#CK


โบรกแนะหุ้นอะไร?  หลัง กนง. คงอัตราดอกเบี้ย 2.25% 

โบรกแนะหุ้นอะไร? หลัง กนง. คงอัตราดอกเบี้ย 2.25% 

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.เอเซีย พลัส เผยแม้ FED จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ตามคาด แต่มุมมองที่ดูระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดดอกเบี้ยทำให้ FEDWATCH TOOL แสดงถึงโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยปี 2568 มีเพียง 2 ครั้ง ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งมี VALUATION ที่แพงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมีแรงขายทำกำไรออกมา โดยดัชนีราคาหุ้นหลักปรับลดตั้งแต่ 2.58% จนถึง 3.6% และ หนุนให้ BOND YIELD ปรับสูงขึ้น           กลับมาที่บ้านเรา กนง. วานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% ตามคาด แต่เริ่มสะท้อนมุมมองเชิงกังวลต่อภาพเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งหากมีสัญญาณไม่ดีก็พร้อมจะพิจารณาดอกเบี้ย โดยภาพรวมเชื่อว่าจากนี้ไป ดอกเบี้ยจะอยู่ในภาวะลงช้าและลงน้อย ส่วนเรื่องอื่นที่อยู่ในความสนใจคือ การเมืองในประเทศที่คาดว่าจะมีแนวโน้มร้อนแรงขึ้นตามลำดับ ในปี 2568 ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลงแรง น่าจะส่ง SENTIMENT เชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยในเช้าวันนี้ ในทาง TECHNICAL ดูแนวรับแรกที่ 1390 จุด ถัดไปที่ 1384 จุด แนวต้าน 1410 จุด TOP PICK เลือก CK, PTTGC และ WHA

CK ตั้งงบซื้อหุ้นคืน 3พันล. ไม่เกิน130ล. หุ้นราคาเฉลี่ย 23 บ.

CK ตั้งงบซื้อหุ้นคืน 3พันล. ไม่เกิน130ล. หุ้นราคาเฉลี่ย 23 บ.

         หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอ ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาท และจำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็น 7.7% ซึ่งไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2024-1 มิ.ย. 2025 (ที่มา: SET) มีมุมมองเป็นบวก โดยแผนซื้อหุ้นคืนดังกล่าว imply ราคาซื้อคืนเฉลี่ยที่ 23 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันราว +26% ทำให้เรามองว่าจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้นได้           สำหรับแนวโน้ม 4Q24E เบื้องต้นคาดการณ์กำไรจะทรงตัว YoY และจะกลับมาอ่อนตัว QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลของ CKP รวมถึงฐานสูงใน 3Q24 ที่หลวงพระบาง พาวเวอร์มีอานิสงส์จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน แต่จะถูกชดเชยบางส่วนจากรายได้ก่อสร้างสูงขึ้นตามการรับรู้ backlog ทั้งนี้คงกำไรปกติปี 2024E/25E ที่ 1.6 พันล้านบาท/2 พันล้านบาท (+12% YoY/+21% YoY) คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท อิง SOTP

CK โตตามBacklog เคาะ

CK โตตามBacklog เคาะ "ซื้อ" เป้า 27.50 บาท

  หุ้นวิชั่น -ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) CK (ซื้อ/เป้า 27.50 บาท) 2025E โตตาม backlog แม้ 4Q24E ยังไม่มีประมูลโครงการใหม่ คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 27.50 บาท อิง SOTP ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) แม้ 4Q24E ดอกเบี้ยจ่ายอาจทรงตัวสูง QoQ และไม่มีประมูลโครงการใหม่ แต่แนวโน้ม ดอกเบี้ยจ่ายปี 2025E จะทยอยลดลง ขณะที่ backlog ปัจจุบันยังแข็งแกร่ง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1) เบื้องต้นตั้งเป้ารายได้และ GPM ปี 2025E จะโตตามการรับรู้ backlog (คาดรายได้โต +8% YoY และ GPM ดีขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่7.3%) ขณะที่งานโยธาสายสีส้ม เริ่มทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่กลาง พ.ย. 2024, 2)แม้ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้อาจไม่เห็นการเปิดประมูลโครงการใหญ่ แต่ YTDเซ็นงานใหม่สูงถึง 1.2 แสนล้านบาทแล้ว, และ 3) ดอกเบี้ยจ่าย 4Q24E ทรงตัวสูง QoQ จากเงินกู้ระยะสั้นสูงขึ้นชั่วคราวตามการเร่งงาน อย่างไรก็ตามคาดการณ์ปี 2025E จะทยอยปรับตัวลงเราคงกำไรปกติปี 2024E/25E ที่ 1.6 พันล้านบาท/2 พันล้านบาท (+12% YoY/+21% YoY) แต่มองว่าประมาณการปี 2024E อาจมี upside หลังส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม 9M24 สูงกว่าคาด สำหรับ 4Q24E เบื้องต้นประเมินกำไรปกติจะทรงตัว YoY แต่จะอ่อนตัว QoQ โดยหลักจากปัจจัยฤดูกาลของ CKP ราคาหุ้น underperform SET -13% ใน 3 เดือน เนื่องจากปัจจัยการเมือง อย่างไรก็ตามยังแนะนำ “ซื้อ” โดยคาดรายได้ก่อสร้างจะเร่งตัวมากขึ้นตั้งแต่ปี 2025E ขณะที่ระดับ backlog ปัจจุบันที่ 2.2 แสนล้านบาทจะช่วย secure รายได้อย่างน้อยใน 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้มีcatalyst จากโครงการ Double Deck ของ BEM มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท คาดได้ข้อสรุปใน 1Q25E

เปิดโผหุ้นเด่น น่าสะสม 1 ปี ขึ้นไป มองปีหน้ากำไรเติบโตต่อ

เปิดโผหุ้นเด่น น่าสะสม 1 ปี ขึ้นไป มองปีหน้ากำไรเติบโตต่อ

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.เอเชียพลัส สำรวจหุ้น พบว่า หลังโควิดถึงปัจจุบัน การลงทุนในตลาดหุ้นไทยยากขึ้น ถูกกดดันจากเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตช้า และต่ำคาด, การเมืองไม่นิ่ง, FUND FLOW ชะลอไหลเข้า กดดันให้ ในปี 2022, 2023, 2024YTD มีสัดส่วนจำนวนหุ้นทั้งหมดในดัชนี SET และ MAI ที่ให้ผลตอบแทนรายปีเป็นบวกน้อยกว่าครึ่ง หรือเพียง 31%, 14%, 26% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่า ตลาดมีจำนวนหุ้นบวกรายปีต่ำ ทำให้การลงทุนต้อง พิถีพิถัน และเน้น SELECTIVE BUY มากขึ้น ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการศึกษา และค้นหาหุ้นที่คาดว่าจะเอาชนะตลาด และน่าสะสม สะสมระยะ 1 ปีขึ้นไป ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้ เลือกหุ้นที่มี SAFETY MARGIN สูง โดยปกติตลาดหุ้นและหุ้นมักจะไม่ลบ ติดต่อกัน 2 ปี ทำให้หุ้นที่ย่อตัวลงมาในปีนี้ ช่วยลด DOWNSIDE RISK ลงไป ระดับหนึ่งแล้ว เลือกหุ้นที่กำไรปีหน้ามีโอกาสเติบโตเด่น โดยสังเกตได้จากหุ้นที่ขึ้นแรง อันดับต้นๆใน SET100 ในแต่ละปี มักเป็นหุ้นที่กำไรปีนั้นเติบโตเด่นมาก ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหา กลุ่มหุ้นที่ราคาย่อตัวลงมาเยอะ แต่กำไรมี โอกาสเติบโตเด่นในปี 2568 อาทิ PETRO, CONS, MEDIA, TOURISM, CONMAT, ENERG, PKG, FIN และเลือกหุ้นเด่นน่าลงทุนจากในกลุ่มนี้ ได้ผลลัพธ์ หุ้นเด่นน่าเข้าสะสมหวังผลในระยะ 1 ปีขึ้นไป คือ SCC, SCGP, MINT, GPSC, CK เป็นต้น นอกจากนี้  ฝ่ายวิจัยฯ ยังค้นหาจุดน่าเข้าสะสมที่เหมาะสมที่สุดรายบริษัท จากการหา OPTIMIZATION  ในกรอบการซื้อขาย ผ่านตัวชี้วัดทางเทคนิค อย่าง RSI โดยการ ทดสอบย้อนหลังในระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา ผลลัพธ์จะได้ช่วงซื้อ (RSI กรอบล่าง) และช่วงขาย (RSI กรอบบน) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีสุดสำหรับหุ้นตัวนั้นๆ

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

โบรกจับตา CK Q1/68 แกร่ง Valuation น่าสน แนะซื้อ 

โบรกจับตา CK Q1/68 แกร่ง Valuation น่าสน แนะซื้อ 

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.กรุงศรี ระบุว่า หลังจากการประชุมกับทาง CKP เราคาดว่าผลประกอบการจะยังคง แข็งแกร่งใน 1Q25 เนื่องจาก (1) ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่สูงขึ้น และอ่างเก็บน้ำที่เขื่อน Xiaowan และเขื่อน Nuozhadu ส่งผ่านมายังเขื่อนในลาว ทำให้มั่นใจว่ามีระดับน้ำสำหรับการผลิตไฟฟ้าสูงกว่า 1Q ตามปกติ (2) โรงไฟฟ้า NN2 คาดว่าจะมีการผลิตไฟเพิ่มขึ้น และ (3) โรงไฟฟ้า XPCL ผลิตไฟฟ้าได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ใน Oct-24 ถึง 18% และคาดว่าจะเกินเป้าใน Nov-24 เช่นเดียวกัน          เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 5.20 บาท สำหรับ CKP จากการคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิ 39.5% YoY ในปี 2025F และ valuation ที่น่าสนใจ (PBV 0.9 เท่า) คาด 1Q25F จะดีกว่าไตรมาส 1 ปกติ - เราคาดว่าผลประกอบการใน 1Q25 จะแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจาก La Nina ที่ทำให้ระดับน้ำในเขื่อน Xiaowan และ Nuozhadu ในประเทศจีนอยู่ในระดับสูง และเริ่มมีการปล่อยน้ำลงมาสู่แม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนการผลิตไฟฟ้าของเขื่อนในลาว นอกจากนี้ XPCL ยังผลิตไฟฟ้าได้เกินเป้าไปแล้วถึง 18% ใน Oct-24 และคาดว่าจะเกินเป้าเช่นกันใน Nov-24 - CKP มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net D/E) อยู่ที่เพียง 0.6 เท่า ณ สิ้น Sep-24 คาดว่าจะมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเพื่อเสริมมูลค่าให้บริษัท โดยมองการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น โครงการพลังงานลมในเวียดนาม รวมถึงบริษัทยังสนใจลงทุนในโครงการ Third-Party Access (TPA) ในประเทศไทย หากมีการปลดล็อก - บริษัทได้จัดสรรงบลงทุน 2.7 พันล้านบาท (CAPEX) โดยส่วนใหญ่จะใช้สำหรับโครงการหลวงพระบาง (LPCL) และส่วนที่เหลือสำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย - เนื่องจากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เราคาดว่า NN2 และ XPCL น่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสูงกว่าหนี้สินสกุลดอลลาร์ คงคำแนะนำ BUY ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.20 บาท          ราคาเป้าหมายเราคิดจากวิธี DCF โดยมีสมมติฐาน 2.5% risk-free rate, 8% market risk premium, และ 1.2 beta หากไม่รวมมูลค่าของ LPC ราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 4.1 บาท

CK กำไร Q3 ดีกว่าคาด โบรกเล็งพื้นฐาน 27.50บ. จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม

CK กำไร Q3 ดีกว่าคาด โบรกเล็งพื้นฐาน 27.50บ. จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม

          หุ้นวิชั่น - บล. ดาโอ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 27.50 บาท อิง SOTP CK รายงานกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 1 พันล้านบาท (+57% YoY, +106% QoQ) สูงกว่าตลาดคาด +23% ได้ปัจจัยหนุนจาก 1) รายได้ก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น +5% YoY, +2% QoQ เป็นไปตามฐาน backlog สูงขึ้นอยู่ที่ราว 2.1 แสนล้านบาท จาก 3Q23 ที่ 1.4 แสนล้านบาท และ 2Q24 ที่ 1.1 แสนล้านบาท และ 2) ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมปรับตัวดีขึ้น +79% YoY, +212% QoQ หนุนโดยปัจจัยฤดูกาลของ CKP, ผลการดำเนินงาน BEM ทำสถิติสูงสุดใหม่ตาม ridership, และหลวงพระบาง พาวเวอร์มีอานิสงส์จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน แต่ปัจจัยเหล่านี้ถูกชดเชยบางส่วนจากค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงขึ้นตามทิศทางเงินกู้ เราคงกำไรปกติปี 2024E/25E ที่ 1.6 พันล้านบาท/2 พันล้านบาท (+12% YoY/+21% YoY) โดยเบื้องต้นยังคงสมมติฐานรายได้และ GPM ธุรกิจก่อสร้างและส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม สำหรับ 4Q24E เบื้องต้นประเมินแนวโน้มกำไรจะกลับมาชะลอ QoQ จากปัจจัยฤดูกาลของ CKP ราคาหุ้น underperform SET -12% ใน 3 เดือน เนื่องจาก noise ปัจจัยทางการเมือง อย่างไรก็ตามเรายังชอบ CK ต่อเนื่อง จาก backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.1 แสนล้านบาท โดยเราคาดจะเห็นการเร่งตัวของรายได้ก่อสร้างมากขึ้นตั้งแต่ปี 2025E ตาม progress งาน นอกจากนี้ยังมีโอกาสเติมงานใหม่จากโครงการ Double Deck ของ BEM มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าใน 4Q24E-1H25E

CK รอรอบงานรับเหมา งานในมือ 2.1 แสนล. ค้ำ

CK รอรอบงานรับเหมา งานในมือ 2.1 แสนล. ค้ำ

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บทวิเคราะห์ บล. ดาโอ ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” CK แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 27.50 บาท (เดิม 29.00 บาท) อิง SOTP ตามการปรับประมาณการลง เราประเมินกำไรปกติ 3Q24E ที่ 660 ล้านบาท (+3% YoY, +35% QoQ) แม้กำไรปรับตัวดีขึ้น แต่ต่ำกว่ากรอบเราประเมินเบื้องต้นที่ราว 700-750 ล้านบาท กำไรปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย YoY เป็นผลจากค่าใช้จ่ายทางการเงินปรับตัวลง แต่ถูก offset บางส่วนจากส่วนแบ่งกำไร CKP ลดลงหลังเขื่อนไซยะบุรีมีการหยุดผลิตไฟฟ้าชั่วคราวจากปริมาณน้ำมากเกินไป รวมถึง GPM อ่อนตัวเนื่องจากโครงการเดิมที่มี GPM ดี เริ่มอยู่ในช่วงท้ายงาน และงานใหม่ยัง contribute ไม่มาก            ขณะที่กำไรขยายตัว QoQ ได้อานิสงส์จากปัจจัยฤดูกาลของ CKP และ BEM เราปรับกำไรปกติปี 2024E/25E ลง -10%/-6% เป็น 1.6 พันล้านบาท/2 พันล้านบาท (+12% YoY/+22% YoY) ตามการปรับประมาณการ CKP รวมถึงปรับสมมติฐาน GPM และรายได้ก่อสร้างลง            สำหรับ 4Q24E แม้แนวโน้มกำไรจะอ่อนตัว QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลของ CKP แต่จะโตต่อเนื่อง YoY ตามทิศทาง backlog และ progress งานใหญ่เร่งตัวมากขึ้น ราคาหุ้น underperform SET -7% ใน 1 เดือน แม้จะมี noise จากปัจจัยทางการเมือง            แต่คงมุมมองบวกต่อ CK จาก backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบและลดความเสี่ยงหากการเปิดประมูลงานใหม่ล่าช้า            นอกจากนี้มี catalyst จากโครงการ Double Deck ของ BEM มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท คาดได้ข้อสรุปใน 4Q24E-1H25E

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต