#ADVANC


ADVANC – TRUE ในสนาม ICT ไทย  โบรกมองแข่งกันไม่ดุ ลงทุนต่ำ กำไรเพิ่ม

ADVANC – TRUE ในสนาม ICT ไทย โบรกมองแข่งกันไม่ดุ ลงทุนต่ำ กำไรเพิ่ม

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.เคจีไอ อัปเดตอุตสาหกรรม ICT Sector ระบุ วัฏจักรเชิงบวกหนุนพรีเมียม valuation การประมูลคลื่นความถี่อาจเสี่ยงต่อคำแนะนำของบล.ในการ re-rating กลุ่ม ICT ปี 2568 คาดว่าการประมูลคลื่นความถี่จะเกิดขึ้นใน 1H68 โดยไม่เกิดสงครามราคา           เพราะจุดสำคัญคือการให้บริการเครือข่ายดีต่อเนื่อง ขณะที่ True Corporation (TRUE.BK/TRUE TB) และ Advanced Info Service (ADVANC.BK/ADVANC TB)* ดูเหมือนจะไม่สนใจคลื่น 850MHz แต่จะมุ่งเน้นที่คลื่น 2300MHz และ 1800MHz ตามลำดับ           ในปี 2568 TRUE คาดว่าจะประหยัดค่าเช่าคลื่นความถี่ได้ 4-5 พันล้านบาทต่อปีจากคลื่น 850MHz และ 2300MHz หมดอายุ โดยเหลือเพียงคลื่น 2300MHz ส่วน ADVANC อาจประหยัดได้ ~1-1.5 พันล้านบาทต่อปีจากการแทนที่การเช่าคลื่น 2100MHz จาก NT ด้วยคลื่น 1800MHz Guidance ปี 2568 เป็นบวกต่อ           คาดว่า TRUE และ ADVANC จะให้ guidance ปี 2568 ด้านการเติบโต EBITDA และรายได้การให้บริการเป็นเลขหลักเดียว ด้วยงบลงทุน (CAPEX) ที่ต่ำลง (ไม่รวมค่าประมูลคลื่นฯ) ขณะที่แรงผลักดันรายได้ ด้วยการให้บริการมือถือเติบโตเล็กน้อย (1-3%) พร้อมกับ fixed broadband (FBB) เติบโตปานกลาง (>5%) การรับรู้ synergy ชัดเจนขึ้น และการประหยัดรายจ่ายจากการหมดอายุของคลื่นความถี่ เช่น คลื่น 850MHz และ 2300MHz ของ TRUE ใน 1Q68           โดย ADVANC อาจทำให้นักลงทุนดีใจด้วยเงินปันผลระหว่างกาล 2H67 ที่สูงกว่าคาด ขณะที่ TRUE อาจพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ ผู้แข่งขันในตลาดสองรายและศักยภาพการเติบโตกลุ่ม ICT ของไทย           กลุ่ม ICT ของไทยกำลังอยู่ในช่วงของผู้แข่งขันในตลาดเพียงสองราย ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรผ่านการแข่งขันที่ลดลงและงบลงทุนต่ำลง โดยมี EBITDA margin คาดเพิ่มมาอยู่ที่ 50-60%           ขณะที่วัฏจักรขาขึ้นนี้อยู่ในช่วงของการขยายตัวและการแข่งขันลดลง ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการเติบโตแข็งแกร่งสำหรับ TRUE และ ADVANC ขณะที่ valuation ของกลุ่มอยู่ในระดับสูง แต่ทั้งสองบริษัทมี upside เพิ่มได้อีก และยอมรับได้จากการปรับ EPS ขึ้นต่อเนื่อง           EBITDA margin ดีขึ้นและเกิดแหล่งรายได้ใหม่จากศูนย์ข้อมูล           ทั้งนี้ TRUE มีช่องทางในการเพิ่ม ARPU มากขึ้น จะได้รับประโยชน์จาก synergy จากการควบรวมกิจการล่าสุดและรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือดีขึ้น รวมถึง iPhone16 ด้วย กำไรกลุ่ม ICT ปี 2568F จะเพิ่มขึ้น 17% YoY หลังจากพุ่งขึ้น 231% YoY ในปี 2567F           TRUE จะมีสัดส่วนของการเติบโตของกลุ่ม ICT สูงถึง 63% ในปี 2568F พร้อมกับการพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ           ขณะที่กำไรหลักของกลุ่ม ICT ปี 2567F/2568F ของบล.สูงกว่า consensus ราว 5%/2%           ทั้งนี้ ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568 น่าจะมาจากการเพิ่มขึ้นของ ARPUs ต้นทุนที่เหมาะสม และการ synergy กับ DTAC (สำหรับ TRUE) และ TTTBB (สำหรับ ADVANC)           อย่างไรก็ดี คาดกำไรปีนี้จะสูงสุดใน 4Q67 และเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ Valuation and action           คงให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มนี้ “เท่ากับตลาดฯ” โดยเลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นช่วง 1Q68 เนื่องจากคาดเห็นแรงเก็งกำไรจากเรื่อง gain on bargain purchase ในระหว่างการแปลงร่างของ NewCo, upside จากการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ในปี 2568 และอาจจ่ายเงินปันผลสูงขึ้น           ส่วน TRUE ก็ยังชอบเช่นกันด้วย reward/risk ที่น่าสนใจ มีโอกาสในการเพิ่มอัตรากำไรและ synergy ที่มาเร็วและมากกว่า ADVANC           ทั้งนี้ ความเสี่ยงด้านลบคือคดีความที่ศาลของ TRUE และ ADVANC รวมถึงต้นทุนการควบรวมสูง

KSS คาด SET วันนี้ Side way up ชี้ต้าน 1.470 จุด แนะ ADVANC, MTC, IVL

KSS คาด SET วันนี้ Side way up ชี้ต้าน 1.470 จุด แนะ ADVANC, MTC, IVL

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “Sideways/Up” ต้าน 1465/1470 จุด รับ 1446/1443 จุด ดัชนี S&P500 +0.1% ทะลุ 6,000 จุดเป็นครั้งแรก กลุ่มนำคือ หุ้น Trump Plays ที่ยังมีโมเมนตัมบวก ส่วนปัจจัยมหภาคคาดตลาดรอติดตามรายงานเศรษฐกิจเงินเฟ้อ CPI ต.ค.          พรุ่งนี้ (13 พ.ย.) ด้าน Asia เริ่มเห็นผลบวกการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนต่อรายงานเศรษฐกิจ อาทิ ยอดขายบ้านเมืองใหญ่ ยอดขายปลีกรถยนต์ ต.ค. +7%y-y ฝ่ายวิเคราะห์มองน่าจะช่วยบรรเทาความผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดที่เน้นเฉพาะหนี้ท้องถิ่นได้บ้าง บ่งชี้จากตลาด หุ้นจีนฟื้นช่วงท้ายวานนี้          ส่วนภายในยังเป็นช่วงโค้งสุดท้ายงบ 3Q24 แม้ปัจจุบันรายงานแล้ว 218 บริษัท จะยังต่ำกว่าคาด -21% แต่เริ่มดีขึ้นจากวานนี้ที่ -22.5% หลังหุ้นอิงภายในทยอยรายงานเพิ่มขึ้น          ขณะที่ Outlook ภาคบริการบวก ผู้ใช้บริการสนามบิน AOT เดินทาง ตปท. (ชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ) 1-9 พ.ย. สูง 105.4% vs นักท่องเที่ยว 10M24 ที่ 88.3% ของ Pre-Covid สะท้อนภาพฤดูกาลและโอกาสเห็น Upside นักท่องเที่ยวปี 2025F ที่ตลาดมองระดับ Pre-Covid          มองหุ้นนำวันนี้ China Plays, หุ้นอิงภาคบริการ และหุ้นดอกเบี้ยขาลงหนุน วันนี้แนะ ADVANC, MTC, IVL

บล.กรุงศรี คาด SET แกว่งในกรอบ ต้าน 1476 จุด จับตาปัจจัยนอก แนะ ADVANC, AOT, CPALL

บล.กรุงศรี คาด SET แกว่งในกรอบ ต้าน 1476 จุด จับตาปัจจัยนอก แนะ ADVANC, AOT, CPALL

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “แกว่งในกรอบ” ต้าน 1473/1476 จุด รับ 1455/1446 จุด ต่างประเทศรอ 3 ประเด็นคือการเลือกตั้งสหรัฐ 5 พ.ย. (รู้ผลราว 6 พ.ย. เป็นต้นไป) อิงจากสถิติหลังการเลือกตั้งสหรัฐ 2 รอบก่อนหน้า เดือน พ.ย. - ธ.ค. SET ให้ผลตอนเป็นบวก            การประชุม NPC ของจีนลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ประชุมต่อเนื่องถึงวันที่ 8 พ.ย.) และ 6-7 พ.ย. ประชุม Fed (รู้ผลเช้าวันที่ 8 พ.ย.) คาดลดดอกเบี้ยฯ 25 bps ส่วนภายในภาพทางพื้นฐานยังบวก ตัวเลขยอดผู้ใช้บริการสนามบิน AOT (ชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ)ในช่วงวันที่ 1 – 2พ.ย. 2024 ปรับขึ้นทะลุ Pre – covid ที่ระดับ 103.6% ผสานกับรัฐบาลนายกฯ เมื่อวานเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตาม เป้าหมายที่ 80% ของงบลงทุนทั้งหมดที่ 9.6 แสนล้านบาท โดยรวมประเมิน GDP Growth ไทยปี 2024 คาด 2.4%y-y มี Upside มองบวกต่อ            SET โดยประเด็นที่ต้องตามวันนี้ เงินเฟ้อไทย เดือน ต.ค. ตลาดคาด 0.96% และประชุม ครม. ลุ้น มาตรการกระตุ้นฝั่งอสังหา ประเมินหุ้นพลังงาน ( น้ำมันบวกแรง 2%) หุ้น China play กลุ่มอสังหา, หุ้นอิงบริการ(สนามบิน, โรงแรม) วันนี้แนะ ADVANC, AOT, CPALL

วิเคราะห์ ADVANC ไตรมาส4 high season ท่องเที่ยวหนุน

วิเคราะห์ ADVANC ไตรมาส4 high season ท่องเที่ยวหนุน

          หุ้นวิชั่น - บล. ดาโอ คำแนะนำ “ซื้อ” ADVANC และราคาเป้าหมาย 290.00 บาท อิง DCF (WACC 8.7%, Terminal growth 2%) ทั้งนี้บริษัทมีกำไรปกติ 3Q24 อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท (+11% YoY, ทรงตัว QoQ) ใกล้เคียงตลาดประเมิน โดยรายได้จากบริการหลักอยู่ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท (+20% YoY, +1% QoQ) Mobile ARPU อยู่ที่ 223 บาท (+3% YoY, -1% QoQ) และ Net add 6.1 แสน subs ในขณะที่ FBB ARPU อยู่ที่ 505 บาท (+18% YoY, +1% QoQ) และ Net add ราว 6.3 หมื่น subs การแข่งขันยังคงผ่อนคลาย ในขณะที่ต้นทุนบริการหลัก (+14% YoY, ทรงตัว QoQ) เพิ่มขึ้น YoY จากการรวม TTTBB ส่วน SG&A +49% YoY, +12% QoQ จากค่าใช้จ่ายพนักงานหลังควบรวม TTTBB และค่าการตลาดที่กลับมาเร่งตัวอีกครั้ง เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2024E ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท (+12% YoY) มีโอกาสสูงที่กำไรปี 2024E จะมี upside โดยแนวโน้ม 4Q24E คาดกำไรเติบโตได้ QoQ จากการเข้า high season ของการท่องเที่ยว           อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นการเร่งตัวของค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางการตลาด ทำให้การเติบโต QoQ อาจไม่โดดเด่นมากนัก และทำให้ upside ต่อประมาณการของเรายังจำกัด ในขณะที่ประมาณการกำไรปกติปี 2025E มีโอกาสเกิด upside เช่นกัน อย่างไรก็ตามรอดูสถานการณ์ใน 4Q24E รวมถึง guidance ของบริษัทอีกครั้งก่อนปรับประมาณการขึ้น ราคาหุ้นกลับมาเคลื่อนไหวใกล้เคียง SET ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลัง outperform จากประเด็นการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการของ GULF+INTUCH อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาหุ้นยังสามารถ outperform ได้ต่อจากภาพระยะยาวการแข่งขันที่ลดลงและการใช้งาน 5G มากขึ้นหนุน ARPU ทำให้กำไรกลับมาเติบโตต่อเนื่องรวมถึงทิศทางดอกเบี้ยขาลงในช่วง 2H24E คาดทำให้หุ้นกลุ่ม tech/ICT กลับมา perform ได้ดีขึ้น           Event: 3Q24 results review 3Q24 กำไรเติบโต YoY – ARPU และ Subs ยังคงเพิ่มขึ้น บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 8.8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามหากตัดรายการพิเศษออก (Fx) กำไรปกติอยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท (+11% YoY, ทรงตัว QoQ) ใกล้เคียงตลาดประเมิน แต่ดีกว่าเราคาด +10% (seasonal impact และผลกระทบน้ำท่วมมีน้อยกว่าคาด) ทั้งนี้รายได้จากบริการหลักอยู่ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท (+20% YoY, +1% QoQ) Mobile ARPU อยู่ที่ 223 บาท (+3% YoY, -1% QoQ) และ Net add 6.1 แสน subs ในขณะที่ FBB ARPU อยู่ที่ 505 บาท (+18% YoY, +1% QoQ) และ Net add ราว 6.3 หมื่น subs ในขณะที่ต้นทุนบริการหลัก (+14% YoY, ทรงตัว QoQ) เพิ่มขึ้น YoY จากการรวม TTTBB ส่วน QoQ แม้ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นแต่ได้รับชดเชยจาก network opex (ค่าซ่อมบำรุง) ที่ลดลง ในขณะที่ SG&A +49% YoY, +12% QoQ จากค่าใช้จ่ายพนักงานหลังควบรวม TTTBB และค่าการตลาดที่กลับมาเร่งตัวอีกครั้ง           Implication กำไรปกติปี 2024E-25E มี upside อย่างไรก็ตามรอดูสถานการณ์ใน 4Q24E ก่อนปรับประมาณการขึ้น เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2024E ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท (+12% YoY) สำหรับกำไรปกติ 9M24 คิดเป็น 78% ของประมาณการดังกล่าว มีโอกาสสูงมากที่กำไรปี 2024E จะมี upside โดยแนวโน้ม 4Q24E คาดกำไรเติบโตได้ QoQ จากการเข้า high season ของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นการเร่งตัวของค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางการตลาด ทำให้การเติบโต QoQ อาจไม่โดดเด่นมากนัก และทำให้ upside ต่อประมาณการของเรายังจำกัด ในขณะที่ประมาณการกำไรปกติปี 2025E มีโอกาสเกิด upside เช่นกัน อย่างไรก็ตามรอดูสถานการณ์ใน 4Q24E รวมถึง guidance ของบริษัทอีกครั้งก่อนปรับประมาณการขึ้น

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

บล.กรุงศรี คาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวในกรอบ แนวต้าน 1476 จุด แนะ ADVANC, BBIK, IVL

บล.กรุงศรี คาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวในกรอบ แนวต้าน 1476 จุด แนะ ADVANC, BBIK, IVL

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) KSS Daily Strategy คาด SET วันนี้ “แกว่งในกรอบ” ต้าน 1470/1476 จุด รับ 1455/1446 จุด วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐRebound นำโดย Tech และความเชื่อมั่นต่อดอกเบี้ยสหรัฐขาลง โดย MUFG และตลาดคาดประชุม Fed 6-7 พ.ย. จะลดดอกเบี้ย 25 bps สู่4.75% หลังจากตัวเลขตลาดแรงงาน Nonfarm payrolls +1.2 หมื่นราย ต่ำคาดมาก แม้เป็นผลชั่วคราวจากผลกระทบพายุเฮอริเคน ผสานฝั่งภาคผลิต PMI < 50 จุด            สัปดาห์นี้ ปัจจัยหลักที่ต้องตามคือการเลือกตั้งสหรัฐคาดความผันผวนจะลดลง และลุ้นมาตรการกระตุ้นจกาประชุม NPC ของจีน            ภายในปัจจัยเศรษฐกิจไทยชี้ไปทางบวกต่อตลาดหุ้น อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ 3 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นสู่ 58.4 สูงสุดในรอบ 6 เดือน ผสาน BOI อนุมัติส่งเสริมการลงทุน Data Center 2 โครงการใหญ่มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท และวันพรุ่งนี้รัฐบาลคาดจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฝั่งอสังหา(+บริโภค ท่องเที่ยว ลงทุน)            โดยรวมประเมิน GDP Growth ไทยปี 2024 คาด 2.4%y-y มี Upside มองบวกต่อ SET ประเมินหุ้นนำหุ้นธีม Infra Tech, หุ้น Domestic, หุ้นงบ 3Q24 ดี หุ้นChina play  วันนี้แนะ ADVANC, BBIK, IVL

ADVANC กำไร Q3/67 แตะ 8.78 พันล้านบาท คาดรายได้ปีนี้โต 13-15% งบลงทุน 2.5-2.6 หมื่นล้าน

ADVANC กำไร Q3/67 แตะ 8.78 พันล้านบาท คาดรายได้ปีนี้โต 13-15% งบลงทุน 2.5-2.6 หมื่นล้าน

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า เอไอเอสมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ในไตรมาส 3/2567 ที่ 27,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปีก่อน เร่งตัวขึ้นจากการรับรู้ EBITDA ของ TTTBB ร่วมกับการเติบโตของธุรกิจหลัก ขณะที่ทรงตัวร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้ อัตรากำไร EBITDA (EBITDA Margin) อยู่ที่ร้อยละ 53 จากการมุ่งเน้นรายได้ที่สร้างกำไร การบริหารจัดการต้นทุน และการยกระดับอัตรากำไรของยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 เอไอเอสรายงานกำไรสุทธิที่ 8,788 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน สอดคล้องกับผลดำเนินงานที่ดีขึ้น และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คงแนวโน้มการเติบโตจากความต้องการใช้งานข้อมูลและการมุ่งเน้นคุณภาพ รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 30,962 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลที่เติบโต ส่งผลให้ปริมาณการใช้งานข้อมูลสูงขึ้น ร่วมกับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว จำนวนผู้ใช้บริการเติบโตขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ภายในประเทศ โดยบริษัทมีกลยุทธ์มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ และให้ความสำคัญกับคุณภาพโครงข่าย สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) ยังเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนภาพการบริโภคข้อมูลที่สูงขึ้นและกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการส่งมอบมูลค่าให้กับลูกค้าเป็นหลัก เอไอเอสมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพบริการเพื่อตอบรับพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากบรรลุเป้าหมายโครงข่าย 5G ครอบคลุมประชากรกว่า 95% ทั่วประเทศ เอไอเอสยังคงเดินหน้าขยายโครงข่ายในพื้นที่ที่มีการใช้งานสูง เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปัจจุบัน เอไอเอสมีผู้ใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นเป็น 11.5 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของฐานผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากขนาดธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นและบริการมูลค่าเพิ่ม รายได้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอยู่ที่ 7,437 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งร้อยละ 146 เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโตร้อยละ 2.1 จากไตรมาสก่อน การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากการขยายฐานผู้ใช้ที่เน้นคุณภาพ โดยใช้โครงข่ายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทั้งเพิ่ม ARPU ผ่านกลยุทธ์การขายพ่วงด้วยบริการเสริมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง อาทิ สมาร์ทโฮมโซลูชันในกระบวนการควบรวมกับ TTTBB เอไอเอสให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพการบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดี พร้อมยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บริการลูกค้าองค์กรเติบโตจากความชัดเจนทางเศรษฐกิจและสอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี รายได้บริการลูกค้าองค์กร (ไม่รวมโทรศัพท์เคลื่อนที่) อยู่ที่ 1,821 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และความต้องการของภาคธุรกิจในการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล ซึ่งก่อให้เกิดความต้องการในการเชื่อมต่อสื่อสารในรูปแบบโครงข่ายข้อมูล (EDS) และคลาวด์ ทั้งนี้ รายได้บริการลูกค้าองค์กรยังเติบโตจากไตรมาสก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ ร่วมกับการปิดการขายโครงการคลาวด์ขนาดใหญ่เอไอเอสยังคงมุ่งเน้นบริการพื้นฐานในการเชื่อมต่อข้อมูล (Connectivity) สำหรับลูกค้าองค์กร โดยสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเพิ่มผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง สภาวะการตลาดและการแข่งขัน ในไตรมาส 3/2567 ประเทศไทยเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากเสถียรภาพในสถานการณ์การเมือง ซึ่งส่งผลดีต่อความชัดเจนของทิศทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่เริ่มกลับมา ปัจจัยเหล่านี้ช่วยลดแรงกดดันจากปัจจัยฤดูกาลและผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมทั้งกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคและบรรเทาความกังวลในระบบเศรษฐกิจในระยะสั้น อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงรักษาแนวโน้มเชิงบวก แม้เผชิญกับปัจจัยฤดูกาล โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้ข้อมูลที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อบริการระบบเติมเงิน ในด้านการแข่งขันยังคงเน้นการนำเสนอแพ็กเกจเพิ่มมูลค่าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เพื่อสร้างการเติบโตของ ARPU นอกจากนี้ ตลาดอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้เผชิญกับความท้าทายในช่วงฤดูฝน โดยจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่ายไฟเบอร์ไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบ้านต่อครัวเรือนไทยที่ยังต่ำกว่าร้อยละ 50 ในด้าน ARPU มีการเติบโตจากกลยุทธ์การขายพ่วง (Cross-sell & Upsell) บริการมูลค่าเพิ่ม และสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความเร็วและความเสถียร พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การใช้งานด้วยบริการคอนเทนต์และอุปกรณ์ IoT การให้บริการลูกค้าองค์กรเริ่มเห็นการฟื้นตัวจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายงบประมาณทั้งจากภาครัฐและเอกชน ในด้านเทคโนโลยี บริการเชื่อมต่อโครงข่าย (EDS) และบริการคลาวด์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล นอกจากนี้ ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยยังส่งผลต่อความต้องการการเชื่อมต่อข้อมูลที่สูงขึ้น และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล มุมมองของผู้บริหารต่อแนวโน้มในปี 2567 และผลประกอบการรอบ 9 เดือนของปี 2567 คาดการณ์รายได้การให้บริการหลักเติบโตที่ระดับร้อยละ 13 ถึง 15 ผลประกอบการรอบ 9 เดือนของปี 2567 เติบโตมากกว่าการคาดการณ์ โดยได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่มีปัจจัยเชิงบวกมากขึ้นในไตรมาส 3/2567 ขณะที่ผลกระทบจากปัจจัยตามฤดูกาลปกติลดลงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เอไอเอสยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะรักษาแนวโน้มการเติบโตของรายได้การให้บริการหลักอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 การเติบโตจะยังคงเกิดจากการเข้าซื้อกิจการ TTTBB และการสร้างการเติบโตจากธุรกิจเดิม ร่วมกับการฟื้นตัวของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ ทั้งนี้ เอไอเอสยังมุ่งเน้นสร้างการเติบโตด้วยการนำเสนอบริการแบบหลอมรวม (convergence) ระหว่างบริการหลักด้านต่างๆ ร่วมกับใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์กับลูกค้า และการยกระดับคุณค่าที่ผู้ใช้บริการจะได้รับผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง โทรศัพท์เคลื่อนที่: มุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำด้านคุณภาพและความครอบคลุมของโครงข่าย การนำเสนอสินค้าและบริการที่เฉพาะเจาะจงแก่ผู้ใช้บริการเฉพาะกลุ่ม และยกระดับคุณค่าของบริการผ่านปัจจัยต่างๆ เช่น 5G บริการแบบหลอมรวม และระบบนิเวศสิทธิประโยชน์ เพื่อส่งมอบบริการดิจิทัลเหนือระดับแก่ผู้ใช้บริการ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง: เติบโตด้วยการรับรู้รายได้จาก TTTBB ร่วมกับรักษาแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้บริการที่ขยายตัวขึ้นและโครงข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศจากการรวมกันระหว่างเอไอเอสและ TTTBB พร้อมการนำเสนอสินค้าด้วยจุดเด่นด้านนวัตกรรมและคุณภาพการให้บริการที่เหนือกว่าเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่มากกว่าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบทั่วไป เอไอเอสให้ความสำคัญไปที่กระบวนการบูรณาการการทำงานระหว่างเอไอเอสและ TTTBB เข้าด้วยกัน เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานและสร้างประโยชน์ทั้งในเชิงรายได้และต้นทุน (Synergies) บริการลูกค้าองค์กร: มุ่งเน้นการเติบโตที่สร้างผลตอบแทนสูงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รับประโยชน์จากการพัฒนาของสภาพเศรษฐกิจ-สังคม โดยใช้ประโยชน์จากบริการการเชื่อมต่อสื่อสาร บริการเทคโนโลยีดิจิทัลที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และการสร้างความแตกต่างด้วยแพลตฟอร์มบนเทคโนโลยี 5G (5G Paragon Platform) EBITDA เติบโตประมาณร้อยละ 14 ถึง 16 จากการมุ่งเน้นที่ความสามารถในการทำกำไร เช่นเดียวกับรายได้การให้บริการหลัก กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่มีปัจจัยเชิงบวกมากขึ้น โดยค่าใช้จ่ายคาดว่าจะถูกจัดสรรเพื่อการรักษาสถานะผู้นำตลาด และเพื่อยกระดับความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตต่อไปในอนาคต เอไอเอสยังคงตั้งเป้าบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับการเร่งรับรู้ประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการ TTTBB เพื่อสร้างประโยชน์ด้านต้นทุน ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พัฒนาการส่งมอบบริการและสร้างประสบการณ์ของลูกค้า เอไอเอสตั้งเป้าพัฒนารากฐานที่สำคัญในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ระบบไอที โครงข่าย การวิเคราะห์ข้อมูล และทรัพยากรบุคคล นอกจากนี้ เอไอเอสมุ่งเน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ตั้งเป้างบลงทุนระหว่าง 25,000 ถึง 26,000 ล้านบาท เพื่อรักษาคุณภาพภายใต้ความเหมาะสม เอไอเอสคาดการณ์งบลงทุนที่ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากการเร่งลงทุนโครงข่าย 5G สำหรับคลื่นความถี่ 700MHz ในปี 2566 การใช้ประโยชน์จากโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่กว้างขึ้นของ TTTBB การใช้จ่ายงบลงทุนอย่างเหมาะสมสอดคล้องไปกับความตั้งใจของบริษัทที่ต้องการรักษาลูกค้าคุณภาพสูงผ่านการคงสถานะการเป็นผู้นำด้านโครงข่าย ในขณะที่ยังมุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากการเข้าสู่พื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ผ่านการใช้งบลงทุนร่วมเพื่อให้เกิดประโยชน์และประสิทธิผลทางการเงินมากขึ้น (CAPEX synergy) จากการผนึกกำลังของโครงข่ายระหว่างเอไอเอสและ TTTBB โดยสรุป เอไอเอสคาดการณ์สัดส่วนงบลงทุนสำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ร้อยละ 60 ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านร้อยละ 28 และส่วนที่เหลือสำหรับธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรและอื่นๆ นโยบายการจ่ายเงินปันผล: จ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิ เอไอเอสมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวและส่งมอบผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง เอไอเอสจึงให้ความสำคัญต่อการรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่งและมีความคล่องตัวเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต นโยบายการจ่ายเงินปันผลจะจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิ โดยนโยบายการจ่ายเงินปันผลนี้จะทำให้เอไอเอสมีกระแสเงินสดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเป็นผู้นำตลาด ความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงพร้อมรับต่อสภาวการณ์ต่างๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลง เอไอเอสยังคงการจ่ายเงินปันผลปีละสองครั้งจากผลการดำเนินงานบริษัทและกำไรสะสมบนงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลในทุกกรณี จะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดและแผนการลงทุน รวมถึงความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคตของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องไม่เกินกำไรสะสมที่ปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท และ/หรือมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานปกติของบริษัทและบริษัทย่อย

5 โบรกคาดการณ์ งบ ADVANC Q3/67

5 โบรกคาดการณ์ งบ ADVANC Q3/67

           5 โบรกคาดการณ์ งบ ADVANC Q3/67 โดยคาดว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC จะประกาศงบวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ สำหรับ 6 เดือน ปี 2567 มีกำไรแล้ว 17,028 ล้านบาท   บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ADVANC ว่า แนะนำซื้อ ADVANC ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 300 บาท (จาก 280 บาท) หลังจากปรับเป้าหมายไปสิ้นปี 2568 ในฐานะหุ้นปันผลที่จะยังคงได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นผลักดันให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 3.8% พร้อมกับ upside จากการปรับกำไรขึ้น เนื่องจากไตรมาส 4 เป็นช่วงพีคสำหรับ ADVANC สำหรับในไตรมาส 3 ปี 2567 คาดกำไรเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาล แม้ ADVANC ยังไม่ปรับกำไรขึ้น แต่กำไรในปี 2567 ยังคาดว่าจะโต 18% ในปีนี้และอีก 6% ในปีหน้า บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ADVANC โอกาสในการลดต้นทุนจากการประมูลคลื่นความถี่ของ กสทช. ครั้งใหม่ กสทช. คาดว่าจะเปิดประมูลคลื่นความถี่ใหม่ในปี 2568 ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ ADVANC ลดต้นทุน ด้วยจำนวนผู้ให้บริการมือถือเพียงสองรายในตลาดหลังการควบรวมกิจการของ TRUE กับ DTAC (TRUE มีคลื่นความถี่จำนวนมาก) การแข่งขันในการประมูลใบอนุญาตใหม่จึงน่าจะไม่รุนแรง ปัจจุบัน ADVANC จ่ายประมาณ 5 พันล้านบาทต่อปีสำหรับคลื่น 2.1GHz ซึ่งจะหมดอายุในปี 2568-2570 (รวมถึงการตัดจำหน่ายมูลค่าคลื่นอีกประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปี และจ่าย 3.9 พันล้านบาทให้ NT สำหรับการใช้คลื่นความถี่ หาก ADVANC ได้รับใบอนุญาต 2.1GHz อายุ 15 ปีใหม่สองใบ (รวมความกว้างคลื่น 60MHz) ในราคาน้อยกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท บริษัทจะสามารถลดต้นทุนได้อย่างมากและยังคงรักษาคุณภาพบริการที่ดี การแข่งขันที่ลดลงในการประมูลจะช่วยให้บริษัทลดการใช้จ่ายในการจัดหาคลื่นใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอีกด้วย บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุถึง ADVANC เป็นหุ้นที่ผลตอบแทนจากปันผลที่จูงใจ โดยคาดปันผลสำหรับปี 2567 ที่ 9.97 บาท  (จ่ายไปแล้วสำหรับ 1H67 4.67 บาท) และปี 2568 ที่ 10.89 บาท หรือคิดเป็น dividend yield สำหรับปี 2567 – 2568 ราว 3.8% - 4.2% ซึ่งถือว่ายังจูงใจ และมี ความน่าสนใจมากขึ้นในช่วงที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาลง โดยที่ผ่านมาราคาหุ้น ADVANC มักเปลี่ยนแปลงตรงข้ามกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ADVANC พื้นฐานที่แข็งแกร่งของ ADVANC ได้รับการเสริมด้วยกระแสเงินทุนไหลเข้าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น อันเนื่องมาจากน้ำหนักที่สูงของหุ้นในดัชนี SET อันดับ ESG ระดับ AAA ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4% และการป้องกันการลดลงจากกองทุนวายุภักษ์ (ตั้งแต่ 1 ต.ค.) นอกจากนี้ เราคาดว่าจะมีเงินไหลเข้า ADVANC จากนักลงทุนของ INTUCH หลังจากการจ่ายเงินปันผลพิเศษ 4.50 บาทต่อหุ้นในครึ่งแรกของปี 2568 บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ADVANC  ยังมั่นใจว่ากำไรทั้งปี 2567 จะสอดคล้องกับประมาณกาที่ 33,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า และน่าจะทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปีได้ และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าอีก 12% จากผลบวก synergy กับธุรกิจ 3BB ที่มีความชัดเจนมากขึ้น และคาดว่าธุรกิจ 3BB จะพลิกกลับมามีกำไรได้ในปีหน้า ซึ่งจะสามารถทยอยนำ Loss Carry Forward ของ 3BB มาลดหย่อนภาษีได้ตามฐานภาษีของ 3BB ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ในปีหน้า จะเห็นพัฒนาการเชิงรุกในธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดย 1Q68 จะเริ่มให้บริการคลาวด์ร่วมกับบริษัทออราเคิล ซึ่งมีฐานลูกค้าองค์กรที่ใช้งานระบบปฏิบัติการฐานข้อมูลอันดับต้น ๆ ของโลกและในประเทศไทย รวมถึงหลัง GULF ควบรวมกับ INTUCH แล้วเสร็จใน 2Q68 จะเห็นพัฒนาเชิงรุกในบริการ Data Center และคลาวด์ร่วมกับ GULF, SINGTEL และพันธมิตรรายอื่น ๆ อาทิ Microsoft และ Google ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

บล.กรุงศรี ชี้กลุ่ม ICT ขาขึ้น โอกาสซื้อ

บล.กรุงศรี ชี้กลุ่ม ICT ขาขึ้น โอกาสซื้อ "ADVANC"

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ยังคงมุมมองเชิงบวกกับกลุ่มจากกำไรและกระแสเงินสดที่ยังเป็นขาขึ้นผลักดันจากรายได้ต่อเลขหมายที่ยังเป็นขาขึ้นอยู่ คาดว่ากำไรของ ADVANC และ TRUE จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq ในช่วงไตรมาส 3/67 แม้ว่าจะเป็นช่วง low season ซึ่งถ้าผลประกอบการออกมาตามคาด           คาดว่า ทั้งฝ่ายวิเคราะห์และตลาดจะมีการปรับประมาณการกำไรของหุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ขึ้น การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นโดยเฉพาะหุ้น ADVANC ถือว่าเป็นโอกาสซื้อ และ TRUE ยังเป็นหุ้น Top Pick

KSS แนะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ชอบ ADVANC, CPALL, TRUE

KSS แนะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ชอบ ADVANC, CPALL, TRUE

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET Index บ่ายนี้จะแกว่งในกรอบ 1,477 -1,490 จุด โดยยังไม่มีปัจจัยหนุนหรือกดดันอะไรใหม่ ปัจจัยสำคัญตลาดจะให้โฟกัสคือ วันพฤหัสบดีนี้ รายละเอียดมาตรการและวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน และการรายงานงบฝั่ง Real sector ที่จะเริ่มทยอยประกาศ อาทิ DELTA, TRUE กลยุทธ์แนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีโดยเฉพาะกลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 3/67 จะออกมาแข็งแกร่ง ( ADVANC, CPALL, TRUE, IVL MOSHI) โดยมี Top Pick บ่ายนี้ คือ ADVANC, CPALL, TRUE

คัดหุ้นปันผลสูง KTB BBL ADVANC HMPRO

คัดหุ้นปันผลสูง KTB BBL ADVANC HMPRO

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัดระบุถึง หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี แนะนำหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL ADVANC HMPRO

abs

Hoonvision

บล.กรุงศรี คาด SET Index บ่ายนี้ผันผวนในกรอบ 1,460-1,475 จุด

บล.กรุงศรี คาด SET Index บ่ายนี้ผันผวนในกรอบ 1,460-1,475 จุด

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET Index บ่ายนี้ผันผวนในกรอบ 1,460-1,475 จุด โมเมนตัมรวมยังเป็นบวก หุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวจะยังเป็นกลุ่มนำตลาด กลุ่ม ICT ยังเด่น กลุ่ม PTT และ PTTEP มีข่าวดี ไทย-กัมพูชาเตรียมเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ค้าปลีกและท่องเที่ยวทยอยสะสมก่อนเข้าสู่ high season โดยมี Top Pick บ่ายนี้ คือ ADVANC, CPALL และ ERW           SET Index ปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,467.61 จุด +10.64 เปลี่ยนแปลง +0.73% ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ หุ้นที่ปรับตัวขึ้นเด่นเป็นหุ้น Big cap มีปัจจัยหนุนเฉพาะ อาทิ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, CCET) ดีมานด์ชิ้นส่วนฯ ยังแกร่ง สะท้อนจากยอดขายของ TSMC ในไต้หวัน และ CCET เพิ่มขึ้นเด่นต่อเนื่อง กลุ่มสื่อสารดักเก็งงบ 3Q24 ผสานกับ INTUCH, GULF มีประเด็นควบรวมกิจการ ประเด็นน่าสนใจ ต่างประเทศ           ไทย-กัมพูชา: Bloomberg รายงานว่า ไทยและกัมพูชาเตรียมเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (OCA) ระหว่างไทยกับกัมพูชาอีกครั้ง เพื่อสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง คาดว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ (10 ล้านล้านบาท) แบ่งเป็นก๊าซธรรมชาติประมาณ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และน้ำมันดิบประมาณ 300 ล้านบาร์เรล เรามองว่าเป็นจิตวิทยาบวกต่อผู้ผลิตและสำรวจฯ ในบ้านเรา คือ PTTEP และ PTT ซึ่งจะเป็น Growth story ในอนาคต ในประเทศ           ความเชื่อมั่น: ม.หอการค้า รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. ปรับลงสู่ระดับ 55.3 จาก 56.5 ในเดือน ส.ค. ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน จากปัญหาน้ำท่วมและสงครามตะวันออกกลางที่ยังยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะพลิกฟื้นตัวในเดือน ต.ค. หลังจากภาครัฐเริ่มแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบาง 1 หมื่นบาทต่อรายไปแล้ว เราคงน้ำหนัก Overweight ต่อกลุ่มค้าปลีกตามเดิม โดย Top Pick คือ CPALL, BJC, และ COM7

