#7-11


"เซเว่น อีเลฟเว่น" เปิดตัวหนังสั้นภายใต้แนวคิด “ความกตัญญูทำได้ทุกวัน” ตอกย้ำ DNA ความดี 24 ชั่วโมง

          เซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความกตัญญู ชวนคนไทยบอกรักพ่อ ปล่อยภาพยนตร์สั้นภายใต้แนวคิด “ความกตัญญูทำได้ทุกวัน” รับชมได้พร้อมกันแล้วตั้งแต่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของเซเว่น อีเลฟเว่น           โดยภาพยนตร์สั้นดังกล่าวมีโครงเรื่องหลักเป็นเรื่องราวของพ่อที่เป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ กับลูกชายที่ไม่เคยบอกรักพ่อตรงๆ จนเมื่อวันที่ได้พูดกับพ่อท่านก็ไม่สามารถรับรู้ได้เท่าเดิมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้หวังจะเชิญชวนให้คนไทยบอกรักพ่อ หรือแสดงความกตัญญูกับคนที่คุณรัก ซึ่งสามารถทำได้ทุกวันไม่เฉพาะเทศกาลสำคัญ           เซเว่น อีเลฟเว่น ขอร่วมสร้างสรรค์สังคมตามค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนโยบายความยั่งยืน สร้างชุมชนอุ่นใจ และ DNA ความดี 24 ชั่วโมง ส่งเสริมให้พนักงานทุกคนเป็นคนดี ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานเซเว่น อีเลฟเว่น ตลอดจนบุคลากรของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือสังคมในหลายๆ กรณีจนได้รับการบอกต่อเล่าขานผ่านสื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโครงการที่ได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในการสร้างสังคมให้เข้มแข็ง เช่น โครงการ “คนไทยใส่ใจผู้ป่วยสมองเสื่อม” ที่ร่วมกับ จส.100 และพันธมิตร ช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวข้องกับภาวะสมองเสื่อม พร้อมทั้งเป็นจุดรับประสาน และดูแลชั่วคราวเพื่อส่งต่อกรณีพบผู้ป่วยอัลไซเมอร์พลัดหลงให้ได้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย เป็นต้น           นอกเหนือจากภาพยนตร์สั้นส่งเสริมความกตัญญูแล้ว เซเว่น อีเลฟเว่น ยังมีกิจกรรมอีกมากมายให้เข้าร่วมสามารถติดตามได้ผ่าน Facebook Fanpage 7-Eleven Thailand และ 7App รวมทั้งยังร่วมกันแชร์เรื่องราวดีๆ บอกรักพ่อ และความทรงจำประทับใจของคุณเองได้ง่ายๆ ผ่าน #711ชวนบอกรักพ่อ และ #ความกตัญญูทำได้ทุกวัน อีกด้วย [PR News]

[PR News] ขนมหวานยุคใหม่ 4 สินค้าจาก 3 SME ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น บทพิสูจน์

[PR News] ขนมหวานยุคใหม่ 4 สินค้าจาก 3 SME ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น บทพิสูจน์ "ปรับตัว" คือกุญแจสู่ความสำเร็จ

          คงไม่ผิดหากจะบอกว่า “ความสามารถในการปรับตัว” คือ หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ เพราะโลกมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านเทคโนโลยี ด้านพฤติกรรมผู้บริโภค ไปจนถึงสภาพเศรษฐกิจ หากธุรกิจรู้จักปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับตัวสินค้า กระตุ้นยอดขาย และช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต           ไม่เว้นแม้กระทั่งสินค้าขนมไทย ที่ยังต้อง ปรับสูตร ปรับรสชาติ ปรับแพ็กเก็จจิ้ง เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้ตลาด ปรับตัวให้เข้ากับ Insight ความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ อย่างเช่น 4 สินค้าใหม่ จาก 3 SME ระดับท็อปในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในวันนี้ ที่ผ่านการศึกษา Insight ผ่านการปรับเปลี่ยนหลายๆ ด้าน ให้น่ารับประทาน ครองใจผู้บริโภคยุคใหม่ยิ่งขึ้น! เปียกปูนกะทิสด : แพ็กเก็จจิ้งถ่ายรูปสวย-Sizing ทานง่าย ตอบโจทย์ Gen Z           หลายคนอาจเคยรับประทาน “เปียกปูนกะทิสด” ของบริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด หรือที่รู้จักกันในนาม “แม่สุนีย์ ขนมไทย” ที่เคยวางจำหน่ายในรูปแบบถาด 4 ช่องภายใต้แบรนด์ EZY SWEET กันมาบ้าง วันนี้ เปียกปูนกะทิสด มาในรูปโฉมใหม่ ปรับทั้งรสชาติ ขนาด (Sizing) และแพ็กเก็จจิ้ง ให้โดนใจ Gen Z มากกว่าเดิม  พร้อมเพิ่มความสะดวกและง่ายต่อการรับประทานด้วยช้อนขนาดพอเหมาะ           ก้อง-ก้องปพัฒน์ เรืองจินดาชัยกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงที่มาของการปรับโฉมและรสชาติของสินค้าว่า บริษัทตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าช่วงอายุ 15-25 ปีให้มากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 25%  เป็น 50% ภายใน 3 ปี ดังนั้นบริษัทจึงทำการสำรวจตลาดกลุ่มนี้อย่างจริงจัง นำสินค้าหลายๆ ชนิดที่เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าปัจจุบันไปให้นักเรียน นักศึกษา ได้ลองทานพร้อมรับฟังคำแนะนำ ฟีดแบ็กที่ได้กลับมาคือ หลายคนยังไม่รู้จักหรือเคยเห็น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแพ็กเก็จจิ้งที่ไม่สะดุดตา รสชาติหวานไป ทางบริษัทจึงปรึกษากับทางเซเว่นฯ ถึงแนวทางการพัฒนาสินค้า จึงได้ปรับ 3 ส่วน คือ 1.ปรับรสชาติ ให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น 2.ปรับ Sizing จากเดิมเป็นแบบถาด 4 ช่อง สู่ถ้วยสี่เหลี่ยมใสทรงสูง สะดวกต่อการถือรับประทานของคนรุ่นใหม่ และสามารถทานหมดในคราวเดียว 3.ปรับหน้าตาแพ็กเก็จจิ้ง ใส่สายคาดให้มีขลิบสีทอง เพิ่มความพรีเมียม เอาใจคนรุ่นใหม่สายโซเชียล ให้ถ่ายรูปโพสต์ได้แบบปังๆ ในราคาจับต้องได้เพียง 27 บาท ลูกเดือยเปียกทรงเครื่อง : เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เอาใจคนรักสุขภาพ           นอกจากเปียกปูนกะทิสดที่มีการปรับแล้ว การเพิ่มสินค้าใหม่ก็เป็นสิ่งที่ SME ต้องทำ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค โดยสินค้าตัวล่าสุดที่ทาง เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป พัฒนาออกมาวางจำหน่ายรับเทศกาลกินเจ คือ ลูกเดือยเปียกทรงเครื่อง โดยเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ธัญพืชลงไปรวม 5 ชนิดประกอบด้วย ข้าวบาร์เล่ย์ ลูกเดือย แห้ว ถั่วแดง ข้าวโพด เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและสร้างรสชาติใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค โดยวัตถุดิบแต่ละชนิดเป็นธัญพืชจากสวนที่เป็นพันธมิตรของบริษัท จึงมั่นใจได้ว่าได้คุณภาพตรงตามที่ต้องการ พร้อมส่งต่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย และผู้รักสุขภาพ ในราคาถ้วยละ 25 บาทเท่านั้น  เต้าทึงน้ำลำไย : จับกระแสมาต่อยอด วิจัยสร้างจุดแข็ง เครื่องเยอะ-หลากหลายรสสัมผัสในถ้วยเดียว           “แม่อิม” ภายใต้บริษัท แหลมทองอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด เป็น SME ตัวตึงอีกหนึ่งรายที่ผลิตสินค้าเข้าจำหน่ายและมีชื่อเสียงในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มาอย่างยาวนาน ทั้งซาหริ่ม ลอดช่องสิงคโปร์ ล่าสุด แอร์-ปมิตตา แต้มไพโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แหลมทองอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด ทายาทแม่อิม เจาะกระแสฮิตน้ำลำไยมาต่อยอด ซุ่มวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่กว่า 3-4 เดือน จนออกมาเป็น “เต้าทึงน้ำลำไย” รายแรกในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่คิดสูตรมาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ           “เดิมเครื่องที่ใส่ในเต้าทึง มักจะเป็นพุทราเชื่อม รากบัว แปะก๊วย ซึ่งอาจไม่ค่อยถูกปากและไม่เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่มากนัก เราจึงขอรับคำปรึกษาจากทางทีมเซเว่น อีเลฟเว่น จนออกมาเป็นเต้าทึงที่ใส่เครื่องที่ทานง่าย 5 ชนิด คือ มัน เฉาก๊วย วุ้น เนื้อลำไย และเส้นโบ๊กเกี้ย ซึ่งเป็นเส้นที่มีการคิดค้นสูตรแป้งใหม่เพื่อไม่ให้แข็งเวลาแช่เย็น เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบแม้จะแช่เย็นก็ตาม ที่สำคัญคือปรับสูตรให้หอมน้ำลำไย รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป สามารถทานหมดได้ในครั้งเดียว และสามารถจัดเก็บในตู้เย็นได้นานถึง 10 วัน มากกว่าเต้าทึงปกติที่มักเก็บได้เพียงประมาณ 5 วัน เพราะบริษัทใช้วิธีควบคุมอุณหภูมิระหว่างการผลิต เริ่มวางจำหน่ายเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในราคาเพียงถ้วยละ 25 บาท” เผือกกวนแปะก๊วย : มิกซ์แอนด์แมทช์ วัตถุดิบบนโต๊ะจีน สู่ขนมเพื่อคนรุ่นใหม่           ใครจะคิดว่าของหวานบนโต๊ะจีนอย่าง “โอนีแปะก๊วย” และ “เผือกกวน” จะถูกนำมามิกซ์ แอนด์ แมทช์กันได้อย่างลงตัว จนออกมาเป็นสินค้าใหม่ที่มีชื่อว่า “เผือกกวนแปะก๊วย” ที่อร่อยและสวยงามน่ารับประทาน สินค้าชิ้นนี้ เป็นผลงานของ SME ตัวตึงอีกรายอย่าง “บ้านทองหยอด” ภายใต้การบริหารของ เป๊ก-ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด           “จุดเริ่มต้นของคอนเซ็ปต์สินค้ามาจากโอนีแปะก๊วยที่มักจะเห็นในโต๊ะจีน แต่เนื่องจากขนมดังกล่าวไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเป็นขนมที่ไม่สามารถหาทานได้ทั่วไป อีกทั้งยังมีความหวานจัด บวกกับบริษัทได้ทำแบบสำรวจสินค้าเผือกกวนเดิมที่วางจำหน่าย พบว่า ผู้บริโภคอยากให้เผือกมีความนุ่มกว่านี้ ประกอบกับทางเซเว่นฯ เองก็แนะนำให้พัฒนาต่อยอดสินค้าเดิม บริษัทจึงได้นำสินค้าเผือกกวนมาต่อยอด เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ปรับสูตรตัวเผือกกวนให้นุ่มมากขึ้น จากการอัดแบบจากแม่พิมพ์ เป็นการใช้หัวบีบใส่ถ้วยแยกชิ้น บรรจุในกล่องใส่แบบ 4 ช่อง และเพิ่มแปะก๊วยเข้าไป ให้อารมณ์เหมือนทานโอนีแปะก๊วย แต่ลดความหวานลง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพ เพิ่มความพรีเมียมด้วยการปรับสายคาดกล่องเป็นแบบใสขลิบด้วยสีทอง เผยให้เห็นความสวยงานของสินค้าด้านในอย่างชัดเจน จำหน่ายในราคาเพียง 29 บาทเท่านั้น”           นอกจากสินค้าใหม่ทั้ง 4 ตัว จาก 3 SME จะน่าชิมลิ้มลอง ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของ SME แต่ละราย เพื่อให้สินค้าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังแสดงให้เห็นด้วยว่า การปรับตัวและการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจใกล้ชิดกับผู้บริโภคได้มากขึ้น และเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือทุกความเปลี่ยนแปลง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต