ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#ATP30


[Vision Exclusive] ATP30 วิ่งรถบัสอีวีใหม่ 20 คัน  โค้งแรก Utilization ดีด 10%

[Vision Exclusive] ATP30 วิ่งรถบัสอีวีใหม่ 20 คัน โค้งแรก Utilization ดีด 10%

           หุ้นวิชั่น - ATP30 ส่งสัญญาณโค้งแรกสดใส รับลูกค้าเพิ่ม Utilization โต 10% บิ๊กบอส ‘ปิยะ เตชากูล’ คุมต้นทุนอยู่หมัด เตรียมเซ็นสัญญาให้บริการรถบัสไฟฟ้าใหม่ 20 คัน คาดใช้เงินลงทุน 90 ล้านบาท จากงบรวม 130 ล้านบาท มั่นใจหนุนมาร์จิ้นดีดแซงรายได้ ลุ้นผลงานปีนี้ทำ All Time High             นายปิยะ เตชากูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 1/2568 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราการใช้บริการ (Utilization) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ปัจจัยหลักมาจากการนำรถใหม่เข้ามาให้บริการเพิ่มเติม รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถเดิม ส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสแรกปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง            บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการนำรถโดยสารไฟฟ้ามาให้บริการ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้มากกว่าการใช้รถน้ำมัน ส่งผลให้แนวโน้มอัตรากำไร (มาร์จิ้น) มีโอกาสเติบโตมากกว่ารายได้            นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าไตรมาส 1/2568 จะเป็นฐานการเติบโตที่สำคัญสำหรับไตรมาส 2-4/2568 ตามจำนวนลูกค้าใหม่ที่ทยอยเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี            ในไตรมาส 1/2568 บริษัทมีลูกค้าใหม่เริ่มใช้บริการเพิ่มขึ้น 2 ราย ขณะเดียวกัน ยังเห็นสัญญาณความต้องการใช้บริการรถรับส่งพนักงานในหลายอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น            ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2568 บริษัทได้เพิ่มจำนวนรถให้บริการอีกกว่า 10 คัน จากเดิมที่ ณ สิ้นปี 2567 มีรถให้บริการรวม 729 คัน แบ่งเป็น รถบัส 277 คัน, รถมินิบัส 51 คัน, รถตู้ 383 คัน, รถกระบะ 2 คัน และ รถไฟฟ้า 16 คัน ซึ่งในจำนวนรถไฟฟ้าดังกล่าว ประกอบด้วย รถตู้มินิแวนไฟฟ้า 3 คัน, รถบัสไฟฟ้า 3 คัน และ รถมินิบัสไฟฟ้า 10 คัน            นอกจากนี้ ATP30 มี Backlog มูลค่ารวม 1,943 ล้านบาท และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทให้บริการลูกค้าจำนวน 65 ราย โดยยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง            ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหม่ เพื่อให้บริการรับส่งพนักงานด้วยรถไฟฟ้า พร้อมเตรียมเซ็นสัญญาเพิ่มอีกประมาณ 20 คัน โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 90 ล้านบาท จากงบลงทุนทั้งหมด 130 ล้านบาท ในปี 2568            อย่างไรก็ตาม หากสามารถเพิ่มจำนวนรถบัสรับส่งพนักงานได้ตามแผน บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตเฉลี่ย เดือนละ 10% และจะสามารถรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่เต็มปีในปี 2569            นายปิยะ กล่าวต่อว่า บริษัทมั่นใจทิศทางรายได้ปี 2568 รายได้จะทุบสถิติใหม่ หรือทำ All time high จากปี 2567 ที่มีรายได้ อยู่ที่ 728.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% และมีกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 45.53 ล้านบาท เติบโต 57.11% รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

โกลเบล็กทำนายแม่น ATP30 - AU มาตามนัด

โกลเบล็กทำนายแม่น ATP30 - AU มาตามนัด

          หุ้นวิชั่น – บล.โกลเบล็ก เคาะหุ้นผลงานเด่น ATP30 กำไรโต 57.11% มาตามคาดการณ์ ชี้ศักยภาพเติบโตต่อ รับอานิสงส์ EEC ขยายตัว โชว์ Backlog 1,943 ล้านบาท พร้อมแผนเพิ่มรถไฟฟ้าอีก 21 คัน ด้าน AU กำไรพุ่ง 66% เตรียมขยายสาขาใหม่ 7-10 แห่ง เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเหมาะสม 13.50 บาท           นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ประกาศผลประกอบการปี 2567 พบว่า บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 และ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU รายงานผลประกอบการออกมาตามที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์           ATP30 รายงานผลประกอบการปี 2567 มีรายได้รวม 730.61 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 45.53 ล้านบาท เติบโต 57.11% จากปี 2566 โดยฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพการเติบโตของรายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งครอบคลุมจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง โดยบริษัทมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จากมาตรการ EEC Free Visa รวมถึงการขยายฐานการผลิตของภาคอุตสาหกรรมสู่พื้นที่ดังกล่าว           ขณะนี้ฝ่ายวิเคราะห์อยู่ระหว่างการปรับปรุงบทวิเคราะห์และแนวโน้มการเติบโตของ ATP30 ในปี 2568 โดยก่อนหน้านี้ได้ให้ราคาเหมาะสมที่ 1.25 บาท พร้อมคงคำแนะนำ "ซื้อ"           โดย ณ สิ้นปี 2567 บริษัทได้ให้บริการลูกค้า 65 รายด้วยรถโดยสารให้บริการจำนวน 729 คัน ประกอบด้วย รถบัสจำนวน 277 คัน, รถมินิบัสจำนวน 51 คัน, รถตู้จำนวน 383 คัน, รถกระบะจำนวน 2 คัน และรถไฟฟ้าจำนวน 16 คัน อาทิ รถตู้มินิแวนจำนวน 3 คัน, รถบัสไฟฟ้าจำนวน 3 คัน และรถมินิบัสไฟฟ้าจำนวน 10 คัน นอกจากนี้บริษัทมี Backlog มูลค่า 1,943.00 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต พร้อมแผนขยายกองรถบัสไฟฟ้าเพิ่มอีก 21 คันในปี 2568           ส่วน AU ประกาศผลประกอบการปี 2567 มีรายได้ 1,603.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 296.20 ล้าน เพิ่มขึ้น 118 ล้านบาท หรือเติบโต 66% จากปี 2566  ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์รายได้และกำไรปี 2568 อยู่ที่ 1,810 ล้านบาท (+14% YoY) และ 332 ล้านบาท (+12% YoY) ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก 2 ประการ ได้แก่ (1) การขยายสาขา After You ราว 7-10 สาขา ส่งผลให้มีสาขารวม 70-73 แห่ง และ (2) การรับรู้รายได้จากการวางขายสินค้าในร้าน 7-Eleven ตลอดทั้งปี รวมถึงแผนการเพิ่มกำลังการผลิตให้ครอบคลุม 7-Eleven 14,000 สาขา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ไตรมาส 1/2568           ปัจจุบัน After You มีรายได้จากการวางขายสินค้าใน 7-Eleven ประมาณ 30 ล้านบาทต่อไตรมาส  ซึ่งยังครอบคลุมเพียง 8,000-9,000 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หากสามารถขยายการวางขายสินค้าไปยัง ทุกสาขาของ 7-Eleven คาดว่าจะทำให้มีรายได้ส่วนเพิ่มราว 150-200 ล้านบาทต่อปี (เฉพาะกลุ่มสินค้าขนมปังเนยโสด ยังไม่รวมสินค้าอื่นๆ ที่จะเพิ่มเข้ามา)           นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากการขยายตลาดต่างประเทศ ผ่านการขายแฟรนไชส์หรือหาตัวแทนจำหน่าย (Distributor) ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา การทยอยออกสินค้าใหม่ ฝ่ายวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 13.50 บาท

ATP30 ปักธงผู้นำรับส่งพนักงาน-แบ็กล็อกแน่น 1.9 พันล.

ATP30 ปักธงผู้นำรับส่งพนักงาน-แบ็กล็อกแน่น 1.9 พันล.

          หุ้นวิชั่น - บอสใหญ่ ATP30 "ปิยะ เตชากูล" ส่งซิกโค้งแรกปี 68 สดใส จ่อรับทรัพย์ลูกค้าใหม่เต็มไตรมาส ปักธงผู้นำบริการรับส่งพนักงาน พร้อมทั้งพัฒนาบริการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คาดรายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 10% ขอรักษา Gross Profit Margin ที่ระดับ 20% โชว์ Backlog 1,943 ล้านบาท           นายปิยะ เตชากูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในไตรมาส 1/2568 จะมีการเติบโตจากการรับรู้รายได้ลูกค้าใหม่ซึ่งเป็นลูกค้าที่เริ่มให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2567 แม้ว่าจะยังไม่เต็มไตรมาสก็ตาม หากบริษัทสามารถนำรายได้จากลูกค้าใหม่เข้ามาในไตรมาส 1/2568 จะทำให้รายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทมีลูกค้าหลายรายที่แสดงความสนใจในการให้บริการรับส่งพนักงานจำนวนมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกหลายราย โดยมีลูกค้าที่ใกล้จะเซ็นสัญญาใหม่จำนวน 4 ราย คาดลูกค้ารายใหม่จะช่วยผลักดันการเติบโตให้ ATP30 ไปสู่เป้าหมายได้ตามแผน           สำหรับแผนการขยายธุรกิจในปี 2568 บริษัทวางงบลงทุนไว้สองส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นการเพิ่มจำนวนรถ โดยมีแผนจะเพิ่มรถอีกกว่า 30 คัน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเน้นการขยายรถบัสและรถมินิบัสไฟฟ้าเป็นหลัก มากกว่าการขยายรถที่ใช้น้ำมัน ส่วนที่สองบริษัทมีแผนจะลงทุนขยายออฟฟิศและพัฒนาโซล่าร์รูฟท็อป โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 27 ล้านบาท           อย่างไรก็ตาม บริษัท ATP30 ตั้งเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นผู้นำด้านการขนส่งพนักงาน พร้อมทั้งพัฒนาบริการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่ารายได้ในปี 2568 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะผลักดันอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ให้ดีขึ้น โดยตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ไว้ไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมทั้งรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น           ขณะเดียวกันบริษัท ATP30 มีแผนขยายบริการไปยังกลุ่มท่องเที่ยว โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยว แต่บริษัทไม่มีนโยบายเพิ่มรถใหม่ในการให้บริการ โดยจะใช้รถที่มีอยู่ในการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ           ด้านผลประกอบการปี 2567 มีรายได้จากการบริการอยู่ที่ 728.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% จากปีก่อนหน้าสะท้อนถึงความสามารถในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่และรักษาลูกค้ารายเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ ณ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทได้ให้บริการลูกค้า 65 รายด้วยรถโดยสารให้บริการจำนวน 729 คัน ประกอบด้วย รถบัสจำนวน 277 คัน, รถมินิบัสจำนวน 51 คัน, รถตู้จำนวน 383 คัน, รถกระบะจำนวน 2 คัน และรถไฟฟ้าจำนวน 16 คัน อาทิ รถตู้มินิแวนจำนวน 3 คัน, รถบัสไฟฟ้าจำนวน 3 คัน และรถมินิบัสไฟฟ้าจำนวน 10 คัน นอกจากนี้บริษัทมี Backlog มูลค่า 1,943.00 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต           ขณะที่ กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 45.53 ล้านบาท เติบโต 57.11% จากปีก่อนหน้า เหตุผลหลักของการพัฒนากำไรที่สูงขึ้นและอัตราการทำกำไรที่มากขึ้นมาจากการขยายตัวของรายได้และการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนทางตรงในปี 2567 รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

ATP30 ใจดีแจกปันผล กำไรมาตามนัดโต 57%

ATP30 ใจดีแจกปันผล กำไรมาตามนัดโต 57%

          หุ้นวิชั่น -  ATP30 แจ้งงบปี 67 กำไรโต 57% ทำได้ 45.53 ล้านบาท ตามโบรกคาด ส่วนรายได้อยู่ที่ 728.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% โชว์กองรถ 729 คัน ตุนงาน (Backlog) แน่น 1,943.00 ล้านบาท ลุยเพิ่มรถไฟฟ้าอีก  21 คันในปี 68 พร้อมโชว์การเงินแกร่ง บอร์ดเคราะปันผล 0.03 บาท/หุ้น ขึ้น XD 8 เม.ย. 68  กำหนดจ่าย 25 เม.ย.นี้           ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายปิยะ เตชากูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ขอเรียนชี้แจงผลการดำเนินงานประจำปี 2567 โดยพิจารณาจากงบการเงินของบริษัท รายละเอียดต่อไปนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงาน บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีรายได้จากการบริการอยู่ที่ 728.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% จากปีก่อนหน้าสะท้อนถึงความสามารถในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่และรักษาลูกค้ารายเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ           ณ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทได้ให้บริการลูกค้า 65 รายด้วยรถโดยสารให้บริการจำนวน 729 คัน ประกอบด้วย รถบัสจำนวน 277 คัน, รถมินิบัสจำนวน 51 คัน, รถตู้จำนวน 383 คัน, รถกระบะจำนวน 2 คัน และรถไฟฟ้าจำนวน 16 คัน อาทิ รถตู้มินิแวนจำนวน 3 คัน, รถบัสไฟฟ้าจำนวน 3 คัน และรถมินิบัสไฟฟ้าจำนวน 10 คัน นอกจากนี้บริษัทมี Backlog มูลค่า 1,943.00 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต พร้อมแผนขยายกองรถบัสไฟฟ้าเพิ่มอีก 21 คันในปี 2568           การเติบโตของกำไร กำไรขั้นต้นปี 2567 อยู่ที่ 144.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.31% YoY อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.82% เพิ่มขึ้นจาก 17.50% ในปี 2566 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.23% เพิ่มขึ้นจาก 4.32% ในปี 2566           อัตราส่วน EBITDA มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 173.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.63% CAGR ในช่วง 5 ปี           กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 45.53 ล้านบาท เติบโต 57.11% จากปีก่อนหน้า เหตุผลหลักของการพัฒนากำไรที่สูงขึ้นและอัตราการทำกำไรที่มากขึ้นมาจากการขยายตัวของรายได้และการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนทางตรงในปี 2567           “ทิศทางธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งด้านรายได้ กำไร พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจการให้บริการขนส่งและซ่อมบำรุง ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG” ความแข็งแกร่งทางการเงินและโครงสร้างต้นทุน           บริษัทมีแนวโน้มทางการเงินที่มั่นคง โดยในปี 2568 บริษัทไม่มีภาระหนี้ระยะยาวจากเงินกู้ยืมของที่ดินและอาคารสำนักงานใหญ่ และดำเนินการปลอดจำนองเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเงินกู้ระยะยาววงเงิน 15.00 ล้านบาทได้มีการชำระแล้ว 13.80 ล้านบาท และจะชำระส่วนที่คงเหลือจำนวน 1.20 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งจะช่วยให้โครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่งยิ่งขึ้น           นอกจากนี้กองรถโดยสารจำนวน 245 คันที่ครบกำหนดชำระภายในปี 2568 ถึงปี 2569 ส่งผลให้ค่าผ่อนชำระลดลงอย่างมาก ซึ่งจะทำให้กระแสเงินสดของบริษัทดีขึ้นในระยะยาว           พร้อมกันนี้ คณะกรรมการมีมติจะจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น โดยเป็นผลการดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567ทั้งนี้กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 9 เม.ย. 2568 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 8 เม.ย. 2568 โดยมีอัตราการจ่ายปันผลที่ 0.03 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายปันผล 25 เม.ย. 2568 แผนธุรกิจปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายการเพิ่มอัตรากำไรและกระแสเงินสด พร้อมขยายสายธุรกิจ 3 ประเภท ดังนี้ การให้บริการรถไฟฟ้า (Green Traveling) ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ 100% และร่วมมือกับพันธมิตรด้าน Green Energy การให้บริการเช่ารถแบบรายเที่ยว (VVS: VIP Vehicle Service) และขยายการให้บริการท่องเที่ยว การให้บริการซ่อมบำรุง AQS (A Quick Service) ที่ครอบคลุมการซ่อม ตรวจสภาพ ล้างระบบปรับอากาศ และการจำหน่ายอะไหล่ให้ลูกค้าภายนอก           ด้านนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ออกบทวิเคราะห์ และระบุถึง ATP 30 ก่อนหน้านี้ว่า สำหรับ ATP30 คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2567 เติบโตต่อเนื่อง 5% QoQ และ 30% YoY จาก  Backlog ณ ต้นงวด จำนวน 1,870 ล้านบาทอยู่ในระดับสูงเมื่อผนวกกับการเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการลูกค้าใหม่ 5 ราย ทำให้กำไรยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบ QoQ และ YoY โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดรายได้ในงวดไตรมาส 4/2567 ราว 195 ล้านบาท +7% QoQ +12% YoY และกำไร 12.6 ล้านบาท +5% QoQ +30% YoY ตามลำดับ           ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการรายได้และกำไรสุทธิในปี 2567 เพิ่มขึ้นสู่ 730 ล้านบาท และ 46 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเติบโต 9% และ 59% YoY และปรับเพิ่มประมาณการ

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

ATP30 แจกปันผล0.03 บาท/หุ้น เล็ง XD 8 เม.ย.68

ATP30 แจกปันผล0.03 บาท/หุ้น เล็ง XD 8 เม.ย.68

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ATP30 แจ้งว่าคณะกรรมการมีมติจะจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น โดยเป็นผลการดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ทั้งนี้กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 9 เม.ย. 2568 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 8 เม.ย. 2568 โดยมีอัตราการจ่ายปันผลที่ 0.03 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายปันผล 25 เม.ย. 2568

ATP30 กำไรวิ่งกระฉูด57% แบ็กล็อกสูง 1,943.00 ล้านบาท

ATP30 กำไรวิ่งกระฉูด57% แบ็กล็อกสูง 1,943.00 ล้านบาท

        หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ATP30 ปี 67 แจ้งกำไรโต 57% หรือทำได้ 45.53 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 728.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% โชว์กองรถ 729 คัน ตุนงาน (Backlog) แน่น 1,943.00 ล้านบาท ลุยเพิ่มรถไฟฟ้าอีก 21 คันในปีนี้         นายปิยะ เตชากูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ขอเรียนชี้แจงผลการดำเนินงานประจำปี 2567 โดยพิจารณาจากงบการเงินของบริษัท รายละเอียดต่อไปนี้ ▪ ภาพรวมผลการดำเนินงาน บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีรายได้จากการบริการอยู่ที่ 728.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% จากปีก่อนหน้าสะท้อนถึงความสามารถในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่และรักษาลูกค้ารายเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทได้ให้บริการลูกค้า 65 รายด้วยรถโดยสารให้บริการจำนวน 729 คัน ประกอบด้วย รถบัสจำนวน 277 คัน, รถมินิบัสจำนวน 51 คัน, รถตู้จำนวน 383 คัน, รถกระบะจำนวน 2 คัน และรถไฟฟ้าจำนวน 16 คัน อาทิ รถตู้มินิแวนจำนวน 3 คัน, รถบัสไฟฟ้าจำนวน 3 คัน และรถมินิบัสไฟฟ้าจำนวน 10 คัน นอกจากนี้บริษัทมี Backlog มูลค่า 1,943.00 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต พร้อมแผนขยายกองรถบัสไฟฟ้าเพิ่มอีก 21 คันในปี 2568 ▪ การเติบโตของกำไร กำไรขั้นต้นปี 2567 อยู่ที่ 144.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.31% YoY อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.82% เพิ่มขึ้นจาก 17.50% ในปี 2566 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.23% เพิ่มขึ้นจาก 4.32% ในปี 2566 อัตราส่วน EBITDA มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 173.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.63% CAGR ในช่วง 5 ปี กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 45.53 ล้านบาท เติบโต 57.11% จากปีก่อนหน้า เหตุผลหลักของการพัฒนากำไรที่สูงขึ้นและอัตราการทำกำไรที่มากขึ้นมาจากการขยายตัวของรายได้และการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนทางตรงในปี 2567 ▪ ความแข็งแกร่งทางการเงินและโครงสร้างต้นทุน บริษัทมีแนวโน้มทางการเงินที่มั่นคง โดยในปี 2568 บริษัทไม่มีภาระหนี้ระยะยาวจากเงินกู้ยืมของที่ดินและอาคารสำนักงานใหญ่ และดำเนินการปลอดจำนองเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเงินกู้ระยะยาววงเงิน 15.00 ล้านบาทได้มีการชำระแล้ว 13.80 ล้านบาท และจะชำระส่วนที่คงเหลือจำนวน 1.20 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งจะช่วยให้โครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้กองรถโดยสารจำนวน 245 คันที่ครบกำหนดชำระภายในปี 2568 ถึงปี 2569 ส่งผลให้ค่าผ่อนชำระลดลงอย่างมาก ซึ่งจะทำให้กระแสเงินสดของบริษัทดีขึ้นในระยะยาว

เก็งงบหุ้นมินิดาวเด่น ATP30-TNP ท็อปฟอร์ม

เก็งงบหุ้นมินิดาวเด่น ATP30-TNP ท็อปฟอร์ม

          หุ้นวิชั่น -  เก็งงบหุ้นมินิ ธุรกิจบริการดาวเด่น ส่อง ATP30 ผลงาน Q4/67 สดใส ตุนแบ็กล็อก 1.87 พันล้านบาท คาดกำไรทั้งปี 67 โตแรง 59% พร้อมปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 1.25 บาท ด้าน TNP ค้าปลีกเชียงราย เงินสะพัด แจกเงินหมื่นหนุน แถมไฮซีท่องเที่ยวช็อปสนั่น โกลเบล็กเคาะกำไรปี 67 ราว 183 ล้านบาท หรือโต 18% แนะ “ซื้อ” ชี้พิกัด 5 บาท           นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า ฝ่ายวิเคราะห์มองแนวโน้มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ คาดจะมีผลประกอบการในไตรมาส 4/2567 และทั้งปี 2567 คือ กลุ่มบริการ โดยฝ่ายวิเคราะห์มองหุ้นที่น่าสนใจ 2 บริษัท ประกอบไปด้วย บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 และ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP           สำหรับ ATP30 คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2567 เติบโตต่อเนื่อง 5% QoQ และ 30% YoY จาก  Backlog ณ ต้นงวด จำนวน 1,870 ล้านบาทอยู่ในระดับสูงเมื่อผนวกกับการเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการลูกค้าใหม่ 5 ราย ทำให้กำไรยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบ QoQ และ YoY โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดรายได้ในงวดไตรมาส 4/2567 ราว 195 ล้านบาท +7% QoQ +12% YoY และกำไร 12.6 ล้านบาท +5% QoQ +30% YoY ตามลำดับ           ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการรายได้และกำไรสุทธิในปี 2567 เพิ่มขึ้นสู่ 730 ล้านบาท และ 46 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเติบโต 9% และ 59% YoY และปรับเพิ่มประมาณการสำหรับปี 2568 โดยคาดการณ์รายได้ 760 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง 4% และ 9% ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกำไรสุทธิระหว่างปี 2566 – 2568 ราว 20% ต่อปี ทั้งการเติบโตของผลประกอบการมาจากส่วนผสมที่ลงตัวจากการมีลูกค้าใหม่ ลูกค้าเก่ารับบริการเพิ่มขึ้น การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และจำนวนรถที่หมดภาระในการบันทึกค่าเสื่อมราคาจำนวน 25 คันในปี 2567           คงคำแนะนำ “ซื้อ” และฝ่ายวิเคราะห์ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมสำหรับปี 2568 เป็น 1.25 บาท (จากเดิม 1.16 บาท) โดยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงานในพื้นที่ EEC ครอบคลุมจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการ EEC Free Visa และการขยายฐานการผลิตสู่พื้นที่ดังกล่าว           ในการประเมินราคาเหมาะสมสำหรับปี 2568 ซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 17 เท่าซึ่งสอดคล้องกับ CAGR จากประมาณการกำไรใหม่ สำหรับปี 2568 ทำให้คาดการณ์กำไรต่อหุ้นปรับขึ้นสู่ 0.073 บาท (จากเดิม 0.069 บาท) คำนวณราคาเหมาะสมสำหรับปี 2567 ได้เท่ากับ 1.25 บาท (จากเดิม 1.16 บาท) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”           ขณะที่ TNP ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไร 4/2567 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ราว 2% แม้ไตรมาสก่อนฐานสูง ส่วนทั้งปี 2567 คาดเติบโต 18%           ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ 4/2567 ราว 754 ล้านบาท +8% YoY +3% QoQ และกำไรราว 49 ล้านบาท +2% YoY และ +2% QoQ ตามลำดับ คงเติบโตต่อเนื่องแม้ไตรมาสก่อนฐานสูง โดย 3Q67 มีกำไร 47 ล้านบาท +41% YoY +12% QoQ เนื่องจากได้ประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือทำให้มีการเร่งกักตุนสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลให้ SSSG ในช่วง 4/2567 เป็นลบราว -3%           อย่างไรก็ตาม คาดผลประกอบการจะยังคงเติบโตจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การเข้าสู่ High Season การได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงินหมื่นบาทที่กลุ่มผู้มีสิทธิ์เพิ่งได้รับเมื่อปลายไตรมาส 3/2567 รวมทั้งรอบเก็บตกในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.67 และการขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง สู่ทั้งหมด 50 แห่ง ณ สิ้นปี 67           โดยวิเคราะห์ประมาณการกำไรทั้งปี 2567 ราว 183 ล้านบาท +18% YoY ซึ่ง 9 เดือนแรกปี 2567 มีกำไร 135 ล้านบาท +25% YoY และคิดเป็น 73% ของประมาณการดังกล่าว           คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเหมาะสม 5.00 บาท อัพไซต์ 62% ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสม TNP โดยอิง Prospective P/E Ratio ที่ 20x ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี (ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PE เพียง 13.6x ที่ระดับ -2SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี) และคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2568 ที่ราว 0.25 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 5.00 บาท โดยราคาหุ้นมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 62% และจ่ายปันผลในอัตรา 3% ต่อปี จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

[Vision Exclusive] ATP30 ลูกค้าใหม่จ่อ-วางงบ 130ล. รถอีวีฮอต!

[Vision Exclusive] ATP30 ลูกค้าใหม่จ่อ-วางงบ 130ล. รถอีวีฮอต!

          หุ้นวิชั่น - ATP30 ส่งสัญญาณบริการรับส่งพนักงานปี 68 คึกคัก ลูกค้าใหม่ในไปป์ไลน์แน่น พร้อมขยายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อีก 25 คัน คาดใช้งบลงทุน 130 ล้านบาท ด้านบอสใหญ่ "ปิยะ เตชากูล" มองรายได้โตต่อไม่ต่ำกว่า 10% จับตาอัตราการทำกำไรสวย           นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยไปยังโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ รอบเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) และเขตอุตสาหกรรมภาคกลาง เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า ทิศทางธุรกิจบริการรับส่งพนักงานในปี 2568 มีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่และปรับเปลี่ยนการให้บริการลูกค้าเดิมไปสู่การใช้รถไฟฟ้า (EV) มากขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและการเปลี่ยนผ่านสู่การให้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต           ปัจจุบันบริษัทได้รับการยืนยันจากลูกค้าใหม่แล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเติมอีก 2 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้           ATP30 วางแผนเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้า (EV) อีก 15-25 คันในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีรถ EV ให้บริการอยู่ 13 คัน โดยมีอัตราการใช้งาน (Utilization) เต็ม 100% หลังจากที่บริษัทได้ทดลองใช้รถ EV มาแล้ว 2 ปี และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า บริษัทตั้งงบลงทุนในการเพิ่มรถ EV ในครั้งนี้ที่ 130 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการบริการที่เพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันการใช้รถไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม           และปัจจุบัน ATP30 มีรถทั้งหมด 730 คันที่ให้บริการลูกค้าในเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออกและภาคกลาง บริษัทมองทิศทางการให้บริการรถรับส่งพนักงานในปี 2568 ภาพรวมของตลาดอาจมีการปรับตัวลดลงบ้างจากปัจจัยภายนอก แต่สำหรับ ATP30 ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าเรียกใช้บริการรถเต็มจำนวน และมีแนวโน้มที่ลูกค้าใหม่จะสนใจใช้บริการเพิ่มขึ้น           แม้จะมีความท้าทายจากภาพรวมตลาดที่อาจชะลอตัว แต่บริษัทมั่นใจในความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าใหม่ และการขยายตัวของบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการในด้านการขนส่งพนักงานจากแหล่งชุมชนไปสู่โรงงานอุตสาหกรรม           นายปิยะ กล่าวต่อว่า ทิศทางการเติบโตปี 2568 คาดรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่แนวโน้มอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ปี 2568 จะดีกว่าปี 2567 เล็กน้อย โดย Gross Profit Margin ปีที่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 20% รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision  

[Vision Exclusive] โกลเบล็ก แจกหุ้นเด็ด mai ATP30 - D ท็อปฟอร์ม

[Vision Exclusive] โกลเบล็ก แจกหุ้นเด็ด mai ATP30 - D ท็อปฟอร์ม

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.โกลเบล็ก แนะลงทุนปีมะเส็ง พร้อมคัดหุ้นเด็ด! mai ชี้ "ATP30" ฮอต รถรับส่งพนักงานจากแหล่งชุมชนสู่โรงงานคึกคัก เล็งให้บริการลูกค้าใหม่เพียบ แถมรถหมดค่าเสื่อมหนุนมาร์จิ้นพอง 20% เคาะเป้า 1.25 บาท ส่วนอีกหนึ่งหุ้น แนะนำ "D" อิงกระแส Medical Tourism โตเด่น           นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มการลงทุนในปี 2568 ควรแบ่งกลยุทธ์การลงทุนออกเป็นระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น นักลงทุนควรพิจารณาลงทุนก่อนและหลังการประกาศผลประกอบการปี 2567 เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล ส่วนการลงทุนระยะยาวในช่วง 3-6 เดือน ควรเลือกหุ้นตามปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตในอนาคต           สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ได้แก่ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP 30 ซึ่งได้รับการจับตามองจากนักลงทุนในฐานะหุ้นที่มีศักยภาพสูง           อีกทั้ง ATP30 ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจให้บริการรับ-ส่งพนักงานจากเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีฐานลูกค้าเก่าที่มั่นคงและเตรียมเพิ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทได้รับประโยชน์จากรถให้บริการที่หมดค่าเสื่อม ซึ่งช่วยสนับสนุนให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) ในปี 2568 อยู่ในทิศทางขาขึ้น           บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 20% ซึ่งในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ATP30 สามารถรักษาฐานและตัวเลขดังกล่าวได้ตามเป้าหมาย สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงและอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมองว่า ATP30 เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในปี 2568 พร้อมแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 1.25 บาทต่อหุ้น           ฝ่ายวิเคราะห์คาดอีกหนึ่งหนึ่งที่น่าสนใจ และคาดจะได้รับอานิสงส์จากไฮซีซั่นท่องเที่ยว คือ บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร ยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแส Medical Tourism ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้การท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบบางส่วนจากกรณี 'ซิง ซิง' นักแสดงชาวจีนหายตัวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา           อย่างไรก็ตาม ความต้องการด้านเวสเนสและการรักษาสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้ารับบริการทันตกรรมในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล           D จึงถูกมองว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นที่กลับมาอย่างต่อเนื่อง รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

ATP30 กางแผนปี 68 ลุยเพิ่มบัส EV - ยกระดับมาตรฐานบริการ

ATP30 กางแผนปี 68 ลุยเพิ่มบัส EV - ยกระดับมาตรฐานบริการ

          ATP30 เผยแผนปี 2568 รักษาความเป็นผู้นำตลาดรถรับส่งพนักงาน ตั้งเป้ารายได้โต 10% พร้อมเพิ่มความสามารถทำกำไร พัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทุกมิติ เดินหน้าสร้าง Ecosystems ให้บริการบัส EV ขานรับเทรนด์ลดคาร์บอน พร้อมขยายฐานลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม           นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยไปยังโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ รอบเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) และเขตอุตสาหกรรมภาคกลาง เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2568 สามารถเติบโตในเกณฑ์ดี ATP30 มีเป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถรับส่งพนักงาน ด้วยการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ความปลอดภัย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม           ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 800 ล้านบาท เติบโตอย่างน้อย 10% และเพิ่มความสามารถทำกำไรให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ ประกอบด้วย การให้บริการ ระบบการเดินรถ มาตรฐานความปลอดภัยของผู้โดยสาร การจัดการด้านพลังงานทดแทน-สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการต้นทุน           ขณะเดียวกัน ATP30 ยังเดินหน้าแผนสร้าง Ecosystems มุ่งสู่การเป็นผู้นำการให้บริการด้วยรถบัสไฟฟ้า (EV) ที่ใช้พลังงานสะอาด และเป็น Partner ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องดำเนินการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีแผนเพิ่มจำนวนรถ EV อยู่ที่ 35 คันในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 13 คัน พร้อมทั้งลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้สอดรับกับการใช้งาน พัฒนาระบบ Smart Charger ให้มีประสิทธิภาพ นำเทคโนโลยีมาควบคุมระบบบริหารจัดการกระแสไฟฟ้าของตู้ชาร์จ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงทดสอบระบบ โดยที่ผ่านมาสามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak Demand) ลงตามเป้าหมาย และสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากระบบโซล่าได้มากขึ้น           นอกจากนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่ง เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มผลิตไฟฟ้า กลุ่มEV และขยายการให้บริการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น           “เชื่อมั่นว่าปีนี้จะเป็นปีที่ได้เห็นอัตรากำไรของ ATP30 ทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการบริหารจัดการ การเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้า การลดต้นทุนด้านพลังงาน และจากการที่จะมีรถครบกำหนดการผ่อนชำระกับสถาบันการเงินในปริมาณที่มากในปีนี้ ซึ่งจะทำให้กระแสเงินสดของบริษัทฯมีความแข็งแรงมากขึ้น รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น จากภาพรวมอุตสาหกรรมที่เติบโต และยังมีปัจจัยสนับสนุนจากข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ ผลักดันให้ผู้ประกอบการปรับตัวและให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้รถรับส่งพนักงานด้วยพลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้น”นายปิยะ กล่าว           ปัจจุบัน ATP30 มีลูกค้าจำนวน 66 ราย และมีรถให้บริการรวม 730 คัน ประกอบด้วย รถบัส 277 คัน, มินิบัส 51 คัน, รถตู้ 384 คัน, รถกระบะ 2 คัน และรถบัส EV 16 คัน โดยในปี 2568 มีรถที่จะหมดค่าเสื่อม จำนวน 20 คัน และรถที่หมดภาระผ่อนชำระ จำนวน 96 คัน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่ดีขึ้น และมีต้นทุนการดำเนินงานปรับตัวลดลงในระยะต่อไป [PR News]

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

ATP30 ชู Backlog สูง 1,870 ลบ. ดันผลงานโค้งท้ายโตต่อ

ATP30 ชู Backlog สูง 1,870 ลบ. ดันผลงานโค้งท้ายโตต่อ

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด ATP30 รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 เพิ่มขึ้น 32.6% YoY ที่ 12.0 ล้านบาท ผลจากการขยายฐานลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเดิมอย่างต่อเนื่อง และ อัตราก าไรขั้นต้นที่สูงขึ้นพร้อมปัจจัยบวกหนุน 4Q67 โตต่อ ATP30 รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 เพิ่มขึ้น 32.6% YoY ที่ 12.0 ล้านบาท ผลจากการขยายฐานลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเดิมอย่างต่อเนื่อง และ อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น โดยบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ เพิ่มขึ้น 7.8% YoY ที่ 181.9 ล้านบาท ผลจากจากการขยายฐานลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเดิมอย่างต่อเนื่อง และ การปรับขึ้นราคาค่าบริการตามต้นทุนพลังงานในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น(GPM)ไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 20.34% เพิ่มขึ้นจากระดับ 18.99% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลักๆเป็นผลจาก การปรับขึ้นราคาค่าบริการตามต้นทุนพลังงาน และการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพของบริษัท ปัจจัยบวกผลประกอบการในช่วง 4Q67 ของบริษัท คือ การเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการลูกค้ารายใหม่จำนวน 3 ราย รวมถึง Backlog ของรายได้ค่าบริการที่จะทยอยรับรู้ในช่วงถัดไปของบริษัทยังอยู่ระดับสูงที่ 1,870 ล้านบาท และ การปรับขึ้นราคาค่าบริการจะหนุนให้ GPM ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น           อนึ่ง “ATP30 ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งบุคลากรจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานที่ประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกและภาคกลาง”

ATP30 โชว์กำไรงวด 9 เดือน 67 โตแรง 73.64%

ATP30 โชว์กำไรงวด 9 เดือน 67 โตแรง 73.64%

          ATP30 เผยผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 67 รายได้ 535.99 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33.53 ล้านบาท โต 73.64% ไตรมาส 3 รายได้ เดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 เริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ในไตรมาส 4/67 มุ่งเน้นพัฒนาระบบ ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ดันผลประกอบการปี 67 โตตามเป้า           นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) และเขตอุตสาหกรรมภาคกลาง เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 535.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 497.27 ล้านบาท จำนวน 38.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.79% และมีกำไรสุทธิ 33.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.31 ล้านบาท จำนวน 14.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73.64%           ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ยังสามารถทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 โดยมีรายได้รวม 182.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 169.35 ล้านบาท จำนวน 12.86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.59% และมีกำไรสุทธิ 12.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.07 ล้านบาท จำนวน 2.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.64%           ทั้งนี้ผลประกอบการของ ATP30 สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ทั้งในด้านการปรับปรุงรถเพื่อให้บริการ การควบคุมต้นทุนด้านพลังงาน การเดินรถ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นสูงขึ้นอยู่ที่ 106.58 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 19.92% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 84 ล้านบาท หรืออัตรากำไรขั้นต้น 16.95% อีกทั้งบริษัทมีลูกค้าที่ให้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของกลุ่มลูกค้าเดิมที่ขยายสัญญา และกลุ่มลูกค้าใหม่ จำนวน 5 ราย คิดเป็นมูลค่าสัญญารวม 1,870 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีรถให้บริการทั้งหมด 702 คัน แบ่งเป็น รถบัส 277 คัน มินิบัส 51 คัน รถตู้ 361 คัน รถกระบะ 2 คัน และรถ EV 11 คัน           “ทิศทางธุรกิจไตรมาส 4 ปีบริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตได้ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง จากกลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุนที่แข็งแกร่ง การขยายฐานลูกค้า พร้อมทั้งพัฒนาระบบเพื่อรองรับการเติบโต และต่อยอดงานบริการให้หลากหลายยิ่งขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อความแข็งแรงและยั่งยืนของบริษัทในอนาคต มั่นใจว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 10% และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 20% รวมถึงอัตรากำไรสุทธิประมาณ 8-10%”นายปิยะ กล่าว [PR NEWS]

ATP30 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 1.16 บาท

ATP30 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 1.16 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน  บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด คาดแนวโน้มงวดไตรมาส 3/2567 ของ ATP30 กำไรเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากฐานรายได้เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรปรับดีขึ้น และคาดว่ารายได้จากการให้บริการในงวดไตรมาส 3/2567 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากการเริ่มบริการลูกค้าใหม่ตั้งแต่ปลายปี 66 และการปรับค่าบริการให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันดีเซล           ขณะที่การนำรถที่ปรับปรุงสภาพกลับมาให้บริการเกือบ 90% และจำนวนรถที่ตัดค่าเสื่อมราคาครบแล้วสนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับดีขึ้นทุกไตรมาส เห็นได้จากอัตรากำไรขั้นต้นในงวดไตรมาส 2/2567 เท่ากับ 19.6% ปรับดีขึ้นจาก 16.7% ในไตรมาส 2/2566 ทั้งนี้คาดรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 180 ล้านบาท +2% จากไตรมาสก่อนหน้า +7% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และคาดกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3/2567 ราว 12.2 ล้านบาท +10% จากไตรมาสก่อนหน้า +35% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่กำไรงวดครึ่งปีแรก 2567 เท่ากับ 21.5 ล้านบาท +110% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน           คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกำไรสุทธิปี 2567-2568 เท่ากับ 17% ต่อปี  ปัจจุบันบริษัทให้บริการลูกค้าจำนวน 68 รายมีจำนวน รถโดยสารรวม 745 คัน ปลายงวดไตรมาส 2/2567 มีรายได้ส่วนที่ยังไม่ได้รับรู้จำนวน 1,500 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 4 รายและได้ดำเนินการเตรียมรถโดยสารใหม่จำนวน 22 คัน เพื่อเตรียมให้บริการ           ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการรายได้และกำไรสุทธิในปี 2567 ตามเดิมที่ 707 ล้านบาท +6% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ 43 ล้านบาท ซึ่งยังเห็นการเติบโต 49% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ประมาณการกำไร 9 เดือนแรกปี 2567 คิดเป็น 50% ของประมาณกำไรทั้งปี สำหรับปี 2568 ฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการรายได้ราว 736 ล้านบาท +4% และคาดกำไรสุทธิเติบโตราว 8% เป็น 42.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกำไรสุทธิระหว่างปี 2565 – 2568 ราว 17% ต่อปี           การดำเนินงานด้าน ESG บริษัทให้ความสำคัญกับบริหารจัดการ จัดซื้อ จัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แผนการเพิ่มสัดส่วนการใช้รถ EV บริษัทเปิดเผยเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้ทวนสอบในแบบ 56-1 One Report ปี2567 และได้การรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้น ขององค์กรจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO)           ฝ่ายวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับใช้ราคาเหมาะสมสำหรับปี 2568  เท่ากับ 1.16 บาท  ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงานในพื้นที่ EEC ครอบคลุมจังหวัดชลบุรีฉะเชิงเทรา และระยอง ซึ่งจะรับได้ประโยชน์จากมาตรการ EEC Free Visa           ในการประเมินราคาเหมาะสมสำหรับปี 2568 ซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 17 เท่าซึ่งสอดคล้องกับ CAGR โดยประมาณกำไรต่อหุ้น ในปี 2568 ได้เท่ากับ 0.069 บาท คำนวณราคาเหมาะสมสำหรับปี 2567 ได้เท่ากับ 1.16 บาท ซึ่งยังมีอัพไซต์จากราคาปิดล่าสุดอีกราว 28% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