นทท.ต่างชาติ โต7.8% แนะนำสะสมหุ้นท่องเที่ยว AOT - ERW - AAV โดดเด่น

นทท.ต่างชาติ โต7.8% แนะนำสะสมหุ้นท่องเที่ยว AOT - ERW - AAV โดดเด่น

          หุ้นวิชั่น- ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานว่า KSS Strategist Comment: TH Tourism Update นักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด (30 ก.ย. -6 ต.ค.) +7.8%w-w ตามผลบวก Golden Week ส่วนระยะถัดไปมองเร่งต่อจากปัจจัยหนุนฤดูกาลท่องเที่ยว ผสาน นักท่องเที่ยวจีนเร่งขึ้นตามสัญญาณ Flight Capacity จีนสู่ไทย แนะนำสะสม AOT, ERW, AAV, CPALL, BJC, ADVANC Key Ideas : นักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด 30 ก.ย. – 6 ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น +7.8%w-w อยู่ที่ 6.38 แสนคน สูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เรามองเป็นผลบวกช่วง Golden Week ทั้งนี้ เราประเมินเป็นจุดเริ่มต้นก่อนฟื้นตัวช่วงปลายปี หนุนจาก การเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต่อเนื่องยาวจากงวด 4Q24 – 1Q25 เริ่มเห็น Upside ของนักท่องเที่ยวจีน โดยปัจจุบันกำลังให้บริการต่อที่นั่ง ต่อ กม. (ASK) ของจีนเดินทางไปต่างประเทศ ณ 7 ต.ค. (หลัง Golden Week) แตะระดับ 75% ของ Pre-COVID ปรับเพิ่มมีนัยฯ 47%y-y นอกจากนี้ ระดับกำลังให้บริการต่อที่นั่ง ต่อ กม. (ASK) ของจีนเดินทางมาไทย ณ 7 ต.ค. สูง 68% ของ Pre-COVID เทียบกับยอดนักท่องเที่ยวจีน 8M24 ที่อยู่เพียง 63% ยิ่งสะท้อนภาพชัดเจน           Strategy: มองโมเมนตัมการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวทยอยชัดเจนขึ้น ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมค่อยๆคลายตัวลง และสถานการณ์ตะวันออกกลางยังเชื่อว่าจำกัดวงระหว่างคู่กรณี เชิงกลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นท่องเที่ยว+ภาคบริการที่คาดฟื้นตัวเด่นช่วงฤดูกาลต่อเนื่อง เน้น AOT(TP Con-68.9) ERW (TP Con-5.3) AAV (TP-2.86) CPALL (TP-77) BJC(TP-30) ADVANC (TP-300)

GULF ฉลุยควบ INTUCH จับตาหนุนธุรกิจโตแกร่ง

GULF ฉลุยควบ INTUCH จับตาหนุนธุรกิจโตแกร่ง

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา GULF ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) เพื่อพิจารณาการควบรวมกิจการกับ INTUCH โดยผลการลงคะแนนเสียงแสดงให้เห็นว่ามีผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.9931 หรือประมาณ 10,497 ล้านเสียงที่สนับสนุนการควบรวม ขณะที่มีเพียง 0.0068% หรือ 715,100 เสียงที่ไม่เห็นด้วย เรามีมุมมองบวกจากค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านไม่เป็นสาระสำคัญและไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท           Our view: การซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านไม่เป็นสาระสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามพรบ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 GULF จะต้องเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในราคาตลาดในวันที่ทำการสุดท้ายก่อนการประชุม ซึ่งในกรณีนี้คือราคาปิดในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 หรือ 56.50 บาท ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านอยู่ที่เพียง 40.4 ล้านบาท หรือ 0.0085% ของสินทรัพย์รวมของ GULF ณ สิ้นมิ.ย. 2567 เท่านั้น เราจึงมีมุมมองบวกต่อ GULF ที่จะทำให้การควบรวมกิจการกับ INTUCH ไปสู่ขั้นตอนต่อไปได้           สำหรับขั้นตอนต่อไป GULF และ INTUCH จะดำเนินการส่งหนังสือแจ้งเจ้าหนี้ของ GULF และ INTUCH ภายใน 14 วัน หลังวัน EGM และให้ส่งคำคัดค้านภายในสองเดือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้งมติ และเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนการทำธุรกรรมการทำ VTO ใน ADVANC และ THCOM สำเร็จครบถ้วน (หรือได้รับการผ่อนผัน) โดยเงื่อนไขที่สำคัญคือการขอ consent จากเจ้าหนี้ของทั้งสองบริษัท รวมถึงการขอ consent จาก third party ของบริษัทในกลุ่ม และการจัดหาเงินทุนสำหรับ VTO จึงจะเริ่มทำ VTO ของ ADVANC และ THCOM ในช่วง 4Q24-1Q25 นอกจากนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ผู้รับซื้อหุ้นของ GULF และ INTUCH จากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน (หรืออาจจะดำเนินการก่อนช่วง VTO) โดยราคารับซื้อหุ้น GULF จะอยู่ที่ 56.50 บาท และ INTUCH อยู่ที่ 91 บาท (ราคารับซื้อเดิมของ GULF คือ 45 บาท และ INTUCH คือ 76 บาท ทั้งนี้จากราคา หุ้นที่เกินกว่าที่กำหนดจะเป็นดุลพินิจของผู้รับซื้อหุ้นว่าจะรับซื้อหรือไม่ หากไม่รับซื้อ ทั้ง GULF และ INTUCH ต้องหาผู้มารับซื้อใหม่)           Consensus ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 57.3 บาท แนะนำซื้อ GULF เทรดอยู่ที่ premium เทียบกับคู่แข่ง โดยจากข้อมูล consensus คือเทรดอยู่ที่ 2024F PBV ที่ 5 เท่า PER ที่ 36 เท่า และมี ROE สูงอยู่ที่ 12% เรามองการประเมินมูลค่าเหมาะสมได้รับการสนับสนุนจากกลยุทธ์ของบริษัทที่จะมีการเติบโตทั้งในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และในธุรกิจโทรคมนาคมผ่าน INTUCH, ADVANC และ THCOM หลังการควบรวมกิจการ

โบรกแนะซื้อ

โบรกแนะซื้อ "INTUCH" มองบวกหากควบรวม ADVANC - GULF

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี ระบุว่า ราคาหุ้น INTUCH พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงแนะนำให้ซื้อ INTUCH ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 98 บาทเป็น 105 บาท (อิงจาก discount NAV ราว 5% ของ ADVANC) เพื่อสะท้อนราคาเป้าหมายที่สูงขึ้น สำหรับ ADVANC การลงทุนใน INTUCH ที่ราคาปัจจุบันสะท้อนถึง EPS ที่เติบโตโดดเด่นในไตรมาส 3 ปี 2567 (พร้อมกับแนวโน้มการปรับประมาณการขึ้น) เช่นเดียวกับเงินปันผลอย่างน้อย 6 บาท หากบริษัทได้รับการอนุมัติในการควบรวมกับ GULF ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ ณ ราคาปัจจุบัน ผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ระดับ 6.4% คาดกำไร 3Q67 อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% yoy แต่ทรงตัว qoq           ปัจจัยหนุนจากผลดำเนินงานของ ADVANC เนื่องจาก INTUCH มีธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจเพียงไม่กี่รายการในพอร์ตโฟลิโอ เราคาดว่า ADVANC จะมีกำไร 3.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งถือว่าแข็งแกร่ง เนื่องจากกำไรโดยปกติจะอ่อนตัวลงตามฤดูกาลในไตรมาส 3 โดยลดลง 5-10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปีนี้ผลกระทบตามฤดูกาลจะน้อยลง เนื่องจาก ARPU ที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการแข่งขันที่ลดลง (ดูรายละเอียดในคาดการณ์ผลประกอบการ ADVANC 30/09/2567) มีแนวโน้มปรับกำไรปี 2567 ขึ้นจาก 13.5 พันล้านบาท จากแนวโน้มกำไรของ ADVANC           กำไร 9 เดือนแรกอยู่ที่ 75% ของการคาดการณ์กำไรทั้งปี มี upside risk ต่อการประมาณการของเรา เนื่องจากเราคาดหวังกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นจาก ADVANC ในไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นช่วง High season เราคงประมาณการเติบโตของกำไร 16% สำหรับปี 2567 และ 6% สำหรับปี 2568 เราคาดว่า INTUCH จะประกาศเงินปันผลอีกสองครั้งในปีนี้ - เงินปันผลพิเศษ 4 บาท ตามการอนุมัติให้ควบรวมกับ GULF ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ (3 ตุลาคม 2567) และ 2 บาทสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2567 แนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 105 บาท จาก 98 บาท           ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 105 บาท (จาก 98 บาท) จากการปรับราคาเป้าหมายของ ADVANC เรามีมุมมองเชิงบวกหากมีการอนุมัติการควบรวมกิจการ โดยจะได้ประโยชน์จากผลดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับเงินปันผลพิเศษ 6 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินปันผลราว 6%

“โกลเบล็ก” คัดหุ้นธีมลงทุน Data Center

“โกลเบล็ก” คัดหุ้นธีมลงทุน Data Center

          กรุงเทพฯ - บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทย Sideway Up จากแรงหนุนเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ 1 เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค. และเริ่มซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 ต.ค. และล่าสุด Google ประกาศแผนลงทุน Data Center ในไทย หนุนดัชนีในเดือนตุลาคมเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,480 จุด และกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน Data Center ได้แก่ WHA, ADVANC, GULF, TRUE และ INSET           นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนตุลาคม 2567 มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ 1 เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค. และเริ่มซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 ต.ค.ประกอบกับมีแรงหนุนจาก Google ประกาศแผนลงทุน Data Center ในประเทศไทย 3.6 หมื่นล้านบาทภายในปี 2572 จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,400-1,480 จุด           นอกจากนี้ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. 2567 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดในวันชาติจีน (Golden Week) จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยประมาณ 1.32-1.83 แสนคน เพิ่มขึ้น 57-144% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 คาดว่าจะสร้างรายได้ทาง การท่องเที่ยวประมาณ 3,710-5,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 58-121%           ขณะที่ทางธนาคารกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ทั้งลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.30% สู่ระดับ 2.00% ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% สู่ระดับ 6.6% ซื้อคืนพันธบัตร (reverse repo) ระยะ 7 วัน มูลค่า 1.82 แสนล้านหยวน (ราว 2.596 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่อัตราดอกเบี้ย 1.5% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน  รวมทั้งสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมด (existing home loan) ก่อนวันที่ 31 ต.ค. เพื่อฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์           ด้านปัจจัยในประเทศที่ยังคงต้องจับตาต่อ ได้แก่ วันนี้ (2 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.), วันที่ 7 ต.ค. กองทุนวายุภักษ์ เริ่มซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์, สัปดาห์ที่ 2 กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า  สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย, สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, วันที่ 16 ต.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2567, สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, กระทรวงพาณิชย์แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย, สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค  ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, วันที่ 30 ต.ค.รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ และวันที่ 31 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย           ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตาวันที่ 1-7 ต.ค. ตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันชาติจีน,วันนี้ (2 ต.ค.) อียู รายงานอัตราว่างงานเดือนส.ค., สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 3 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีภาคบริการเดือนก.ย., วันที่ 4 ต.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย., วันที่ 23 ต.ค. สำนักข่าว CNN จัดโต้วาทีครั้งที่ 2 สำหรับผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ, วันที่ 5 พ.ย. วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและ วันที่ 6-7 พ.ย. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ           ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน Data Center  ได้แก่ WHA, ADVANC, GULF, TRUE และ INSET           ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในเดือนตุลาคมว่า ราคาทองคำมีโอกาสพักตัว โดยให้ระวังแรงขายทำกำไรหลังประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมามีสัญญาณชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง  ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง และปัจจัยทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนทองคำ มองกรอบทองคำเดือนนี้ 2,530 – 2,700 $/Oz คาดว่ามีโอกาสทดสอบแนวรับ