#AMATA


[Vision Exclusive] ไทยเร่งเครื่องสู่ 'AI Hub' AMATA พร้อมดึงต่างชาติ

[Vision Exclusive] ไทยเร่งเครื่องสู่ 'AI Hub' AMATA พร้อมดึงต่างชาติ

          หุ้นวิชั่น - รัฐบาลเดินหน้าเต็มสูบ วางแผนลงทุนใน AI, EV และชิ้นส่วนอุปกรณ์รถ EV เสริมด้วย แผนผลิตบุคลากร AI กว่า 280,000 คนใน 5 ปี เพื่อรองรับความต้องการในตลาดอนาคต ด้าน AMATA เร่งขยายโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงไฟฟ้าและระบบน้ำ เตรียมพร้อมนิคมอุตสาหกรรมรองรับนักลงทุนต่างชาติ โบรกมอง หุ้นรับอานิสงส์ WHA, AMATA, BGRIM, GULF, INSET, BE8 เตรียมรับโอกาสครั้งใหญ่จากเม็ดเงินลงทุนมหาศาล           นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานรัฐบาลแพทองธารครบรอบ 90 วัน พูดถึงประเด็นในเรื่อง Future Investment หรือการลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคต ประเทศไทยต้องเป็น AI ฮับของภูมิภาค ที่มีการดึงดูดบริษัทการลงทุนใหญ่เข้ามา อย่างที่ผ่านมา google Microsoft และอื่นๆ อีกมากมาย ที่เข้ามาลงทุน ทำให้ต่างชาติทั่วโลกมองเห็นแล้วว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเตรียมตัวสำหรับธุรกิจแห่งอนาคต แต่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องมีการดูและและพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดของคน อาจจะยังขาดความรู้หรือความเชี่ยวชาญ (Know-how) ในการทำธุรกิจนี้  โดย AI ใน Future หรืออนาคตอันใกล้ มีบทบาทสำคัญต่อทุกคน ยิ่ง AI มีข้อมูลมากก็ยิ่งฉลาดมากขึ้น ยังช่วยในเรื่องของกำแพงภาษาสามารถสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น และยังสามารถช่วยคิดวิเคราะห์ต่างๆ จะเป็นโอกาสใหม่ๆ ให้แก่พี่น้องประชาชน ๆ สร้างงานให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษาที่จบใหม่ (first jober)  ถ้ารู้จักใช้ AI ให้เป็น           ดังนั้นรัฐบาลก็มีแผนลงทุนเพิ่มในธุรกิจอนาคต ไม่ว่าจะเป็น AI หรือ EA รวมไปถึงการทำชิ้นส่วนอุปกรณ์รถอีวี รวมไปถึงเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งประเทศไทยอาจจะค่อยๆ เริ่มแม้จะช้า แต่มองว่าไม่สายเกินไป และจะสร้างคนให้ไปเรียนทางด้านนี้ให้ไปเรียนระดับมหาวิทยาลัย 280,000 คน ภายใน 5 ปี เพื่อประเทศไทยให้พร้อมสำหรับธุรกิจในอนาคต โดยต้องมีการทำเรื่องของการประหยัดพลังงานด้วยเพื่อให้ราคาสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก           ข้อมูลจาก บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)หรือ AMATA เผย ประเทศไทยมีศักยภาพก้าวเป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาค ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infra Tech) ที่แข็งแกร่ง ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด NVIDIA บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลก เดินทางเยือนไทยเพื่อผลักดันเทคโนโลยี AI ในประเทศ           ปัจจุบันมีนักลงทุน โดยเฉพาะ กลุ่มนักลงทุนจีน เจรจาซื้อที่ดินในนิคมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ AMATA เดินหน้าขยายโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงไฟฟ้าและระบบน้ำ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นในการลงทุนในไทย และขับเคลื่อนประเทศสู่ "AI Hub" ของภูมิภาค อย่างเต็มรูปแบบ           นอกจากนี้ AMATA ยังยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมและชุมชนรอบข้าง มุ่งเน้นพัฒนา "เมืองอัจฉริยะ" (Smart City) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมวางเป้าหมาย "เมืองเป็นกลางทางคาร์บอน" ภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยพื้นที่ที่พัฒนาแล้วลง 30% ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2562  และการเดินหน้าสู่ "AI Hub" ควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก และตอกย้ำสถานะของไทยในฐานะ ศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง ในภูมิภาคนี้           นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุว่าการที่ ประเทศไทยจะเดินหน้าในเรื่อง AI เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะจะเกิดการผลักดันในเรื่องของ Infra Tech ด้วยทีจะมารองรับการใช้งานของบริษัทเทคในอนาคตที่เข้ามาลงทุนในไทย และในอนาคตหากมีการเติบโตต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยทดแทนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่ เห็นการเติบโตลดลง โดยหุ้นกลุ่มแรกๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุน หรือดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทย คือ กลุ่มนิคมอุตสาหรรมที่จะสามารถขายที่ดินได้เพิ่มขึ้น และนำ WHA AMATA รวมไปถึง ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้าที่จะมีความต้องการจากการใช้ไฟฟ้าสะอาดทั้ง BGRIM GULF เป็นต้น รวมไปถึงกลุ่มที่เป็นซัพพลายหรือวางระบบ เช่น INSET BE8 เป็นต้น รายงาน ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว สำนักข่าว HoonVision

FDI หนุนนิคมอุตสาหกรรม โบรกแนะซื้อ AMATA และ WHA

FDI หนุนนิคมอุตสาหกรรม โบรกแนะซื้อ AMATA และ WHA

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล. เคจีไอ ระบุ AMATA และ WHA มีผลการดำเนินงาน 9M67 ที่โดดเด่นในด้านยอดขายที่ดินแข็งแกร่ง (+18% YoY) การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคม ฯ (+57% YoY) และกำไร (+42 YoY) โดยปกติธุรกิจไตรมาสที่สี่เป็นช่วงพีคสุดของปี ดังนั้นคาดผลการดำเนินงานเข้าสู่ช่วงที่แข็งแกร่ง ขณะที่ ประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยม โดยคาดยอดขายที่ดินปี 2568F ทรงตัว แต่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคม ฯ น่าจะยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตรายปีเป็นเลขสิบกลาง ๆ ช่วงปี 2567F-68F เนื่องจากมียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (backlog) จำนวนมากรอรับรู้เป็นรายได้ในปีถัดไป อย่างไรก็ดี เราคาด upside น่าจะมาจากการฟื้นตัวของยอดขายที่ดินนิคม ฯ จากเวียดนามหลังจากที่มีผู้นำรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารแล้ว ในท่ามกลางกระแสการลงทุนที่เป็นใจและอัตราการเติบโตกำไรดี เราแนะนำซื้อทั้ง AMATA และ WHA ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 34.00 บาทและ 6.60 บาท ตามลำดับ การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน (BOI) ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง          การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI พุ่งขึ้น 42% YoY อยู่ที่ 7.22 แสนล้านบาทในช่วง 9M67 เทียบกับค่าเฉลี่ย 28% ต่อปีในช่วง 2564-66 โดยที่ อุตสาหกรรมลำดับต้น ๆ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีดิจิทัล ขณะที่ นักลงทุนกลุ่มหลัก ๆ มาจากประเทศที่พูดภาษาจีนสื่อสาร อย่างเช่น จีน สิงคโปร์ และฮ่องกง ยอดขายและโอนที่ดินแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน          ยอดขายที่ดินนิคม ฯ ของ Amata Corp (AMATA.BK, AMATA TB)* ถึงเป้าหมายปีนี้ไปแล้วที่ 2.018 พันไร่ (+68% YoY) ในช่วง 9M67 โดยปัจจุบัน ฝ่ายบริหารคาดยอดขายที่ดินทั้งปี 2567F จะอยู่ที่ 2.500 พันไร่ต่อปี ขณะที่ ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคม ฯ ของ AMATA เติบโตถึง 58% YoY ในช่วง 9M67 ส่วน WHA Group (WHA.BK, WHA TB)* มียอดขายที่ดินสูงเกือบ 1.800 ไร่ในช่วง 9M67 และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ 1.570 พันไร่ (+56% YoY) ทั้งนี้ ยอดขายและโอนที่ดินนิคม ฯ รวมใน 9M67 เติบโต 18% และ 57% YoY ตามลำดับ เราคาดยอดขายที่ดินปี 2568F ทรงตัวแต่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินน่าจะยังแข็งแกร่งต่อ          เราประเมินยอดขายที่ดินนิคม ฯ ในปี 2567F-68F ที่ 2.50 พันไร่ต่อปีสำหรับ AMATA และ 2.50-2.60 พันไร่ต่อปีสำหรับ WHA โดยที่ upside น่าจะมาจากการฟื้นตัวของยอดขายที่ดินนิคม ฯ จากเวียดนามหลังจากที่ผู้นำของเวียดนามและสหรัฐอเมริกาได้รับการเลือกแล้ว ส่วนยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินรวมอาจโต 14% ในปี 2567F และ 12% ในปี 2568 เนื่องจากมี backlog อยู่สูงมาก อีกทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะขายสินทรัพย์เข้า REITs มากขึ้น หรือเอาบริษัทฯลูกเข้าตลาดในปีหน้า ในขณะที่ backlog ของ AMATA อยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 50% จะถูกบันทึกในปี 2568F) ส่วน WHA มี backlog ที่ 1.259 พันไร่ (ราว 4-5 พันล้านบาท) พร้อมอีก 904 ไร่อยู่ระหว่างทำหนังสือแสดงเจตจำนง (Letters of intent) กรณีนี้น่าจะทำให้อัตราการเติบโตกำไรรวมเป็นเลขสองหลักที่ 18-20% ต่อปีในช่วงปี 2567F-68F เร่งการลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ          AMATA อยู่ระหว่างพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่ 2 แห่งที่เพิ่งได้ซื้อมา ได้แก่ อมตะซิตี้ ระยอง 2 (หนองละลอก) พื้นที่ 1.547 พันไร่ และ อมตะซิตี้ ชลบุรี 2 (บ้านบึง) พื้นที่ 2.213 พันไร่ (ขายได้แล้ว 40%) นอกจากนี้ AMATA วางแผนที่จะเริ่มพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่แขวง Namor ในสปป.ลาว โดยเน้นลูกค้าหลักชาวจีน ทางด้าน WHA กำลังพัฒนา 6 นิคม ฯ โดยมีพื้นที่รวม 9.19 พันไร่ (6.79 พันไร่อยู่ในพื้นที่ EEC) ส่วนที่เวียดนาม WHA มีนิคม ฯ ในจังหวัด เหงะอาน (Nghe An) และอีก 3 แห่ง (2 แห่งในจังหวัด ทัญฮว้า (Thanh Hoa) และ 1 แห่งในจังหวัดกว่างนาม (Quang Nam)) ที่จะเปิดตัวในปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ แต่ละรายตั้งเป้าที่จะใช้จ่ายราว 5-6 พันล้านบาทต่อปีเพื่อการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในอีก5ปีข้างหน้า กำไรรวม 9M67 โตถึง 42% YoY          กำไรรวม 3Q67 ที่ลดลง 19% เนื่องจากบริษัทย่อยของ WHA มีผลการดำเนินงานอ่อนแอคือ WHA Utilities & Power (WHAUP.BK, WHAUP TB) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและอีกทั้งมีต้นทุนภาษีพิเศษ สวนทางกับ AMATA ที่รายงานการฟื้นตัวแข็งแกร่งใน 3Q67 จากฐานต่ำ อย่างไรก็ดี รายได้และกำไรใน 9M67 เติบโตแข็งแกร่ง 25% YoY และ 42% YoY ตามลำดับ สอดคล้องกับการโอนที่ดินพุ่งขึ้น 57% YoY ในระหว่างสองบริษัทดังกล่าวข้างต้น WHA รายงานกำไรสุทธิแข็งแกร่งขึ้น 55% YoY เป็นเพราะยอดโอนที่ดินมากขึ้นด้วยอัตรากำไรที่สูงขึ้น ในขณะที่ไตรมาส 4 โดยปกติเป็นไตรมาสที่พีคสุดของปี ดังนั้นเราคาดผลการดำเนินงานที่กำลังจะถึงนี้แข็งแกร่ง Valuation & Action          ท่ามกลางกระแสการลงทุนที่เป็นใจและอัตราการเติบโตกำไรดี เราแนะนำซื้อทั้ง AMATA และ WHA ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 34.00 บาทและ 6.60 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ เราคงให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มนี้ที่ “มากกว่าตลาด ฯ” (Overweight) Risks          ความรวดเร็วในอัตราการเติบโต GDP, การเพิ่มขึ้นของต้นทุนสาธารณูปโภคและค่าแรงงานขั้นต่ำ, ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย ความรวดเร็วในการโอนที่ดินนิคม ฯและเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)

AMATA 9เดือนกำไรโต21% ฟันยอดขายที่ดิน 2.5 พันไร่

AMATA 9เดือนกำไรโต21% ฟันยอดขายที่ดิน 2.5 พันไร่

          หุ้นวิชั่น - “อมตะ”เผยผลดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567  รายได้รวมกว่า 9,000 ล้านบาท เติบโต 39% ทำกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตุน Backlog สิ้นกันยายนอยู่ที่ 19,269 ล้านบาท สะท้อนผลบวก นักลงทุนย้ายฐานการผลิต เข้าพื้นที่นิคมอมตะ ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมั่นยอดขายที่ดินปี 67 เป็นไปตามเป้าหมาย2,500 ไร่  ชูกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน  มุ่งสู่เมืองอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ภายในปี 2583           นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน หรือ AMATA เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น9,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ ทั้งสิ้น1,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% สะท้อนถึงแนวโน้มการขยายตัวของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาใช้พื้นที่ลงทุนของอมตะ  ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งจากการโอนที่ดิน รายได้ค่าสาธารณูปโภค และการให้เช่าอาคารและโรงงานสำเร็จรูป และการทำพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อให้บริการกับลูกค้า          สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการโอนที่ดิน 4,254 ล้านบาท เติบโตขึ้น 34% รายได้ค่าสาธารณูปโภคและอื่น ๆ 3,967 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 52% และรายได้จากการเช่าอาคารและโรงงานสำเร็จรูป 702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการโอนที่ดินไปแล้วทั้งสิ้น 766 ไร่ และมีมูลค่ายอดขายที่ยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 จำนวน 19,269 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในไตรมาส 4  จะมีการลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินเพิ่มขึ้น ดังนั้นเชื่อว่ายอดขายที่ดินในปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมาย  2,500 ไร่           “ผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น  เป็นผลมาจากการบริหารจัดการและการดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนาธุรกิจทุกภาคส่วน ทั้งในด้านที่ดิน ระบบสาธารณูปโภค และบริการให้เช่า ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเติบโตระยะยาวของบริษัท  ที่มุ่งมั่นการพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรม   ที่เป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศ  ทั้งจากการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การบริหารจัดการน้ำและขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพ และการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญ  ที่อมตะยึดมั่นเพื่อสร้างการเติบโตให้กับชุมชนและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ” นางสาวเด่นดาว กล่าว            อย่างไรก็ตาม การพัฒนาธุรกิจกลุ่มอมตะ ได้วางเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน  โดยจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30% ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon City) ภายในปี 2583 โดยมีแผนงานด้านการจัดการพลังงาน การอนุรักษ์น้ำและธรรมชาติ และการบริหารจัดการขยะภายใต้แนวคิด Zero Waste to Landfill ซึ่งเป็นการลดขยะสู่การฝังกลบให้เหลือน้อยที่สุด           นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่มีจุดมุ่งหมายในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างสังคมที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนและยังคงเดินหน้าพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยมุ่งมั่นสร้างเมืองอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกับทุกภาคส่วน

AMATA เล็งกำไร Q4 นิวไฮ โบรกเคาะ เป้า 33 บาท

AMATA เล็งกำไร Q4 นิวไฮ โบรกเคาะ เป้า 33 บาท

หุ้นวิชั่น - ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ในไตรมาส 3/67 AMATA ทำกำไรสุทธิได้ 765.1 ล้านบาท เติบโต 231% qoq และ 93% yoy สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ และ Bloomberg consensus 6.2% และ 8.3% ตามลำดับ เนื่องจาก SG&A, ดอกเบี้ยจ่ายและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยต่ำกว่าคาด ขณะที่รายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้น 125.4% qoq และ 37.3% yoy เป็น 2.22 พันล้าน บาท เพราะยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินฟื้นตัวแข็งแกร่งมาอยู่ที่ 452 ไร่ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากการขายที่ดินอยู่ที่ 38.3% เพิ่มขึ้นจาก 37.3% ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว แต่ลดลง qoq เมื่อเทียบกับ 43.1%ไตรมาส 2/67 เพราะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจังหวัดระยองและเวียดนามเพิ่มขึ้น ซึ่งมี GPM เพียง 33% และ 20% ตามลำดับ     ไตรมาส 3/67 AMATA มี SG&A เพิ่มขึ้น 7.2% qoq และ 37.4% yoy เป็น 411.8 ล้านบาท เพราะมีค่าใช้จ่ายที่รับรู้ครั้งเดียวจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ (เสาไฟฟ้า) ที่ได้รับความเสียหายจากไต้ฝุ่นยางิ 80 ล้านบาท ดังนั้นกำไรสุทธิงวด 9 เดือนของปีนี้ จึงเติบโต 21.5% yoy เป็น 1.46 พันล้านบาท คิดเป็น 65.5% ของประมาณการทั้งปี งวด 9 เดือนปีนี้ AMATA มียอดขายที่ดินใหม่เพิ่มขึ้น 68% yoy เป็น 2,018 ไร่ แบ่งเป็นไทย 1,871 ไร่ และเวียดนาม 147 ไร่ ฝ่ายวิเคราะห์ฯเชื่อว่า AMATA จะทำยอดขายที่ดินทั้งปีนี้ได้ตามประมาณการที่ 2,500 ไร่ หรือเพิ่มขึ้น 34.8% yoy ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในไทยจากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, รถยนต์และชิ้นส่วน และ Data centre ขณะเดียวกัน AMATA โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 452 ไร่ในไตรมาส 3/67 ประกอบด้วยที่ดิน 51 ไร่ในนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี, 300 ไร่ในนิคมอมตะซิตี้ ระยอง, 11 ไร่ในนิคมไทย-จีน ระยอง และ 90 ไร่ใน Amata City Halong (ACHL) ประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ AMATA คาดจะเริ่มรับรู้รายได้จากนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี2 ในปี68 ดังนั้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินงวด 9 เดือนปีนี้ จึงเพิ่มขึ้น 58% yoy เป็น 766 ไร่ แบ่งเป็นไทย 619 ไร่ และเวียดนาม 147 ไร่ ฝ่ายวิเคราะห์ฯจึงประมาณการยอดขายในปี 67 อยู่ที่ 1,285 ไร่ เพิ่มขึ้น 63% yoy ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า AMATA มียอด backlog สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/67 ซึ่งแบ่งเป็น backlog ในไทย 1.76 หมื่นล้านบาทและในเวียดนามอีก 1.8 พันล้านบาท โดย backlog ในไทยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/67 จนถึงปี 68 ส่วน backlog ในเวียดนามจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 69 จึงคาดว่าไตรมาส 4/67 จะเป็นไตรมาสที่ AMATA ทำกำไรสุทธิได้สูงสุดในปีนี้ จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เพิ่มขึ้นทั้งในไทยและเวียดนาม รวมทั้งรายได้ประจำจากธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและธุรกิจเช่า ยังคงประมาณการ EPS ในปี 67-69 รวมถึงราคาเป้าหมายตามที่ 33 บาท ซึ่งเท่ากับ P/E 12.6 เท่าในปี 68 หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ยในอดีตห้าปี แนะนำ “ซื้อ” AMATA เพราะมองว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งและ AMATA มีแนวโน้มทำกำไรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ส่วนปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นคือยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและ GPM จากการขายที่ดินที่สูงกว่าคาด แต่จะมี downside risk หากรัฐบาลเวียดนามส่งมอบที่ดินล่าช้าและไทยขาดเสถียรภาพทางการเมือง

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

AMATA โบรกฯมองสดใส รับเต็มบริษัทใหญ่ – อานิสงค์สงครามการค้า

AMATA โบรกฯมองสดใส รับเต็มบริษัทใหญ่ – อานิสงค์สงครามการค้า

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน จากบทวิเคราะห์ของ บล.เอเชียพลัส วิเคราะห์หุ้น AMATA ประเมินว่าจาก GDS International บริษัท Data Center ชั้นนำในเอเชีย เข้าลงทุนในโครงการ อมตะนคร (ชลบุรี 1) ขนาด 72ไร่ โดยคาดว่าจะรับรู้เข้ามาเป็น pre-sales ในงวด Q4/67 นี้ได้ทันที แม้ขนาดโครงการ 72ไร่อาจเป็นเพียง size ขนาดปานกลางที่ไม่ ใหญ่มากนัก แต่พื้นที่นิคมฯ อมตะนคร (ชลบุรี 1) มีราคาขายและ gross margin ระดับสูงมาก ที่ราวๆ ไร่ละ 11 –12 ล้านบาท และ gross margin 65 –70% การเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ ที่ Donald Trump สามารถหวนคืนสู่ทำเนียบขาวได้ เป็นสมัยที่ 2 ทั้งนี้ นโยบายของพรรค REPUBLICAN ที่จะมีการเก็บภาษีจากสินค้า ประเทศจีน (Trade War สหรัฐ-จีน) การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทั่วโลกส่งผลให้ ให้สงครามการค้าจีน-สหรัฐ (TRADE WAR) กลับมาปะทุร้อนแรงอีกครั้ง และจะส่ง ผลบวกต่อหุ้นนิคมฯ อย่าง AMATA โดย  AMATA จะประกาศงบในวันที่ 14 พ.ย. นี้ ช่วงเย็นซึ่งคาดว่าจะออกมาดีทั้ง QoQ และ YoY รวมถึงมี sentiment หนุนเพิ่มเติม เช่น Nvidia, Equinix วิจัยประเมิน มูลค่าเหมาะสม โดยอิง Historical PER 10 ปีย้อนหลัง ปรับเพิ่มขึ้น 0.5 S.D อยู่ที่ 17 เท่า ได้ราคาเหมาะสม 31.25 บาท ให้คำแนะนำการลงทุนที่ outperform