#โรงกลั่น


ส่องกลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรเคมี เช็กเลย! หุ้นไหนน่าสน

ส่องกลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรเคมี เช็กเลย! หุ้นไหนน่าสน

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ระบุถึงกลุ่มโรงกลั่น ปิโตรเคมี ฝั่งต้นน้ำ (น้ำมันดิบ) ทรงตัว w-w ปัจจัยบวกกังวล supply disruption จากสงครามและมาตรการคว่ำบาตร ชดเชยกับปัจจัยลบกังวล demand หลัง OPEC ปรับลดคาดการณ์ เราจึงยังคงมุมมองราคาน้ำมันดิบ ธ.ค. 24 ฟื้นตัว m-m ความกังวล supply disruption กลับมา ในขณะที่ demand น้ำมันจีนและญี่ปุ่นฟื้นตัว ฝั่งโรงกลั่น ค่าการกลั่นสิงคโปร์ (SG GRM) -6% w-w แต่ไม่ได้น่ากังวล           ตัวฉุดมาจาก HSFO spread ที่ -98% w-w (ฐานต่ำ) ซึ่งโรงกลั่นในประเทศมี yield ดังกล่าวน้อย โดยผลิตภัณฑ์หลักอย่าง gasoline และ gasoil ฟื้นตัวได้ w-w หนุนจากขา demand จากสหรัฐฯ, EU และอินเดีย คงมุมมองค่าการกลั่น ธ.ค. 24 ทรงตัว m-m หนุนจาก demand ฤดูท่องเที่ยวและฤดูหนาว รวมถึง supply disruption ที่มากขึ้น ฝั่งปิโตรเคมีส่วนใหญ่ลดลง w-w           Demand ยังชะลอในขณะที่ราคาค่า feedstock เพิ่มขึ้น: i) สายโอเลฟินส์ HDPE/PP spread -3% w-w ii) สายอะโรเมติกส์ -1-5% w-w โดยเฉพาะ PX ที่ downstream ชะลอ iii) สายโพลีเอสเตอร์ (PET) integrated spread -1% w-w คงมุมมองแนวโน้ม ธ.ค. 24 spread ปิโตรเคมีส่วนใหญ่ทรงตัวหรือชะลอ m-m ยกเว้น PET ที่คาดว่าจะมีการลด run ช่วยให้ supply ตึงตัวขึ้น ภาพสัปดาห์ ไม่มีตัวเด่น           โดยเรายังคงมุมมองโรงกลั่นเป็นตัวเลือกเด่นของ 4Q24F ได้ปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของค่าการกลั่น 4QTD +37% q-q และ stock loss ที่ลดลง คง top pick เป็น SPRC (TP 9.5) ทั้งนี้เรามองผลกระทบ Global minimum tax ต่อกลุ่มมีจำกัด โดยฝั่ง PTT งบเดี่ยวมีอัตราภาษีสูงกว่า 15% (effective tax rate 2022-23 สูงกว่า 21-24%), PTTEP อัตราภาษีสูงกว่า 40%, กลุ่มโรงกลั่นอัตราภาษีฯ 19-46%, ปิโตรเคมี 14-25% และสถานีบริการน้ำมัน 18-27% ส่วน SCGP อัตราภาษีงบรวม 2022-23 ราว 18-19% แม้ธุรกิจในเวียดนาม (สัดส่วนรายได้ 2022-23 ราว 15%) จะมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่คาดผลกระทบจำกัด

โรงกลั่นเสี่ยงอิสราเอลถล่ม เขย่าหุ้นไทยแค่ไหน?

โรงกลั่นเสี่ยงอิสราเอลถล่ม เขย่าหุ้นไทยแค่ไหน?

หุ้นวิชั่น - โรงกลั่นอิหร่านเสี่ยงอาจถูกอิสราเอลโจมตี จับตาโรงกลั่นไทยแนวโน้มครึ่งปีหลัง           ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า S&P Plats และ Reuters รายงานว่าอิสราเอลอาจมุ่งโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่าน เพื่อตอบโต้ที่อิหร่านยิงมิสไซล์ใส่อิสราเอล จากข้อมูลของ Energy Institute Statistical Review พบว่าโรงกลั่นของอิหร่านมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 2.5% ของกำลังการผลิตทั่วโลก และ 22.4% ของกำลังการผลิตในตะวันออกกลาง และมีการใช้กำลังการผลิตน้ำมัน/คอนเดนเสทเกือบ 100% ในสิ้นปี 66           ข้อมูลของ Facts Global Energy (FGE) แสดงให้เห็นว่าโรงกลั่นที่มีความสำคัญมากสุด คือ Persian Gulf Star (PGS) splitter เป็นโรงกลั่นใหม่ล่าสุดของอิหร่านเปิดดำเนินงานเมื่อปี 60-61 ซึ่งผลิตน้ำมันเบนซินป้อนตลาดในประเทศ 40% ช่วยให้อิหร่านสามารถพึ่งพาตนเองจากเดิมที่ผลิตไม่เพียงพอ ดังนั้นหากปิด PGS ก็จะส่งผลให้อิหร่านมีการผลิตน้ำมันเบนซินไม่พอใช้ในประเทศ และอาจต้องหยุดผลิต South Par Gas Complex (SPGS) ซึ่งเป็น condensate supplier ของ PGS เช่นกัน           นอกจากนี้ หากเกิดความเสียหายกับโรงกลั่นอื่น อิหร่านอาจประสบปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในประเทศและการส่งออกด้วย โดย FGE ระบุว่าอิหร่านมีการส่งออก LPG (ก๊าซปิโตรเลียมเหลว) ราว 335kbd, ผลิตภัณฑ์ light distillates 150kbd, ผลิตภัณฑ์ middle distillate 185kbd และน้ำมันเตา 245k บาร์เรล/วันในปี 66           ข้อมูลของ Reuters แสดงให้เห็นว่า ราคาขายอย่างเป็นทางการ (OSP) ของน้ำมันดิบ Arab Extra Light (ARL) และ Arab Light (AL) ปรับขึ้น 0.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล mom มาที่ 2.0 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลและ 2.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับสำหรับ cargo ที่ส่งไปเอเชียในเดือนพ.ย.67 แม้ว่า crude premium ของน้ำมันดิบ Murban จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันคือเพิ่มขึ้น 0.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล mom เป็น 1.93 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเพราะแหล่งน้ำมัน 300kboe ใน UAE หยุดการผลิต แต่ OSP ของ ARL/AL ปรับขึ้นสูงกว่าที่คาดเล็กน้อย เนื่องจากอุปสงค์จากโรงกลั่นในเอเชียอ่อนตัว หลังมีการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจ           ขณะที่ราคา Murban ในตลาด ICE Futures Abu Dhabi (IFAD) ปรับตัวลงเล็กน้อยเป็น 1.73 เหรียญ สหรัฐ/บาร์เรลในต้นเดือนต.ค.67 จึงน่าจะส่งสัญญาณว่า OSP ของ ARL/AL สำหรับ cargo เดือนธ.ค.67 อาจปรับตัวลง ยกเว้นว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะยกระดับขึ้น           ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่า กรณีหากโรงกลั่นของอิหร่านได้รับความเสียหาย crack spread ของ HSFO (high sulphur fuel oil) และ LPG ในเอเชียอาจพุ่งสูงขึ้น แม้จะแค่ชั่วคราว ส่วน crack spread ของน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินในเอเชียน่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เนื่องจากปริมาณการส่งออกจากอิหร่านค่อนข้างน้อยและอุปสงค์ในเอเชียอ่อนตัว           อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก crack spread ของน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนก.ย.67 ค่าการกลั่นตลาด (GRM) ในไตรมาส 3/67 ของโรงกลั่นไทยจึงอาจไม่เพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำในไตรมาส 2/67 (ยกเว้น SPRC) อย่างที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ไว้           นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับลงในเดือนส.ค.-ก.ย.67 จะทำให้ โรงกลั่นไทยมีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสูง ซึ่งจะยิ่งกดดันผลประกอบการในไตรมาส 3/67           แต่ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่า crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในเดือนต.ค.จาก 10.8 เหรียญสหรัฐ/ บาร์เรลในเดือนก.ย.67 เนื่องจากปริมาณสต๊อกในยุโรปลดลงและโรงกลั่นในเอเชียปรับลดกำลังการผลิต แต่ยังต้องรอดูว่าจะยั่งยืนหรือไม่           ดังนั้นจึงยังแนะนำ Neutral กลุ่มโรงกลั่นของไทยเพราะคาดว่า GRM จะอยู่ในช่วงกลางวงจรที่ 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปี 68 โดย upside risk จะมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งกว่าคาดของน้ำมันดีเซล ส่วน downside risk จะมาจากขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันที่สูงกว่าคาด