#AOT


AOT คาดปี 68 นทท.โตต่อ ฟรีวีซ่า จีน-อินเดีย-ไต้หวัน-รัสซัย หนุน

AOT คาดปี 68 นทท.โตต่อ ฟรีวีซ่า จีน-อินเดีย-ไต้หวัน-รัสซัย หนุน

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.เอเอสแอล คาด AOT 1Q67/68F (ต.ค.-ธ.ค. 67) จะขยายตัว QoQ • คาดว่าปี 68 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ราว 129.97 ล้านคน +8.95% YoY (ในประเทศ +10.18% YoY, ต่างประเทศ +8.17% YoY) • คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน +10.32% YoY (ในประเทศ +12.02% YoY, ต่างประเทศ +9.02% YoY) • สำหรับนักท่องเที่ยวจีนยังเป็นขาขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดคิดเป็น 76% เมื่อเทียบกับช่วงก่อน COVID นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากมาตรการฟรีวีซ่า ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากอินเดีย ไต้หวัน และรัสเซียปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง • คาดการณ์ผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ (29 ธ.ค. 67 - 4 ม.ค. 68) ประมาณ 2.86 ล้านคน +92.9% เมื่อเทียบกับช่วงก่อน COVID           ล่าสุดได้ขออนุมัติจากรัฐบาลลงทุนก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถรองรับผู้โดยสารได้เป็น 80 ล้านคน/ปี คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ก.พ. 68 และมีแผนงานจะสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ที่จะรองรับผู้โดยสารได้อีก 70 ล้านคน/ปี จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้ถึง 150 ล้านคน/ปี ทั้งนี้ อยู่ในระหว่างการพิจารณาโครงการส่วนต่อขยายด้านตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะได้รับความชัดเจนช่วง เม.ย. 68 ด้านงบลงทุนในช่วงปี 68-78F อยู่ที่ 1.96 แสนล้านบาท           ในเชิง Sentiment ต้อนรับ Fund flow ไหลกลับ หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ กนง. คงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะช่วยให้ค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่า และเรามองว่า AOT เป็น 1 ในหุ้นเป้าหมายหุ้น Big cap. เนื่องจากราคาที่ปรับตัวลงมากว่า 8.5% ในรอบ 60 วันที่ผ่านมา รับรู้ปัจจัยลบจากการจ่ายค่าขอคืนพื้นที่บางส่วนของ "คิง เพาเวอร์"           ด้านแนวโน้มผลประกอบการ 1Q67/68F (ต.ค.-ธ.ค. 67)           คาดว่าจะขยายตัว QoQ ตามการเป็นช่วง High season ของธุรกิจ Aero และ Non-Aero และ YoY ที่จะโดดเด่นมากจากฐานที่ต่ำ (ช่วง ต.ค. 66 มีประเด็นกราดยิงในศูนย์การค้า) โดย Bloomberg ประเมินกำไรสุทธิราว 5-6 พันล้านบาท และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 68.06 บาท

AOT ท่องเที่ยวหนุนต่อ โบรกเคาะพื้นฐาน 72 บ.

AOT ท่องเที่ยวหนุนต่อ โบรกเคาะพื้นฐาน 72 บ.

          หุ้นวิชั่น - บล. ดาโอ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” AOT และราคาเป้าหมาย 72.00 บาท อิง DCF (WACC 7%, terminal growth 3.5%) มองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์ (22 พ.ย.) ดังนี้ 1) แผนก่อสร้างอาคาร East Expansion ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2025E และจะสร้างเสร็จปี 2027E ทำให้ต้องมีการขอคืนพื้นที่ 1.26 พันตร.ม. หรือคิดเป็น 5% ของพื้นที่ทั้งหมดจาก KPS ซึ่งเรายังประเมินจะมีผลกระทบต่อรายได้ลดลงใน FY25E-FY27E เฉลี่ยปีละ -300-350 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% ของกำไร แต่หลังจาก East Expansion ก่อสร้างแล้วเสร็จใน FY27E จะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 1 หมื่น ตร.ม. ซึ่งจะทำให้ AOT มีรายได้กลับมามากขึ้น, 2) มีการเปลี่ยนเกณฑ์ด้านภาษีโรงเรือนเป็นภาษีที่ดิน ทำให้ FY25E จะมีรายได้ค่าเช่าเพิ่มราว 200 ล้านบาท, 3) AOT ประเมินผู้โดยสาร FY25E ที่ 130 ล้านคน +9% YoY แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 79 ล้านคน +8% YoY และในประเทศ 51 ล้านคน +10% YoY แต่ยังเป็นตัวเลข conservative (คาดที่ 132 ล้านคน) และ 4) ยังอยู่ระหว่างการขอปรับขึ้น PSC คาดว่าจะได้ความชัดเจนกลางปี 2025E โดยเชื่อว่าจะสามารถเริ่มเก็บ PSC สำหรับผู้โดยสาร Transit/Transferเรายังคงประมาณการกำไร FY25E ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท +20% YoY ซึ่งผลกระทบจากการขอคืนพื้นที่เพิ่มเติมจาก KPS ไม่มาก และยังได้ชดเชยรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ประเมินจำนวนผู้โดยสาร FY25E ที่ 132 ล้านคน +11% YoY สูงกว่าเป้าหมายของ AOT โดยเฉพาะจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ยังมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น และการเปิด Runway 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ 1 พ.ย.24 ทำให้รองรับจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจาก 64 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เป็น 96 เที่ยวบิน/ชั่วโมง ซึ่ง AOT คาดว่าในอีก 1 ปี จำนวนเที่ยวบินมีโอกาสแตะระดับสูงสุดในช่วงเวลาพีคได้ราคาหุ้น underperform SET -4%/-11% ในช่วง 3 และ 6 เดือน จากข่าวการขอคืนพื้นที่จากคิงเพาเวอร์ และการยกเลิก duty free ขาเข้า \ แต่ราคาหุ้นทรงตัวใกล้เคียง SET ในช่วง 1 เดือน ทั้งนี้ เรายังแนะนำ ซื้อ โดยประเมินว่าราคาหุ้นจะกลับมา outperform ได้ดีในช่วง 1Q-2QFY25E ที่เข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยว โดยในช่วง ต.ค.-พ.ย.24 เราประเมินจะมีผู้โดยสารเติบโตมากที่ +15% YoY และส่วนใหญ่จะเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศที่จะเติบโตโดดเด่นราว +22% YoY ได้

AOT ผู้โดยสารโตต่อ โบรกชี้เป้า72 บาท

AOT ผู้โดยสารโตต่อ โบรกชี้เป้า72 บาท

        หุ้นวิชั่น- บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ ยังคงแนะนำ “ซื้อ”   AOT และราคาเป้าหมาย 72.00 บาท อิง DCF (WACC 7%, terminal growth 3.5%) AOT รายงาน 4QFY24 มีกำไรสุทธิ 4.3 พันล้านบาท (+25% YoY, -6% QoQ) ใกล้เคียง consensus โดยยังคงเติบโตดี YoY จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นเป็น 29 ล้านคน (+14% YoY, +1% QoQ) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขณะที่ผู้โดยสารในประเทศยังทรงตัว นับว่ายังทำได้ดีแม้เป็นช่วง low season ส่วนกำไรลดลง QoQ เนื่องจากเริ่มได้รับผลกระทบจากการขอคืนพื้นที่บางส่วนจากคิงเพาเวอร์ รวมถึงการยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า ทำให้รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ลดลง ดังนั้น ส่งผลให้ FY24 กำไรสุทธิ 1.9 หมื่นล้านบาท +118% YoY AOT แจ้งเรื่องการขอคืนพื้นที่บางส่วนเพิ่มเติมจากคิงเพาเวอร์ (KPS) เพื่อนำมาใช้ก่อสร้างอาคาร East Expansion ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเราประเมินจะมีผลกระทบต่อรายได้ปี FY25E-FY27E ราวปีละ 300-350 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลกระทบต่อกำไรลดลงราว -1% ซึ่งมีผลกระทบจำกัด ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไร FY25E ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท +20% YoY โดยประเมินจำนวนผู้โดยสารที่ 132 ล้านคน +11% YoY จากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และการเปิด Runway 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้รองรับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น ราคาหุ้น underperform SET -3%/-10% ในช่วง 3 และ 6 เดือน จากข่าวการขอคืนพื้นที่จากคิงเพาเวอร์ และการยกเลิก duty free ขาเข้า แต่ราคาหุ้นทรงตัวใกล้เคียง SET ในช่วง 1 เดือน         ทั้งนี้ ยังแนะนำ ซื้อ โดยประเมินว่าราคาหุ้นจะกลับมา outperform ได้ดีในช่วง 1Q-2QFY25E ที่เข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยว ทำให้กำไรกลับมาเติบโตโดดเด่น รวมถึงมีโอกาสที่ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้ AOT ได้

AOT อนุมัติปันผล 0.79 บ.ต่อหุ้น  XD  04 ธ.ค. 2567

AOT อนุมัติปันผล 0.79 บ.ต่อหุ้น XD 04 ธ.ค. 2567

หุ้นวิชั่น –  ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท  อนุมัติปันผล อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด  0.79  บาทต่อหุ้น กำหนด วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) คือ  04 ธ.ค. 2567 และวันที่จ่ายปันผล คือ 06 ก.พ. 2568

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

AOT กำไรปี 67 โต 118.21% ผลักดันท่าอากาศยานของไทยติด 1 ใน 20 ดีที่สุดในโลก

AOT กำไรปี 67 โต 118.21% ผลักดันท่าอากาศยานของไทยติด 1 ใน 20 ดีที่สุดในโลก

หุ้นวิชั่น –  AOT รายงานผลการดำเนินงานในงวดปี 2567(สิ้นสุด 30 ก.ย.) มีกำไร 19,182.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118.21% จากการฟื้นตัวของการเดินทางและการท่องเที่ยว พร้อมเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถของท่าอากาศยาน 6 แห่งในความดูแล เพื่อรองรับการเติบโตของการจราจรทางอากาศ มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคและระดับโลก พร้อมผลักดันท่าอากาศยานไทยสู่ 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก ภาพรวมของผลการดำเนินงานด้านปริมาณการจราจรทางอากาศของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 - กันยายน 2567 มีจำนวนเที่ยวบินรวม 732,688 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.50 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,187 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,501 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวมมีทั้งหมด 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.22 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านดน แม้ว่าในครึ่งปีหลังจะเป็นช่วง Low Season แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 ทอท.มีกำไรสุทธิจำนวน 19,182.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,391.52 ล้านบาท หรือร้อยละ 118.21 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 18,980.38 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.43 จากการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 8,734.64 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 39.23 และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 10,245.74 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.60 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 401.91 ล้านบาท หรือร้อยละ 131.96 ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 6,276.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.33 ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน ค่าจ้างภายนอก ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายอื่น ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง 133.65 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.62 สำหรับค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 2,668.12 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 119.38 สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น  ประเทศไทยมีศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการบินเพราะตั้งอยู่ในจุดภูมิศาสตร์กึ่งกลางของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีพรมแดนติดกับ 4 ประเทศเพื่อนบ้าน และได้รับสิทธิประโยชน์จากการเปิดเสรีการบินอาเซียน ในฐานะ ที่ ทอท.กำกับดูแลท่าอากาศยานในความรับผิดช่อบ 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จึงถือเป็นประตูด่านแรกในการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ ดังนั้น เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ทอท.จึงมุ่งมั่นเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานเพื่อการรองรับการจราจรทางอากาศที่จะเติบโตในอนาคต เชื่อมโยงท่าอากาศยานกับโครงข่ายการเดินทางทั่วประเทศตลอดจนพัฒนาอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องเพื่อรองรับศูนย์กลางการเดินทางภูมิภาค อาทิ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and ovethaul: MRO) และท่าอากาศยานสำหรับเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet) เพื่อจูงใจสายการบินทั่วโลกให้เข้ามาเปิดเส้นทางใหม่  ทอท.มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและผลักดันเพื่อให้ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบเป็นท่าอากาศยานที่มีมาตรฐานสากล มีความสะดวกสบาย ผู้โดยสารได้รับการบริการที่รวดเร็ว และปลอดภัย ล่าสุดเว็บไซต์ Skytrax ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับการให้บริการของท่าอากาศยาน ได้ประกาศท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก (World's Best Airport) ประจำปี 2567 โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดอันดับที่ 58 ขยับขึ้นมา 10 อันดับ จากอันดับที่ 68ในปี 2566 และท่าอากาศยานดอนเมือง ติดอันดับ 10 ของท่าอากาศยานสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก (World's Best Low-Cost Airtine Terminals) ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าวมาจากการสำรวจความคิดเห็นของ ผู้เดินทางด้วยเครื่องบินทั่วโลก ภายใต้การสำรวจที่ชื่อว่า World's Airport Survey จัดทำโดยบริษัท Skytrax ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการบินชั้นนำของประเทศอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการของสายการบินและท่าอากาศยานทั่วโลก โดยคำนึงถึงหมวดการให้บริการท่าอากาศยาน เช่น การเดินทางสภาพแวดล้อมและการออกแบบ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน สิ่งอำนวยความสะดวก และการให้บริการ เป็นต้น ทอท.พร้อมส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของโลก เชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศและเชื่อมต่อการเดินทางแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีเป้าหมายผลักดันท่าอากาศยานของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก รวมทั้งเพิ่มขีดศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร ตลอดจนเป็น ศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดเป็น 1 ใน 10 ของโลก โดย ทอท.มีแผนในการดำเนินการด้านต่างๆ

KSS คาด SET วันนี้ “แกว่งขึ้น” ส่องต้าน 1470 จุด AOT, SCB, WHA เด่น

KSS คาด SET วันนี้ “แกว่งขึ้น” ส่องต้าน 1470 จุด AOT, SCB, WHA เด่น

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “แกว่งขึ้น” ต้าน 1463/1470 จุด รับ 1442/1436 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดสั้นๆ ดัชนีS&P500 ปิด +0.39%           กลุ่มพลังงานขยับขึ้นนำตลาด ราคาน้ำมันดีดเฉลี่ย 3.18% รับบ่อผลิตน้ำมันนอร์เวย์ Johan Sverdrup หยุดผลิต น้ำมัน (กำลังผลิต 7.5 แสนบาร์เรลต่อวัน) และจิตวิทยาลบสถานการณ์ยูเครน - รัสเซีย กลับมาตึงขึ้น ภาพใหญ่ US Bond Yield 10 ปีติดแนวต้าน 4.5% และเริ่มนิ่งรอติดตามรายงานเศรษฐกิจเพิ่มเติม คลายแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น ผสานภาพบวกพัฒนาการเศรษฐกิจภายใน ทั้ง GDP 3Q24 เติบโต 3%y-y ดีกว่าตลาดคาด และมีสัญญาณเร่งต่อทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐ+ท่องเที่ยวที่ยังน่าจะขยายตัวสูงต่อเนื่องในระดับ 20%y-y +/-           ขณะที่วันนี้น่าจะมีความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเสริม บวกต่อค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งแข็งค่า 34.6 +/- บาท หนุน SET แกว่งขึ้น หุ้นนำ คือ Domestic (ค้าปลีก ท่องเที่ยว ธนาคาร เช่าซื้อ นิคม) กลุ่ม Yield นิ่ง+เงินบาทแข็ง (โรงไฟฟ้า) กลุ่มน้ำมันดีดแรงหนุนฝั่งพลังงานต้นน้ำ และปิโตรเคมี Spread สัปดาห์ล่าสุดเด่น +6-10% w-w วันนี้แนะ AOT, SCB, WHA

AOT จับมือ AOTGA จัดเสวนาสิทธิประโยชน์ เพิ่มศักยภาพศูนย์มัลติโมดอล

AOT จับมือ AOTGA จัดเสวนาสิทธิประโยชน์ เพิ่มศักยภาพศูนย์มัลติโมดอล

          คทา วีณิน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการขนส่งสินค้าทางอากาศ  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOT) พร้อมด้วย  ฐิติรัตน์ เจริญยิ่งวัฒนา รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส - สายงานการพาณิชย์ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA)  ร่วมจัดงานเสวนาสิทธิประโยชน์ของโครงการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มศักยภาพและยกระดับการให้บริการของศูนย์มัลติโมดอล ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยมี ทศวรชาติ ฤกษ์บางพลัด, สมบัติ ประสานศิลป์ชัย, อนันต์ ทินะพงศ์, นรินทร กลันทกพันธ์, สุวิชา บุญเต็ม และ สมชาย บรรลือเสนาะ ร่วมงาน ณ โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ท เมื่อเร็ว ๆ นี้

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

นักท่องเที่ยวเพิ่ม 5% หนุน AOT-AAV-MINT

นักท่องเที่ยวเพิ่ม 5% หนุน AOT-AAV-MINT

          หุ้นวิชั่น- บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ ระบุว่า นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (4-10 พ.ย.) เพิ่มขึ้น +5% WoW จากอินเดีย, รัสเซียและจีน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (4-10 พ.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 736,136 คน (+5% WoW/+21% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 105,162 คน โดยประเทศมี % เพิ่มขึ้นตามลำดับดังนี้ 1) อินเดีย 51,478 คน (+26% WoW/+94% YoY), 2) รัสเซีย 47,493 คน (+15% WoW), 3) เกาหลีใต้ 34,763 คน (+7% WoW/+9% YoY) และ 4) จีน 103,150 คน (+7% WoW/+50% YoY) ขณะที่มาเลเซียลดลงมาอยู่ที่ 89,463 คน (-27% WoW/-20% YoY) โดยนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เพราะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มภูมิภาคยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย           ขณะที่กลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) อย่างมาเลเซียลดลงเพราะเป็นช่วงสิ้นสุดวันหยุดต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10 พ.ย. 24 ทั้งสิ้น 29,816,537 คน เพิ่มขึ้น +29% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)           มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น WoW โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทำจุดสูงสุดในรอบ 12 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นได้ดีเพราะการเข้าสู่ช่วง High season ของไทย ขณะที่นักท่องเที่ยวอินเดียเริ่มกลับมาเริ่มฟื้นตัวได้ดี +26% WoW และนักท่องเที่ยวรัสเซียมีการเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องมา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน (CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียมากสุดที่ 5% รองลงมาเป็น ERW ที่ 3%)           ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวรวมเฉลี่ยรายสัปดาห์ในช่วง 11 ต.ค.-17 พ.ย. 67 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรป ประกอบกับมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีผลต่อจำนวนที่นั่งเข้าไทย (Seat Capacity) ระหว่างเดือน ก.ค. มาจนถึง ธ.ค. ที่จะเพิ่มขึ้น 10% รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น ขณะที่เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเริ่มมากขึ้นอีกในเดือน ธ.ค. 24 ที่มีหลายเทศกาลเข้ามาช่วยหนุน ทั้งนี้ ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2024E ยังอยู่ในกรอบประมาณการนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนที่เราประเมินไว้           โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR           คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E เพิ่มขึ้น +21% YoY และนักท่องเที่ยวจีน +84% YoY เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E จะอยู่ที่ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น +21% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง +84% YoY ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวเรายังชอบ AAV, AOT และ MINT AAV (ซื้อ/เป้า 3.60 บาท) คาด 4Q24E จะดีโดดเด่นจากการเข้าสู่ high season ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารและค่าตั๋วโดยสารจะเพิ่มขึ้นได้ดี AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) จากแนวโน้มกำไร 1Q-2QFY25E ที่จะยังโต YoY ดีต่อเนื่อง MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่คาดกำไรปกติ 4Q24E จะโต YoY ได้ต่อ เพราะเป็น High season จากไทยและมัลดีฟส์

นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% AOT-AAV-MINT รับโชค

นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% AOT-AAV-MINT รับโชค

          หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ ระบุว่า รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 ต.ค.-3 พ.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 701,962 คน (+20% WoW/+26% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 100,280 คน โดยประเทศมี % เพิ่มขึ้นตามลำดับดังนี้ 1) มาเลเซีย 123,121 คน (+52% WoW/+68% YoY), 2) รัสเซีย 41,397 คน (+27% WoW), 3) อินเดีย 40,956 คน (+6% WoW/+34% YoY), 4) เกาหลีใต้ 32,593 คน (+6% WoW/+8% YoY) และ 5) จีน 96,756 คน (+5% WoW/+44% YoY)           โดยนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในทุกกลุ่มตลาด ทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) และกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาจำนวน 243,204 คน หรือเพิ่มขึ้น 25% WoW ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตลาดระยะไกลเดินทางเข้ามาแตะระดับ 200,000 คน นับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยมีปัจจัยจากการเข้าสู่ High season ของนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย โดยเฉพาะตลาดรัสเซียและเยอรมันที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 8,000 คน           ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ฟื้นตัวด้านการเดินทางเช่นกัน โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 18% WoW จากการมีวันหยุดต่อเนื่อง (เทศกาลดิวาลี) ในหลายประเทศ อาทิ อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์           สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 พ.ย. 24 ทั้งสิ้น 29,080,399 คน เพิ่มขึ้น +29% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)           DAOL: เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น WoW ทุกประเทศ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทำจุดสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นได้ดีเพราะการเข้าสู่ช่วง High season ของไทย ขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซียเริ่มเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องมา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน (CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียมากสุดที่ 5% รองลงมาเป็น ERW ที่ 3%) โดยเราประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวรวมเฉลี่ยรายสัปดาห์ในช่วง 4 ต.ค.-10 พ.ย. 67 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรป ประกอบกับมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีผลต่อจำนวนที่นั่งเข้าไทย (Seat Capacity) ระหว่างเดือน ก.ค. มาจนถึง ธ.ค. ที่จะเพิ่มขึ้น 10% รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น ขณะที่เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเริ่มมากขึ้นอีกในเดือน ธ.ค. 24 ที่มีหลายเทศกาลเข้ามาช่วยหนุน ทั้งนี้ ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2024E ยังอยู่ในกรอบประมาณการนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนที่เราประเมินไว้ โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E เพิ่มขึ้น +21% YoY และนักท่องเที่ยวจีน +84% YoY เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E จะอยู่ที่ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น +21% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง +84% YoY ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวยังชอบ AAV, AOT และ MINT AAV (ซื้อ/เป้า 3.60 บาท) 3Q24E จะยังมีกำไรปกติได้แม้จะอยู่ในช่วง low season จากผู้โดยสารและค่าตั๋วโดยสารที่ยังดี ขณะที่ 4Q24E จะดีขึ้นโดดเด่นจากการเริ่มเข้าสู่ high season AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) จากแนวโน้มกำไร 1Q-2QFY25E ที่จะยังโต YoY ดีต่อเนื่อง MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่คาดกำไรปกติ 3Q24E จะโต YoY ได้ต่อ โดย RevPAR ที่ยุโรปยังเพิ่มขึ้นที่ +9% YoY และไทย RevPAR เพิ่มขึ้น +15% YoY ส่วน 4Q24E จะมี High season จากไทยและมัลดีฟส์ช่วยหนุน

บล.กรุงศรี คาด SET แกว่งในกรอบ ต้าน 1476 จุด จับตาปัจจัยนอก แนะ ADVANC, AOT, CPALL

บล.กรุงศรี คาด SET แกว่งในกรอบ ต้าน 1476 จุด จับตาปัจจัยนอก แนะ ADVANC, AOT, CPALL

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “แกว่งในกรอบ” ต้าน 1473/1476 จุด รับ 1455/1446 จุด ต่างประเทศรอ 3 ประเด็นคือการเลือกตั้งสหรัฐ 5 พ.ย. (รู้ผลราว 6 พ.ย. เป็นต้นไป) อิงจากสถิติหลังการเลือกตั้งสหรัฐ 2 รอบก่อนหน้า เดือน พ.ย. - ธ.ค. SET ให้ผลตอนเป็นบวก            การประชุม NPC ของจีนลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ประชุมต่อเนื่องถึงวันที่ 8 พ.ย.) และ 6-7 พ.ย. ประชุม Fed (รู้ผลเช้าวันที่ 8 พ.ย.) คาดลดดอกเบี้ยฯ 25 bps ส่วนภายในภาพทางพื้นฐานยังบวก ตัวเลขยอดผู้ใช้บริการสนามบิน AOT (ชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ)ในช่วงวันที่ 1 – 2พ.ย. 2024 ปรับขึ้นทะลุ Pre – covid ที่ระดับ 103.6% ผสานกับรัฐบาลนายกฯ เมื่อวานเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตาม เป้าหมายที่ 80% ของงบลงทุนทั้งหมดที่ 9.6 แสนล้านบาท โดยรวมประเมิน GDP Growth ไทยปี 2024 คาด 2.4%y-y มี Upside มองบวกต่อ            SET โดยประเด็นที่ต้องตามวันนี้ เงินเฟ้อไทย เดือน ต.ค. ตลาดคาด 0.96% และประชุม ครม. ลุ้น มาตรการกระตุ้นฝั่งอสังหา ประเมินหุ้นพลังงาน ( น้ำมันบวกแรง 2%) หุ้น China play กลุ่มอสังหา, หุ้นอิงบริการ(สนามบิน, โรงแรม) วันนี้แนะ ADVANC, AOT, CPALL

abs

Hoonvision

Bloomberg คาด AOT Q3/67 ชะลอตัว QoQ แต่ยังโต YoY

Bloomberg คาด AOT Q3/67 ชะลอตัว QoQ แต่ยังโต YoY

          หุ้นวิชั่น - บล.เอเอสแอล ระบุ Bloomberg ประเมินแนวโน้ม AOT คาดมีกำไรสุทธิ 4Q66/67 (ก.ค.-ก.ย. 67) ที่ 4.21 พันล้านบาท (-8.6% QoQ, +29.3% YoY) เติบโตได้ดี YoY เนื่องมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว แต่ลดลง QoQ เนื่องมาจากผลของการขอคืนพื้นที่เชิงพาณิชย์/การเรียกคืนพื้นที่ขายสินค้าปลอดอากรทั้งขาออกและขาเข้า ด้านรายได้ประเมินอยู่ที่ 1.63 หมื่นล้านบาท (-0.5% QoQ, +6.1% YoY) โดยแบ่งเป็น 1. รายได้จากการบินเพิ่มขึ้น ทั้งจากค่าบริการผู้โดยสารและค่าบริการสนามบิน และ 2. รายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบินลดลงทั้ง QoQ และ YoY หลังมีการขอคืนพื้นที่เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ช่วง ก.ค. 67 รวมถึงการเรียกคืนพื้นที่ขายสินค้าปลอดอากร ตั้งแต่ ส.ค. 67 ทั้งนี้คาดว่าจะประกาศงบ 4Q/67FY วันที่ 21 พ.ย. ทั้งนี้ มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก Bloomberg ที่ 68.57 บาท โดยราคาปัจจุบันซื้อขายบน FEW PE68 ที่ 35.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มในระดับภูมิภาคที่ 23 เท่า มองว่าตลาดให้ premium กับการเติบโตในอนาคต โดยประเมินกำไรสุทธิของปี 67-68F เท่ากับ 1.98 หมื่นล้านบาท +117.7% YoY และ 2.4 หมื่นล้านบาท +24% YoY ตามลำดับ ขณะที่แนวโน้ม 1Q67/68 คาดเติบโตต่อเนื่อง QoQ และ YoY จากการเข้าสู่ High season ในเชิง Sentiment ต้อนรับ 1. แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวใน 4Q67-2025 ซึ่งได้รับการขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว โดยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศ 1 ม.ค. – 27 ต.ค. อยู่ที่ 28.4 ล้านคน +29% YoY 2. คาดหวังมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของรัฐบาลต่อเนื่อง หลังจาก ครม. มีการพิจารณา Entertainment complex ซึ่งมีทิศทางบวก ขณะที่ปัจจุบันมีแคมเปญสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่าง “แอ๋วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม

นักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่ม 2% โฟกัส AOT-AAV-MINT

นักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่ม 2% โฟกัส AOT-AAV-MINT

           หุ้นวิชั่น - บล. ดาโอ ระบุว่า นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (21-27 ต.ค.) เพิ่มขึ้น +2% WoW จากรัสเซีย, เกาหลีเพิ่ม แต่จีนลดลงเล็กน้อย รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 ต.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 584,462 คน (+2% WoW/+16% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 83,495 คน โดยประเทศมี % เพิ่มขึ้นตามลำดับดังนี้ 1) รัสเซีย 32,491 คน (+10% WoW), 2) เกาหลีใต้ 30,862 คน (+5% WoW/+13% YoY) และ 3) มาเลเซีย 80,873 คน (+4% WoW/+7% YoY) ขณะที่ประเทศมี % ลดลงตามลำดับดังนี้ 1) อินเดีย 38,743 คน (-3% WoW/+19% YoY) และ 2) จีน 92,517 คน (-1% WoW/+57% YoY) โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) ของภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคอเมริกา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 5.15% WoW และเป็นการขยายตัวด้านการเดินทางอย่างต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 ต.ค. 24 ทั้งสิ้น 28,378,473 คน เพิ่มขึ้น +30% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)            บล.ดาโอ มอง เป็นกลางต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมที่เพิ่มขึ้น WoW แต่จีนหดตัวลงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวรวมจะเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยที่ +2% WoW แต่จำนวนนักท่องเที่ยวหลักอย่างจีนและอินเดียมีการปรับตัวลง -1% WoW และ -3% WoW ตามลำดับ อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวรัสเซียเริ่มเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยเราประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวรวมเฉลี่ยรายสัปดาห์ในช่วง 28 ต.ค.-3 พ.ย. 67 จะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการเข้าสู่ช่วง High season ของไทย และมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทางจากวันหยุดในเทศกาลดิวาลีในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย และสิงคโปร์ และคาดว่าจะเริ่มมากขึ้นอีกในเดือน ธ.ค. 24 ที่มีหลายเทศกาลเข้ามาช่วยหนุน ทั้งนี้ ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2024E ยังอยู่ในกรอบประมาณการนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนที่เราประเมินไว้ โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E เพิ่มขึ้น +21% YoY และนักท่องเที่ยวจีน +84% YoY เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E จะอยู่ที่ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น +21% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง +84% YoY ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวเรายังชอบ AAV, AOT และ MINT AAV (ซื้อ/เป้า 3.20 บาท) 3Q24E จะยังมีกำไรปกติได้แม้จะอยู่ในช่วง low season จากผู้โดยสารและค่าตั๋วโดยสารที่ยังดี ขณะที่ 4Q24E จะดีขึ้นโดดเด่นจากการเริ่มเข้าสู่ high season AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) จากแนวโน้มกำไร 1Q-2QFY25E ที่จะยังโต YoY ดีต่อเนื่อง MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่เราคาดว่า 3Q24E จะโต YoY ได้ต่อเพราะยังเป็น High season ที่ยุโรป โดย RevPAR ที่ยุโรปยังเพิ่มขึ้นได้ดีที่ +15% YoY และมี ADR เพิ่มขึ้นได้ +12% YoY ส่วนไทย RevPAR เพิ่มขึ้นได้ที่ +16% YoY ส่วน 4Q24E จะมี High season จากไทยและมัลดีฟส์ช่วยหนุน

แอพ SAWASDEE by AOT แอพที่นักเดินทางต้องมีไว้ในมือถือ!!!

แอพ SAWASDEE by AOT แอพที่นักเดินทางต้องมีไว้ในมือถือ!!!

https://www.youtube.com/watch?v=NG8XBmvrCQg

บล.กรุงศรี ยอด นทท.ฟื้น ไฮซีซั่นหนุน เลือก BA-AOT เป็น Top pick

บล.กรุงศรี ยอด นทท.ฟื้น ไฮซีซั่นหนุน เลือก BA-AOT เป็น Top pick

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) มอง Neutral ยอด นทท.สัปดาห์ที่ 42/24 ทรงตัว w-w ที่ 0.58 ล้านคน ตามฤดูกาล แนวโน้มสัปดาห์ถัดไปคาดยอด นทท.ฟื้น w-w จากแรงหนุนการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของตลาดระยะไกล           ขณะที่ราคาน้ำมัน (Jet Fuel) ลดลง -5% w-w เป็นบวกทางด้านต้นทุนต่อหุ้นสายการบิน และเงินบาทอ่อนค่า +0.57 บาท w-w คลายแรงกดดันการเดินทางมาท่องเที่ยวไทย เราคงน้ำหนัก Bullish กลุ่มการบิน และ          ยังเลือก BA และ AOT เป็นหุ้น Top pick กลุ่มฯ

วิพากษ์นักท่องเที่ยวเข้าไทย หุ้นรับอานิสงส์มีอะไรบ้าง?

วิพากษ์นักท่องเที่ยวเข้าไทย หุ้นรับอานิสงส์มีอะไรบ้าง?

          หุ้นวิชั่น- บล.ดาโอ ระบุว่า นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (14-20 ต.ค.) ทรงตัว WoW จากจีน, อินเดีย, รัสเซียเพิ่ม แต่มาเลเซียลด รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (14-20 ต.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 575,142 คน (-0.05% WoW/+12% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 82,163 คน โดยประเทศมี % เพิ่มขึ้นตามลำดับดังนี้ 1) รัสเซีย 29,628 คน (+21% WoW), 2) จีน 93,223 คน (+8% WoW/+57% YoY) และ 3) อินเดีย 39,900 คน (+6% WoW/+25% YoY) ขณะที่ประเทศมี % ลดลงตามลำดับดังนี้ 1) มาเลเซีย 77,723 คน (-9% WoW/-6% YoY) และ 2) เกาหลีใต้ 29,313 คน (-5% WoW) โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคอเมริกา โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 11.56% จากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5,191 คน หรือ 21.54% จากสัปดาห์ก่อนหน้า และขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 4 จากเดิมในอันดับที่ 5 ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาลดลง จากการชะลอตัวด้านการเดินทางก่อนมีวันหยุดต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 ต.ค. 24 ทั้งสิ้น 27,794,011 คน เพิ่มขึ้น +30% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)           บล.ดาโอ มองเป็นกลางต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ทรงตัว WoW แต่ยังมีนักท่องเที่ยวจีน, อินเดีย, รัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวรวมจะทำได้แค่ทรงตัวเพราะนักท่องเที่ยวมาเลเซียปรับตัวลดลง           ขณะที่นักท่องเที่ยวหลักอย่างจีน, อินเดีย, รัสเซียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเราประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวรวมเฉลี่ยรายสัปดาห์ในช่วง 21-27 ต.ค.67 จะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการเข้าสู่ช่วง High season ของไทย และจะเริ่มมากขึ้นอีกในเดือน พ.ย.-ธ.ค. 24 ที่มีหลายเทศกาลเข้ามาช่วยหนุน ทั้งนี้ ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2024E ยังอยู่ในกรอบประมาณการนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนที่ประเมินไว้           โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR           คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E เพิ่มขึ้น +21% YoY และนักท่องเที่ยวจีน +84% YoY เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E จะอยู่ที่ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น +21% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง +84% YoY ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวเรายังชอบ AAV, AOT AAV (ซื้อ/เป้า 3.20 บาท) 3Q24E จะยังมีกำไรปกติได้แม้จะอยู่ในช่วง low season จากผู้โดยสารและค่าตั๋วโดยสารที่ยังดี ขณะที่ 4Q24E จะดีขึ้นโดดเด่นจากการเริ่มเข้าสู่ high season AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) จากแนวโน้มกำไร 1Q-2QFY25E ที่จะยังโต YoY ดีต่อเนื่อง

SET แกว่งตัวในกรอบ จับตาแนวต้าน 1507 จุด หุ้นเด่น AOT และGPSC

SET แกว่งตัวในกรอบ จับตาแนวต้าน 1507 จุด หุ้นเด่น AOT และGPSC

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่าคาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ โดยกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้านจิตวิทยา 1500-1507 จุด จากภาวะ Overbought ทางเทคนิค ส่วนกรอบล่างมีแนวรับบริเวณ 1475-1480 จุด เป็นจุดรองรับ ด้วยเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ช่วยประคอง ทั้งนี้แนวโน้มราคามีจุดติดตามสำคัญ โดยหากขึ้นทะลุ 1507 จุด จะเป็นสัญญาณบวกต่อ ส่วนกรณีหลุด 1475 จุด จะเป็นสัญญาณลบต่อภาพการพักฐาน           AOT: 4QFY67 คาดกำไรปกติ 4.0 พันลบ. เพิ่มขึ้น 10%YoY (จากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น) แต่ลดลง 13% QoQ (จากรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลง) และโมเมนตัมกำไรจะแข็งแกร่งขึ้น YoY และ QoQ ใน 1QFY68 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และยังมีปัจจัยบวกหนุนจากช่วง Golden Week ของจีน           GPSC: มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากราคาก๊าซยุโรปและ Bond Yield ที่ปรับตัวลง ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 4.58 พันลบ. เติบโต 33.8%YoY และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 16.3%YoY ในปี 2568 ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังมีกำลังการผลิตติดตั้งที่สูงขึ้นในอินเดียและไต้หวัน

ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เมนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ หนุนจิตวิทยาบวก หุ้นบริการ AOT, BTS, BJC

ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เมนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ หนุนจิตวิทยาบวก หุ้นบริการ AOT, BTS, BJC

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า รมช. คลัง คาดว่าใช้เวลา 1 เดือน ก่อนรอเสนอ ครม. พิจารณา ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เมนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ หลังผ่านขั้นตอน Public Hearing ที่มีประชาชนเห็นด้วย 82% แล้ว มองจิตวิทยาบวกหุ้นที่เกี่ยวข้อง กลุ่มทุนใหญ่ที่มีกระแสข่าวสนใจลงทุนและหุ้นภาคบริการ AOT, BTS, VGI, BJC, STEC, ERW, BA, MBK ที่มา : บล.กรุงศรี

บล.ดาโอ แนะหุ้นควรมี

บล.ดาโอ แนะหุ้นควรมี "BDMS,SCB,AOT,WHA"

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มอง ตลาดหุ้นไทย มีแรงซื้อเข้ามาเรื่อยๆ อาจได้อานิสงค์จากการซื้อของกองทุน วายุภักษ์ด้วย หากดัชนีฯ ผ่าน 1470 จุดไปได้ จะยืนยันการปรับฐานจบ            กลยุทธ์ ภาพรวมเป็น “ถือ” ควรพร้อมหรือเลือกซื้อหุ้นที่แข็งแกร่งเหนือตลาด หรือจะเป็นกลุ่มที่เป็น high dividend yield หากตลาดมีสัญญาณกลับตัว(ขึ้น) ด้วยเหตุผลใดก็ตาม หุ้น 3 ตัว ที่ควรมี BDMS, SCB , AOT และ WHA หุ้นในพอร์ตวันนี้ BDMS, TRUE*, CPALL เข้ามาใหม่ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย BDMS (1 5 %) , TRUE*(1 0 %) , CPALL(1 5 %) , SISB (10%) , WHA(10%) , GULF (20%)

บล.ดาโอ ชี้นักท่องเที่ยวจีนหนุน หุ้น ERW-CENTEL-MINT-SHR

บล.ดาโอ ชี้นักท่องเที่ยวจีนหนุน หุ้น ERW-CENTEL-MINT-SHR

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี WoW จากวันชาติจีน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น WoW เพราะเป็นวันชาติจีน (1-7 ต.ค. 24) ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ 160,474 คน (+34%WoW/+114% YoY) เป็นไปตามที่ ททท. คาดไว้ที่ 132,000 – 183,000 คน เพิ่มขึ้น 57-144% YoY           โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยต่อสัปดาห์จะลดลงมาสู่ระดับปกติในช่วงสัปดาห์หน้าที่ระดับ 1.3-1.4 แสนต่อสัปดาห์เพราะหมดเทศกาลวันชาติจีน ส่วนนักท่องเที่ยวรวมจะมีโอกาสจะกลับมาหดตัว WoW ได้เช่นกัน ทั้งนี้ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2024E ยังอยู่ในกรอบประมาณการนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนที่เราประเมินไว้           โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นเรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E เพิ่มขึ้น +21% YoY และนักท่องเที่ยวจีน +84% YoY           ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E จะอยู่ที่ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น +21% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง +84% YoY ฝ่ายวิเคราะห์ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวเรายังชอบ AAV, AOT, MINT และ BAFS AAV (ซื้อ/เป้า 3.20 บาท) 3Q24E จะยังมีกำไรปกติได้แม้จะอยู่ในช่วง low season จากผู้โดยสารและค่าตั๋วโดยสารที่ยังดี ขณะที่ 4Q24E จะดีขึ้นโดดเด่นจากการเริ่มเข้าสู่ high season AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) จากแนวโน้มกำไร 1Q-2QFY25E ที่จะยังโต YoY ดีต่อเนื่อง MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า 3Q24E จะโต YoY ได้ต่อเพราะยังเป็น High season ที่ยุโรป โดย RevPAR ที่ยุโรปยังเพิ่มขึ้นได้ดีที่ +15% YoY และมี ADR เพิ่มขึ้นได้ +12% YoY ส่วนไทย RevPAR เพิ่มขึ้นได้ที่ +16% YoY ส่วน 4Q24E จะมี High season จากไทยและมัลดีฟส์ช่วยหนุน BAFS (ซื้อ/เป้า 22.00 บาท) จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

นทท.ต่างชาติ โต7.8% แนะนำสะสมหุ้นท่องเที่ยว AOT - ERW - AAV โดดเด่น

นทท.ต่างชาติ โต7.8% แนะนำสะสมหุ้นท่องเที่ยว AOT - ERW - AAV โดดเด่น

          หุ้นวิชั่น- ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานว่า KSS Strategist Comment: TH Tourism Update นักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด (30 ก.ย. -6 ต.ค.) +7.8%w-w ตามผลบวก Golden Week ส่วนระยะถัดไปมองเร่งต่อจากปัจจัยหนุนฤดูกาลท่องเที่ยว ผสาน นักท่องเที่ยวจีนเร่งขึ้นตามสัญญาณ Flight Capacity จีนสู่ไทย แนะนำสะสม AOT, ERW, AAV, CPALL, BJC, ADVANC Key Ideas : นักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด 30 ก.ย. – 6 ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น +7.8%w-w อยู่ที่ 6.38 แสนคน สูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เรามองเป็นผลบวกช่วง Golden Week ทั้งนี้ เราประเมินเป็นจุดเริ่มต้นก่อนฟื้นตัวช่วงปลายปี หนุนจาก การเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต่อเนื่องยาวจากงวด 4Q24 – 1Q25 เริ่มเห็น Upside ของนักท่องเที่ยวจีน โดยปัจจุบันกำลังให้บริการต่อที่นั่ง ต่อ กม. (ASK) ของจีนเดินทางไปต่างประเทศ ณ 7 ต.ค. (หลัง Golden Week) แตะระดับ 75% ของ Pre-COVID ปรับเพิ่มมีนัยฯ 47%y-y นอกจากนี้ ระดับกำลังให้บริการต่อที่นั่ง ต่อ กม. (ASK) ของจีนเดินทางมาไทย ณ 7 ต.ค. สูง 68% ของ Pre-COVID เทียบกับยอดนักท่องเที่ยวจีน 8M24 ที่อยู่เพียง 63% ยิ่งสะท้อนภาพชัดเจน           Strategy: มองโมเมนตัมการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวทยอยชัดเจนขึ้น ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมค่อยๆคลายตัวลง และสถานการณ์ตะวันออกกลางยังเชื่อว่าจำกัดวงระหว่างคู่กรณี เชิงกลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นท่องเที่ยว+ภาคบริการที่คาดฟื้นตัวเด่นช่วงฤดูกาลต่อเนื่อง เน้น AOT(TP Con-68.9) ERW (TP Con-5.3) AAV (TP-2.86) CPALL (TP-77) BJC(TP-30) ADVANC (TP-300)