#COCOCO


COCOCO ปลื้ม! ติดอันดับคำนวณดัชนี SET 100

COCOCO ปลื้ม! ติดอันดับคำนวณดัชนี SET 100

           หุ้นวิชั่น - บมจ. ไทย โคโคนัท  หรือ COCOCO ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ หลังได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET 100 สำหรับรอบครึ่งปีแรกของปี 2568 (1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2568) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานและการได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ            ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน)  COCOCO เปิดเผยว่า ความสำเร็จนี้เกิดจากการที่หุ้นของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ            ด้านการเติบโตของธุรกิจ บริษัทฯ คาดว่ารายได้ในปีนี้(2567) เติบโต 30-40% จากปีก่อน พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2568 ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยมีแผนขยายตลาดต่างประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวและกะทิที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก            นอกจากนี้ COCOCO ยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้ตราสินค้า Moochie โดยสินค้าทั้งสองประเภทมีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และการรับจ้างผลิตสินค้า (Original Equipment Manufacturer หรือ OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มุ่งเป้าไปยังตลาดสากล ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโต            สำหรับการติดอันดับในดัชนี SET 100 ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ยืนยันถึงความสำเร็จและศักยภาพของ COCOCO แต่ยังตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย [PR News ]

COCOCO ลุยขยายตลาดต่างแดน เป้าไกล 13.35 บ.

COCOCO ลุยขยายตลาดต่างแดน เป้าไกล 13.35 บ.

            หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด COCOCO "ซื้อ" (Bloomberg consensus 13.35 บาท) กำไรสุทธิ 3๐67 -24% QoQ จากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น แต่ +13% YoY จากการเติบโตของยอดขายตลาดต่างประเทศ"             กำไรสุทธิ 3Q67 เท่ากับ 172 ล้านบาท -24% QoQ แต่ +13% YoY มีรายได้รวมเท่ากับ 1,929 ล้านบาท +21% QoQ +49% YoY โดยหลักมาจากยอดขายน้ำมะพร้าว (สัดส่วน 55%) +21% QoQ +81% YoY จากการเติบโตของตลาดน้ำมะพร้าวในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน ยอดขายกะทิ (สัดส่วน 32%) +8% QoQ +14% YoY จากคำสั่งซื้อมากขึ้น และยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยง (สัดส่วน 11%) +114% QoQ +136% YoY จากการขยายช่องทางการขายได้มากขึ้น             มี %GP เท่ากับ 25% ลดลงจาก 28% ใน 2Q67 และ 27% ใน 3Q66 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตกะทิสูงขึ้น นอกจากนี้ ค่าบาทมีความผันผวน ทำให้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน +8003% QoQ และ +363% YoY สู่ 62 ล้านบาท ส่งผลให้มี %NP เท่ากับ 9% ลดลงจาก 14% ใน 2Q67 และ 12% ใน 3Q66 ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 9M67 เท่ากับ 603 ล้านบาท +72% YoY ความเห็น:             มีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการ 4Q67 คาดอ่อนตัว QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low season แต่ยังเติบโต YoY จากการเติบโตของตลาดน้ำมะพร้าวต่างประเทศ สอดคล้องกับแผนออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ขยายช่องทางการขาย และขยายกำลังการผลิต โดย Bloomberg consensus คาดกำไรปี 67 เฉลี่ย 850 ล้านบาท +57% YoY กำไร 9M67 คิดเป็น 71% ของประมาณการ ราคาหุ้น +52% YTD ซื้อขายที่ P/E 22x ต่ํากว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ระดับ 24x ราคามีความเหมาะสม Consensus 13.35 บาท มี Upside 14% จึงแนะนำ "ซื้อ"

[ภาพข่าว] COCOCO ร่วมออกงานแสดงสินค้า PLMA ชิคาโกสหรัฐฯ

[ภาพข่าว] COCOCO ร่วมออกงานแสดงสินค้า PLMA ชิคาโกสหรัฐฯ

          หุ้นวิชั่น - บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” ผู้ผลิตจำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย ขนทัพผลิตภัณฑ์ ร่วมงานแสดงสินค้า PLMA (Private Label Manufacturers Association) ที่จัดขึ้นในชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าระดับโลกที่เน้นผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของผู้ประกอบการ (Private Label) ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีผู้สนใจเข้ามาสอบถามและเยี่ยมชมอย่างคับคั่ง ทั้งนี้ การร่วมออกงานดังกล่าว ยังสร้างโอกาสในการเปิดตลาดใหม่หรือขยายตลาดในภูมิภาคอเมริกาเหนือ  รวมถึงได้สำรวจความต้องการของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอีกด้วย…..เรียกได้ว่าบุกตลาด ทุกโซน ทุกทวีปไม่มีพักแบบนี้ เป้าหมายรายได้ปี 2568 1 หมื่นล้านบาท คงไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ เลยค่าาา

COCOCO ร่วมงาน Opportunity Day ฉายภาพธุรกิจเติบโต

COCOCO ร่วมงาน Opportunity Day ฉายภาพธุรกิจเติบโต

          หุ้นวิชั่น - บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO นำโดย ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ และนางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” ร่วมให้ข้อมูลผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2567 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยรายงานผลการดำเนินงาน 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ 4,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 3,271 ล้านบาท สนับสนุนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2567 มีกำไรสุทธิ 603 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72%  ทำให้บริษัทฯ คาดว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโต 30-40%จากปีก่อนตามเป้าหมายที่คาดไว้ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวและกะทิที่ได้รับความนิยมสูงในต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่บริษัทเริ่มขยายสู่ตลาดสากลและเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มกำลังการผลิต รองรับ Demand ที่เพิ่มขึ้น

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

นักลงทุนคอแห้ง! หุ้นเครื่องดื่มไตรมาส 3 เสิร์ฟกำไรแบบจัดเต็ม

นักลงทุนคอแห้ง! หุ้นเครื่องดื่มไตรมาส 3 เสิร์ฟกำไรแบบจัดเต็ม

อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม สำหรับไตรมาส 3/2567 บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือMALEE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  บริษัท และบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 61 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/2566 ที่มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 9 ล้านบาท ผลการดำเนินงานเติบโต 551% YoY เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 6% YoY จากกลยุทธ์ที่เน้นการเติบโตของสินค้าภายใต้แบรนด์ Malee ที่เป็น Focus SKU มีการยกเลิกขายสินค้าบางรายการ มีการปรับเพิ่มราคาสินค้าบางกลุ่มสินค้า และในกลุ่มลูกค้า CMG (Contract Manufacturing) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต ตลอดจนความมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนขายที่ดีขึ้น บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)หรือSSC  รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567    กำไรสุทธิของบริษัท เท่ากับ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63.1% จากผลกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของยอดขายและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมีผลกำไรต่อหุ้นเป็นจำนวน 1.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.59 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับผลกำไรต่อหุ้น 0.93 บาทในงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือCBG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เท่ากับ 741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +40% YoY สะท้อนยอดขายที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนที่ปรับตัวลดลง การควบคุมค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการขายรวมเท่ากับ 5,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +8% YoY โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองจำนวน 3,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +8% YoY จากยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดงในประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการที่บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์หลักคงราคาขายปลีกที่ 10 บาท รวมถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การกระจายสินค้าให้มีเครือข่ายที่กว้างขวางและครอบคลุมมากขึ้นผ่านคู่ค้ารายย่อยระดับอำเภอและระดับตำบล เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ TACC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  บริษัท มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 และสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 จำนวน 66.31 และ 205.68 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 6.42 และ 36.95 ล้านบาท (คิดเป็น 10.73% และ 21.90%) จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.89 และ 168.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.89% และ 14.16% ของรายได้ของไตรมาส 3 ปี 2567 และ 2566 (ลดลง 0.27%) และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.45% และ 13.55% ของรายได้สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 และ 2566 (เพิ่มขึ้น 0.90%)  กลุ่มบริษัทฯ คาดว่ารายได้ทั้งปี 2567 จะเติบโตร้อยละ 10 จากปีก่อน จากกลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าหลัก เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ นำเสนอสินค้าใหม่จับเทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน)หรือCOCOCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 172.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.57 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 12.81% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ลดลง 54.84 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลง 24.14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยภายนอกจากสถานการณ์ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนยังคงมีผลกระทบต่อตลาดเงินและค่าเงินบาทในระยะสั้น ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศมีความผันผวน ส่งผลให้การรับรู้กำไรสุทธิลดลง สำหรับงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 603.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.45 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ ICHI รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  กำไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมา 13/2567 และ โตรมาร 3/2566 เท่ากับ 357.3 ล้านบาท และ 328.0 ล้านบาทหรือ คิดเป็นอัตราทำไรสุทธิของรายได้จากการขาย เท่ากับ 16.7% และ 15.8% ตามลำดับ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 20.3 ล้านบาท หรือเท่ากับ 6.9% สำหรับทำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 เท่ากับ 1.099.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 16.7% กำไร สุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับ 805.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.6%ของรายได้จากการขาย กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 294.6 ล้านบาทหรือเท่ากับ 36.6% บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)หรือSAPPE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 รายงานผลประกอบการ กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 300.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.2% ต่อรายได้จากการขาย ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่ 319.1 ล้านบาทบริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,566.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาจากการลดลงของรายได้จากการขายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ภายในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีแผนการออกสินค้าใหม่ทั้งหมดมากกว่า 20 รายการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้รายได้จากการขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)หรือSSC  รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567    กำไรสุทธิของบริษัท เท่ากับ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63.1% จากผลกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของยอดขายและการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมีผลกำไรต่อหุ้นเป็นจำนวน 1.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.59 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับผลกำไรต่อหุ้น 0.93 บาทในงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุผลที่อธิบายข้างต้น บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)หรือHTC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567   บริษัทฯ มีกำไรสุทธิแสดงไว้ในงบการเงินรวมเป็นจำนวนเท่ากับ 129.2 ล้านบาท ลดลง 3.6% YoY และลดลง 18.7% QoQ จากปริมาณการขายที่ลดลงจากสภาวะอากาศเย็นและน้ำท่วม และต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 6.9% ลดลง 0.3 จุดเปอร์เซ็นต์ YoY และ QoQ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าสภาวะตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้จะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/2567 จากสภาวะการท่องเที่ยวปลายปีที่ปรับตัวดีขึ้น และสภาวะอากาศที่เข้าสู่ฤดูหนาว อีกทั้งจะเริ่มได้รับผลบวกจากการปรับราคาในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเต็มทั้งไตรมาส 4/2567 บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP มีการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567  บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) รายงานผลขาดทุนสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ 361 ล้านบาท ลดลง 156.3% จากปีก่อน (YoY) และลดลง 159.8% จากไตรมาสก่อน (QoQ) เนื่องจากมีการบันทึกผลขาดทุนสุทธิจากการจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในประเทศเมียนมาตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุนตามที่ได้ส่งข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 และการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน รวมเป็นจำนวน 1,033 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.5% YoY และลดลง 27.2% Qo

[ภาพข่าว] “COCOCO” บุกแดนมังกร ร่วมงานระดับโลก FHC SHANGHAI 2024 แสดงสินค้าอาหาร

[ภาพข่าว] “COCOCO” บุกแดนมังกร ร่วมงานระดับโลก FHC SHANGHAI 2024 แสดงสินค้าอาหาร

          บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO  ผู้ผลิตจำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย ขนทัพสินค้าเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารระดับโลก FHC Shanghai Global Food ครั้งที่ 27 ประจำปี 2567 โดยนำสินค้ามะพร้าวจากแบรนด์ Thai Coco อาทิ น้ำมะพร้าว ชาไทยมะพร้าว กาแฟมะพร้าว และสินค้าใหม่ล่าสุดอย่างไอศกรีมจากผลไม้ไทยอย่ารสชาติ ทุเรียน แตงโม มะม่วง และอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ SALA ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ของบริษัทเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และออกบูธในครั้งนี้           ทั้งนี้งาน FHC Shanghai Global Food Trade Show ได้กลายเป็นหนึ่งในนิทรรศการการค้าที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมอาหารและการจัดเลี้ยง ภายใต้ความต้องการของตลาดขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารและการจัดเลี้ยงของจีน FHC ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ในการเข้าสู่ตลาดจีน ซึ่งกระแสตอบรับภายในงานคับคั่ง และผู้เข้าร่วมงานสนใจและสอบถามถึงสินค้าของ COCOCO เป็นอย่างมาก โดยงานจัดขึ้น  ณ ศูนย์นิทรรศการนานาชาติเซี่ยงไฮ้แห่งใหม่ (SNIEC) เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2567

COCOCO ฟอร์มสวย 9 เดือนรายได้ 4,886 ลบ.โต 49%

COCOCO ฟอร์มสวย 9 เดือนรายได้ 4,886 ลบ.โต 49%

           บมจ. ไทย โคโคนัท จำกัด หรือ “COCOCO” ประกาศงบไตรมาส 3/2567 กวาดรายได้แตะ 1,929 ลบ. เพิ่มขึ้น 49% (YoY)  และมีกำไร 172 ลบ. เพิ่มขึ้น 13% (YoY) ด้าน “ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ระบุตัวเลขรายได้งวด 9 เดือน ทำได้ 4,886 ลบ. เพิ่มขึ้น 49% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 603 ลบ. เพิ่มขึ้น 72% (YoY) พร้อมส่งซิกโค้งสุดท้ายปี 2567 เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปีนี้                       ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” ผู้ผลิตจำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อย ตามงบการเงินรวมไตรมาส 3/2567 มีรายได้รวม 1,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) อยู่ที่ 1,298 ล้านบาท  และเพิ่มขึ้น 21% เทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) อยู่ที่ 1,588 ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการขายและบริการของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมะพร้าวเป็นหลัก            สำหรับงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 3,271 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการที่เติบโตของกลุ่มตลาดเครื่องดื่ม และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทำให้รายได้จากการขายและบริการของผลิตภัณฑ์ทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว ผลิตภัณฑ์กะทิ รวมถึงการผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงด้วย            ดร.วรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) อยู่ที่ 153 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 227 ล้านบาท  เนื่องจากปัจจัยความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้ตลาดเงินและค่าเงินบาทมีความผันผวน            อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 603 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% เทียบกับช่วงเดียวกันปีอยู่ที่ 351 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการในสินค้าและปริมาณคำสั่งซื้อจะยังคงเพิ่มขึ้นทั้งจากกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ โดยบริษัทฯ ได้มีการวางแผนการขายและเพิ่มกลยุทธ์การตลาด มีการออกงานแสดงสินค้าและสำรวจตลาดเครื่องดื่มต่างประเทศ เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม เพื่อสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต            “ในไตรมาส 3/2567มีการซื้อวัตถุดิบสำหรับผลิตกะทิส่วนเพิ่มโดยเฉลี่ยสูงขึ้น โดยมีการบริหารจัดการด้านราคาและปริมาณวัตถุดิบหลัก รวมถึงบริหารจัดการกระบวนการผลิต การสต๊อกสินค้าและวัตถุดิบ และในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีการบริหารจัดการ สามารถควบคุมด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.วรวัฒน์ กล่าว            ดร.วรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า COCOCO ตั้งเป้าหมายการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตกว่า 30-40%จากปีก่อนตามเป้าหมายที่คาดไว้ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวและกะทิที่ได้รับความนิยมสูงในต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่บริษัทเริ่มขยายสู่ตลาดสากล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มกำลังการผลิต รองรับ Demand ที่เพิ่มขึ้น [PR News]

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

COCOCO กำไร 9 เดือน พุ่ง 72%

COCOCO กำไร 9 เดือน พุ่ง 72%

            หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO แจ้งผลผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อย ตามงบการเงินรวมในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 1,928.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.55% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 21.44% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าโดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการขายและบริการของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมะพร้าวเป็นหลัก             และสำหรับงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 4,886.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.37% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนหน้า โดยการเพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการที่เติบโตของกลุ่มตลาดเครื่องดื่ม และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทำให้รายได้จากการขายและบริการของผลิตภัณฑ์ทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว ผลิตภัณฑ์กะทิ รวมถึงการผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงด้วย             สำหรับกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เท่ากับ 172.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.57 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 12.81% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ลดลง 54.84 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลง 24.14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากปัจจัยความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนส่งผลให้ตลาดเงินและค่าเงินบาทมีความผันผวน และกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ บริษัทจึงได้รับผลกระทบจากค่าความผันผวนของค่าเงินดังกล่าว ทำให้มีกำไรสุทธิลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว             อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพในงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 603.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่ากับ 252.45 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า

[ภาพข่าว] COCOCO รับมอบประกาศนียบัตร Certificate of ESG Emerging Company

[ภาพข่าว] COCOCO รับมอบประกาศนียบัตร Certificate of ESG Emerging Company

          บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO นำโดย ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ COCOCO รับมอบประกาศนียบัตร “Certificate of ESG Emerging Company” จาก ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธานสถาบันไทยพัฒน์ โดย COCOCO ได้รับคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ให้อยู่ในทำเนียบเป็นหนึ่งในรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2567 ด้วยการคัดเลือกจาก 920 หลักทรัพย์จดทะเบียน โดยใช้ข้อมูลด้าน ESG ที่ปรากฏในการเปิดเผยข้อมูล การดำเนินงานที่สะท้อนปัจจัยด้าน ESG และความริเริ่มหรือลักษณะธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับประเด็นด้าน ESG ของกิจการ           สถาบันไทยพัฒน์ ได้รับการรับรองจากองค์การแห่งความริเริ่มว่าด้วยการรายงานสากล (Global Reporting Initiative: GRI) ให้เป็น GRI Certified Training Partner ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 จนถึงปัจจุบัน           ปัจจุบัน สถาบันไทยพัฒน์ ได้พัฒนางานบริการให้ความเชื่อมั่น (Assurance Service) ต่อรายงานแห่งความยั่งยืน ตามมาตรฐาน AA1000AS (Assurance Standard) และ AA1000APS (Accountability Principles Standard) โดยได้รับการรับรองจากหน่วยงานผู้กำหนดมาตรฐาน ACCOUNTABILITY ให้เป็นผู้ให้บริการงานให้ความเชื่อมั่นรับอนุญาต (Licensed Assurance Provider) ในประเทศไทย           การได้รับคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ให้อยู่ในทำเนียบ “บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน” หรือ ESG Emerging List สะท้อนถึงการที่ COCOCO ตระหนักถึงการให้ความสำคัญการอนุรักษ์และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงมุ่งเน้นการทำงานที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมการใช้ทรัพยากรด้วยความยั่งยืน

หยวนต้า แนะ“ซื้อ” COCOCO ราคาเหมาะสม 13.30 บ.

หยวนต้า แนะ“ซื้อ” COCOCO ราคาเหมาะสม 13.30 บ.

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.หยวนต้า แนะ“ซื้อ” COCOCO ราคาเหมาะสม 13.30 บ.  มองแนวโน้มกำไรปกติใน 3Q67 อาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า ที่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้ ที่ 164 ลบ. (-27.8% QoQ, +7.4% YoY) แต่หากหักรายการพิเศษจากการขาดทุนค่าเงินที่ 60 ลบ. กำไรปกติจะอยู่ที่ 224 ลบ. ทรงตัว QoQ แต่ยังเติบโต 41.7% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้าที่คาดกำไรจะทำ New High ได้ต่อ โดยสาเหตุหลักมาจาก GPM ที่คาดปรับตัวลดลงทั้ง QoQ และ YoY เป็น 25.3% จากอัตรากำไรของน้ำกะทิที่ลดลง เนื่องจากยอดขายน้ำกะทิใน 3Q67 ที่เติบโตได้ดีกว่าที่บริษัทคาดไว้ ส่งผลให้สต๊อกมะพร้าวไม่เพียงพอ ทำให้จำเป็นต้องซื้อวัตถุดิบใหม่ในราคาที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของราคาต้นทุนวัตถุดิบเดิม           ขณะที่รายได้คาดอยู่ที่ 1,925 ลบ. เติบโต QoQ และ YoY ทำ New High ต่อเนื่อง หนุนจากการเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจที่เป็นช่วงฤดูร้อนของภูมิภาคยุโรปและสหรัฐฯหนุนคำสั่งซื้อทั้งน้ำกะทิ น้ำมะพร้าว และอาหารสัตว์เลี้ยง และการรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ในจีนและสหรัฐฯ เต็มไตรมาส ประกอบกับการเริ่มรับรู้รายได้จากการส่งออกน้ำมะพร้าวบรรจุขวดพลาสติกและไอศกรีม Plant-based ไปจีน           แนวโน้มกำไร 4Q67 คาดชะลอตัว QoQ เนื่องจากเป็น Low season ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการใน 4Q67 คาดกำไรปกติจะชะลอตัวลง QoQ เนื่องจากการเข้าสู่ช่วง Low season ของธุรกิจที่เป็นช่วงฤดูหนาว รวมถึงเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดจำนวนมาก อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากำไรปกติจะยังสามารถเติบโตได้ต่อ YoY หนุนจากอุปสงส์ทั้งน้ำมะพร้าวและน้ำกะทิที่สูงขึ้น รวมถึงฐานลูกค้าของบริษัทที่สูงขึ้นทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน           ขณะที่ GPM จะยังสามารถทรงตัว QoQ ได้แม้ถูกกดดันจาก U-rate ที่ลดลง หนุนจาก Product Mix ที่มีสัดส่วนรายได้น้ำมะพร้าวที่กลับมาสูงขึ้นหลังจากการผ่านพ้นช่วง High season ของน้ำกะทิไปแล้วในช่วง 3Q67 ที่ผ่านมา           ปรับประมาณการกำไรปี 67-68 ลง และปรับไปใช้ราคาเหมาะสมที่ 13.30 บาท หากกำไรใน 3Q67 ออกมาตามคาดจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 67.3% ของประมาณการกำไรเดิมทั้งปี ประกอบกับแนวโน้มกำไรใน 4Q67 ที่คาดชะลอตัวลง QoQ เนื่องจากเป็น Low season ส่งผลให้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรปกติปี 67-68 ลง 6.7% และ 16.7% เป็น 824 ลบ. (+44.3% YoY) และ 1,067 ลบ. (+29.5% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานรายได้และ GPM ลงเพื่อสอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัท และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น           นอกจากนี้ยังปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 68 โดยปรับ PE จากเดิมที่ 25.0 เท่า เป็น 18.0 เท่า ซึ่งคิดเป็นค่าเฉลี่ย PER68 ของกลุ่มเครื่องดื่มทำให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 13.30 บาท ซึ่งราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน PER67-68 ที่ 21.4 เท่า และ 15.7 เท่า ตามลำดับ และมี Upside gain 16.7% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ในเชิงกลยุทธ์อาจยังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นยังขาด Catalyst เชิงบวกในระยะสั้น

abs

Hoonvision

เก็งโผหุ้นเข้า SET50 BANPU, SAWAD, COM7, TCAP

เก็งโผหุ้นเข้า SET50 BANPU, SAWAD, COM7, TCAP

            หุ้นวิชั่น - ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ได้ประเมินหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 ในรอบครึ่งแรกปี 68 เบื้องต้น ได้แก่ BANPU, SAWAD, COM7, TCAP และหุ้นที่คาดว่าจะออกจาก SET50 ได้แก่ BCP, CENTEL, EA, TIDLOR โดยคาดว่ามูลค่าหลักทรัพย์ที่ไม่ติดอันดับเป็นสาเหตุที่ทำให้หลุดออกจาก SET50 ทั้งนี้ประเมินจากข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2567 หากข้อมูลครบ จะคำนวณใหม่อีกครั้ง             สำหรับหุ้นคาดว่าจะเข้า SET100 ในรอบครึ่งแรกปี 68 ได้แก่ JTS, CCET, COCOCO, PR9 ขณะที่คาดว่าหุ้นที่จะออกจาก SET100 ได้แก่ MBK, RBF, TIPH, TOA สาเหตุที่คาดว่า MBK และ TOA จะหลุดออกจาก SET100 เนื่องจาก Turnover ratio 1% ไม่ครบ 9 ใน 12 เดือน ส่วน TIPH จะหลุดจาก SET100 เพราะมูลค่าซื้อขายไม่ผ่านเกณฑ์ 25% ของค่าเฉลี่ยรวมทั้งตลาด 9 ใน 12 เดือน และ RBF ที่หลุด เพราะมูลค่าหลักทรัพย์ไม่ติดอันดับ โดยประเมินจากข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2567 หากข้อมูลครบ จะคำนวณใหม่อีกครั้ง             โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) น่าจะประกาศรายชื่อหุ้นเข้าออก SET50 และ SET100 ในรอบ ครึ่งแรกปี 68 ในช่วงวันที่ 13 - 18 ธ.ค.2567 และเริ่มใช้วันที่ 1 ม.ค.- มิ.ย. 2568             ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า จากข้อมูลหุ้นที่เข้า SET50 ในช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมา หรือ 16 รอบของการปรับหุ้นเข้าและออกใน SET50 พบว่าหากซื้อหุ้นที่เข้า SET50 ล่วงหน้า 1 เดือน ก่อนวันเริ่มใช้ SET50 รอบใหม่ จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.83% ขณะที่หากซื้อหุ้นที่เข้า SET50 ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ ก่อนวันเริ่มใช้ SET50 รอบใหม่ ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 2.15% ดังนั้น จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงหุ้นใน SET50 นั้น หุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50 จะให้ผลตอบแทนในเชิงบวก             ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า หุ้นที่ได้รับการปรับประมาณการเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีการซื้อขายอยู่ในโซนล่าง และมี เปอร์เซ็น upside สูง เป็นหุ้นที่น่าสนใจ โดยเมื่อเปรียบเทียบเปอร์เซ็น upside ของราคาหุ้นต่อราคาเป้าหมายของ Bloomberg consensus กับค่า Z Score ช่วง 12 เดือน FWD PE 5 ปีย้อนหลัง หุ้นที่มีการซื้อขายอยู่ในโซนล่างมีเปอร์เซ็น upside ของราคาหุ้นต่อราคาเป้าหมายของ Bloomberg consensus สูง และมี SETESG Rating ในระดับ A ขึ้นไป ได้แก่ TCAP (7.7%) และ BANPU (0.5%) ในขณะที่ค่า Z-Scores 12 เดือน FWD PE 5 ปีจะอยู่ที่ -0.95 และ 0.003 ตามลำดับ             ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบการปรับประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) กับราคาเป้าหมายย้อนหลัง 1 เดือน จะได้หุ้นที่ถูกปรับประมาณการเพิ่มขึ้นได้แก่ COM7 ขณะที่หุ้นที่ราคาลงมามากที่สุด โดยเปรียบเทียบย้อนหลัง 1 เดือนล่าสุดได้แก่ BANPU (-11.3%) และเมื่อพิจารณาข้อมูลการซื้อขายสุทธิของผู้บริหาร ตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบัน จะได้หุ้นที่ มียอดซื้อขายสุทธิของผู้บริหารมากสุด ได้แก่ SAWAD 323.24 ล้านบาท และ BANPU 8.54 ล้าน บาท