[Vision Exclusive] ATP30 ยกระดับความปลอดภัยรถบัส ลูกค้าต่อคิวบริการปลายปีแน่น

[Vision Exclusive] ATP30 ยกระดับความปลอดภัยรถบัส ลูกค้าต่อคิวบริการปลายปีแน่น

          หุ้นวิชั่น - ATP30 ไขปมความปลอดภัยรถบัส รับส่งพนักงาน จากปาก คุณปิยะ  เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งพนักงาน โดยให้บริการรถรับ-ส่งจากที่พักไปยังโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการในประเทศไทย โดยธุรกิจหลักแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ บริการขนส่ง (Transport Services) ให้บริการรับ-ส่งพนักงานตามเส้นทางที่กำหนดในเขตนิคมอุตสาหกรรมและสถานประกอบการต่างๆ ผ่านยานพาหนะหลากหลายประเภท เช่น รถบัส รถตู้ รถมินิบัส และรถกระบะ           บริการบริหารจัดการ (Management Services) ให้บริการบริหารจัดการด้านการขนส่งและยานพาหนะ รวมถึงการบริหารกองรถสำหรับภาคธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการขนส่ง บริการให้เช่ายานพาหนะ (Vehicle Rental Services) ให้เช่ารถสำหรับการขนส่งพนักงานหรือการใช้งานในกิจการต่าง ๆ รวมถึงบริการเช่ารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม           จุดเด่นและความสามารถ มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการยานพาหนะจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีการให้บริการด้วยกองรถที่ประกอบด้วย บริษัทมีลูกค้าจำนวน 68 ราย โดยมีรถโดยสารที่ให้บริการทั้งสิ้น จำนวน 687คัน ประกอบด้วย รถบัสโดยสาร จำนวน 267 คัน รถมินิบัสโดยสาร จำนวน 51 คัน รถตู้/รถตู้ วีไอพีโดยสาร จำนวน 359 คัน รถไฟฟ้าโดยสาร จำนวน 8 คันและรถกระบะให้บริการ จำนวน 2 คัน และยังมี Backlog สำหรับรายได้ค่าบริการที่ยังไม่ได้รับรู้ 1,500 ล้านบาท ของสัญญาคงเหลือ           นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวหุ้นวิชั่นเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการรถบัสและรถรับส่งพนักงานในประเทศไทย โดยกล่าวถึงความเข้มงวดในการออกกฎหมายและมาตรการควบคุมด้านความปลอดภัยมากขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก           มาตรการในการตรวจสอบความปลอดภัยของผู้ประกอบการควรได้รับการพิจารณาและนำไปปฏิบัติในระดับเบื้องต้นก่อนที่จะบังคับใช้กฎหมายในระดับประเทศ เพราะปัจจุบันการตรวจสอบยังไม่สามารถครอบคลุมทั่วประเทศได้ เนื่องจากมีรถให้บริการหลายลักษณะและมีจำนวนมาก อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงควรให้ความสำคัญกับมาตรการของผู้ประกอบการในการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงภายในองค์กรให้ดียิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้ประกอบการควรมีการตรวจเช็ครถอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงฝึกอบรมพนักงานขับรถให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูงสุด เพื่อให้บริการมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากขึ้น และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ           มาตรการด้านความปลอดภัยของรถโดยสารที่บริษัทให้ความสำคัญ โดยมาตรการนี้ครอบคลุมถึงการตรวจสอบอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ภายในรถอย่างเข้มงวด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสาร และการตรวจสอบอุปกรณ์ภายในรถโดยสาร เช่น เครื่องดับเพลิง ประตูฉุกเฉิน และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ควรได้รับการตรวจเช็คอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีฉุกเฉิน           ขณะที่ การตรวจสอบระบบรถโดยสารในส่วนอื่น ๆ ควรดำเนินการเป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบระบบหล่อเย็น น้ำมันเครื่อง การรั่วซึมของของเหลวต่าง ๆ และแรงดันลมยางก่อนออกให้บริการทุกครั้ง สำหรับ การตรวจสอบรายเดือน ควรครอบคลุมถึงสภาพของยางรถยนต์ ประตูฉุกเฉิน ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ และอุปกรณ์ในห้องโดยสาร เช่น เข็มขัดนิรภัย เพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ การตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานขับรถก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการที่ดีที่สุด มาตรการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี           นายปิยะ กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือปี 2567 ค่อนข้างมั่นใจว่าจะเติบโตดีพอสมควร เพราะบริษัทจะมีลูกค้าใหม่เข้ามา บริษัทได้รับสัญญาบริการรับส่งพนักงานของโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ 4 ราย ประกอบไปด้วย บริษัท สยามไอซิน จำกัด โดยจะเริ่มให้บริการส่งบุคลากร เป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 จนถึง 30 กันยายน 2572 ด้วยรถบัส จำนวน 10 คัน และรถตู้จำนวน 2 คัน           บริษัท ไดกิ้น คอมเพรสเซอร์ อินดัสทรีย์ จำกัด โดยจะเริ่มให้บริการรับส่งบุคลากร เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 จนถึง 31 ตุลาคม 2570 ด้วยรถบัส จำนวน 10 คัน บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด โดยจะเริ่มให้บริการส่งบุคลากร เป็นระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 จนถึง 30 พฤศจิกายน 2572 ด้วยรถบัสไฟฟ้า จำนวน 4 คัน และ บริษัท เอ็นเอส สยามยูไนเต็ดสตีล จำกัด โดยจะเริ่มบริการรับส่งบุคลากร เป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 ด้วยรถตู้ จำนวน 6 คัน           บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อปิดดีลกับลูกค้าใหม่อีก 2-3 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในต้นปี 2568 โดยบริษัทมีแผนที่จะมุ่งเน้นการให้บริการด้วยรถไฟฟ้าหรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เพิ่มมากขึ้น           ในปี 2568 บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าอีก 20 คัน เพื่อสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และตระหนักถึงการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับหลักการและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) มาโดยตลอด           นอกจากนี้ บริษัทยังได้ดำเนินการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในแบบ 56-1 One Report ประจำปี 2567 ซึ่งได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากผู้ตรวจสอบอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งได้รับการขึ้นทะเบียน ฉลากคาร์บอนฟุตพรินท์ขององค์กร (CFO) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ           ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 495.59 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33.12 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 632.45 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 29.17 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2566 รายได้รวมเพิ่มขึ้นอีกเป็น 671.48 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 28.98 ล้านบาท           สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 353.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.50 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวและแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น แม้กำไรสุทธิจะยังมีการปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงรักษาระดับรายได้ให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011