#BM


[Vision Exclusive] BM เจรจาพันธมิตรจีน ส่งออกตู้โลหะทำเงิน

[Vision Exclusive] BM เจรจาพันธมิตรจีน ส่งออกตู้โลหะทำเงิน

           หุ้นวิชั่น - บิ๊กบอส "BM" ธีรวัต อมรธาตรี กางแผนปี 68 ตั้งเป้ารายได้ชน 1.9 พันล้านบาท บุกตลาดส่งออกเต็มสูบ แย้มตุนงานรอส่งอเมริกาอื้อ แถมล่าสุดเซ็นสัญญาลูกค้ายุโรป เล็งส่งรถตุ๊กตุ๊กลงตลาดทำเงิน พร้อมย่องเจรจาพันธมิตรจีน หวังร่วมมือธุรกิจอัพฐาน            นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แผนและแนวโน้มการเติบโตในปี 2568 คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องจากปี 2567 โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 1,900 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการส่งออกประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท และการจำหน่ายสินค้าที่ตลาดในประเทศอีก 500-600 ล้านบาท            สำหรับแผนการส่งออก บริษัทประเมินทิศทางการเติบโตจะยังคงดีต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากบริษัทมียอดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ที่รอการส่งมอบทุกเดือน และปริมาณออเดอร์มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอดส่งออกไปยังอเมริกาเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดถึง 139 ตู้คอนเทนเนอร์ คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท และในเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมียอดส่งมอบเฉลี่ยที่ 80-120 ตู้คอนเทนเนอร์ คิดเป็นมูลค่าในหลักร้อยล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาและหาโปรดักส์ใหม่เพื่อเสริมกลุ่มสินค้าส่งออก พร้อมทั้งเพิ่มยอดขายให้เติบโตมากยิ่งขึ้นในปี 2568            และบริษัทยังได้เซ็นสัญญากับลูกค้าจากฮอลแลนด์เพื่อส่งสินค้ารถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าไปจำหน่ายที่ยุโรป ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดยุโรปครั้งแรกของ BM โดยจะเริ่มส่งมอบรถตุ๊กตุ๊กล็อตแรกจำนวน 24 คัน และในล็อตถัดไปจะขยายการส่งมอบเป็น 50 คัน            สำหรับงานในประเทศ  BM แบ่งเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ การจำหน่ายสินค้าให้กับ Contractor หรือผู้รับเหมา โดยมีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 500-600 ล้านบาท และการจำหน่ายสินค้าให้กับ B2B ในส่วนของเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งบริษัทเชื่อว่าในปี 2568 จะสามารถขยายตัวได้มากขึ้นจากการเติบโตในงานก่อสร้างและงานยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนเพิ่มเครื่องจักรเพื่อผลิตงานอะลูมิเนียมเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนรายได้ให้กับ BM ได้มากยิ่งขึ้นในปี 2568            นายธีรวัต กล่าวต่อว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรจากประเทศจีน เพื่อร่วมมือทางธุรกิจ โดยรูปแบบการลงทุนมีความเป็นไปได้ทั้งการทุ่มลงทุนและการผลิตสินค้าใหม่เพื่อขยายตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูป            ปัจจุบันธุรกิจของ BM แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มสินค้า ได้แก่ (1) รางและท่อร้อยสายไฟฟ้า (2) ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ (3) ตู้ควบคุมไฟฟ้าและโคมไฟฟ้า (4) โลหะเชื่อมประกอบ (5) แม่พิมพ์โลหะ เครื่องมือ และอุปกรณ์ และ (6) ชิ้นส่วนโลหะ รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้อง 3 ราย ต่อศาลแพ่ง กรณีปั่นหุ้น BM

ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้อง 3 ราย ต่อศาลแพ่ง กรณีปั่นหุ้น BM

          หุ้นวิชั่น - สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ (1) นายฐนริศร์ พรพัฒนะแจ่มใส (2) นางสาวอัจฉราภรณ์ ราชนาจันทร์ และ (3) นายศักดิ์สุมิตร สมรพิทักษ์กุล กรณีสร้างราคาหุ้นของบริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) (BM) เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด           ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ได้มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดรวม 6 ราย* ในกรณีสร้างราคาหุ้นของ BM โดยกำหนดให้ชำระเงินรวม 8,001,949 บาท (ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด) และกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นระยะเวลารายละ 6 เดือน หรือ 11 เดือน (แล้วแต่กรณี) และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นระยะเวลารายละ 12 เดือน หรือ 22 เดือน (แล้วแต่กรณี)           ทั้งนี้ มีผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ส่วนผู้กระทำความผิดอีก 3 ราย ได้แก่ นายฐนริศร์ นางสาวอัจฉราภรณ์ และนายศักดิ์สุมิตร ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ซึ่งพิจารณาได้ว่าผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต.           ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดทั้ง 3 รายดังกล่าวต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยให้ชำระเงินรวมทั้งสิ้น 7,212,741.84 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ           อนึ่ง ก.ล.ต. ได้นำส่งการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หมายเหตุ : * ข่าว ก.ล.ต. ฉบับที่ 75/2567 เผยแพร่เมื่อที่ 2 เมษายน 2567 “ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 6 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น BM” https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=10709