#CHOW


CHOW ฮอต!พลังงานโตแรง เกาะเทรนด์ Carbon Neutral

CHOW ฮอต!พลังงานโตแรง เกาะเทรนด์ Carbon Neutral

          หุ้นวิชั่น – CHOW เกาะติดเทรนด์ Carbon Neutral ฟากผู้บงริหาร “ปรมัตถ์ จุฬวนิช” ตั้งเป้ากำลังผลิตเหล็กปี 68 แตะ 4 แสนตัน ชี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ด้านธุรกิจพลังงานฮอต! ผู้ประกอบการตื่นตัว ลุยปรับกระบวนการผลิต หันมาใช้พลังงานทดแทนมากสุด กางแผนดันสัญญารับซื้อไฟชน 200 เมกะวัตต์           นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจเหล็กในปีที่ผ่านมาเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก และคาดว่าในปี 2568 ความท้าทายจะยังคงอยู่ โดยอุปสงค์ในตลาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะที่ราคาวัตถุดิบและค่าไฟฟ้าคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2567           สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้า บริษัทมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับแนวคิด Carbon Neutral หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ภายหลังจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเหล็ก รวมถึงการรักษาสภาพคล่องโดยการให้เครดิตธุรกิจเหล็กในปริมาณที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้           ปัจจุบันบริษัทมีใบอนุญาตหรือไลน์เซ่นส์กำลังการผลิตเหล็กที่ 730,000 ตัน โดยมีการใช้กำลังการผลิตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรืออุตสาหกรรมถึง 2 เท่า สำหรับเป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจเหล็กในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิต 400,000 ตัน หรือเพิ่มปริมาณการผลิตให้สูงขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทจะมุ่งเน้นรักษาอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ที่ดี และให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพหนี้ รวมถึงการบริหารการให้เครดิตแก่ลูกค้าอย่างรอบคอบ           ด้านธุรกิจพลังงาน แนวโน้มธุรกิจมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Carbon Neutral หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ทำให้ผู้ประกอบการตื่นตัวและปรับกระบวนการผลิตโดยใช้พลังงานทดแทนให้มากที่สุด           จุดเด่นของธุรกิจพลังงานของ CHOW คือ ระบบวิศวกรรมที่มีความทันสมัยและการดำเนินการทั้งในรูปแบบโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟท็อป โดยบริษัทได้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์กว่า 10,000 แห่งทั่วทุกจังหวัด นอกจากนี้ CHOW ยังมีฐานเงินทุนที่มั่นคงและพาร์ทเนอร์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านพลังงาน ซึ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานของบริษัท           นายปรมัตถ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีสัญญารับซื้อไฟฟ้าและอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการพลังงานรวมทั้งสิ้น 100 เมกะวัตต์ ส่วนในปี 2568 คาดว่าจะมีสัญญารับซื้อไฟฟ้าถึง 200 เมกะวัตต์ และในปี 2569 จะเพิ่มขึ้นไปถึง 300 เมกะวัตต์ โดยจะมุ่งเน้นโครงการพลังงานภายในประเทศเป็นหลัก           บริษัทเชื่อว่า ภาคธุรกิจพลังงานยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ CHOW จะมุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและธุรกิจซัพพลายเชน โดยเฉพาะธุรกิจส่งออก ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากแนวคิด Carbon Neutral หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision              

อนาคต CHOW นวัตกรรมเหล็ก - พลังงานยังยืน | จัดเต็มการลงทุน

อนาคต CHOW นวัตกรรมเหล็ก - พลังงานยังยืน | จัดเต็มการลงทุน

https://youtu.be/zu62CtFCB88 อนาคต CHOW นวัตกรรมเหล็ก - พลังงานยังยืน | จัดเต็มการลงทุน ติดตามรายการ จัดเต็มการลงทุน ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 9.00-9.30 น. ทาง ททบ.5

CHOW ปรับทัพสู่ Holding เหล็กแกร่ง-ธุรกิจไฟฟ้าปัง!

CHOW ปรับทัพสู่ Holding เหล็กแกร่ง-ธุรกิจไฟฟ้าปัง!

         หุ้นวิชั่น - บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ประกาศความพร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่มิติใหม่ ภายใต้โครงสร้าง Holding Company เสริมแกร่งพอร์ตการลงทุน 3 ธุรกิจหลัก พร้อมเปิดโอกาสการเติบโตในอนาคต นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) และธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ กล่าวว่า บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) เปิดศักราชใหม่ทางธุรกิจด้วยการประกาศความสำเร็จในการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งประวัติศาสตร์ ก้าวสู่การเป็นบริษัทลงทุนเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ธุรกิจโลกโดยการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญนี้จะทำให้ CHOW ขึ้นสู่ความแข็งแกร่งในทุกมิติ ธุรกิจเหล็ก: ยกระดับสู่ความเป็นเลิศด้านการผลิต บริษัทฯ ประกาศจัดตั้ง "บริษัท เชาว์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด" เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กโดยเฉพาะ พร้อมรับการถ่ายโอนทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจาก บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การควบคุมต้นทุน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจพลังงานทดแทน: ขยายการลงทุนในประเทศและระดับนานาชาติ บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตและพอร์ตการลงทุนในโครงการใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศต่างๆ ธุรกิจการเงิน: นวัตกรรมทางการเงินเพื่อเศรษฐกิจฐานราก การจัดตั้ง "บริษัท กัปตัน แคช โฮลดิ้ง จำกัด" นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจสู่ภาคการเงิน มุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและ Nano Finance เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนฐานราก สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า การปรับโครงสร้างสู่การเป็น Holding Company นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการบริหารจัดการทางการเงินของ CHOW โดยบริษัทได้วางแผนการบริหารเงินทุนอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งการจัดสรรทรัพยากรและการบริหารความเสี่ยง ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถกำหนดแหล่งเงินทุนให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ เพิ่มความโปร่งใสในการบริหารจัดการ พร้อมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เพิ่มความคล่องตัวในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด และสร้างโอกาสในการขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ "การปรับโครงสร้างครั้งสำคัญนี้จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของ CHOW สู่อนาคต เราพร้อมที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่สอดคล้องกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งด้านดิจิทัล พลังงานสะอาด และนวัตกรรมทางการเงิน โดยมุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในระดับสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน" นายปรมัตถ์ กล่าว

5 หุ้นเด่นพื้นฐานดี สาย “VI” ต้องดู

5 หุ้นเด่นพื้นฐานดี สาย “VI” ต้องดู

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน พบบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ  (mai) พื้นฐานดีเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการค้นหาหุ้นตามแนวทาง Value Investor (VI) โดยคัดเลือกหุ้นที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง P/E ต่ำ และอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ไม่เกิน 1 เท่า           โดยมี 5 อันดับ ประกอบไปด้วย           บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW กลุ่มอุตสาหกรรม INDUS โดยมี P/E ที่ 3.50 เท่า อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.60 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง 1.32 เท่า และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 3.36%           บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC กลุ่มอุตสาหกรรม SERVICE โดยมี P/E ที่ 4.07 เท่า อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.50 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง 2.01 เท่า และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 22.44%           บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) หรือ TMW กลุ่มอุตสาหกรรม INDUS โดยมี P/E ที่ 4.36 เท่า อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.27 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง 2.69 เท่า และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 23.54 %           บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM กลุ่มอุตสาหกรรม INDUS  โดยมี P/E ที่ 5.35 เท่า อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.81 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง 1.54 เท่า และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 15.38%           และ  บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND กลุ่มอุตสาหกรรม PROPCON โดยมี P/E ที่ 5.48 เท่า อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.73 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง  2.01 เท่า และอัตรากำไรขั้นต้นที่  20.95           ล่าสุด ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND   เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างโครงการออกแบบพร้อมก่อสร้างสถานีสูบถ่ายและเพิ่มแรงดันสระบุรี โครงการส่วนต่อขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 สระบุรี – อ่างทอง กับบริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด มูลค่าสัญญา (ก่อนภาษี)  524,866,927.00 บาท ระยะเวลาดำเนินการ  22 เดือน  และลงนามสัญญาว่าจ้างโครงการออกแบบพร้อมก่อสร้างสถานีรับน้ำมันอ่างทอง โครงการส่วนต่อขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 สระบุรี – อ่างทอง มูลค่าสัญญา มูลค่าสัญญา (ก่อนภาษี)  123,034,900.00 บาท ระยะเวลาดำเนินการ  22 เดือน คิดเป็นมูลค่ารวม 647.90 ล้านบาท (ก่อน Vat)           ทั้งนี้ภายหลังจากการรับงานใหม่ ส่งผลให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นสุด ณ วันที่ 29 ต.ค. 67 เพิ่มเป็น 1,832.10 ล้านบาท   (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)  โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ จากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงขยายงานของภาคเอกชนให้มากขึ้น เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มศักยภาพผลการดำเนินงานให้แข็งแกร่ง รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว HoonVision  (ที่มาจาก https://www.settrade.com/th/ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ต.ค.67)

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[Vision Exclusive] CHOW เทรนด์ไฟฟ้ามาแรง ดันกำลังชน 300 Mw

[Vision Exclusive] CHOW เทรนด์ไฟฟ้ามาแรง ดันกำลังชน 300 Mw

          นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เชาว์สตีลอินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ยังคงมีโมเมนตัมที่ดี ทั้งในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็ก รวมถึงธุรกิจพลังงาน           สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลักหรือมากกว่า 10% นอกจากนี้ ยังคาดว่าผลประกอบการในปี 2567 จะดียิ่งขึ้น เนื่องจากยอดขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ว่าปี 2566 จะมีอัตราการเติบโตที่สูงเนื่องจากการรับรู้รายการพิเศษ แต่หากพิจารณาผลงานจากการดำเนินธุรกิจปกติแล้ว ก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง           ในส่วนของธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ในอุตสาหกรรมเหล็ก คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีก่อน โดยปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีปริมาณการขายเหล็กจาก OEM ประมาณ 400,000 ตัน และจากการซื้อขาย (เทรดดิ้ง) อีก 200,000 ตัน หลังจากที่ได้ขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการผลิต           ปัจจุบัน ไลน์การผลิตเหล็กของบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 730,000 ตันต่อปี โดยมีโอกาสเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกในอนาคต ทั้งนี้บริษัทมีแผนโฟกัสการผลิตในช่วงกลางคืน เนื่องจากต้นทุนการผลิตในช่วงเวลาดังกล่าวต่ำกว่า           นายปรมัตถ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจพลังงานในภาพรวมขณะนี้มีความคึกคัก โดยเฉพาะจากโครงการที่ภาครัฐทยอยประกาศออกมา รวมถึงโครงการ Private PPA ที่เจาะกลุ่ม B2B ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทเอกชนหรือองค์กรขนาดใหญ่ โดยมีการติดตั้งและขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่มีการขยายตัวสอดคล้องกับเทรนด์การลดคาร์บอนเครดิต           ทั้งนี้ กระแสตอบรับจากโครงการ Private PPA มีแนวโน้มที่ดีมาก โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ค้า (Vender) หลายรายเพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบดังกล่าว           สำหรับปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 250 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิตเกือบ 200 เมกะวัตต์ และอาจเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 300 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับทิศทางของโครงการและนโยบายจากภาครัฐ รายงานโดย มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

[Vision Exclusive] CHOW ชูธงโฮลดิ้งต่อยอด

[Vision Exclusive] CHOW ชูธงโฮลดิ้งต่อยอด

          รู้หรือไม่! บริษัทเชาว์สตีลอินดัสทรี้จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 21 ธันวาคม 2554 โดยดำเนินธุรกิจประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet)  และพัฒนาการที่สำคัญต่อมา ประมาณปี 2556 CHOW จัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อลงทุน การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงาน           ล่าสุด CHOW ปรับโครงสร้างกิจการของบริษัท เป็นบริษัทโฮลดิ้งซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการลงทุน (Holding Company) ถือหุ้นในธุรกิจเดิมที่มีอยู่ผ่านบริษัทย่อย สำหรับธุรกิจเหล็กได้ตั้งบริษัทย่อย บริษัท เชาว์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ขึ้นมาดำเนินธุรกิจเหล็กในเครือ CHOW ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2567           ภายหลังการรับโครงสร้างกิจ CHOW จะมีสถานเป็นบริษัท โฮลดิ้ง ที่ลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจเหล็กถือหุ้นผ่าน บริษัท เชาว์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ในสัดส่วน 99.99% ธุรกิจพลังงานทดแทนถือหุ้นผ่าน บริษัท  เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 87.36% และธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลผ่าน บริษัท กัปตัน แคช โฮลดิ้ง จำกัด ในสัดส่วน 76% ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ที่ได้ดำเนินธุรกิจมาแล้วประมาณ 2 ปี หลังจากที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในปี 2564           ปัจจุบันกลุ่มบริษัท CHOW มีธุรกิจหลัก 2 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว (Steel Billet) และธุรกิจพลังงานซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของบริษัท           การปรับโครงสร้างเป็น Holding Company ของ CHOW ไม่เพียงแค่เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ แต่ยังมุ่งเน้นธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทางสิ่งแวดล้อม ผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัย สอดคล้องกับทิศทางของหน่วยงานและองค์กร ต่างๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดย CHOW มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและพัฒนาแนวทางธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างยั่งยืนในอนาคต           นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัทเชาว์สตีลอินดัสทรี้จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า การปรับโครงสร้างภายในองค์กรจะช่วยให้ภาพรวมของธุรกิจที่มีอยู่ 2-3 ธุรกิจชัดเจนยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน CHOW มีรายได้หลักจาก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว และธุรกิจพลังงาน ส่วนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลไม่ได้มีนัยสำคัญต่อบริษัทมากนัก           การปรับโครงสร้างังกล่าวีเป้าหมายเพื่อลดข้อำกัดในการลงทุนสำหรับผู้ที่สนใจในธุรกิจของ CHOW โดยทำให้แต่ละธุรกิจมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับการขยายตัวและสร้างโอกาสทางธุรกิจ           ในปี 2567 ธุรกิจเหล็กยังคงเผชิญกับการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ เนื่องจากต้นทุนที่ต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านค่าแรงหรือการผลิตภายในประเทศ ทำให้การนำเข้าเหล็กมีต้นทุนที่ถูกกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าราคาเหล็กได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจและกลไกการลงทุนที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณจากภาครัฐที่เริ่มดำเนินการ ทำให้ความต้องการใช้เหล็กในงานสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น           ในปี 2567 บริษัทคาดว่ายอดขายเหล็กจะเติบโตในอัตราเลขสองหลัก (2Digit Growth) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณและความต้องการใช้เหล็กในตลาดที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทได้ปรับปรุงเครื่องจักรในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ           นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นการบริหารจัดการอย่างรัดกุม โดยขยายฐานลูกค้าด้วยความระมัดระวัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการเงินและลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ           ส่วนธุรกิจพลังงานมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้น สอดคล้องกับการขยายตัวของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทที่มีเป้าหมายในพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตยไม่น้อยกว่า 250 เมกะวัตต์ในปี 2567 โดยโครงการโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วรวม 46.74 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะทยอย COD เพิ่มเติมภายในปี 2567 อีกไม่น้อยกว่า 50 เมกะวัตต์           ทั้งนี้ ผลประกอบการ CHOW ในไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 39.53 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 9.42 ล้านบาท โดยสามารถพลิกมีกำไรได้ 48.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 519.5%           สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 129.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 12.9 ล้านบาท ส่งผลให้ลิกกลับมามีกำไรได้ถึง 142.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นางแรงที่ 1,107%