#BC


BC และ เดอะ อิชชูเออร์ ผนึก โทเคน เอกซ์ เตรียมเสนอขาย Summer Point Token

BC และ เดอะ อิชชูเออร์ ผนึก โทเคน เอกซ์ เตรียมเสนอขาย Summer Point Token

           หุ้นวิชั่น - BC ผู้นำพัฒนาอสังหาฯ โมเดล BOS และ เดอะ อิชชูเออร์ ผสานความร่วมมือ โทเคน เอกซ์ นำเสนอนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบดิจิทัล “Summer Point Token” โดยมี BC เป็นสปอนเซอร์ เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัล “Summer Point” ที่มีอาคารสำนักงานย่านใจกลางสุขุมวิท ติดสถานี BTS พระโขนง เป็นสินทรัพย์อ้างอิง จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน ที่ราคาเสนอขาย 0.50 บาทต่อโทเคน มูลค่ารวมไม่เกิน 450 ล้านบาท เพื่อรับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิและเงินต้นทยอยคืน ตลอดอายุโครงการเป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี            นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X ภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) เปิดเผยว่า Token X ผสานความร่วมมือกับ BC ผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ BOS และ บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จํากัด ผู้ออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน เปิดตัว “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” หรือ “Summer Point Token” ที่มีโครงการอาคารสำนักงาน “Summer Point” ซึ่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ติดกับสถานี BTS พระโขนง เป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดย Summer Point Token นับเป็นนวัตกรรมการลงทุน ผ่านการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือ Tokenization ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์อ้างอิง บนทำเลไพร์มแอเรีย โดยใช้เงินลงทุนจำนวนไม่มาก และสามารถซื้อขายโทเคนในตลาดรองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ภายหลังโทเคนดิจิทัลเข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล            ทั้งนี้ หลังจากได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายโทเคนดิจิทัลฯ ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) และได้รับอนุญาตให้เสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนตามที่บริษัทยื่นคำขออนุญาต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขาย Summer Point Token จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน ที่ราคาเสนอขาย 0.50 บาทต่อโทเคน รวมมูลค่าไม่เกิน 450 ล้านบาท โดยการลงทุนมีอายุโครงการประมาณ 25 ปี นับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งกองทรัสต์ ถึงวันที่ 14 กันยายน 2592 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดอายุสิทธิการเช่าที่ดินของทรัพย์สินของโครงการ โดยจะนำเงินไปลงทุนในสัญญา RSTA (Revenue Sale and Transfer Agreement) เพื่อให้ได้กระแสรายรับจากทรัพย์สินของโครงการ Summer Point จากบริษัท บูทิค พระโขนง ทรี จํากัด ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในทรัพย์สินของโครงการ และลงทุนในหุ้นของบริษัท บูทิค พระโขนง ทรี จํากัด คิดเป็นสัดส่วน 100% รวมถึงนำไปชำระค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของผู้ออกโทเคนดิจิทัล            ผู้ถือ Summer Point Token จะได้รับผลตอบแทนและสิทธิต่างๆ ได้แก่ 1) สิทธิในการได้รับผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิของโครงการ Summer Point และเงินต้นทยอยคืนตลอดอายุโครงการ ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวจะเป็นรายได้จากค่าเช่าหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงาน ในส่วนของการชําระคืนเงินต้น ผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับการชําระคืนเงินต้น แยกเป็นคนละส่วนกับผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิเพื่อผลประโยชน์ทางด้านภาษี โดยจะชําระคืนเงินต้นเป็นรายไตรมาสในอัตราคงที่ 1% ของมูลค่าการระดมทุน ส่วนมูลค่าคงเหลือที่เกินกว่ามูลค่าเงินต้นในงวดนั้นๆ จะถูกจ่ายเป็นผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิ และ 2) สิทธิในการลงมติที่เกี่ยวข้องกับโทเคนดิจิทัล เช่น การเปลี่ยนแปลงและแต่งตั้งทรัสตีในกองทรัสต์, การกําหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่บริษัทผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) อื่น, การเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์ผลตอบแทนหรือการจัดสรรผลตอบแทนให้ผู้ถือโทเคนดิจิทัล เป็นต้น            ทั้งนี้ หลังจากระดมทุนแล้วเสร็จ ผู้ออกโทเคนดิจิทัลจะแต่งตั้งบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์มานาน ให้ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) เพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินของโครงการตลอดอายุโครงการโทเคนดิจิทัล            นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) กล่าวว่า อาคารสำนักงานซัมเมอร์พ้อยท์ ตั้งอยู่ในย่าน ใจกลางสุขุมวิท ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง และใกล้จุดขึ้นทางพิเศษฉลองรัช แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ, St Andrews International School, สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง, ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, โรงพยาบาลสุขุมวิท, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ฯลฯ จึงมีอัตราเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงกว่า 96% ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความชำนาญของทีมในการบริหารโครงการ Summer Point ได้เป็นอย่างดี            ปัจจุบันตัวอาคารอยู่ในสภาพค่อนข้างใหม่ เนื่องจากเพิ่งเปิดดำเนินการในปี 2563 โดยเป็นอาคารสูง 5 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น พร้อมที่จอดรถ 78 คัน มีพื้นที่รวมทั้งหมดเกือบหมื่นตารางเมตร ผสมผสานการใช้งานเป็นสำนักงานและพื้นที่ให้เช่าแก่ร้านค้า แบ่งเป็น พื้นที่สำนักงาน 4,797.86 ตารางเมตร พื้นที่ร้านค้า 998.75 ตารางเมตร และพื้นที่ส่วนกลางและบริการ 4,200.39 ตารางเมตร            “บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ ขณะที่กลุ่มผู้เช่าของโครงการเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ และกระจายตัวจากหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงอยู่ในธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการต่อสัญญาเช่าในระยะยาว อาทิ ธุรกิจให้เช่าช่วงพื้นที่และบริการสํานักงาน, สื่อบันเทิงและโฆษณา, สถาบันเสริมความงาม, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ฯลฯ ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกระแสรายรับจากค่าเช่าที่ต่อเนื่องและยั่งยืน” นายปรับชะรันซิงห์ กล่าว [PR News]

BC แกรนด์โอเพนนิ่ง “โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill)” ยกระดับไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่

BC แกรนด์โอเพนนิ่ง “โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill)” ยกระดับไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่

      บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) จัดงาน Grand Opening เปิดตัวโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้แห่งใหม่ย่านเจริญกรุง ด้วยมูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท และเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยทำเลทองย่านกรุงเก่ามีศักยภาพการเติบโตสูง พัฒนาขึ้นจากแรงบันดาลใจ ในการรวมเสน่ห์ของย่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เข้ากับความทันสมัย ปักธงเป็นศูนย์รวมพื้นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยร้านค้าและพื้นที่จัดกิจกรรมครบครัน ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งด้านการท่องเที่ยว และการกระจายรายได้สู่ชุมชน             นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมยกระดับย่านเจริญกรุง จัดงานเปิดตัวโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) สุดยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นับเป็นCommunity Lifestyle Mall แห่งล่าสุดของกลุ่มบริษัทบูทิค ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก ด้วยมูลค่าโครงการอยู่ที่ 270 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร และจำนวน 28 ร้านค้า พร้อมมอบประสบการณ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม ด้วยทำเลใกล้โรงเรียนนานาชาติ และสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้ประสบความสำเร็จ มีอัตราการเช่าพื้นที่ร้อยละ 70 และมุ่งหวังในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่มีเอกลักษณ์            โดยโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) มีแนวคิดที่ผสมผสานสไตล์นอร์ดิกอันเรียบง่ายและทันสมัยเข้ากับเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ของย่านเจริญกรุง มีการออกแบบเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ด้วยจุดเด่นที่เน้นความสะดวกสบาย การมีส่วนร่วมในกิจกรรม และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า มีแรงบันดาลใจมาจากความต้องการที่จะรวมเสน่ห์ของย่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและแปลกใหม่เข้าด้วยกัน และย่านเจริญกรุง ถือเป็นทำเลศักยภาพที่มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถผสมผสานความเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์และความทันสมัยได้อย่างน่าสนใจ           อีกทั้ง โดดเด่นด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ที่หลากหลาย มีโซนการศึกษา โซนส่งเสริมและดูแลสุขภาพ รวมถึงร้านชื่อดังต่างๆ อาทิ VE/la, Kowloon Diner, JIAN CHA, CHALACHOL BANGKOK, Peninsula Tailors และ Lumilux Clinic เป็นต้น อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับการถ่ายรูป ทำแอคทิวิตี้ต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ ยังจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่เน้นการเชื่อมโยงกับชุมชน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคนในพื้นที่ มุ่งมั่นสร้างงานให้กับชุมชน สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ รวมถึงการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เช่น ตลาดศิลปะและกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ อีกทั้ง เล็งแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดอีเวนต์พิเศษ เช่น นิทรรศการศิลปะ เทศกาลอาหาร และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ต่อยอดพัฒนาพื้นที่ไฮไลต์ใหม่ๆ เพื่อคงความน่าสนใจในระยะยาว           “โครงการโคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) นับเป็นอีกหนึ่งโครงการไฮไลต์ของ BC ในปี 2567 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในโมเดลธุรกิจ BOS ตั้งแต่การเลือกทำเลที่โดดเด่นใจกลางเมืองบนถนนเจริญกรุง มีอัตราผู้เช่าในระดับสูง อีกทั้งยังสามารถขายเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวได้ในสัดส่วน 50% ตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว จากความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของโครงการ ซึ่งโครงการนี้ บริษัทฯ หวังเป็นพื้นที่ในการยกระดับชุมชนในย่านเจริญกรุง และหนุนรายได้เติบโตในส่วนของงานดำเนินการ (Operate) อย่างแข็งแกร่งได้ในอนาคต” นายปรับ กล่าวปิดท้าย

BC เทิร์นอะราวน์รอบ 5ปี ขาย ‘Summer Point Token’

BC เทิร์นอะราวน์รอบ 5ปี ขาย ‘Summer Point Token’

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการ BC ปี 2567 จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวน์รอบ 5 ปีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 พลิกมีกำไร 54.5 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 44.8 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 221.7% ส่วน 9 เดือนแรกปี 2567 พลิกมีกำไร 66.2 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 151 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 143.8%           ส่วนรายได้ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 198 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 91.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.2% ขณะที่ 9 เดือนปี 2567 ทำได้ 495.6 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 276.8 ล้านบาท เติบโต 79.1%           ขณะเดียวกัน BC คาดว่าผลประกอบการในปี 2568 จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ซึ่งกลับมาคึกคัก ส่งผลให้โรงแรมในเครือ BC มีนักท่องเที่ยวเข้าพักเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่หัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต           บริษัทอยู่ระหว่างแผนการขายสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อนำเงินมาขยายการลงทุน โดยมีแผนพิจารณาขายสินทรัพย์เพิ่มเติมอีก 2-3 แห่ง พร้อมกับศึกษากลยุทธ์การขายสินทรัพย์รูปแบบใหม่ เช่น การขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนและเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้จากการขายสินทรัพย์ในปี 2568 จะเติบโตขึ้นราว 5-10% เมื่อเทียบกับปีนี้           บริษัทประเมินว่าทิศทางดอกเบี้ยขาลงจะส่งผลบวกต่อการซื้อขายสินทรัพย์ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดและเปิดโอกาสให้อัตราผลตอบแทนจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ภาวะดอกเบี้ยที่ลดลงยังส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงตาม ซึ่งจะสนับสนุนแผนการขยายการลงทุนในอนาคต           บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ "กมลา 1" ซึ่งตั้งอยู่บนหาดกมลา จังหวัดภูเก็ต โดยคาดว่าจะเสร็จและเปิดให้บริการในช่วงปี 2568 โครงการนี้จะเป็นโรงแรมหรูที่มุ่งเน้นการบริการนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการในระหว่างการพัฒนาที่ย่านสุขุมวิท ซอย 5 ซึ่งเป็นทำเลทองในกรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569 มูลค่ารวมของทั้งสองโครงการนี้มีมากกว่า 2 พันล้านบาท           บริษัทมีแผนการระดมทุนผ่านการออก ICO (Initial Coin Offering) หรือการเสนอขายดิจิทัลโทเคน (Digital Token) เพื่อปลดล็อกการเติบโต โดยได้ยื่นแบบคำขอเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” หรือ “Summer Point Token”           โดยมี บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด จะเป็นผู้ออกและเสนอขาย โดยบริษัทตั้งเป้าระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน มูลค่ารวมไม่เกิน 450 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลจาก ก.ล.ต. เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้หมุนเวียนในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ตามแผน โดยคาดว่า ICO นี้จะสามารถเสนอขายได้ภายในสิ้นปี 2567 รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

BC ไตรมาส3 เทิร์นอะราวน์ 221.7%

BC ไตรมาส3 เทิร์นอะราวน์ 221.7%

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2567 พลิกมีกำไร 54.5 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 44.8 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 221.7% ส่วน 9 เดือนแรกปี 2567 พลิกมีกำไร 66.2 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 151 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 143.8%           ส่วนรายได้ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 198 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 91.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.2% ขณะที่ 9 เดือนปี 2567 ทำได้ 495.6 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 276.8 ล้านบาท เติบโต 79.1%

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[ภาพข่าว] Bespoke Wellness บริษัทในกลุ่ม BC บริจาคสมุนไพรทางการแพทย์

[ภาพข่าว] Bespoke Wellness บริษัทในกลุ่ม BC บริจาคสมุนไพรทางการแพทย์

           บริษัท บีสโปค เวลเนส จำกัด (Bespoke Wellness) ภายใต้บริษัทในกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ บริจาคสมุนไพรไทยคุณภาพสูงเพื่อการแพทย์ จำนวน 24 กิโลกรัม มูลค่ากว่าหนึ่งล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข โดยการส่งมอบนี้มุ่งหวังที่จะสนับสนุนความพยายามของโรงพยาบาลในการผลิตยาและผลักดันการวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาด้วยสมุนไพรไทย เนื่องจากโรงพยาบาลได้วิจัยและผลิตยาให้กับโรงพยาบาลในเครือกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อเพิ่มแนวทางในการรักษาหรือบำบัดได้ในอนาคต            เนื่องด้วยปัจจุบัน การบำบัดด้วยยาสมุนไพรไทยทางเลือก เป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจมากขึ้น Bespoke Wellness เล็งเห็นโอกาสในการสนับสนุนและส่งมอบสมุนไพรไทยเพื่อการแพทย์ ให้โรงพยาบาล เพื่อนำไปใช้ในการผลิตยารักษาโรค ยาปรุงเฉพาะรายบุคคล และยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการผู้ป่วยที่มีภาวะสุขภาพที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น            สำหรับ Bespoke Wellness ประกอบธุรกิจคลินิกการแพทย์แผนไทย เพื่อจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์ที่มีสมุนไพรไทยเป็นส่วนประกอบ ได้รับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องสำหรับการให้บริการคลินิกแพทย์แผนไทย รวมถึงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ในลักษณะคลินิกการแพทย์แผนไทย ชื่อ คณาคลินิกการแพทย์แผนไทย ณ โครงการซัมเมอร์ พ้อยท์ โดย Bespoke Wellness ส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพอย่างมีความรับผิดชอบในบริบทของการบำบัด เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบริษัทในการตอบแทนชุมชนและสนับสนุนภาคส่วนการดูแลสุขภาพในการค้นหาทางเลือกการบำบัดตามธรรมชาติ

[PR News] BC เล็งโครงการ Summer Point ให้ เดอะ อิชชูเออร์ ผ่านแผน ICO

[PR News] BC เล็งโครงการ Summer Point ให้ เดอะ อิชชูเออร์ ผ่านแผน ICO

          บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“BC”) กางแผนขายโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ มิกซ์ยูสสุดฮอตใจกลางสุขุมวิท ให้ บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด (“เดอะ อิชชูเออร์”) ผ่านการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลในรูปแบบ ICO ล่าสุด เดอะ อิชชูเออร์ ในฐานะผู้ออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัล พร้อมด้วย บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) บริษัทภายใต้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน SCBX ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขาย (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อขออนุมัติการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ภายใต้ชื่อ “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” หรือ “Summer Point Token” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนในโครงการซัมเมอร์พ้อยท์โดยโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ในการอ้างอิงของโครงการ อยู่ในทำเลศักยภาพสูง ติดรถไฟฟ้า BTS พระโขนง และมีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) เฉลี่ยประมาณ 96% ฐานผู้เช่าแข็งแกร่งกระจายตัวอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เสริมทัพทางเลือกในการขายเงินลงทุนผ่านการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัล           ทั้งนี้ “Summer Point Token” อยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัล จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 450 ล้านบาท วัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งกระแสรายรับของโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ และใช้สำหรับชำระทำธุรกรรมซื้อหุ้น บริษัท บูทิค พระโขนง ทรี จำกัด จากกลุ่ม BC           นักลงทุน และผู้ที่สนใจสามารถอ่านเอกสาร Filing ฉบับเต็มได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSTD01.aspx?TransID=655028&lang=th           สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจและศึกษาลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

[PR News] BC ปิดดีล ขาย “IBIS เชียงใหม่” บุ๊คกำไรเข้า Q3/67

[PR News] BC ปิดดีล ขาย “IBIS เชียงใหม่” บุ๊คกำไรเข้า Q3/67

BC ลั่นข่าวดี ปิดดีล ขายเงินลงทุนในโครงการ “IBIS เชียงใหม่” ในสัดส่วน 37% บุ๊คกำไรเข้า Q3/67 ตามโมเดลธุรกิจหลัก BOS “บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC)” ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ รูปแบบ BOS ประกาศข่าวดี ปิดดีลขายเงินลงทุนโครงการ “โรงแรมไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นีย์ฮับ” ในสัดส่วน 37% ด้วยราคามูลค่ายุติธรรมโครงการที่ 420 ล้านบาท หนุนกำไรบุ๊คเข้ามาใน Q3/67 สะท้อนศักยภาพโครงการที่โดดเด่น หนุนผลงานพลิกเทิร์นอะราวด์ตามนัด นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) เปิดเผยความสำเร็จในการปิดดีลขายสัดส่วนเงินลงทุนในโครงการ “โรงแรมไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นีย์ฮับ” นับเป็นโรงแรมยอดนิยมในจังหวัดเชียงใหม่ ในสัดส่วน 74% (รวมผู้ลงทุนร่วม) ด้วยราคามูลค่าหุ้นที่  149.5 ล้านบาท โดย BC ขายเงินลงทุนของตัวเองเป็นสัดส่วน 37% จะได้ค่าตอบแทนจากการจำหน่ายหุ้นดังกล่าวรวมทั้งสิ้นประมาณ 75 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนเข้ามาที่ BC ในไตรมาส 3 ปี 2567 นี้ทันที ซึ่งภายหลังจากการขายออกเงินลงทุนตามโมเดลธุรกิจหลัก BOS แล้ว BC จะเหลือถือหุ้นในสัดส่วนหุ้นอยู่ที่ 26% โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 420 ล้านบาท มองว่า ด้วยศักยภาพของโรงแรมไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นีย์ฮับ ภายใต้การออกแบบสไตล์ร่วมสมัย (Contemporary) ผสมผสานกันจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยจำนวนห้องพัก 143 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับย่านนิมมานเหมินทร์ แหล่งไลฟ์สไตล์สุดฮิปของเมืองเชียงใหม่ ถนนเส้นหลักจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่รักการช้อปปิ้ง และดื่มด่ำบรรยากาศในย่านเมืองเก่าที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างหลงใหล ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในการเข้ามาลงทุน สร้างกระแสเงินสดที่ดี อย่างไรก็ดี จากความสำเร็จการปิดดีลโครงการนี้ นับเป็นโครงการที่ 2 ของปี 2567 ซึ่งจะมีการบุ๊คกำไรเข้ามาสนับสนุนให้แนวโน้มไตรมาส 3 BC มั่นใจจะเป็นอีกไตรมาสที่สามารถเทิร์นอะราวด์ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงปลายปี ธุรกิจกลุ่ม Hospitality เข้าสู่ไฮซีซั่นในการเติบโต คาดจะสนับสนุนให้ปิดผลงานพลิกทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต