ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#BTG


BTG แกร่งสุด รับราคาเนื้อสัตว์พุ่ง

BTG แกร่งสุด รับราคาเนื้อสัตว์พุ่ง

             หุ้นวิชั่น -  บล.เคจีไอ ประเมินจากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเพิ่มขึ้นโดยราคาสุกรแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนที่ 83.1 บาท/กก. เนื่องจากอุปทานจำกัดซึ่งให้ภาพแนวโน้มเชิงบวกในช่วงครึ่งแรกของปีส่วนราคาไก่ก็ปรับตัวสูงขึ้น 3% อยู่ที่ 40.5 บาท/กก.ในทางตรงกันข้าม ราคาสุกรในประเทศจีนยังคงอ่อนแอกดดันผลประกอบการใน 1Q68F ของ Charoen Pokphand Foods (CPF.BK/CPF TB)’s*ในแง่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังคงอยู่ในระดับที่เอื้ออำนวย โดยราคาถั่วเหลืองทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ US$300/ton              ขณะที่การส่งออกไก่เพิ่มขึ้น 5% YoY ในเดือนกุมภาพันธ์ หนุนจากอุปสงค์ในสหภาพยุโรป (EU) และจีนแข็งแกร่งแม้ว่าในตลาดสำคัญอื่นๆ จะลดลงก็ตาม ทั้งนี้ แนวโน้มที่ดีเหล่านี้ตอกย้ำแนวโน้มผลประกอบการเชิงบวก สำหรับผู้ผลิตเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะบริษัท Betagro (BTG.BK/BTG TB)*,ซึ่งได้แรงหนุนจากราคาสุกรแข็งแกร่งและการเติบโตจากภายนอก (inorganic growth)              สถานการณ์ราคาโดยรวมยืนยันมุมมองเชิงบวกของฝ่ายวิจัยต่อผลกำไรของบริษัทผู้ผลิตเนื้อสัตว์ใน 1Q68F ขณะที่มองว่า Betagro (BTG.BK/BTG TB)* น่าจะมีโมเมนตัมแข็งแกร่งที่สุด หนุนจากราคาสุกรในประเทศที่แข็งแกร่งและการเติบโตแบบ inorganic (การรวมธุรกิจไข่ใหม่ในสิงคโปร์ เช่น Eggriculture)

BTG เลิกกิจการ 3 บริษัท รื้อผู้ถือหุ้นบริษัทย่อยทางอ้อม

BTG เลิกกิจการ 3 บริษัท รื้อผู้ถือหุ้นบริษัทย่อยทางอ้อม

           บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) (BTG) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568 เกี่ยวกับการเลิกกิจการของบริษัทย่อยทางอ้อม และการปรับโครงสร้างในบริษัทย่อยทางอ้อม โดยมีรายละเอียดดังนี้ มีมติอนุมัติให้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท เบทาโกร ฟู้ดส์ (สิงคโปร์) จำกัด (เบทาโกร ฟู้ดส์) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดยตรงที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 75 โดยเลิกกิจการของบริษัทย่อยทางอ้อม จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ 1. Eggriculture Foods Limited 2. Alliance Glory Ventures Limited 3. New Global Alliance Pte. Ltd. ทำให้บริษัทดังกล่าวสิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท เนื่องจากจะปรับโครงสร้างในบริษัทย่อยทางอ้อม            ทั้งนี้การเลิกกิจการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และบริษัทจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนเลิกบริษัทภายในปี 2568 และชำระบัญชี ให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนและปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน BlossomsFood Pte. Ltd. (BF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ทางอ้อมของบริษัท ถือหุ้นผ่านบริษัท N&N (ถือหุ้นทั้งหมดโดยเบทาโกร ฟู้ดส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นใน สัดส่วนร้อยละ 75) ประกอบธุรกิจจัดหาสินค้าและบริการ เกี่ยวกับอาหารและอุปกรณ์สำหรับศูนย์ดูแลเด็กใน ประเทศสิงคโปร์เพิ่มทุนจากทุนจดทะเบียนเดิม 200,000 หุ้น เป็น 500,000 หุ้น โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 300,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 000005 SGD คิดเป็นมูลค่า 1.5 SGD เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดย Mr. Ma Chin Chew ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวทั้งหมด ภายหลังการเข้าทำรายการจะทำให้ BF ถือหุ้นลดลงจากเดิม ร้อยละ 100 เป็นร้อยละ 40 และเปลี่ยนสถานะของ BF เป็นบริษัทร่วมทางอ้อมของบริษัท

BTG ทุ่มงบ 297 ล้าน เปิดโรงงานแปรรูปในลำปาง 

BTG ทุ่มงบ 297 ล้าน เปิดโรงงานแปรรูปในลำปาง 

          หุ้นวิชั่น  - บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” เดินหน้าขยายกำลังการผลิตด้วยงบลงทุน 297 ล้านบาท เปิดโรงงานแปรรูปไก่แห่งใหม่่อย่างเป็นทางการ บนพื้นที่ 15 ไร่ในจังหวัดลำปาง เพื่อรองรับความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์ไก่ในภาคเหนือที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้ซัพพลายเชนด้านอาหารและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารของไทย           นายสมศักดิ์ บุญลาภ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มปฏิบัติการผลิตปศุสัตว์และโรงงาน บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น สอดรับกับแรงหนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังคงมองหาแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ความต้องการเนื้อไก่ภายในประเทศมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น  เบทาโกรจึงขยายกำลังการผลิตด้วยการเปิดโรงงานแปรรูปไก่แห่งที่ 5 ที่ตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยเร่ิ่มดำเนินการผลิตแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ด้วยกำลังการผลิต 50,000 ตัวต่อวัน ส่งผลให้ศักยภาพการผลิตรวมของบริษัทเพิ่มเป็น 636,000 ตัวต่อวัน           โรงงานนี้ ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยี Smart Machine & Utility ที่สามารถควบคุมกระบวนการผลิตอาหารแบบเรียลไทม์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย พร้อมได้รับมาตรฐานรับรองระดับสากล อาทิ ใบรับรองการผลิตเนื้อไก่อนามัย (Q-Mark) และใบรับรองการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงฆ่าสัตว์ปีก (GMP) เป็นต้น ตลอดจนการดำเนินมาตรการจัดการน้ำเสียและของเสียครบวงจร และการใช้พลังงานสะอาดจาก Solar Rooftop และ Solar Carport ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 580 กิโลวัตต์ชั่วโมง นอกจากนี้ โรงงานแปรรูปไก่ลำปางยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนด้วยการจ้างงานบุคลากรในพื้นที่ถึง 80% ของบุคลากรทั้งหมด สนับสนุนเกษตรกรผ่านโครงการไก่เนื้อประกันราคา ตลอดจนการใช้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง           “โรงงานแห่งนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตของเบทาโกร แต่ยังยกระดับอุตสาหกรรมอาหารด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมเป็นโรงงานต้นแบบในการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น เรามุ่งสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง เติบโตไปพร้อมกับเกษตรกร ชุมชน และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารไทยอย่างยั่งยืน” นายสมศักดิ์ กล่าว           ปัจจุบัน เบทาโกรมีโรงงานแปรรูปไก่จำนวนทั้งสิ้น 5 แห่งในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดลพบุรี สมุทรสาคร พัทลุง มหาสารคาม และลำปาง

BTG ธุรกิจไข่ไก่สิงคโปร์หนุนโต โบรกแนะซื้อ เป้า 23.50 บาท

BTG ธุรกิจไข่ไก่สิงคโปร์หนุนโต โบรกแนะซื้อ เป้า 23.50 บาท

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.หยวนต้า ระบุ Betagro (BTG) แนวโน้มกำไรดีต่อถึง 1H25 เป็นอย่างน้อย ราคาหมูในประเทศฟื้น ราคาต้นทุนลง หนุนกำไร 1Q25 แนวโน้มกำไรปกติ 1Q25 คาดเติบโตต่อทั้ง QoQ และ YoY ตามทิศทางราคาหมูในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ราว 77 บาท/กก. (+5% QoQ) คาดเป็นผลจากปริมาณ Supply ที่ออกสู่ตลาดไม่มากนัก เพราะราคาเพิ่งพ้นระดับต้นทุนการเลี้ยงของเกษตรกรรายย่อย และคาดว่าราคาชิ้นส่วนหมูจะทยอยปรับขึ้นตามราคาหมูหน้าฟาร์ม ขณะที่ราคาไก่ทรงตัว QoQ ส่วนแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงยังอยู่ในแนวโน้มลดลง และบริษัทมีการบริหารจัดการสต็อกข้าวโพดที่ราคาต่ำถึงกลางปีนี้แล้ว ทำให้แนวโน้ม GPM ของ BTG คาดจะเร่งตัวขึ้นต่อ QoQ และ YoY            นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้ผลประกอบการของ Eggriculture ธุรกิจไข่ไก่ในสิงคโปร์เป็นไตรมาสแรก หนุนรายได้ราว 600-700 ลบ. บริษัทตั้งเป้าการเติบโตรายได้ปี 2025 ที่ 3 – 7% แบบ Conservative ดีล Eggriculture แม้สัดส่วนรายได้จะไม่สูง รายได้ปี 2024 อยู่ที่ราว 2.7 พันลบ. คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2.3% ของรายได้ BTG ในปี 2024 แต่มี NPM สูง 17.7% เทียบกับ BTG ที่ 2.2% ทำให้ประเมินว่าดีลดังกล่าวจะช่วยหนุนกำไรสุทธิของ BTG ได้ทันทีราว 200 – 300 ลบ./ปี (ตามสัดส่วนที่ BTG ถือ) คิดเป็นสัดส่วนราว 10 – 15% ของกำไรสุทธิของ BTG            นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตรายได้ปี 2025 ที่ 3 – 7% แบบ Conservative และยังไม่รวมดีล Eggriculture และตั้งเป้า GPM ที่ระดับ 13.5% - 15.0% สูงกว่าประมาณการเดิม จากแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยที่ดีขึ้น และแนวโน้มต้นทุนที่ลดลง รวมถึงจะรับรู้ผลของการทำ Transformation ด้านต้นทุนได้เต็มปีเป็นปีแรก ขณะที่ SG&A/Sales ตั้งเป้าทรงตัวจากปีก่อนที่ราว 10 - 11%            ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2025 ขึ้น ประเมินแนวโน้มกำไรปกติปี 2025 ขึ้น 15.8% เป็น 3,183 ลบ. (+35.4% YoY) สะท้อนแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยหมูที่สูงขึ้นมากกว่าคาด, ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลง และการรับรู้ผลประกอบการจากดีล Eggriculture โดยประมาณการ สอดคล้องกับกรอบเป้าหมายการเติบโตของบริษัท            คงราคาเหมาะสมที่ 23.50 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2025 ขึ้น แต่ปรับลด PER ในการประเมินมูลค่าลงเป็น 14.3 เท่า (เดิม 16.5 เท่า) เพื่อสะท้อนความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน ทำให้ราคาเหมาะสมยังคงเดิมที่ 23.50 บาท มี Upside gain 29.1% คงคำแนะนำ “ซื้อ” ขณะที่ปัจจัยต้องติดตามคือความเสี่ยงจาก Trade War แต่ยังให้น้ำหนักกับโอกาสที่ไทยจะนำเข้าต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยง อาทิ ข้าวโพด, กากถั่วเหลือง มากกว่านำเข้าชิ้นส่วนเนื้อหมูจากสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นบวกต่อแนวโน้มต้นทุนการเลี้ยงของกลุ่ม

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

BTG คาด Q4 พลิกกำไร 986 ลบ. โบรกชี้หุ้นยังถูก แนะซื้อเป้า 23.50 บาท

BTG คาด Q4 พลิกกำไร 986 ลบ. โบรกชี้หุ้นยังถูก แนะซื้อเป้า 23.50 บาท

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.หยวนต้า คาดกำไรปกติ 4Q24 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY ดีกว่าเดิมที่คาดว่าจะชะลอลง QoQ เราคาดกำไรสุทธิ 4Q67 ของ BTG ที่ 986 ล้านบาท แต่หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและสินทรัพย์ชีวภาพที่คาดรวมกันที่ 38 ล้านบาท คาดกำไรปกติที่ 948 ล้านบาท เติบโต 4.7% QoQ และพลิกจากขาดทุน 681 ล้านบาท ใน 3Q67 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ไตรมาส ดีกว่าเดิมที่เราประเมินว่าจะชะลอลง QoQ            หนุนจาก GPM ที่ปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง คาดที่ 14.5% (+70 bps QoQ, +610 bps YoY) แม้ราคาขายเฉลี่ยจะลดลงตามทิศทางราคาไก่ที่ปรับลง แต่ได้อานิสงส์จากราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงที่ต่ำ และการปรับช่องทางการจัดจำหน่าย เน้นช่องทางที่มี GPM สูงขึ้น อาทิช่องทาง Food Service หนุน Product Mix ขณะที่รายได้เราคาดที่ 30,000 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และ +10% YoY หนุนจากปริมาณขายที่เติบโตเป็นหลักในทุกธุรกิจหลัก คาด SG&A/Sales ที่ 10.6% (+50 bps QoQ, +100 bps YoY) จากค่าใช้จ่ายโฆษณาและการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น ราคาหมู/ไก่ฟื้นหลังปีใหม่ หนุนราคาขายเฉลี่ย ประเมินกำไร 1Q68 โตต่อ QoQ, YoY            เราประเมินแนวโน้มกำไรปกติ 1Q68 จะเร่งตัวเติบโตต่อทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจาก ราคาขายเฉลี่ยคาดว่าดีขึ้น ตามทิศทางราคาหมูในประเทศที่ปัจจุบันปรับขึ้นมาอยู่ที่ 74-75 บาท/กก. สูงกว่าเฉลี่ย 4Q24 ที่ 73 บาท/กก. และเราคาดว่าราคาหมูมีโอกาสปรับขึ้นต่อถึง 2Q68 เป็นอย่างน้อย ไปใกล้เคียงราคาประกาศของ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรที่ 80 บาท/กก. เนื่องจากปัจจุบัน Supply ใหม่ออกสู่ตลาดไม่มากนัก และได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ขณะที่แนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับลงต่อ โดยเฉพาะ ราคากากถั่วเหลือง (20% ของวัตถุดิบการเลี้ยง) หนุนให้ GPM เร่งตัวขึ้นต่อ นอกจากนี้ คาดดีลซื้อ Eggriculture (จำหน่ายไข่ไก่ในสิงคโปร์) สัดส่วน 75% จะแล้วเสร็จใน 1Q68 และเริ่มรับรู้รายได้เป็นไตรมาสแรก ราคาหุ้นปรับลงสวนทางกับแนวโน้มกำไร ... ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”            ราคาหุ้นปัจจุบันปรับลงตามภาวะตลาด ทำให้ซื้อขายบน PER25 เพียง 12 เท่า ต่ำสุดนับตั้งแต่ IPO ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มผลประกอบการที่จะเติบโตขึ้นต่อ QoQ และ YoY ใน 4Q24 และ 1Q25 เป็นอย่างน้อย นอกจากนี้ หากกำไรปกติ 4Q67 ใกล้เคียงที่เราคาด จะทำให้ประมาณการกำไรทั้งปี 2567 มี Upside ราว 6% เราคงราคาเหมาะสมที่ 23.50 บาท มี Upside Gain 39.9% ปรับคำแนะนำขึ้นจาก Trading เป็น “ซื้อ” และคาดเงินปันผลจ่ายงวดปี 2567 ที่ 0.34 บาท คิดเป็น Div. Yield 2%

BTG รุกตลาดสิงคโปร์ ซื้อกิจการ Eggriculture มูลค่ากว่า 1,900 ลบ.

BTG รุกตลาดสิงคโปร์ ซื้อกิจการ Eggriculture มูลค่ากว่า 1,900 ลบ.

          หุ้นวิชั่น - บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” เดินหน้ากลยุทธ์ “Regional Player” เข้าซื้อกิจการ Eggriculture ผู้ผลิตไข่ไก่ครบวงจรรายใหญ่ในสิงคโปร์ ด้วยมูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท เปิดแผนสร้าง Synergy มุ่งเสริมความแข็งแกร่งแบรนด์เบทาโกรในตลาดสิงคโปร์ทั้งในช่องทางร้านค้าปลีกและขยายฐานลูกค้ากลุ่ม HORECA พร้อมยกระดับประสิทธิภาพและผลผลิตของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต วางเป้าหมายรายได้เบทาโกรในประเทศสิงคโปร์ปี 2568 โต 400% เมื่อเทียบกับปี 2567 นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว ก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารในระดับภูมิภาคอาเซียนด้วยการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง โดยประเทศสิงคโปร์ถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสำคัญกับอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง นอกจากนี้นโยบายด้านความมั่นคงทางอาหารของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ตั้งเป้าผลิตอาหารภายในประเทศให้ได้ 30% ของความต้องการภายในปี 2573 ยังสนับสนุนการเติบโตของผู้ผลิตในประเทศ เบทาโกร จึงเห็นโอกาสสำคัญในการเข้าซื้อกิจการบริษัท Eggriculture Foods Limited หรือ Eggriculture ผู้ผลิตไข่ไก่ครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,900 ล้านบาท โดยโครงสร้างของผู้ถือหุ้น เบทาโกรอยู่ที่ 75% และ Radiant Grand International Limited (RGI) อยู่ที่ 25% ทั้งนี้ Eggriculture มีส่วนแบ่งตลาด 20% ณ สิ้นปีงบประมาณ 2567 อีกทั้งยังมีผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี (2564-2566) อย่างแข็งแกร่ง โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ 27.1% ต่อปี (CAGR) ในปีงบประมาณล่าสุด จึงคาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผลประกอบการรวม (P&L) ในทันที และส่งผลดีต่อการเพิ่มความสามารถทำกำไรโดยรวมของกลุ่มบริษัทเบทาโกรอย่างมีนัยสำคัญ           นายชยธร แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานกลยุทธ์และนวัตกรรม บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการ Eggriculture ครั้งนี้ เป็นการนำศักยภาพของทั้งสองบริษัทฯ มาผนึกกำลังสร้าง Synergy ในหลายมิติ โดยเบทาโกรจะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 57 ปี ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรชั้นนำระดับสากล มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของ Eggriculture ในด้านการจัดการฟาร์ม การพัฒนาสายพันธุ์สัตว์ สูตรอาหารสัตว์ และการใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มผลผลิตนอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการและรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างความมั่นใจในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากลให้กับผู้บริโภคทุกคน           ขณะที่ Eggriculture ผู้ผลิตไข่ไก่ครบวงจรรายใหญ่ในสิงคโปร์ ซึ่งมีเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ทั้งในช่องทางการขายปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) และช่องทางการบริการอาหาร (HORECA) ครอบคลุมทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และบริการจัดเลี้ยง จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์สินค้าของเบทาโกรเป็นที่รู้จักและขยายฐานลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น “เบทาโกรเชื่อว่าการสร้าง Synergy กับ Eggriculture ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับภูมิภาคอาเซียน ผ่านการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้ผู้บริโภคในประเทศสิงคโปร์ โดยบริษัทฯ คาดการณ์รายได้ในประเทศสิงคโปร์ปี 2568 จะเติบโต 400% เมื่อเทียบกับปี 2567 พร้อมตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายชยธร กล่าว           มิสเตอร์ หม่า ชิน ชิว, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Eggriculture  กล่าวว่า  “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเบทาโกร และเป็นโอกาสสำคัญสำหรับ Eggriculture ในการเพิ่มศักยภาพการผลิตไข่ไก่ที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคสิงคโปร์ที่ต้องการอาหารคุณภาพและความปลอดภัย  การที่เบทาโกรมีความรู้เชิงลึกและประสบการณ์ที่หลากหลายในอุตสาหกรรมอาหาร จะช่วยให้เราสามารถเสริมสร้างโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอบสนองต่อนโยบายด้านความมั่นคงทางอาหารของรัฐบาลสิงคโปร์ได้อย่างเต็มรูปแบบ”

[ภาพข่าว] BTG คว้า 2 รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ปี67

[ภาพข่าว] BTG คว้า 2 รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ปี67

            กรุงเทพฯ – 23 ธันวาคม 2567 – “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” หรือ BTG บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย คว้า 2 รางวัล อุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2567 ประเภทการเพิ่มผลผลิต โดยกระทรวงอุตสาหกรรม สะท้อนการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยแนวอุตสาหกรรมวิถีใหม่ มุ่งสู่ความสำเร็จใน 4 มิติคือ 1.ความสำเร็จทางธุรกิจ 2.การดูแลสังคมโดยรอบโรงงานอุตสาหกรรม 3.การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่ตอบโจทย์ไทย-ประชาคมโลก และ4.การกระจายรายได้ให้กับประชาชนเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น               เกณฑ์ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการดำเนินงานทางธุรกิจของเบทาโกร ภายใต้หลัก ESG (Environmental, Social, Governance) สะท้อนถึงการเป็นบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคนด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน             โดยมีนายถวิล ทองทศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักการผลิตเนื้อสัตว์แปรรูปสัตว์ปีกและอาหารปรุงสุก และนายธันว์ บุญมา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักการผลิตเนื้อสัตว์แปรรูปสุกร เป็นตัวแทน บริษัท บี. ฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จ.ลพบุรี และ บริษัทเบทาโกรอุตสาหกรรม จำกัด เข้ารับรางวัลจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่พัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและชุมชนโดยรวมของประเทศ

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

“S-Pure” การันตีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม

“S-Pure” การันตีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม

           หุ้นวิชั่น - กรุงเทพฯ – 16 ธันวาคม 2567 – บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอาหารซูเปอร์พรีเมี่ยม ด้วยความสำเร็จของแบรนด์ S-Pure ที่คว้ารางวัล “Thai Golden Eggs by Thai DLD” หรือเครื่องหมาย “ไข่สุพรรณหงส์” จากกรมปศุสัตว์ ซึ่ง S-Pure เป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวของไทยในปี 2024 ที่ได้รับรางวัลนี้ สะท้อนถึงมาตรฐานไข่ไก่ระดับพรีเมี่ยม คุณภาพปลอดภัย ปราศจากเชื้อซัลโมเนลลา อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร อาการปวดท้อง ท้องเสีย            พร้อมกันนี้ ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่สดแช่เย็น S-Pure ยังคว้า 2 รางวัลระดับสากล ได้แก่ Superior Taste Award ระดับ 3 ดาว ที่การันตีความอร่อย ไข่แดงกลมนูน สีส้มสด ไร้กลิ่นคาว มีความสดใหม่ระดับ AA ด้วยระบบ Cold Chain และ FMCG Asia Award 2024 สาขา Health & Wellness Initiative of the Year – Thailand ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสุขภาพและความยั่งยืนอย่างแท้จริง            ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” เปิดเผยว่า “S-Pure” แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมจากเบทาโกรมุ่งส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงอาหารที่ดีกว่า พร้อมให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน  โดย S-Pure ถือเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทยที่นำบรรจุภัณฑ์ถาดกระดาษมาใช้กับกลุ่มอาหารสด ลดการใช้พลาสติกลงได้ถึง 80%            ซึ่งผลิตภัณฑ์ “S-Pure” ครอบคลุม เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่สด อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกและอาหารสไตล์โฮมเมด ที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่ 1. การคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดี 2. เลี้ยงแบบธรรมชาติ 100% (100% Natural Pure Product) คือ“การเลี้ยงที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ (Raised Without Antibiotics – RWA)” ที่ได้รับการรับรองจาก NSF สหรัฐอเมริกา 3. เลี้ยงด้วยธัญพืชและวิตามินที่มีโภชนาการเหมาะสมตามแต่ละช่วงวัย 4. เสริมด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ Synbiotics (Prebiotics และ Probiotics) เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงตามธรรมชาติ 5. ไม่ใช้ฮอร์โมนและ สารเร่งการเจริญเติบโต 6. ควบคุมอุณหภูมิขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารด้วยความเย็น 0-4 องศา ไปจนถึงจุดจำหน่าย และที่สำคัญยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาได้ จึงมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์จาก “S-Pure” มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด            “การได้รับ 3 รางวัลมาตรฐานระดับสากลของ S-Pure เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด ปลอดเชื้อซัลโมเนลลา อร่อย สดใหม่ ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบรับประทานไข่ดิบ และใส่ใจสุขภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างจุดแข็งให้กับ S-Pure ในการขยายตลาดไปยังผู้บริโภคใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมตอกย้ำการเป็นแบรนด์ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมที่มีสินค้าตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่รักสุขภาพ” ดร.โอลิเวอร์ กล่าว        [PR News]

“Betagro Ventures” ร่วมลงทุนใน “Meatable” ผู้นำนวัตกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง

“Betagro Ventures” ร่วมลงทุนใน “Meatable” ผู้นำนวัตกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง

          หุ้นวิชั่น - กรุงเทพฯ – 2 ธันวาคม 2567 - “BETAGRO Ventures” หน่วยงานด้านการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมภายใต้ “บริษัท  เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” หรือ “BTG” บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย ประกาศความสำเร็จในการลงทุนเชิงกลยุทธ์กับ “Meatable” บริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีด้านอาหารชั้นนำจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาและผลิตโปรตีนที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีการผลิตเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง (Cultivated Meat) โดยการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการร่วมมือทางธุรกิจที่มีศักยภาพ และจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตของทั้งสองบริษัทในตลาดเอเชีย ทั้งยังสอดคล้องกับจุดประสงค์ของ 2 องค์กรในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารสู่อนาคตที่ยั่งยืน           นายชยธร แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานกลยุทธ์และนวัตกรรม บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG และกรรมการผู้จัดการ Betagro Ventures กล่าวว่า “BETAGRO Ventures มุ่งเน้นสร้างธุรกิจร่วมลงทุน และการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ ส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงอาหารคุณภาพสูงของผู้บริโภค การสร้างแหล่งโปรตีนใหม่ที่ยั่งยืน ตลอดจนการพัฒนาห่วงโซ่ธุรกิจอาหารของเบทาโกรให้มีความแข็งแกร่งนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน และยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยในที่สุด”           สำหรับการลงทุนใน Meatable ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเบทาโกรในการสร้างนวัตกรรมและขับเคลื่อนความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเราเชื่อมั่นในศักยภาพและวิสัยทัศน์ของ Meatable ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านอาหารชั้นนำของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีเทคโนโลยีการผลิตเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง (Cultivated Meat) โดยใช้เทคโนโลยี opti-ox™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ที่ได้รับการยอมรับจากนิตยสาร TIME ว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ดีที่สุดของปี 2024 สามารถผลิตเนื้อหมูและเนื้อวัวคุณภาพสูงที่มีรสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการเหมือนเนื้อสัตว์ที่ผลิตแบบดั้งเดิม โดยไม่ต้องเลี้ยงหรือฆ่าสัตว์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการลดใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบโจทย์ความต้องการโปรตีนที่ยั่งยืนในตลาดโลกได้           นอกจากนี้ การลงทุนใน Meatable ยังสอดคล้องกับจุดประสงค์ (Purpose) ในการดำเนินธุรกิจของเบทาโกร ที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตของทุกคนด้วย “อาหารที่ดีกว่า (Better Food)” นั่นคือ การผลิตด้วยมาตรฐานและความปลอดภัยขั้นสูงสุด มาพร้อมคุณภาพและความอร่อยที่เหนือกว่า ในราคาที่เป็นธรรม และการผลิตอย่างยั่งยืนอีกด้วย           ขณะที่ นายเจฟฟ์ ทริพิเชียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Meatable กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเบทาโกร ในฐานะผู้ร่วมลงทุนรายแรกจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ดั้งเดิม ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ไม่แต่เพียงยืนยันศักยภาพของเทคโนโลยีเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงของเรา แต่ยังเป็นสัญญาณที่ดีว่าผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารอย่างเบทาโกร พร้อมที่จะสนับสนุนนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตที่ยั่งยืน และการมีพันธมิตรที่เข้าใจตลาดเอเชียอย่างลึกซึ้ง พร้อมกับเครือข่ายที่กว้างขวางของเบทาโกร เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถขยายการนำเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงสู่ผู้บริโภคในตลาดเอเชียได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”           “เบทาโกรเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจหลักของเบทาโกร แล้วยังเป็นการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ด้วยการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดเอเชีย ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรมของเบทาโกรผ่านความร่วมมือจากภายนอก พร้อมทั้งยกระดับอุตสาหกรรมอาหารสู่อนาคตที่ยั่งยืนอีกด้วย” นายชยธร กล่าวทิ้งท้าย [PR News]

[ภาพข่าว] BTG ต้อนรับคณะรัฐมตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เยี่ยมชมโรงงานแปรรูปไก่พัทลุง

[ภาพข่าว] BTG ต้อนรับคณะรัฐมตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เยี่ยมชมโรงงานแปรรูปไก่พัทลุง

          กรุงเทพฯ – 16 ตุลาคม 2567 – “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” หรือ “BTG” นำโดย “นายสมศักดิ์ บุญลาภ” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มปฎิบัติการผลิตปศุสัตว์และโรงงาน พร้อมคณะผู้บริหารเบทาโกร ให้การต้อนรับ     “นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม “นายณัฐพล รังสิตพล” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ “นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ในการเยี่ยมชมกิจการโรงงานแปรรูปไก่พัทลุง พร้อมร่วมปล่อยพันธุ์ปลา ณ โรงงานแปรรูปไก่พัทลุง บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด จ.พัทลุง           สำหรับโรงงานแปรรูปไก่พัทลุง บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด เป็นหนึ่งในธุรกิจของเบทาโกร ก่อตั้งเมื่อปี 2554 และเริ่มดำเนินการผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไก่อยู่ที่ 70,000 ตัวต่อวัน โดยผลิตเป็นเนื้อไก่แช่แข็ง และแช่เย็น เพื่อการบริโภคในพื้นที่ภาคใต้ และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป นอกจากนี้โรงงานแปรรูปไก่พัทลุงยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานความยั่งยืนตามแนวทาง ESG (Environment Social and Governance) ที่ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ทั้งยังตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals – SDGs) เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสร้างการเติบโตไปด้วยกันของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ตอกย้ำการเป็นบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[PR News] BTG เปิดประสบการณ์กินเจ เมนู Collab “Meatly! x EASY! buddy”

[PR News] BTG เปิดประสบการณ์กินเจ เมนู Collab “Meatly! x EASY! buddy”

          กรุงเทพฯ - 3 ตุลาคม 2567 - Meatly! ต้อนรับเทศกาลกินเจ ที่พิเศษกว่าเคย นำโดย “คุณวรลัญจ์ แต้ไพสิฐพงษ์” ผู้บริหารโครงการ Meatly! บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย นำ Meatly! แพลนต์เบสต์ระดับพรีเมียม ร่วมสร้างสรรค์เมนู “Meatly! x EASY! buddy” โดย “เชฟบัดดี้ – ถมธนัตถ์ หทโยดม” เสิร์ฟมื้ออาหารเจ สไตล์สตรีทฟู้ดส์ มอบความสนุกและความแปลกใหม่ให้ลิ้มลอง “นวัตกรรมไข่ดาวจากพืช” ที่ Meatly! รังสรรค์ไข่ขาวจากเต้าหู้คุณภาพดีโปรตีนสูง ไข่แดงทำจากแครอทและฟักทอง ผสานเอกลักษณ์ซอสกะเพราร้าน EASY! Buddy สูตรเจ ร่วมสร้างสรรค์รสชาติอร่อยอย่างลงตัว เพื่อคนทานเจและคนรักสุขภาพ พร้อมต้อนรับเทศกาลกินเจ ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3-11 ตุลาคม 2567 นี้ ชวนอร่อยกับ 3 เมนู Meatly! x EASY! Buddy คุณภาพดี วัตถุดิบพรีเมียม เมนู Meatly! x EASY! Buddy สามชั้นจากพืชผัดกะเพราราดข้าวกับไข่ดาวจากพืช สูตรเจ เป็นเมนูไฮไลท์เด็ดที่ใช้สามชั้นจากพืชทอดกรอบ เลียนแบบชั้นไขมันและชั้นเนื้อจากเนื้อสามชั้นได้อย่างดี รูปลักษณ์ รสชาติ และเนื้อสัมผัส เหมือนได้ทานเนื้อสามชั้น ราดกับข้าวร้อนๆ พร้อมไข่ดาวจากพืช ทำให้มื้ออาหารเจของคุณอร่อยครบรส เมนู Meatly! x EASY! Buddy เนื้อสับจากพืชผัดกะเพราราดข้าวกับไข่ดาวจากพืช สูตรเจ มอบรสชาติจัดจ้านถึงเครื่องกะเพรา สัมผัสเนื้อสับจากพืช 100% อุดมไปด้วยโปรตีนจากพืช เส้นใยอาหาร เมนู Meatly! x EASY! Buddy สามชั้นจากพืชผัดกะเพรามาม่ากับไข่ดาวจากพืช สูตรเจ ผสานความอร่อยของอาหารไทยกับเส้นมาม่า พร้อมไข่ดาวจากพืช ทำให้มื้ออาหารเจสำหรับคนชื่นชอบเมนูเส้นไม่ควรพลาด !! พิเศษ เมนู Meatly! x EASY! Buddy ยำสามชั้นจากพืชมะม่วงเจ เมนูเจสุดฟิน ที่ผสมผสานความอร่อยของยำสามชั้นที่เลียนแบบชั้นไขมันและชั้นเนื้อ เฉพาะสาขา Central World เท่านั้น ร่วมประสบการณ์ใหม่ ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ และอร่อยกับอาหารสตรีทฟู้ดส์ มีคุณภาพที่ดี วัตถุดิบพรีเมียม และได้ตื่นเต้นไปกับ “ไข่ดาวจากพืช” นวัตกรรมใหม่ ทานคู่กับ 3 เมนูที่ปรุงด้วยซอสกะเพราสูตรเจ อร่อยจนต้องทึ่ง สามารถลิ้มลองได้แล้วที่ ร้าน EASY! Buddy 11 สาขา และสาขาเปิดใหม่ Central พระราม 9

[ภาพข่าว] BTG คว้า “องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ปี 67”

[ภาพข่าว] BTG คว้า “องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ปี 67”

กรุงเทพฯ – 30 กันยายน 2567 – “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” หรือ “BTG” บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน นำโดย “นายบรรจบ ศฤงคารินทร์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารโรงงาน เป็นตัวแทนรับโล่ประกาศเกียรติคุณ “องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2567 (Climate Action Leading Organization: CALO)” จาก “นายจตุพร บุรุษพัฒน์” ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ สำหรับรางวัลองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2567 เป็นผลมาจากการที่ 15 องค์กร ภายใต้เบทาโกร ผ่านการรับรององค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจกระดับสูงสุด (Gold) ด้านการตรวจวัดข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และระดับ Bronze ด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากคณะกรรมการเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) โดยที่ผ่านมาเบทาโกร ได้มีการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการจัดทำฐานข้อมูลประเมินการปลดปล่อย และกำหนดแนวทางลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาพรวมของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ตามยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของเบทาโกร โดย 15 องค์กร ภายใต้เบทาโกร ประกอบด้วย 1) บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตอาหารสัตว์ 1,2,3​ 2) บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตอาหารสัตว์ 4​ 3) บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตอาหารสัตว์สงขลา​ 4) บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตอาหารสัตว์พระประแดง​ 5) บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด (โรงงานแปรรูปสุกรลพบุรี)​ 6) บริษัท บี. ฟู้ดส์  โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด​ 7) บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด (โรงงานอ้อมน้อย)​ 8) บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด (โรงงานแปรรูปไก่พัทลุง)​ 9) บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เบทาโกร โฟรเซ่นฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด​ 10) บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด (เซ็นทรัลคิทเช่น)​ 11) บริษัท อิโตแฮม เบทาโกร ฟู้ดส์ จำกัด​ 12) บริษัท เบทาโกร เอ็มเอฟ เดลี จำกัด​ 13) บริษัท เบทาโกร ไดนิปปอน เทคโน เอ็กซ์ จำกัด​ 14) บริษัท เพ็ท โฟกัส จำกัด ​ และ 15) บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด (ศูนย์รวบรวมไข่กบินทร์บุรี)​ จากซ้ายไปขวา: ลำดับที่ 1 บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด (ศูนย์รวบรวมไข่กบินทร์บุรี) ลำดับที่ 2 บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด (โรงงานอ้อมน้อย) ลำดับที่ 3 บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เบทาโกร โฟรเซ่นฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ลำดับที่ 5 บริษัท เพ็ท โฟกัส จำกัด ลำดับที่ 7 บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด (โรงงานแปรรูปไก่พัทลุง) ลำดับที่ 8 บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด (เซ็นทรัลคิทเช่น) ลำดับที่ 9 บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด (โรงงานแปรรูปสุกรลพบุรี) และลำดับที่ 10 บริษัท อิโตแฮม เบทาโกร ฟู้ดส์ จำกัด

[PR News] “Meatly!” แบรนด์คุณภาพจาก “เบทาโกร” ต้อนรับเทศกาลกินเจ

[PR News] “Meatly!” แบรนด์คุณภาพจาก “เบทาโกร” ต้อนรับเทศกาลกินเจ

          “Meatly!” แบรนด์คุณภาพจาก “เบทาโกร” ต้อนรับเทศกาลกินเจ เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “ไข่ดาวจากพืช ราดข้าวสามชั้นผัดพริกแกง” รับเทรนด์อิ่มบุญ สะดวก สุขภาพดี ดันตลาดอาหารพร้อมทานแพลนต์เบสต์ เจ เติบโต            กรุงเทพฯ - 26 กันยายน 2567 - บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย โดย “Betagro Ventures” ส่งนวัตกรรมอิ่มบุญดีต่อสุขภาพต้อนรับ “เทศกาลกินเจ 2567” กับ “Meatly!” เมนู “ไข่ดาวจากพืช” รังสรรค์ไข่ขาวจากเต้าหู้คุณภาพดีโปรตีนสูง ผสานไข่แดงทำจากแครอทและฟักทอง เปิดตัวคู่กับ “เมนูข้าวเนื้อสามชั้นผัดพริกแกงและไข่ดาวจากพืช สูตรเจ” ตอบโจทย์คนรักข้าวราดและไข่ดาวจากพืชแบบเต็มคำ พร้อมยกขบวนเมนูแพลนต์เบสต์ เจ เสิร์ฟสายบุญและคนรักสุขภาพ เติมเต็มทุกมื้อทุกไลฟ์สไตล์ วางเป้าหมายขยายฐานคนรุ่นใหม่ ดันยอดขายทั้งปีเติบโต 200%            นางสาววรลัญจ์ แต้ไพสิฐพงษ์ ผู้บริหารโครงการ Meatly! บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า เทศกาลกินเจ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีของทุกคนในการถือศีล ทำบุญ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ละเว้นเนื้อสัตว์ โดยปีนี้กระแสการกินเจ คาดการณ์ว่ามีความคึกคักมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากภาครัฐดำเนินโครงการ “Trend Meatless Month - Future Food” จัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ภาพลักษณ์เทศกาลเจขยายในวงกว้างและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่บริบทเทศกาลกินเจกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพและเทรนด์อาหารโลก ตลอดจนคนรุ่นใหม่สายมูเตลู ส่งผลให้พฤติกรรมกินเจเป็นมากกว่าการกินผัก! สู่ประสบการณ์ใหม่กับอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานแพลนต์เบสต์ สูตรเจ ที่ตอบโจทย์ทั้งสายบุญ อร่อย สะดวก และดีต่อสุขภาพกับเมนูที่ทำจากพืช 100%            ทั้งนี้ Meatly! มองเห็นเทรนด์อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน แพลนต์เบสต์ สูตรเจ ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี และในฐานะผู้นำการพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชที่มุ่งมั่นทุ่มเทคิดค้นเมนูเจใหม่ และใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้ได้เมนูเจที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย ให้กับผู้บริโภคได้อิ่มบุญ และอร่อย แถมสุขภาพดีไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน เพราะด้วยความโดดเด่นของรสชาติที่ถูกปากคนไทย ราคาสินค้าเข้าถึงง่าย จึงเดินหน้าสร้างประสบการณ์ใหม่ต้อนรับเทศกาลกินเจ ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ให้ทุกคนสนุกกับการกินเจได้มากขึ้นแบบไม่เหมือนใครกับเมนู “ไข่ดาวจากพืช” นวัตกรรมใหม่ล่าสุดอุดมด้วยโปรตีนและไม่มีคอเลสเตอรอล ที่คิดค้นและพัฒนาไข่ขาวผ่านการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติทำจากเต้าหู้คุณภาพดีให้โปรตีนสูง ส่วนไข่แดงทำจากแครอทและฟักทองพืชที่ให้สีสันสดใสและรสชาติที่อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเปิดตัวสินค้าคู่กับ “เมนูข้าวเนื้อสามชั้นผัดพริกแกงและไข่ดาวจากพืช สูตรเจ” ตอบโจทย์คนรักข้าวราดและไข่ดาวจากพืชแบบเต็มคำ เสิร์ฟข้าวสวยหุงสุกร้อนๆ ทานคู่กับเนื้อสามชั้นผัดพริกแกง รสชาติเค็มนำ หวานตาม หอมกลิ่นพริกแกง รสชาติกลมกล่อม ราคาเพียง 69 บาท            นอกจากนี้ ยังได้ยกขบวน Meatly! แพลนต์เบสต์ เมนู สูตรเจ หลากหลายมาเสิร์ฟให้กับสายบุญและคนรักสุขภาพให้เลือกทานครบทุกมื้อ เริ่มตั้งแต่ “ข้าวแกงเขียวหวานเนื้อจากพืช” ที่คว้ารางวัลนวัตกรรมอาหาร “THAIFEX – Anuga Taste Innovation Show 2024” จากงาน “THAIFEX – Anuga Asia 2024” และยังมีเมนูให้ลูกค้าเลือก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มเมนูพร้อมทานนานาชาติ สูตรเจ ได้แก่ ข้าวหน้าเนื้อจากพืชซอสบูลโกกิ, ยากิราเมงซอสคารามิโซะเนื้อจากพืช, สปาเก็ตตี้โบโลเนสเนื้อจากพืชสไตล์อิตาเลียน ราคาเพียง 89 บาท 2.กลุ่มข้าวเนื้อสามชั้นจากพืช ได้แก่ ข้าวกะเพราเนื้อสามชั้นจากพืช, ข้าวคะน้าเนื้อสามชั้นจากพืช  และข้าวเนื้อสามชั้นจากพืชคั่วพริกเกลือ ราคาเพียง 59 บาท และ 3.กลุ่มพร้อมปรุง ได้แก่ สามชั้นจากพืช ราคาเพียง 99 บาท โดยผลิตภัณฑ์ Meatly! วางจำหน่ายผ่านช่องทางห้างชั้นนำทั่วประเทศ Tops, BigC, Gourmet Market, Villa Market, Betagro Deli, Betagro Shop และแพลตฟอร์มออนไลน์ Meatly! Shopee Shop, Meatly! Tiktok Shop และพันธมิตรร้านอาหารชื่อดังอื่น ๆ อีกหลากหลายแห่ง            “จากเมนูแพลนต์เบสต์ที่หลากหลายของ Meatly! และนวัตกรรมใหม่เมนู “ไข่ดาวจากพืช” เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นคนรุ่นใหม่สนใจอยากทานเจเพิ่มขึ้น รวมถึงขยายฐานกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่มากขึ้น โดยวางเป้าหมายยอดขายทั้งปีเติบโต 200% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” นางสาววรลัญจ์ กล่าว

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

[PR News] BTG ทุ่มงบ 50 ล้าน เปิดบิ๊กแคมเปญ

[PR News] BTG ทุ่มงบ 50 ล้าน เปิดบิ๊กแคมเปญ

          “เบทาโกร” ทุ่มงบ 50 ล้าน เปิดแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่ “ทุกคำคือความสุข” ดึง “โบว์ – เมลดา สุศรี” และ “อาเล็ก – ธีรเดช เมธาวรายุทธ” ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ตอกย้ำภาพลักษณ์ ส่งมอบวัตถุดิบมีคุณภาพ ปลอดภัย อร่อยที่เหนือกว่า ตั้งเป้ายอดขายโตกว่า 10%           กรุงเทพฯ – 20 กันยายน 2567 – “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” หรือ “BTG” เปิดตัวแคมเปญการตลาด แบรนด์ BETAGRO “ทุกคำคือความสุข” ตอกย้ำแบรนด์ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพและปลอดภัยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมดึง 2 นักแสดงชื่อดัง “โบว์ – เมลดา สุศรี” และ “อาเล็ก – ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคถึงความมั่นใจในการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจากเบทาโกร ที่ควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ผ่านการตรวจยาปฏิชีวนะ ไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดงและฮอร์โมนตลอดการเลี้ยงดู และที่สำคัญยังมาพร้อมความอร่อย ให้ทุก ๆ คำมีความสุขได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายยอดขายแบรนด์โต 10% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ผ่านมา           ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 57 ปี เบทาโกร ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ BETAGRO ที่มีคุณภาพ เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอาหารคุณภาพให้ผู้บริโภคทุกคนได้มั่นใจ ด้วยมาตรฐานการจัดการเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารสูงสุดตลอดห่วงโซ่อาหาร (Betagro Quality Management – BQM) ครอบคลุมการตรวจสอบ ติดตาม และควบคุมคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานอาหารปลอดภัยระดับสากล ตั้งแต่การเพาะพันธุ์ฟาร์มต้นทาง จนถึงกระบวนการผลิตและแปรรูปอย่างเคร่งครัดตลอดห่วงโซ่อาหาร จนวันนี้เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ           สำหรับกลยุทธ์การตลาดแบรนด์ BETAGRO ในปีนี้ บริษัทฯ ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญการตลาดครบวงจร “ทุกคำคือความสุข” ครั้งใหญ่ในรอบหลายปีแบบจัดเต็ม โดยมุ่งสื่อสารถึงการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจาก BETAGRO ที่ควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ผ่านการตรวจยาปฏิชีวนะ ไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดงและฮอร์โมนตลอดการเลี้ยงดู ที่สำคัญยังมาพร้อมความอร่อย ให้ทุก ๆ คำมีความสุขได้มากขึ้น โดยดึง 2 นักแสดงชื่อดังอย่าง “คุณโบว์ – เมลดา สุศรี” และ “คุณอาเล็ก – ธีรเดช เมธาวรายุทธ” ซึ่งเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่นิยม และเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงมี Passion ด้านอาหารมาเป็นแบรนด์พรีเซนเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ถึงความมั่นใจในการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจาก BETAGRO และเป็นการขยายฐานลูกค้าให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการทำอาหาร และดูแลตัวเองอีกด้วย โดยคาดว่าแคมเปญการตลาดในครั้งนี้จะขับเคลื่อนยอดขายแบรนด์ BETAGRO เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ผ่านมา           โดยแคมเปญโฆษณาดังกล่าวจะสื่อสารผ่านสื่อทีวี อาทิ ช่อง 3, ช่อง 7, ช่อง MONO 29, ช่อง GMM25 และช่อง One 31 เป็นต้น และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมพิเศษที่เชิญชวนครีเอเตอร์ทำอาหารมาร่วมสนุกที่ Facebook: Betagro Brand โดยผลิตภัณฑ์แบรนด์ BETAGRO ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ และอาหารพร้อมปรุง พร้อมทาน วางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ รวมถึงเบทาโกรช็อป เบทาโกรเดลี่ และแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ Grab, Lineman, Shopee, Lazada และ TikTok shop           “แบรนด์ BETAGRO มุ่งมั่นพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของทุกมื้ออาหารในครอบครัว” ดร.โอลิเวอร์ กล่าวว่า

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011