวัง ล่าสุดได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ระดับ “AA” (คะแนนรวม 80-89) ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร (Resources) จากการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ต่อเนื่องจากรางวัล CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” มาก่อนหน้านี้ นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของบริษัทฯเป็นอย่างมาก และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยกระดับการดำเนินงานภายใต้กรอบ ESG ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตขององค์กรในระยะยาว มุ่งเน้นการลงทุนในพลังงานสีเขียวทุกรูปแบบ ตอกย้ำความพร้อมด้านความยั่งยืน เพื่อการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ขอปรบมือดังๆ ให้เลยคร้าบบบ!! [PR News]

ก.ล.ต. สนับสนุนกองทุน Thai ESG เพิ่มทางเลือกลงทุน พร้อมลดหย่อนภาษีได้

ก.ล.ต. สนับสนุนกองทุน Thai ESG เพิ่มทางเลือกลงทุน พร้อมลดหย่อนภาษีได้

          หุ้นวิชั่น - นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “ตามที่คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 มีมติเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศ สำหรับผู้มีเงินได้ที่ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund: Thai ESG) สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2567 – 2569 ได้ เพิ่มจาก 100,000 บาทเป็นไม่เกิน 300,000 บาทต่อปีต่อคน ล่าสุดกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกฎกระทรวง โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567           ทั้งนี้ กองทุน ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนซึ่งนอกจากจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการลงทุนเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้ด้วย ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงประกาศเพื่อขยายขอบเขตการลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน รวม 5 ฉบับ โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ซึ่งมีผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สามารถจัดตั้งหรือแก้ไขโครงการจัดการเพื่อลงทุนตามขอบเขตการลงทุนใหม่ที่กว้างขึ้นได้”

ตลท. ชู ESG มุ่งความยั่งยืน  ย้ำบรรษัทภิบาล-จริยธรรมผู้นำ

ตลท. ชู ESG มุ่งความยั่งยืน ย้ำบรรษัทภิบาล-จริยธรรมผู้นำ

          ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน SET ESG Professionals Forum 2024 เพื่อเป็นเวทีระดมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากมุมมองของผู้ขับเคลื่อน ESG ในองค์กรอย่างเครือข่ายสมาชิก SET ESG Experts Pool ซึ่งผนึกพลังร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ครั้งนี้เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการสู่ระดับสากล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของตลาดทุนไทยในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืนและมีบรรษัทภิบาล สอดรับการดำเนินงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 โดยในปัจจุบันท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว           บรรษัทภิบาลที่ดีถือเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นและการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมี "ผู้นำ" ที่มีวิสัยทัศน์และจริยธรรม จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างองค์กรที่ยั่งยืน ผู้นำยุคใหม่ต้องสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต (Integrity) สร้าง Legacy of Positive Impact และสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กร คู่ค้า และสังคมในวงกว้าง นอกจากนี้ การมีระบบการกำกับดูแลที่ดียังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดความเสี่ยงและความขัดแย้ง รวมถึงส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกในองค์กร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าองค์กรจะดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส มั่นคงและเติบโตในภาวะวิกฤตความเชื่อมั่นนี้           ไฮไลท์สำคัญของการจัดงานครั้งนี้ เริ่มด้วยมุมมองเชิงลึกจาก ดร. ดิเรก เกศวการุณย์ Managing Partner จาก Bain & Company Thailand หัวข้อ “Innovative Corporate Governance: Strategies for Long-term Value Creation” ถึงแนวทางการปรับโครงสร้างการกำกับดูแลให้ยืดหยุ่นและตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ พร้อมเสนอกรณีศึกษาองค์กรชั้นนำระดับโลก ร่วมด้วยคุณวารุณี ปรีดานนท์ ประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชีด้านการวางระบบบัญชี สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่นำเสนอ “Fraud Insights 2024” ผลสำรวจและสถิติการทุจริตในองค์กรธุรกิจในระดับสากล รวมถึงบริบทประเทศไทย และย้ำความสำคัญของการสร้างระบบป้องกันการทุจริตผ่านการกำกับดูแลและการเสริมสร้างระบบควบคุมภายในให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และปิดท้ายด้วยเสวนา “Executive Influence: How Leaders 4.0 Shape           Ethical Cultures” ร่วมด้วยคุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ,ดร. เสรี นนทสูติ กรรมการสหประชาชาติ ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และกรรมการอิสระ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ ดร. ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ ViaLink และสถาบันอนาคตไทยศึกษา ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างรากฐานองค์กรที่แข็งแกร่งผ่านภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม (Ethical Leadership) โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ต้องผสานการใช้เทคโนโลยีและ AI เข้ากับการรักษาคุณค่าด้านจริยธรรม พร้อมชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืนผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยจริยธรรม การบูรณาการมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและจริยธรรมสากลเข้ากับบริบทไทย และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการยกระดับความโปร่งใสและความรับผิดชอบขององค์กร นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทของผู้นำยุคใหม่ที่ต้องมีกรอบการตัดสินใจที่คำนึงถึงจริยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดทุนไทย           ผู้ประกอบการและผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดงานสัมมนาและข่าวสารด้านความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทาง Website: SETSustainability.com และ LINE Official: @SETsustainability [PR News]

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

ESG เพิ่มมูลค่าหุ้นไทยอย่างไร? [จัดเต็มการลงทุน]

ESG เพิ่มมูลค่าหุ้นไทยอย่างไร? [จัดเต็มการลงทุน]

https://www.youtube.com/watch?v=k-ByVxrL4cM ติดตามรายการ "จัดเต็มการลงทุน" ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 9.00-9.30 น. ทาง ททบ.5

[PR News] STECH ชูโรงงานคอนกรีตอัดแรงเด่น ESG

[PR News] STECH ชูโรงงานคอนกรีตอัดแรงเด่น ESG

           STECH ตอกย้ำ โรงงานคอนกรีตที่โดดเด่นเรื่อง ESG หนุนต้นแบบธุรกิจคอนกรีตอัดแรง Sustainability ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมี “ลวดรักษ์โลก” มุ่งเน้นใช้ “ปูนลดโลกร้อน” เพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน มุ่งสู่ธุรกิจสีเขียวเพื่อความยั่งยืน            นายเจษฎ์กรณ์ มงคลศรีสวัสดิ กรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและการขาย บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง ซึ่งถือเป็นธุรกิจต้นน้ำของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่สามารถสร้างการเติบโตยั่งยืนควบคู่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือตามหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงภายใต้เครื่องหมายการค้า “STEC” ได้แก่ เสาเข็ม เสาไฟฟ้า เป็นต้น รวมทั้งให้บริการรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท            ปัจจุบัน STECH มีโรงงานคอนกรีตอัดแรงจำนวน 10 แห่ง ครอบคลุมหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ได้วางแผนใช้พลังงานสะอาดควบคู่กับขับเคลื่อนแนวทาง ESG มีการติดโซลาร์รูฟที่โรงงานบริษัทฯ แล้วจำนวน 11 แห่ง ได้แก่ สำนักงานใหญ่ (กรุงเทพมหานคร) และโรงงานที่จังหวัดลำพูน สุโขทัย ขอนแก่น อุบลราชธานี บุรีรัมย์ นครราชสีมา และที่สระบุรี 2 แห่ง (อ.ดอนพุด และ อ.พระพุทธบาท) รวมทั้ง ที่ชลบุรี 2 แห่ง            นอกจากนี้ STECH นำร่องผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับงานก่อสร้างทุกชนิด ได้แก่ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ “ปูนลดโลกร้อน” หรือ ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ซึ่งเป็นปูนซีเมนต์ที่ก่อตัวและแข็งตัวเนื่องจากการทำปฏิกริยากับน้ำ ซึ่งช่วยลดก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยลดโลกร้อน เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้าคอนกรีต รวมทั้ง การใช้  “ลวดรักษ์โลก” ภายใต้ บริษัท สยามสตีลไวร์ จำกัด (SSW) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ผลิตลวดที่ไม่ใช้น้ำกรดในการทำความสะอาด โดยนำนวัตกรรมและองค์ความรู้ มาเพิ่มคุณสมบัติลวดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการลูกค้า ด้วยโรงงานผลิตลวดเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความทันสมัยที่สุดในขณะนี้ สนับสนุนงานโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดย STECH ขานรับเรื่องการสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ให้องค์กร และเป็นนโยบายหลักที่บริษัทจะเดินหน้าต่อไปในอนาคต            จากความตระหนักรู้ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงมีความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงการให้บริการตามเวลาที่ลูกค้ากำหนด โดยใช้ระบบบริหารงาน คุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001 ตลอดจนมีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ STECH เป็นโรงงานคอนกรีตอัดแรงที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนได้ (Sustainable Development Goals: SDGs)