หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มอง คงมุมมองบวกต่อ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) คาดหวัง Upside ต่อประมาณการปี 2567-68** ฝ่ายวิเคราะห์เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์และมีมุมมองเป็นบวก สรุปประเด็นสำคัญดังนี้
► ผู้บริหารให้แนวโน้มธุรกิจโรงแรมใน 4Q67 เติบโตดี YoY สำหรับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ (เปิดปลาย 3Q67) ปัจจุบันอัตราการเข้าพัก (Occ. Rate) อยู่ที่ราว 60% และ ADR เฉลี่ยที่ 10,000 บาท/คืน สะท้อนการ Ramp-up ที่ทำได้ดีสำหรับโรงแรมใหม่ ด้านค่าใช้จ่าย Pre-Operating จะรับรู้ใน 4Q67 อีกราว 20 ล้านบาท เพราะค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ถูกรับรู้ไปมากแล้วใน 3Q67 (~80 ล้านบาท)
► ต้นเดือน พ.ย. 67 บริษัทลงนามกับ Strategic Partner “Greenhouse” บริษัทชั้นนำด้านอาหารจากญี่ปุ่นที่เข้าลงทุน 20% ใน Epicure Catering (Dusit Foods ถืออยู่ 70%) ซึ่งสร้างโอกาสการเติบโตในกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น โรงพยาบาล และสายการบิน ต่อยอดจากปัจจุบันที่ Epicure Catering ให้บริการในกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ
► กลางเดือน พ.ย. 67 บจ. วิมานสุริยา (บริษัทย่อย) ได้ส่งมอบ Bare Shell (โครงสร้างตึก) ของธุรกิจ Retail ให้กับ CPN เพื่อทำการตกแต่งภายใน คาดรายการดังกล่าวจะรับรู้เป็นกำไรในงบ 4Q67 ของ DUSIT ราว 250-300 ล้านบาท (คิดบนสมมติฐานรายได้การโอน Bare Shell ที่ 4,000 ล้านบาท, NPM ที่ 10% และ DUSIT ถือบริษัทย่อย 70%)
► บริษัทคงเป้ารายได้รวมปี 2567 เติบโต 18-20% YoY และ EBITDA Margin ที่ 14-15% ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการของเรา แบ่งตามธุรกิจดังนี้:
1) ธุรกิจโรงแรม: คงเป้าหมายรายได้ +18-20% YoY จากการเติบโตของ RevPar และการกลับมาเปิดให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
2) ธุรกิจการศึกษายังเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ เพื่อช่วยชดเชยผลขาดทุนช่วงเริ่มต้นของ The Food School
3) ธุรกิจอาหาร: คงเป้ารายได้ +20-25% YoY เติบโตเด่นจากธุรกิจ Catering และร้าน Bakery
4) ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ: การก่อสร้างส่วนที่เหลือของโครงการ Dusit Central Park (DCP) คืบหน้าตามแผน ตึก Office และ Retail คาดเปิดใน 3Q68 ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ Residence จะเริ่มปลายปี 2568
► โครงการ Residence ปัจจุบันขายไปแล้ว 83% คาดภายในสิ้นปี 2567 จะขายได้ตามเป้า 85% และเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ช่วง 4Q68-2Q69 โดยผู้บริหารคาดจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ครบทั้งโครงการภายใน 2H69 ซึ่งดีกว่าประมาณการของเราที่คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 2569 ที่ 85% ของทั้งโครงการ
► ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกหลังการประชุม แม้บริษัทจะคงเป้าการเติบโตของรายได้และแผนการเปิดโครงการ DCP ตามเดิม แต่เราเห็นปัจจัยหนุนเชิงบวกจาก:
1) กำไรจากการโอน Bare Shell ที่สูง +/- 300 ล้านบาท จะช่วยให้ 4Q67 มีโอกาสขาดทุนน้อยกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า เบื้องต้นคาดผลขาดทุนปกติระดับ 50-100 ล้านบาท (เดิมคาด 200 ล้านบาท)
2) ปัจจุบัน Occ. Rate และ ADR ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ใกล้เคียงกับสมมติฐานทั้งปี 2568 ของเรา แม้เพิ่งเปิดโรงแรม ซึ่งหาก Occ. Rate และ ADR ยังทรงตัวในระดับสูง และปรับตัวขึ้นได้ดีในปีหน้า จะเป็น Upside ต่อประมาณการในระยะถัดไป
ฝ่ายวิเคราะห์คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 คาดพลิกกลับมารายงานกำไรปกติในรอบ 7 ปี คาดกำไรปกติปี 2568-2569 ที่ 520 ล้านบาท และ 1,800 ล้านบาท (+244% YoY) ตามลำดับ การเติบโตหนุนจาก:1) การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว 2) ผลบวกของโครงการ DCP โดยเฉพาะใน 2H68 หลังผ่านช่วง Ramp-up โรงแรมใหม่ การเปิดโครงการ Retail, Office และการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ Residence ช่วงปลายปี
► คงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเหมาะสม 16.00 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันหุ้นซื้อขายบน PER68 ที่ 18 เท่าและ EV/EBITDA68 เพียง 7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม (ตารางที่ 1) เราประเมินว่าถูกเกินไปเทียบกับการ Turnaround ตลาดควร Re-rate Multiple สะท้อนการฟื้นตัวของผลประกอบการและการรับรู้รายได้รอบใหญ่จาก DCP ในระยะ 12 เดือนจากนี้
► ความเสี่ยง: นักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาด, เศรษฐกิจถดถอยรุนแรง, เปิดโครงการใหม่ล่าช้า, และการแข่งขันด้านราคา