[ภาพข่าว] COCOCO ร่วมงาน SIAL Paris 2024

[ภาพข่าว] COCOCO ร่วมงาน SIAL Paris 2024

          ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ และนางสาวพัฒรา ทัศจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและสารสนเทศ พร้อมด้วยคณะทำงานของบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO  ยกขบวนสินค้าเข้าร่วมงาน SIAL Paris 2024 โดยเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เป็นมหกรรมแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมด้วยการเปิดโอกาสสำคัญของธุรกิจ โดยภายในงานยังมีผู้ประกอบการด้านธุรกิจการอาหารจากทั่วโลกถึง 6,500 ราย จากกว่า 104 ประเทศ โดยในครั้งนี้ COCOCO ขนสินค้าจากแบรนด์ Thai coco และสินค้าใหม่มากมาย เช่น สินค้าประเภทเครื่องดื่มจากน้ำมะพร้าวและไอศกรีมจากผลไม้ไทยภายใต้แบรนด์ SALA ไปร่วมงาน SIAL Paris 2024 ในครั้งนี้ รวมถึงสินค้าของ COCOCO ยังได้รับเลือกเป็นสินค้า SIAL Innovation Paris หลายรายการ ซึ่งงานครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมชมงาน โดยมีการสอบถามถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างล้นหลาม โดยงานจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้า Paris-Nord Villepinte  กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่  19-23 ตุลาคม 2567

[Gossip] COCOCO ขุมทรัพย์ พลังน้ำมะพร้าว Beverage – บริหารต้นทุนช่วงเก็บสต๊อก

[Gossip] COCOCO ขุมทรัพย์ พลังน้ำมะพร้าว Beverage – บริหารต้นทุนช่วงเก็บสต๊อก

          บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ผู้ดำเนินทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าว  รับอานิสงส์แบบเต็มๆ หลังราคามะพร้าวน้ำหอมราคาลดลงตกฮวบ …นาทีนี้นับว่าเป็นนาทีทองของ COCOCO เพราะถึงเวลาเก็บของ ตุนสต๊อกสินค้า โดยบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ในการบริหารจัดการจัดหาแหล่งวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ           พร้อมย้ำ demand ความต้องการน้ำมะพร้าวแบบพร้อมดื่ม หรือ ผลิตภัณฑ์ Beverage ยังคงได้รับความต้องการสูงในตลาดต่างประเทศ  ซึ่งเมื่อต้นปี COCOCO เล็งเห็นถึงโอกาสและศักยภาพการเติบโต จึงมีการเตรียมความพร้อมด้านการผลิตสินค้า Beverage เพื่อรองรับความต้องการและการเติบโตในตลาดต่างประเทศ           สำหรับสินค้าของ COCOCO อาทิ น้ำมะพร้าวกล่องยูเอชที น้ำมะพร้าวพาสเจอไรซ์ กะทิบรรจุกระป๋อง กะทิบรรจุกล่องยูเอชที กะทิพาสเจอไรซ์ น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง ขนมมะพร้าว และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ Thaicoco และ Cocoburi ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก           ทิ้งท้ายความมั่นใจว่า.....แม้ในช่วงก่อนหน้าที่ราคามะพร้าวปรับตัวเพิ่มขึ้น บริษัทฯก็สามารถรับมือได้อย่างดี เรียกได้ว่า สามารถจัดการได้ทุกฤดูมะพร้าวกันเลยทีเดียว!!!

