ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#ASL


ASL คาด Sideway up ชู CBG เด่น

ASL คาด Sideway up ชู CBG เด่น

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล. เอเอสแอล ระบุ ล่าสุดจากสถานการณ์ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแรงโดย DJIA +7.2%, NASDAQ +12.2% และ S&P500 +9.5% ส่วน WTI +4%และ VIX index -35.75% ปิดที่ระดับ 33.62 เทียบกับระดับ 57.96 ขานรับ ปธน.ทรัมป์ และมีผลบังคับใช้ในทันที โดยปธน.ทรัมป์เปิดเผยถึงสาเหตุของการระงับภาษีดังกล่าวว่า มาจากการที่ประเทศต่าง ๆ มากกว่า 75 ประเทศได้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อเจรจาหาทางออกและคลี่คลายความวิตกกังวลด้านการค้า           อย่างไรก็ดี ในการแถลงล่าสุดนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 125% จากเดิม 104% โดยมีผลบังคับใช้ในทันที เพื่อตอบโต้จีนที่เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น84% จากเดิม 34% โดยมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย.           ด้านรายงานการประชุมประจำวันที่ 18-19 มี.ค. โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDP Now ล่าสุดหดตัว 2.4% ในไตรมาส 1/2568 จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.3%           ติดตาม : เงินเฟ้อจีน-สหรัฐฯ มี.ค., ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ เช่น JPMorgan Morgan Stanleyและ Wells Fargo ด้านปัจจัยในประเทศ : ตลท.ประเมินผลกระทบภาษีของทรัมป์กระทบรายได้บจ.เพียง 2%           เราประเมิน SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น ลุ้นยืนเหนือระดับ 1,100 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังทรัมป์เลื่อนการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน แต่ยังต้องติดตามการเจรจาเรื่องมาตรการภาษีกับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ตลท. ได้รายงาน รายได้ บจ.จากการส่งออกไปสหรัฐฯ มีเพียง 2% คิดเป็นเงินประมาณ 3.6 แสนล้านบาท ของรายได้รวมทั้งหมดของบจ.ปี 67 ซึ่งอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท รวมถึงระบุว่ากองทุนวายุภักษ์ยังไม่ได้ขายหุ้น ในเชิงกลยุทธ์ยังคงแนะนำทยอยสะสมกลุ่ม Domestic play เช่นกลุ่มค้าปลีก สื่อสาร และกลุ่ม Defensive เช่น กลุ่มโรงพยาบาล Stock pick : CBG แนวโน้ม 1Q25F คาดว่าจะขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 61.75 บาท

ASL คาด SET แกว่งตัว sideway ชู TKN เด่น

ASL คาด SET แกว่งตัว sideway ชู TKN เด่น

         หุ้นวิชั่น - บล.เอเอสแอล ปรเมินหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุนตลาด หลังจากเกิด panic sell จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมถึงนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ขณะที่การประชุม ครม. วันนี้คาดหวังนโยบายกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวรับเทศกาลสงกรานต์ โครงการ Entertainment Complex และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เป็น sentiment บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวที่ราคาปัจจุบันปรับตัวลงมาพอสมควรแล้ว เราชอบ AWC, ERW, MINT, AOT, BA ในเชิงกลยุทธ์เราประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,150-1,170 เน้น selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น TRUE-ADVANC ที่ กสทช. เปิดเฮียริ่งประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่วันนี้ที่ราคาประมูลต่ำกว่าเดิมทุกคลื่นความถี่ ทุกโมเดลสูงสุดถึง 50% (คลื่น 1800MHz) PTTEP ที่ได้ลงทุนในแหล่งยาดานาด้วยงบลงทุน 2.6 แสนล้านบาท Stock pick: TKN แนวโน้มยอดขายยังเติบโตทั้งจากในและต่างประเทศ เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 8.75 บาท

ASL ชูหุ้น tock Pick 'OSP' เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 16.20 บาท

ASL ชูหุ้น tock Pick 'OSP' เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 16.20 บาท

             หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด คาดแนวโน้ม SET Index Sideway ในกรอบ 1,160-1,185 จุด โดยตลาดรอผลการประชุม เฟด แม้ว่าจะคาดว่าคงดอกเบี้ยในครั้งนี้ที่ 4.25-4.50% แต่รอถ้อยแถลงของ พาวเวล และรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจ เช่น GDP และเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทั้งสิ้น 0.60% ในปีนี้ แม้เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้เตือนไม่ให้เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป และควรรอดูผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่จะสะท้อนให้เห็นในข้อมูลเศรษฐกิจก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน              ด้าน ทรัมป์-ปูติน เห็นพ้องกันที่จะให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ต่อเป้าหมายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในการทำสงครามยูเครน และจะมีการเริ่มต้นเจรจาหยุดยิงในวงกว้างขึ้นโดยทันที ส่วนด้านสถานการณ์ ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะโจมตีกลุ่ม ฮูตี จนกว่าจะยอมยุติการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง และเตือนว่า อิหร่าน จะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีใด ๆ ในอนาคตที่เกิดจากกลุ่มฮูตี ปัจจัยในประเทศ              นักลงทุนสถาบันมีโอกาสเข้ามาทำ Window Dressing จาก performance ของ SET Index ที่ปรับตัวลงกว่า 16% YTD รวมถึงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้นเพื่อรับ ปันผล ในช่วง เม.ย.-พ.ค. ส่วนในเชิง valuation ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 1.12 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง -2.5 SD และ EYG สูงกว่า 6% แนะนำทยอยสะสมหุ้นใน SET50 หุ้นเด่นที่แนะนำ: AOT, BEM, CPALL, CPAXT, CRC, PTT, OSP, WHA ขณะที่ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หนุน fund flow ไหลเข้า ติดตาม: การประชุม เฟด (FOMC) การประชุม BoE (Bank of England) การประชุม BoJ (Bank of Japan) Stock Pick: OSP – ผลงานรอการพิสูจน์ เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 16.20 บาท ผลงานรอการพิสูจน์              OSP รายงานกำไรจากการดำเนินงานปกติงวด 4Q24 เท่ากับ 615 ล้านบาท (-8.5% QoQ, +3.8% YoY) โดยหดตัว QoQ จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างด้านการลงทุนและกำลังการผลิต รวมถึงมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยคิดเป็น C/I ที่ 28.2% เทียบกับ 26% ใน 3Q24              ส่วนด้าน รายได้จากการขาย +6.3% QoQ เติบโตเด่นใน ยอดขายต่างประเทศ +40.7% QoQ, +41.0% YoY โดยหลักมาจากยอดขายใน เมียนมา, ลาว, อินโดนีเซีย ส่วนในประเทศ -9% YoY จากช่องทางค้าปลีกที่หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่ม Energy drink ขณะที่ GPM ทำ New High ที่ 38.5% (+2.4% QoQ, +3.0% YoY) จากราคาต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง การส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น              ด้านกำไรจากการดำเนินงานปกติทั้งปี เท่ากับ 3.04 พันล้านบาท (+39.3% YoY) แต่กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทเท่ากับ 1.6 พันล้านบาท (-31.8% YoY) เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างธุรกิจกว่า 1.4 พันล้านบาท ประกอบไปด้วย การด้อยค่าเงินลงทุนใน Basecamp Brews Limited (BCB) การตั้งสำรองเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท อินโนเวชั่น ออฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (iEX) ใน 2Q การจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในเมียนมา และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนใน 3Q ผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากการเลิกกิจการ Shark AG และ Osotspa Europe Limited ใน 4Q มุมมองตลาด              ตลาดรับรู้การแข่งขันของตลาด Energy drink ในประเทศพอสมควรแล้ว โดยผู้บริหารตั้งเป้าเติบโตในส่วนนี้ 3-5% และจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีก 2-5% จากสิ้นปี 24 ที่ 45.8% ผ่านการปรับราคาขาย M-150 ในราคา 10 บาท ส่วนเป้า GPM คาดทรงตัวที่ 37.3%              แต่ด้าน C/I คาดว่าจะลดลงหลังไม่มีรายการพิเศษ ส่วนในเชิง Valuation ซื้อขายบน Fwd PE ที่ 15.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 23.8 เท่า ราว 34% เป็นจุดที่น่าสะสมระยะกลาง-ยาว โดย Bloomberg ประเมินกำไรสุทธิปีนี้ที่ 3.0 พันล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 19.84 บาท              ทั้งนี้ ได้ประกาศ จ่ายปันผล 0.30 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 1.9% ขึ้น XD 8 พ.ค. แนวรับ 15.30-15.00 บาท (ไม่ควรต่ำกว่าลงมา) แนวต้าน 15.70 / 16.20 บาท

ASL คาด SET 'Sideway Down' ชู Stock Pick - MINT เด่น

ASL คาด SET 'Sideway Down' ชู Stock Pick - MINT เด่น

                  หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด คาดแนวโน้ม SET Index ประเมินแกว่งตัว Sideway Down ในกรอบ 1,140-1,178 จุด ขานรับการปรับฐานของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดมีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า ล่าสุด สหภาพยุโรป ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าวิสกี้จากสหรัฐฯ ในอัตรา 50% เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากยุโรป ซึ่งส่งผลให้ ทรัมป์ขู่ผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่าจะเรียกเก็บภาษผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์และไวน์นำเข้าจาก EU สูงถึง 200%                   นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อเสนอการหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลให้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่รายงาน ได้แก่ • ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 220,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าคาดการณ์ • PPI เดือน ก.พ. ต่ำกว่าคาด โดย o Headline +3.2%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ +3.7%YoY o Core +3.4%YoY ลดลงจากเดือนก่อนที่ +3.8%YoY                   ตลาดประเมินว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งครั้งแรกคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง มิ.ย. หลังข้อมูลเงินเฟ้อชะลอตัว และข้อมูลภาคแรงงานเริ่มแข็งแกร่งขึ้น ปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน แม้ว่า Valuation ตลาดน่าสนใจสำหรับการซื้อสะสมในระยะกลาง-ยาว แต่ด้วย Sentiment ภายนอกที่เป็นเชิงลบ แนะนำ Wait & See ปัจจัยที่ต้องติดตาม • ตัวเลขเศรษฐกิจจีน (ดัชนีราคาบ้าน, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก) • การประชุมเฟด คาดส่งสัญญาณความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดคาดหวังว่า เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ย • การประชุม BoJ คาดส่งสัญญาณ ขึ้นดอกเบี้ย Stock Pick • MINT ตั้งเป้าปี 2025-2029F รายได้เติบโตปีละ High Single Digit เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 30 บาท ตั้งเป้าปี 2025-2029F รายได้โตปีละ High Single Digit ตั้งเป้าปี 2025-2029F รายได้โตปีละ High Single Digit และกำไรเติบโตปีละ 15-20% • ปัจจัยการเติบโตมาจาก: 1. ความต้องการด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ หาก โดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนยุติสงคราม ส่งผลให้การท่องเที่ยวในยุโรปฟื้นตัว ส่วน Asia Pacific จะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้า Premium 2. แนวโน้ม Wellness Travel ซึ่ง MINT มีโรงแรมเด่นในเครือ เช่น Layan Life by Anantara 3. กลยุทธ์ขยายไปธุรกิจที่มีการเติบโตสูงผ่าน Partnership, JV และแฟรนไชส์ 4. ธุรกิจอาหาร คาดเติบโตตาม GDP โดยมีเป้าหมายหลัก: ไทย ผ่านแบรนด์ Bonchon และ GAGA ชานม CLMV ผ่าน Dairy Queen และ GAGA อินโดนีเซีย & อินเดีย ผ่าน Sanook Kitchen 5. เพิ่มประสิทธิภาพบริหาร ลดหนี้สินต่อเนื่อง ตั้งเป้า NET IBD/Equity 0.75 เท่า และ NET IBD/EBITDA 4.00 เท่า แผนขยายธุรกิจ  ตั้งเป้า เพิ่มโรงแรมอีก 280 แห่ง โดยปี 2027 คาดมีโรงแรมทั้งหมด 850 แห่ง และปี 2029 มีโรงแรมในเครือ 1,000 แห่ง ร้านอาหาร ตั้งเป้าเปิดเพิ่ม 1,500 สาขาใน 3 ปี (ปี 2025 คาดเปิดเพิ่ม 200 สาขา การลงทุนเน้นรูปแบบ Asset-Light และตั้งงบ CAPEX ปีละ 10,000-12,000 ล้านบาท ฃ ประมาณการทางการเงิน • อิงสมมติฐานบริษัท คาด รายได้ปี 2025-2026 เติบโตปีละ 8% o ปี 2025 คาดรายได้ 175,636 ล้านบาท o ปี 2026 คาดรายได้ 189,687 ล้านบาท • ประเมินกำไรสุทธิ o ปี 2025F คาดกำไรสุทธิ 9.63 พันล้านบาท (+24.3%YoY) o ปี 2026F คาดกำไรสุทธิ 10.4 พันล้านบาท (+8.5%YoY) คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ • แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 35.25 บาท อิง PE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ 26 เท่า • แนวรับ 27.50-27 บาท (ไม่ควรต่ำกว่านี้) • แนวต้าน 28.50 / 29.50 / 30 บาท

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

ASL คาด SET แกว่งตัว กรอบ 1,170-1,194 จุด คัด MTC เด่น!

ASL คาด SET แกว่งตัว กรอบ 1,170-1,194 จุด คัด MTC เด่น!

           หุ้นวิชั่น - บล.เอเอสแอล ประเมินแนวโน้มของ SET Index และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆ รวมถึงการประชุม ครม. มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้: การจัดตั้งกองทุน ThaiESG Extra: กองทุนนี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถใช้เงินจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอน (มูลค่ารวม 1.8 แสนล้านบาท) ซึ่งสามารถโอนไปลงทุนในกองทุนนี้ได้ พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี เป็นการสนับสนุนการลงทุนในหุ้นที่มีความยั่งยืนและช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ SET Index เคยลดลงต่ำกว่า 1,200 จุด และสามารถฟื้นตัวขึ้นจากเม็ดเงินใหม่ที่เข้ามา การปรับลดค่าไฟฟ้า: การลดค่าไฟฟ้าให้กับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน เป็นการช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โครงการแจกเงินหมื่นเฟส 3: โครงการนี้มีเป้าหมายให้กับกลุ่มอายุ 16-20 ปี โดยไม่กำหนดสินค้าต้องห้าม แต่มีการกำหนดร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในกลุ่มค้าปลีกและสินค้า IT ร่าง พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาฯ: มีกระบวนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่คาดว่าจะมีผลต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต สถานการณ์ต่างประเทศ: การเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาและประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก การติดตามที่สำคัญ: ควรติดตามการแถลงของพาวเวล, และตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ (คาด CPI จะเพิ่มขึ้น 2.9% YoY ลดลงจาก 3.0% YoY ในเดือนมกราคม) การเลือกหุ้น (Stock pick): มีการแนะนำให้ลงทุนใน MTC ซึ่งมีการเติบโตของธุรกิจที่โดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ 48.50 บาท โดยรวม แนวโน้ม SET Index ดูเหมือนจะมีการแกว่งตัวในกรอบ 1,170-1,194 จุด ตามข่าวที่มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ASL เคาะ KBANK ใหญ่สุดในกลุ่ม แนะ “ซื้อสะสม”

ASL เคาะ KBANK ใหญ่สุดในกลุ่ม แนะ “ซื้อสะสม”

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ประเมินกำไรสุทธิ KBANK ปีนี้ขยายตัวสูงสุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่ เศรษฐกิจและนโยบายการเงิน ผู้บริหารประเมิน GDP ปี 2025 คาดโต 2.4% (ลดลงจาก 2.6% ในปี 2024) ปัจจัยกดดันมาจาก การบริโภคภาคเอกชนและการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัว จากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและนโยบายภาษีของ ทรัมป์ คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะปรับลดลงสู่ 1.75% สินเชื่อคาดทรงตัว โดยเน้น สินเชื่อคุณภาพ ในภาคส่วนที่ฟื้นตัวและสินเชื่อที่มีหลักประกันแนวโน้ม NIM และคุณภาพสินเชื่อ NIM คาดอยู่ในช่วง 3.3-3.5% ลดลงตามแนวโน้มดอกเบี้ย แต่ NIM หลังหัก Credit Cost ปรับดีขึ้น NPL Ratio คาดต่ำกว่า 3.25% Credit Cost ลดลงสู่ระดับปกติที่ 140-160 bps (จาก 189 bps ในปีที่ผ่านมา)            รายได้และต้นทุน Net Fee Income โตระดับ กลางถึงสูงหลักเดียว หนุนโดย ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง แม้ว่าธุรกรรมดั้งเดิมจะลดลง C/I Ratio คาดอยู่ในช่วง 40% ต้นถึงกลาง โดยยังคงบริหารต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แม้รายได้ชะลอตัว            แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2025F คาด กำไรสุทธิปี 2025F อยู่ที่ 5.23 หมื่นล้านบาท (+7.7% YoY) สูงสุดในกลุ่ม 3 แบงก์ใหญ่ ได้อานิสงส์จาก Credit Cost ที่ลดลงต่ำสุด ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 (คาดอยู่ที่ 1.8%) แม้ว่า NII อาจลดลง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังได้รับแรงหนุนจาก รายได้ค่าธรรมเนียม (Fee Income) ที่เติบโตตามธุรกิจประกันและกองทุน            แนวโน้ม 1Q25F: คาดกำไรขยายตัว QoQ และ YoY ได้แรงหนุนจาก ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลง QoQ และ ค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลง อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกเบี้ยอาจชะลอตัวตามการลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง.            คำแนะนำการลงทุน แนะนำ "ซื้อสะสม" ราคาเป้าหมายสิ้นปี: 184.25 บาท (อิง PBV 0.74 เท่า) ตลาดรับรู้การจ่าย Dividend Payout Ratio ที่เพิ่มขึ้นจาก 30% (ในปี 2023) สู่ 47% คาดการณ์ ปันผล 2H24 ที่ 8.00 บาท (XD 17 เม.ย.) คิดเป็น Dividend Yield 5.3% มีโอกาสที่ Dividend Payout Ratio จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50% ทำให้ Dividend Yield ทั้งปีในช่วง 3 ปีข้างหน้าสูงถึง 7.2-8.0%            เปรียบเทียบการเติบโตของกำไรสุทธิ (YoY) ในกลุ่มแบงก์ใหญ่ KBANK: +7.8% (สูงสุด) BBL: +4.2% SCB: +3.0%            สาเหตุหลักมาจาก การ Cleanup Balance Sheet ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ Credit Cost ลดลง แนวรับ-แนวต้าน แนวรับ: 150 / 147 (ไม่ควรต่ำกว่าลงมา) แนวต้าน: 153.50 / 155.50 / 158.50

ASL คาด SET Sideway Down กรอบ 1,172-1,200 จุด ชู KBANK 158.50 บ.

ASL คาด SET Sideway Down กรอบ 1,172-1,200 จุด ชู KBANK 158.50 บ.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด แนวโน้ม SET Index: คาดแกว่งตัว Sideway Down ในกรอบ 1,172-1,200 จุด โดยได้รับปัจจัยลบจาก - ปธน. ทรัมป์ ออกแถลงการณ์ยืนยันการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา และเม็กซิโก ในอัตรา 25% ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 มี.ค. ตามกำหนด - การเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. เป็นต้นไป - รายงานข่าวจากจีน เตรียมตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาด           ตัวเลข PMI ภาคการผลิต - ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ - ได้รับผลกระทบจากการลดลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน - ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐฯ           Market Reaction: - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน - Dollar Index อ่อนค่า - VIX Index +16% มาที่ 22.78 จุด           ปัจจัยที่ต้องติดตาม: - ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ. จาก ADP - ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ - ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด           ปัจจัยในประเทศ: - ไร้ปัจจัยบวกใหม่ - ความเสี่ยงที่ไทยอาจเผชิญกับมาตรการ Reciprocal Tariffs ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจและดัชนีตลาดหุ้นไทย           กลยุทธ์การลงทุน: - ทยอยสะสมหุ้นในกลุ่ม Defensive (โรงพยาบาล, สื่อสาร) - เลือกหุ้นที่มี Dividend Yield สูง (ธนาคาร, IFF-REIT)           ปัจจัยที่ต้องติดตาม - เงินเฟ้อเดือนก.พ.ของไทย - PMI ภาคการผลิตของจีน (ก.พ.) - ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ           Stock Pick: KBANK – คาดกำไรสุทธิปีนี้ขยายตัวสูงสุดในกลุ่ม เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ 158.50 บาท

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

ASL  คาด SET แกว่งตัว Sideway ชู SPRC เด่น

ASL  คาด SET แกว่งตัว Sideway ชู SPRC เด่น

            หุ้นวิชั่น - บล.เอเอสแอล ประเมินแนวโน้ม SET Index แนวโน้ม SET Index ประเมินแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,240-1,272 จุด             หลังวานนี้ได้กลุ่ม GULF INTUCH ADVANC ปรับตัวขึ้นหนุนตลาด ขณะที่มีรายงานจาก IMF เสนอให้ ธปท. พิจารณาลด อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำและบรรเทาภาระหนี้ในประเทศ สอดคล้องกับนายกฯ ที่เรียกร้องให้ธปท.ลดดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจปี 2567 ขยายตัวเพียง 2.5% ต่ำกว่าที่คาด             ซึ่งทั้งนี้ กนง.จะมีการประชุมนโยบายวันที่ 26 ก.พ. นี้ โดยประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 2.25% อยู่ในกรอบ neutral zone ที่ 2.0-2.5% แต่ถ้ามี surprise ลดดอกเบี้ยจะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน ทั้งนี้ IMF ประเมิน GDP ในปีนี้ +2.9% มองว่ายังมีความเสี่ยงด้านลบจากความตึงเครียดทางการค้าโลก ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และ ภาระหนี้ของภาคเอกชนในประเทศ             นอกจากนี้ตลาดยังให้น้ำหนักกับเข้าใกล้โค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการของ บจ. ที่อาจสร้างความผันผวนในรายหลักทรัพย์ เช่น CPALL CPN OSP AWC ที่อาจเห็นงบดีกว่าคาด และการขึ้นเครื่องหมาย XD เช่น PTTEP (XD 25/02: จ่าย 5.125 บาท, Div. yield 4%), ITC (XD 26/02: จ่าย 0.75 บาท, Div. yield 4%) และ TFM (XD 27/02: จ่าย 0.77 บาท, Div. yield 7.5%)             ทั้งนี้ติดตาม รายงานภาวะเศรษฐกิจรายเดือนม.ค. ของธปท. คาดว่าจะออกมาดีจากมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเช่น Easy E-receipt, แจกเงินเฟส2 และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขยายตัว สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ติดตามนโยบายการค้าของทรัมป์ที่สร้างความผันผวนของตลาด และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ม.ค. สหรัฐฯ ที่คาดว่าจะชะลอตัวลง แต่ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์ -748 จุด จากความเชื่อมั่นผู้บริโภค ภาษีศุลกากร และผลประกอบการบริษัท รวมถึง PMI ภาคผลิตและบริการเบื้องต้น ก.พ. จาก S&P Global ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4             แนะนำ SPRC เป็นหนึ่งในหุ้นโรงกลั่นที่น่าสนใจ เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 6.75 บาท

ASL คาด SET แกว่งตัว “Sideway” กรอบ 1,260-1,292 จุด ชี้ GPSC เด่น!

ASL คาด SET แกว่งตัว “Sideway” กรอบ 1,260-1,292 จุด ชี้ GPSC เด่น!

          หุ้นวิชั่น - บล.เอเอสแอล ประเมินแนวโน้ม SET Index แนวโน้ม SET Index ประเมินแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,260-1,292 จุด โดยตลาดซึมซับแผนเก็บภาษีตอบโต้ของทรัมป์ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ จะพิจารณาแต่ละประเทศเป็นรายกรณีและคาดว่าการศึกษาในประเด็นนี้จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 เม.ย. ทั้งนี้ตลาดให้ความสำคัญกับทรัมป์ว่าเขาจะทำอะไร และทิศทางการตอบโต้ทางด้านภาษีจะเป็นไปในทิศทางไหน รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งแรกของปีนี้หลังเจอปัจจัยกดดันมั้งการเก็บภาษีเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25%, การเพิ่มขึ้นของ CPI ที่สูงกว่าคาด และความเห็นในเชิงคุมเข้มนโยบายของพาวเวล ทำให้คาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงดอกเบี้ยจนถึงมิ.ย.           สำหรับปัจจัยในประเทศมีมาตรการ Jump+ จาก ตลท. ที่จะเสนอแก่ก.คลัง ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นตลาดระยะกลาง โดยจะมีการเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเสนอยกเว้นภาษีกำไรส่วนเพิ่มที่เกิดขึ้นระหว่างร่วมโครงการหากสามารถเติบโตได้ตามแผน รวมทั้งไม่เก็บภาษีย้อนหลังกับบริษัทนอกตลาดที่ถูกควบรวมหรือซื้อกิจการกับบริษัทในโครงการ           นอกจากนี้ยังสนับสนุนการทำ M&A เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของผลประกอบการบจ. ขณะที่มาตรการระยะสั้น จะมีการรื้อฟื้น กองทุน LTF ซึ่งจะศึกษาและนำเสนอแนวทางการย้ายกองมายัง TESG เพื่อสนับสนุน Trust & Confidence รวมทั้งสนับสนุนการลงทุนใน ESG มองเป็นบวกต่อกลุ่ม Big cap. ส่วนด้าน Earnings season มีรายงานงบ DELTA ต่ำคาด 60% และ TOP ดีกว่าคาด 23% รวมถึงประเด็นของ AOT ที่อาจกระทบต่อกลุ่มธนาคาร           นอกจากนี้ติดตาม  PMI สหรัฐฯ ยุโรป, ข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ตัวเลข GDP ของไทย และฝันสุดท้ายของการ Hearingเกณฑ์ Cap weigh.           Stock Pick: GPSC แนวโน้มผลงาน 4Q24 เติบโตเด่น เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 31.00 บาท

ASL มอง SET

ASL มอง SET "sideway ในกรอบ 1,450-1,470" สงครามกดดัน

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด มุมมองตลาดเช้านี้ คาด SET Index “แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,450-1,470" ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนตามตลาดหุ้นสรัฐฯ รวมถึงมีปัจจัยกดดันหลังVIX Index ปรับตัวขึ้น, Dollar index แข็งค่ํา และ US Bond Yield ดีดตัวขึ้น ขณะที่ DELTA ติด T1 อาจเป็นปัจจัยกดดันภาพรมของ SET ประเด็นการลงทุน  ตลาดหุ้นผันผวนกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน  VIX Index ปรับตัวขึ้น, Dollar index แข็งค่า และ US Bond Yield ดีดตัวขึ้น  ติดตามความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดําห์นี้  ปัจจัยในประเทศ DELTA ติด T1 ตลาดหุ้นผันผวนกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดยูเครนได้ยิงขีปนําวุธ "Storm Shadow" ซึ่งเป็นขีปนําวุธที่ผลิตโดยอังกฤษ เข้าไปในดินแดนรัสเซีย โดยเหตุการณ์ดังกล่ําวเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจํากที่ยูเครนได้ยิงขีปนําวุธ ATACMS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เข้าไปในดินแดนรัสเซีย จนเป็นเหตุให้รัสเซีย ประกาศปรับหลักเกณฑ์ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์รวมถึงมีข่าวการอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟของยูเครน Market reaction : VIX Index ปรับตัวขึ้น, ราคาทองปรับตัวขึ้น, Dollar indexแข็งค่า, US Bond Yield ดีดตัวขึ้น, ราคาน้ำมันลดช่วงลบหลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบมากกว่าคาด นอกจากนี้ตลาดยังผันผวนก่อน NVIDIA จะรายงานผลประกอบการหลังปิดตลาดโดยรายงานรายได้ในไตรมาส 3 +94%YoY แตะ 3.508 หมื่นล้านดอลล่าร์สูงกว่ําที่คาดในขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงราว 2% เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของชิป GPU ในโรงงานที่ไต้หวัน ภายใต้นโยบายการค้าของทรัมป์ที่จะเริ่มในปีหน้า และ แนวโน้มอุปสงค์ชิปแบล็คเวลล์ (Blackwell) ซึ่งเป็นชิปประมวลผล Al รุ่นใหม่ของบริษัท ตลาดจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้เพื่อหําสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 55.7% ต่อการคําดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงจากที่ให้น้ำหนัก 82.5% ในสัปดาห์ที่ผ่ํานมา หลังอัตราเงินเฟ้อ ยังทรงตัวสูงกว่าเป้าหมาย สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลท.ประกาศให้ DELTA เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ Trading Alert List เนื่องจากระดับราคาและปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปมากจากช่วงก่อนหน้า และอยู่ระหว่างบริษัทชี้แจงข้อมูล พร้อมประกาศให้เป็นหุ้นที่เข้าข่ายมาตรการกํากับการซื้อขายระดับ 1 ห้ามคํานวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.-11 ธ.ค. ซึ่งราคาหุ้น DELTA พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงทํานิวไฮช่วงท้ายตลาดวานนี้มาที่ 173.50 บาท ที่ PE 106.68 เท่า และ PBV ที่ 28.03 เท่า แนะนําชะลอการเก็งกําไรในระยะสั้น

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

ASL คาด SET Side way ในกรอบ 1,460-1,475 จุด ดอลล่าร์-น้ำมันดิบกดดัน

ASL คาด SET Side way ในกรอบ 1,460-1,475 จุด ดอลล่าร์-น้ำมันดิบกดดัน

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท เอเอสแอล จำกัด ประเมิน SET วันนี้ “แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,460-1,475" ตลาดมีความผันผวนตาม earnings season           ด้าน Dollar ยังแข็งค่าและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง 2% เป็นปัจจัยกดดัน ขณะที่ได้แรงหนุน US Bond Yield ปรับตัวลง และจีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

ASL คาด SET แกว่งในกรอบ 1,473-1,500 จุด จับตาเลือกตั้ง ปธน.-ผลงาน บจ.Q3

ASL คาด SET แกว่งในกรอบ 1,473-1,500 จุด จับตาเลือกตั้ง ปธน.-ผลงาน บจ.Q3

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท เอเอสแอล จำกัด ประเมิน SET index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,473-1,500 จุด ตลาดมีความผันผวนตาม earnings season และนักลงทุนยังต้องรอติดตามผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ และการประชุมเฟด ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอตัวเลขเงินเฟ้อและผลประกอบการ บจ. ประเด็นการลงทุน ตลาดแกว่งตัวผันผวน ติดตามการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ, การประชุมเฟด ติดตาการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ และการประกาศผลประกอบการบจ.ไทย Investment Theme หุ้นเด่นประจำเดือน พ.ย. : COM7 (เป้า 32.50 บ.), MASTER (เป้า 55.00 บ.), AOT (เป้า 67.25 บ.) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกขาลง: การเงิน MTC SAWAD THANI TISCO โรงไฟฟ้า GPSC GULF BGRIM กลุ่มท่องเที่ยว AOT AAV BA MINT AWC ERW กลุ่มส่งออก TU CPF ITC STA DELTA KCE Trade war: นิคมฯ AMATA WHA JCK กองทุนวายุภักษ์1 / Domestic play เช่น AOT PTT KTB SCB KBANK INTUCH CPALL CPAXT BDMS CRC MTC

ASL คาด SET วันนี้ sideway ในกรอบ 1,460-1,480 จับตาเลือกตั้ง-ประชุมเฟด

ASL คาด SET วันนี้ sideway ในกรอบ 1,460-1,480 จับตาเลือกตั้ง-ประชุมเฟด

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด มองตลาดหุ้นเช้านี้ “แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,460-1,480"  ตลาดมีความผันผวนตาม earnings season ทั้งในและต่างประเทศ แต่เริ่มเห็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันเข้ามาหลังดัชนีปรับตัวลงช่วงก่อนหน้า ส่วนปัจจัยที่รอติดตาม การเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ, การประชุมเฟด หุ้นเด่นประจําเดือน พ.ย. : COM7 (เป้า 32.50 บ.), MASTER (เป้า 55.00 บ.), AOT (เป้า 67.25 บ.) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกขาลง: การเงิน MTC SAWAD THANI TISCO, โรงไฟฟ้ํา GPSC GULF BGRIM กลุ่มท่องเที่ยว AOT AAV BA MINT AWC ERW กลุ่มส่งออก TU CPF ITC STA DELTA KCE Trade war: นิคมฯ AMATA WHA JCKกองทุนวายุภักษ์1 / Domestic play เช่น AOT PTT KTB SCB KBANK INTUCH CPALL CPAXT BDMS CRC MTC

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

บล.เอเอสแอล คาด SET Sideway up กรอบ 1,460-1,472 จุด

บล.เอเอสแอล คาด SET Sideway up กรอบ 1,460-1,472 จุด

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด คาด SET  “แกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,460-1,472" ได้รับ sentiment เชิงลบจากต่างประเทศ แต่ด้านราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นพลังงาน (น้ำมัน) รวมถึงยังคาดหวังเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ ประเด็นการลงทุน เงินเฟ้อ CPI ก.ย.สหรัฐชะลอตัวจากเดือนก่อoแต่สูงกว่าคาด ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.6% Update ปัจจัยในประเทศ สัปดาห์หน้าติดตาม การประชุม กนง./การ ประชุม ECB/ข้อมูลเศรษฐกิจจีน/Earnings season หุ้นเด่นประจำเดือน ต.ค.: GPSC (เป้า 53.75 บ.), JMT (เป้า 22.00 บ.), TASCO (เป้า 22.00 บ.) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกขาลง: การเงิน MTC SAWAD THANI TISCO, โรงไฟฟ้า GPSC GULF BGRIM Yield play 3BBIF CPNREIT GVREIT Trade war: นิคมฯ AMATA WHA JCK ส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กฯ DELTA HANA KCE Gov. budget play : รับเหมาฯ CK STEC ITD วัสดุก่อสร้าง SCC TASCO DOHOME GLOBAL กลุ่ม China play เช่น SCGP TOP PTTGC HANA STA NER TKN กองทุนวายุภักษ์1 เช่น AOT PTT KTB SCB KBANK INTUCH CPALL CPAXT BDMS CRC MTC

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011