#CPAXT


CPAXT ยันลงทุน The Happitat เพียงโครงการเดียว

CPAXT ยันลงทุน The Happitat เพียงโครงการเดียว

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.กรุงศรี เผย CPAXT ชี้แจงข้อมูลเพิ่มย้ำเข้าลงทุนโครงการ The Happitat เพียงโครงการเดียวไม่ ลงทุนในโครงการอื่นๆ ใน The Forestias ย้ำการเข้าลงทุนเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและเกณฑ์ของตลาดฯ ราคาเข้าลงทุนใช้วิธี Income Approach ซึ่งต่ำกว่าวิธี Cost Approach เฉลี่ยที่ 1.2 หมื่นล้านบาทจึงมองเป็นราคาเข้าลงทุนที่สมเหตุสมผล แต่พร้อมน้อมรับ ข้อคิดเห็น, คำแนะนำ และความห่วงใยจากทุกภาคส่วน

CPAXT ปั้น ‘Lotus’s Mall Bangna’ คุ้มค่า

CPAXT ปั้น ‘Lotus’s Mall Bangna’ คุ้มค่า

           CPAXT ย้ำชัดแผนพัฒนาโครงการ Lotus’s Mall Bangna (The Happitat) มูลค่า 15,000 ลบ. ชูทำเลทองบางนา-ตราด เสริมศักยภาพธุรกิจค้าปลีก-ศูนย์การค้า ดึงกลยุทธ์โปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น มั่นใจผลตอบแทนคุ้มค่า ดันโตยั่งยืนในระยะยาว            ในช่วงที่ผ่านมา มีข่าวเรื่องการเข้าลงทุนของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซึ่งข้อมูลบางส่วนในโซเชียลมีเดีย อาจทำให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ล่าสุด ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้ออกมาชี้แจงแสดงความชัดเจน เพื่อคลายความกังวลของนักลงทุน โดยย้ำจุดยืนในการดำเนินการ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น และการเติบโตของบริษัทฯ โดยเนื้อหามีดังต่อไปนี้            บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เข้าลงทุนในโครงการ Lotus’s Mall Bangna (the Happitat) เพื่อจะได้มี ศูนย์การค้าและพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ซึ่งองค์ประกอบหลักของพื้นที่และรายได้มาจากการบริหารพื้นที่ศูนย์การค้าขนาด 48,000 ตร.ม. และมีร้านโลตัส Hypermarket ในรูปแบบใหม่ เพื่อต่อยอดจากรูปแบบธุรกิจในปัจจุบันของ CPAXT ซึ่ง CPAXT มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกและการบริหารพื้นที่เช่า ปัจจุบัน CPAXT ในฐานะผู้นำค้าส่ง-ค้าปลีกระดับเอเชีย ด้วยพื้นที่ขายกว่า 2.7 ล้านตารางเมตร และบริหารพื้นที่เช่าศูนย์การค้ากว่า 1.5 ล้านตารางเมตร (รวมการบริหารพื้นที่ใน AXTRART) และได้เดินหน้าดำเนิน            กลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยการขยายสาขา การเพิ่มศักยภาพของสินทรัพย์ และการหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น โดย CPAXT ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาศูนย์การค้าและพื้นที่ค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง            ที่ผ่านมา CPAXT เปิดตัว โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นแฟลกชิปต้นแบบศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของชุมชน บนพื้นที่รวมกว่า 47,000 ตารางเมตร และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อขยายพื้นที่เช่าในสาขาหลายแห่ง เช่น โลตัสอุดรธานี โลตัสสระบุรี และแม็คโครสาทร รวมทั้งมีแผนพัฒนาพื้นที่เช่าในอนาคตในทำเลศักยภาพอีก 16 แห่ง โดยคาดว่าภายในปี 2572 บริษัทฯ จะสามารถขยายพื้นที่เช่าถาวร (NLA) ได้กว่า 200,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้กำไรจากการบริหารพื้นที่ศูนย์การค้ามีสัดส่วนเป็นสาระสำคัญของกำไรสุทธิของบริษัทฯ            โดย CPAXT มีประสบการณ์ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และมิได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับบริษัทฯ แต่เป็นการขยายโอกาสในสิ่งที่ทำได้ดี โดยเฉพาะทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์ ซึ่งพื้นที่ศักยภาพย่านบางนา-ตราด ถือเป็นโอกาส เพราะมีการขยายการคมนาคมขนส่ง การเกิดขึ้นของหมู่บ้านราคาสูง การขยายตัวของสนามบิน ทำให้การลงทุนในทำเลยุทธศาสตร์ เป็นการขับเคลื่อนเพื่อการเติบโตของธุรกิจCPAXT ตัดสินใจลงทุนใน Lotus’s Mall Bangna (the Happitat) เนื่องจากโครงการ Lotus’s Mall Bangna (the Happitat) ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ในย่านบางนา ซึ่งจะทำให้ CPAXT สามารถมีพื้นที่ ซึ่งองค์ประกอบหลักของพื้นที่และรายได้จะมาจากร้านโลตัส Hypermarket ในรูปแบบใหม่ และการบริการพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า นอกจากนี้ โครงการยังประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรด A และพื้นที่สีเขียวที่สะท้อนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่ง CPAXT สามารถใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกและการบริหารพื้นที่เช่าเพื่อขยายธุรกิจของ CPAXT ในทำเลยุทธศาสตร์ในย่านบางนา ซึ่งเป็นการเสริมศักยภาพและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนทางธุรกิจของ CPAXT จุดเด่นของโครงการ Lotus’s Mall Bangna (the Happitat)            ทำเลยุทธศาสตร์พร้อมทั้งมีสินทรัพย์อาคาร 3 หลัง ติดถนนในย่านบางนา อยู่ในสภาพแวดล้อมด้วยป่าในเมือง ตั้งอยู่ในศูนย์กลางเศรษฐกิจและการอยู่อาศัยที่ครบครัน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ของ 4 มุมเมืองของกรุงเทพฯ และปริมณฑล            ใช้ดำเนินธุรกิจที่เป็นธุรกิจหลักปกติของบริษัทฯ คือเปิดสาขาโลตัส Hypermarket ในรูปแบบใหม่ พร้อมทั้งบริหารพื้นที่สำหรับร้านค้า การให้บริการ และพื้นที่สำหรับกิจกรรมเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ของชุมชน รวมพื้นที่เช่าถาวร (NLA) เกือบ 48,000 ตร.ม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.2 ของพื้นที่ NLA ในปัจจุบัน            กลุ่มลูกค้าหลัก: ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่บางนาเขตรัศมีไม่เกิน 7 กม. ซึ่งมีจำนวนถึง 1.2 ล้านคน, ผู้ใช้บริการสำนักงาน และนักท่องเที่ยว คาดการณ์ผู้มาเยือน 36,000 คนต่อวัน            ผลตอบแทนที่รวดเร็ว เนื่องจากอาคารที่ลงทุนได้ก่อสร้างไปกว่าร้อยละ 80 และสามารถเปิดดำเนินการบางส่วนได้ภายใน 12 เดือน ซึ่งเร็วกว่าการพัฒนาพื้นที่ใหม่ซึ่งหาได้ยากในทำเลยุทธศาสตร์ในย่านบางนา และต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-5 ปีกว่าที่จะเปิดดำเนินการได้ การลงทุนในโดยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทางอ้อมในโครงการ Lotus’s Mall Bangna (the Happitat) สร้างความมั่นคงให้บริษัทมากกว่าการเป็นผู้เช่าการออกแบบที่มุ่งเน้นความยั่งยืน มีพื้นที่สีเขียวจากป่าใหญ่ใกล้โครงการการลงทุนผ่านการประเมินมูลค่าที่รอบคอบ            คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาความเหมาะสมของการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยการประเมินมูลค่าทรัพย์สินในโครงการนี้ผ่านผู้ประเมินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“ก.ล.ต.”) โดยใช้ราคาเฉลี่ยของผู้ประเมิน 3 ราย มูลค่าการลงทุน            บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ ที่วงเงินการลงทุนประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยมีผลตอบแทนการลงทุนเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ในการบริหารร้านค้าขนาดใหญ่ การลงทุนผ่านรูปแบบ Holding company            การจัดตั้งบริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด (“AGP”) เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทในการขับเคลื่อนธุรกิจบริหารศูนย์การค้า โดยการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการเงินลงทุนของบริษัทและเป็นโครงสร้างที่เอื้อให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถทำธุรกรรมร่วมกับพันธมิตร และเป็นการวัดผลงานที่ชัดเจนขึ้น ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส            บริษัทฯ ขอยืนยันและให้ความมั่นใจว่าบริษัทฯ ยึดถือและปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลซึ่งคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนมาโดยตลอด และในการพิจารณาการลงทุนในครั้งนี้ ได้ดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการที่เข้าลงทุน มูลค่าการลงทุน ผลประโยชน์จากการลงทุน การประเมินมูลค่าทรัพย์สินในโครงการโดยผู้ประเมินที่ได้รับความเห็นชอบ ก.ล.ต. และคำแนะนำของที่ปรึกษากฎหมายที่มีชื่อเสียง อย่างรอบคอบ และพิจารณามุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ เป็นสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมที่จะตอบคำถามและข้อสงสัยในการเข้าลงทุนครั้งนี้และน้อมรับข้อเสนอแนะจากนักลงทุนเพื่อนำมาปรับปรุงการสื่อสารและการเปิดเผยข้อมูลต่อไป            บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการลงทุนในครั้งนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และสอดคล้องกับแผนธุรกิจเดิม ที่นำมาซึ่งการเติบโต และบริษัทฯ มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารและดำเนินงานในโครงการ Lotus’s Mall Bangna (the Happitat)            บริษัทฯ ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินธุรกิจของ CPAXT เรามุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน            ก่อนหน้านี้ ทางผู้บริหาร ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้มีการสื่อสารกับนักลงทุน ตอกย้ำมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ และมี criteria ในการลงทุน โดยการลงทุนดังกล่าวเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติ (business as usual) อยู่บนพื้นฐานของความชำนาญขององค์กร เป็นไปตามยุทธศาสตร์และนโยบายของบริษัทฯ เพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ก.ล.ต. สั่งให้ CPAXT ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat 

ก.ล.ต. สั่งให้ CPAXT ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat 

           หุ้นวิชั่น - วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2567 | ฉบับที่ 273 / 2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งให้บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat ผ่านการร่วมลงทุนใน บริษัทย่อยบริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด (AGP) พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบ SETLink ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2567            ตามที่ CPAXT เปิดเผยข้อมูลการเข้าร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat ผ่านการร่วมลงทุนในบริษัทย่อย AGP ในสัดส่วนร้อยละ 95 คิดเป็นมูลค่า 7,970 ล้านบาท ซึ่ง AGP จะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ จำกัด (HATF) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ภายใต้โครงการชื่อ The Happitat แล้วนั้น            อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อมูลที่ CPAXT เปิดเผยอาจยังไม่ครบถ้วนหรือไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งจะอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุนหรือต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์            ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 58(1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้ CPAXT ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาทิ ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบในการพิจารณาอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ The Happitat มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ ความคืบหน้าของการพัฒนาโครงการ ระยะเวลาที่คาดว่าจะมีรายได้จากโครงการ เงินลงทุนทั้งหมดที่คาดว่าจะใช้ในโครงการ และรายการดังกล่าวเป็นการให้ความช่วยเหลือบริษัทในกลุ่มหรือไม่ อย่างไร เป็นต้น พร้อมทั้งเปิดเผยคำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2567            นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัทที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งปฏิบัติตามธรรมาภิบาลที่ดี พร้อมทั้งคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ”

CPAXT ลงทุน Happitat โอกาสธุรกิจบนความท้าทาย

CPAXT ลงทุน Happitat โอกาสธุรกิจบนความท้าทาย

          หุ้นวิชั่น - CPAXT ลงทุนโครงการ Happitat ใน The Forestias ย้ำการลงทุนครั้งนี้ต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ (Mixed-Use Development) โดยคณะกรรมการตรวจสอบเห็นพ้องกับคณะกรรมการบริษัทฯ โบรกมอง กระทบเชิงลบจากผลขาดทุนจากการเปิดดำเนินงานในช่วงต้น-ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่ม โอกาสทยอยสะสม มูลค่าโครงการดังกล่าวคิดเป็นเพียง 2% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เงินลงทุนที่ใช้ต่ำกว่ากระแสเงินสดดำเนินงานต่อปีที่ระดับ 2 หมื่นลบ. การลงทุนดังกล่าวไม่ได้สร้างผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะทางการเงินบริษัท           นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่ง และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มสายงานการเงิน การบัญชี และบริหารงานกลาง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT สืบเนื่องจากบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ว่าบริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยทางตรงคือ บริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด (“AGP”)           โดย AGP จะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทย่อยทางอ้อมคือ บริษัท แฮปพิแทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ จำกัด (“HATF”) ในสัดส่วนร้อยละ 100 (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ภายใต้โครงการชื่อ The Happitat           ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสอบถามว่า การเข้าลงทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นการเข้าร่วมลงทุนในหุ้นของ AGP โดยบริษัทฯ เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 95 โดยการชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP เป็นเงินสดจำนวนประมาณ 7,970 ล้านบาท และบริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 5 โดยชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ด้วยทรัพย์สิน คือ หุ้นใน HATF ในสัดส่วนร้อยละ 100 (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น)           คณะกรรมการของบริษัทฯ ได้พิจารณาอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat โดยพิจารณาความเหมาะสมของการร่วมลงทุนและมูลค่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้อย่างรอบคอบ โดยมีการพิจารณามูลค่าทรัพย์สินในโครงการ The Happitat ซึ่งได้มีการประเมินมูลค่าโดยผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเห็นว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และเป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ ในส่วนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) โดยคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ มิได้มีความเห็นแตกต่างจากความเห็นของคณะกรรมการของบริษัทฯ           ทั้งนี้ รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยง และขนาดรายการเมื่อพิจารณาจากเงินค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ซึ่งบริษัทฯ ชำระเป็นเงินสดจำนวนประมาณ 7,970 ล้านบาท มีขนาดรายการสูงสุดร้อยละ 1.49 และเมื่อพิจารณารวมจำนวนเงินที่คาดว่าจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการ The Happitat แล้วเสร็จ การร่วมลงทุนของบริษัทฯ ในโครงการ The Happitat จะมีขนาดรายการสูงสุดต่ำกว่าร้อยละ 15 ดังนั้น จึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญตามข้อกำหนดของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศที่เกี่ยวข้อง           ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด CPAXT จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อลงทุนโครงการอสังหาฯ Mixed-Use ระบุว่า บริษัทคาดใช้เงินลงทุนทั้งหมด 1.2-1.5 หมื่นลบ. และจะเปิดให้บริการภายใน 1Q26           The Forestias by MQDC เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการสูงราว 1.3 แสนลบ. พื้นที่ 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลายรูปแบบ คอนโด High Rise/Low Rise, บ้านพักอาศัย รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น โรงแรม ศูนย์การแพทย์ พื้นที่สำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ พื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยโครงการ Happitat ที่ CPAXT เข้าลงทุนจะอยู่ด้านหน้าของโครงการ มีพื้นที่เช่ารวม 7.2 หมื่นตร.ม. แบ่งเป็น 1) Lotus’s Premium Hypermarket พื้นที่ 5 พันตร.ม. 2) พื้นที่ค้าปลีก มีพื้นที่เช่ากว่า 4.3 หมื่นตร.ม. และ 3) อาคารสำนักงาน มีพื้นที่เช่ากว่า 2.4 หมื่นตร.ม. โดย CPAXT คาดจะใช้เงินลงทุนในโครงการทั้งสิ้นราว 1.2-1.5 หมื่นลบ. เงินส่วนใหญ่ 80-90% จากการเงินกู้ธนาคาร คาดจะเริ่มเปิดดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายใน 1Q69 และตั้งเป้าหมายโครงการดังกล่าวจะสร้างกำไรสุทธิได้ในปี 2571 (ปีที่ 3 ของการดำเนินงาน)           คาดผลกระทบเชิงลบเล็กน้อยในระยะสั้น ปรับประมาณการปี 2568-69 ลง 2-4% เนื่องจากแหล่งเงินทุนหลักมาจากการกู้ยืมธนาคาร คาด CPAXT จะมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นปีละ 3-4 ร้อยลบ. ทำให้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 ลง 1.7% เป็น 1.3 หมื่นลบ. (+19% YoY) ขณะที่ปี 2569 ซึ่งจะมีการเปิดให้บริการเป็นปีแรก อิงสมมติฐานสำคัญดังนี้: 1) พื้นที่ค้าปลีก Occ. Rate ที่ 80% และค่าเช่า 1.4 พันบาทต่อตร.ม. 2) อาคารสำนักงาน Occ. Rate ที่ 40% และค่าเช่า 800 บาทต่อตร.ม.           คาดเกิดผลกระทบเชิงลบจากผลขาดทุนจากการเปิดดำเนินงานในช่วงต้นและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่ม ทำให้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2569 ลง 3.5% เป็น 1.4 หมื่นลบ. (+12% YoY) ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ลงเป็น 38.50 บาทต่อหุ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”           คงแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมใหม่ที่ 38.50 บาท คาดราคาหุ้นตอบสนองเชิงลบจากความกังวลของตลาด 1) เงินลงทุนสูงกว่าการขยายสาขาแบบปกติและอาจมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเพิ่มเติมจนกว่าจะเปิดโครงการ และ 2) การแข่งขันในพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างสูงและส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์เช่น Mega Bangna ของ CPN และ Bangkok Mall (คาดเปิดปี 2569) ของเดอะมอลล์กรุ๊ป           อย่างไรก็ดี หากราคาหุ้นปรับลงเกิน 5-10% มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสม เพราะมูลค่าโครงการดังกล่าวคิดเป็นเพียง 2% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เงินลงทุนที่ใช้ต่ำกว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานต่อปีที่ระดับ 2 หมื่นลบ. และประเมินผลขาดทุนในปีแรกไม่ถึง 4% ของฐานกำไรทั้งปี สะท้อนว่าการลงทุนดังกล่าวยังไม่ได้สร้างผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะทางการเงินบริษัท

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

CPAXT เปิดเกม “The Happitat” มุมคิด: โอกาสและความท้าทาย

CPAXT เปิดเกม “The Happitat” มุมคิด: โอกาสและความท้าทาย

          หุ้นวิชั่น - วงการโบรกเกอร์ ระบุว่า การลงทุนของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ในโครงการ “The Happitat” มิกซ์ยูสระดับพรีเมียมบนทำเลบางนา-ตราด กำลังได้รับความสนใจจากตลาด การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ CPAXT ในการขยายบทบาทสู่ธุรกิจใหม่ ท่ามกลางความท้าทายจากการแข่งขันในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นรายใหญ่ ทำเลบางนา-ตราดได้รับการยอมรับในฐานะจุดยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพสูง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ และสายสีเหลือง ซึ่งเสริมความสะดวกสบายและเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ตลาดในย่านนี้ก็มีความเข้มข้นสูงจากโครงการของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ   “The Happitat” เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ CPAXT ตั้งใจใช้เป็นก้าวแรกสู่ตลาดมิกซ์ยูส ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานพื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกในรูปแบบที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตครบวงจร ความเชี่ยวชาญด้านค้าปลีกที่สั่งสมมาของ CPAXT จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แม้การลงทุนครั้งนี้จะมีความท้าทาย แต่ CPAXT มีโอกาสสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพันธมิตรและทรัพยากรที่มีอยู่ การทำเลบางนา-ตราดมีศักยภาพสูงในแง่กำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ทั้งจากชุมชนโดยรอบและโครงการ The Forestias ที่เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ครบวงจรในพื้นที่ “ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ความสำเร็จของ ‘The Happitat’ จะขึ้นอยู่กับการบริหารโครงการที่รอบคอบ และการปรับตัวของ CPAXT ในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แม้จะเป็นการก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ แต่การเริ่มต้นที่ทำเลบางนา-ตราด ถือเป็นก้าวที่มีศักยภาพ” แหล่งข่าววงการโบรกเกอร์   โครงการนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ CPAXT ในการเข้าสู่ธุรกิจมิกซ์ยูส ซึ่งจะต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง และต่อยอดความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในระยะยาว

CPAXT ชี้แจงลงทุน The Happitat ยันเป็นประโยชน์ - ต่อยอดธุรกิจได้

CPAXT ชี้แจงลงทุน The Happitat ยันเป็นประโยชน์ - ต่อยอดธุรกิจได้

หุ้นวิชั่น - ตามที่บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 เกี่ยวกับสารสนเทศของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (“CPAXT”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยทางตรงคือ บริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด (“AGP”) โดย AGP จะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทย่อยทางอ้อมคือ บริษัท แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ จำกัด (“HATF”) ในสัดส่วนร้อยละ 100 (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ภายใต้โครงการชื่อ The Happitat นั้น ทั้งนี้ CPAXT ชี้แจงเพิ่มเติมตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสอบถามมา การเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นการเข้าร่วมลงทุนในหุ้นของ AGP โดยเข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 95 โดยการชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP เป็นเงินสดจำนวนประมาณ 7,970 ล้านบาท และบริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 5 โดยชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ด้วยทรัพย์สิน คือ หุ้นใน HATF ในสัดส่วนร้อยละ 100 (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น)          อย่างไรก็ดี คณะกรรมการของ CPAXT ได้พิจารณาอนุมัติให้ทำการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat โดยพิจารณาความเหมาะสมของการร่วมลงทุนและมูลค่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้อย่างรอบคอบ และมีการพิจารณามูลค่าทรัพย์สินในโครงการ The Happitat ซึ่งได้มีการประเมินมูลค่าโดยผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเห็นว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ CPAXT และเป็นการต่อยอดธุรกิจของ CPAXT ในส่วนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) โดยคณะกรรมการตรวจสอบของ CPAXT มิได้มีความเห็นแตกต่างจากความเห็นของคณะกรรมการของ CPAXT         อนึ่ง CPAXT ชี้แจงว่ารายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยง และขนาดรายการเมื่อพิจารณาจากเงินค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ซึ่ง CPAXT ชำระเป็นเงินสดจำนวนประมาณ 7,970 ล้านบาท และเมื่อพิจารณารวมจำนวนเงินที่คาดว่าจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการ The Happitat แล้วเสร็จ การร่วมลงทุนของ CPAXT ในโครงการ The Happitat จะมีขนาดรายการสูงสุดต่ำกว่าร้อยละ 15 จึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญตามข้อกำหนดของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศที่เกี่ยวข้อง

CPAXTเล็งลงทุนห้าง The Forestias บางนา โบรกว่าไง เช็กเลย!

CPAXTเล็งลงทุนห้าง The Forestias บางนา โบรกว่าไง เช็กเลย!

       หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด CPAXT จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อลงทุนโครงการอสังหาฯ Mixed-Use CPAXT จะเข้าลงทุนห้างในโครงการ The Forestias บางนา บริษัทแจ้งตลาดเรื่องการจัดตั้งบริษัทย่อยทางตรงแห่งใหม่ชื่อ บจ.แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส ทุนจดทะเบียน 8.4 พันลบ. โดยบริษัทจะถือหุ้นสัดส่วน 95% และอีก 5% ถือโดยบจ. เอ็มคิวดีซีทาวน์คอร์ปอเรชั่น ซึ่งบจ. แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส (บริษัทย่อย) จะเข้าถือหุ้นบจ. แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ในสัดส่วน 100% เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ภายใต้โครงการชื่อ The Happitat ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าจำนวน 3 อาคาร (อาคารหลังหนึ่งจะมีสำนักงาน 10 ชั้นตั้งอยู่ด้านบน) และอาคาร Central Utility Plant ที่เป็นศูนย์กลางสาธารณูปโภค โดยโครงการ The Happitat ตั้งอยู่ภายในโครงการ The Forestias ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 เป็นผลให้ได้มาซึ่งบริษัทย่อยทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวน 2 บริษัท (Source: Set.or.th) บริษัทคาดใช้เงินลงทุนทั้งหมด 1.2-1.5 หมื่นลบ. และจะเปิดให้บริการภายใน 1Q26 The Forestias by MQDC เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการสูงราว 1.3 แสนลบ. พื้นที่ 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลายรูปแบบ คอนโด High Rise/Low Rise, บ้านพักอาศัย รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น โรงแรม ศูนย์การแพทย์ พื้นที่สำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ พื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยโครงการ Happitat ที่ CPAXT เข้าลงทุนจะอยู่ด้านหน้าของโครงการ มีพื้นที่เช่ารวม 7.2 หมื่นตร.ม. แบ่งเป็น 1) Lotus’s Premium Hypermarket พื้นที่ 5 พันตร.ม. 2) พื้นที่ค้าปลีก มีพื้นที่เช่ากว่า 4.3 หมื่นตร.ม. และ 3) อาคารสำนักงาน มีพื้นที่เช่ากว่า 2.4 หมื่นตร.ม. โดย CPAXT คาดจะใช้เงินลงทุนในโครงการทั้งสิ้นราว 1.2-1.5 หมื่นลบ. เงินส่วนใหญ่ 80-90% จากการเงินกู้ธนาคาร คาดจะเริ่มเปิดดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายใน 1Q69 และตั้งเป้าหมายโครงการดังกล่าวจะสร้างกำไรสุทธิได้ในปี 2571 (ปีที่ 3 ของการดำเนินงาน) คาดผลกระทบเชิงลบเล็กน้อยในระยะสั้น ปรับประมาณการปี 2568-69 ลง 2-4% เนื่องจากแหล่งเงินทุนหลักมาจากการกู้ยืมธนาคาร คาด CPAXT จะมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นปีละ 3-4 ร้อยลบ. ทำให้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 ลง 1.7% เป็น 1.3 หมื่นลบ. (+19% YoY) ขณะที่ปี 2569 ซึ่งจะมีการเปิดให้บริการเป็นปีแรก อิงสมมติฐานสำคัญดังนี้: 1) พื้นที่ค้าปลีก Occ. Rate ที่ 80% และค่าเช่า 1.4 พันบาทต่อตร.ม. 2) อาคารสำนักงาน Occ. Rate ที่ 40% และค่าเช่า 800 บาทต่อตร.ม. คาดเกิดผลกระทบเชิงลบจากผลขาดทุนจากการเปิดดำเนินงานในช่วงต้นและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่ม ทำให้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2569 ลง 3.5% เป็น 1.4 หมื่นลบ. (+12% YoY) ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ลงเป็น 38.50 บาทต่อหุ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คงแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมใหม่ที่ 38.50 บาท คาดราคาหุ้นตอบสนองเชิงลบจากความกังวลของตลาด 1) เงินลงทุนสูงกว่าการขยายสาขาแบบปกติและอาจมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเพิ่มเติมจนกว่าจะเปิดโครงการ และ 2) การแข่งขันในพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างสูงและส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์เช่น Mega Bangna ของ CPN และ Bangkok Mall (คาดเปิดปี 2569) ของเดอะมอลล์กรุ๊ป อย่างไรก็ดี หากราคาหุ้นปรับลงเกิน 5-10% มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสม เพราะมูลค่าโครงการดังกล่าวคิดเป็นเพียง 2% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เงินลงทุนที่ใช้ต่ำกว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานต่อปีที่ระดับ 2 หมื่นลบ. และประเมินผลขาดทุนในปีแรกไม่ถึง 4% ของฐานกำไรทั้งปี สะท้อนว่าการลงทุนดังกล่าวยังไม่ได้สร้างผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะทางการเงินบริษัท

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

“โกลเบล็ก” คัด 4 หุ้นเด่นรับแจกเงินหมื่น ชู CPALL-CPAXT-BJC-TNP

“โกลเบล็ก” คัด 4 หุ้นเด่นรับแจกเงินหมื่น ชู CPALL-CPAXT-BJC-TNP

          กรุงเทพฯ - บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยผันผวนจากปัจจัยกดดันเรื่องที่ FED จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง  พร้อมจับตาศาลรัฐธรรมนูญ 22 พ.ย.นี้ ชี้ชัด รับ-ไม่รับคำร้องทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง จึงให้กรอบดัชนี 1,420-1,470 จุด และกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงวัยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ CPALL-CPAXT-BJC-TNP           นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนจากปัจจัยกดดันคำแถลงการณ์ของประธานเฟดที่บ่งชี้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจชะลอลงตัวลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามศาลรัฐธรรมนูญ นัด 22 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการ รับ-ไม่รับคำร้อง ทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง จึงให้กรอบดัชนีที่ระดับ 1,420-1,470 จุด           ขณะที่มีปัจจัยหุนจากสภาพัฒน์เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2567 ขยายตัว 3.0% ดีกว่าตลาดคาดระหว่าง 2.4-2.7% และเร่งขึ้นจาก 2.2% จากในไตรมาส 2/2567 จากการผลิตภาคนอกเกษตรที่ขยายตัวเร่งขึ้นตามการขยายตัวของกลุ่มบริการและจากการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ  ส่งผลให้สภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2567 สู่ระดับ 2.6% จากเดิม 2.5% ด้านกระทรวงการคลังเตรียมเสนอแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรายปี โดยเริ่มตั้งแต่ของขวัญปีใหม่ช่วงสิ้นปีนี้ต่อเนื่องถึงตลอดทั้งปีหน้า เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีกำหนดประชุมในวันอังคารนี้ (19 พ.ย.)           อีกทั้งทาง โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่าสหรัฐฯไม่ต้องการทำสงครามเย็น และไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบของจีน โดยพันธมิตรของสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ต่อต้านจีน และออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาชิคาโกคาดการณ์ว่า FED อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในปีนี้ และลดลงอีก 1% ในปีหน้าตามที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา           อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาปัจจัยในประเทศวันนี้ (19 พ.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และสัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย, สัปดาห์ที่ 5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, วันที่ 29 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจ           ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตาวันนี้ 19 พ.ย. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. (ประมาณการครั้งสุดท้าย), สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค., วันที่ 20 พ.ย. ญี่ปุ่น รายงานยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค., สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 21 พ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค. และวันที่ 1 ธ.ค. กลุ่มโอเปกพลัสประชุมกำหนดนโยบายการผลิตอย่างเป็นทางการ           ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่ได้ออกนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงวัยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  โดยประเมินว่าหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวได้แก่ CPALL, CPAXT, BJC และ TNP           ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่า หลัง “ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ประกอบกับประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้แรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 2,530 – 2,645 $/Oz ลุ้นทดสอบแนวรับ

โบรกฯส่อง “CPAXT” Q3 สดใส ลุ้น Q4 ไฮซีซั่น

โบรกฯส่อง “CPAXT” Q3 สดใส ลุ้น Q4 ไฮซีซั่น

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน จากบทวิเคราะห์ของ บล.เอเชียพลัส ส่องหุ้น  CPAXT รายงานกำไรสุทธิงวด Q3/67 ที่ 1.95 พันล้านบาท (-10% QOQ, +16% YOY) ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายพิเศษราว 458 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (+11% QoQ, +45% YoY) เพราะได้แรงหนุนจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจากการขายอาหารสด แม้กำไรปกติช่วง 9M67 มีสัดส่วน 67% ของคาดการณ์ทั้งปี แต่ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2567 – 68 ไว้ตามเดิม ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท (+23% YoY) และ 1.26 หมื่นล้านบาท (+20% YoY) เพราะเชื่อว่ากำไรปกติใน Q4/67 จะโตแรง จากผลบวกของฤดูกาล และกำลังซื้อที่ดีขึ้น          โดยฝ่ายวิจัยยังคงราคาเป้าหมายสำหรับปี 2568 ไว้ที่ 40.00 บาท (อิง PER 32.9 เท่า, ค่าเฉลี่ย 7 ปีย้อนหล้ง) และคงคำแนะนำ “Outperform” โดยมีปัจจัยหนุนสำหรับ CPAXT เนื่องจาก 1) ระยะสั้นมีปัจจัยบวกต่อกำไรปกติในงวด Q3/67 ที่ออกมาดีกว่าคาด, และ 2) ระยะถัดไปกำไรใน Q4/67 จะเดินหน้าสู่จุดพีคของปีนี้ในงวด Q4/67 ซึ่งเป็น high season ซึ่งทำให้คาดว่ากำไรโดยรวมทั้งปี 2567 มีแนวโน้มจะโตดีกว่าหุ้นกลุ่ม พาณิชย์อื่นๆที่ฝ่ายวิจัยศึกษา ฝ่ายวิจัยแนะนำ “Outperform”  ให้ราคาเป้าหมายสำหรับปี 2568 ไว้ที่ 40.00 บาท 

[PR News] CPAXT เปิดการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรก

[PR News] CPAXT เปิดการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรก

          กรุงเทพฯ 3 ตุลาคม 2567 - บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งค้าปลีก “แม็คโคร-โลตัส” ใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า CPAXT เข้าซื้อขายหุ้น (เทรด) วันแรกจากการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจของบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยเป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าศูนย์การค้า           โดยในพิธีเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ มีนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (ที่ 4 จากซ้าย) นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (ที่ 5 จากซ้าย) นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่ง สายงานการเงิน การบัญชี และบริหารงานกลาง (ที่ 2 จากซ้าย) นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจแม็คโคร ประเทศไทย (ขวาสุด) และนายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย (ซ้ายสุด) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัท และผู้บริหารบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ร่วมงาน โดยมีนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ที่ 3 จากซ้าย) ร่วมแสดงความยินดี           ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผู้ดำเนินธุรกิจ “แม็คโคร” และ “โลตัส” มุ่งมั่นที่จะเติมเต็มความต้องการของลูกค้าให้ดีขึ้นในทุกวัน พร้อมเป็นศูนย์กลางของชุมชน โดยยึดหลักเคียงข้างคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชน และทุกภาคส่วน ผ่านเครือข่ายสาขากว่า 2,600 แห่ง ในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ Makro PRO และ Lotus’s SMART App ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ           ซีพี แอ็กซ์ตร้า ตั้งเป้าสู่การเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีค้าปลีก (Retail Tech) ชั้นนำของเอเซีย เพิ่มประสิทธิภาพ เสริมสร้างประสบการณ์และการบริการที่เป็นเลิศให้ลูกค้า พร้อมเป็นส่วนสนับสนุนให้อุตสาหกรรมค้าปลีกของไทย ก้าวไปสู่ระดับภูมิภาค ควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน           บริษัทฯ ยึดมั่นในการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล และแนวทางความยั่งยืนครอบคลุมทั้ง 3 มิติ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการมีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก อาทิ การจ้างงานท้องถิ่นในทุกสาขาที่เปิดดำเนินการ โครงการแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ที่สนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาศักยภาพให้เกษตรกร และ SMEs รวมถึงการเดินหน้าโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ อาทิ โครงการเปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ (Zero Food Waste to Landfill) และการใช้พลังงานสะอาดในสาขาและรถขนส่ง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2573

abs

Hoonvision

CPALL เด่นรับเซเว่นสแกนจ่ายผ่าน Prompt pay เลือกหุ้นเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีก-กำไรปีนี้โต 33%

CPALL เด่นรับเซเว่นสแกนจ่ายผ่าน Prompt pay เลือกหุ้นเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีก-กำไรปีนี้โต 33%

           หุ้นวิชั่น - เซเว่น อีเลฟเว่น เปิดบริการใหม่ ให้สามารถสแกนจ่ายผ่าน QR Code จากแอปฯ ธนาคารได้แล้วโดยไม่มีขั้นต่ำ ทดลองเปิดให้บริการทั้งหมด 232 สาขาทั่วประเทศ พร้อมรองรับการสแกนผ่าน 7 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารออมสิน ธนาคารยูโอบี และธนาคารมิซูโฮ            บล.กรุงศรี มีมุมมองบวกต่อข่าว ร้านเซเว่นเริ่มเปิดรับสแกนจ่ายผ่าน QR code โดยนำร่อง 232 สาขาทั่วประเทศก่อนจะขยายสาขาให้บริการในระยะถัดไป เพราะเพิ่มช่องทางในการชำระเงิน ดังนั้น ระยะยาวคาดจะช่วยเพิ่มโอกาสในขายสินค้ามากขึ้น            แนวโน้มกำไรปกติ ไตรมาส3/2567 คาดบริเวณ 5.7-5.9 พันล้านบาท เติบโตสูง +36% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตาม 1) ทิศทาง SSSG ที่ยังบวก +1-4% ทุก format และดีกว่ากลุ่มค้าปลีก ประกอบกับ 2) GPM ของร้านเซเว่นและโลตัสส์เป็นขาขึ้น y-y ตามส่วนผสมการขายสินค้ามาร์จิ้นสูงที่ขยับขึ้น            คงคำแนะนำ “BUY” โดยมีราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 84 บาท ยังคงเลือกหุ้นเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีก ทั้งนี้ เราชอบ CPALL ที่ 1) โมเมนตั้มกำไรปกติทั้งปี ปี 2567 คาดโต +33% สูงสุดในกลุ่มผู้ขายสินค้าในชีวิตประจำวัน , 2) ระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างของ CPAXT โดยผู้บริหารคาดสร้าง synergies 5.0 พันล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า และ 3) Valuation ถูก ราคาหุ้นซื้อขายบน PER ปี 2567 ที่ 25 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1.25SD ที่มา : บล.กรุงศรี

ดิจิทัลหมื่นบาทมาแล้ว มีหุ้นอะไรได้ประโยชน์?

ดิจิทัลหมื่นบาทมาแล้ว มีหุ้นอะไรได้ประโยชน์?

          หุ้นวิชั่น - บล. DAOL เผยคาดใช้จ่ายกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมากสุดหลังเริ่มแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท           วานนี้ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เริ่มจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาท ตามโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยมีการเริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์และบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ให้กับผู้มีสิทธิ์ และจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. นี้ รวม 6 วัน จำนวน 14.5 ล้านราย หรือคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 145,000 ล้านบาท จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่จะนำเงินไปใช้เพื่อการบริโภคและอุปโภคในชีวิตประจำวัน อาทิ ของใช้ในบ้าน, สินค้าเพื่อการศึกษา, สินค้าเพื่อการเกษตร, สินค้าไอที โทรศัพท์มือถือ DAOL: คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่ม Commerce เป็น "มากกว่าตลาด"           โครงการแจกเงิน 10,000 บาทจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม โดยคาดว่าจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ซึ่งจะช่วยหนุนและเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Commerce โดยตรง เรายังมองเป็นบวกต่อกลุ่ม Commerce ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมได้ โดยจะเป็นประโยชน์ทางอ้อมต่อการบริโภคโดยรวมของกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสูง           ฝ่ายวิเคราะห์ ชอบ CPAXT (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท), CPALL (ซื้อ/เป้า 84.00 บาท) และ CRC (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) ตามลำดับ จากการคาดการณ์การใช้จ่ายจะอยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก           รองมาเป็นกลุ่ม Home Improvement HMPRO (ซื้อ/เป้า 15.00 บาท), GLOBAL (ถือ/เป้า 16.00 บาท) และ DOHOME (ถือ/เป้า 11.00 บาท) จากจำนวนสาขาที่มีในพื้นที่ที่มีผู้ได้รับสิทธิ์มากที่สุด ตามลำดับ หุ้นอื่นๆ ที่ได้ประโยชน์           และยังชอบกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยตรง คือ NEO (ซื้อ/เป้า 64.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากสินค้าอุปโภค 100%, OSP (ซื้อ/เป้า 28.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้สินค้าอุปโภคที่ 9% ของรายได้รวม และ SFLEX (ซื้อ/เป้า 4.80 บาท) ได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการใช้ flexible packaging เพิ่มขึ้น, CBG (ซื้อ/เป้า 88.00 บาท) กลุ่มเปราะบางเป็นลูกค้าหลักของเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์คาราบาวแดง คาดช่วยหนุนรายได้เครื่องดื่มชูกำลังในประเทศใน 4Q24E โตต่อ YoY, QoQ