โบรกฯ แนะนำ ซื้อ COCOCO ผลงานโตเด่น เป้า 16 บาท

โบรกฯ แนะนำ ซื้อ COCOCO ผลงานโตเด่น เป้า 16 บาท

          หุ้นวิชั่น - โบรกฯ แนะ ซื้อ COCOCO คาดรับ sentiment บวก จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน -สหรัฐฯ ที่ยังเติบโตได้ เคาะราคาเป้าหมายที่ 16 บาท ระบุแรงหนุนผลงานเติบโตต่อเนื่อง และโดดเด่นกว่ากลุ่ม จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มี PE ปี 68 น่าสนใจอยู่ที่ 15.4 เท่า สอดคล้องหุ้นเครื่องดื่มเน้นส่งออก รับประโยชน์ตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นสนับสนุน           บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ภาพรวมยังคงมีมุมมองบวกต่อ COCOCO จาก earnings momentum 3Q24 ที่คาดจะยังสามารถทำ new high ได้ เบื้องต้นยังคาดที่ราว 250-260 ลบ. เพิ่มขึ้นราว 15% QoQ และ 60% YoYขณะที่ในส่วนผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่า จากที่ channel check ยังไม่มีนัยฯมาก           โดยผู้บริหารประเมินยอดขายปี 2025 มีโอกาสทะลุ 1 หมื่นลบ. (เร็วกว่าเป้าหมายเดิมปี 2025-2026 ที่ 8.4 พันลบ. และ 1 หมื่นลบ. ตามลำดับ) เบื้องต้นคิดเป็น upside จากประมาณการปี 2025 และตลาดที่ราว 15-20% อย่างไรก็ตาม ประเมินยังต้องติดตามผลกระทบต่อยอดขายหากบริษัทมีการปรับราคาใหม่ เพื่อสะท้อนต้นทุน และค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น ทั้งนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโตได้ดี และแผนขยายธุรกิจในปี 2025  ให้ราคาเป้าหมาย 16.00 บาทต่อหุ้น           บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี มีมุมมองต่อหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มที่เน้นการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ อาทิ COCOCO เริ่มฟื้นตัว เรามองแรงหนุนจากภาพใหญ่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ประคองได้ดีกว่าตลาดคาด ขณะที่จีนมีสัญญาณฟื้นตัวจุดต่ำสุด ผสานกำลังซื้อในประเทศมีสัญญาณทางบวก โดยเฉพาะการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปลายปี           สำหรับหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มที่เน้นการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เริ่มฟื้นตัว บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี มองแรงหนุนจากภาพใหญ่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ประคองได้ดีกว่าตลาดคาด ขณะที่จีนมีสัญญาณฟื้นตัวจุดต่ำสุด ผสานกำลังซื้อในประเทศมีสัญญาณทางบวก โดยเฉพาะการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปลายปี บวกต่อ หุ้นกลุ่ม COCOCO ซึ่ง ส่งออกไปจีน 60% สหรัฐฯ 22% ของยอดขาย           นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ประเมินว่า หุ้น บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) เป็น 1 ใน 3 หุ้นที่คาดว่าจะได้เข้า SET100 รอบนี้เช่นเดียวกับ CCET และ JTS โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกรอบนี้ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.67 และมีผลเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.68 สำหรับผลการคำนวณในรอบนี้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 ธ.ค.66-30 ก.ย.67 (ยังเหลือข้อมูลราว 2 เดือน)           ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด แนะนำหุ้นกลุ่มส่งออก มองได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI, ITC, TU, COCOCO           บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยบทวิเคราะห์หุ้น COCOCO ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.00 บาท อิง 2025E PER 19x (+0.4SD above peer average ที่อยู่ที่ 17.3x) มองว่า COCOCO มีจุดแข็งเรื่องของผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับต่อตลาดโลกทำให้สามารถขยายตลาดต่างประเทศรวดเร็ว           หุ้นมีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจจากการเติบโตต่อเนื่องของการบริโภคเครื่องดื่มน้ำผลไม้ โดยตลาดเครื่องดื่มผลไม้โลกมีการเติบโตมากถึง +12.7% CAGR 2020-24E จากเทรนด์การรักสุขภาพมากขึ้น           ทั้งนี้คาดกำไรสุทธิปี 2024E/25E ที่ 875/1,157 ล้านบาท เติบโต +71%/+32% YoY โดยการเติบโตในปี 2024E/25E มาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากขวด PET ที่เพิ่มขึ้นและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าประเทศในภูมิภาคเอเชีย แนวโน้ม 3Q24E จะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง QoQ จากการที่ยังเป็น high season จากฤดูร้อน           ปัจจุบัน COCOCO เทรดอยู่ที่ 2024E PER 20x ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มไทย 5 บริษัท (CBG, PLUS, OSP, SAPPE, COCOCO) อยู่ที่ 20.9x อย่างไรก็ตาม COCOCO 2025E PER ยิ่งน่าสนใจ โดยอยู่ที่ 15.4x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 2025E PER 17.3x โดยมองว่าราคาเหมาะสมควรสูงกว่าค่าเฉลี่ย PER ของกลุ่มจากการเติบโตที่โดดเด่นกว่ากลุ่มจากกำไรที่เติบโตเด่นกว่ากลุ่ม

COCOCO เล็งปี 2568 ยอดขายเกินหมื่นล้านบาท

COCOCO เล็งปี 2568 ยอดขายเกินหมื่นล้านบาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  แนะนำ “ซื้อ” เป้า 16 บาท  What’s new:           ราคาหุ้น COCOCO PLUS ปรับตัวขึ้นแรง 4-6% คาดเป็น sentiment บวก จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน + ประเทศสหรัฐฯที่ยังเติบโตได้ นอกจากนี้ น่าจะเป็นการเล่น laggard play ที่ถูก take profit ลงมาก่อนหน้า โดย switching จากกลุ่มที่ขึ้นมาแล้ว CBG หรือ earnings momentum อาจไม่โดดเด่น SAPPE  Impact           ภาพรวมฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมีมุมมองบวกต่อ COCOCO จาก earnings momentum Q3/67 ที่คาดจะยังสามารถทำ new high ได้ เบื้องต้นยังคาดที่ราว 250-260 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 15% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 60% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่ในส่วนผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่า จากที่ channel check ยังไม่มีนัยฯมาก ประเมินยอดขาย           ประเมินยอดขายปี 2568 มีโอกาสทะลุ 1 หมื่นลบ. (เร็วกว่าเป้าหมายเดิมปี 2568-2569 ที่ 8.4พันล้านบาท และ 1 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ) เบื้องต้นคิดเป็น upside จากประมาณการปี 2568 ของฝ่ายวิเคราะห์และตลาดที่ราว 15-20% อย่างไรก็ตาม ประเมินยังต้องติดตามผลกระทบต่อยอดขายหากบริษัทมีการปรับราคาใหม่ เพื่อสะท้อนต้นทุน และค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น คำแนะนำ           ซื้อ จากแนวโน้มกำไรที่ยังเติบโตได้ดี และแผนขยายธุรกิจในปี 2568

[Gossip] COCOCO เดินทางไปจีน รับออเดอร์ตุนปีหน้า

[Gossip] COCOCO เดินทางไปจีน รับออเดอร์ตุนปีหน้า

          ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ของบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO เดินทางไปยังประเทศจีน  ช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อสำรวจตลาด และเยี่ยมชมกิจการของคู่ค้าในประเทศจีน นอกจากนี้ ทางผู้บริหาร ยังพบปะลูกค้า เพื่อรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ในปีหน้าเรียบร้อยแล้วและมีแนวโน้มเติบโต 40-50%จากปีก่อน  ซึ่งส่วนตัวมองว่า การที่ประเทศจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค  และ COCOCO รับอานิสงส์เชิงบวกด้วยเช่นกัน           ขณะเดียวกัน อัตราแลกเปลี่ยนในช่วงนี้ที่มีความผันผวน ทางบริษัทแจ้งมีการป้องกันความเสี่ยง ทำ Forward Contract เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินไว้ล่วงหน้า และมีการใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงิน หยวน ในการซื้อขายเพิ่มขึ้นซึ่งมีความผันผวนน้อย           ในส่วนของฐานการผลิตของบริษัทฯ แข็งแกร่ง โดยตั้งแต่หลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ได้นำเงินระดมทุนเสริมทัพการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีไลน์ผลิตเพิ่มขึ้น หนุน Utilization rate น้ำมะพร้าว ทำให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

โผหุ้นรับกระตุ้นศก.จีน

โผหุ้นรับกระตุ้นศก.จีน

          หุ้นวิชั่น รายงานว่า บล. DAOL เผยว่า จีนเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังเศรษฐกิจชะลอตัว เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2024 ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินและมาตรการสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ครงั้ ใหญ่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กา ลังเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด และมีความเสี่ยงที่จะไม่บรรลุเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ โดย PBOC ประกาศปรับลดปริมาณการตงั้ เงินสา รองไว้ที่อัตราที่ต่า ที่สุดตงั้ แต่ปี 2020 และปรับลดอัตราดอกเบ้ยี นโยบาย ซึ่งถือเป็นครงั้ แรกในรอบทศวรรษที่มาตรการทงั้ สองถูกปรับลดในวันเดียวกัน นอกจากนี้ผู้ว่าการธนาคารกลางยังประกาศมาตรการสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ โดยมีรายละเอียดมาตรการของ PBOC ไว้ดังนี้ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Reverse Repo Rate ระยะ 7 วัน ลงจาก 1.7% เป็น 1.5% ปรับลดอัตราส่วนการตั้ง เงินสำรอง (Reserve Require Ratio) ลง 0.50% ปล่อยสภาพคล่องจำนวน 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 142 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ปรับลดอัตราดอกเบ้ยี ระยะกลาง (Medium-Term Lending Facility) ลง 0.3% ปรับลดอัตราเงินดาวน์ขนั้ ต่า สา หรับผ้ซู ื้อบ้านหลังที่ 2 ลงจาก 25% เป็น 15%           การผ่อนคลายนโยบายการเงินในครั้ง นี้มากกว่าทนีั่กเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาด และมีโอกาสในการผ่อนคลายเพิ่มเติมในไตรมาสต่อๆ ไป หลังจากที่ Fed ปรับลดอัตราดอกเบ้ยี ลงมามากกว่าคาด DAOL มองเป็น sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีน เช่น กลุ่มปิโตรเคมีและแพ็กเกจจิ้ง, พลังงานต้นน้ำ , โลจิสติกส์, ยางพารา และส่งออกอาหารไปจีน กลุ่มปิโตรเคมีและแพ็คเกจจิ้ง (PTTGC, IVL, IRPC, SCC, SCGP) เนื่องจากอา นาจในการซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้นเสริมให้มีการอุปโภคบริโภคภายในประเทศสูงขึ้น ทงั้ นี้ เราเชื่อว่า SCGP จะได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากมีรายได้โดยตรงจากส่งออกไปจีน พลังงานต้นนา้ (PTTEP, BANPU) เนื่องจากอา นาจในการซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้นจะส่งผลบวกต่อความต้องการใช้พลังงานต้นนา้ ทงั้ นี้ เราเชื่อว่า PTTEP จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการที่จีนเป็นผู้นา เข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก โลจิสติกส์ (RCL, PSL, WICE, LEO, SJWD) เนื่องจากจะส่งผลบวกต่อกิจกรรมการขนส่งดีขึ้น จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดย RCL และ PSL จะได้ประโยชน์มากกว่าจากอัตราค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยางพารา (STA, TEGH, NER) เนื่องจากจีนเป็นตลาดส่งออกยางสา คัญของไทย โดยเฉพาะยางแท่ง ซึ่งตลาดจีนคิดเป็นสัดส่วนราว 40-50% ของส่งออกยางแท่งรวม ทงั้ น้เี ราคาด STA จะได้ประโยชน์มากสุด เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากจีนสูงถึง 50% ส่งออกอาหารไปจีน (TKN, COCOCO, PLUS) เนื่องจากจีนเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของผู้ประกอบการหลายราย โดย COCOCO มีสัดส่วนรายได้จากจีนประมาณ 28% ของรายได้รวม ส่วน PLUS มีสัดส่วนมากกว่า 20% ขณะที่ TKN มีสัดส่วนรายได้จากจีนที่ 22-24% ของรายได้รวม Top picks เราเลือก SCGP, PTTEP, NER, COCOCO