ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#DHOUSE


APM ยื่นไฟลิ่ง หุ้นกู้ DHOUSE 120 ลบ. ดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี

APM ยื่นไฟลิ่ง หุ้นกู้ DHOUSE 120 ลบ. ดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี

             หุ้นวิชั่น - APM ยิ่นไฟลิ่ง DHOUSE ต่อ ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้นกู้มีประกัน ครั้งที่ 2/2568 ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 120 ล้านบาท หลักประกันทางธุรกิจมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.4 เท่า เพื่อเป็นเงินทุนในโรงงานผลิตชิ้นส่วนอาคารสำเร็จรูป เตรียมพัฒนาโครงการ UPark Residence พร้อมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ และ ชำระคืนหุ้นกู้ DHOUSE25NA คาดเสนอขายวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2568 และ คาดออกหุ้นกู้วันที่ 9 พฤษภาคม 2568              นายอรรถ เลิศรุ้งพร กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจการตลาดและการขาย บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในจังหวัดมหาสารคาม โดยยึดหลักการพัฒนารูปแบบโครงการที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า มีราคาเหมาะสม และ ให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนการให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพ              ปัจจุบันบริษัทมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล, โครงการแกรนด์ บิซ, โครงการพฤกภิรมย์ ศาลากลาง และ โครงการ U Park HOME อีกทั้งบริษัทมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่า ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพของจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ UPark Market และ UPark Residence              นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงธุรกิจร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมัน ในรูปแบบ DODO (Dealer Owned Dealer Operated) บริเวณถนนท่าขอนยาง - บ้านขี ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในชื่อ “ปตท.ยูพาร์ค ขามเรียง” ซึ่งเป็นธุรกิจที่นอกเหนือจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง และ กระจายความเสี่ยงในการดำเนินงานให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี              นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้เสี่ยงสูงมีประกันของบริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2568 ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570 และ ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายรวมกันเป็นมูลค่าไม่เกิน 120 ล้านบาท              สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวมีหลักประกันเป็นที่ดินในจำนวน 13 โฉนด รวมพื้นที่ 42 ไร่ 3 งาน 90.20 ตารางวา โดยผู้ออกหุ้นกู้จะต้องดำรงมูลค่าทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันรวมกันไม่ต่ำกว่า 1.4 เท่า ของมูลค่ารวมของหุ้นกู้ที่ยังมิได้ไถ่ถอนทั้งหมดตลอดอายุหุ้นกู้              นายสุริยา ธรรมธีระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM กล่าวถึงวัตถุประสงค์ สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโรงงานผลิตชิ้นส่วนอาคารสำเร็จรูป หรือ Prefab และ การพัฒนาโครงการ U-Park Residence รวมถึงการชำระคืนหุ้นกู้ DHOUSE25NA และเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ              ทั้งนี้ บริษัทยื่นแบบแสดงรายการต่อ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติจาก ก.ล.ต. คาดว่าจะกำหนดวันเสนอขายในช่วงระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2568 และ คาดว่าจะสามารถออกหุ้นกู้ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568              ด้านนายฐิติพัฒน์ ทวีสิน รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่าย Corporate Finance Solutions & REIT บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นกู้ DHOUSE ครั้งที่ 2/2568 เป็นการเสนอขายให้ให้แก่ กลุ่มผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ และ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

DHOUSE คืนหุ้นกู้เต็มจำนวน พร้อมดอกเบี้ย 120 ล้าน

DHOUSE คืนหุ้นกู้เต็มจำนวน พร้อมดอกเบี้ย 120 ล้าน

          DHOUSE ชำระคืนหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 มูลค่า 120 ล้านบาท เต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย ตามกำหนด สร้างความเชื่อมั่นการเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพ สอดรับไลฟ์สไตล์คนในพื้นที่ และ การขยายตัวของเมือง พร้อมสร้างผลการดำเนินงานการเติบโตตามเป้าหมาย           นายอรรถ เลิศรุ้งพร กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจการตลาดและการขาย บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการชำระหุ้นกู้ที่ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยงคงที่ร้อยละ 7.00 ต่อปี มูลค่า 120 ล้านบาท ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา           บริษัทได้ชำระหุ้นกู้เต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในฐานะ ผู้นำธุรกิจที่มีศักยภาพการดำเนินงาน สามารถสร้างการเติบโตของรายได้อย่างแข็งแกร่งและความสามารถในการทำกำไรที่ดี ทั้งในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และ ร้านค้าปลีกภายในสถานีบริการน้ำมัน           สำหรับการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ที่ผ่านมา บริษัทสามารถนำเงินไปใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ โดยนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการและโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้เติบโตยิ่งขึ้น           “บริษัทยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจผ่านการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ เพื่อสอดรับกับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยการขยายตัวของเศรษฐกิจและสาธารณูปโภค ส่งผลให้ประชากรที่ต้องการที่อยู่อาศัยมีปริมาณเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ด้วยจุดแข็งในการเป็นผู้พัฒนาโครงการที่มีความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เป็นอย่างดี           ทั้งนี้ บริษัทขอขอบคุณนักลงทุนที่ได้ให้การสนับสนุน ทั้งการนำเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว และ หุ้นกู้ชุดล่าสุดที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งเงินระดมทุนที่บริษัทได้รับจะเป็นการส่งเสริมศักยภาพการดำเนินงานของบริษัท เพื่อพัฒนาโครงการที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ไปพร้อมสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายอรรถ กล่าว [PR News]

DHOUSE รุกหนักค้าปลีก อสังหาฯสารคามฟื้นแรง

DHOUSE รุกหนักค้าปลีก อสังหาฯสารคามฟื้นแรง

           หุ้นวิชั่น - บิ๊กบอส DHOUSE "พงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร" ฉายภาพอสังหาฯสารคามฟื้น หลัง 9 เดือนปี 67 กวาดรายได้เฉียด 180 ล้านบาท เล็งผุดโปรเจ็กต์ใหม่ 200 ล้านบาท ปักธงรายได้โต 30-40% กางแผนขยายพื้นที่ร้านค้าปลีกทำเงิน คาดรับทรัพย์รายได้ประจำเพิ่ม 30 ล้านบาท ล่าสุดตั้ง DAOL GBS UOBKH PST ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/68 อัตราดอกเบี้ย 7.50% ต่อปี เสนอขาย 14-16 ม.ค. นี้            นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามเริ่มฟื้นตัวชัดเจน โดยจะเห็นจากผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 178.41 ล้านบาท ซึ่งเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และคาดว่ารายได้ทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 มีการเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสก่อนหน้า            สำหรับปี 2568 DHOUSE ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-40% จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการรับรู้รายได้ประจำจากสถานีบริการน้ำมันและร้านค้าปลีกภายในสถานีบริการน้ำมัน  “ปตท. ยูพาร์ค ขามเรียง” ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภายใต้การบริหารของบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล จำกัด โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในอัตรา 40:60            นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายรายได้ประจำด้วยการพัฒนาพื้นที่ร้านค้าปลีกในรูปแบบ ไนท์มาร์เก็ต โดยใช้พื้นที่ต่อจากสถานีบริการน้ำมันจำนวน 80 ไร่ สำหรับเฟสแรกจะใช้พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ และอยู่ระหว่างการเจรจากับร้านค้าและร้านอาหารแบรนด์อินเตอร์เพื่อนำมาเสริมความหลากหลายของพื้นที่บริการ            DHOUSE เตรียมขยายธุรกิจร้านค้าปลีกในรูปแบบไนท์มาร์เก็ต คาดความชัดเจนของแผนการพัฒนาจะเริ่มเห็นในไตรมาส 2/2568 และคาดว่าจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวแล้วเสร็จภายในปี 2569 พื้นที่ใหม่นี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้จากธุรกิจร้านค้าปลีกประมาณ 20-30 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มีรายได้ในกลุ่มนี้อยู่ที่ 150-170 ล้านบาท กลยุทธ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว            นายพงศ์พจน์ กล่าวต่อว่า DHOUSE วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2568 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ 20 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 3/2568 เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดมหาสารคามที่เริ่มฟื้นตัว            ปัจจุบัน DHOUSE มีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ เดอะ แกรนด์ คาแนล, แกรนด์ บิซ, พฤกภิรมย์ ศาลากลาง, และ U PARK HOME รวมมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท            นอกจากนี้ บริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ที่ 25 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนและรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพยายามควบคุมอัตราการปฏิเสธสินเชื่อไม่ให้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมียอดปฏิเสธสินเชื่อต่ำกว่า 10% กลยุทธ์ดังกล่าวสะท้อนความมั่นใจของบริษัทในการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค พร้อมเสริมความแข็งแกร่งในตลาดมหาสารคามอย่างต่อเนื่อง            ล่าสุด บริษัทแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เพื่อเสนอขายหุ้นกู้เสี่ยงสูงมีประกันของบริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2568 ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2570 และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 135 ล้านบาท โดยมีหลักประกันเป็นที่ดินในจำนวน 48 โฉนด รวมพื้นที่ 251 ไร่ 1 งาน 41.90 ตารางวา ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้จะต้องดำรงมูลค่าทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันรวมกันไม่ต่ำกว่า 1.4 เท่า ของมูลค่ารวมของหุ้นกู้ที่ยังมิได้ไถ่ถอนทั้งหมดตลอดอายุหุ้นกู้            สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อนำเงินระดมทุนที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ โครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล และ โครงการพฤกภิรมย์ ศาลากลาง โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ DHOUSE252A            การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นการเสนอขายให้แก่กลุ่มผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (Institutional and High Net Worth Investor: II&HNW) กำหนดวันจองซื้อระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2568 และ สามารถออกหุ้นกู้ในวันที่ 17 มกราคม 2568            สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2568 มีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมีธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ และ บริษัท เอ็มเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล ลอว์ ออฟฟิศ จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมาย รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

DHOUSE เดินหน้ารับรู้รายได้ต่อเนื่อง ปั๊มน้ำมันหนุนธุรกิจ

DHOUSE เดินหน้ารับรู้รายได้ต่อเนื่อง ปั๊มน้ำมันหนุนธุรกิจ

            หุ้นวิชั่น - DHOUSE เผยทิศทางธุรกิจโค้งสุดท้ายปี 2567 มุ่งเน้นรับรู้รายได้ต่อเนื่อง จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ สถานีบริการน้ำมัน-ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ในโครงการมิกซ์ยูส ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ด้านผลประกอบการ Turnaround พลิกทำกำไรสุทธิ 7.42 ล้านบาท พร้อมยอดขายรอโอนอสังหาริมทรัพย์ (Backlog) จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 25 ล้านบาท ชูจุดแข็งการเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับภูมิภาค ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมาย บริหารจัดการต้นทุนดีจากการถือครองที่ดินพร้อมพัฒนา พร้อมปัจจัยหนุนอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาคเติบโตจากเศรษฐกิจขยายตัว มั่นใจรายได้ปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมาย             นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 บริษัทมุ่งเน้นการรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการให้บริการสถานีบริการน้ำมัน และ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะมียอดใช้บริการมากขึ้นจากความต้องการเดินทางในช่วงเทศกาล             สำหรับสถานีบริการน้ำมัน “ปตท. ยูพาร์ค ขามเรียง” โดยการดำเนินงานของบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์   รีเทล จำกัด ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประกอบด้วยการให้บริการ 2 ส่วน ได้แก่ 1. สถานีบริการน้ำมัน ภายใต้แบรนด์ “ปตท.” ในรูปแบบ DODO (Dealer Owned Dealer Operated) และ 2. ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมัน โดยแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ คือ ร้านค้าที่กลุ่มบริษัทลงทุนและบริหารจัดการเอง จำนวน 2 ร้าน และ ให้เช่าพื้นที่ และเก็บค่าบริหารจัดการพื้นที่             ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 178.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 107.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65.53% โดยแบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 71.41 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 107 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรสุทธิที่ 7.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 149.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ มีเป้าหมายทั้งปี 2567 จะสามารถรักษาอัตราการทำกำไรไม่น้อยกว่าระดับ 8.50%             นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้ารับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) โครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 25 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากการดำเนินงาน แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 58% และ รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 39%             “บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยจุดแข็งการเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่ สามารถพัฒนาโครงการที่เรียบง่ายแต่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด มีราคาเหมาะสม ให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้าง ตลอดจนการให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพ อีกทั้งบริษัทมีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี จากการถือครองที่ดินที่พร้อมพัฒนาโครงการในอนาคต นอกจากนี้การขยายตัวของธุรกิจพลังงานยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง             สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียงยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการได้รับการสนับสนุนจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ และ การขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเพิ่มจำนวนประชากรในวัยทำงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท รวมถึงมาตรการภาครัฐในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยมีเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท และ จากแผนการดำเนินงานทั้งหมดทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ในปีนี้ ให้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายพงศ์พจน์ กล่าวเพิ่มเติม [PR News]

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

DHOUSE เล็งโครงการ 200ล. จับตากำไรในรอบ 3ปี

DHOUSE เล็งโครงการ 200ล. จับตากำไรในรอบ 3ปี

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 75.16 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากบริษัท 35.07 ล้านบาท และรายได้จากบริษัทย่อย 40.09 ล้านบาท มีรายได้รวม เพิ่มขึ้น 37.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  101.61% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีรายได้รวม 37.28 ล้านบาท            สำหรับงวดสะสมเก้าเดือน สิ้นสุดวัน ที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมเป็น 178.41 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากบริษัท 71.41 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของรายได้รวม และรายได้จากบริษัทย่อย 107 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของรายได้รวม มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 70.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 65.53% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีรายได้รวม 107.78 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้มีสาเหตุหลกัมาจากยอดขายของบริษัทและบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น            และ DHOUSE มีกำไรสุทธิ 11.90 ล้านบาทหรือคิดเป็นกำไรสุทธิ 16.95% แบ่งเป็น กำไรสุทธิของบริษัท 11.69 ล้านบาท และกำไรสุทธิของบริษัทย่อย 0.21 ล้านบาท มีพลิกกำไรสุทธิ 19.24 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 262.18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ขาดทุน 7.33 ล้านบาท            ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2567  มีกำไรสุทธิรวม 7.42 ล้านบาทหรือคิดเป็นกำไรสุทธิ 4.28% แบ่งเป็นกำไรสุทธิของบริษัท 5.68 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 77% ของกำไรสุทธิรวม และกำไรสุทธิของบริษัทย่อย 1.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23% ของกำไรสุทธิรวม หรือพลิกมีกำไรสุทธิ 22.51 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 149.13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่ขาดทุน 15.09 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น            ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติออกและเสนอขายหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน จำนวน 140 ล้านบาท โดยมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท และหรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหรือ บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท มีอำนาจในการกำหนดข้อจำกัด เงื่อนไข รายละเอียดต่าง ๆ อันจำเป็นและเกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ รวมถึงการดำเนินงานใด ๆ ก็ตามที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท รายละเอียดทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง            นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ในจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 4/2567 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3 โดยบริษัทมีออเดอร์รอโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมมูลค่าราว 20 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยโอนและส่งมอบได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้บางส่วน ทั้งนี้ DHOUSE ยังคงมองเห็นดีมานด์ในตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังคงแข็งแกร่ง            และมองแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 4 ฟื้นตัวดีขึ้นหลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงสถาบันการเงินอย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ออกโปรโมชั่นส่งเสริมการให้สินเชื่อบ้าน ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ DHOUSE ยังทำการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะบ้านราคาประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีที่สุด            ปัจจุบัน DHOUSE มีโครงการบ้านพร้อมขายอยู่ทั้งสิ้น 4 โครงการ ประกอบไปด้วย โครงการพฤกภิรมย์ แกรนด์บิช และโครงการยูปาร์ค รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 1,095 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีโครงการที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์คิดเป็นสัดส่วน 10% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด            ในปี 2568 บริษัทมีแผนเปิดโครงการอสังหาฯ ใหม่ มูลค่า 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินและเตรียมพัฒนาโครงการ โดย DHOUSE ยังมีที่ดินรอการพัฒนามูลค่ารวม 700 ล้านบาท ทั้งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและมหาสารคาม            สำหรับแนวโน้มการเติบโตในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ราว 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 2567 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท โดยรายได้ในปีหน้าจะได้รับแรงหนุนจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวและยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่มีอย่างต่อเนื่อง            บริษัทมีกลยุทธ์เพิ่มยอดขายและรักษาอัตรากำไร (มาร์จิ้น) โดยการขยายช่องทางการตลาด ควบคู่ไปกับการหาที่ดินราคาต่ำเพื่อควบคุมต้นทุน ทั้งยังเน้นการนำที่ดินที่มีอยู่มาพัฒนาต่อยอดโครงการ            DHOUSE มีความได้เปรียบเชิงต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยมีต้นทุนการพัฒนาโครงการที่ต่ำกว่า ซึ่งช่วยให้สามารถเสนอขายอสังหาริมทรัพย์ในราคาที่แข่งขันได้ รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

DHOUSE พลิกกำไรแรง 262% อสังหาฯฟื้น

DHOUSE พลิกกำไรแรง 262% อสังหาฯฟื้น

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 75.16 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากบริษัท 35.07 ล้านบาท และรายได้จากบริษัทย่อย 40.09 ล้านบาท มีรายได้รวม เพิ่มขึ้น 37.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 101.61 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีรายได้รวม 37.28 ล้านบาท สำหรับงวดสะสมเก้าเดือน สิ้นสุดวัน ที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 178.41 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากบริษัท 71.41 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของรายได้รวม และรายได้จากบริษัทย่อย 107ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของรายได้รวม มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 70.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.53 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ที่มีรายได้รวม 107.78 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้มีสาเหตุหลกัมาจากยอดขายของบริษัทและบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น สำหรับงวดสามเดือน ไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 11.90 ล้านบาทหรือ คิดเป็นกำไรสุทธิร้อยละ 16.95 แบ่งเป็น กำไรสุทธิของบริษัท 11.69 ล้านบาท และกำไรสุทธิของบริษัทย่อย 0.21 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นรวม 19.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 262.18 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ส่วนงวดสะสมเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 7.42ล้านบาทหรือคิดเป็นกำไรสุทธิร้อยละ 4.28 แบ่งเป็นกำไรสุทธิของบริษัท 5.68 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 77 ของกำไรสุทธิรวม และกำไรสุทธิของบริษัทย่อย 1.74 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของกำไรสุทธิรวม มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นรวม 22.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 149.13 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักจากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น

DHOUSE ชี้อสังหาฯ ฟื้นตัว จับตาผลงานเทิร์นอะราวน์

DHOUSE ชี้อสังหาฯ ฟื้นตัว จับตาผลงานเทิร์นอะราวน์

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ภายหลังจากตลาดหลักทรัพย์เปิดตลาด วันที่ 7 ต.ต.67 เวลา 10.26 นาที พบ หุ้น DHOUSE หรือ บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) ปรับตัวสูงขึ้นแตะที่ระดับ 0.75 บาท ซึ่งราคาสูงสุดของวัน จากราคาต่ำสุดที่ 0.59 บาท            นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ในจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดมหาสารคามเริ่มคลี่คลาย หลังภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับผู้บริโภคที่ได้รับสิทธิ์ ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายกลับมาคึกคัก            ทั้งนี้ DHOUSE มีโครงการพร้อมขาย ได้แก่ โครงการพฤกภิรมย์ แกรนด์บิช และโครงการยูปาร์ค รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 1,095 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีโครงการที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์คิดเป็นสัดส่วน 10% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ขณะที่ยอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาท            อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่น่าจับตาคือแนวโน้มดอกเบี้ย ซึ่งขณะนี้อยู่ในทิศทางขาลง คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มีโอกาสฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2567 ส่วนภาพรวมทั้งปี 2567 คาด DHOUSE จะพลิกกลับมามีกำไร หรือเทิร์นอะราวน์ จากงบไตรมาส 2/2567 ขาดทุน 4.48 ล้านบาท รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011